เมื่อไปถึงโรงแรมเตชินก็เปิดประตูลงมาจากรถ
แล้วเดินมาเปิดประตูให้พิมแล้วเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม " ลงมา " " ฉันไม่ลง คุณเอากุญแจรถฉันคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ " เตชินจ้องมองใบหน้างามด้วยแววตาเย็นชาแล้วเอ่ยเสียงเย็นอีกครั้ง " ผมจะพูดอีกครั้ง ลงมา " " ฉันไม่ลง คุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง " พิมตวาดใส่เตชินเสียงดุความกลัวถูกแทนที่ด้วยความโมโห เตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง ก้มลงไปสอดมือขวาเข้าไปด้านหลังพิม แล้วใช้มืออีกข้างสอดเข้าไปใต้ขา ช้อนตัวเธอขึ้นมาจากนั้นก็ออกมาจากรถ ใช้เข่าสูงยาวดันเข้าไปปิดประตูแล้วกดล็อครถทันที พิมตกใจจนดวงตาเบิกกว้างอ้าปากค้างไปสามวิ จากนั้นเธอก็เริ่มโวยด้วยน้ำเสียงดุดัน นัยน์ตาดูแข็งกร้าว " คุณเตชิน คุณอย่ามาใช้วิธีบังคับขืนใจกันแบบนี้นะ ฉันไม่ใช่คนที่อยู่ในการควบคุมของของคุณแล้ว ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ " " ใช่หรือเปล่าเดี๋ยวคุณก็รู้ " เตชินเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้านิ่งเฉยเย็นชา จากนั้นก็เดินเข้าไปในโรงแรม พิมมองเข้าไปในโรงแรมเห็นพนักงานจ้องมองพวกเขาอยู่เธอจึงเอ่ย " ปล่อยฉันลง ฉันเดินเองได้ " พิมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่น ใบหน้างามบูดบึ้ง เย็นชา เตชินหยุดก้าวแล้วสบตาคนที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยสีหน้านิ่ง " ผมปล่อยคุณลงแล้วเดินตามมาดีๆล่ะ ไม่งั้นผมจะไม่รับประกันความอับอายที่จะเกิดนะ " เตชินเอ่ยขู่เสียงเย็นแล้วปล่อยเธอลง แต่กลับยื่นมือไปจับมือเธอไว้แน่น แล้วเดินจูงมือเธอเข้าไปในโรงแรม ไปแจ้งกับพนักงานต้อนรับที่เคาน์เตอร์แบบกระชับรวบรัดเข้าใจเร็ว " เตชินห้อง F101 ไม่ต้องนำทาง " " ค่ะ " พนักงานก็รีบยื่นคีย์การ์ดให้เขาทันที เพราะทางณัชชาได้โทรมาแจ้งแล้วว่าเตชินจะเข้าพักหลัง 23:00 น. พอได้คีย์การ์ดห้อง เตชินก็จูงมือพิมเดินไปที่ลิฟท์ บรรยากาศในลิฟท์เงียบสงบ พิมจึงเอ่ยกับเตชินอย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า " คุณเตชิน ถ้าคุณรักฉันอย่างที่พูดจริงๆ คุณมาทำแบบนี้ทำไม ทำไมเราไม่คุยกันดีๆ ให้เกียรติฉันเหมือนที่คุณให้เกียรติคนอื่นล่ะ " มาตอนนี้หนีก็หนีไม่พ้น สิ่งเดียวที่พอจะช่วยให้เธอรอดจากเขาคือการพูดคุยเจรจา เตชินมองต่ำลงมาบนใบหน้างามที่เตี้ยกว่าเขาถึง30เซน ด้วยสีหน้านิ่ง แล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงเย็น " ตอนนี้คุณมีเรื่องที่จะคุยกับผมแล้วเหรอ " ได้ยินดังนั้นสีหน้าพิมดูเจื่อน กระอักกระอ่วนที่จะเอ่ยต่อ เมื่อมองลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้น9 เธอก็ยิ่งร้อนรนในใจ หัวใจของเธอเต้นแรงเสียงตุบๆๆๆ ท่ามกลางความเงียบ จนเตชินได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเธอ แล้วเขาก็ยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย็นชา " หัวใจคุณเต้นเสียงดังเชียว ทำไมล่ะ ยังไม่ถึงห้องเลยคุณก็ตื่นเต้นแล้วเหรอ " เตชินเอ่ยหยอกเสียงเย็น จากนั้นเขาก็คลายมือที่จับมือเธอ แล้วเปลี่ยนเป็นเข้าไปโอบกอดเอวเธอไว้แน่น ให้เธอเข้ามาชิดกับเขา เมื่อถึงชั้น10 ลิฟท์ก็เปิดออก พิมกลัวจนขาสั่น เธอไม่กล้าก้าวขาออกจากลิฟท์ สีหน้าเธอเริ่มซีดเซียว เพราะเธอไม่รู้ว่าเมื่อเข้าไปในห้องแล้วเธอจะเจอกับอะไรบ้าง ตอนนี้เธอนึกเสียใจขึ้นมาที่ไปปรากฏตัวในงานแต่งงานของเตชิน ถ้าเธอรู้ว่าเขากล้าไม่เซ็นหย่า เธอจะไม่โง่ส่งตัวเองเดินเข้าถ้ำเสืออย่างเด็ดขาด เตชินหินว่าเธอสั่นกลัว เขาจึงอุ้มเธอขึ้นมาแล้วพาออกไปจากลิฟท์ พิมไม่มีวิธีอื่นแล้ว นอกจากร้องให้ ในขณะที่ เตชินอุ้มเธออยู่ เธอมองหน้าเขาแล้วร้องให้ออกมา จากนั้นก็ยื่นมือเข้าไปกอดคอเขาไว้ซบหน้าลงบนบ่าของเขา " เตชิน คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ ได้มั้ย " เธอเอ่ยอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างน่าสงสาร ด้วยท่าทางออดอ้อนน่าเอ็นดู แต่เตชินยังคงมีสีหน้านิ่ง เย็นชา แล้วเปิดประตูเดินเข้าไปในห้อง จากนั้นก็เดินไปวางเธอลงบนเตียง แล้วกอดเธอไว้แน่นด้วยความรู้สึกรักและคิดถึงสุดหัวใจ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อน " พิม คุณรู้มั้ยผมคิดถึงคุณมากแค่ไหน คุณหาว่าผมใจร้าย ไร้หัวใจ แต่คุณกลับไร้หัวใจยิ่งกว่า ในช่วงเวลาที่ผมสับสนว่าควรจะเลือกคนที่รักหรือคนที่คู่ควร คุณกลับหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย วันนี้ผมดีใจที่คุณไปปรากฏตัวต่อหน้าผม ทำให้ผมได้พบคุณอีกครั้ง ทำให้ผมรู้ว่าผมรักคุณจนไม่อาจปล่อยคุณให้หลุดมือได้อีกแล้ว ช่วงเวลาปีกว่านี้คุณอาจจะหลงลืมช่วงเวลาของเราไปบ้าง แต่ไม่เป็นไร วันนี้ผมจะรื้อฟื้นทุกความทรงจำให้คุณเอง ให้คุณจำได้ว่าผมเป็นสามีคุณ เป็นความจริงที่ไม่สามารเปลี่ยนแปลงได้ " ได้ยินดังนั้นดวงตาพิมก็เบิกกว้างใจเต้นเสียงดัง พยายามจะผละเขาออก แต่เขากลับติดหนึบกอดเธอแน่นเหมือนกาวตราช้าง จากนั้นมือข้างขวาของเตชินก็ค่อยๆขยับอย่างช้าๆ สอดมือเข้าไปในเสื้อของเธอแล้วปลดตะขอเสื้อในเธอออก " ไม่นะคุณเตชิน ได้โปรดอย่าทำแบบนี้เลย ฉันขอร้อง " เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างหวาดกลัวหวาดกลัว " คุณอย่ากลัวเลยนะพิม ผมแค่อยากทำหน้าที่สามี คุณรู้มั้ยตั้งแต่คุณจากไป ผมก็ไม่อยากแตะต้องใครอีกเลย ตอนนี้ผมต้องการคุณ ผมขอนะ " พิมส่ายหน้าอย่างแรงน้ำตาคลอหน่วยแล้วเอ่ย " ไม่ ไม่ คุณอย่าทำแบบนี้ คุณแต่งงานแล้ว คุณอย่ามาทำแบบนี้กับฉันอีกเลย ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะนะ " ลำแขนอันแข็งแกร่งทางซ้ายของเตชินกอดเธอไว้แน่น ส่วนข้างขวาก็ล้วงเข้ามาลูบไล้ตัวเธอ แล้วเลื่อนมาเคล้าคลึงทรวงอกนุ่มๆที่เขาเคยสัมผัสด้วยความคิดถึง พร้อมกับเอ่ยเสียงแหบข้างๆติ่งหูเธอ " ไม่ พิม ผมปล่อยคุณไปไม่ได้แล้ว ผมรักคุณ ผมอยากได้คุณ ผมคิดถึงเรือนร่างของคุณ ผมหยุดไม่ได้แล้ว " เอ่ยจบเขาก็ไล้เลียไปที่ใบหู แล้วค่อยๆเลื่อนมาไล้เลียตามซอกคอ ทั้งจูบทั้งดูดคอเธอแรงๆด้วยความหื่นกระหายจนพิมร้องออกมา " อ๊าาา ไม่ๆ ฉันไม่ต้องการๆ ปล่อย " เตชินเห็นว่าเธอยังปฏิเสธเขาไม่หยุด เขาเลยประกบริมฝีปากนุ่มของเธอไว้ แล้วจูบเธออย่างดูดดื่มพร้อมกับดันตัวเธอให้หงายหลังไปไม่ให้เธอได้เอ่ยอะไรอีก ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ เล้าโลม จนร่างเธอสั่นเทิ้มแล้วกลับมาสัมผัสความนุ่มของทรวงอกสวยของเธออีกครั้ง ในขณะที่ริมฝีปากของเขาก็ดูดกลืนกินริมฝีปากนุ่มของเธอไม่หยุด จูบเธออย่าเร่าร้อนสอดแทรกเรียวลิ้นหนาเข้าไปสัมผัสกับเรียวลิ้นบางแล้วดูดดุนจนหนำใจ เล้าโลมจนคนใต้ร่างส่งเสียงครางออกมาจากลำคอ จากนั้นเขาก็รีบถอดเสื้องผ้าทิ้งกระจัดกระจายบนพื้น แต่ริมฝีปากนุ่มยังคงประกบติดกันไม่ยอมห่าง เมื่อร่างกายทั้งสองเปลือยเปล่า เขาก็ถอนริมฝีปากออก ให้เธอได้พักหายใจ แล้วใช้ริมฝีปากอุ่นไล้เลียลงมาตามซอกคอเลื่อนริมฝีปากอุ่นสัมผัสทรวงอกนุ่มๆของเธออย่างเมามัน จากนั้นเขาก็เลื่อนใบหน้ากลับขึ้นไปจูบหน้าผากของคนใต้ร่างที่นอนนิ่งน้ำตาไหลผ่านหางตาอย่างเบาๆ เขาปาดน้ำตาเธอทิ้งแล้วจูบไปตามแก้มสัมผัสใบหน้าเธออย่างนุ่มนวล แล้วประกบริมฝีปากจูบเธออย่างดูดดื่มอีกครั้งพร้อมกับแทรกตัวเขามาในกายเธอด้วยความอยากกระหาย เขาค่อยๆขยับตัวอย่างช้าๆ เมื่อสองร่างรวมเป็นหนึ่งเขาก็กอดเธอไว้แน่น แล้วเริ่มบรรเลงเพลงสวาท ขยับตัวอย่างถี่ๆอย่างเร็วและร้อนแรงตามความปรารถนาที่มีในตัวคนใต้ร่างแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะๆด้วยความรู้สึกเสียวซ่านเจือความทรมานเตชินตักตวงเอาความสุขจากตัวเธออย่างหื่นกระหายคล้ายชดเชยช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อเตชินเผด็จศึกที่เร่าร้อนและร้อนแรงบนเตียงใหญ่สงบลง เขาก็จูบไปที่หน้าผากของคนใต้ร่างอย่างทะนุถนอมด้วยความรักใคร่เสน่ห์หาพิมที่อยู่ใต้ร่างตัวอ่อนปวกเปียกไร้เรียวแรงที่จะต่อต้านหรือมีความรู้สึกอื่นทำได้เพียงนอนตะแคงตัวหันออกไปอย่างไร้ความรู้สึกเตชินนอนลงข้างหลังเธอแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมกอดแน่น ให้แผ่นหลังเนียนนุ่มแนบชิดกับอกแกร่งของเขาเมื่อนอนพักไปสักพัก พิมรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเริ่มหายเหนื่อยบ้างแล้วเธอก็ลุกไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จเธอใช้ผ้าเช็ดตัวมาห่อหุ้มปกปิดร่างกายแล้วเดินออกมาเก็บเสื้อผ้าที่ตกกระจัดกระจายบนพื้น ขึ้นมาสวมใส่ จากนั้นเธอก็ออกจากห้องไปอย่างรีบร้อนเตชินที่เพิ่งลืมตาตื่นก็เห็นเธอรีบออกไป เขาก็รีบลุกขึ้นมาหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วตามเธอออกไปทันทีพิมลงมาถึงลานจอดรถก็ปลดล็อครถทันที จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เป็นเวลาตีหนึ่งครึ่งแล้ว[ วันนี้มีงานต้อนรับ ผอ. คนใหม่ด้วยสิ หว
เนื่องจากกระจกรถของพิมติดฟิล์มสีทึบ คนภายนอกจึงมองไม่เห็นเตชินที่อยู่ข้างในเมื่อทำอะไรเสร็จ พิมก็เดินกลับเข้าไปในบ้านพักแล้วจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเปลี่ยนเป็นใส่ชุดสุภาพของโรงเรียน เป็นเสื้อสูททับเสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงทรงเอ สวมรองเท้าคัทชูสีดำ ทรงผมก็ทำเป็นถักเปียสองข้างเกล้าขึ้นข้างหลังแล้วติดโบว์สีดำให้ดูสุภาพสวยงามแต่งหน้าอ่อนๆ เขียนคิ้วบางๆเป็นธรรมชาติ ทาลิปสีอ่อนให้เข้ากับสไตล์การแต่งหน้าทำให้บุคลิกเธอดูโตขึ้นดูสุขุมสง่างามมีความสวยใสและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นจากนั้นเธอก็เดินออกมาจากบ้านพักครูโดยไม่หันไปสนใจเตชินที่อยู่ในรถเลยทันทีที่เตชินเห็นพิม เขาก็ถึงกับตกตะลึงไปเลย" เป็นแม่บ้านจำเป็นต้องสวยขนาดเลยเหรอหรือ...หรือว่าพิมจะเป็นครูของที่นี่ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อพิมจบแค่มัธยมปลาย เธอจะเป็นครูได้ยังไง "เตชินนั่งอยู่ในรถพึมพำคนเดียว ในสมองเขาเต็มไปด้วยความสงสัยในตัวตนของพิมเต็มไปหมดจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังที่กำลังตื่น เห็นเตชินโทรมา เขาก็รีบรับสายแล้วเอ่ยขึ้น" ครับคุณชาย "" คุณไปสืบประวัติของพิมมาให้หน่อย ว่าเธอจบอะไรกันแ
แม้ป๊อบเพิ่งจะมาถึง แต่ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา รูปร่างที่ดูภูมิฐานแฝงบารมีที่น่าเคารพยำเกรงในตัว เขาก็ได้รับความรักความเอ็นดูความเคารพนับถือจากคณะครูในโรงเรียนอย่างมากแล้วเสียงเชียร์ทำให้พิมไม่อาจทำให้ป๊อบเสียหน้าได้แม้เธอจะสับสน แต่เธอก็ต้องรักษาหน้าของป๊อบไว้เพราะเขาเป็น ผอ. โรงเรียน ที่เพิ่งมาใหม่ และเขาก็ดีกับเธอมาก เธอจึงไม่อาจใจร้ายกับเขาได้ เธอคิดว่า[ ยังไงเราก็โสด เมื่อเขาให้เกียรติ เราก็ควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา ให้ถูกหลักธรรมนองคลองธรรมสักที ]จากนั้นเธอก็ยิ้มขึ้นพร้อมกับรับช่อดอกไม้ของเขาแล้วเอ่ย" ค่ะ ฉันยินดีที่จะคบกับคุณค่ะ "ครูและนักเรียนต่างปรบมือแสดงความยินดีและดีใจกับทั้งสองคนป๊อบได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขึ้นด้วยความดีใจ เขาลุกขึ้นเข้าไปกอดพิมไว้แน่นแล้วเอ่ยด้วยความดีใจ" พิม คุณรู้มั้ยผมรอวันนี้มานานแค่ไหน หลังจากนี้ผมจะดูแลคุณให้ดีที่สุด เราจะก้าวผ่านสิ่งต่างๆไปด้วยกันนะ "เตชินที่วิ่งขึ้นมาถึงบนหอประชุมด้วยความเหนื่อยหอบเห็นพิมตอบรับคำขอของป๊อบใจเขาก็แตกสลายไปเป็นผุยผง เขาเจ็บปวดที่ขั้วหัวใจจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหวแล้ว [ นี่เราจะต้องเสียเธอไปให้อื่นแล้วจริงๆเห
รตีออกมารอเตชินที่หน้าบ้าน พี่เลี้ยงที่ดูแลเธอก็รู้สึกเป็นห่วงและสงสารเธอ ที่ตั้งตารอคอยการมาของเตชิน" คุณรตีกลับเข้าไปรอในบ้านก่อนดีมั้ยคะ ข้างนอกอากาศหนาวเดี๋ยวจะไม่สบายเอา "พี่เลี้ยงเอ่ยอย่างสุภาพรตีมองไปยังพี่เลี้ยงแล้วเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์" ก็เพราะรตีอยากจะไม่สบายไงคะ รตีถึงออกมารอข้างนอกตากลมเล่นแบบนี้ เตชินจะได้รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้รตีป่วยแล้วมาอยู่ดูแลรตีตลอด พี่เข้าใจมั้ย "" เข้าใจค่ะ "พี่เลี้ยงเอ่ยตอบอย่างจนปัญญาที่จะเอ่ยต่อรตีรอเตชินจนร่างกายเย็นเฉียบใบหน้าขาวซีดไปหมดเมื่อผู้เป็นพ่อกลับมา เห็นลูกสาวนั่งตากลมก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งมาหาลูกสาวด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเอ็ดใส่พี่เลี้ยง" ทำไมคุณถึงพารตีออกมาข้างนอกแบบนี้ ผมจ้างคุณมาดูแลลูกสาวผมนะไม่ได้จ้างให้มาเอาเงินเดือนอย่างเดียว หัดใช้สมองบ้าง "คนเป็นพี่เลี้ยงรู้สึกโกรธมาก แต่ก็กดความโกรธเอาไว้ในใจ แล้วก้มหน้าก้มตาเอ่ยเพียงสั้นๆ" ขอโทษค่ะ "แล้วแม่ของรตีก็เดินออกมาจากในบ้านมองไปยังสามีอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยเสียดสีขึ้น" คุณรู้จักเป็นห่วงลูก รู้จักกลับมาบ้านด้วยเหรอ หายไปไหนมาทั้งคืนล่ะ ไปขลุกอยู่กับอีเมียน้อยคนไหนอ
ณัชชานั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเองอย่างเงียบๆ ท่าทางดูสุขุม ดูนิ่งสงบพอผู้ช่วยเข้ามาส่งงานให้เธอ เธอก็เงยหน้าขึ้นมามองผู้ช่วย แล้วเอ่ยถามขึ้น" ท่านประธานมาหรือยัง "" ค่ะ ท่านประธานมาได้สักพักแล้ว "ผู้ช่วยสาวเอ่ยรายงานแล้วเธอก็เอ่ยกับผู้ช่วยสาวด้วยน้ำเสียบเรียบๆว่า" อืม ไม่มีอะไรแล้วคุณไปทำงานเถอะ "" ค่ะ "พอผู้ช่วยของเธอหมุนตัวเดินออกไป เธอก็นึกเรื่องที่จะถามผู้ช่วยขึ้นมาได้ จึงเอ่ยเรียกผู้ช่วยไว้ " เดี๋ยวก่อนค่ะคุณรินทร์ "พอผู้ช่วยหันมาเธอก็เอ่ยถามขึ้น" เรื่องที่ให้ไปตรวจสอบเกี่ยวกับผู้ช่วยคนก่อนคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว "ผู้ช่วยสาวจึงเอ่ยตอบว่า" ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วค่ะ เธอเป็นคนของคุณรตีที่ส่งมาอยู่ข้างกายคุณค่ะ ที่บริษัทมีปัญหาช่วงนั้นรินทร์ตามสืบดูแล้วเป็นฝีมือเธอเหมือนกันค่ะ ส่วนรายละเอียดข้อมูลที่เหลือ รินทร์ส่งให้คุณณัชชาในอีเมลแล้วค่ะ "ได้ยินดังนั้นณัชชารู้สึกพอใจอย่างมาก เธอจึงเอ่ยขึ้น" อืม คุณทำงานได้ดีมาก ไม่มีอะไรแล้วไปทำงานของคุณต่อเถอะ "จากนั้นผู้ช่วยรินทร์ก็หมุนตัวเดินออกไป ณัชชาเผยรอยยิ้มร้ายขึ้นมาที่มุมปากแล้วพึมพำในใจ[ รตี นังหมาลอบกัด ชอบกัดไม่ปล่อยใ
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เตชินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาณัชชาทันที พอณัชชารับสาย เขาก็เอ่ยขึ้นด้วยถ้อยคำสนิทสนมฉันพี่ฉันน้อง" ณัชชา พี่จะไปหาคุณพิม อาจจะอยู่ที่นั่นสักพัก ระหว่างนี้ น้องช่วยดูแลรตีแทนพี่หน่อยนะ ยังไงน้องกับรตีก็เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ก็ใช้โอกาสนี้ปรับความเข้าใจกันเลย "ได้ยินดังนั้นณัชชาก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดีมากขึ้นไปอีก แต่ก็ทำได้แค่บ่นพึมพำออกมาในใจ[ โทรมาพูดจาฉันพี่น้องอย่างเอาอกเอาใจ ที่ไหนได้แค่จะใช้งานให้ดูแลนังมารร้ายอย่างรตี แต่ก็ดีถือโอกาสนี้เล่นสงครามประสาทกับนังรตีมันเลย ดูสิว่าคราวนี้ใครจะตอแหลเก่งกว่ากัน ]แล้วเธอก็เอ่ยขึ้น" ได้ค่ะ ในเมื่อพี่เตชินคิดได้แล้ว ก็ไปหาคุณพิมเถอะ พูดคุยปรับความเข้าใจกันให้ได้ ส่วนรตีพี่ไม่ต้องห่วง ณัชชาจะดูแลให้เอง เรื่องในอดีตณัชชาลืมไปหมดแล้วไม่ได้โกรธเคืองอะไรเธออีกพี่สบายใจได้ณัชชาจะดูแลรตีให้ดีที่สุดค่ะ "เตชินได้ยินดังนั้นก็เผยใบหน้ายิ้มอ่อนอย่างสบายใจแล้วเอ่ย" ขอบใจนะ "" ค่ะ "แล้วรตีก็วางสายไป จากนั้นเธอก็บ่นพึมพำออกมาอย่างอารมณ์เสีย" จะไปหาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแท้ๆ แต่กลับมาห่วงภรรยานอกสมรสอย่างนังรตี ชิ ทำมาเป
พิมที่เต้นอยู่เหลือบไปเห็นเตชิน เธอมองเขาแค่แวบเดียวแล้วไม่สนใจเขาอีกป๊อบหันไปตามสายตาของพิม ก็เห็นเตชินยืนอึ้งมองดูพิมที่กำลังเต้นแต่เขาก็ไม่ว่าอะไร แล้วเขาก็หันกลับมาดูพิมกับนักเรียนที่กำลังซ้อมเต้นต่อ จากนั้นก็ยิ้มขึ้นที่มุมปากเบาๆพอการซ้อมจบลง แม่บ้านก็ถือน้ำเย็นๆมาให้พิม พิมหยิบน้ำขึ้นมาแจกนักเรียน คนละขวดๆเทเท่เปิดน้ำขึ้นมาดื่มทันทีด้วยความกระหาย พิมหันไปมองเขาแล้วเอ่ย" เดี๋ยวก็สำลักน้ำเอาหรอก ค่อยๆดื่มก็ได้ไม่มีใครแย่งหรอก "จากนั้นเธอก็หยิบน้ำขึ้นมาอีกสองขวด เป็นของเธอหนึ่งขวด อีกขวดเธอเอาไปให้ป๊อบที่นั่งรอเธออยู่พอไปถึงตรงหน้าป๊อบ เธอก็ยื่นน้ำไปให้เขาทันที ป๊อบกำลังจะยื่นมือออกไปรับน้ำจากมือของพิม เตชินก็โผล่มาคว้าน้ำจากมือพิมแล้วเปิดฝาดื่มอย่างรวดเร็วอย่างหน้าตาเฉยมือของป๊อบค้างอยู่กลางอากาศ แล้วหันไปมองเตชินที่กำลังดื่มน้ำอย่างเงียบๆ ส่วนพิมและคนอื่นๆต่างอึ้งอ้าปากค้างกันเป็นแถว แต่อึ้งคนละแบบสำหรับพิมเธออึ้งที่ไม่คิดว่าเตชินจะทำนิสัยเสียมารยาทแบบนี้แต่คนอื่นอึ้งเพราะตรงหน้าครูพิมปรากฏหนุ่มหล่อระดับพระเอกซีรี่ส์ถึงสองคนจากนั้นพิมก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นสีห
เมื่อไปถึงร้านอาหาร เทเท่ก็เดินกอดแขนพิมเข้าไปในร้านพอถึงโต๊ะเขาก็นั่งติดกับพิม เพื่อให้สองหนุ่มนั่งด้วยกัน จะได้ไม่แย่งกันนั่งข้างพิม แล้วพวกเขาก็เริ่มสั่งอาหารพออาหารมาเสิร์ฟ เตชินก็เริ่มตักอาหารให้พิม ป๊อบเองก็ไม่ยอมเฉยแล้วตักอาหารไปให้พิมเช่นกันทั้งสองทำราวกับจะแข่งกันตักอาหารใส่จานพิมจนจานของพิมเต็มพิมนั่งนิ่งพยายามกลั้นอารมณ์โมโหเอาไว้ เทเท่เห็นดังนั้นก็ตักเอาอาหารที่อยู่ในจานของพิมมาใส่จานตัวเองแล้วเอ่ย" ฉันรู้ว่าเธอทานไม่หมดหรอก ฉันช่วยทานนะ "อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายพิมทำได้แค่นั่งทานข้าวอย่างเงียบๆ รีบๆทานให้เสร็จ เมื่อเห็นว่าเทเท่ดูอิ่มแล้วทานต่อไม่ไหวแล้ว เธอจึงเอ่ยขึ้น" พวกเราอิ่มแล้ว ขอตัวนะคะ "จากนั้นเธอก็จูงมือเพื่อนสาวเดินออกมาจากร้านอาหารด้วยสีหน้านิ่งอย่างเย็นชาเทเท่มองหน้าเพื่อนสาวแล้วเอ่ยถามขึ้น" อีพิม เธอยังโอเคอยู่หรือเปล่าวะ เธอต้องใจเย็นๆนะเว้ย รอให้กลับไปถึงโรงเรียนก่อน เดี๋ยวทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้มันก็จะผ่านไปเอง "" อีเท่เธอรู้มั้ยว่าฉันแทบจะหมดความอดทนแล้ว ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ด้วยวะสมัยเรียนก็เจออีน้ำหนึ่ง พอจบมาก็เจอเตชิน น
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ