พิมที่เต้นอยู่เหลือบไปเห็นเตชิน เธอมองเขาแค่แวบเดียวแล้วไม่สนใจเขาอีก
ป๊อบหันไปตามสายตาของพิม ก็เห็นเตชินยืนอึ้งมองดูพิมที่กำลังเต้น แต่เขาก็ไม่ว่าอะไร แล้วเขาก็หันกลับมาดูพิมกับนักเรียนที่กำลังซ้อมเต้นต่อ จากนั้นก็ยิ้มขึ้นที่มุมปากเบาๆ พอการซ้อมจบลง แม่บ้านก็ถือน้ำเย็นๆมาให้พิม พิมหยิบน้ำขึ้นมาแจกนักเรียน คนละขวดๆ เทเท่เปิดน้ำขึ้นมาดื่มทันทีด้วยความกระหาย พิมหันไปมองเขาแล้วเอ่ย " เดี๋ยวก็สำลักน้ำเอาหรอก ค่อยๆดื่มก็ได้ไม่มีใครแย่งหรอก " จากนั้นเธอก็หยิบน้ำขึ้นมาอีกสองขวด เป็นของเธอหนึ่งขวด อีกขวดเธอเอาไปให้ป๊อบที่นั่งรอเธออยู่ พอไปถึงตรงหน้าป๊อบ เธอก็ยื่นน้ำไปให้เขาทันที ป๊อบกำลังจะยื่นมือออกไปรับน้ำจากมือของพิม เตชินก็โผล่มา คว้าน้ำจากมือพิมแล้วเปิดฝาดื่มอย่างรวดเร็วอย่างหน้าตาเฉย มือของป๊อบค้างอยู่กลางอากาศ แล้วหันไปมองเตชินที่กำลังดื่มน้ำอย่างเงียบๆ ส่วนพิมและคนอื่นๆต่างอึ้งอ้าปากค้างกันเป็นแถว แต่อึ้งคนละแบบ สำหรับพิมเธออึ้งที่ไม่คิดว่าเตชินจะทำนิสัยเสียมารยาทแบบนี้ แต่คนอื่นอึ้งเพราะตรงหน้าครูพิมปรากฏหนุ่มหล่อระดับพระเอกซีรี่ส์ถึงสองคน จากนั้นพิมก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นสีหน้าดูเย็นชาและมองไปยังเตชินด้วยสายตาดุๆ " คุณเตชิน คุณมาทำนิสัยเสียแบบนี้ได้ยังไง คุณอยากดื่มน้ำทำไมไม่ไปหยิบเอาเอง เสียมารยาทที่สุด " เตชินที่กำลังดื่มน้ำอยู่ก็ถอนริมฝีปากห่างออกจากปากขวดน้ำ แล้วเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับเอ่ยอย่างไม่แยแสทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ " ผมเสียมารยาทเหรอ เสียมารยาทตรงไหนคุณลองบอกผมสิ " " คุณแย่งน้ำจากมือฉัน แย่งน้ำของคุณป๊อบ นี่ยังไม่เรียกว่าเสียมารยาทอีกเหรอ " พิมเอ่ยเสียงดุอย่างไม่พอใจ เตชินยกขวดขึ้นมาหมุนดูรอบๆขวด แล้วเอ่ยอย่างกวนๆ " ข้างขวดไม่มีชื่อใครเขียนติดไว้นี่ มันจะเป็นของคุณป๊อบได้ยังไง ถ้าจะให้รู้ว่าเป็นของคุณป๊อบคุณควรจะมีชื่อระบุไว้ให้ชัดเจนสิ " จากนั้นเขาก็ลดเสียงลงพูดเสียงเบาให้ได้ยินเพียงแค่สามคนว่า " เหมือนอย่างใบทะเบียนสมรส ที่ระบุชัดเจนว่า เตชินเป็นของพิม พิมเป็นของเตชิน แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นเจ้าของได้อย่างถูกต้อง " จากนั้นเขาก็เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงในระดับปกติว่า " แต่บนขวดน้ำไม่มีชื่อใครติดดังนั้นใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้ " แล้วเขาก็หันไปถามเทเท่กับนักเรียนว่า " ที่ผมพูดถูกมั้ยครับ " แม้ทุกคนจะเห็นด้วยกับคำพูดของเขา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรแล้ว คนหนึ่งก็ครูพิม อีกคนก็ ผอ. สุดหล่อ จากนั้นพิมก็เอ่ยขึ้นว่า " ถึงจะไม่มีชื่อติดไว้ แต่คุณก็ไม่ควรแย่งจากมือฉันมั้ย " ได้ยินดังนั้นเตชินก็หันมามองพิมแล้วเอ่ย " พิมคุณจะให้ผมพูดมั้ย ว่าทำไมผมถึงต้องแย่ง " ป๊อบที่นั่งนิ่งกดอารมณ์โกรธเอาไว้อย่างเงียบๆมาตลอด พอได้ยินเตชินพูดดังนั้น เขาก็เอ่ยขึ้นอย่างสุขุมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง " ช่างมันเถอะพิม ผมไม่หิวน้ำหรอก คุณเตชินหิวน้ำก็ให้เขาไป อย่าให้เรื่องเล็กน้อยแค่นี้มากระทบกับการซ้อมของคุณเลยนะ ทำใจร่มๆแล้วพักให้หายเหนื่อยดีมั้ย ซ้อมเสร็จผมจะพาคุณกับเพื่อนของคุณไปทานมื้อเย็น " " ได้ค่ะ " ตอนนี้ทุกคนดูออกหมดแล้วว่าคุณเตชินเองก็รุกหนัก แสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบพิม จากนั้นพิมก็เดินกลับเข้าไปหาเทเท่กับนักเรียน ส่วนเตชินก็นั่งลงข้างๆป๊อบแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเบา " ถึงพิมจะตอบตกลงคบกับคุณไปแล้ว ถ้าผมไม่อนุญาต คุณก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวเธอ คุณจะมีสิทธิ์เป็นแค่แฟนในนามของเธอ ท่าน ผอ. อย่างคุณชายป๊อบจะรับได้เหรอ ที่จะเป็นได้แค่กิ๊กของภรรยาผม " เตชินหึงจนสูญเสียความสุขุม ลุ่มลึกที่เคยมี เหมือนกับว่ามีวิธีไหนที่ได้พิมคืนมาเขายินดีทำ " ผมไม่ได้มีความคิดเหมือนคุณครับ คุณใช้ชีวิตยังไงคุณก็จะมีความคิดแบบนั้น มันเป็นสิทธิ์ของคุณผมไม่สามารถห้ามได้ แต่ผมเคารพการตัดสินใจของพิมคนเดียว และพิมไม่ใช่คนที่คิดจะมีกิ๊ก เธอไม่ใช่คนที่คิดจะคบใครพร้อมกับสองคนในเวลาเดียวกัน คุณบอกว่าเธอเป็นภรรยาของคุณ แต่คุณกลับไม่รู้จักเธอเลย " ป๊อบเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย้ยหยันแววตามองเตชินอย่างไม่กะพริบ ราวกับผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า ทำให้คนอย่างเตชินกลัวได้ เทเท่ยืนอยู่ข้างๆพิมแล้วเอ่ยกระซิบถามเบาๆข้างหูเธอว่า " พิม คนนี้เหรอ คุณเตชิน " พิมพยักหน้าให้อย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็เอ่ยต่อว่า " มายก๊อด หล่อวัวตายควายล้ม อีพิม ถ้าฉันเป็นเธอนะ ฉันจะควบสองไปเลย ผัวหลวงกับผัวรอง แบบนี้เก๋จะตาย แกว่ามั้ย ฮิๆๆๆๆ " เอ่ยจบเทเท่ก็ถึงกับเอานิ้วมือมาบังปากไว้แล้ว ขำออกมาอย่างชอบใจในความคิดของตัวเอง พิมเหล่มองเพื่อนสาวด้วยหางตาอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยเพียงสั้นๆว่า " บ้า! " จากนั้นเธอก็หันไปคุยกับนักเรียนว่า " นักเรียนคะ ขอตั้งใจซ้อมอีกสักสองรอบนะคะ ถ้าทำออกมาดีเป๊ะเว่อร์ ครูจะปล่อยกลับบ้านทันที แต่.....ถ้ายังไม่เป๊ะเว่อร์ ไม่ปังปุริเย่ หรือยังมีใครทำผิด ยังทำไม่เต็มที่ ก็ซ้อมไปจนถึงสี่ทุ่มเหมือนทุกวันค่ะ เข้าใจตรงกันนะคะ " " เข้าใจค่ะ " นักเรียนทุกคนเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นก็เริ่มตั้งแถว เตรียมพร้อมที่จะซ้อมต่ออย่างเต็มที่อีกสองรอบ แล้วพิมก็เดินไปเปิดเพลง การซ้อมเต้นของเด็กๆก็เริ่มขึ้น เธอกับเทเท่ยืนกวาดสายตา เก็บรายละเอียด ดูไลน์ท่าเต้น หาข้อผิดพลาดของแต่ละคนมาปรับให้สวยให้กลมกลืนกับคนอื่น เข็มนาฬิกาที่แขวนไว้บนผนังห้องก็เดินหมุนไปเรื่อยๆ สักพักเสียงปรบมือของพิมกับเทเท่ก็ดังขึ้น " เยี่ยมมากค่ะทุกคน สวยงามขอให้ทำแบบนี้ทุกวันนะคะ จะได้กลับบ้านกันเร็วๆทุกวัน " " ค่ะ " พิมเอ่ยชมนักเรียนของตัวเอง แล้วเทเท่ก็เอ่ยชมขึ้นบ้าง " จริง! ดี! เริ่ด! ปังปุริเย่ เปปุริย่า มากๆค่ะเด็กๆ " จากนั้นพิมก็เอ่ยต่อว่า " วันนี้ให้กลับบ้านเร็วได้หนึ่งวัน เจอกันพรุ่งนี้นะคะ See you again tomorrow " " ขอบคุณค่ะ " นักเรียนเอ่ยขอบคุณพร้อมกับยกมือไหว้อย่างมีมารยาท จากนั้นก็ทยอยกันเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากห้อง บางคนก็มีผู้ปกครองมารอรับ บางคนขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านกันเอง พิมกับเทเท่เดินเข้ามาหาป๊อบกับเตชินที่นั่งรออยู่ป๊อบจึงเอ่ยถามขึ้น " ไปกันเลยมั้ยครับ " " ค่ะ แต่พิมกับเท่ขอเวลาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้มั้ยคะ " " ได้ครับ " แล้วป๊อบก็หันไปเอ่ยกับเทเท่อย่างสุขุมว่า " คุณเทเท่ไปทานข้าวด้วยกันนะครับ ถือว่าเป็นการเลี้ยงขอบคุณ คุณ ที่มาช่วยพิมซ้อมเต้นให้กับนักเรียนของเรานะครับ " " ได้ค่ะ " เทเท่เอ่ยตอบอย่างเกรงใจ จากนั้นพิมก็เอ่ยกับเทเท่ว่า " ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน " แล้วทั้งสองก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในบ้านพักครู ไม่นานทั้งสองก็เดินออกมาจากบ้านพักด้วยชุดใหม่สีหน้าดูสดชื่น มีชีวิตชีวา แล้วพิมก็เอ่ยขึ้น " ไปกันเถอะค่ะ " เตชินไม่พูดไม่จา คว้าข้อมือของพิมมาจับไว้แน่นแล้วเอ่ยเสียงเย็นอย่างเผด็จการ " ไปกับผม " สำหรับเขา ตอนนี้ค่ำแล้วไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรือไว้หน้าใครต่อหน้าเด็กแล้ว ป๊อบเองก็ไม่ยอม รีบคว้ามือของพิมเช่นกัน แล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงเย็น " คุณเตชิน คุณจะพาพิมไปไหน " " ก็ไปทานข้าวไง คุณก็นั่งรถไปกับคุณเทเท่ ส่วนผมนั่งรถไปกับพิม สำหรับมื้อนี้ผมเลี้ยงเอง เพราะคุณเทเท่มาช่วยภรรยาผม ผมควรจะเลี้ยงขอบคุณเขาด้วยตัวเอง " เตชินเอ่ยเสียงเย็นชาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม " คุณเตชิน! คุณอย่าพูดมั่วๆนะ ภรรยาของคุณ อยู่กรุงเทพโน้น " พิมตวาดใส่เตชินเสียงกร้าว เธอไม่ชอบเลยที่เขาตามตอแยไม่เลิก แล้วอ้างสิทธิ์สามีภรรยาแบบนี้ตลอด เทเท่เห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าควรจะมีคนหยุดไว้ ก่อนที่อารมณ์ของทุกคนจะระเบิดออกมา เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า " เราสี่คนไปรถคันเดียวกันเลยค่ะ " จากนั้นเขาก็ดึงมือพิมจากทั้งสองคน แล้วเข้าไปนั่งที่เบาะหลังในรถของพิม สองหนุ่มมองหน้ากันอย่างสิงโตเจ้าป่า แล้วหมุนตัวเดินไปเปิดประตูรถ ป๊อบเป็นคนขับรถไปที่ร้านอาหาร บรรยากาศในรถเงียบและอึมครึม เทเท่นั่งกอดมือพิมไว้แน่นอย่างเงียบๆด้วยความรู้สึกหนาวเย็นที่ใจเมื่อไปถึงร้านอาหาร เทเท่ก็เดินกอดแขนพิมเข้าไปในร้านพอถึงโต๊ะเขาก็นั่งติดกับพิม เพื่อให้สองหนุ่มนั่งด้วยกัน จะได้ไม่แย่งกันนั่งข้างพิม แล้วพวกเขาก็เริ่มสั่งอาหารพออาหารมาเสิร์ฟ เตชินก็เริ่มตักอาหารให้พิม ป๊อบเองก็ไม่ยอมเฉยแล้วตักอาหารไปให้พิมเช่นกันทั้งสองทำราวกับจะแข่งกันตักอาหารใส่จานพิมจนจานของพิมเต็มพิมนั่งนิ่งพยายามกลั้นอารมณ์โมโหเอาไว้ เทเท่เห็นดังนั้นก็ตักเอาอาหารที่อยู่ในจานของพิมมาใส่จานตัวเองแล้วเอ่ย" ฉันรู้ว่าเธอทานไม่หมดหรอก ฉันช่วยทานนะ "อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายพิมทำได้แค่นั่งทานข้าวอย่างเงียบๆ รีบๆทานให้เสร็จ เมื่อเห็นว่าเทเท่ดูอิ่มแล้วทานต่อไม่ไหวแล้ว เธอจึงเอ่ยขึ้น" พวกเราอิ่มแล้ว ขอตัวนะคะ "จากนั้นเธอก็จูงมือเพื่อนสาวเดินออกมาจากร้านอาหารด้วยสีหน้านิ่งอย่างเย็นชาเทเท่มองหน้าเพื่อนสาวแล้วเอ่ยถามขึ้น" อีพิม เธอยังโอเคอยู่หรือเปล่าวะ เธอต้องใจเย็นๆนะเว้ย รอให้กลับไปถึงโรงเรียนก่อน เดี๋ยวทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้มันก็จะผ่านไปเอง "" อีเท่เธอรู้มั้ยว่าฉันแทบจะหมดความอดทนแล้ว ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ด้วยวะสมัยเรียนก็เจออีน้ำหนึ่ง พอจบมาก็เจอเตชิน น
พอป๊อปขับรถออกไป พิมก็หันมาเอ่ยกับเตชินด้วยน้ำเสียงขุ่นอย่างเย็นชา" ส่วนคุณก็กลับไปได้แล้วเช่นกันค่ะ "เตชินสบตาเธออย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา" ไปส่งผม "ได้ยินดังนั้นเธอก็ไม่สนใจเขาอีก เธอหันไปมองเทเท่ด้วยสีหน้านิ่งเฉยแล้วเอ่ย" เท่เดี๋ยวเธอช่วยไปส่งคุณเตชินทีนะ "" ดะ...ได้...ได้ "ได้ยินดังนั่นเทเท่ถึงกับหน้าเจื่อนไปเลย เอ่ยตอบรับคำพิมอย่างตะกุกตะกักพิมไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ทันคนอย่างเตชิน ถ้าเธอไปส่งเขาอย่างที่พูดจริงๆเธอก็ต้องตกเป็นของเขาอีกตามเคยที่เธอบอกว่าจะไปส่งเขาก็แค่พูดให้เขาพอใจยอมปล่อยเธอก็เท่านั้นจากนั้นเธอก็หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบน เตชินรีบไปคว้ามือเธอไว้แล้วหงายหน้ามองเธอที่อยู่บนบันได" พิม ผมขอโทษ ที่หึงคุณมากเกินไป ผมขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับคุณไว้มากมายตอนนี้ผมรู้แล้ว ว่าผมควรผมจะรักษาคุณไว้ให้ดีตั้งแต่แรก ผมรู้แล้วว่าผมไม่ควรลังเลใจ ไม่ควรที่จะรักพี่เสียดายน้อง ขอโทษที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นค่าของคุณ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมตัดสินใจผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยที่ตัดสินคุณค่าของความเหมาะสม คู่ควรของคนด้วยฐานะ จนเกือบจะสูญเสียคุณไปให้
หลังจากนั้นทั้งสองก็เงียบไป รถทั้งสองคันแล่นเข้าไปในเมืองเตชินขับไปยังที่พักของตัวเอง แล้วเข้าไปจอดในที่จอดรถ จากนั้นก็หันมาเอ่ยกับพิมด้วยน้ำเสียงอ่อน" เข้าไปข้างในเถอะ "พิมไม่พูดไม่จาเปิดประตูลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับ" เอากุญแจรถมา "" มันดึกแล้วนะพิม คุณจะขับกลับไปคนเดียวได้ยังไง พรุ่งนี้เช้าคุณค่อยกลับไป "เตชินเอ่ยอย่างใจเย็นด้วยถ้อยคำที่แสดงความเป็นห่วงอย่างจริงจัง" ก็ได้ ถ้าคุณกลัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันแล้วคุณต้องรับผิดชอบล่ะก็คุณสบายใจได้เลย ฉันไม่เดินทางกลับคืนนี้แน่นอน ฉันจะไปนอนกับเทเท่ เอากุญแจรถคืนมา "" ไม่ใช่อย่างงั้นพิม ผมไม่เคยกลัวที่จะรับผิดชอบคุณเลย ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ และผมจะไม่ให้คุณไปนอนกับเทเท่เด็ดขาด "เอ่ยจบ เขาก็เดินไปที่รถของเทเท่ เทเท่เห็นเขาเดินมาจึงลดกระจกลงแล้วกัดฟันยิ้มขึ้นมองหน้าเตชิน เตชินจึงเอ่ยว่า" คุณเทเท่กลับไปก่อนได้เลยครับ ผมกับพิมยังมีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว "พิมได้ยินดังนั้นก็รีบเดินเข้ามาแล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ" คุณเตชิน คุณอย่ามาทำนิสัยเอาแต่ใจไล่คนอื่นแบบนี้นะ เอากุญแจรถฉันคืนมา "เตชินกำกุญแจไว้แน่นไม่ยอมคืนให้พิม สายตาคมกริบมอ
แล้วโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นรตีโทรมา เขาก็ไม่อยากรับสายเพราะเขาง้อพิมไม่สำเร็จทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะไปสนใจรตีอีกรตีรอสายอยู่นานก็ไม่มีการตอบรับจากเตชินทำให้เขารู้สึกโมโหและหงุดหงิดมากแล้วกดโทรออกไปเรื่อยๆด้วยความโกรธ เตชินรู้สึกรำคาญจึงตัดสายไปแต่รตีก็โทรจิกไม่เลิกเขาจึงปิดเครื่องไปเลยรตีโทรอีกทีก็โทรไม่ติดแล้ว เธอจึงกรีดร้องขึ้นเสียงดังเอ่ยด้วยความโมโห" กรี๊ด....เตชิน คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง เพราะนังนั่นใช่มั้ย คุณถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ เพราะมันใช่มั้ย....กรี๊ด...."เธอกรีดร้องขึ้นอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับปาโทรศัพท์ไปโดนผนังห้องจนโทรศัพท์แตกกระจายตกลงบนพื้นแล้วเธอก็ไปหยิบมีดคัตเตอร์จากในลิ้นชักขึ้นมาแววตาเธอกลายเป็นเกรี้ยวกราดแดงก่ำราวกับปีศาจร้ายเข้าสิงเธอกำมือขึ้นมาแน่นแล้วกรีดมีดลงบนข้อมือราวกับไม่รู้สึกเจ็บเลย แล้วเอ่ยราวกับคนเสียสติ" เตชิน ในเมื่อคุณพยายามตีตัวออกห่าง ไม่รับสายฉันฉันจะทำให้คุณรู้สึกกลัวและรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต คุณจะได้กลับมาสนใจแค่ฉันคนเดียวและรักฉันเหมือนเดิมกลับมาเป็นเตชินคนเดิมของฉันคนเดียว ฉันจะไม่ยอมให้ใครแย่งคุณไปได้ทั้งนั้น ฉ
เวลา 08:00 น. เด็กนักเรียนต่างพากันมาเข้าแถวเคารพธงชาติ ทำกิจกรรมตอนเช้าหลังเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จ พิมก็เดินเช็ดชื่อนักเรียนในฐานะครูประจำชั้น ในห้องของตัวเองก่อนที่จะปล่อยให้นักเรียนในห้องของตัวเองไปเรียนตามวิชาเรียนต่างๆเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมหน้าเสาธงแล้วเธอก็ปล่อยนักเรียนเข้าห้องเรียนแล้วเธอก็เข้าสอนตามปกติ เมื่อนักเรียนเข้ามาเธอก็เริ่มสอนทันที โดยวันนี้เธอสอนในเรื่องของรำวงมาตรฐานเธอเริ่มนำเข้าสู่บทเรียนด้วยเรื่องเล่าแล้วโยงเข้าสู่เนื้อหาที่จะเรียนในวันนี้จากนั้นก็สอนนักเรียนร้องเพลงดวงจันทร์วันเพ็ญซึ่งวิชาที่เธอสอนจะเกี่ยวกับการร้อง เล่น เต้นแสดงควบคู่ไปกับทฤษฎีตัวพิมเองนั้นเต้นก็เก่ง บัลเล่ต์ก็ได้ ภาษาเธอก็เยี่ยมพูดได้ถึงสามภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีนเธอมีโอกาสมากมายในชีวิต แต่เธอเลือกที่จะเป็นครูเพื่อสร้างเด็กรุ่นใหม่ที่ฐานะยากจนเหมือนเธอได้พัฒนาตนเอง เธอคอยทำหน้าที่ซัพพอร์ตคอยชี้แนะแนวทางให้กับเด็กด้อยโอกาสคนอื่นๆที่มีความสามารถในด้านต่างๆให้ได้เดินตามความฝันของตัวเองด้วยความมั่นใจอย่างกล้าหาญ เพื่อไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นพอสอนเสร
พอพ่อแม่ของรตีรู้ข่าวว่า ลูกสาวของพวกเขาเข้าโรงพยาบาลเพราะทำร้ายร่างกายพวกเขาก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันทีด้วยความเป็นห่วงลูกสาว แต่เมื่อทั้งสองเข้ามาในห้องผู้ป่วย พวกเขาสองสามีภรรยา ก็ไม่แม้แต่จะมองหน้ากันเลยเย็นชาใส่กันทำราวกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจากนั้นพยาบาลก็มาแจ้งให้เขาทั้งสองไปพบหมอเป็นการส่วนตัวเมื่อกลับออกมาจากการพบหมอ แม่ของรตีก็เข้าไปนั่งข้างๆลูกสาวร้องให้ด้วยความเจ็บปวดใจเมื่อเห็นลูกสาวนอนไร้สติอยู่บนเตียง" โธ่ รตีทำไมลูกถึงได้ทำแบบนี้ แม่ขอโทษนะลูก "ส่วนพ่อของรตีก็นั่งอยู่บนโซฟา นั่งยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมขมับ ก้มหน้านิ่งอย่างเงียบๆ ด้วยความรู้สึกเครียดและรู้สึกผิด สีหน้าดูหม่นหมองไร้รังสี เขาเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้ดูแลลูก ไม่ใส่ใจลูกให้ดีกว่านี้ก่อนหน้านี้พวกเขาเข้าไปพบหมอ หมอก็เล่าอาการของลูกสาวเขาให้ฟังว่า" จากอาการและพฤติกรรมของผู้ป่วยที่เพื่อนและพี่เลี้ยงของผู้ป่วยเล่ามาสาเหตุที่ผู้ป่วยลงมือทำร้ายร่างกายนั้นเพราะไม่ได้ดั่งใจและรู้สึกผิดหวังไม่พอใจอย่างรุนแรงอาการของผู้ป่วยเป็นอาการของโรคฮิสทีเรีย ซึ่งโรคนี้จัดเป็นโรคทางจิตเวช และผู้ป่วยยังมีโรคซึมเศร้าแ
ทันทีที่รตีเห็นเตชิน เธอก็เอ่ยขึ้นทั้งน้ำตาอย่างน่าสงสาร" พี่เตชิน "เตชินหันมามองเธออย่างเย็นชาโดยไม่เอ่ยอะไรเธอรีบเข้าไปหาเขาแล้วยื่นมือออกไปจับมือเขาพร้อมกับเอ่ย" พี่เตชิน ฉันขอโทษ ที่ฉันทำไปทั้งหมดเพราะฉันรักพี่ อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว นะๆ อย่าทิ้งรตีไปเลยนะคะ รตีไม่เหลือใครแล้ว "รตีเงยหน้ามองเตชิน ร้องห่มร้องให้อ้อนวอนขอไม่ให้เตชินทิ้งเธอไป แต่เตชินกลับยืนแข็งทื่อไม่แม้แต่จะมองเธอเลยจากนั้นเตชินก็เอามือของรตีที่จับมือเขาออกแล้วเอ่ยอย่างเยือกเย็นด้วยน้ำเสียงดุดันอย่างไม่สบอารมณ์กับคำพูดของรตีดวงตาดูแข็งกร้าว เต็มไปด้วยโทสะใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชาราวกับจอมมาร" รตี คุณมีพ่อแม่ที่รักคุณอยู่ แค่ไม่มีผมคนเดียวคุณจะไม่เหลือใครแล้วได้ยังไง ผมไม่ได้รักคุณแล้ว คุณเข้าใจมั้ยและผมจะไม่รักคนอย่างคุณ ที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเองเด็ดขาดคนอย่างคุณไม่มีความซื่อสัตย์จ้องแต่จะทำลายบริษัทผม ทั้งยังไม่เห็นค่าพ่อแม่ของตัวเองเลย ต่อให้ผมยังรักคุณ ถ้าคุณเป็นแบบนี้ คุณคิดว่าผมจะยังรักคุณลงเหรอ "เตชินกำมือแน่นแล้วเอ่ยต่ออย่างเลือดเย็น" ตอนนี้ผมไม่ได้รักคุณแล้ว คุณอย่ามา
ณ โรงเรียน JK หลังจากที่ไม่มีเตชินมาวุ่นวาย พิมก็คุมซ้อมเต้นทุกวัน ว่างจากในโรงเรียน เธอก็ไปเรียนหนังสือในแต่ละวันเวลาของเธอผ่านไปอย่างรวดเร็ว แป๊บๆก็ผ่านไปอีกแล้วหนึ่งเดือนและในวันนี้เธอก็คุมเด็กซ้อมเต้นตามปกติ เหมือนทุกวันแต่เมื่อเธอไปขยับเต้นได้แค่แป๊บเดียวเธอก็รู้สึกปวดท้องอย่างมากปวดรุนแรงจนหน้าซีดเหงื่อซึมไหลออกมาจนแทบจะไม่มีแรงหายใจแล้วลมหายใจของเธอแผ่วเบาจนทุกคนตื่นตกใจ" พิม! พิม! เธอเป็นอะไรไปน่ะ พิม โรคกระเพาะกำเริบอีกแล้วเหรอ "ใบหน้าพิมซีดเซียวจนมองไม่เห็นเส้นเลือด เธอขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมด้วยความเจ็บปวดทรมานแล้วรวบรวมแรงเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบาๆอย่างติดขัดไม่ชัดถ้อยชัดคำ แต่พอให้เทเท่ฟังออก" ซ้อม...ซ้อมต่อ เลย ไม่...ไม่ ต้องห่วง "เทเท่ทั้งตกใจและร้อนใจเขาเป็นห่วงพิมมากจึงบอกให้นักเรียนตาม ผอ.ป๊อบ" นักเรียนไปตาม ผอ.ป๊อบมาเร็วๆ ครูพิมจะไม่ไหวแล้ว "ได้ยินดังนั้นนักเรียนที่เป็นหัวหน้าทีมก็รีบวิ่งไปที่ห้องของ ผอ.ป๊อบ ทันทีเมื่อไปถึงนักเรียนก็เคาะประตูแล้วเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องป๊อบเห็นว่าเป็นเด็กของพิมเขาจึงเอ่ยถามขึ้น" อ้าว มาหาครูมีไรหรือเปล่า หื้ม "" ครูพิมไม
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ