ทันทีที่พูดจบ บรรยากาศในที่นั้นก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้นทันที!คนในตระกูลหม่าต่างขมวดคิ้วและโกรธเกรี้ยวส่วนคนในตระกูลซูนั้นต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง!ไอ้เด็กแซ่ลั่วคนนี้ จะกล้ามากเกินไปแล้ว นี่มันชัดเจนเลยว่าเขากำลังได้คืบจะเอาศอกอยู่พวกเขาก็ขอโทษไปแล้ว แถมซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็แสดงออกว่าให้อภัยไปแล้วด้วยเขาเป็นแค่คนนอก จะมาทำให้เรื่องวุ่นวายทำไม?คุณหนูหม่าก็บาดเจ็บหนักถึงขนาดนี้แล้ว นายยังกล้าจะให้เธอมาขอโทษเองอีกหรือ?ช่างไม่รู้จักที่ตายจริงๆ!ต่างฝ่ายต่างถอยกันสักก้าว มันจะไม่ดีกว่าหรือ?ต้องผูกพยาบาทกันจนตายเลยหรือไง!“ลูกสาวฉันถูกแกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เดิมเธอควรจะได้นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง แต่เพื่อแสดงความจริงใจ ฉันถึงได้พาเธอมาด้วย!”หม่าเฉียนคุนกัดฟันพูดอย่างอดกลั้น “ในฐานะพ่อ ฉันได้คุกเข่าและขอโทษแทนลูกสาวไปแล้ว แกยังไม่พอใจอะไรอีกหรือ?”“หรือแกต้องการให้ลูกสาวฉันคุกเข่าขอโทษด้วยถึงจะพอใจ อย่างนี้มันจะไม่เกินไปหน่อยหรือ?”ไม่ใช่แค่หม่าเฉียนคุนที่ใกล้จะระเบิดอารมณ์เต็มที่ แต่คนอื่นๆ ในตระกูลหม่าเองก็ดูมีท่าทีเอาเรื่อง พร้อมที่จะสู้กันจนตัวตายด้วยเช่นกันบรรยากาศตึงเครี
“อืม...”หม่าอวี่เฟยส่งเสียงออกมาอย่างผ่อนคลาย ความเจ็บปวดที่เคยทรมานทั้งร่างกายหายไปทันที ความรู้สึกเบาสบายแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย “ลูกรัก รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” หม่าเฉียนคุนรีบถามทันทีหม่าอวี่เฟยตอบว่า “พ่อคะ หนูไม่เจ็บแล้ว!”“เยี่ยมไปเลย!”หม่าเฉียนคุนมองไปที่ลั่วอู๋ฉางด้วยสายตาที่ซับซ้อน“ว่านายรู้จักทำตัวดี...”เขาเพิ่งพูดได้ครึ่งหนึ่ง ลั่วอู๋ฉางก็ขัดจังหวะทันที “ฉันทำให้เธอมีชีวิตได้ ก็ทำให้เธอตายได้เช่นกัน!”ใจของหม่าเฉียนคุนกระตุกทันที!คำพูดที่เขากำลังจะพูดออกไปจากปากต้องกลืนกลับลงคอทันที“แก อยากจะพูดอะไรนะ?” ลั่วอู๋ฉางถามย้อนอย่างจงใจหม่าเฉียนคุนรู้สึกอัดอั้นใจมาก เขาทำหน้าเครียดก่อนโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร พวกเราไปกันเถอะ!”คนในตระกูลซูมองดูพวกหม่าเฉียนคุนเดินจากไป แต่ละคนยังคงทำหน้าตกตะลึงอย่างไม่เชื่อสายตาพวกเขาไม่เข้าใจ และยิ่งไม่อาจยอมรับได้!ตระกูลหม่าอันทรงเกียรติถูกเหยียบย่ำเสียศักดิ์ศรีขนาดนี้ แต่กลับไม่มีการลงไม้ลงมือกันเลยแม้แต่น้อยกระทั่งว่า คำพูดขู่แรงๆ สักคำก็ไม่กล้าพูด แล้วก็เดินจากไปเองนี่คือตระกูลหม่าที่ทุกคนเคยรู้จักจริงๆ หรือ?“คุณลั่ว
“ห๊ะ?!”เย่ชิงหยุนถึงกับอึ้ง สับสนไปหมดนี่มันเรื่องอะไรกันแน่?ซูหมิงอวี๋ยังคงพูดไม่หยุด “เจ้านั่นมันไม่มีดีสักอย่าง ไม่รู้ว่าคุณพ่อไปเห็นอะไรดีในตัวมัน” “ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนช่วยพูดให้แท้ๆ ที่ทำให้ตระกูลหม่ายอมทิ้งศักดิ์ศรีมาคุกเข่าขอโทษ!" “แต่คุณพ่อและคนอื่นๆ กลับคิดว่าลั่วอู๋ฉางนั่นข่มขู่ตระกูลหม่าจนยอมก้มหัว พวกเขาถูกหลอกแล้วยังไม่รู้ตัวอีก!” “ไอ้สารเลวแซ่ลั่วนั่นมันหน้าด้านจริงๆ ทำไมมันถึงกล้าแอบอ้างความดีความชอบนี้ได้!”เย่ชิงหยุนถึงกับตะลึง ถามออกไปทันที “ตระกูลหม่ามาขอโทษ แล้วยังคุกเข่าด้วยเหรอครับ?”ซูหมิงอวี๋พูดเสียงดัง “ใช่แล้ว! เถ้าแก่หม่าและคุณหนูหม่าเกรงใจกันมากเกินไปแล้ว”"จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ใหญ่โตขนาดนี้ แค่โทรมาคุยกัน อธิบายความเข้าใจก็พอแล้ว"“ทำไมนายไม่รู้เหรอ?”เย่ชิงหยุนตะลึงกับเรื่องนี้มานานแล้ว!ตระกูลหม่ามีสถานะระดับไหน และตระกูลซูอยู่ในระดับไหน?พูดกันตามตรง มันต่างกันราวฟ้ากับเหว!ยิ่งไปกว่านั้น หม่าเฉียนคุนยังเป็นคนหยิ่งยโส ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาใช้อำนาจบาตรใหญ่และข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่า!นี่คือสิ่งที่หม่าเฉียนคุนถนัด แม้ว่าตนเองจะ
ซูหมิงอวี๋เชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของร้านร้อยสมุนไพรมาโดยตลอดไม่เช่นนั้น ตระกูลซูคงไม่ถือหุ้นในร้านร้อยสมุนไพรมาจนถึงตอนนี้น่าเสียดายที่หุ้นเหล่านี้อยู่ในมือของท่านพ่อซูเทียนคั่ว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับซูหมิงอวี๋แม้แต่น้อย“ตามหลักแล้ว โปรเจกต์มาถึงขั้นนี้ คงไม่รับการลงทุนเพิ่มแล้ว”เย่ชิงหยุนแกล้งทำท่าลำบากใจแล้วพูดว่า “แต่ว่าคุณลุงไม่ใช่คนนอก ถ้าคุณลุงสนใจ ผมพอจะช่วยจัดการ เปิดช่องทางพิเศษให้ท่านได้นะครับ"“จริงหรือ? อย่างนั้นลุงคงต้องขอบใจชิงหยุนมากๆ เลย!" ซูหมิงอวี๋ดีใจมากนี่มันเรียกว่าอะไรนะ? ยามสิ้นหวังกลับมีหนทางให้เดินต่อ ท้องฟ้าที่มืดครึ้มมีแสงสว่างหลังต้นหลิว!ใครบอกว่าฉัน ซูหมิงอวี๋ ถูกไล่ออกจากบ้านแล้วจะต้องกลายเป็นหมาจรจัด?ฉันจะไม่ยอมรับชะตากรรมนี้!ฉันจะต้องสร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้ แล้วใช้ผลงานตบหน้าพวกแก!“แต่คุณลุงซูก็น่าจะรู้นะครับ สมัยนี้ถ้าจะทำอะไรให้สำเร็จ มันไม่ใช่แค่พูดไม่กี่คำแล้วจะจัดการได้”เป้าหมายของเย่ชิงหยุนชัดเจนว่าเขาต้องการหาเงิน“โดยเฉพาะเรื่องบุญคุณ เป็นหนี้บุญคุณคืนยากกว่าหนี้สิน ดังนั้นเงินสดก็ต้องมีบ้าง...คุณลุงซู คงเข้าใจที่ผมพูด
“ศิษย์พี่ผลิตยาชนิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งยานี้มีประสิทธิภาพในการรักษาบาดแผลของนักบู๊โบราณได้ดีมาก”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเล่าเรื่องอย่างย่อๆ และหยิบตัวอย่างยามาแสดงให้คุณปู่ดู“ร้านร้อยสมุนไพรจากตระกูลเย่ตาถั่วแท้ๆ เห็นของล้ำค่าเป็นขยะไปได้”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพูดอย่างโกรธเคือง “ตระกูลหม่าก็ด้วย ฉันไปหาพวกเขาอย่างหวังดีแท้ๆ หม่าอวี่เฟยกลับใส่ร้ายฉัน”ซูเทียนคั่วรับยาเม็ดมาและสูดดมดูทันใดนั้น ชายชราก็รู้สึกทึ่งมาก!“นี่มัน...ยาหุยเทียนตัน!” ซูเทียนคั่วอุทานออกมาอย่างตกใจซูเฉี่ยนเฉี่ยนเบิกตากว้าง “คุณปู่รู้ชื่อยาหุยเทียนตันได้ยังไงคะ?”ชื่อนี้เป็นชื่อที่อาจารย์เย่ปิงเหยาของเธอตั้งให้นอกจากบ้านใหญ่ของตระกูลเย่ที่ขโมยสูตรยาไปแล้ว ก็ไม่น่ามีใครรู้ชื่อยานี้อีกสิถึงจะถูกซูเทียนคั่วอธิบายว่า “พ่อของปู่ หรือก็คือทวดของหลาน ตอนหนุ่มๆ เคยได้สูตรยาที่ไม่สมบูรณ์มาแล้วเคยศึกษามันอยู่พักหนึ่ง”“ชื่อยาหุยเทียนตันมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ก่อนแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครเคยทำออกมาสำเร็จ มันจึงไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกไป”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพยักหน้าเข้าใจ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง หลานนึกว่าเป็นชื่อที่อาจารย์คิดขึ้นมาเองซะอีก”จาก
นี่มันช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างคาดไม่ถึง!ต้องเข้าใจว่า เขาเตรียมใจไว้แล้วว่าลั่วอู๋ฉางอาจจะปฏิเสธคำขอของเขาแม้แต่ข้ออ้างที่จะให้ตัวเองดูดีตอนถูกปฏิเสธ เขาก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว“แน่นอนครับ เดิมทีผมตั้งใจจะให้เฉี่ยนเฉี่ยนรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว”ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ได้ท่านปู่เข้ามาร่วมด้วย ทำหน้าที่คอยดูแลงานเบื้องหลัง ทุกอย่างก็ยิ่งมั่นคงมากขึ้น”เพราะอย่างไร ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ยังอายุน้อยความคิดยังไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่ และมีประสบการณ์ในสังคมไม่มากการจะมอบเรื่องใหญ่เช่นนี้ทั้งหมดให้เธอดูแล อาจทำให้เกิดปัญหาโน่นนี่ได้ดังนั้น ลั่วอู๋ฉางจึงตั้งใจจะหาตระกูลหลิวของหลิ่วซือหยินมาร่วมมือด้วยหลิ่วซือหยินมีบุคลิกของผู้หญิงเก่ง พร้อมทั้งมีมุมมองที่กว้างไกลและมีคอนเน็คชั่นมากมาย เมื่อบวกกับความเชี่ยวชาญของซูเฉี่ยนเฉี่ยนทั้งสองคนจะต้องเป็นดั่งกระบี่คู่ที่ไร้ผู้ต้านทานได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นตระกูลซูที่อยู่เบื้องหลังซูเฉี่ยนเฉี่ยน หรือบ้านสองของตระกูลเย่ที่เย่ปิงเหยาเป็นตัวแทน ทั้งสองล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการร่วมมือนี้ตอนนี้เมื่อซูเทียนคั่วเข้ามา
“แน่นอน ทุกอย่างแล้วแต่คุณลั่วจะตัดสินใจ”ซูเทียนคั่วย่อมไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เพราะการที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในครั้งนี้ก็ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับเขาแล้วถ้าสามารถได้ผูกพันกับราชันมังกรลั่วเทียนไม่ว่าข้อแม้จะยากลำบากแค่ไหน เขาก็ยินดีที่จะตอบตกลง!เพียงแค่อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างซูเฉี่ยนเฉี่ยนกับลั่วอู๋ฉางในฐานะพี่น้องร่วมสำนักนั้น สำหรับซูเทียนคั่วยังรู้สึกว่าไม่มั่นคงพอถึงแม้ลั่วอู๋ฉางจะใส่ใจซูเฉี่ยนเฉี่ยนเป็นพิเศษ คิดถึงเธอเสมอ และช่วยเหลือเธอทุกครั้งก็ตามแต่ถ้าพูดตามตรง สิ่งเหล่านี้มันเกี่ยวอะไรกับตระกูลซูล่ะ?ยิ่งสิ่งที่ซูเทียนคั่วจินตนาการไว้เหล่านั้นยังดูเลื่อนลอยมาก!เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนก็ยังก็ไม่ได้เริ่มคบหากับจริงจังเลยอีกอย่าง ความสัมพันธ์ของคนหนุ่มสาวก็ไม่เหมือนคนรุ่นเก่า วันนี้รักกันหวานชื่น แต่พรุ่งนี้อาจจะเลิกกันโดยไม่เจอกันอีกเลยก็ได้!ดังนั้น การผูกมัดผ่านวิธีอื่นน่าจะน่าเชื่อถือและมั่นคงกว่ามากที่สำคัญยิ่งกว่าคือซูเทียนคั่วรู้ตัวเองดีตอนนี้ความเชื่อมโยงเพียงอย่างเดียวระหว่างตระกูลซูกับอุตสาหกรรมยาก็คือหุ้นเล็กๆ ที่ถืออยู่ในร้านร้อยสมุนไพรตั้งแต่
ถัดจากนั้นก็เป็นเก้าอี้รอบนอก โดยมีหลิ่วซือหยินที่เป็นผู้นำของรุ่นที่สามที่นั่งอยู่ตรงนี่สำหรับคนในตระกูลที่มีตำแหน่งต่ำกว่านั้น แม้แต่จะเข้ามาในห้องก็ไม่มีสิทธิ์ ได้แต่ยืนฟังอยู่ที่ลานนอกบ้านผู้เฒ่าสี่คนกำลังสลับกันพูด ส่วนคนอื่นๆ ก็นั่งฟังอย่างเงียบๆ อย่างตั้งใจหญิงสาวที่ดูเหมือนเป็นผู้ช่วยคนหนึ่ง ก้มตัวลงและเดินก้าวเล็กๆ เข้ามาหาหลิ่วซือหยินก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้หลิ่วซือหยินเห็นสายที่ไม่ได้รับ สายหนึ่งแสดงชื่อว่า “จิงไห่ หนิงหงถู”จากนั้นก็มีข้อความไลน์เด้งเข้ามาหนึ่งข้อความ จากหนิงหงถูเช่นกันเนื้อหาในข้อความเขียนว่า คุณลั่วขอให้ผมบอกคุณว่าเขาสนใจที่จะร่วมงานกับคุณหลิ่วซือหยินเบิกตากว้าง และกระโดดขึ้นจากที่นั่งทันที ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “เยี่ยมไปเลย!”ทันใดนั้น ทุกคนก็หันมามองทางเธอเป็นตาเดียวโดยเฉพาะอาสองหลิ่วเจิ้นเจียงและพ่อของเธอหลิ่วเจิ้นไห่ ที่นั่งอยู่ข้างหน้า ทั้งสองมองเธอด้วยสายตาที่มีทั้งความตำหนิและความประหลาดใจอย่างชัดเจนทั้งสองรู้สึกเหลือเชื่อมาก!ในความคิดของพวกเขา หลิ่วซือหยินเป็นเด็กที่มีความประพฤติดีมาตั้งแต่เด็กด้วยการอบรมสั่งสอนที่ดีจาก