ตอนนี้หม่าอวี่เฟยอ่อนแอมาก เธออ้าปากพูดออกมาด้วยเสียงเบาๆ“เสี่ยวเสวี่ย!” ซูเฉี่ยนเฉี่ยนส่งสายตาให้เพื่อนสนิทเสี่ยวเสวี่ยเข้าใจในทันที เธอหยิบมือถือแล้วเดินไปวางใกล้ปากของหม่าอวี่เฟยหม่าอวี่เฟยพูดออกมาประโยคสองสามประโยคอย่างยากลำบาก จากนั้นก็หอบหายใจอย่างหนักเสี่ยวเสวี่ยถือโทรศัพท์และปรับระดับเสียงให้ดังสุด“ซูเฉี่ยนเฉี่ยนไม่ได้ขโมยของฉัน ฉันแค่ไม่ชอบเธอ เลยจงใจหาเรื่องและจัดฉากใส่ร้ายเธอ...”แม้เสียงจะขาดหายเป็นช่วงๆ แต่ก็ชัดเจนมากพอที่ทุกคนจะได้ยินแม่ของซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่ยืนอยู่ข้างนอก ทันทีที่ได้ยิน น้ำตาแห่งความดีใจก็ไหลออกมาลูกสาวของฉัน ถูกใส่ร้ายจริงๆ!ตอนนี้ ข้อกล่าวหาก็ถูกลบล้างออกไปแล้ว!“ฉันบอกแล้วว่า เฉี่ยนเฉี่ยนไม่มีทางขโมยของได้ ข้อกล่าวหาโง่ๆ แบบนี้ยังมีคนเชื่ออีก!”ซูเทียนคั่วพูดเสียงดัง “ความจริงพิสูจน์แล้วว่า หลานสาวของฉันถูกใส่ร้ายจริงๆ!”สีหน้าของซูหมิงอวี๋แย่มากเพื่อนสนิทเชื่อ แม่เชื่อ ศิษย์พี่เชื่อ คุณปู่ก็เชื่อ!แถมพวกเขายังเชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข!มีเพียงซูหมิงอวี๋ พ่อแท้ๆ ของเธอคนนี้เท่านั้นที่ไม่เชื่อลูกสาวของตัวเองช่างน่าเศร้าจริงๆ!ตอนน
ทันทีที่พูดจบ บรรยากาศในที่นั้นก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้นทันที!คนในตระกูลหม่าต่างขมวดคิ้วและโกรธเกรี้ยวส่วนคนในตระกูลซูนั้นต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง!ไอ้เด็กแซ่ลั่วคนนี้ จะกล้ามากเกินไปแล้ว นี่มันชัดเจนเลยว่าเขากำลังได้คืบจะเอาศอกอยู่พวกเขาก็ขอโทษไปแล้ว แถมซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็แสดงออกว่าให้อภัยไปแล้วด้วยเขาเป็นแค่คนนอก จะมาทำให้เรื่องวุ่นวายทำไม?คุณหนูหม่าก็บาดเจ็บหนักถึงขนาดนี้แล้ว นายยังกล้าจะให้เธอมาขอโทษเองอีกหรือ?ช่างไม่รู้จักที่ตายจริงๆ!ต่างฝ่ายต่างถอยกันสักก้าว มันจะไม่ดีกว่าหรือ?ต้องผูกพยาบาทกันจนตายเลยหรือไง!“ลูกสาวฉันถูกแกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เดิมเธอควรจะได้นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง แต่เพื่อแสดงความจริงใจ ฉันถึงได้พาเธอมาด้วย!”หม่าเฉียนคุนกัดฟันพูดอย่างอดกลั้น “ในฐานะพ่อ ฉันได้คุกเข่าและขอโทษแทนลูกสาวไปแล้ว แกยังไม่พอใจอะไรอีกหรือ?”“หรือแกต้องการให้ลูกสาวฉันคุกเข่าขอโทษด้วยถึงจะพอใจ อย่างนี้มันจะไม่เกินไปหน่อยหรือ?”ไม่ใช่แค่หม่าเฉียนคุนที่ใกล้จะระเบิดอารมณ์เต็มที่ แต่คนอื่นๆ ในตระกูลหม่าเองก็ดูมีท่าทีเอาเรื่อง พร้อมที่จะสู้กันจนตัวตายด้วยเช่นกันบรรยากาศตึงเครี
“อืม...”หม่าอวี่เฟยส่งเสียงออกมาอย่างผ่อนคลาย ความเจ็บปวดที่เคยทรมานทั้งร่างกายหายไปทันที ความรู้สึกเบาสบายแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย “ลูกรัก รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” หม่าเฉียนคุนรีบถามทันทีหม่าอวี่เฟยตอบว่า “พ่อคะ หนูไม่เจ็บแล้ว!”“เยี่ยมไปเลย!”หม่าเฉียนคุนมองไปที่ลั่วอู๋ฉางด้วยสายตาที่ซับซ้อน“ว่านายรู้จักทำตัวดี...”เขาเพิ่งพูดได้ครึ่งหนึ่ง ลั่วอู๋ฉางก็ขัดจังหวะทันที “ฉันทำให้เธอมีชีวิตได้ ก็ทำให้เธอตายได้เช่นกัน!”ใจของหม่าเฉียนคุนกระตุกทันที!คำพูดที่เขากำลังจะพูดออกไปจากปากต้องกลืนกลับลงคอทันที“แก อยากจะพูดอะไรนะ?” ลั่วอู๋ฉางถามย้อนอย่างจงใจหม่าเฉียนคุนรู้สึกอัดอั้นใจมาก เขาทำหน้าเครียดก่อนโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร พวกเราไปกันเถอะ!”คนในตระกูลซูมองดูพวกหม่าเฉียนคุนเดินจากไป แต่ละคนยังคงทำหน้าตกตะลึงอย่างไม่เชื่อสายตาพวกเขาไม่เข้าใจ และยิ่งไม่อาจยอมรับได้!ตระกูลหม่าอันทรงเกียรติถูกเหยียบย่ำเสียศักดิ์ศรีขนาดนี้ แต่กลับไม่มีการลงไม้ลงมือกันเลยแม้แต่น้อยกระทั่งว่า คำพูดขู่แรงๆ สักคำก็ไม่กล้าพูด แล้วก็เดินจากไปเองนี่คือตระกูลหม่าที่ทุกคนเคยรู้จักจริงๆ หรือ?“คุณลั่ว
“ห๊ะ?!”เย่ชิงหยุนถึงกับอึ้ง สับสนไปหมดนี่มันเรื่องอะไรกันแน่?ซูหมิงอวี๋ยังคงพูดไม่หยุด “เจ้านั่นมันไม่มีดีสักอย่าง ไม่รู้ว่าคุณพ่อไปเห็นอะไรดีในตัวมัน” “ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนช่วยพูดให้แท้ๆ ที่ทำให้ตระกูลหม่ายอมทิ้งศักดิ์ศรีมาคุกเข่าขอโทษ!" “แต่คุณพ่อและคนอื่นๆ กลับคิดว่าลั่วอู๋ฉางนั่นข่มขู่ตระกูลหม่าจนยอมก้มหัว พวกเขาถูกหลอกแล้วยังไม่รู้ตัวอีก!” “ไอ้สารเลวแซ่ลั่วนั่นมันหน้าด้านจริงๆ ทำไมมันถึงกล้าแอบอ้างความดีความชอบนี้ได้!”เย่ชิงหยุนถึงกับตะลึง ถามออกไปทันที “ตระกูลหม่ามาขอโทษ แล้วยังคุกเข่าด้วยเหรอครับ?”ซูหมิงอวี๋พูดเสียงดัง “ใช่แล้ว! เถ้าแก่หม่าและคุณหนูหม่าเกรงใจกันมากเกินไปแล้ว”"จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ใหญ่โตขนาดนี้ แค่โทรมาคุยกัน อธิบายความเข้าใจก็พอแล้ว"“ทำไมนายไม่รู้เหรอ?”เย่ชิงหยุนตะลึงกับเรื่องนี้มานานแล้ว!ตระกูลหม่ามีสถานะระดับไหน และตระกูลซูอยู่ในระดับไหน?พูดกันตามตรง มันต่างกันราวฟ้ากับเหว!ยิ่งไปกว่านั้น หม่าเฉียนคุนยังเป็นคนหยิ่งยโส ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาใช้อำนาจบาตรใหญ่และข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่า!นี่คือสิ่งที่หม่าเฉียนคุนถนัด แม้ว่าตนเองจะ
ซูหมิงอวี๋เชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของร้านร้อยสมุนไพรมาโดยตลอดไม่เช่นนั้น ตระกูลซูคงไม่ถือหุ้นในร้านร้อยสมุนไพรมาจนถึงตอนนี้น่าเสียดายที่หุ้นเหล่านี้อยู่ในมือของท่านพ่อซูเทียนคั่ว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับซูหมิงอวี๋แม้แต่น้อย“ตามหลักแล้ว โปรเจกต์มาถึงขั้นนี้ คงไม่รับการลงทุนเพิ่มแล้ว”เย่ชิงหยุนแกล้งทำท่าลำบากใจแล้วพูดว่า “แต่ว่าคุณลุงไม่ใช่คนนอก ถ้าคุณลุงสนใจ ผมพอจะช่วยจัดการ เปิดช่องทางพิเศษให้ท่านได้นะครับ"“จริงหรือ? อย่างนั้นลุงคงต้องขอบใจชิงหยุนมากๆ เลย!" ซูหมิงอวี๋ดีใจมากนี่มันเรียกว่าอะไรนะ? ยามสิ้นหวังกลับมีหนทางให้เดินต่อ ท้องฟ้าที่มืดครึ้มมีแสงสว่างหลังต้นหลิว!ใครบอกว่าฉัน ซูหมิงอวี๋ ถูกไล่ออกจากบ้านแล้วจะต้องกลายเป็นหมาจรจัด?ฉันจะไม่ยอมรับชะตากรรมนี้!ฉันจะต้องสร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้ แล้วใช้ผลงานตบหน้าพวกแก!“แต่คุณลุงซูก็น่าจะรู้นะครับ สมัยนี้ถ้าจะทำอะไรให้สำเร็จ มันไม่ใช่แค่พูดไม่กี่คำแล้วจะจัดการได้”เป้าหมายของเย่ชิงหยุนชัดเจนว่าเขาต้องการหาเงิน“โดยเฉพาะเรื่องบุญคุณ เป็นหนี้บุญคุณคืนยากกว่าหนี้สิน ดังนั้นเงินสดก็ต้องมีบ้าง...คุณลุงซู คงเข้าใจที่ผมพูด
“ศิษย์พี่ผลิตยาชนิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งยานี้มีประสิทธิภาพในการรักษาบาดแผลของนักบู๊โบราณได้ดีมาก”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเล่าเรื่องอย่างย่อๆ และหยิบตัวอย่างยามาแสดงให้คุณปู่ดู“ร้านร้อยสมุนไพรจากตระกูลเย่ตาถั่วแท้ๆ เห็นของล้ำค่าเป็นขยะไปได้”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพูดอย่างโกรธเคือง “ตระกูลหม่าก็ด้วย ฉันไปหาพวกเขาอย่างหวังดีแท้ๆ หม่าอวี่เฟยกลับใส่ร้ายฉัน”ซูเทียนคั่วรับยาเม็ดมาและสูดดมดูทันใดนั้น ชายชราก็รู้สึกทึ่งมาก!“นี่มัน...ยาหุยเทียนตัน!” ซูเทียนคั่วอุทานออกมาอย่างตกใจซูเฉี่ยนเฉี่ยนเบิกตากว้าง “คุณปู่รู้ชื่อยาหุยเทียนตันได้ยังไงคะ?”ชื่อนี้เป็นชื่อที่อาจารย์เย่ปิงเหยาของเธอตั้งให้นอกจากบ้านใหญ่ของตระกูลเย่ที่ขโมยสูตรยาไปแล้ว ก็ไม่น่ามีใครรู้ชื่อยานี้อีกสิถึงจะถูกซูเทียนคั่วอธิบายว่า “พ่อของปู่ หรือก็คือทวดของหลาน ตอนหนุ่มๆ เคยได้สูตรยาที่ไม่สมบูรณ์มาแล้วเคยศึกษามันอยู่พักหนึ่ง”“ชื่อยาหุยเทียนตันมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ก่อนแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครเคยทำออกมาสำเร็จ มันจึงไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกไป”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพยักหน้าเข้าใจ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง หลานนึกว่าเป็นชื่อที่อาจารย์คิดขึ้นมาเองซะอีก”จาก
นี่มันช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างคาดไม่ถึง!ต้องเข้าใจว่า เขาเตรียมใจไว้แล้วว่าลั่วอู๋ฉางอาจจะปฏิเสธคำขอของเขาแม้แต่ข้ออ้างที่จะให้ตัวเองดูดีตอนถูกปฏิเสธ เขาก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว“แน่นอนครับ เดิมทีผมตั้งใจจะให้เฉี่ยนเฉี่ยนรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว”ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ได้ท่านปู่เข้ามาร่วมด้วย ทำหน้าที่คอยดูแลงานเบื้องหลัง ทุกอย่างก็ยิ่งมั่นคงมากขึ้น”เพราะอย่างไร ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ยังอายุน้อยความคิดยังไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่ และมีประสบการณ์ในสังคมไม่มากการจะมอบเรื่องใหญ่เช่นนี้ทั้งหมดให้เธอดูแล อาจทำให้เกิดปัญหาโน่นนี่ได้ดังนั้น ลั่วอู๋ฉางจึงตั้งใจจะหาตระกูลหลิวของหลิ่วซือหยินมาร่วมมือด้วยหลิ่วซือหยินมีบุคลิกของผู้หญิงเก่ง พร้อมทั้งมีมุมมองที่กว้างไกลและมีคอนเน็คชั่นมากมาย เมื่อบวกกับความเชี่ยวชาญของซูเฉี่ยนเฉี่ยนทั้งสองคนจะต้องเป็นดั่งกระบี่คู่ที่ไร้ผู้ต้านทานได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นตระกูลซูที่อยู่เบื้องหลังซูเฉี่ยนเฉี่ยน หรือบ้านสองของตระกูลเย่ที่เย่ปิงเหยาเป็นตัวแทน ทั้งสองล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการร่วมมือนี้ตอนนี้เมื่อซูเทียนคั่วเข้ามา
“แน่นอน ทุกอย่างแล้วแต่คุณลั่วจะตัดสินใจ”ซูเทียนคั่วย่อมไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เพราะการที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในครั้งนี้ก็ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับเขาแล้วถ้าสามารถได้ผูกพันกับราชันมังกรลั่วเทียนไม่ว่าข้อแม้จะยากลำบากแค่ไหน เขาก็ยินดีที่จะตอบตกลง!เพียงแค่อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างซูเฉี่ยนเฉี่ยนกับลั่วอู๋ฉางในฐานะพี่น้องร่วมสำนักนั้น สำหรับซูเทียนคั่วยังรู้สึกว่าไม่มั่นคงพอถึงแม้ลั่วอู๋ฉางจะใส่ใจซูเฉี่ยนเฉี่ยนเป็นพิเศษ คิดถึงเธอเสมอ และช่วยเหลือเธอทุกครั้งก็ตามแต่ถ้าพูดตามตรง สิ่งเหล่านี้มันเกี่ยวอะไรกับตระกูลซูล่ะ?ยิ่งสิ่งที่ซูเทียนคั่วจินตนาการไว้เหล่านั้นยังดูเลื่อนลอยมาก!เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนก็ยังก็ไม่ได้เริ่มคบหากับจริงจังเลยอีกอย่าง ความสัมพันธ์ของคนหนุ่มสาวก็ไม่เหมือนคนรุ่นเก่า วันนี้รักกันหวานชื่น แต่พรุ่งนี้อาจจะเลิกกันโดยไม่เจอกันอีกเลยก็ได้!ดังนั้น การผูกมัดผ่านวิธีอื่นน่าจะน่าเชื่อถือและมั่นคงกว่ามากที่สำคัญยิ่งกว่าคือซูเทียนคั่วรู้ตัวเองดีตอนนี้ความเชื่อมโยงเพียงอย่างเดียวระหว่างตระกูลซูกับอุตสาหกรรมยาก็คือหุ้นเล็กๆ ที่ถืออยู่ในร้านร้อยสมุนไพรตั้งแต่
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค