แม้ป๊อบเพิ่งจะมาถึง
แต่ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา รูปร่างที่ดูภูมิฐานแฝงบารมีที่น่าเคารพยำเกรงในตัว เขาก็ได้รับความรักความเอ็นดูความเคารพนับถือจากคณะครูในโรงเรียนอย่างมากแล้ว เสียงเชียร์ทำให้พิมไม่อาจทำให้ป๊อบเสียหน้าได้แม้เธอจะสับสน แต่เธอก็ต้องรักษาหน้าของป๊อบไว้ เพราะเขาเป็น ผอ. โรงเรียน ที่เพิ่งมาใหม่ และเขาก็ดีกับเธอมาก เธอจึงไม่อาจใจร้ายกับเขาได้ เธอคิดว่า [ ยังไงเราก็โสด เมื่อเขาให้เกียรติ เราก็ควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา ให้ถูกหลักธรรมนองคลองธรรมสักที ] จากนั้นเธอก็ยิ้มขึ้นพร้อมกับรับช่อดอกไม้ของเขาแล้วเอ่ย " ค่ะ ฉันยินดีที่จะคบกับคุณค่ะ " ครูและนักเรียนต่างปรบมือแสดงความยินดีและดีใจกับทั้งสองคน ป๊อบได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขึ้นด้วยความดีใจ เขาลุกขึ้นเข้าไปกอดพิมไว้แน่นแล้วเอ่ยด้วยความดีใจ " พิม คุณรู้มั้ยผมรอวันนี้มานานแค่ไหน หลังจากนี้ผมจะดูแลคุณให้ดีที่สุด เราจะก้าวผ่านสิ่งต่างๆไปด้วยกันนะ " เตชินที่วิ่งขึ้นมาถึงบนหอประชุมด้วยความเหนื่อยหอบ เห็นพิมตอบรับคำขอของป๊อบใจเขาก็แตกสลายไปเป็นผุยผง เขาเจ็บปวดที่ขั้วหัวใจจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหวแล้ว [ นี่เราจะต้องเสียเธอไปให้อื่นแล้วจริงๆเหรอ พิม ทำไมคุณใจร้ายใจดำกับผมแบบนี้นะ ] สีหน้าของเตชินแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเคร่งขรึมและเย็นชา แววตาเศร้าหมองลงไปทันที [ พิม ในหัวใจของคุณมีเพียงเขาคนเดียวมาตลอดเลยใช่มั้ย คุณถึงได้ตอบรับคำขอของเขาง่ายดายขนาดนั้น แล้วผมล่ะ คุณเคยมีใจให้ผมจริงๆอย่างที่เคยพูดไว้จริง หรือเปล่า ] น้ำตาของเตชินปริ่มอยู่ที่ขอบตาค่อยๆซึมออกมาอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาพิมกับป๊อบที่กอดกันอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แววตาเศร้าอย่างเห็นได้ชัดเจน ชุดที่เขาใส่ก็ยังเป็นชุดแต่งงานเมื่อวาน พอเด็กนักเรียนและครูในโรงเรียนเห็นเขา ก็รู้ ทันทีว่าเป็นเขาที่กำลังดังเป็นที่พูดถึงในตอนนี้ แล้วนักเรียนหญิงคนหนึ่งก็เริ่มเอ่ยขึ้น " ว้าว คุณเตชิน เจ้าบ่าวป้ายแดง ที่เพิ่งผ่านการแต่งงานมาหมาดๆนี่ " นักเรียนอีกคนก็เอ่ยเสริมขึ้น ด้วยความรู้สึก ตื่นเต้น " จริงด้วย หล่อกว่าในรูปอีก สูงชะมัดเลยราวกับพระเอกซีรี่ส์ " ส่วนคุณครูคนทุกคนต่างพากันเงียบกริบ เพื่อรอดูสถานการณ์ ทันทีที่พิมเห็นเขาเธอก็ตกใจจนป๊อบที่ยืนกอด เธออยู่นั้นสัมผัสได้ถึงอาการตกใจของพิม เขาจึงผละตัวออกห่างจากพิม แล้วหันหลังไป มองตามสายตาพิม " คุณเตชิน คุณมาได้ยังไง " ป๊อบนึกว่าเขากลับไปแล้ว และไม่คิดว่าจะตามมาถึงที่นี่ พิมกลัวเตชินจะทำเรื่องขายหน้า เธอจึงเอ่ย กระซิบกับป๊อบว่า " คุณช่วยพาเขาออกไปที อย่าให้มีเรื่องกันต่อหน้าครูและนักเรียนเด็ดขาด " เตชินรู้ว่าพิมกลัวอะไร เขาเดินเข้ามายืนอยู่ต่อหน้าทั้งสองคนแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา " ขอแสดงความยินดีกับคุณป๊อบด้วยนะครับ ที่ขอภรร....พิม เป็นแฟนได้สำเร็จ " เขาแทบอยากจะหลุดปากประกาศว่าพิมเป็นภรรยาของเขาแล้ว แต่กลัวผลที่ตามมาจะกระทบกับพิมจนเธอรับไม่ไหวจึงเปลี่ยนคำว่า ภรรยาเป็น พิม แทน " ขอบคุณครับ ผมเองก็ยินดีกับเจ้าบ่าวป้ายแดงอย่างคุณด้วย ที่บุกมาเซอร์ไพรส์พวกเราถึงที่นี่ เซอร์ไพรส์มากจริงๆครับ " ป๊อบเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มๆอย่างเป็นมิตร และใช้คำพูดให้เหมือนกับว่าเตชินคือคนสนิทคุ้นเคยของเขาเพื่อปกป้องพิมไม่ให้ถูกมองไม่ดี จากนั้นเขาก็เอ่ยถามต่อว่า " คุณนาวินกับคุณไตรภพมาด้วยหรือเปล่าครับ " เตชินเห็นดังนั้นก็หมั่นไส้จนแทบจะกลั้นอารมณ์ไว้ไม่ไหวแล้ว เขามองไปยังพิมแล้วเอ่ยขึ้น " แน่นอนว่ามาเซอร์ไพรส์พวกคุณต้องมาคนเดียวอยู่แล้ว คุณรู้มั้ย เมื่อวานผมแอบอยู่กับคุณพิมทั้งคืน เมื่อเช้าก็ขับรถมาพร้อมกับคุณพิมอีก ผมรออยู่ในรถคุณพิมตั้งนาน พอผมเห็นรถคุณผมก็รีบมาเซอร์ไพรส์ทันที ผมขอแสดงความยินดีกับคุณทั้งสองด้วยจริงๆครับ " เตชินสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ ฝืนกัดฟันพูดด้วยแววตาเศร้าเสียใจ พิมยืนนิ่ง แล้วฝืนยิ้มขึ้น ใช้รอยยิ้มสดใส กลบเกลื่อนความผิดปกติทางความสีหน้า เมื่อเตชินพูดเล่นลิ้นยอกย้อนไม่ตรงไปตรงมาชวนให้คนอื่นคิดไปต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่มีใครคิดไปในทางที่ไม่ดีเพราะครูในโรงเรียนต่างรู้จักพิมมานานพอสมควร จากนั้นพิมก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเพียงสั้นๆว่า " ขอบคุณค่ะ " แม้บนใบหน้าหล่อเหลาของป๊อบจะยิ้ม แต่ในใจของเขา กลับโมโหจนอกแทบจะระเบิดออกมาแล้ว คนอื่นอาจฟังที่เตชินพูดไม่ออก ไม่เข้าใจและไม่รู้เรื่อง แต่เขารู้ดีและเข้าใจกว่าใคร เตชินกำลังแสดงความเป็นเจ้าของพิมต่อหน้าเขาอย่างชัดเจน ภายใต้รอยยิ้ม ภายใต้แววตาที่อ่อนโยนกลับซ่อนเปลวเพลิงที่ลุกโชนขึ้นมา พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่งให้มอดไหม้ในพริบตา แล้วอยู่ๆโทรศัพท์ของเตชินก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเป็นรตีที่โทรมาหาเขา เขาจึงกดรับสายแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพนุ่มนวลอ่อนโยน " ครับ รตี " รตีที่อยู่ปลายสายก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานอย่างออดอ้อน " คุณจะมาหารตีกี่โมงคะ รตีอยากเจอคุณแล้ว รตีคิดถึงคุณ รีบๆมาได้มั้ยคะ นะคะ เดี๋ยวรตีจะทำของที่คุณชอบไว้รอ " ฟังเสียงอ่อนหวานออดอ้อนของรตี ใจของเตชินก็อ่อนลง แววตาจับจ้องใบหน้าพิมแล้วเอ่ยกับรตีว่า " ได้ครับผมจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้เลย " " ค่ะ " แล้วเขาก็วางสายไป จากนั้นเขาก็เอ่ยกับพิมว่า " ภรรยาผมรออยู่ ผมคงต้องไปแล้ว ขอยืมใช้รถของคุณพิมก่อนนะครับ " " ค่ะ ตามสบายเลยค่ะ " พิมเอ่ยเสียงเรียบด้วยสีหน้านิ่งเฉย แล้วเตชินก็เดินออกไปจากหอประชุมไป พิมมองตามแผ่นหลังของเขาด้วยความรู้สึกหน่วงๆที่หัวใจ และเจ็บแปล๊บๆในใจ [ สุดท้ายเขาก็ต้องเลือกภรรที่คู่ควรและเหมาะสมกับเขา เราตัดสินใจถูกแล้ว หวังว่าเราจะไม่ได้พบกันอีกนะคุณเตชิน ] เธอแอบพึมพำในใจอย่างเศร้าใจและผิดหวัง แม้เธอจะปฏิเสธเขาตลอด แต่เธอเป็นคนมีหัวใจ ใจอ่อนได้และหลงเชื่อคนเป็น การกระทำของเขาที่ดูเหมือนรักเธออย่างสุดหัวใจ แต่สุดท้ายเขาก็ปฏิบัติกับเธอราวกับเธอเป็นแค่ของเล่นชิ้นโปรดที่ไร้หัวใจ ชอบแต่ไม่รักษา หวงแต่ไม่เห็นค่า หวงแต่ไม่ให้ความสำคัญ เธอเจ็บจริงๆ เธอรู้สึกพอแล้วจริงๆกับความเจ็บในใจที่ไม่สามารถระบายกับใครได้ ที่เขาเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้ปลดปล่อยกามารมณ์เพียงครั้งคราว ป๊อบเห็นเธอกำมือแน่นก็เข้าไปกุมมือเธอเอาไว้แล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน " พิม เราไปถ่ายรูปร่วมกับคณะครูทุกคนกันเถอะ " พิมเงยหน้ามองเขาแล้วฝืนยิ้มขึ้น เอ่ยตอบว่า " ไปค่ะ " เตชินเดินออกมาข้างนอกแล้วเดินกลับไปที่รถ ยื่นมือออกไปเปิดประรถแล้วเข้าไปนั่งข้างใน จู่ๆก็มีนักเรียนคนหนึ่งที่ใส่ชุดฟ้อนมาเคาะ ประตูรถ เขาลดกระจกลงมองหน้าเด็กสาว แล้วเด็กสาวก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าแสดงออกว่า ไม่พอใจเขา " เป็นคุณนี่เองที่แย่งข้าวเช้าของครูพิม " " หนูพูดแบบนี้หมายความว่าไง " ได้ยินดังนั้น เตชินก็เอ่ยเสียงแข็งอย่างเย็นชา แต่เด็กสาวกลับไม่มีทีท่าว่าจะกลัวเขาเลย แม้แต่น้อย แล้วเอ่ยต่อ " คุณรู้มั้ย ว่าครูพิมน่ะเสียสละข้าวของตัวเองให้คุณ ทั้งที่ตัวเองเป็นโรคกระเพาะอยู่ หมอบอกให้ครูพิมทานข้าวให้ตรงเวลา เพราะโรคกระเพาะครูพิมรุนแรง เป็นทีหนึ่งครูพิมถึงขั้นหมดสติไป " เตชินได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จะเอ่ยถามขึ้นแต่เด็กสาวกลับชิงเอ่ยขึ้นซะก่อน " คุณไม่ต้องถามว่าหนูรู้ได้ยังไง เพราะหนูเป็นคนไปส่งครูพิมเข้าโรงพยาบาลเอง แล้วหนูก็ดูออกว่าคุณน่ะ ไม่ได้มาแสดงความยินดีกับครูพิมและท่าน ผอ. อย่างที่พูดหรอก คุณชอบครูพิม คุณคือคุณเตชิน อัศววัฒน์สกุล ที่เพิ่งแต่งงานกับผู้หญิงที่ชื่อรตีเมื่อวาน แถมยังใส่ชุดแต่งงานเมื่อวานมาอีก หากคุณกลับไปหาภรรยาคุณแล้วก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับครู พิมอีก อย่าทำให้ครูพิมของพวกเราเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะคุณ " เอ่ยจบเด็กสาวก็หมุนตัวเดินจากไป เตชินถึงกับอึ้งไป จากนั้นก็พึมพำกับตัวเองเบาๆ " นี่เราถูกเด็กสั่งสอนเหรอ ยัยเด็กนี่ใจกล้าไม่เบา นิสัยเหมือนพิมไม่มีผิดเลย " แล้วข้อความจากรตีก็ส่งมาหาเขา รตีส่งข้อความมาถามว่า ( คุณออกมาหรือยังคะ ) เขาจึงพิมตอบไปว่า ( ครับ ) จากนั้นเขาก็ขับรถออกไปทันที กลับเข้าไปในเมืองแล้วมุ่งหน้าตรงไปยังสนามบินเชียงใหม่ เข้าไปซื้อตั๋วเครื่องบินที่เคาน์เตอร์แล้วเดินทางกลับไปหารตีที่กรุงเทพทันทีรตีออกมารอเตชินที่หน้าบ้าน พี่เลี้ยงที่ดูแลเธอก็รู้สึกเป็นห่วงและสงสารเธอ ที่ตั้งตารอคอยการมาของเตชิน" คุณรตีกลับเข้าไปรอในบ้านก่อนดีมั้ยคะ ข้างนอกอากาศหนาวเดี๋ยวจะไม่สบายเอา "พี่เลี้ยงเอ่ยอย่างสุภาพรตีมองไปยังพี่เลี้ยงแล้วเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์" ก็เพราะรตีอยากจะไม่สบายไงคะ รตีถึงออกมารอข้างนอกตากลมเล่นแบบนี้ เตชินจะได้รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้รตีป่วยแล้วมาอยู่ดูแลรตีตลอด พี่เข้าใจมั้ย "" เข้าใจค่ะ "พี่เลี้ยงเอ่ยตอบอย่างจนปัญญาที่จะเอ่ยต่อรตีรอเตชินจนร่างกายเย็นเฉียบใบหน้าขาวซีดไปหมดเมื่อผู้เป็นพ่อกลับมา เห็นลูกสาวนั่งตากลมก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งมาหาลูกสาวด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเอ็ดใส่พี่เลี้ยง" ทำไมคุณถึงพารตีออกมาข้างนอกแบบนี้ ผมจ้างคุณมาดูแลลูกสาวผมนะไม่ได้จ้างให้มาเอาเงินเดือนอย่างเดียว หัดใช้สมองบ้าง "คนเป็นพี่เลี้ยงรู้สึกโกรธมาก แต่ก็กดความโกรธเอาไว้ในใจ แล้วก้มหน้าก้มตาเอ่ยเพียงสั้นๆ" ขอโทษค่ะ "แล้วแม่ของรตีก็เดินออกมาจากในบ้านมองไปยังสามีอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยเสียดสีขึ้น" คุณรู้จักเป็นห่วงลูก รู้จักกลับมาบ้านด้วยเหรอ หายไปไหนมาทั้งคืนล่ะ ไปขลุกอยู่กับอีเมียน้อยคนไหนอ
ณัชชานั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเองอย่างเงียบๆ ท่าทางดูสุขุม ดูนิ่งสงบพอผู้ช่วยเข้ามาส่งงานให้เธอ เธอก็เงยหน้าขึ้นมามองผู้ช่วย แล้วเอ่ยถามขึ้น" ท่านประธานมาหรือยัง "" ค่ะ ท่านประธานมาได้สักพักแล้ว "ผู้ช่วยสาวเอ่ยรายงานแล้วเธอก็เอ่ยกับผู้ช่วยสาวด้วยน้ำเสียบเรียบๆว่า" อืม ไม่มีอะไรแล้วคุณไปทำงานเถอะ "" ค่ะ "พอผู้ช่วยของเธอหมุนตัวเดินออกไป เธอก็นึกเรื่องที่จะถามผู้ช่วยขึ้นมาได้ จึงเอ่ยเรียกผู้ช่วยไว้ " เดี๋ยวก่อนค่ะคุณรินทร์ "พอผู้ช่วยหันมาเธอก็เอ่ยถามขึ้น" เรื่องที่ให้ไปตรวจสอบเกี่ยวกับผู้ช่วยคนก่อนคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว "ผู้ช่วยสาวจึงเอ่ยตอบว่า" ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วค่ะ เธอเป็นคนของคุณรตีที่ส่งมาอยู่ข้างกายคุณค่ะ ที่บริษัทมีปัญหาช่วงนั้นรินทร์ตามสืบดูแล้วเป็นฝีมือเธอเหมือนกันค่ะ ส่วนรายละเอียดข้อมูลที่เหลือ รินทร์ส่งให้คุณณัชชาในอีเมลแล้วค่ะ "ได้ยินดังนั้นณัชชารู้สึกพอใจอย่างมาก เธอจึงเอ่ยขึ้น" อืม คุณทำงานได้ดีมาก ไม่มีอะไรแล้วไปทำงานของคุณต่อเถอะ "จากนั้นผู้ช่วยรินทร์ก็หมุนตัวเดินออกไป ณัชชาเผยรอยยิ้มร้ายขึ้นมาที่มุมปากแล้วพึมพำในใจ[ รตี นังหมาลอบกัด ชอบกัดไม่ปล่อยใ
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เตชินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาณัชชาทันที พอณัชชารับสาย เขาก็เอ่ยขึ้นด้วยถ้อยคำสนิทสนมฉันพี่ฉันน้อง" ณัชชา พี่จะไปหาคุณพิม อาจจะอยู่ที่นั่นสักพัก ระหว่างนี้ น้องช่วยดูแลรตีแทนพี่หน่อยนะ ยังไงน้องกับรตีก็เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ก็ใช้โอกาสนี้ปรับความเข้าใจกันเลย "ได้ยินดังนั้นณัชชาก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดีมากขึ้นไปอีก แต่ก็ทำได้แค่บ่นพึมพำออกมาในใจ[ โทรมาพูดจาฉันพี่น้องอย่างเอาอกเอาใจ ที่ไหนได้แค่จะใช้งานให้ดูแลนังมารร้ายอย่างรตี แต่ก็ดีถือโอกาสนี้เล่นสงครามประสาทกับนังรตีมันเลย ดูสิว่าคราวนี้ใครจะตอแหลเก่งกว่ากัน ]แล้วเธอก็เอ่ยขึ้น" ได้ค่ะ ในเมื่อพี่เตชินคิดได้แล้ว ก็ไปหาคุณพิมเถอะ พูดคุยปรับความเข้าใจกันให้ได้ ส่วนรตีพี่ไม่ต้องห่วง ณัชชาจะดูแลให้เอง เรื่องในอดีตณัชชาลืมไปหมดแล้วไม่ได้โกรธเคืองอะไรเธออีกพี่สบายใจได้ณัชชาจะดูแลรตีให้ดีที่สุดค่ะ "เตชินได้ยินดังนั้นก็เผยใบหน้ายิ้มอ่อนอย่างสบายใจแล้วเอ่ย" ขอบใจนะ "" ค่ะ "แล้วรตีก็วางสายไป จากนั้นเธอก็บ่นพึมพำออกมาอย่างอารมณ์เสีย" จะไปหาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแท้ๆ แต่กลับมาห่วงภรรยานอกสมรสอย่างนังรตี ชิ ทำมาเป
พิมที่เต้นอยู่เหลือบไปเห็นเตชิน เธอมองเขาแค่แวบเดียวแล้วไม่สนใจเขาอีกป๊อบหันไปตามสายตาของพิม ก็เห็นเตชินยืนอึ้งมองดูพิมที่กำลังเต้นแต่เขาก็ไม่ว่าอะไร แล้วเขาก็หันกลับมาดูพิมกับนักเรียนที่กำลังซ้อมเต้นต่อ จากนั้นก็ยิ้มขึ้นที่มุมปากเบาๆพอการซ้อมจบลง แม่บ้านก็ถือน้ำเย็นๆมาให้พิม พิมหยิบน้ำขึ้นมาแจกนักเรียน คนละขวดๆเทเท่เปิดน้ำขึ้นมาดื่มทันทีด้วยความกระหาย พิมหันไปมองเขาแล้วเอ่ย" เดี๋ยวก็สำลักน้ำเอาหรอก ค่อยๆดื่มก็ได้ไม่มีใครแย่งหรอก "จากนั้นเธอก็หยิบน้ำขึ้นมาอีกสองขวด เป็นของเธอหนึ่งขวด อีกขวดเธอเอาไปให้ป๊อบที่นั่งรอเธออยู่พอไปถึงตรงหน้าป๊อบ เธอก็ยื่นน้ำไปให้เขาทันที ป๊อบกำลังจะยื่นมือออกไปรับน้ำจากมือของพิม เตชินก็โผล่มาคว้าน้ำจากมือพิมแล้วเปิดฝาดื่มอย่างรวดเร็วอย่างหน้าตาเฉยมือของป๊อบค้างอยู่กลางอากาศ แล้วหันไปมองเตชินที่กำลังดื่มน้ำอย่างเงียบๆ ส่วนพิมและคนอื่นๆต่างอึ้งอ้าปากค้างกันเป็นแถว แต่อึ้งคนละแบบสำหรับพิมเธออึ้งที่ไม่คิดว่าเตชินจะทำนิสัยเสียมารยาทแบบนี้แต่คนอื่นอึ้งเพราะตรงหน้าครูพิมปรากฏหนุ่มหล่อระดับพระเอกซีรี่ส์ถึงสองคนจากนั้นพิมก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นสีห
เมื่อไปถึงร้านอาหาร เทเท่ก็เดินกอดแขนพิมเข้าไปในร้านพอถึงโต๊ะเขาก็นั่งติดกับพิม เพื่อให้สองหนุ่มนั่งด้วยกัน จะได้ไม่แย่งกันนั่งข้างพิม แล้วพวกเขาก็เริ่มสั่งอาหารพออาหารมาเสิร์ฟ เตชินก็เริ่มตักอาหารให้พิม ป๊อบเองก็ไม่ยอมเฉยแล้วตักอาหารไปให้พิมเช่นกันทั้งสองทำราวกับจะแข่งกันตักอาหารใส่จานพิมจนจานของพิมเต็มพิมนั่งนิ่งพยายามกลั้นอารมณ์โมโหเอาไว้ เทเท่เห็นดังนั้นก็ตักเอาอาหารที่อยู่ในจานของพิมมาใส่จานตัวเองแล้วเอ่ย" ฉันรู้ว่าเธอทานไม่หมดหรอก ฉันช่วยทานนะ "อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายพิมทำได้แค่นั่งทานข้าวอย่างเงียบๆ รีบๆทานให้เสร็จ เมื่อเห็นว่าเทเท่ดูอิ่มแล้วทานต่อไม่ไหวแล้ว เธอจึงเอ่ยขึ้น" พวกเราอิ่มแล้ว ขอตัวนะคะ "จากนั้นเธอก็จูงมือเพื่อนสาวเดินออกมาจากร้านอาหารด้วยสีหน้านิ่งอย่างเย็นชาเทเท่มองหน้าเพื่อนสาวแล้วเอ่ยถามขึ้น" อีพิม เธอยังโอเคอยู่หรือเปล่าวะ เธอต้องใจเย็นๆนะเว้ย รอให้กลับไปถึงโรงเรียนก่อน เดี๋ยวทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้มันก็จะผ่านไปเอง "" อีเท่เธอรู้มั้ยว่าฉันแทบจะหมดความอดทนแล้ว ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ด้วยวะสมัยเรียนก็เจออีน้ำหนึ่ง พอจบมาก็เจอเตชิน น
พอป๊อปขับรถออกไป พิมก็หันมาเอ่ยกับเตชินด้วยน้ำเสียงขุ่นอย่างเย็นชา" ส่วนคุณก็กลับไปได้แล้วเช่นกันค่ะ "เตชินสบตาเธออย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา" ไปส่งผม "ได้ยินดังนั้นเธอก็ไม่สนใจเขาอีก เธอหันไปมองเทเท่ด้วยสีหน้านิ่งเฉยแล้วเอ่ย" เท่เดี๋ยวเธอช่วยไปส่งคุณเตชินทีนะ "" ดะ...ได้...ได้ "ได้ยินดังนั่นเทเท่ถึงกับหน้าเจื่อนไปเลย เอ่ยตอบรับคำพิมอย่างตะกุกตะกักพิมไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ทันคนอย่างเตชิน ถ้าเธอไปส่งเขาอย่างที่พูดจริงๆเธอก็ต้องตกเป็นของเขาอีกตามเคยที่เธอบอกว่าจะไปส่งเขาก็แค่พูดให้เขาพอใจยอมปล่อยเธอก็เท่านั้นจากนั้นเธอก็หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบน เตชินรีบไปคว้ามือเธอไว้แล้วหงายหน้ามองเธอที่อยู่บนบันได" พิม ผมขอโทษ ที่หึงคุณมากเกินไป ผมขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับคุณไว้มากมายตอนนี้ผมรู้แล้ว ว่าผมควรผมจะรักษาคุณไว้ให้ดีตั้งแต่แรก ผมรู้แล้วว่าผมไม่ควรลังเลใจ ไม่ควรที่จะรักพี่เสียดายน้อง ขอโทษที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นค่าของคุณ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมตัดสินใจผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยที่ตัดสินคุณค่าของความเหมาะสม คู่ควรของคนด้วยฐานะ จนเกือบจะสูญเสียคุณไปให้
หลังจากนั้นทั้งสองก็เงียบไป รถทั้งสองคันแล่นเข้าไปในเมืองเตชินขับไปยังที่พักของตัวเอง แล้วเข้าไปจอดในที่จอดรถ จากนั้นก็หันมาเอ่ยกับพิมด้วยน้ำเสียงอ่อน" เข้าไปข้างในเถอะ "พิมไม่พูดไม่จาเปิดประตูลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับ" เอากุญแจรถมา "" มันดึกแล้วนะพิม คุณจะขับกลับไปคนเดียวได้ยังไง พรุ่งนี้เช้าคุณค่อยกลับไป "เตชินเอ่ยอย่างใจเย็นด้วยถ้อยคำที่แสดงความเป็นห่วงอย่างจริงจัง" ก็ได้ ถ้าคุณกลัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันแล้วคุณต้องรับผิดชอบล่ะก็คุณสบายใจได้เลย ฉันไม่เดินทางกลับคืนนี้แน่นอน ฉันจะไปนอนกับเทเท่ เอากุญแจรถคืนมา "" ไม่ใช่อย่างงั้นพิม ผมไม่เคยกลัวที่จะรับผิดชอบคุณเลย ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ และผมจะไม่ให้คุณไปนอนกับเทเท่เด็ดขาด "เอ่ยจบ เขาก็เดินไปที่รถของเทเท่ เทเท่เห็นเขาเดินมาจึงลดกระจกลงแล้วกัดฟันยิ้มขึ้นมองหน้าเตชิน เตชินจึงเอ่ยว่า" คุณเทเท่กลับไปก่อนได้เลยครับ ผมกับพิมยังมีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว "พิมได้ยินดังนั้นก็รีบเดินเข้ามาแล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ" คุณเตชิน คุณอย่ามาทำนิสัยเอาแต่ใจไล่คนอื่นแบบนี้นะ เอากุญแจรถฉันคืนมา "เตชินกำกุญแจไว้แน่นไม่ยอมคืนให้พิม สายตาคมกริบมอ
แล้วโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นรตีโทรมา เขาก็ไม่อยากรับสายเพราะเขาง้อพิมไม่สำเร็จทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะไปสนใจรตีอีกรตีรอสายอยู่นานก็ไม่มีการตอบรับจากเตชินทำให้เขารู้สึกโมโหและหงุดหงิดมากแล้วกดโทรออกไปเรื่อยๆด้วยความโกรธ เตชินรู้สึกรำคาญจึงตัดสายไปแต่รตีก็โทรจิกไม่เลิกเขาจึงปิดเครื่องไปเลยรตีโทรอีกทีก็โทรไม่ติดแล้ว เธอจึงกรีดร้องขึ้นเสียงดังเอ่ยด้วยความโมโห" กรี๊ด....เตชิน คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง เพราะนังนั่นใช่มั้ย คุณถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ เพราะมันใช่มั้ย....กรี๊ด...."เธอกรีดร้องขึ้นอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับปาโทรศัพท์ไปโดนผนังห้องจนโทรศัพท์แตกกระจายตกลงบนพื้นแล้วเธอก็ไปหยิบมีดคัตเตอร์จากในลิ้นชักขึ้นมาแววตาเธอกลายเป็นเกรี้ยวกราดแดงก่ำราวกับปีศาจร้ายเข้าสิงเธอกำมือขึ้นมาแน่นแล้วกรีดมีดลงบนข้อมือราวกับไม่รู้สึกเจ็บเลย แล้วเอ่ยราวกับคนเสียสติ" เตชิน ในเมื่อคุณพยายามตีตัวออกห่าง ไม่รับสายฉันฉันจะทำให้คุณรู้สึกกลัวและรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต คุณจะได้กลับมาสนใจแค่ฉันคนเดียวและรักฉันเหมือนเดิมกลับมาเป็นเตชินคนเดิมของฉันคนเดียว ฉันจะไม่ยอมให้ใครแย่งคุณไปได้ทั้งนั้น ฉ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ