เมื่อกลับไปถึงบ้าน พ่อของรตีก็เอ่ยกับลูกสาวด้วยความโมโหว่า
" รตี ลูกตัดใจจากคุณเตชินซะเถอะ พ่อเป็นผู้ชายเหมือนกันพ่อดูออกว่าเขาไม่ได้รักลูกแล้ว ลูกดูสิตั้งแต่ลูกกลับมาเขามาหาลูกแค่สองครั้งจากนั้นก็อ้างว่าไม่มีเวลาตลอด ผู้ชายน่ะ ถ้ารักใครมากๆเขาจะมีเวลาให้คนที่เขารักเสมอ แล้วเรื่องวันนี้อีก เขาแต่งงานกับลูกทั้งที่เขายังไม่ได้หย่ากับภรรยา ไม่รู้ว่าเขาไปแอบจดทะเบียนสมรสและแต่งงานกันตอนไหน แล้วภรรยาเขาก็บุกมาหยามเกียรติเราถึงในงาน ทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียง ลูกคิดมั้ยว่าคนอื่นจะมองเรายังไง แย่งสามีชาวบ้านแบบนี้เหรอ " รตีไม่เอ่ยตอบอะไร ได้แต่นั่งร้องให้ด้วยความเสียใจ ที่เตชินไม่ยอมเซ็นหย่ากับพิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง เมื่อผู้เป็นพ่อมองลูกสาวที่นั่งร้องให้ ก็เริ่มรู้สึกสงสารอารมณ์ค่อยๆเย็นลง จึงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง " วันนี้คุณเตชินแสดงออกต่อหน้าทุกคนอย่างชัดเจนแล้วโดยที่ไม่ต้องเอ่ยอะไร ว่าเขารักภรรยาของเขาแค่ไหน ถึงขั้นไม่ยอมไว้หน้าหรือให้เกียรติเราเลย ขนาดกลางงานแต่งงานของลูกแท้ๆ เมื่อภรรยาเขาบุกมาเขากลับไม่สนใจลูกเลย เลือกที่จะไม่ยอมอย่ากับภรรยา ถ้าเขารักลูกเขาจะเซ็นหย่าเพื่อจดทะเบียนกับลูกทันทีแต่เขาไม่ทำ พ่อว่าลูกอย่าไปยืดติดกับเรื่องในอดีตอีกเลย คนเราต้องเดินไปข้างหน้านะลูก ตัดใจจากเขาซะนะ " รตีส่ายหน้าทั้งน้ำตา จากนั้นก็เอ่ยขึ้นอย่างเอาแต่ใจด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเจือสะอื้น แววตาเคล้าไปด้วยน้ำตา " ไม่ค่ะ หนูจะไม่ตัดใจ และจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด หนูกับพี่เตชินเราเหมาะสมกัน เรารักกันมานาน ที่พี่เตชินเขาไม่ยอมหย่า เขาต้องมีเหตุผลของเขา หนูรักเขา หนูจะไม่ตัดใจจากเขาเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งพี่เตชินไปค่ะ คุณพ่ออย่าบังคับให้หนูเลิกกับพี่เตชินเลยนะคะ " ผู้เป็นแม่เห็นลูกสาวร้องห่มร้องให้ เขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก จึงเข้าไปกอดลูกสาวแล้วมองสามีพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธ " คุณ คุณรับปากลูกสิว่าจะไม่บังคับให้พวกเขาเลิกกัน คุณไม่เข้าใจหรอกว่าการถูกบังคับให้เลิกกับคนที่รักมากน่ะมันเจ็บปวดแค่ไหน ถ้าคุณรักลูก คุณก็ควรจะตามใจลูกสิ " " ก็เพราะรักไง ถึงอยากให้เลิก ไม่ใช่ตามใจจนกลายเป็นคนหน้ามืดตามัว รักจนขาดสติแยกแยะไม่ออกว่าควรหยุดหรือควรจะพอแค่นี้ เป็นเพราะคุณตามใจลูกมากเกินไปแบบนี้ไง ลูกถึงได้เอาแต่ใจจมปลักอยู่กับคนที่เขาไม่รัก จนทำให้เราขายขี้คนทั้งประเทศแล้วเนี่ย " พ่อของรตีเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันตวาดใส่ภรรยาด้วยความโกรธจัด จากนั้นเขาก็เดินออกจากบ้านไป " คุณจะไปไหน คุณ! " แม่ของรตีเอ่ยถามขึ้นเสียงดัง เมื่อเห็นสามีออกไปจากบ้าน จากนั้นเขาก็ไล่ตามสามีไป จับแขนสามีไว้แล้วเอ่ยถามซ้ำด้วยน้ำเสียงกร้าว " คุณจะไปไหน! " พ่อของรตีเอามือของภรรยาออกแล้วเอ่ยอย่างเยือกเย็น " ผมเบื่อที่จะอยู่บ้านกับคุณ เข้าใจหรือยัง " เอ่ยจบเขาก็ออกไปเลย ปล่อยให้แม่ของรตีกรี๊ดเสียงดังลั่นด้วยความโกรธจัด ไล่ตามหลังเขาอย่างบ้าคลั่งโดยที่เขาไม่หันมาสนใจอีก รตีเอือมระอากับท่าทางและเสียงกรี๊ดของผู้เป็นแม่ เธอจึงกลับเข้าไปในห้องของตัวเองและขังตัวเองอยู่ในห้องอย่างเงียบๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเตชิน เตชินตอนนี้เขากำลังขับรถไปตามพิมกลับมา ตามโลเคชั่นที่ณัชชาส่งมาให้ เมื่อใกล้จะถึงโรงแรมที่พิมกับป๊อบพักอยู่ เสียงโทรศัพท์สั่นก็ดังขึ้น เมื่อเขาเห็นเบอร์ของรตีโทรมาเขาก็กดรับสาย ทันทีที่เตชินรับสาย รตีก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้น น้ำตาใสๆไหลอาบแก้มลงมาเป็นสาย " พี่เตชิน พี่อยู่ไหน พี่อย่าทิ้งรตีไปเลยนะ รตีจะไม่โกรธพี่แล้ว ไม่โกรธที่พี่ไม่ยอมหย่ากับภรรยา รตีอยากขอแค่พี่เตชินอย่าทิ้งรตีไปก็พอ ได้มั้ยคะ รตีรักพี่ รตียอมหมดแล้ว ยอมให้พี่มีผู้หญิงอีกคน ยอมไม่จดทะเบียนสมรสกับพี่ รตี...รตียอมเป็นภรรยานอกสมรสของพี่ค่ะ อย่าทิ้งรตีเลยนะคะ รตีไม่อาจเสียพี่ไปได้จริงๆ " น้ำเสียงอ้อนวอนเจือสะอื้นทำให้เตชินที่อยู่ปลายสายยิ่งรู้สึกผิดต่อรตีมากขึ้น เขารู้สึกสงสารเธอจับใจ [ รตีคุณช่างเป็นผู้หญิงที่ดีเหลือเกิน ] " ขอบคุณนะรตีที่เข้าใจผม คุณเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตผมเลย อย่าร้องให้อีกเลยนะ ผมสัญญาผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหน ผมจะรักคุณและอยู่ดูแลคุณแบบนี้ไปตลอด ผมสัญญา " รตีได้ยินดังนั้นเธอก็ยิ้มขึ้นมาด้วยความดีใจ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นน้อยลงแต่นุ่มนวลทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจ " ขอบคุณค่ะ รตีสัญญาว่าจะเชื่อฟัง และอยู่ในส่วนของรตี จะไม่ทำให้พี่เตชินลำบากใจ และจะไม่ไปรบกวนการใช้ชีวิตของคุณพิมค่ะ " " ขอบคุณนะรตี คุณน่ารักที่สุดเลย วันนี้ดึกมากแล้วคุณพักผ่อนเถอะ สุขภาพของคุณยิ่งไม่ค่อยดีอยู่ รีบๆหลับนะครับ ผมยังมีธุระต้องไปทำ แค่นี้ก่อนนะ ไว้พรุ่งนี้จะไปหาแต่เช้าเลย " เตชินเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน รตีจึงเอาตอบอย่างเชื่อฟังว่า " ค่ะ " จากนั้นเตชินก็กดวางสายไป แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยใจ เขาเคยรักเธอมากแต่ก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งใจเขาจะเปลี่ยนไป เมื่อมีพิมเข้ามาในชีวิต พิมทำให้เขารู้ว่าความรักทำให้คนขาดสติได้ ซึ่งเขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับรตีมาก่อน สเปคของเขาคือ ผู้หญิงจิตใจดี อ่อนโยน อ่อนหวานอย่างรตี ซึ่งพิมไม่มีเลย เธอทั้งดื้อรั้น เอาแต่ใจ ไม่ยอมคนและรักเงินของเขามาก แต่เขากลับรักเธอมาก มองข้ามสิ่งเหล่านั้นตลอดแม้เขาจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง แต่เขาก็รักเธอจริงๆไม่ได้เสแสร้งและอยากจะเก็บเธอไว้ข้างกาย จากนั้นโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นณัชชาที่โทรเข้ามา " ว่าไงณัชชา " เขาเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ทางปลายสายก็รีบเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ " พี่เตชิน พี่มัวทำอะไรอยู่ทำไมถึงช้าแบบนี้คะ ตอนนี้คุณพิมกับแฟนใหม่ของเขาออกไปจากโรงแรมแล้วค่ะ ณัชชาไม่รู้ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน แต่ถ้าให้เดา พวกเขาน่าจะเดินทางกลับบ้านค่ะ " " แฟนใหม่อะไรณัชชา เรียกให้ถูก พูดให้ดีๆ มันชื่อป๊อบ เป็นแค่คนรู้จักกัน " เตชินเอ่ยขึ้นเสียงเย็นด้วยความไม่พอใจในความพูดที่ไม่เข้าหูเขา ณัชชาเบะปากนิดหน่อยแล้วเอ่ยเสียงเรียบอย่างเย็นชา " ค่ะๆ คุณพิมกับคุณป๊อบน่าจะเดินทางไปที่สนามบิน ตอนนี้พวกเขาออกไปแล้วเพราะพี่ช้า ณัชชาช่วยพี่ได้แค่นี้ค่ะ บาย " นอกจากเธอทำเพื่อพี่เตชินของเธอแล้วเธอก็ทำเพื่อตัวเองนี้แหละเตชินได้ยินดังนั้น ก็เอ่ยออกคำสั่งขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเจือร้อนใจ" เดี๋ยว! คุณช่วยดูให้หน่อยว่าไฟลท์บินคืนนี้ออกกี่โมง แล้วคุณก็จองตั๋วให้ผมที ผมจะรีบตามพวกเขาไปเดี๋ยวนี้ "" รับทราบค่ะท่านประธาน "หลังจากนั้น เตชินก็กลับรถ มุ่งหน้าไปยังสนามบินทันทีส่วนณัชชาก็เริ่มเช็คดูตารางเวลาไฟลท์บินของแต่ละสายการบิน เธอมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วพึมพำออกมาอย่างตกใจพร้อมกับใช้สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว" ตายละ นี่สองทุ่มแล้วเหรอ พี่เตชินจะตามไปทันมั้ยเนี่ย ช่างเหอะในเมื่อคุณพิมออกไปเวลานี้ก็แสดงว่าไฟลท์บินที่คุณพิมจองต้องเป็นไฟลท์บินของ Lion air แน่เลย งั้นก็จองไฟลท์บินเวลา 21:50 ของสายการบินนี้ให้พี่เตชินเลยแล้วกัน หวังว่าจะไปทันนะ "ณัชชาทำการจองตั๋วอะไรเสร็จเรียบร้อยก็โทรไปแจ้งเตชินทันที" วันนี้ เวลานี้ มีเพียงไฟลท์บินของสายการบิน Lion air เท่านั้นที่ออกจากดอนเมืองไปเชียงใหม่เวลา 21:50 - 23:15 ส่วนเรื่องที่พัก ณัชชาจะโทรแจ้งอีกทีค่ะ "ได้ยินดังนั้น เตชินก็วางสายไป รีบขับรถไปยังสนามบินอย่างเร่งด่วนแววตาแน่วแน่จับจ้องไปบนถนนข้างหน้าพร้อมกับเอ่ยออกมาในใจ[ ผมพลาดไปแล้วครั้งหนึ่
พอออกจากสนามบิน พิมก็เดินไปที่รถของตัวเองแล้วเอ่ยกับเตชินอย่างเย็นชาโดยไม่มองหน้าเขา" ปล่อยมือฉันได้แล้ว คุณเรียกรถไปเองแล้วกัน "เตชินมองไปที่รถเธอแล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณขับรถเป็นแล้วเหรอ "" ฉันขับรถเป็นมันน่าแปลกตรงไหน "พิมเอ่ยขึ้นอย่างรำคาญเตชินไม่คิดว่าเวลาแค่ปีกว่าจะทำให้เธอเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ทั้งดูโตเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมและยังกลายเป็นคนที่เย็นชามากๆอีกด้วยจากนั้นพิมก็หยิบกุญแจรถออกมาจากในกระเป๋า แล้วกดเปิดประตูเตชินจึงเดินไปเปิดประตูรถของเธอแล้วเข้าไปนั่งในรถอย่างสบายใจ พิมรู้สึกโมโหและรำคาญเขามากเธอเดินไปเปิดประตูทางฝั่งเขาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดใจ" คุณเตชิน คุณจะเอายังไง คุณอยากให้ภรรยาของคุณมาฆ่าฉันให้ตายหรือไง คุณอยากให้สังคมตราหน้าว่าฉันแย่งสามีชาวบ้านทั้งที่ฉันไม่ได้ทำเลยอย่างงั้นเหรอหากคุณเห็นใจฉันสักนิดช่วยเซ็นใบหย่าแล้วเลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันสักที ฉันรำคาญ "เตชินได้ยินดังนั้น เขาก็ถึงกับอึ้งไปเลย แววตาแข็งกร้าวเย็นชาสบตากับเขาอย่างเกลียดชังเขาไม่คิดว่าเธอจะมองเขาด้วยแววตาแบบนี้[ นี่เธอเกลียดเราขนาดนี้เลยเหรอ ]จากนั้นสีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นมา เขาลงจาก
เมื่อไปถึงโรงแรมเตชินก็เปิดประตูลงมาจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูให้พิมแล้วเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม" ลงมา "" ฉันไม่ลง คุณเอากุญแจรถฉันคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ "เตชินจ้องมองใบหน้างามด้วยแววตาเย็นชาแล้วเอ่ยเสียงเย็นอีกครั้ง" ผมจะพูดอีกครั้ง ลงมา "" ฉันไม่ลง คุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง "พิมตวาดใส่เตชินเสียงดุความกลัวถูกแทนที่ด้วยความโมโหเตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง ก้มลงไปสอดมือขวาเข้าไปด้านหลังพิมแล้วใช้มืออีกข้างสอดเข้าไปใต้ขา ช้อนตัวเธอขึ้นมาจากนั้นก็ออกมาจากรถ ใช้เข่าสูงยาวดันเข้าไปปิดประตูแล้วกดล็อครถทันทีพิมตกใจจนดวงตาเบิกกว้างอ้าปากค้างไปสามวิ จากนั้นเธอก็เริ่มโวยด้วยน้ำเสียงดุดัน นัยน์ตาดูแข็งกร้าว" คุณเตชิน คุณอย่ามาใช้วิธีบังคับขืนใจกันแบบนี้นะ ฉันไม่ใช่คนที่อยู่ในการควบคุมของของคุณแล้ว ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ "" ใช่หรือเปล่าเดี๋ยวคุณก็รู้ "เตชินเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้านิ่งเฉยเย็นชา จากนั้นก็เดินเข้าไปในโรงแรมพิมมองเข้าไปในโรงแรมเห็นพนักงานจ้องมองพวกเขาอยู่เธอจึงเอ่ย" ปล่อยฉันลง ฉันเดินเองได้ "พิมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่น ใบหน้างามบูดบึ้งเย็นชา เตชินหยุดก้าวแล้วสบตาคน
คนใต้ร่างแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะๆด้วยความรู้สึกเสียวซ่านเจือความทรมานเตชินตักตวงเอาความสุขจากตัวเธออย่างหื่นกระหายคล้ายชดเชยช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อเตชินเผด็จศึกที่เร่าร้อนและร้อนแรงบนเตียงใหญ่สงบลง เขาก็จูบไปที่หน้าผากของคนใต้ร่างอย่างทะนุถนอมด้วยความรักใคร่เสน่ห์หาพิมที่อยู่ใต้ร่างตัวอ่อนปวกเปียกไร้เรียวแรงที่จะต่อต้านหรือมีความรู้สึกอื่นทำได้เพียงนอนตะแคงตัวหันออกไปอย่างไร้ความรู้สึกเตชินนอนลงข้างหลังเธอแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมกอดแน่น ให้แผ่นหลังเนียนนุ่มแนบชิดกับอกแกร่งของเขาเมื่อนอนพักไปสักพัก พิมรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเริ่มหายเหนื่อยบ้างแล้วเธอก็ลุกไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จเธอใช้ผ้าเช็ดตัวมาห่อหุ้มปกปิดร่างกายแล้วเดินออกมาเก็บเสื้อผ้าที่ตกกระจัดกระจายบนพื้น ขึ้นมาสวมใส่ จากนั้นเธอก็ออกจากห้องไปอย่างรีบร้อนเตชินที่เพิ่งลืมตาตื่นก็เห็นเธอรีบออกไป เขาก็รีบลุกขึ้นมาหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วตามเธอออกไปทันทีพิมลงมาถึงลานจอดรถก็ปลดล็อครถทันที จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เป็นเวลาตีหนึ่งครึ่งแล้ว[ วันนี้มีงานต้อนรับ ผอ. คนใหม่ด้วยสิ หว
เนื่องจากกระจกรถของพิมติดฟิล์มสีทึบ คนภายนอกจึงมองไม่เห็นเตชินที่อยู่ข้างในเมื่อทำอะไรเสร็จ พิมก็เดินกลับเข้าไปในบ้านพักแล้วจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเปลี่ยนเป็นใส่ชุดสุภาพของโรงเรียน เป็นเสื้อสูททับเสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงทรงเอ สวมรองเท้าคัทชูสีดำ ทรงผมก็ทำเป็นถักเปียสองข้างเกล้าขึ้นข้างหลังแล้วติดโบว์สีดำให้ดูสุภาพสวยงามแต่งหน้าอ่อนๆ เขียนคิ้วบางๆเป็นธรรมชาติ ทาลิปสีอ่อนให้เข้ากับสไตล์การแต่งหน้าทำให้บุคลิกเธอดูโตขึ้นดูสุขุมสง่างามมีความสวยใสและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นจากนั้นเธอก็เดินออกมาจากบ้านพักครูโดยไม่หันไปสนใจเตชินที่อยู่ในรถเลยทันทีที่เตชินเห็นพิม เขาก็ถึงกับตกตะลึงไปเลย" เป็นแม่บ้านจำเป็นต้องสวยขนาดเลยเหรอหรือ...หรือว่าพิมจะเป็นครูของที่นี่ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อพิมจบแค่มัธยมปลาย เธอจะเป็นครูได้ยังไง "เตชินนั่งอยู่ในรถพึมพำคนเดียว ในสมองเขาเต็มไปด้วยความสงสัยในตัวตนของพิมเต็มไปหมดจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังที่กำลังตื่น เห็นเตชินโทรมา เขาก็รีบรับสายแล้วเอ่ยขึ้น" ครับคุณชาย "" คุณไปสืบประวัติของพิมมาให้หน่อย ว่าเธอจบอะไรกันแ
แม้ป๊อบเพิ่งจะมาถึง แต่ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา รูปร่างที่ดูภูมิฐานแฝงบารมีที่น่าเคารพยำเกรงในตัว เขาก็ได้รับความรักความเอ็นดูความเคารพนับถือจากคณะครูในโรงเรียนอย่างมากแล้วเสียงเชียร์ทำให้พิมไม่อาจทำให้ป๊อบเสียหน้าได้แม้เธอจะสับสน แต่เธอก็ต้องรักษาหน้าของป๊อบไว้เพราะเขาเป็น ผอ. โรงเรียน ที่เพิ่งมาใหม่ และเขาก็ดีกับเธอมาก เธอจึงไม่อาจใจร้ายกับเขาได้ เธอคิดว่า[ ยังไงเราก็โสด เมื่อเขาให้เกียรติ เราก็ควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา ให้ถูกหลักธรรมนองคลองธรรมสักที ]จากนั้นเธอก็ยิ้มขึ้นพร้อมกับรับช่อดอกไม้ของเขาแล้วเอ่ย" ค่ะ ฉันยินดีที่จะคบกับคุณค่ะ "ครูและนักเรียนต่างปรบมือแสดงความยินดีและดีใจกับทั้งสองคนป๊อบได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขึ้นด้วยความดีใจ เขาลุกขึ้นเข้าไปกอดพิมไว้แน่นแล้วเอ่ยด้วยความดีใจ" พิม คุณรู้มั้ยผมรอวันนี้มานานแค่ไหน หลังจากนี้ผมจะดูแลคุณให้ดีที่สุด เราจะก้าวผ่านสิ่งต่างๆไปด้วยกันนะ "เตชินที่วิ่งขึ้นมาถึงบนหอประชุมด้วยความเหนื่อยหอบเห็นพิมตอบรับคำขอของป๊อบใจเขาก็แตกสลายไปเป็นผุยผง เขาเจ็บปวดที่ขั้วหัวใจจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหวแล้ว [ นี่เราจะต้องเสียเธอไปให้อื่นแล้วจริงๆเห
รตีออกมารอเตชินที่หน้าบ้าน พี่เลี้ยงที่ดูแลเธอก็รู้สึกเป็นห่วงและสงสารเธอ ที่ตั้งตารอคอยการมาของเตชิน" คุณรตีกลับเข้าไปรอในบ้านก่อนดีมั้ยคะ ข้างนอกอากาศหนาวเดี๋ยวจะไม่สบายเอา "พี่เลี้ยงเอ่ยอย่างสุภาพรตีมองไปยังพี่เลี้ยงแล้วเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์" ก็เพราะรตีอยากจะไม่สบายไงคะ รตีถึงออกมารอข้างนอกตากลมเล่นแบบนี้ เตชินจะได้รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้รตีป่วยแล้วมาอยู่ดูแลรตีตลอด พี่เข้าใจมั้ย "" เข้าใจค่ะ "พี่เลี้ยงเอ่ยตอบอย่างจนปัญญาที่จะเอ่ยต่อรตีรอเตชินจนร่างกายเย็นเฉียบใบหน้าขาวซีดไปหมดเมื่อผู้เป็นพ่อกลับมา เห็นลูกสาวนั่งตากลมก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งมาหาลูกสาวด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเอ็ดใส่พี่เลี้ยง" ทำไมคุณถึงพารตีออกมาข้างนอกแบบนี้ ผมจ้างคุณมาดูแลลูกสาวผมนะไม่ได้จ้างให้มาเอาเงินเดือนอย่างเดียว หัดใช้สมองบ้าง "คนเป็นพี่เลี้ยงรู้สึกโกรธมาก แต่ก็กดความโกรธเอาไว้ในใจ แล้วก้มหน้าก้มตาเอ่ยเพียงสั้นๆ" ขอโทษค่ะ "แล้วแม่ของรตีก็เดินออกมาจากในบ้านมองไปยังสามีอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยเสียดสีขึ้น" คุณรู้จักเป็นห่วงลูก รู้จักกลับมาบ้านด้วยเหรอ หายไปไหนมาทั้งคืนล่ะ ไปขลุกอยู่กับอีเมียน้อยคนไหนอ
ณัชชานั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเองอย่างเงียบๆ ท่าทางดูสุขุม ดูนิ่งสงบพอผู้ช่วยเข้ามาส่งงานให้เธอ เธอก็เงยหน้าขึ้นมามองผู้ช่วย แล้วเอ่ยถามขึ้น" ท่านประธานมาหรือยัง "" ค่ะ ท่านประธานมาได้สักพักแล้ว "ผู้ช่วยสาวเอ่ยรายงานแล้วเธอก็เอ่ยกับผู้ช่วยสาวด้วยน้ำเสียบเรียบๆว่า" อืม ไม่มีอะไรแล้วคุณไปทำงานเถอะ "" ค่ะ "พอผู้ช่วยของเธอหมุนตัวเดินออกไป เธอก็นึกเรื่องที่จะถามผู้ช่วยขึ้นมาได้ จึงเอ่ยเรียกผู้ช่วยไว้ " เดี๋ยวก่อนค่ะคุณรินทร์ "พอผู้ช่วยหันมาเธอก็เอ่ยถามขึ้น" เรื่องที่ให้ไปตรวจสอบเกี่ยวกับผู้ช่วยคนก่อนคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว "ผู้ช่วยสาวจึงเอ่ยตอบว่า" ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วค่ะ เธอเป็นคนของคุณรตีที่ส่งมาอยู่ข้างกายคุณค่ะ ที่บริษัทมีปัญหาช่วงนั้นรินทร์ตามสืบดูแล้วเป็นฝีมือเธอเหมือนกันค่ะ ส่วนรายละเอียดข้อมูลที่เหลือ รินทร์ส่งให้คุณณัชชาในอีเมลแล้วค่ะ "ได้ยินดังนั้นณัชชารู้สึกพอใจอย่างมาก เธอจึงเอ่ยขึ้น" อืม คุณทำงานได้ดีมาก ไม่มีอะไรแล้วไปทำงานของคุณต่อเถอะ "จากนั้นผู้ช่วยรินทร์ก็หมุนตัวเดินออกไป ณัชชาเผยรอยยิ้มร้ายขึ้นมาที่มุมปากแล้วพึมพำในใจ[ รตี นังหมาลอบกัด ชอบกัดไม่ปล่อยใ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ