หนึ่งเดือนต่อมา....
งานแต่งงานของเตชินกับรตี ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการในโรงแรมหรูชื่อดัง ภายในงานประดับตกแต่งอย่างหรูหราสวยงามสมฐานะ แขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีกับบ่าวสาวในงานล้วนมีแต่ผู้ดีไฮโซที่มีชาติตระกูลดังๆ บรรยากาศในงานอบอุ่นชื่นมื่นตั้งแต่เช้าจนค่ำ ผ่านพิธีต่างๆมาอย่างราบรื่น เตชินกับรตียิ้มหน้าชื่นมื่น บนเวที แต่แล้วประตูห้องแต่งงานก็ถูกเปิดออก พิมควงแขนป๊อบเดินเข้ามาในงานของเตชิน กับรตีด้วยชุดราตรีสีเทาเข้มโทนดำ ซึ่งตัดกับธีมงานแต่งงานคือสีขาว-เทา เธอเดินเข้ามาอย่างสง่างามในทุกท่วงท่าการเดิน สายตาทุกคู่จับจ้องบนตัวเธอที่เดินเหยียบเข้ามาบนพรหมของคู่บ่าวสาว แขกเหรื่อในงานต่างมองเธอด้วยสายตาที่หลากหลายอารมณ์ความรู้สึก แต่ที่ทุกคนรู้สึกเหมือนกันคือ เซอร์ไพรส์มาก พ่อกับแม่ของเตชินที่ยืนอยู่บนเวทีถึงกับตกใจ อุทานชื่อพิมออกมาเบาๆ " หนูพิม! " เพื่อนของเตชินกับไตรภพถึงกับอึ้งไป ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะมาในตอนจบของงาน ทั้งสองหันมามองกันแล้วเอ่ย " มีเซอร์ไพส์แล้ว ไม่คิดว่าคุณป๊อบจะกลับมาร่วมงานแต่งของเตชินในตอนจบ " ไตระภพเอ่ยด้วยความตื่นเต้นราวกับจะมีละครสนุกๆให้ดู นาวินเอ่ยตอบด้วยท่าทางอึ้งๆว่า " ตอนจบที่ไหน ตอนล่าสุดเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นต่างหาก มาแบบแพคคูเสียด้วย " เตชินมองพิมจนตาไม่กะพริบ ยากจะอธิบายความรู้สึกที่มีในใจ [ นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน เธอสวยไม่เปลี่ยนเลย แถมยังดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เซ็กซี่ขึ้นมาก ] พิมยิ้มในหน้าให้เตชิน แววตาเจ้าเล่ห์ที่ดูเฉี่ยวคมกริบจับจ้องเตชินอย่างเยาะเย้ย เธอมาในชุดราตรียาวสวยสุดเซ็กซี่โชว์เนินอกสวย เธอสวมใส่รองเท้าส้นสูง ส่งให้หุ่นและรูปร่างของเธอดูสูงโปร่ง สัดส่วนเด่นชัดสะกดสายตาในงาน ป๊อบจับมือเธอที่ควงแขนเขาเบาๆแล้วระซิบถามเสียงแผ่วเบา " คุณพร้อมมั้ย " พิมยิ้มแล้วเอ่ยอย่างมั่นใจ " พร้อมค่ะ " รตีมองพิมด้วยแววตากังวล นัยน์ตาสั่นไหว พร้อมกับกำมือแน่น ซ่อนนิ้วหัวแม่มือเข้าไปในอุ้งมือแล้วใช้เล็บจิกลงบนนิ้วกลางอย่างอย่างแรง เมื่อเห็นเตชินนิ่งอึ้งไป เธอจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆท่าทางดูอ่อนแอขี้โรคน่าทะนุถนอม " เตชิน เพื่อนของคุณเหรอคะ " เตชินได้สติ ละสายตาจากพิมแล้วก้มมองรตี เอ่ยตอบเธอเสียงเบา " ครับ " พิมเดินเข้ามาใกล้ทั้งสองแล้วเอ่ยขึ้น " ขอแสดงความยินดีกับคุณทั้งสองคนด้วยนะคะ " จากนั้นเธอก็โน้มตัวเข้าไปใกล้เตชินแล้วเอ่ยเสียงเบาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นพอให้เตชินได้ยินคนเดียว " ฉันขออวยพรให้รักของคุณขาดสะบั้น พบเจอแต่ความผิดหวัง ชดเชยบาปกรรมที่คุณทำไว้กับฉันนะคะ " เธอมาแบบแรงๆทำเอาเตชินถึงกับอึ้งไปเลย เขาไม่เคยเห็นด้านนี้ของเธอมาก่อน จึงเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเขาถึงกับพึมพำออกมาในใจ [ เธอโตแล้ว เธอเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ทั้งสไตล์การแต่งตัว และการใช้คำพูด ดูสงบเยือกเย็นน่าเกรงขามมากขึ้น ] จากนั้นเตชินก็ยิ้มขึ้นที่มุมปากแล้วเอ่ย " ขอบคุณที่มาปรากฏตัวให้ผมได้เห็นหน้าคุณอีกครั้ง นับเป็นเซอร์ไพรส์ชิ้นใหญ่จริงๆ " พิมยกมุมปากขึ้นอย่างเยาะเย้ย พร้อมกับถอยห่างออกมาแล้วเลื่อนสายตามองไปยังรตีที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยเสียดสีขึ้น " ยินดีด้วยนะคะ ขอให้มีลูกไวๆค่ะ " ถ้าเธอเดาไม่ผิด รตีต้องมีปัญหาเรื่องมดลูกแน่ นอน ไม่งั้นคนอย่างรตีคงไม่ยอมให้เตชินมานอนกับเธอเพื่อทำให้เธอท้องหรอก จากนั้นเธอก็ยื่นมือไปควงแขนป๊อบทันที ป๊อบมองเธอแล้วยิ้มให้อย่างอบอุ่นหัวใจ แล้วหันไปเอ่ยกับเตชินด้วยใบหน้ายิ้มๆ " ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับคุณเตชิน " จากนั้นพิมก็หันไปมองป๊อบแล้วเอ่ย " ให้พวกเขาเข้ามาเถอะค่ะ " ป๊อบพยักหน้าแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรออกไปยังเบอร์ของลูกน้องแล้วเอ่ย " เข้ามาได้เลย " จากนั้นผู้ชายวัยกลางคนในเสื้อสูทสีดำก็เดินเข้ามาในงาน ในมือเขาถือเอกสารบางอย่างชวนให้ผู้คนสงสัยและสนใจสิ่งที่เขาถือ พอมาถึงเขาก็ยื่นเอกสารชุดนั้นให้พิม พิมรับมาแล้วยื่นให้เตชินทันที แล้วเอ่ยประกาศขึ้นเสียงดังให้ทุกคนในงานได้ยิน " ขอทุกคนช่วยเป็นพยานนะคะ วันนี้ฉัน นางสาวพิมผกา หิรัญวัฒนากุล และ นายเตชิน อัศววัฒน์สกุล ขอเซ็นสัญญาหย่าต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ทุกคนในวันมงคลสมรสของเขากับคุณรตี หลังจากนี้ฉันจะกลายเป็นเพียงอดีตภรรยาที่ไม่ขอข้องเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปค่ะ " จากนั้นเธอก็เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเบาลงแต่คนที่อยู่ใกล้กลับได้ยินชัดเจน " หลังจากนี้หวังว่าคุณเตชินจะไม่ส่งคนตามจับตัวฉันอีกนะคะ " การที่พิมทำแบบนี้ ก็เพื่อทำให้เตชินเกรงใจญาติผู้ใหญ่ของภรรยาในอนาคต เป็นการบังคับให้เขาเซ็นหย่าโดยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอย่างไร้ข้ออ้างใดๆ และเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง หากเธอไม่ทำแบบนี้ เธอไม่รู้ว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาจะหาข้อแลกเปลี่ยนอะไรในการหย่าอีก วิธีนี้ดีที่สุดแล้วสำหรับเธอ จากนั้นป๊อบก็ยื่นปากกาให้ เธอก็จัดการเซ็นชื่อลงไปในใบหย่าทันที แล้วยื่นปากกาพร้อมกับใบหย่าไปให้เตชิน ที่ตอนนี้มีสีหน้าเคร่งขรึมจ้องมองเธอด้วยแววตาคมกริบอย่างแข็งกร้าวดวยความโมโห [ พิมคุณจงใจจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าคุณโสด เพื่อที่จะได้ไปคบกับมันอย่างเปิดเผยสินะ ] เตชินพึมพำในใจ จากนั้นก็รับปากกากับใบหย่ามาจากมือของเธอ พิมกับป๊อบมองหน้ากันแล้วยิ้มให้กัน ประมาณว่าทุกอย่างเรียบร้อยราบรื่นดี แววตาคมกริบของเตชินมองพิมแล้วเผยรอยยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างชั่วร้าย จรดปลายปากกาขีดเป็นเส้นแนวนอน พิมกับป๊อบเห็นดังนั้นดวงตาคมเฉี่ยวก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ " คุณเตชิน คุณหมายความว่ายังไง นี่คุณจะไม่ยอมหย่ากับฉันเหรอ คุณเห็นคุณหนูรตีเป็นตัวอะไร แต่งงานกับเธอแต่ไม่ยอมจดทะเบียนสมรส อย่าบอกนะคะว่าคุณรักฉันแต่เสียดายคุณรตี เลยอยากจะเก็บเอาไว้ทั้งสองคนน่ะ " รตีได้ยินดังนั้นก็ร้องให้หลั่งน้ำตาออกมาอย่างน่าเวทนาทำให้คนรู้สึกสงสาร แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเจือสะอื้น " พี่เตชิน ที่เธอพูดหมายความว่ายังไงคะ พี่จดทะเบียนสมรสกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมพี่ไม่ยอมหย่ากับเธอ หรือว่าพี่ไม่ได้รักรตีแล้ว พี่จะทิ้งรตีไปเพราะรตีพิการใช่มั้ยคะ " รตีเองก็พยายามบีบบังคับเตชินให้หย่ากับพิม พิมมองไปยังรตีแล้วเอ่ย " คุณรตีนี่เก่งจริงๆเลยนะคะ น่านับถือจริงๆ " เธอไม่ได้ตาบอดที่จะมองไม่ออกเลยว่ารตีเสแสร้งแกล้งทำตัวน่าสงสารให้คนอื่นเห็นใจ ในขณะเดียวกันก็ใช้ความอ่อนแอน่าสงสารบีบบังคับให้เตเตชินหย่า ป๊อบเห็นท่าไม่ดีแล้วเขาก็เอ่ยขึ้นอย่างสุขุมว่า " ในเมื่อคุณเตชินยังไม่สะดวกเซ็นหย่าวันนี้ ก็ไม่เป็นไรนะพิม ไว้ค่อยเซ็นหย่าทีหลังก็ได้ ยังไงคุณกับเขาก็หย่ากันแล้วทางพฤตินัย เขาเองก็แต่งงานใหม่แล้ว มีญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเขาและแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานวันนี้มากมาย ที่เป็นพยานรับรู้ว่าคุณกับเขาหย่าขาดกันแล้ว คุณอย่ากังวลอีกเลยนะ " ป๊อบพูดให้ทุกคนในงานได้ยินอย่างชัดเจน ผู้คนในงานต่างเงียบกริบ ทุกสายตาจับจ้องขึ้นมาบนเวทีอย่างตั้งใจ ราวกับกำลังดูละครฉากสำคัญที่ไม่อาจละสายตาได้ " ได้ค่ะ " พิมเอ่ยตอบ จากนั้นป๊อบก็เอ่ยกับเตชินว่า " ขอตัวนะครับคุณเตชินคุณรตี " แล้วเขากับพิมก็เดินควงแขนกันออกจากงานทันที ตอนนี้เพื่อความปลอดภัยของพิม เขาต้องรีบพาเธอออกมา เพราะเขาดูแล้วเตชินคงจะไม่ยอมปล่อยพิมไปง่ายๆ ณัชชาเห็นพิมกับป๊อบเดินออกจากประตูไปโดยที่เตชินยังยืนนิ่งด้วยความโมโห โดยมีรตีนั่งร้องให้อย่างน่าสงสารอยู่ข้างๆ เขาก็เดินออกมาแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาแฝงความจริงจัง หวังกระตุ้นให้เตชินวิ่งตามพิมออกไป " พี่เตชิน วันนี้และตอนนี้เท่านั้นที่มียังมีสิทธิ์ตัดสินใจ พี่ถามใจตัวเองให้ดีนะ พ้นวันนี้ไปทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกตลอดไป " เอ่ยจบเธอก็เดินออกไป เพื่อตามพิมกับป๊อบ ไตรภพเห็นดังนั้นก็ชูนิ้วหัวแม่มือขึ้นแล้วเอ่ย " คุณณัชชานี่สุดยอดจริงๆ ทั้งสวยทั้งเก่งและฉลาดพูดจริงๆ แบบนี้สิถึงจะเรียกว่ามีเสน่ห์ เหมาะสมกับตำแหน่งรองประธานบริษัทอย่างแท้จริง " ไตรภพเริ่มสนใจณัชชาขึ้นมาเฉยเลย นาวินจึงเอ่ยขึ้นว่า " แต่ฉันกลับสงสารคุณรตีว่ะ เธอน่าสงสารจับใจเลย ขาก็พิการ คนรักก็ไม่มีใจให้แล้ว แถมยังหักหน้าเธอต่อหน้าผู้คนมากมายในวันสำคัญเช่นนี้อีก ช่างน่าสงสารจริงๆ " ไตรภพมองเพื่อนด้วยหางตาอย่างรำคาญ เพราะเขาไม่รู้สึกสงสารรตีเลย หลังจากเรื่องราวเริ่มสงบลง ผู้คนในงานก็เริ่มซุบซิบกัน และพากันทยอยเดินกลับออกไป ตามณัชชาที่ออกไปก่อน เตชินเหมือนถูกแช่แข็งยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างเหม่อลอยโดยไม่สนใจรตีที่ร้องให้เลย พ่อกับแม่ของรตีเดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยสีหน้าโกรธเคือง ตั้งแต่เกิดมาวันนี้เป็นวันที่พวกเขารู้สึกอับอายขายหน้า รับความอัปยศอดสูเต็มๆ พ่อของรตีเอ่ยขึ้นเสียงเย็นว่า " ท่านประธานเตชิน ผมหวังว่าคุณจะเคลียร์เรื่องวันนี้ให้เรียบร้อยเร็วๆ " เอ่ยจบเขาก็หันไปเอ่ยกับลูกสาวเขาว่า " รตี ไม่ต้องร้องแล้วกลับบ้านกันเถอะ " รตีพยักหน้าทั้งน้ำตาอย่างเชื่อฟัง แต่ในใจเธอกลับแค้นพิม ที่มาพังงานแต่งเธอซ้ำยังทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนมากมาย [ แกจงใจมาพังงานแต่งของฉัน แกจงใจทำให้ฉันขายหน้านังพิม ฉันอยากจะฆ่าแก ให้ตายๆไปเลย ] รตีกำมือแน่นเอ่ยพึมพำในใจอย่างโกรธแค้น เมื่อรตีถูกเข็นออกไป คุณหญิงจารวีกับคุณผู้ชายทวีศักดิ์ก็เดินเข้ามาหาลูกชาย คุณหญิงจารวีมองหน้าลูกชายที่ดูเหม่อลอยเขาก็ยื่นจับไปที่แขนของลูกชายเบาๆแล้วเอ่ยว่า " หนูณัชชาพูดถูกนะ ลูกถามใจตัวเองดีๆว่าลูกรักหนูรตีหรือว่ารักหนูพิม แต่ถ้าลูกรักหนูพิม ลูกจะมัวชักช้าไม่ได้ " " ใช่ พ่อดูแล้วหนุมหล่อที่พาหนูรตีมาดูไม่ธรรมดา ความสัมพันธ์เขากับหนูพิมดูสนิทสนมกันเกินธรรมดาแล้ว ลูกต้องรีบตัดสินใจให้ดีๆถ้าจะหย่าก็รีบหย่าให้จบๆไป " ภายในงานตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว เหลือเพียงสามคนพ่อแม่ลูกที่ยืนคุยกันบนเวที เตชินเลื่อนสายตามองหน้าพ่อแม่แล้วเอ่ยอย่างเศร้าใจ " ผมรักรตี ผมสงสารเธอ ถ้าผมไม่แต่งกับเธอไม่ดูแลเธอในยามแก่เฒ่าใครจะดูแลเธอ ผมอยากจะอยู่เคียงข้างเธอไปจนแก่เฒ่าครับ แต่เธอไม่สามารถมีลูกให้ผมได้ ส่วนพิมเป็นคนที่ผมรักมากรักมากกว่ารตีอีก แต่เธอดื้อรั้นเอาแต่ใจเกินไป แถมยังไม่เคยมีใจให้ผมเลย ผมไม่สามารถทำตามใจตัวเองแล้วทิ้งรตีที่พิการให้ใช้ชีวิตลำพังได้ " คุณหญิงจารวีได้ยินว่ารตีไม่สามารถมีลูกได้ เขาก็เริ่มไม่อยากให้ลูกชายเลือกรตีแล้ว เพราะเขามีลูกชายแค่คนเดียว จำเป็นต้องมีทายาทสืบทอดกิจการ " แต่ลูกต้องเลือกนะ เอาตรงๆนะแม่ไม่ได้ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของลูกนะ แต่แม่ชอบหนูพิมมากกว่าแม้เธอจะดื้อรั้นเอาแต่ใจ แต่วันนี้แม่ดูแล้วเธอดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมขึ้นเยอะ มีรัศมีแห่งความน่าเกรงขามแผ่ออกมาจากตัวส่งให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่ที่สง่างามมาก " คุณผู้ชายทวีศักดิ์รูดีว่า ถึงแม้ภรรยาของเขาจะบอกว่าไม่ได้ก้าวก่าย แค่เจตนากลับชัดเจนว่าสนับสนุนให้เลือกพิม ซึ่งขัดกับความคิดของลูกชายที่ไม่อาจเลือกพิมได้ เตชินนิ่งเงียบ เขายอมรับว่าแม่เขาพูดถูกพิมเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ทางด้านณัชชาที่ตามพิมกับป๊อบ เห็นทั้งสองเข้าไปในรถแล้วขับรถออกไป เธอก็วิ่งไปที่รถรีบแล้วขับตามออกไปเช่นกัน เธออยากจะรู้ว่าพิมพักอยู่ที่ไหน เพราะพิมคือคนเดียวที่จะทำให้เธอเอาชนะรตีได้ และพิมคือคนเดียวที่ทำให้พี่เตชินของเธอไม่สามารถสนใจรตีได้ " คุณพิมนี่น่าสนใจกว่าที่คิด กล้าบุกมาพังงานแต่งสามี พร้อมกับประกาศหย่าเสียงกร้าว เซ็นหย่าต่อหน้าผู้คนมากมาย เป็นการตบหน้ารตีโดยไม่ต้องเจ็บมือ คุณทำได้สะใจมากจริงๆ " รตีเอ่ยอย่างสะใจเธอรู้สึกพอใจมากที่ได้เห็นความอัปยศของรตีเมื่อกลับไปถึงบ้าน พ่อของรตีก็เอ่ยกับลูกสาวด้วยความโมโหว่า" รตี ลูกตัดใจจากคุณเตชินซะเถอะ พ่อเป็นผู้ชายเหมือนกันพ่อดูออกว่าเขาไม่ได้รักลูกแล้วลูกดูสิตั้งแต่ลูกกลับมาเขามาหาลูกแค่สองครั้งจากนั้นก็อ้างว่าไม่มีเวลาตลอดผู้ชายน่ะ ถ้ารักใครมากๆเขาจะมีเวลาให้คนที่เขารักเสมอแล้วเรื่องวันนี้อีก เขาแต่งงานกับลูกทั้งที่เขายังไม่ได้หย่ากับภรรยาไม่รู้ว่าเขาไปแอบจดทะเบียนสมรสและแต่งงานกันตอนไหน แล้วภรรยาเขาก็บุกมาหยามเกียรติเราถึงในงาน ทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียง ลูกคิดมั้ยว่าคนอื่นจะมองเรายังไง แย่งสามีชาวบ้านแบบนี้เหรอ "รตีไม่เอ่ยตอบอะไร ได้แต่นั่งร้องให้ด้วยความเสียใจ ที่เตชินไม่ยอมเซ็นหย่ากับพิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงเมื่อผู้เป็นพ่อมองลูกสาวที่นั่งร้องให้ ก็เริ่มรู้สึกสงสารอารมณ์ค่อยๆเย็นลง จึงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง" วันนี้คุณเตชินแสดงออกต่อหน้าทุกคนอย่างชัดเจนแล้วโดยที่ไม่ต้องเอ่ยอะไร ว่าเขารักภรรยาของเขาแค่ไหน ถึงขั้นไม่ยอมไว้หน้าหรือให้เกียรติเราเลยขนาดกลางงานแต่งงานของลูกแท้ๆ เมื่อภรรยาเขาบุกมาเขากลับไม่สนใจลูกเลยเลือกที่จะไม่ยอมอย่ากับภรรยา ถ้าเขารักลูกเขาจะเซ็นหย่าเพ
เตชินได้ยินดังนั้น ก็เอ่ยออกคำสั่งขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเจือร้อนใจ" เดี๋ยว! คุณช่วยดูให้หน่อยว่าไฟลท์บินคืนนี้ออกกี่โมง แล้วคุณก็จองตั๋วให้ผมที ผมจะรีบตามพวกเขาไปเดี๋ยวนี้ "" รับทราบค่ะท่านประธาน "หลังจากนั้น เตชินก็กลับรถ มุ่งหน้าไปยังสนามบินทันทีส่วนณัชชาก็เริ่มเช็คดูตารางเวลาไฟลท์บินของแต่ละสายการบิน เธอมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วพึมพำออกมาอย่างตกใจพร้อมกับใช้สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว" ตายละ นี่สองทุ่มแล้วเหรอ พี่เตชินจะตามไปทันมั้ยเนี่ย ช่างเหอะในเมื่อคุณพิมออกไปเวลานี้ก็แสดงว่าไฟลท์บินที่คุณพิมจองต้องเป็นไฟลท์บินของ Lion air แน่เลย งั้นก็จองไฟลท์บินเวลา 21:50 ของสายการบินนี้ให้พี่เตชินเลยแล้วกัน หวังว่าจะไปทันนะ "ณัชชาทำการจองตั๋วอะไรเสร็จเรียบร้อยก็โทรไปแจ้งเตชินทันที" วันนี้ เวลานี้ มีเพียงไฟลท์บินของสายการบิน Lion air เท่านั้นที่ออกจากดอนเมืองไปเชียงใหม่เวลา 21:50 - 23:15 ส่วนเรื่องที่พัก ณัชชาจะโทรแจ้งอีกทีค่ะ "ได้ยินดังนั้น เตชินก็วางสายไป รีบขับรถไปยังสนามบินอย่างเร่งด่วนแววตาแน่วแน่จับจ้องไปบนถนนข้างหน้าพร้อมกับเอ่ยออกมาในใจ[ ผมพลาดไปแล้วครั้งหนึ่
พอออกจากสนามบิน พิมก็เดินไปที่รถของตัวเองแล้วเอ่ยกับเตชินอย่างเย็นชาโดยไม่มองหน้าเขา" ปล่อยมือฉันได้แล้ว คุณเรียกรถไปเองแล้วกัน "เตชินมองไปที่รถเธอแล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณขับรถเป็นแล้วเหรอ "" ฉันขับรถเป็นมันน่าแปลกตรงไหน "พิมเอ่ยขึ้นอย่างรำคาญเตชินไม่คิดว่าเวลาแค่ปีกว่าจะทำให้เธอเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ทั้งดูโตเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมและยังกลายเป็นคนที่เย็นชามากๆอีกด้วยจากนั้นพิมก็หยิบกุญแจรถออกมาจากในกระเป๋า แล้วกดเปิดประตูเตชินจึงเดินไปเปิดประตูรถของเธอแล้วเข้าไปนั่งในรถอย่างสบายใจ พิมรู้สึกโมโหและรำคาญเขามากเธอเดินไปเปิดประตูทางฝั่งเขาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดใจ" คุณเตชิน คุณจะเอายังไง คุณอยากให้ภรรยาของคุณมาฆ่าฉันให้ตายหรือไง คุณอยากให้สังคมตราหน้าว่าฉันแย่งสามีชาวบ้านทั้งที่ฉันไม่ได้ทำเลยอย่างงั้นเหรอหากคุณเห็นใจฉันสักนิดช่วยเซ็นใบหย่าแล้วเลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันสักที ฉันรำคาญ "เตชินได้ยินดังนั้น เขาก็ถึงกับอึ้งไปเลย แววตาแข็งกร้าวเย็นชาสบตากับเขาอย่างเกลียดชังเขาไม่คิดว่าเธอจะมองเขาด้วยแววตาแบบนี้[ นี่เธอเกลียดเราขนาดนี้เลยเหรอ ]จากนั้นสีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นมา เขาลงจาก
เมื่อไปถึงโรงแรมเตชินก็เปิดประตูลงมาจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูให้พิมแล้วเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม" ลงมา "" ฉันไม่ลง คุณเอากุญแจรถฉันคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ "เตชินจ้องมองใบหน้างามด้วยแววตาเย็นชาแล้วเอ่ยเสียงเย็นอีกครั้ง" ผมจะพูดอีกครั้ง ลงมา "" ฉันไม่ลง คุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง "พิมตวาดใส่เตชินเสียงดุความกลัวถูกแทนที่ด้วยความโมโหเตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง ก้มลงไปสอดมือขวาเข้าไปด้านหลังพิมแล้วใช้มืออีกข้างสอดเข้าไปใต้ขา ช้อนตัวเธอขึ้นมาจากนั้นก็ออกมาจากรถ ใช้เข่าสูงยาวดันเข้าไปปิดประตูแล้วกดล็อครถทันทีพิมตกใจจนดวงตาเบิกกว้างอ้าปากค้างไปสามวิ จากนั้นเธอก็เริ่มโวยด้วยน้ำเสียงดุดัน นัยน์ตาดูแข็งกร้าว" คุณเตชิน คุณอย่ามาใช้วิธีบังคับขืนใจกันแบบนี้นะ ฉันไม่ใช่คนที่อยู่ในการควบคุมของของคุณแล้ว ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ "" ใช่หรือเปล่าเดี๋ยวคุณก็รู้ "เตชินเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้านิ่งเฉยเย็นชา จากนั้นก็เดินเข้าไปในโรงแรมพิมมองเข้าไปในโรงแรมเห็นพนักงานจ้องมองพวกเขาอยู่เธอจึงเอ่ย" ปล่อยฉันลง ฉันเดินเองได้ "พิมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่น ใบหน้างามบูดบึ้งเย็นชา เตชินหยุดก้าวแล้วสบตาคน
คนใต้ร่างแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะๆด้วยความรู้สึกเสียวซ่านเจือความทรมานเตชินตักตวงเอาความสุขจากตัวเธออย่างหื่นกระหายคล้ายชดเชยช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อเตชินเผด็จศึกที่เร่าร้อนและร้อนแรงบนเตียงใหญ่สงบลง เขาก็จูบไปที่หน้าผากของคนใต้ร่างอย่างทะนุถนอมด้วยความรักใคร่เสน่ห์หาพิมที่อยู่ใต้ร่างตัวอ่อนปวกเปียกไร้เรียวแรงที่จะต่อต้านหรือมีความรู้สึกอื่นทำได้เพียงนอนตะแคงตัวหันออกไปอย่างไร้ความรู้สึกเตชินนอนลงข้างหลังเธอแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมกอดแน่น ให้แผ่นหลังเนียนนุ่มแนบชิดกับอกแกร่งของเขาเมื่อนอนพักไปสักพัก พิมรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเริ่มหายเหนื่อยบ้างแล้วเธอก็ลุกไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จเธอใช้ผ้าเช็ดตัวมาห่อหุ้มปกปิดร่างกายแล้วเดินออกมาเก็บเสื้อผ้าที่ตกกระจัดกระจายบนพื้น ขึ้นมาสวมใส่ จากนั้นเธอก็ออกจากห้องไปอย่างรีบร้อนเตชินที่เพิ่งลืมตาตื่นก็เห็นเธอรีบออกไป เขาก็รีบลุกขึ้นมาหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วตามเธอออกไปทันทีพิมลงมาถึงลานจอดรถก็ปลดล็อครถทันที จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เป็นเวลาตีหนึ่งครึ่งแล้ว[ วันนี้มีงานต้อนรับ ผอ. คนใหม่ด้วยสิ หว
เนื่องจากกระจกรถของพิมติดฟิล์มสีทึบ คนภายนอกจึงมองไม่เห็นเตชินที่อยู่ข้างในเมื่อทำอะไรเสร็จ พิมก็เดินกลับเข้าไปในบ้านพักแล้วจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเปลี่ยนเป็นใส่ชุดสุภาพของโรงเรียน เป็นเสื้อสูททับเสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงทรงเอ สวมรองเท้าคัทชูสีดำ ทรงผมก็ทำเป็นถักเปียสองข้างเกล้าขึ้นข้างหลังแล้วติดโบว์สีดำให้ดูสุภาพสวยงามแต่งหน้าอ่อนๆ เขียนคิ้วบางๆเป็นธรรมชาติ ทาลิปสีอ่อนให้เข้ากับสไตล์การแต่งหน้าทำให้บุคลิกเธอดูโตขึ้นดูสุขุมสง่างามมีความสวยใสและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นจากนั้นเธอก็เดินออกมาจากบ้านพักครูโดยไม่หันไปสนใจเตชินที่อยู่ในรถเลยทันทีที่เตชินเห็นพิม เขาก็ถึงกับตกตะลึงไปเลย" เป็นแม่บ้านจำเป็นต้องสวยขนาดเลยเหรอหรือ...หรือว่าพิมจะเป็นครูของที่นี่ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อพิมจบแค่มัธยมปลาย เธอจะเป็นครูได้ยังไง "เตชินนั่งอยู่ในรถพึมพำคนเดียว ในสมองเขาเต็มไปด้วยความสงสัยในตัวตนของพิมเต็มไปหมดจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังที่กำลังตื่น เห็นเตชินโทรมา เขาก็รีบรับสายแล้วเอ่ยขึ้น" ครับคุณชาย "" คุณไปสืบประวัติของพิมมาให้หน่อย ว่าเธอจบอะไรกันแ
แม้ป๊อบเพิ่งจะมาถึง แต่ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา รูปร่างที่ดูภูมิฐานแฝงบารมีที่น่าเคารพยำเกรงในตัว เขาก็ได้รับความรักความเอ็นดูความเคารพนับถือจากคณะครูในโรงเรียนอย่างมากแล้วเสียงเชียร์ทำให้พิมไม่อาจทำให้ป๊อบเสียหน้าได้แม้เธอจะสับสน แต่เธอก็ต้องรักษาหน้าของป๊อบไว้เพราะเขาเป็น ผอ. โรงเรียน ที่เพิ่งมาใหม่ และเขาก็ดีกับเธอมาก เธอจึงไม่อาจใจร้ายกับเขาได้ เธอคิดว่า[ ยังไงเราก็โสด เมื่อเขาให้เกียรติ เราก็ควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา ให้ถูกหลักธรรมนองคลองธรรมสักที ]จากนั้นเธอก็ยิ้มขึ้นพร้อมกับรับช่อดอกไม้ของเขาแล้วเอ่ย" ค่ะ ฉันยินดีที่จะคบกับคุณค่ะ "ครูและนักเรียนต่างปรบมือแสดงความยินดีและดีใจกับทั้งสองคนป๊อบได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขึ้นด้วยความดีใจ เขาลุกขึ้นเข้าไปกอดพิมไว้แน่นแล้วเอ่ยด้วยความดีใจ" พิม คุณรู้มั้ยผมรอวันนี้มานานแค่ไหน หลังจากนี้ผมจะดูแลคุณให้ดีที่สุด เราจะก้าวผ่านสิ่งต่างๆไปด้วยกันนะ "เตชินที่วิ่งขึ้นมาถึงบนหอประชุมด้วยความเหนื่อยหอบเห็นพิมตอบรับคำขอของป๊อบใจเขาก็แตกสลายไปเป็นผุยผง เขาเจ็บปวดที่ขั้วหัวใจจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหวแล้ว [ นี่เราจะต้องเสียเธอไปให้อื่นแล้วจริงๆเห
รตีออกมารอเตชินที่หน้าบ้าน พี่เลี้ยงที่ดูแลเธอก็รู้สึกเป็นห่วงและสงสารเธอ ที่ตั้งตารอคอยการมาของเตชิน" คุณรตีกลับเข้าไปรอในบ้านก่อนดีมั้ยคะ ข้างนอกอากาศหนาวเดี๋ยวจะไม่สบายเอา "พี่เลี้ยงเอ่ยอย่างสุภาพรตีมองไปยังพี่เลี้ยงแล้วเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์" ก็เพราะรตีอยากจะไม่สบายไงคะ รตีถึงออกมารอข้างนอกตากลมเล่นแบบนี้ เตชินจะได้รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้รตีป่วยแล้วมาอยู่ดูแลรตีตลอด พี่เข้าใจมั้ย "" เข้าใจค่ะ "พี่เลี้ยงเอ่ยตอบอย่างจนปัญญาที่จะเอ่ยต่อรตีรอเตชินจนร่างกายเย็นเฉียบใบหน้าขาวซีดไปหมดเมื่อผู้เป็นพ่อกลับมา เห็นลูกสาวนั่งตากลมก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งมาหาลูกสาวด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเอ็ดใส่พี่เลี้ยง" ทำไมคุณถึงพารตีออกมาข้างนอกแบบนี้ ผมจ้างคุณมาดูแลลูกสาวผมนะไม่ได้จ้างให้มาเอาเงินเดือนอย่างเดียว หัดใช้สมองบ้าง "คนเป็นพี่เลี้ยงรู้สึกโกรธมาก แต่ก็กดความโกรธเอาไว้ในใจ แล้วก้มหน้าก้มตาเอ่ยเพียงสั้นๆ" ขอโทษค่ะ "แล้วแม่ของรตีก็เดินออกมาจากในบ้านมองไปยังสามีอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยเสียดสีขึ้น" คุณรู้จักเป็นห่วงลูก รู้จักกลับมาบ้านด้วยเหรอ หายไปไหนมาทั้งคืนล่ะ ไปขลุกอยู่กับอีเมียน้อยคนไหนอ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ