เมื่อไปถึงร้านอาหาร เทเท่ก็เดินกอดแขนพิมเข้าไปในร้าน
พอถึงโต๊ะเขาก็นั่งติดกับพิม เพื่อให้สองหนุ่มนั่งด้วยกัน จะได้ไม่แย่งกันนั่งข้างพิม แล้วพวกเขาก็เริ่มสั่งอาหาร พออาหารมาเสิร์ฟ เตชินก็เริ่มตักอาหารให้พิม ป๊อบเองก็ไม่ยอมเฉยแล้วตักอาหารไปให้พิมเช่นกัน ทั้งสองทำราวกับจะแข่งกันตักอาหารใส่จานพิมจนจานของพิมเต็ม พิมนั่งนิ่งพยายามกลั้นอารมณ์โมโหเอาไว้ เทเท่เห็นดังนั้นก็ตักเอาอาหารที่อยู่ในจานของพิมมาใส่จานตัวเองแล้วเอ่ย " ฉันรู้ว่าเธอทานไม่หมดหรอก ฉันช่วยทานนะ " อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายพิมทำได้แค่นั่งทานข้าวอย่างเงียบๆ รีบๆทานให้เสร็จ เมื่อเห็นว่าเทเท่ดูอิ่มแล้วทานต่อไม่ไหวแล้ว เธอจึงเอ่ยขึ้น " พวกเราอิ่มแล้ว ขอตัวนะคะ " จากนั้นเธอก็จูงมือเพื่อนสาวเดินออกมาจากร้านอาหารด้วยสีหน้านิ่งอย่างเย็นชา เทเท่มองหน้าเพื่อนสาวแล้วเอ่ยถามขึ้น " อีพิม เธอยังโอเคอยู่หรือเปล่าวะ เธอต้องใจเย็นๆนะเว้ย รอให้กลับไปถึงโรงเรียนก่อน เดี๋ยวทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้มันก็จะผ่านไปเอง " " อีเท่เธอรู้มั้ยว่าฉันแทบจะหมดความอดทนแล้ว ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ด้วยวะ สมัยเรียนก็เจออีน้ำหนึ่ง พอจบมาก็เจอเตชิน นี่มันเวรกรรมอะไรของฉันกันนะ " เตชินที่เดินออกมาได้ยินเข้าก็รู้สึกไม่พอใจ ที่พิมพูดว่า การที่ได้พบเจอกับเขามันเป็นเวรกรรมของเธอ เขาก็เอ่ยถามขึ้น " พิมการที่คุณได้พบเจอกับผมมันทำให้คุณรู้สึกมีเวรมีกรรมขนาดนั้นเลยเหรอ " พิมที่กลั้นอารมณ์ไว้มานานก็กลั้นต่อไปไม่ไหว เธอจึงเอ่ยเสียงกร้าวระบายความอัดอั้นตันใจออกมา " ใช่ ทำไมคุณถึงตามตอแยฉันไม่เลิกสักที ทำไมไม่กลับไปอยู่กับภรรยาของคุณ ฉันรำคาญคุณจะตายอยู่แล้ว รีบๆหย่าให้มันจบๆแล้วต่างคนต่างอยู่สักทีจะได้มั้ย ช่วยกลับไปอยู่ในสังคมของคุณกลับไปอยู่กับคนที่คู่ควรและเหมาะสมกับคุณซะ แล้วอย่ามายุ่งวุ่นวายกับสังคมของฉันอีก เข้าใจมั้ย " เอ่ยจบเธอก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถด้วยสีหน้าถมึงทึงอย่างขุ่นเคืองใจ เทเท่รีบตามเข้าไปนั่งข้างๆเธอ แล้วเอ่ยปลอบ โยนเธอเบาๆอย่างใจเย็นเพื่อให้เธอหายโมโห " ใจร่มๆนะพิม หายใจเข้าลึกๆหายใจออกช้าๆนะ ฉันเข้าใจเธอๆ " เตชินยืนนิ่งอึ้งไป ในใจเต็มไปด้วยความ เดือดดาล แล้วมองพิมที่เข้าไปในรถด้วยสีหน้าสะกดกลั้นอารมณ์ แววตาแดงก่ำจับจ้องคนในรถอย่างไม่กะพริบตา เขาอุตส่าห์คิดที่จะตามง้อเธอ คิดที่จะเลิกกับรตีเพื่อเธอ แต่เธอกลับไล่ให้เขากลับไปอยู่กับรตี ด่าที่เขาตามง้อเธอ รำคาญที่เขาตามตอแย ไม่เลิก ไล่เขาไปเหมือนหมูเหมือนหมา เขารู้สึกโกรธมาก โกรธจนหน้ามืดตามัว อยากจะระบายอารมณ์ออกมาเต็มแก่ ยิ่งนึกถึงวันเธอตกลงเป็นแฟนกับป๊อบ เขาก็ยิ่งควบคุมอารมณ์ไม่ไหวแล้ว เมื่อเห็นป๊อบเดินออกมาจากร้านอาหาร เขาก็ปรี่เข้าไปหาอย่างไวซัดหมัดเข้าไปเต็มหน้าป๊อบจนปากแตกมีเลือดซึมออกมาทันที กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในปาก ป๊อบก็เดือดดาลขึ้นมาทันที เขาอดทนอดกลั้นมาหลายชั่วโมงแล้วตอนนี้เขาก็อยากจะระบายมันออกมาเช่นกัน จึงซัดหมัดเข้าเต็มเบ้าหน้าของเตชินอย่างรวดเร็ว ทั้งสองแลกหมัดกันไปมาจนเทเท่หันไปเห็นถึงกับกรีดร้องขึ้น " ว้าย!!! ยัยพิมคุณเตชินกับอาจารย์ป๊อบประลองฝีมือกันแล้วเธอ " พิมงงว่าอะไรคือการประลองฝีมือกัน เธอหันหน้ามองออกไปนอกรถ เห็นทั้งสองต่อยกันไม่หยุด เธอก็เอ่ยขึ้นเสียงดังอย่างร้อนใจ " เฮ้ย...เชี่ย! ลงไปห้ามเร็วสิอีเท่ อายเขา " แล้วทั้งสองก็รีบเปิดประตูลงไป จับทั้งสองคนแยกออกจากกัน พิมจับเตชินไว้ ส่วนเทเท่ก็จับอาจารย์ป๊อบของเขาไว้ แล้วพิมก็ลากแขนของเตชินไปที่รถแล้วผลักกลับเข้าไปในรถให้เขานั่งเบาะหลัง จากนั้นเธอก็เดินมาหาป๊อบแล้วเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งเฉยอย่างขุ่นเคือง " คุณนั่งข้างคนขับ ส่วนเทเท่นั่งเบาะหลัง กับเตชิน ฉันจะขับรถกลับไปเอง " เตชินได้ยินดังนั้นเขาลงมาจากรถด้วยสีหน้าท่าทางน่ากลัว แล้วไม่พูดพล่ามทำเพลงเดินมาลากพิมกลับเข้ามาในรถโดยที่พิมไม่ทันตั้งตัว ป๊อบเห็นดังนั้นก็ไม่พอใจ เดินเข้าไปจะเปิดประตูเอาพิมลงมา แต่เทเท่ก็มาขวางไว้แล้วเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มเจื่อน " เอ่อ เชิญอาจารย์ป๊อบไปนั่งข้างหน้าค่ะ เทเท่ไหว้ล่ะ อย่ามีเรื่องกันอีกเลย แค่นี้ยัยพิมก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้วค่ะ " ป๊อบจ้องหน้าเทเท่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมโดยไม่พูดไม่จา จากนั้นเขาก็เดินไปเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างๆคนขับ เทเท่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกและเหนื่อยใจแบบสุดๆ " เกิดเป็นพิมแล้วเจอแบบนี้นี่เหนื่อยเหมือนกันนะ ตอนนี้ฉันเริ่มไม่อยากเกิดมาสวยและเสน่ห์แรง เหมือนพิมแล้ว ไม่ไหวๆ ไม่ใช่ไรหรอก เลือกไม่ถูกเฉยๆงานดีแพ็คคู่ ดุแพ็คคู่เช่นกัน ฮู่ว เหนื่อย " จากนั้นเขาก็วิ่งอ้อมหลังรถแล้วไปเปิดประตูทางฝั่งคนขับ จากนั้นก็เข้ามานั่งในรถแล้วขับรถออกจากลานจอดรถของร้านอาหารไป เตชินกอดรัดพิมไว้แน่น โดยไม่ให้พิมกระดุกกระดิกได้เลย เมื่อทำอะไรไม่ได้พิมได้แต่นั่งนิ่งเงียบด้วยความโกรธที่มีอยู่เต็มอก ตอนนี้เธออยากจะไปอยู่ในที่ที่สงบ ที่ที่ไม่มีทั้งป๊อบและเตชิน แต่เธอจะทิ้งเด็กไปเพียงเพราะความรู้สึกส่วนตัวก็ไม่ได้ เมื่อเธอนึกถึงเด็กที่เชื่อฟัง ตั้งใจซ้อมกันอย่างหนักเพื่อไปคว้าแชมป์ ใจเธอก็ค่อยๆสงบลง เมื่อกลับไปถึงโรงเรียน เทเท่เข้าไปจอดรถในที่จอดรถของพิม จากนั้นเขาก็เปิดประตูลงจากรถ ป๊อบก็เปิดประตูลงจากรถเช่นกัน ทุกคนลงไปหมดแล้ว แต่เตชินยังคงกอดพิมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย พิมจึงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาน้ำเสียงคงความขุ่นเคืองไม่จางหาย " ปล่อย คุณไม่เห็นเหรอว่าคนอื่นเขาลงไปกันหมดแล้ว " " คุณจะให้ผมนอนที่ไหน " เตชินเอ่ยถามขึ้นเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม " เดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณกลับเข้าเมืองแล้วพรุ่งนี้คุณก็กลับไปกรุงเทพเลย " ได้ยินดังนั้นเตชินก็ยอมคลายมือออก แล้วปล่อยเธอเป็นอิสระ [ กลับกรุงเทพเหรอ ไม่มีทาง ] พิมเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินไปหาป๊อบ จากนั้นก็เอ่ยอย่างเย็นชา " ฉันขอโทษนะคะสำหรับเรื่องวันนี้ " ป๊อบสบตากับเธอแล้วยื่นมือมาจับไหล่เธอเบาๆ แล้วเอ่ย " พิมคุณขอโทษอะไร ผมรู้ว่าผมผิดที่ไปต่อยกับเขาคุณอย่ามาประชดผมแบบนี้ได้มั้ย " พิมไม่มองหน้าเขาแต่กลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างห่างเหิน " เชิญเข้ามาทำแผลข้างในก่อนค่ะ " พิมเชิญป๊อบเข้าไปในบ้านพัก แล้วหันไปเอ่ยกับเทเท่ว่า " เทเท่เธอช่วยไปหยิบกล่องยาบนห้องมาให้ฉันทีสิ " " อื้ม ได้ๆ " เอ่ยจบเทเท่ก็รีบขึ้นไปเอากล่องยาบนห้องของพิมทันทีแล้วถือกล่องยาลงมา เตชินนั่งมองพิมที่อยู่ในบ้านผ่านประตูมุ้งลวดอย่างเงียบๆ เทเท่วางกล่องยาลงข้างๆพิม พิมเปิดกล่องยาออกมา แล้วทำการล้างแผลต่อด้วยทายาให้ป๊อบ ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ พิมจึงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา " เสร็จแล้วค่ะ " ป๊อบสบตากับพิมแล้วเอ่ยอย่างรู้สึกผิด " ผมขอโทษนะพิม ต่อไปผมจะไม่โต้ตอบกับคนอื่นด้วยวิธีนี้อีก แต่วันนี้เป็นเพราะผมหึงคุณจนขาดสติไปหน่อย ต่อไปผมจะพยายามอดทนให้มากกว่านี้ ผมจะไม่ทำให้คุณอายคนอื่นอีกแล้ว ผมสัญญา ยกโทษให้ผมนะพิม " " ค่ะ ฉันยกโทษให้คุณ คุณอย่าลืมว่าคุณเป็น ผอ.โรงเรียน ทุกการกระทำของคุณ ล้วนเป็นหน้าเป็นตา เป็นชื่อเสียงและชื่อเสียของโรงเรียนในเวลาเดียวกัน ทุกคนเขาให้ความเคารพนับถือคุณ คุณอย่าทำให้เขาผิดหวังและหมดศรัทธาในตัวคุณ " พิมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งด้วยสีหน้านิ่งเฉยเพราะเธอยังเคืองเขาอยู่ ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย " ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณและคณะครูทุกคนผิดหวังผมสัญญา แต่คุณยกโทษให้ผมแล้วทำไมไม่ยอมมองหน้าผมล่ะ คุณยังโกรธผมอยู่ใช่มั้ย " พิมสบตากับเขาแล้วเอ่ย " ค่ะ ฉันยอมรับว่าฉันยังเคืองคุณอยู่ คุณให้เวลาฉันหน่อยนะคะ หายเคืองแล้วฉันจะไปบอกคุณเอง ตอนนี้ดึกมากแล้วคุณกลับไปก่อนเถอะ " " ได้ครับ แล้วคนที่อยู่ในรถล่ะ คุณจะทำยังไงกับเขา " " คุณไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะให้เขากลับไปคืนนี้ คุณกลับบ้านได้แล้วค่ะ " " ก็ได้ครับ แต่คุณอย่าไปกับเขาอีกนะ ได้มั้ย ส่วนเรื่องหย่าผมจะช่วยคุณหาวิธีเอง " พิมสบตากับเขาแล้วพยักพร้อมกับเอ่ยตอบว่า " ค่ะ ฉันจะรีบอย่ากับเขาให้เร็วที่สุด " ได้ยินดังนั้นป๊อบก็เข้ามากอดพิมด้วยความดีใจ เตชินเห็นดังนั้นก็รีบเปิดประตูลงจากรถทันที แล้วเดินเปิดประตูมุ้งลวดเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้ามืดมนอย่างน่ากลัว พิมเห็นเขาเข้ามาก็ไปยืนขวางเขาไว้แล้วเอ่ยขึ้นเสียงดุ ด้วยแววตาแข็งกร้าวเพื่อไม่ให้เกิดการชกต่อยขึ้นอีก " คุณเตชินคุณคิดจะทำอะไรอีก " เตชินหรี่ตามองเธอที่ออกหน้าปกป้องป๊อบที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ แล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ " นี่คุณปกป้องเขาขนาดนี้เลยเหรอพิม " " ใช่ ฉันปกป้องแฟนของฉันมันก็เป็นเรื่องที่สมควรทำแล้ว คุณยอมรับความจริงซะเถอะ ฉันไม่อยากเป็นเมียน้อยของคุณ คุณอย่าบังคับฉันอีกเลย แล้วช่วยให้เกียรติฉันด้วย สักครั้งก็ยังดี " พิมสบตากับเตชินอย่างแน่วแน่และเอ่ยอย่างหนักแน่นด้วยสีหน้าสุขุม นิ่งเฉยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าที่เขาตามเธอไม่เลิก หึงหวงเธอเพราะเขาเห็นเธอเป็นเมียน้อยของเขา จากนั้นเธอก็หันมาเอ่ยกับป๊อบว่า " คุณกลับไปก่อนเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันมีเทเท่อยู่ คุณสบายใจได้ " " ได้ครับ ดูแลตัวเองดีๆนะ " ป๊อบจำใจต้องจากไปเพราะไม่อยากสร้างความลำบากใจให้พิมอีก แล้วเขาก็หันไปเอ่ยกับเทเท่อย่างสุภาพว่า " ฝากดูแลคุณพิมด้วยนะครับ " " ค่ะ " จากนั้นเขาก็เดินออกไปจากบ้านพักของพิมพอป๊อปขับรถออกไป พิมก็หันมาเอ่ยกับเตชินด้วยน้ำเสียงขุ่นอย่างเย็นชา" ส่วนคุณก็กลับไปได้แล้วเช่นกันค่ะ "เตชินสบตาเธออย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา" ไปส่งผม "ได้ยินดังนั้นเธอก็ไม่สนใจเขาอีก เธอหันไปมองเทเท่ด้วยสีหน้านิ่งเฉยแล้วเอ่ย" เท่เดี๋ยวเธอช่วยไปส่งคุณเตชินทีนะ "" ดะ...ได้...ได้ "ได้ยินดังนั่นเทเท่ถึงกับหน้าเจื่อนไปเลย เอ่ยตอบรับคำพิมอย่างตะกุกตะกักพิมไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ทันคนอย่างเตชิน ถ้าเธอไปส่งเขาอย่างที่พูดจริงๆเธอก็ต้องตกเป็นของเขาอีกตามเคยที่เธอบอกว่าจะไปส่งเขาก็แค่พูดให้เขาพอใจยอมปล่อยเธอก็เท่านั้นจากนั้นเธอก็หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบน เตชินรีบไปคว้ามือเธอไว้แล้วหงายหน้ามองเธอที่อยู่บนบันได" พิม ผมขอโทษ ที่หึงคุณมากเกินไป ผมขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับคุณไว้มากมายตอนนี้ผมรู้แล้ว ว่าผมควรผมจะรักษาคุณไว้ให้ดีตั้งแต่แรก ผมรู้แล้วว่าผมไม่ควรลังเลใจ ไม่ควรที่จะรักพี่เสียดายน้อง ขอโทษที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นค่าของคุณ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมตัดสินใจผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยที่ตัดสินคุณค่าของความเหมาะสม คู่ควรของคนด้วยฐานะ จนเกือบจะสูญเสียคุณไปให้
หลังจากนั้นทั้งสองก็เงียบไป รถทั้งสองคันแล่นเข้าไปในเมืองเตชินขับไปยังที่พักของตัวเอง แล้วเข้าไปจอดในที่จอดรถ จากนั้นก็หันมาเอ่ยกับพิมด้วยน้ำเสียงอ่อน" เข้าไปข้างในเถอะ "พิมไม่พูดไม่จาเปิดประตูลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับ" เอากุญแจรถมา "" มันดึกแล้วนะพิม คุณจะขับกลับไปคนเดียวได้ยังไง พรุ่งนี้เช้าคุณค่อยกลับไป "เตชินเอ่ยอย่างใจเย็นด้วยถ้อยคำที่แสดงความเป็นห่วงอย่างจริงจัง" ก็ได้ ถ้าคุณกลัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันแล้วคุณต้องรับผิดชอบล่ะก็คุณสบายใจได้เลย ฉันไม่เดินทางกลับคืนนี้แน่นอน ฉันจะไปนอนกับเทเท่ เอากุญแจรถคืนมา "" ไม่ใช่อย่างงั้นพิม ผมไม่เคยกลัวที่จะรับผิดชอบคุณเลย ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ และผมจะไม่ให้คุณไปนอนกับเทเท่เด็ดขาด "เอ่ยจบ เขาก็เดินไปที่รถของเทเท่ เทเท่เห็นเขาเดินมาจึงลดกระจกลงแล้วกัดฟันยิ้มขึ้นมองหน้าเตชิน เตชินจึงเอ่ยว่า" คุณเทเท่กลับไปก่อนได้เลยครับ ผมกับพิมยังมีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว "พิมได้ยินดังนั้นก็รีบเดินเข้ามาแล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ" คุณเตชิน คุณอย่ามาทำนิสัยเอาแต่ใจไล่คนอื่นแบบนี้นะ เอากุญแจรถฉันคืนมา "เตชินกำกุญแจไว้แน่นไม่ยอมคืนให้พิม สายตาคมกริบมอ
แล้วโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นรตีโทรมา เขาก็ไม่อยากรับสายเพราะเขาง้อพิมไม่สำเร็จทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะไปสนใจรตีอีกรตีรอสายอยู่นานก็ไม่มีการตอบรับจากเตชินทำให้เขารู้สึกโมโหและหงุดหงิดมากแล้วกดโทรออกไปเรื่อยๆด้วยความโกรธ เตชินรู้สึกรำคาญจึงตัดสายไปแต่รตีก็โทรจิกไม่เลิกเขาจึงปิดเครื่องไปเลยรตีโทรอีกทีก็โทรไม่ติดแล้ว เธอจึงกรีดร้องขึ้นเสียงดังเอ่ยด้วยความโมโห" กรี๊ด....เตชิน คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง เพราะนังนั่นใช่มั้ย คุณถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ เพราะมันใช่มั้ย....กรี๊ด...."เธอกรีดร้องขึ้นอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับปาโทรศัพท์ไปโดนผนังห้องจนโทรศัพท์แตกกระจายตกลงบนพื้นแล้วเธอก็ไปหยิบมีดคัตเตอร์จากในลิ้นชักขึ้นมาแววตาเธอกลายเป็นเกรี้ยวกราดแดงก่ำราวกับปีศาจร้ายเข้าสิงเธอกำมือขึ้นมาแน่นแล้วกรีดมีดลงบนข้อมือราวกับไม่รู้สึกเจ็บเลย แล้วเอ่ยราวกับคนเสียสติ" เตชิน ในเมื่อคุณพยายามตีตัวออกห่าง ไม่รับสายฉันฉันจะทำให้คุณรู้สึกกลัวและรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต คุณจะได้กลับมาสนใจแค่ฉันคนเดียวและรักฉันเหมือนเดิมกลับมาเป็นเตชินคนเดิมของฉันคนเดียว ฉันจะไม่ยอมให้ใครแย่งคุณไปได้ทั้งนั้น ฉ
เวลา 08:00 น. เด็กนักเรียนต่างพากันมาเข้าแถวเคารพธงชาติ ทำกิจกรรมตอนเช้าหลังเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จ พิมก็เดินเช็ดชื่อนักเรียนในฐานะครูประจำชั้น ในห้องของตัวเองก่อนที่จะปล่อยให้นักเรียนในห้องของตัวเองไปเรียนตามวิชาเรียนต่างๆเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมหน้าเสาธงแล้วเธอก็ปล่อยนักเรียนเข้าห้องเรียนแล้วเธอก็เข้าสอนตามปกติ เมื่อนักเรียนเข้ามาเธอก็เริ่มสอนทันที โดยวันนี้เธอสอนในเรื่องของรำวงมาตรฐานเธอเริ่มนำเข้าสู่บทเรียนด้วยเรื่องเล่าแล้วโยงเข้าสู่เนื้อหาที่จะเรียนในวันนี้จากนั้นก็สอนนักเรียนร้องเพลงดวงจันทร์วันเพ็ญซึ่งวิชาที่เธอสอนจะเกี่ยวกับการร้อง เล่น เต้นแสดงควบคู่ไปกับทฤษฎีตัวพิมเองนั้นเต้นก็เก่ง บัลเล่ต์ก็ได้ ภาษาเธอก็เยี่ยมพูดได้ถึงสามภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีนเธอมีโอกาสมากมายในชีวิต แต่เธอเลือกที่จะเป็นครูเพื่อสร้างเด็กรุ่นใหม่ที่ฐานะยากจนเหมือนเธอได้พัฒนาตนเอง เธอคอยทำหน้าที่ซัพพอร์ตคอยชี้แนะแนวทางให้กับเด็กด้อยโอกาสคนอื่นๆที่มีความสามารถในด้านต่างๆให้ได้เดินตามความฝันของตัวเองด้วยความมั่นใจอย่างกล้าหาญ เพื่อไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นพอสอนเสร
พอพ่อแม่ของรตีรู้ข่าวว่า ลูกสาวของพวกเขาเข้าโรงพยาบาลเพราะทำร้ายร่างกายพวกเขาก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันทีด้วยความเป็นห่วงลูกสาว แต่เมื่อทั้งสองเข้ามาในห้องผู้ป่วย พวกเขาสองสามีภรรยา ก็ไม่แม้แต่จะมองหน้ากันเลยเย็นชาใส่กันทำราวกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจากนั้นพยาบาลก็มาแจ้งให้เขาทั้งสองไปพบหมอเป็นการส่วนตัวเมื่อกลับออกมาจากการพบหมอ แม่ของรตีก็เข้าไปนั่งข้างๆลูกสาวร้องให้ด้วยความเจ็บปวดใจเมื่อเห็นลูกสาวนอนไร้สติอยู่บนเตียง" โธ่ รตีทำไมลูกถึงได้ทำแบบนี้ แม่ขอโทษนะลูก "ส่วนพ่อของรตีก็นั่งอยู่บนโซฟา นั่งยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมขมับ ก้มหน้านิ่งอย่างเงียบๆ ด้วยความรู้สึกเครียดและรู้สึกผิด สีหน้าดูหม่นหมองไร้รังสี เขาเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้ดูแลลูก ไม่ใส่ใจลูกให้ดีกว่านี้ก่อนหน้านี้พวกเขาเข้าไปพบหมอ หมอก็เล่าอาการของลูกสาวเขาให้ฟังว่า" จากอาการและพฤติกรรมของผู้ป่วยที่เพื่อนและพี่เลี้ยงของผู้ป่วยเล่ามาสาเหตุที่ผู้ป่วยลงมือทำร้ายร่างกายนั้นเพราะไม่ได้ดั่งใจและรู้สึกผิดหวังไม่พอใจอย่างรุนแรงอาการของผู้ป่วยเป็นอาการของโรคฮิสทีเรีย ซึ่งโรคนี้จัดเป็นโรคทางจิตเวช และผู้ป่วยยังมีโรคซึมเศร้าแ
ทันทีที่รตีเห็นเตชิน เธอก็เอ่ยขึ้นทั้งน้ำตาอย่างน่าสงสาร" พี่เตชิน "เตชินหันมามองเธออย่างเย็นชาโดยไม่เอ่ยอะไรเธอรีบเข้าไปหาเขาแล้วยื่นมือออกไปจับมือเขาพร้อมกับเอ่ย" พี่เตชิน ฉันขอโทษ ที่ฉันทำไปทั้งหมดเพราะฉันรักพี่ อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว นะๆ อย่าทิ้งรตีไปเลยนะคะ รตีไม่เหลือใครแล้ว "รตีเงยหน้ามองเตชิน ร้องห่มร้องให้อ้อนวอนขอไม่ให้เตชินทิ้งเธอไป แต่เตชินกลับยืนแข็งทื่อไม่แม้แต่จะมองเธอเลยจากนั้นเตชินก็เอามือของรตีที่จับมือเขาออกแล้วเอ่ยอย่างเยือกเย็นด้วยน้ำเสียงดุดันอย่างไม่สบอารมณ์กับคำพูดของรตีดวงตาดูแข็งกร้าว เต็มไปด้วยโทสะใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชาราวกับจอมมาร" รตี คุณมีพ่อแม่ที่รักคุณอยู่ แค่ไม่มีผมคนเดียวคุณจะไม่เหลือใครแล้วได้ยังไง ผมไม่ได้รักคุณแล้ว คุณเข้าใจมั้ยและผมจะไม่รักคนอย่างคุณ ที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเองเด็ดขาดคนอย่างคุณไม่มีความซื่อสัตย์จ้องแต่จะทำลายบริษัทผม ทั้งยังไม่เห็นค่าพ่อแม่ของตัวเองเลย ต่อให้ผมยังรักคุณ ถ้าคุณเป็นแบบนี้ คุณคิดว่าผมจะยังรักคุณลงเหรอ "เตชินกำมือแน่นแล้วเอ่ยต่ออย่างเลือดเย็น" ตอนนี้ผมไม่ได้รักคุณแล้ว คุณอย่ามา
ณ โรงเรียน JK หลังจากที่ไม่มีเตชินมาวุ่นวาย พิมก็คุมซ้อมเต้นทุกวัน ว่างจากในโรงเรียน เธอก็ไปเรียนหนังสือในแต่ละวันเวลาของเธอผ่านไปอย่างรวดเร็ว แป๊บๆก็ผ่านไปอีกแล้วหนึ่งเดือนและในวันนี้เธอก็คุมเด็กซ้อมเต้นตามปกติ เหมือนทุกวันแต่เมื่อเธอไปขยับเต้นได้แค่แป๊บเดียวเธอก็รู้สึกปวดท้องอย่างมากปวดรุนแรงจนหน้าซีดเหงื่อซึมไหลออกมาจนแทบจะไม่มีแรงหายใจแล้วลมหายใจของเธอแผ่วเบาจนทุกคนตื่นตกใจ" พิม! พิม! เธอเป็นอะไรไปน่ะ พิม โรคกระเพาะกำเริบอีกแล้วเหรอ "ใบหน้าพิมซีดเซียวจนมองไม่เห็นเส้นเลือด เธอขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมด้วยความเจ็บปวดทรมานแล้วรวบรวมแรงเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบาๆอย่างติดขัดไม่ชัดถ้อยชัดคำ แต่พอให้เทเท่ฟังออก" ซ้อม...ซ้อมต่อ เลย ไม่...ไม่ ต้องห่วง "เทเท่ทั้งตกใจและร้อนใจเขาเป็นห่วงพิมมากจึงบอกให้นักเรียนตาม ผอ.ป๊อบ" นักเรียนไปตาม ผอ.ป๊อบมาเร็วๆ ครูพิมจะไม่ไหวแล้ว "ได้ยินดังนั้นนักเรียนที่เป็นหัวหน้าทีมก็รีบวิ่งไปที่ห้องของ ผอ.ป๊อบ ทันทีเมื่อไปถึงนักเรียนก็เคาะประตูแล้วเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องป๊อบเห็นว่าเป็นเด็กของพิมเขาจึงเอ่ยถามขึ้น" อ้าว มาหาครูมีไรหรือเปล่า หื้ม "" ครูพิมไม
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ