จากนั้นก็ดึงมือที่ประกบกันขึ้นมายกมือไหว้
แล้วนักเรียนทุกคนก็เอ่ยขึ้นพร้อมกัน " สวัสดีค่ะคุณครู/สวัสดีครับคุณครู " พิมยิ้มอย่างเอ็นดูในความเรียบร้อยของนักเรียนจากนั้นเธอก็เอ่ยแนะนำตัวขึ้น " สวัสดีค่ะนักเรียน วันนี้เป็นคาบเรียนแรกที่เราได้พบกัน ก่อนอื่นครูขอแนะนำตัวเลยแล้วกัน เราจะได้รู้จักกันมากขึ้น ครูชื่อ พิมผกา หิรัญวัฒนากุล หรือนักเรียนจะเรียกครูว่า ครูพิมก็ได้ค่ะ ครูจบมาจากมหาวิทยาลัย CMRU คณะครุศาสตร์ สาขานาฏศิลป์ไทย วิชาของครูจะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับศิลปะการแสดงโดยตรงค่ะ และครูก็กำลังเรียนต่อปริญญาโทในมหาวิทยาลัย CMU ค่ะ " เมื่อพิมเอ่ยแนะนำตัวเสร็จ นักเรียนชายคนหนึ่งยกมือขึ้นแล้วเอ่ยแซว " ครูสวยจังเลยครับ " นักเรียนชายเอ่ยชมทำเอาบรรยากาศในห้องเรียนสนุกสนานครึกครื้นขึ้นมาทันที จากนั้นนักเรียนชายอีกคนก็ยกมือแล้วเอ่ยถามขึ้น " ครูมีแฟนยังครับ " พอนักเรียนเอ่ยจบ นักเรียนทุกคนในห้องก็เงียบกริบ รอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ สายตาจดจ่อบนใบหน้างามของครูพิม พิมยิ้มแล้วเอ่ยถามเล่นๆกลับไปว่า " นักเรียนอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ " นักเรียนทุกคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันอย่างครึกครื้นว่า " โสดครับ/โสดค่ะ ฮ่าๆๆๆ " พอเอ่ยจบนักเรียนทุกคนก็พากันหัวเราะกันใหญ่อย่างสนุกสนานเสียงดังไปทั่วห้อง พิมทำท่าโอเคแล้วเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม " โอเคค่ะ ในเมื่อนักเรียนอยากให้ครูโสด ครูก็จะโสดเอาใจนักเรียนค่ะ " " เย้.... " นักเรียนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีใจและยินดีที่ครูคนใหม่ยังโสด จากนั้นพิมก็เอ่ยขึ้น " อ่ะ เราก็รู้จักกันแล้ว พูดคุยกันสนุกสนานพอหอมหากหอมคอแล้ว ก็ได้เวลาฤกษ์งามยามดีที่จะต้องเข้าสู่เนื้อหาในบทเรียนแล้ว ครูขอให้นักเรียนทุกคนเอาหนังสือขึ้นมาค่ะ ในคาบเรียนของครู เราจะเรียนทฤษฎีควบคู่ไปกับปฏบัติ ขอให้นักเรียนทุกคนตั้งใจเรียนกันด้วยนะคะ " " ค่ะ/ครับ " นักเรียนทุกคนเอ่ยตอบอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นพิมก็เริ่มสอนโดยการนำเข้าสู่บทเรียนแล้วโยงเข้าสู่เนื้อหาที่เรียนในวันนี้ พอถึงตอนเที่ยงพิมกับเพื่อนครูในสาขาเดียวกันก็พากันออกไปทานข้าวเที่ยง ชีวิตของพิมเริ่มกลับเข้าสู่โหมดปกติที่สงบและมีความสุขในทุกๆวัน หนึ่งเดื่อนต่อมา พิมก็เข้าสอนตามปกติ แต่วันนี้กลุ่มนักเรียนหญิงนั่งจับกลุ่มคุยกันเม้าท์มอยเรื่องงานแต่งงานของคนๆหนึ่งอยู่ " เฮ้ยพวกมึง กูเพิ่งรู้ว่าประเทศเราก็มีประธานบริษัทที่มีหน้าตาหล่อและหนุ่มแบบนี้อยู่ว่ะ " นักเรียนหญิงพูดพร้อมกับยื่นรูปในโทรศัพท์ให้เพื่อนดู " เฮ้ย หล่อจริงๆด้วยแต่เสียดายกำลังจะสละโสดแล้ว แต่เจ้าสาวเขาสู้ครูพิมของเราไม่ได้ว่ะ ครูพิมสวยน่ารักกว่าตั้งเยอะ " นักเรียนหญิงเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปถามเพื่อนข้างๆที่นั่งร่วมวง " เออว่ะ ครูพิมสวยกว่า อยากเห็นครูพิมใส่ชุดแต่งงานจังเน้อ " " อื้ม คงจะสวยง่ามากแน่ๆเลยเน้อ " ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แล้วนักเรียนหญิงอีกคนก็เอ่ยขึ้นด้วยความอยากเห็น " ไหนๆมึง ขอดูหน่อย " เมื่อเพื่อนยื่นมาให้ดู เธอก็สนใจที่จะอ่านเนื้อหาของข่าวต่อ จึงยื่นนิ้วเรียวยาวแตะไปที่หน้าจอเพื่ออ่านรายละเอียดและอยากเห็นหน้าเจ้าสาวชัดๆ จากนั้นเธอก็เอ่ยขึ้นอย่างตะลึง " โห...เขาเป็นถึงประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งประเทศไทยแหน่ะ หล่อและรวยโคตรๆ " จากนั้นก็อ่านต่อเสียงดังทันที " คุณเตชิน อัศววัฒน์สกุล ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งประเทศไทย กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนสาวอย่างคุณรตี ทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทจิวเวอร์รี่แห่งประเทศไทย ที่คบกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน " นักเรียนหญิงคนหนึ่งในกลุ่มกำลังอ่านข่าวนี้อย่างตั้งใจ พิมที่กำลังเดินเข้ามาได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงักไป เธอรู้สึกใจหวิวๆแปลกๆ รู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่ใจอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นเธอก็ตั้งสติแล้วเดินเข้าไปที่โต๊ะหน้าชั้นเรียนพร้อมกับเอ่ยพึมพำในใจ [ เราเป็นอะไรน่ะ เลวกับเลวแต่งงานกันก็ดีแล้วหนิ นี่ขนาดจะแต่งงานกันอยู่แล้วยังตามมาหลอกหลอนให้รู้ข่าวถึงที่นี่อีก บ้าชะมัด ] จากนั้นพิมก็ไม่อยากสนใจเรื่องที่เป็นอดีตของเธออีกต่อไป เธอถอนหายใจออกมาเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายแล้วเริ่มทำการสอนหนังสือต่อ ป๊อบที่อยู่ต่างประเทศพอเห็นข่าวที่เตชินจะแต่งงานกับรตี ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงพิมขึ้นมาทันที จึงพยายามติดต่อพิมแต่ก็ติดต่อไม่ได้ จะกลับไปตอนนี้ก็ไม่ได้เช่นกัน เขาจึงตัดสินใจไปขอเบอร์ของเตชินจากนาวิน จากนั้นเขาก็โทรไปหาเตชินทันที เตชินที่กำลังลองสื้อผ้าอยู่เมื่อเห็นเบอร์แปลกโทรเข้ามา เขาจึงกดรับสายแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเย็นชาว่า " สวัสดีครับ " ป๊อบที่อยู่ปลายสายเอ่ยขึ้นเสียงเย็น ด้วยอารมณ์โทสะที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงพิม " พิมอยู่ไหน คุณเอาพิมไปไว้ที่ไหน คุณทำกับเธอแบบนี้ได้ยังไง " เตชินนิ่งเงียบไปแล้วเอ่ยอย่างไม่แยแส " เรื่องของเธอ ไม่เกี่ยวข้องกับผมอีก ผมกำลังจะแต่งงานกับคนที่คู่ควรและเหมาะสม ผมว่าคุณควรจะอวยพรนะ " ป๊อบกำมือแน่นด้วยความโมโหแล้วเอ่ย " ได้ ผมขอให้คุณสองคนอยู่ด้วยกันดีๆ อย่ามายุ่งกับชีวิตของพิมอีก หลังจากวันนี้ไปผมจะเป็นคนดูแลพิมเอง ผมจะไม่ยอมคุณเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว " เอ่ยจบป๊อบก็วางสายไป เตชินที่กำลัง ลองชุดกับรตีอยู่ ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาแล้วเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งด้วยความเดือดดาล จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปโดยไม่สนใจรตีอีก รตีเห็นดังนั้นเธอก็โกรธจัดไม่แพ้เตชิน นึกแค้นคนที่โทรมาหาเตชินในใจ เมื่อเห็นว่าเตชินไม่หันกลับมาสนใจเธอเลย เธอจึงใช้วิธีมารยาหญิง ดันตัวเองลุกขึ้นจากวีลแชร์ ให้ตัวเองล้มลงไปกองกับพื้นอย่างน่าเวทนา พร้อมกับเอ่ยเรียกเตชินด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้นทั้งน้ำตา " เตชิน พี่เตชิน อย่าไป อย่าทิ้งรตีไว้คนเดียว " พนักงานร้านและคนดูแลรตีต่างตกใจร้องขึ้นเสียงดัง " ว้าย! คุณหนูรตี " เตชินหันกลับมามองข้างหลัง เห็นรตีล้มไปกองกับพื้น ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตา จ้องมองเขาอย่างน่าสงสาร ความเดือดดาลที่มีในใจก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผิดและสงสารรตี เขาจึงเดินกลับมาหาเธอแล้วช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมานั่งในวีลแชร์เหมือนเดิม จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาให้เธอเบาๆพร้อมกับเอ่ยอย่างรู้สึกผิด " รตีคุณอย่าลุกจากวีลแชร์แบบนี้อีกเข้าใจมั้ย ผมขอโทษที่เมื่อกี้ผมวู่วามไปหน่อย ขอโทษนะ ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ให้อภัยผมนะ " รตีร้องให้อย่างน่าสงสารเธอดูอ่อนโยนและอ่อนแอมาก จากนั้นเธอก็ไปกอดเตชินที่นั่งคุกเข่าต่อหน้าเธอแล้วเอ่ย " ค่ะ คุณอย่าทิ้งรตีแบบนี้อีกนะคะ " เตชินพยักหน้าให้ด้วยสีหน้าเย็นชาอย่างไร้อารมณ์ จากนั้นเขาก็ผละตัวออกจากรตีแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน " เรามาลองชุดกันต่อเถอะ " จากนั้นทั้งสองก็ลองชุดต่อจนเสร็จแล้วพากันออกจากร้านหนึ่งเดือนต่อมา....งานแต่งงานของเตชินกับรตี ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการในโรงแรมหรูชื่อดังภายในงานประดับตกแต่งอย่างหรูหราสวยงามสมฐานะแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีกับบ่าวสาวในงานล้วนมีแต่ผู้ดีไฮโซที่มีชาติตระกูลดังๆบรรยากาศในงานอบอุ่นชื่นมื่นตั้งแต่เช้าจนค่ำ ผ่านพิธีต่างๆมาอย่างราบรื่น เตชินกับรตียิ้มหน้าชื่นมื่น บนเวที แต่แล้วประตูห้องแต่งงานก็ถูกเปิดออกพิมควงแขนป๊อบเดินเข้ามาในงานของเตชินกับรตีด้วยชุดราตรีสีเทาเข้มโทนดำ ซึ่งตัดกับธีมงานแต่งงานคือสีขาว-เทา เธอเดินเข้ามาอย่างสง่างามในทุกท่วงท่าการเดินสายตาทุกคู่จับจ้องบนตัวเธอที่เดินเหยียบเข้ามาบนพรหมของคู่บ่าวสาวแขกเหรื่อในงานต่างมองเธอด้วยสายตาที่หลากหลายอารมณ์ความรู้สึกแต่ที่ทุกคนรู้สึกเหมือนกันคือ เซอร์ไพรส์มากพ่อกับแม่ของเตชินที่ยืนอยู่บนเวทีถึงกับตกใจอุทานชื่อพิมออกมาเบาๆ" หนูพิม! "เพื่อนของเตชินกับไตรภพถึงกับอึ้งไป ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะมาในตอนจบของงานทั้งสองหันมามองกันแล้วเอ่ย" มีเซอร์ไพส์แล้ว ไม่คิดว่าคุณป๊อบจะกลับมาร่วมงานแต่งของเตชินในตอนจบ "ไตระภพเอ่ยด้วยความตื่นเต้นราวกับจะมีละครสนุกๆให้ดูนาวินเอ่ยตอบด
เมื่อกลับไปถึงบ้าน พ่อของรตีก็เอ่ยกับลูกสาวด้วยความโมโหว่า" รตี ลูกตัดใจจากคุณเตชินซะเถอะ พ่อเป็นผู้ชายเหมือนกันพ่อดูออกว่าเขาไม่ได้รักลูกแล้วลูกดูสิตั้งแต่ลูกกลับมาเขามาหาลูกแค่สองครั้งจากนั้นก็อ้างว่าไม่มีเวลาตลอดผู้ชายน่ะ ถ้ารักใครมากๆเขาจะมีเวลาให้คนที่เขารักเสมอแล้วเรื่องวันนี้อีก เขาแต่งงานกับลูกทั้งที่เขายังไม่ได้หย่ากับภรรยาไม่รู้ว่าเขาไปแอบจดทะเบียนสมรสและแต่งงานกันตอนไหน แล้วภรรยาเขาก็บุกมาหยามเกียรติเราถึงในงาน ทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียง ลูกคิดมั้ยว่าคนอื่นจะมองเรายังไง แย่งสามีชาวบ้านแบบนี้เหรอ "รตีไม่เอ่ยตอบอะไร ได้แต่นั่งร้องให้ด้วยความเสียใจ ที่เตชินไม่ยอมเซ็นหย่ากับพิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงเมื่อผู้เป็นพ่อมองลูกสาวที่นั่งร้องให้ ก็เริ่มรู้สึกสงสารอารมณ์ค่อยๆเย็นลง จึงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง" วันนี้คุณเตชินแสดงออกต่อหน้าทุกคนอย่างชัดเจนแล้วโดยที่ไม่ต้องเอ่ยอะไร ว่าเขารักภรรยาของเขาแค่ไหน ถึงขั้นไม่ยอมไว้หน้าหรือให้เกียรติเราเลยขนาดกลางงานแต่งงานของลูกแท้ๆ เมื่อภรรยาเขาบุกมาเขากลับไม่สนใจลูกเลยเลือกที่จะไม่ยอมอย่ากับภรรยา ถ้าเขารักลูกเขาจะเซ็นหย่าเพ
เตชินได้ยินดังนั้น ก็เอ่ยออกคำสั่งขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเจือร้อนใจ" เดี๋ยว! คุณช่วยดูให้หน่อยว่าไฟลท์บินคืนนี้ออกกี่โมง แล้วคุณก็จองตั๋วให้ผมที ผมจะรีบตามพวกเขาไปเดี๋ยวนี้ "" รับทราบค่ะท่านประธาน "หลังจากนั้น เตชินก็กลับรถ มุ่งหน้าไปยังสนามบินทันทีส่วนณัชชาก็เริ่มเช็คดูตารางเวลาไฟลท์บินของแต่ละสายการบิน เธอมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วพึมพำออกมาอย่างตกใจพร้อมกับใช้สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว" ตายละ นี่สองทุ่มแล้วเหรอ พี่เตชินจะตามไปทันมั้ยเนี่ย ช่างเหอะในเมื่อคุณพิมออกไปเวลานี้ก็แสดงว่าไฟลท์บินที่คุณพิมจองต้องเป็นไฟลท์บินของ Lion air แน่เลย งั้นก็จองไฟลท์บินเวลา 21:50 ของสายการบินนี้ให้พี่เตชินเลยแล้วกัน หวังว่าจะไปทันนะ "ณัชชาทำการจองตั๋วอะไรเสร็จเรียบร้อยก็โทรไปแจ้งเตชินทันที" วันนี้ เวลานี้ มีเพียงไฟลท์บินของสายการบิน Lion air เท่านั้นที่ออกจากดอนเมืองไปเชียงใหม่เวลา 21:50 - 23:15 ส่วนเรื่องที่พัก ณัชชาจะโทรแจ้งอีกทีค่ะ "ได้ยินดังนั้น เตชินก็วางสายไป รีบขับรถไปยังสนามบินอย่างเร่งด่วนแววตาแน่วแน่จับจ้องไปบนถนนข้างหน้าพร้อมกับเอ่ยออกมาในใจ[ ผมพลาดไปแล้วครั้งหนึ่
พอออกจากสนามบิน พิมก็เดินไปที่รถของตัวเองแล้วเอ่ยกับเตชินอย่างเย็นชาโดยไม่มองหน้าเขา" ปล่อยมือฉันได้แล้ว คุณเรียกรถไปเองแล้วกัน "เตชินมองไปที่รถเธอแล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณขับรถเป็นแล้วเหรอ "" ฉันขับรถเป็นมันน่าแปลกตรงไหน "พิมเอ่ยขึ้นอย่างรำคาญเตชินไม่คิดว่าเวลาแค่ปีกว่าจะทำให้เธอเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ทั้งดูโตเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมและยังกลายเป็นคนที่เย็นชามากๆอีกด้วยจากนั้นพิมก็หยิบกุญแจรถออกมาจากในกระเป๋า แล้วกดเปิดประตูเตชินจึงเดินไปเปิดประตูรถของเธอแล้วเข้าไปนั่งในรถอย่างสบายใจ พิมรู้สึกโมโหและรำคาญเขามากเธอเดินไปเปิดประตูทางฝั่งเขาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดใจ" คุณเตชิน คุณจะเอายังไง คุณอยากให้ภรรยาของคุณมาฆ่าฉันให้ตายหรือไง คุณอยากให้สังคมตราหน้าว่าฉันแย่งสามีชาวบ้านทั้งที่ฉันไม่ได้ทำเลยอย่างงั้นเหรอหากคุณเห็นใจฉันสักนิดช่วยเซ็นใบหย่าแล้วเลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันสักที ฉันรำคาญ "เตชินได้ยินดังนั้น เขาก็ถึงกับอึ้งไปเลย แววตาแข็งกร้าวเย็นชาสบตากับเขาอย่างเกลียดชังเขาไม่คิดว่าเธอจะมองเขาด้วยแววตาแบบนี้[ นี่เธอเกลียดเราขนาดนี้เลยเหรอ ]จากนั้นสีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นมา เขาลงจาก
เมื่อไปถึงโรงแรมเตชินก็เปิดประตูลงมาจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูให้พิมแล้วเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม" ลงมา "" ฉันไม่ลง คุณเอากุญแจรถฉันคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ "เตชินจ้องมองใบหน้างามด้วยแววตาเย็นชาแล้วเอ่ยเสียงเย็นอีกครั้ง" ผมจะพูดอีกครั้ง ลงมา "" ฉันไม่ลง คุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง "พิมตวาดใส่เตชินเสียงดุความกลัวถูกแทนที่ด้วยความโมโหเตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง ก้มลงไปสอดมือขวาเข้าไปด้านหลังพิมแล้วใช้มืออีกข้างสอดเข้าไปใต้ขา ช้อนตัวเธอขึ้นมาจากนั้นก็ออกมาจากรถ ใช้เข่าสูงยาวดันเข้าไปปิดประตูแล้วกดล็อครถทันทีพิมตกใจจนดวงตาเบิกกว้างอ้าปากค้างไปสามวิ จากนั้นเธอก็เริ่มโวยด้วยน้ำเสียงดุดัน นัยน์ตาดูแข็งกร้าว" คุณเตชิน คุณอย่ามาใช้วิธีบังคับขืนใจกันแบบนี้นะ ฉันไม่ใช่คนที่อยู่ในการควบคุมของของคุณแล้ว ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ "" ใช่หรือเปล่าเดี๋ยวคุณก็รู้ "เตชินเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้านิ่งเฉยเย็นชา จากนั้นก็เดินเข้าไปในโรงแรมพิมมองเข้าไปในโรงแรมเห็นพนักงานจ้องมองพวกเขาอยู่เธอจึงเอ่ย" ปล่อยฉันลง ฉันเดินเองได้ "พิมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่น ใบหน้างามบูดบึ้งเย็นชา เตชินหยุดก้าวแล้วสบตาคน
คนใต้ร่างแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะๆด้วยความรู้สึกเสียวซ่านเจือความทรมานเตชินตักตวงเอาความสุขจากตัวเธออย่างหื่นกระหายคล้ายชดเชยช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อเตชินเผด็จศึกที่เร่าร้อนและร้อนแรงบนเตียงใหญ่สงบลง เขาก็จูบไปที่หน้าผากของคนใต้ร่างอย่างทะนุถนอมด้วยความรักใคร่เสน่ห์หาพิมที่อยู่ใต้ร่างตัวอ่อนปวกเปียกไร้เรียวแรงที่จะต่อต้านหรือมีความรู้สึกอื่นทำได้เพียงนอนตะแคงตัวหันออกไปอย่างไร้ความรู้สึกเตชินนอนลงข้างหลังเธอแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมกอดแน่น ให้แผ่นหลังเนียนนุ่มแนบชิดกับอกแกร่งของเขาเมื่อนอนพักไปสักพัก พิมรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเริ่มหายเหนื่อยบ้างแล้วเธอก็ลุกไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จเธอใช้ผ้าเช็ดตัวมาห่อหุ้มปกปิดร่างกายแล้วเดินออกมาเก็บเสื้อผ้าที่ตกกระจัดกระจายบนพื้น ขึ้นมาสวมใส่ จากนั้นเธอก็ออกจากห้องไปอย่างรีบร้อนเตชินที่เพิ่งลืมตาตื่นก็เห็นเธอรีบออกไป เขาก็รีบลุกขึ้นมาหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วตามเธอออกไปทันทีพิมลงมาถึงลานจอดรถก็ปลดล็อครถทันที จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เป็นเวลาตีหนึ่งครึ่งแล้ว[ วันนี้มีงานต้อนรับ ผอ. คนใหม่ด้วยสิ หว
เนื่องจากกระจกรถของพิมติดฟิล์มสีทึบ คนภายนอกจึงมองไม่เห็นเตชินที่อยู่ข้างในเมื่อทำอะไรเสร็จ พิมก็เดินกลับเข้าไปในบ้านพักแล้วจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเปลี่ยนเป็นใส่ชุดสุภาพของโรงเรียน เป็นเสื้อสูททับเสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงทรงเอ สวมรองเท้าคัทชูสีดำ ทรงผมก็ทำเป็นถักเปียสองข้างเกล้าขึ้นข้างหลังแล้วติดโบว์สีดำให้ดูสุภาพสวยงามแต่งหน้าอ่อนๆ เขียนคิ้วบางๆเป็นธรรมชาติ ทาลิปสีอ่อนให้เข้ากับสไตล์การแต่งหน้าทำให้บุคลิกเธอดูโตขึ้นดูสุขุมสง่างามมีความสวยใสและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นจากนั้นเธอก็เดินออกมาจากบ้านพักครูโดยไม่หันไปสนใจเตชินที่อยู่ในรถเลยทันทีที่เตชินเห็นพิม เขาก็ถึงกับตกตะลึงไปเลย" เป็นแม่บ้านจำเป็นต้องสวยขนาดเลยเหรอหรือ...หรือว่าพิมจะเป็นครูของที่นี่ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อพิมจบแค่มัธยมปลาย เธอจะเป็นครูได้ยังไง "เตชินนั่งอยู่ในรถพึมพำคนเดียว ในสมองเขาเต็มไปด้วยความสงสัยในตัวตนของพิมเต็มไปหมดจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังที่กำลังตื่น เห็นเตชินโทรมา เขาก็รีบรับสายแล้วเอ่ยขึ้น" ครับคุณชาย "" คุณไปสืบประวัติของพิมมาให้หน่อย ว่าเธอจบอะไรกันแ
แม้ป๊อบเพิ่งจะมาถึง แต่ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา รูปร่างที่ดูภูมิฐานแฝงบารมีที่น่าเคารพยำเกรงในตัว เขาก็ได้รับความรักความเอ็นดูความเคารพนับถือจากคณะครูในโรงเรียนอย่างมากแล้วเสียงเชียร์ทำให้พิมไม่อาจทำให้ป๊อบเสียหน้าได้แม้เธอจะสับสน แต่เธอก็ต้องรักษาหน้าของป๊อบไว้เพราะเขาเป็น ผอ. โรงเรียน ที่เพิ่งมาใหม่ และเขาก็ดีกับเธอมาก เธอจึงไม่อาจใจร้ายกับเขาได้ เธอคิดว่า[ ยังไงเราก็โสด เมื่อเขาให้เกียรติ เราก็ควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา ให้ถูกหลักธรรมนองคลองธรรมสักที ]จากนั้นเธอก็ยิ้มขึ้นพร้อมกับรับช่อดอกไม้ของเขาแล้วเอ่ย" ค่ะ ฉันยินดีที่จะคบกับคุณค่ะ "ครูและนักเรียนต่างปรบมือแสดงความยินดีและดีใจกับทั้งสองคนป๊อบได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขึ้นด้วยความดีใจ เขาลุกขึ้นเข้าไปกอดพิมไว้แน่นแล้วเอ่ยด้วยความดีใจ" พิม คุณรู้มั้ยผมรอวันนี้มานานแค่ไหน หลังจากนี้ผมจะดูแลคุณให้ดีที่สุด เราจะก้าวผ่านสิ่งต่างๆไปด้วยกันนะ "เตชินที่วิ่งขึ้นมาถึงบนหอประชุมด้วยความเหนื่อยหอบเห็นพิมตอบรับคำขอของป๊อบใจเขาก็แตกสลายไปเป็นผุยผง เขาเจ็บปวดที่ขั้วหัวใจจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหวแล้ว [ นี่เราจะต้องเสียเธอไปให้อื่นแล้วจริงๆเห
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ