“ห๊ะ?!”เย่ชิงหยุนถึงกับอึ้ง สับสนไปหมดนี่มันเรื่องอะไรกันแน่?ซูหมิงอวี๋ยังคงพูดไม่หยุด “เจ้านั่นมันไม่มีดีสักอย่าง ไม่รู้ว่าคุณพ่อไปเห็นอะไรดีในตัวมัน” “ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนช่วยพูดให้แท้ๆ ที่ทำให้ตระกูลหม่ายอมทิ้งศักดิ์ศรีมาคุกเข่าขอโทษ!" “แต่คุณพ่อและคนอื่นๆ กลับคิดว่าลั่วอู๋ฉางนั่นข่มขู่ตระกูลหม่าจนยอมก้มหัว พวกเขาถูกหลอกแล้วยังไม่รู้ตัวอีก!” “ไอ้สารเลวแซ่ลั่วนั่นมันหน้าด้านจริงๆ ทำไมมันถึงกล้าแอบอ้างความดีความชอบนี้ได้!”เย่ชิงหยุนถึงกับตะลึง ถามออกไปทันที “ตระกูลหม่ามาขอโทษ แล้วยังคุกเข่าด้วยเหรอครับ?”ซูหมิงอวี๋พูดเสียงดัง “ใช่แล้ว! เถ้าแก่หม่าและคุณหนูหม่าเกรงใจกันมากเกินไปแล้ว”"จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ใหญ่โตขนาดนี้ แค่โทรมาคุยกัน อธิบายความเข้าใจก็พอแล้ว"“ทำไมนายไม่รู้เหรอ?”เย่ชิงหยุนตะลึงกับเรื่องนี้มานานแล้ว!ตระกูลหม่ามีสถานะระดับไหน และตระกูลซูอยู่ในระดับไหน?พูดกันตามตรง มันต่างกันราวฟ้ากับเหว!ยิ่งไปกว่านั้น หม่าเฉียนคุนยังเป็นคนหยิ่งยโส ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาใช้อำนาจบาตรใหญ่และข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่า!นี่คือสิ่งที่หม่าเฉียนคุนถนัด แม้ว่าตนเองจะ
ซูหมิงอวี๋เชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของร้านร้อยสมุนไพรมาโดยตลอดไม่เช่นนั้น ตระกูลซูคงไม่ถือหุ้นในร้านร้อยสมุนไพรมาจนถึงตอนนี้น่าเสียดายที่หุ้นเหล่านี้อยู่ในมือของท่านพ่อซูเทียนคั่ว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับซูหมิงอวี๋แม้แต่น้อย“ตามหลักแล้ว โปรเจกต์มาถึงขั้นนี้ คงไม่รับการลงทุนเพิ่มแล้ว”เย่ชิงหยุนแกล้งทำท่าลำบากใจแล้วพูดว่า “แต่ว่าคุณลุงไม่ใช่คนนอก ถ้าคุณลุงสนใจ ผมพอจะช่วยจัดการ เปิดช่องทางพิเศษให้ท่านได้นะครับ"“จริงหรือ? อย่างนั้นลุงคงต้องขอบใจชิงหยุนมากๆ เลย!" ซูหมิงอวี๋ดีใจมากนี่มันเรียกว่าอะไรนะ? ยามสิ้นหวังกลับมีหนทางให้เดินต่อ ท้องฟ้าที่มืดครึ้มมีแสงสว่างหลังต้นหลิว!ใครบอกว่าฉัน ซูหมิงอวี๋ ถูกไล่ออกจากบ้านแล้วจะต้องกลายเป็นหมาจรจัด?ฉันจะไม่ยอมรับชะตากรรมนี้!ฉันจะต้องสร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้ แล้วใช้ผลงานตบหน้าพวกแก!“แต่คุณลุงซูก็น่าจะรู้นะครับ สมัยนี้ถ้าจะทำอะไรให้สำเร็จ มันไม่ใช่แค่พูดไม่กี่คำแล้วจะจัดการได้”เป้าหมายของเย่ชิงหยุนชัดเจนว่าเขาต้องการหาเงิน“โดยเฉพาะเรื่องบุญคุณ เป็นหนี้บุญคุณคืนยากกว่าหนี้สิน ดังนั้นเงินสดก็ต้องมีบ้าง...คุณลุงซู คงเข้าใจที่ผมพูด
“ศิษย์พี่ผลิตยาชนิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งยานี้มีประสิทธิภาพในการรักษาบาดแผลของนักบู๊โบราณได้ดีมาก”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเล่าเรื่องอย่างย่อๆ และหยิบตัวอย่างยามาแสดงให้คุณปู่ดู“ร้านร้อยสมุนไพรจากตระกูลเย่ตาถั่วแท้ๆ เห็นของล้ำค่าเป็นขยะไปได้”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพูดอย่างโกรธเคือง “ตระกูลหม่าก็ด้วย ฉันไปหาพวกเขาอย่างหวังดีแท้ๆ หม่าอวี่เฟยกลับใส่ร้ายฉัน”ซูเทียนคั่วรับยาเม็ดมาและสูดดมดูทันใดนั้น ชายชราก็รู้สึกทึ่งมาก!“นี่มัน...ยาหุยเทียนตัน!” ซูเทียนคั่วอุทานออกมาอย่างตกใจซูเฉี่ยนเฉี่ยนเบิกตากว้าง “คุณปู่รู้ชื่อยาหุยเทียนตันได้ยังไงคะ?”ชื่อนี้เป็นชื่อที่อาจารย์เย่ปิงเหยาของเธอตั้งให้นอกจากบ้านใหญ่ของตระกูลเย่ที่ขโมยสูตรยาไปแล้ว ก็ไม่น่ามีใครรู้ชื่อยานี้อีกสิถึงจะถูกซูเทียนคั่วอธิบายว่า “พ่อของปู่ หรือก็คือทวดของหลาน ตอนหนุ่มๆ เคยได้สูตรยาที่ไม่สมบูรณ์มาแล้วเคยศึกษามันอยู่พักหนึ่ง”“ชื่อยาหุยเทียนตันมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ก่อนแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครเคยทำออกมาสำเร็จ มันจึงไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกไป”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพยักหน้าเข้าใจ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง หลานนึกว่าเป็นชื่อที่อาจารย์คิดขึ้นมาเองซะอีก”จาก
นี่มันช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างคาดไม่ถึง!ต้องเข้าใจว่า เขาเตรียมใจไว้แล้วว่าลั่วอู๋ฉางอาจจะปฏิเสธคำขอของเขาแม้แต่ข้ออ้างที่จะให้ตัวเองดูดีตอนถูกปฏิเสธ เขาก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว“แน่นอนครับ เดิมทีผมตั้งใจจะให้เฉี่ยนเฉี่ยนรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว”ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ได้ท่านปู่เข้ามาร่วมด้วย ทำหน้าที่คอยดูแลงานเบื้องหลัง ทุกอย่างก็ยิ่งมั่นคงมากขึ้น”เพราะอย่างไร ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ยังอายุน้อยความคิดยังไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่ และมีประสบการณ์ในสังคมไม่มากการจะมอบเรื่องใหญ่เช่นนี้ทั้งหมดให้เธอดูแล อาจทำให้เกิดปัญหาโน่นนี่ได้ดังนั้น ลั่วอู๋ฉางจึงตั้งใจจะหาตระกูลหลิวของหลิ่วซือหยินมาร่วมมือด้วยหลิ่วซือหยินมีบุคลิกของผู้หญิงเก่ง พร้อมทั้งมีมุมมองที่กว้างไกลและมีคอนเน็คชั่นมากมาย เมื่อบวกกับความเชี่ยวชาญของซูเฉี่ยนเฉี่ยนทั้งสองคนจะต้องเป็นดั่งกระบี่คู่ที่ไร้ผู้ต้านทานได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นตระกูลซูที่อยู่เบื้องหลังซูเฉี่ยนเฉี่ยน หรือบ้านสองของตระกูลเย่ที่เย่ปิงเหยาเป็นตัวแทน ทั้งสองล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการร่วมมือนี้ตอนนี้เมื่อซูเทียนคั่วเข้ามา
“แน่นอน ทุกอย่างแล้วแต่คุณลั่วจะตัดสินใจ”ซูเทียนคั่วย่อมไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เพราะการที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในครั้งนี้ก็ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับเขาแล้วถ้าสามารถได้ผูกพันกับราชันมังกรลั่วเทียนไม่ว่าข้อแม้จะยากลำบากแค่ไหน เขาก็ยินดีที่จะตอบตกลง!เพียงแค่อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างซูเฉี่ยนเฉี่ยนกับลั่วอู๋ฉางในฐานะพี่น้องร่วมสำนักนั้น สำหรับซูเทียนคั่วยังรู้สึกว่าไม่มั่นคงพอถึงแม้ลั่วอู๋ฉางจะใส่ใจซูเฉี่ยนเฉี่ยนเป็นพิเศษ คิดถึงเธอเสมอ และช่วยเหลือเธอทุกครั้งก็ตามแต่ถ้าพูดตามตรง สิ่งเหล่านี้มันเกี่ยวอะไรกับตระกูลซูล่ะ?ยิ่งสิ่งที่ซูเทียนคั่วจินตนาการไว้เหล่านั้นยังดูเลื่อนลอยมาก!เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนก็ยังก็ไม่ได้เริ่มคบหากับจริงจังเลยอีกอย่าง ความสัมพันธ์ของคนหนุ่มสาวก็ไม่เหมือนคนรุ่นเก่า วันนี้รักกันหวานชื่น แต่พรุ่งนี้อาจจะเลิกกันโดยไม่เจอกันอีกเลยก็ได้!ดังนั้น การผูกมัดผ่านวิธีอื่นน่าจะน่าเชื่อถือและมั่นคงกว่ามากที่สำคัญยิ่งกว่าคือซูเทียนคั่วรู้ตัวเองดีตอนนี้ความเชื่อมโยงเพียงอย่างเดียวระหว่างตระกูลซูกับอุตสาหกรรมยาก็คือหุ้นเล็กๆ ที่ถืออยู่ในร้านร้อยสมุนไพรตั้งแต่
ถัดจากนั้นก็เป็นเก้าอี้รอบนอก โดยมีหลิ่วซือหยินที่เป็นผู้นำของรุ่นที่สามที่นั่งอยู่ตรงนี่สำหรับคนในตระกูลที่มีตำแหน่งต่ำกว่านั้น แม้แต่จะเข้ามาในห้องก็ไม่มีสิทธิ์ ได้แต่ยืนฟังอยู่ที่ลานนอกบ้านผู้เฒ่าสี่คนกำลังสลับกันพูด ส่วนคนอื่นๆ ก็นั่งฟังอย่างเงียบๆ อย่างตั้งใจหญิงสาวที่ดูเหมือนเป็นผู้ช่วยคนหนึ่ง ก้มตัวลงและเดินก้าวเล็กๆ เข้ามาหาหลิ่วซือหยินก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้หลิ่วซือหยินเห็นสายที่ไม่ได้รับ สายหนึ่งแสดงชื่อว่า “จิงไห่ หนิงหงถู”จากนั้นก็มีข้อความไลน์เด้งเข้ามาหนึ่งข้อความ จากหนิงหงถูเช่นกันเนื้อหาในข้อความเขียนว่า คุณลั่วขอให้ผมบอกคุณว่าเขาสนใจที่จะร่วมงานกับคุณหลิ่วซือหยินเบิกตากว้าง และกระโดดขึ้นจากที่นั่งทันที ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “เยี่ยมไปเลย!”ทันใดนั้น ทุกคนก็หันมามองทางเธอเป็นตาเดียวโดยเฉพาะอาสองหลิ่วเจิ้นเจียงและพ่อของเธอหลิ่วเจิ้นไห่ ที่นั่งอยู่ข้างหน้า ทั้งสองมองเธอด้วยสายตาที่มีทั้งความตำหนิและความประหลาดใจอย่างชัดเจนทั้งสองรู้สึกเหลือเชื่อมาก!ในความคิดของพวกเขา หลิ่วซือหยินเป็นเด็กที่มีความประพฤติดีมาตั้งแต่เด็กด้วยการอบรมสั่งสอนที่ดีจาก
“เล่ามาให้ละเอียดหน่อย!”ผู้เฒ่าทั้งสี่คนจ้องหลิ่วซือหยินด้วยสายตาที่เป็นประกาย“คุณปู่ทั้งสี่คะ เรื่องยังคุยกันไม่ลงตัวเลย ดังนั้นรายละเอียดที่แน่ชัด หนูยังไม่สามารถยืนยันได้ค่ะ”หลิ่วซือหยินพูดอย่างมั่นใจ “รอให้เราคุยกันได้ประมาณหนึ่งแล้ว หนูจะมารายงานคุณปู่ทุกท่านอีกทีค่ะ”นอกจากเหตุผลนี้แล้ว ความหมายแฝงในคำพูดของหลิ่วซือหยินก็ค่อนข้างชัดเจนเป็นความลับ!สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตระกูลหลิ่วไม่สามารถเข้าสู่อุตสาหกรรมยาได้สำเร็จในครั้งก่อนๆ ก็เพราะข้อมูลรั่วไหลนี่แหละเมื่อคู่แข่งรู้ข้อมูล พวกเขาก็เตรียมการขัดขวางทันทีศัตรูอยู่ในที่มืด เราอยู่ในที่แจ้งกลอุบายต่างๆ ผุดขึ้นมาไม่หยุดหย่อนตระกูลหลิ่วเสียเปรียบเพราะเรื่องนี้มามาก และการลงทุนเบื้องต้นทั้งหมดก็ต้องเสียไปเปล่าๆในนั้นก็มีตระกูลหม่าและตระกูลถังจากเมืองอันเฉิง ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจร้านยาเก่าแก่พวกเขาจ้องจะเล่นงานตระกูลหลิ่วอยู่เสมอ และถือว่าตระกูลหลิ่วเป็นศัตรูตัวฉกาจการจะคว้าผลประโยชน์จากพวกเขานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยคุณปู่ท่านใหญ่พยักหน้าและพูดว่า "หนูซือหยินพูดถูก ไม่มีเรื่องใดที่เร่งรีบจนเกินไปได้”“ถูกต้อง ความ
“ไปเมืองอันเฉิงเดี๋ยวนี้!” เธอสั่งคนขับด้วยน้ำเสียงรีบร้อนคนขับรถถึงกับชะงักไป ทำงานให้เธอมาตั้งนาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นหลิ่วซือหยินรีบเร่งขนาดนี้ในความทรงจำของเขา หลิ่วซือหยินเป็นคนที่เยือกเย็น สุขุม และไม่เคยแสดงความเร่งรีบมาก่อนมันแปลกมากจริงๆ!ในความเป็นจริง หลิ่วซือหยินเองก็คิดว่ามันแปลกเหมือนกัน “คุณลั่วอยู่ที่เมืองอันเฉิงได้ยังไง?”เมื่อกี้เธอติดต่อหนิงหงถู ตั้งใจว่าจะตรงไปสนามบินเพื่อบินไปเมืองจิงไห่ในเที่ยวบินที่เร็วที่สุดแต่กลับได้รับข่าวว่าลั่วอู๋ฉางนัดพบเธอที่เมืองอันเฉิง ซึ่งอยู่ในมณฑลเดียวกัน……เมืองจิงไห่ณ สุสานทางใต้ของเมืองหยางหว่านอวี่สวมชุดไว้ทุกข์สีขาว และสวมแว่นกันแดดตรงหน้าของเธอมีหลุมศพที่สลักชื่อ “หยางจวิ้นหาว” พร้อมกับภาพถ่ายหน้าหลุมศพมีช่อดอกไม้วางอยู่หลายช่อ แลดูเหงาหงอยท่ามกลางสายลมหนาววันนี้เป็นวันที่เจ็ดหลังการเสียชีวิตของหยางจวิ้นหาวเมื่อกี้นี้ สวีชุ่ยหลานและหยางซิ่งเหวินได้ร่ำไห้อย่างหนักอยู่นาน หยางหว่านอวี่ต้องทั้งปลอบทั้งหลอกล่อกว่าพวกเขาจะยอมกลับไป “เสี่ยวหาว พี่สัญญากับเธอว่าจะไม่ปล่อยให้เธอตายอย่างไม่ได้รับความยุติ