หลังจากพ่อแม่ตายไป เย่มู่มู่ก็ใช้ชีวิตอย่างเลอะ ๆ เลือน ๆ มาตลอดจึงไม่ได้สังเกตเห็นแต่แรกว่าในบ้านมีสิ่งของเพิ่มขึ้นมาโดยไร้สาเหตุยกตัวอย่างเช่นบางครั้งก็เป็นกระดาษเหลืองโบราณที่เขียนรายงานเกี่ยวกับการรบ ภัยแล้งและทุพภิกขภัยด้วยอักษรตัวเต็มบางคราก็เป็นเศษชามกระเบื้องเก่า ๆ ที่แตกไปครึ่งหนึ่งมีหนหนึ่งที่จู่ ๆ ในบ้านก็มีเศษดาบเปื้อนเลือดปรากฏขึ้นมาเธอถึงได้ค้นพบด้วยความตกอกตกใจ นึกว่าในบ้านมีผีแล้วเสียอีก!วันนี้ตอนกลางวันแสก ๆ ในบ้านอยู่ดี ๆ ก็มีเสื้อชั้นในยุคโบราณเปื้อนเลือดโผล่มา เสื้อชั้นในตัวนั้นมีสีออกเหลืองเปื้อนคราบเหงื่อไคลมือเธอไปสัมผัสโดนเข้าพอดี~อ้าก~เสื้อยังอุ่นอยู่เลย!เลือดก็อุ่นเหมือนกัน!เย่มู่มู่กรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจนานทีเดียว จนกระทั่งในบ้านไม่มีสิ่งของโผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีก เธอถึงสงบสติเย็นลงได้เย่มู่มู่หยิบเสื้อชั้นในขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แน่ใจว่าเป็นเสื้อชั้นในแบบโบราณ เป็นของผู้ชาย เจ้าของเสื้อชั้นในตัวนี้สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ช่วงไหล่กว้างจุดที่เสื้อชั้นในปรากฏขึ้นคือ พาดอยู่บนปากแจกันดอกไม้ใบเขื่องตรงมุมห้องรับแขก
จ้านเฉิงอิ้นหันขวับไปทางนั้น แจกันเขรอะฝุ่นตรงมุมผนังมีน้ำพุ่งออกมาไม่หยุดน้ำพุ่งรุนแรงมาก สาดถูกอาภรณ์ของเขากับหมอซ่งจนเปียกชุ่มเขาผุดลุกขึ้นยืน มือสองข้างกำแน่นจนสั่นน้อย ๆ“นี่ คือน้ำงั้นรึ?”ทุกคนไม่ได้เห็นน้ำมาครึ่งค่อนปีแล้ว หมอซ่งใช้สองมือกอบน้ำมาดื่มหวานเย็นชุ่มชื้น เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!เขาร้องเสียงดังด้วยความพลุ่งพล่านใจ “ท่านแม่ทัพ เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!”เหล่าทหารในด่านเจิ้นกวนเฝ้ารอน้ำทุกวัน รอมาครึ่งค่อนปีแล้วขุดหาแหล่งน้ำใต้ดิน ขุดไปสิบกว่าบ่อ ขุดลงไปลึกเกินสามสิบจั้ง[1]แล้วก็เจอแต่ทรายเหลืองแห้ง ๆ ไม่เจอน้ำแต่อย่างใดหมอซ่งนำชามแตกเป็นรูมารองน้ำให้แม่ทัพ ประคองด้วยสองมือที่สั่นระริก“ท่านแม่ทัพ ท่านลองชิมดูสิ”จ้านเฉิงอิ้นใช้มือข้างเดียวรับมาจิบคำหนึ่ง หวานเย็นชื่นใจ เป็นน้ำสะอาดเขาดื่มรวดเดียวจนหมด!“สวรรค์ประทานน้ำอมฤต สวรรค์ไม่ได้ต้องการให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าพินาศ!”สิ้นคำ นายทหารหลายนายก็ถลาเข้ามาด้วยความยินดี ใช้สองมือรองน้ำดื่มอึก ๆ ๆหมอซ่งรองน้ำให้แม่ทัพอีกชาม ส่งมาให้เขาดื่มนายทหารหลายนายนั้นดื่มน้ำไปพลางเอ่ยด้วยความยินดี “ท่านแม่ทัพ เทพยดาบ
จ้านเฉิงอิ้นยัดกล่องข้าวใส่อกพวกเขา “เดี๋ยวท่านเทพก็ประทานอาหารให้ข้าอีกนั่นแหละ พวกเจ้ารับไว้เถอะ”นายทหารทั้งสิบคนมองหน้ากัน อยากบ่ายเบี่ยง แต่แล้วก็นึกถึงคนในครอบครัวที่หิวโหยจนเหลือเพียงลมหายใจรวยรินรู้สึกว่าในอกหนักอึ้งนับพันชั่ง!อู๋ซานหลางที่ในครอบครัวมีลูกชายอายุยังน้อยใกล้จะหิวตายรับมาคนแรกเขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เอ่ยทั้งน้ำตาคลอหน่วย “ขอบคุณท่านแม่ทัพ ข้าสามารถเอากลับไปส่งที่บ้านก่อนได้หรือไม่ ภรรยากับลูกข้าหิวจนใกล้จะไม่ไหวแล้ว”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “รีบเอาไปส่งเถอะ!”อู๋ซานหลางกอดกล่องข้าววิ่งกลับบ้านไปก่อนนายทหารอีกเก้านายซ่อนกล่องข้าวไว้ในอก นำอาหารกลับไปส่งที่บ้านจ้านเฉิงอิ้นกำชับให้พวกเขากลับมาเร็วหน่อย จะได้มากินโจ๊กด้วยกันอย่าดูแคลนข้าวกับอาหารหนึ่งกล่องเชียว ถ้านำไปต้มเป็นโจ๊ก คนทั้งครอบครัวรับประทานอย่างประหยัดก็สามารถเก็บไว้กินได้สองวัน ช่วยให้ไม่อดตายในช่วงหลายวันนี้หากผสมใบไม้เปลือกไม้ลงไปยังสามารถเก็บไว้ได้นานกว่านั้นช่วงเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป นายทหารทั้งสิบก็กลับมา แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ขอบตาแดงเรื่อหลังนั่งลง อาหลี่ก็ยกหม้อโจ๊กเข้ามาข้
หลังเย่มู่มู่โยนอาหารหมดอายุลงไปจนหมดก็ขึ้นไปชั้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอสว่างขึ้นไม่หยุด เป็นคุณอาคุณลุงในครอบครัวเธอโทรมาพ่อแม่ล่วงลับ เธอกลายเป็นเด็กกำพร้า คุณอาคุณลุงร่วมมือกับคุณย่ามาหาถึงบ้าน หมายจะฮุบทรัพย์สินของเธอโชคดีที่คุณพ่อคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าจึงทิ้งพินัยกรรมเอาไว้ในโถงตั้งโลงศพของคุณพ่อคุณแม่ คุณอาคุณลุงรวมถึงคุณย่ากดดันให้เธอมอบทรัพย์สินของคุณพ่อออกไปยังอ้างเสียสวยหรูว่าจะช่วยดูแลให้เธอบอกว่าเธอเป็นผู้หญิง ต้องแต่งงานไม่ช้าก็เร็ว จะบริหารบริษัทใหญ่มูลค่าหลายหมื่นล้านได้อย่างไรห้องชุดสิบกว่าห้อง ร้านค้าหลายร้านกับตึกปล่อยเช่าอีกสองตึกบอกให้เธอส่งมอบทั้งหมดนั้นออกไปให้พี่น้องของคุณพ่อแบ่งสรรปันส่วนกันคุณพ่อไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเพียงหนึ่งเดียวของบริษัท แต่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ถือหุ้นสามสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เย่มู่มู่ขอให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นช่วยออกหน้า ช่วยเธอปกป้องทรัพย์สมบัติเอาไว้เธอไม่เข้าร่วมการบริหาร รับแค่เงินปันผลเท่านั้นเธอสละสิทธิ์ในการบริหาร ผู้ถือหุ้นรายอื่นย่อมยินดีอยู่แล้วบอดี้การ์ดปรากฏตัวขึ้นในโถงตั้งโลงศพจึงควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
เย่มู่มู่ตื่นขึ้นมาก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เธอนอนอยู่บนโซฟาในห้องนอนของพ่อแม่ บนหมอนยังคงเปียกชื้นเธอคิดถึงพวกเขามากเกินไปจนร้องไห้ระหว่างหลับฝันอีกแล้วตีสองครึ่ง ตอนลงมาชั้นล่างไฟในห้องรับแขกยังคงสว่างอยู่แต่มีกระดาษเหลืองโบราณเพิ่มมาหลายแผ่นอ้าก!เจ้าแจกันนี่เอาขยะมาทิ้งในบ้านอีกแล้ว!เธอเดินเข้าไปในห้องรับแขกชั้นล่างด้วยความเดือดดาล คว้ากระดาษเหลืองเขรอะฝุ่นแผ่นนั้นลงมาตัวอักษรเป็นแบบตัวเต็ม เขียนตามแนวตั้งลักษณะรอยหมึกขาด ๆ หาย ๆ เหมือนใช้ขี้เถ้าเขียนรอบก่อนมีแค่ไม่กี่ตัวอักษร รอบนี้กลับเขียนมายาวพรืด รอยพู่กันคมกริบ ตัวอักษรหวัดฉวัดเฉวียนมีทั้งหมดสี่หน้ากระดาษ เธอไม่รู้ว่าเขียนอะไรบ้างใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเอาเข้าโปรแกรมแปลภาษาค่อยทราบว่าคือคำอธิษฐานขอพรแคว้นต้าฉี่ รัชศกชูหยวนปีที่สาม กองทัพตระกูลจ้านพิทักษ์ด่านสำคัญบริเวณชายแดน ถูกกองทัพสามแสนของเผ่าหมานปิดล้อมกลายเป็นเมืองที่ปิดตายทหารหาญสองแสนคนพลีชีพในสมรภูมิเหลือเพียงสองหมื่นคนด่านเจิ้นกวนเกิดภัยแล้งรุนแรง แม่น้ำเหือดแห้งพืชพรรณเฉาตายราษฎรเพาะปลูกไร้ผลเก็บเกี่ยว กินเปลือกไม้ใบหญ้าจนหมดเกลี้ยงในเมื
เมื่อเห็นกองทองคำที่เหลืองอร่ามกองนี้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้หลงใหลในเงินตรา แต่ก็ยากที่จะปล่อยออกจากมือใครจะสามารถปฏิเสธเครื่องประดับอัญมณีได้ล่ะ?เธอวิ่งไปสัมผัสกับก้อนทองคำอย่างมีความสุข แล้วลองสวมสร้อยข้อมือทองคำมีสร้อยคอหลายเส้นห้อยอยู่รอบคอของเธอ เส้นผมของเธอก็ประดับประดาเต็มไปด้วยปิ่นปักผมทองและปิ่นระย้ารวยแล้ว!ตามราคาทองคำในปัจจุบัน ทองคำกองนี้มีมูลค่าหลายสิบล้านยิ่งเป็นของโบราณ เมื่อเอาไปขาย ก็ยิ่งประเมินค่าไม่ได้อ๊า หนิงกวนโหวช่างเป็นคนดีจริง ๆ!ตอนนี้เธอชอบการช่วยเหลือคนเสียแล้วสิ!ชอบทำบุญสุด ๆ!ชอบเลี้ยงคนโบราณหนึ่งแสนคน!ไม่หวังอะไรอย่างอื่น การได้มองดูทองคำเหลืองอร่ามระยิบระยับแสนน่ารัก ก็ทำให้เธอมีความสุขเป็นอย่างยิ่งแล้ว!*เย่มู่มู่ยกลังไม้ใบใหญ่สามใบลงมาจากชั้นบน แล้วนำทองคำออกมาจัดระเบียบแค่ทองก้อน เหรียญทอง ทองหยวนเป่า ก็ใส่เต็มสองลังใหญ่แล้วจากนั้นก็นำลังใบใหญ่อีกใบมาใส่เครื่องประดับมุกและทอง แยกใส่ถุงซิปล็อค แล้ววางไว้เป็นระเบียบแต่ใส่ไม่หมดมันไม่สามารถใส่ให้หมดได้อยู่แล้ว!ของที่เหลือล้วนเป็นของที่ทำด้วยทองคำ รวมถึงชุดจอกสุรากาสุรา กาสุราแ
ทหารสิบนายเดินกลับมาจากบ้าน พวกเขาขอบตาแดงก่ำ ต่างผ่านการร้องไห้มาเมื่อวานนี้สีหน้าของพวกเขาแต่ละคนเต็มไปด้วยความโศกเศร้าปนความสิ้นหวังทว่าตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ต่อให้ขอบตาจะแดงก่ำ แต่ปากกลับฉีกยิ้มพวกเขากำลังรอให้เย่มู่มู่ส่งน้ำมาให้!ในเวลานี้ ที่หน้าประตูจวนแม่ทัพเกิดเสียงดังวุ่นวาย มีผู้ลี้ภัยกำลังสร้างปัญหาจ้านเฉิงอิ้นให้เถียนฉินออกไปดูพวกเขาออกไปได้ไม่นาน คนที่มารวมตัวกันสร้างปัญหาก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียงดังเข้ามาในจวนด้านในได้ยินกันชัดเจนจ้านเฉิงอิ้นลุกขึ้น เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงทุกคนร้องตะโกนว่า “ขอท่านแม่ทัพได้โปรดเปิดยุ้งฉางแจกจ่ายธัญพืชออกมาด้วยเถอะ”“ท่านแม่ทัพ ทั้งที่จวนของท่านมีข้าวสาร เหตุใดต้องซ่อนไว้กินเพียงคนเดียว? หรือว่าท่านอยากจะมองดูชาวบ้านด่านเจิ้นกวนหิวตายทั้งเป็นไปต่อหน้าต่อตาหรือ?”“ท่านแม่ทัพ ได้โปรดช่วยพวกชาวบ้านด้วยเถอะ พวกเราไม่อยากหิวตาย!”หน้าประตูจวนแม่ทัพ ชาวบ้านที่สร้างปัญหาก็มีถึงสองร้อยคนแล้ว!ผู้นำก็คือชายที่มีนามว่าหลิวซื่อ ภายใต้ใบหน้ายาวนั้นคือดวงตาสามขาวและโหนกแก้มโดดเด่นเขารู้จักกับพ่อที่แลก
เมื่อพ่อได้ยินคำพูดนั้นก็โกรธเป็นอย่างมาก ไล่ญาติ ๆ ทุกคนออกจากบริษัทแล้วก็จัดทำพินัยกรรมล่วงหน้าทรัพย์สินของเขา พี่น้องกับหลาน ๆ ไม่มีใครได้ไปสักสตางค์เดียวพอพวกนั้นรู้ว่าไม่ได้อะไรจากพินัยกรรม พยายามโทรหาเย่มู่มู่ก็ไม่ติด ก็เลยเริ่มวนเวียนอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน หวังจะเจอเธอเย่ซินไม่รู้ว่ารออยู่หน้าหมู่บ้านนานแค่ไหน จนสุดท้ายก็ดันเจอเธอที่กำลังจะออกไปข้างนอกเขารีบพาผู้ชายวัยกลางคนมาพบเธอทันทีเย่มู่มู่ขมวดคิ้วถามเสียงเย็นชา “มีเรื่องอะไร?”เย่ซินยิ้มอย่างกระตือรือร้น“มู่มู่ เรามานั่งคุยกันหน่อย พี่จะแนะนำคนให้เธอรู้จัก คุณหวัง เขาเพิ่งหย่าเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้เป็นหนุ่มโสดสุดฮอตเลยนะ!”“ดูสิ คุณหวังทั้งสุขุมและมั่นคง ภายนอกก็ดูภูมิฐาน เขาเป็นเจ้าของใหญ่ของหัวหวังกรุ๊ป...”“เหมาะกับเธอที่สุดแล้ว!”คุณหวังที่พูดถึงนั้นหัวล้านกลางศีรษะ พุงก็ใหญ่จนดูอ้วนกว่าปกติ ดูแล้วอายุมากกว่าพ่อของเธอเสียอีกอายุอย่างน้อยก็คงห้าสิบห้าปีขึ้นไปเขาสวมแหวนทองวงใหญ่ มืออ้วน ๆ ของเขาลูบคางแล้วมองเย่มู่มู่ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาหื่นกามเมื่อเห็นว่าเธอมีผิวขาวเนียน รูปร่างผอมเพรียว โดยเ
แต่หลังจากที่เขาก่อกบฏแล้ว บรรดาบุตรสาวของตระกูลขุนนางชั้นสูงทั้งสิบตระกูล ต่างก็จับจ้องมาที่เขา ในบรรดาพวกเขาทั้งหมด ชุยลั่วซิน จากตระกูลชุยแห่งป๋อหลิงกระตือรือร้นกับเขามากที่สุดหญิงสาวสวมชุดกระโปรงผ้าแพรสีม่วง หลังจากลงจากรถม้า นางยิ้มและเดินไปหาเขาหญิงสาวอายุสิบหกปี กำลังเบ่งบานในช่วงเวลาที่งดงามที่สุดนางมีความน่ารักสดใสของหญิงสาวยุคใหม่ และความสง่างามสงวนท่าทีของหญิงสาวโบราณนางคำนับมู่ฉีซิวอย่างอ่อนโยนหลังจากลุกขึ้น นางกล่าวด้วยน้ำเสียงน่ารัก “พี่มู่ ท่านไม่ได้เขียนจดหมายถึงลั่วซินนานแล้ว วันนี้ลั่วซินว่าง จึงเข้ามาในเมืองเพื่อพบท่าน!”“ตอนนี้กองทัพลู่เจ๋อพ่ายแพ้แล้ว ท่านจะมาเยี่ยมเยียนที่ป๋อหลิงเมื่อใด?”คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของหญิงสาว ขจัดความโหดร้ายทั้งหมดในตัวของมู่ฉีซิวหลังจากก่อกบฏแล้ว เขาถึงได้เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงอยากเป็นฮ่องเต้การยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอำนาจ สามารถเรียกลมเรียกฝนได้!หญิงสาวจากตระกูลขุนนางที่มีภูมิหลังสูงส่งอย่างชุยลั่วซิน ล้วนรายล้อมอยู่รอบตัวเขาแม้ว่าเขาจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำในยุคปัจจุบัน เขาก็ไม่มีทางได้สัมผัสกับความรู้สึกที่หญิงสาว
ดังนั้น ในชั่วข้ามคืน เขาไม่เพียงแต่สูญเสียโรงงานระเบิดและสายการผลิตกระสุนเท่านั้นแต่ยังรวมถึงภูเขาเหมือง โรงงานถลุงเหล็ก สายการผลิตอาวุธปืน...ทั้งหมดหายไปแล้ว!ในชั่วข้ามคืน รากฐานทั้งหมดของเขากลายเป็นศูนย์เขาจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไรหลังจากเตะโต๊ะล้ม เขาก็ชักดาบออกจากเอว ตั้งใจจะฟันทหารที่มาแจ้งข่าว!รองแม่ทัพรีบห้ามเขาไว้ และส่ายหัว“ท่านหัวหน้า ไม่ได้นะขอรับ หากท่านทำเช่นนี้ ท่านจะสูญเสียความศรัทธาจากผู้คน!”เขาหัวเราะเยาะ แล้วถอยหลังไปสองสามก้าว!นับตั้งแต่เขามายังโลกโบราณ~ทุกอย่างราบรื่นมาก!เกลือบริสุทธิ์ สบู่ หม้อไฟ... ขายในราคาแพงได้อย่างง่ายดายครอบครัวของเขายังเป็นพ่อค้าธัญพืช ร้านค้าธัญพืชของเขาครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคว้นต้าฉี่เมื่อเขาทำกำไรมหาศาลแล้ว เขาได้พบเหมืองแร่และหล่ออาวุธออกมาแม้แต่ดินระเบิดก็ยังถูกพัฒนาออกมาดูสิ เขาช่างโชคดีเพียงใดโชคดีจนฟ้าดินเข้าข้างเขา!เมื่อเขาหาข้ออ้างในการก่อกบฏ แผ่นดินหัวเซี่ยก็ประสบกับภัยแล้งครั้งใหญ่ในรอบพันปีเขารวบรวมผู้ประสบภัย และเริ่มการก่อกบฏได้อย่างราบรื่นภายในระยะเวลาอันสั้น เขารวบรวมผู้คนได้ถึงห
เพียงแต่ เขาเกิดอาการว้าวุ่นใจ รู้สึกว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายอย่างนี้หากว่า พวกเขาไปทำลายโรงงานระเบิดจริง ๆ ล่ะ?กรณีเลวร้ายที่สุด โรงงานระเบิดแตกระเบิดทั้งหมด กองทัพลู่เจ๋อเจ็ดหมื่นคนไม่ต้องมีชีวิตต่อไปเช่นกันหลังจากนั้นต้าฉี่ก็จะไม่มีกำลังทหารมารับมือกับเขาอีกขอแค่จ้านเฉิงอิ้นไม่มีชีวิตรอด ในต้าฉี่ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเขาไม่อยากสนใจกองทัพลู่เจ๋อแค่อยากรู้ว่าจ้านเฉิงอิ้นเดินทางถึงที่ไหนมีข่าวของเขาหรือไม่มู่ฉีซิวคาดหวังว่าชีวิตของจ้านเฉิงอิ้นจะร่วงหล่นตั้งแต่ถนนช่วงที่หนึ่งเขาจัดการได้ในคราเดียวแน่นอน!*ขณะที่มู่ฉีซิวเพ้อฝันว่าฆ่าจ้านเฉิงอิ้นตายแล้ว…จ้านเฉิงอิ้นกลับไม่ได้ใช้เส้นทางที่เขาคิดไว้ล่วงหน้าด้วยซ้ำเขาไปขโมยบ้านเรือน~ไม่ใช่ ไปขโมยเหมืองแร่แล้ว!เขาพากำลังคนหนึ่งแสนเร่งเดินทางโดยออกนอกเส้นทาง!ให้ทหารส่วนหนึ่งขับรถและขับให้เร็วที่สุดเพื่อไปบรรจบกับหลัวอวี๋ก่อนคนที่เหลือตามมาทีหลังคนที่มาถึงก่อน เตรียมการไว้ให้ครบครันคนที่มาถึงทีหลัง เมื่อมาถึงแล้วจะได้ลงมือยึดเหมืองแร่โดยตรงบางทีมู่ฉีซิวอาจมุ่งความสนใจทั้งหมดไว้ที่กองทัพลู่เจ๋อและรู้ว่าพ
มู่ฉีซิวนั่งบนเก้าอี้หนังเสือตัวใหญ่ คิ้วตาเรียวยาวแฝงยิ้มจ้องบนแผนที่ไม่ขยับไปไหนเส้นทางการเดินทัพของกองทัพตระกูลจ้านลำดับต่อไป กองทัพตระกูลจ้านจะเข้าสู่ใจกลางพื้นที่ที่ราบภาคกลางส่วนในเขาไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอย่างซูซื่อไห่ผู้นั้นเมื่อเขาต่อสู้กับจ้านเฉิงอิ้น จะไม่เหลือทางหนีให้เขาแน่ดังนั้น เขาจึงวางระเบิดตามถนนสามช่วงที่แตกต่างกันแม้ว่าจ้านเฉิงอิ้นเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องไม่มีใครเทียบ ช่วงแรกหลบไปได้ เช่นนั้นแล้วช่วงที่สองล่ะ?ช่วงแรกจะมีขอทานจำนวนมาก พุ่งเข้าขวางทางเดินของกองทัพตระกูลจ้านพร้อมกันดั่งฝูงผึ้งขอเพียงแค่พวกเขาเสียเวลาล่าช้าครู่เดียว ถนนทั้งเส้นก็จะถูกระเบิดทำลายทั้งหมด กองทัพตระกูลจ้านหนึ่งแสนคนก็จะตายกันหมดแต่ถ้าพวกเขาไม่สนใจขอทานหรือไม่ใช้ทางลัดเส้นอื่นยังมีถนนช่วงที่สอง จะมีเด็กผู้หญิงขายร่างกายตามท้องถนนได้ยินว่าจ้านเฉิงอิ้นรักษาความบริสุทธิ์และไม่มีผู้หญิงข้างกายแต่รัฐทายาทน้อยผู้รักอิสระผู้ซึ่งชอบค้างแรมหอโคมเขียวเป็นประจำ เพื่อเป็นที่หนุนหลังให้กับหญิงเจ้าของหอโคมเขียวถนนช่วงนี้บางทีอาจหลอกจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ แต่รัฐทายาทน้อยผู้นั้นล่ะ?ตั้งแ
ม้าหนึ่งตัวลากรถสามล้อหนึ่งคันข้างหน้านั่งสองคน ข้างหลังเบียดกันแปดคน รองรับคนได้ทั้งหมดพอถูไถเมื่อถึงเวลากลางคืน จะออกเดินทางพร้อมกันจ้านเฉิงอิ้นเขียนจดหมายให้ผู้นำทัพของกองทัพลู่เจ๋อ“หลังจากหารือร่วมกันแล้ว ทุกคนตัดสินใจต้อนรับทุกท่านเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านของข้า!”“หลังจากนี้เป็นต้นไป พวกท่านจะเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพตระกูลจ้าน ทหารของกองทัพตระกูลจ้านจะมีเสบียงอาหารและน้ำที่เพียงพอมอบให้”“เมืองอวิ๋นโจวมีโรงงานระเบิดของกองทัพธงเหลือง จางเฉาได้พาคนหมอบซุ่มอยู่ที่นั่น จำไว้ ระวังตัวด้วย…”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวไว้คำหนึ่ง โรงงานระเบิดอยู่ที่เมืองอวิ๋นโจวเพียงแค่กองทัพลู่เจ๋อมีอารมณ์โกรธอยู่บ้าง ก็จะทำลายโรงงานระเบิดทันทีที่สำคัญจางเฉาพกระเบิดไปด้วยไม่น้อย เขาไม่ต้องออกโรง กองทัพลู่เจ๋อจะทำลายโรงงานระเบิดทั้งหมดเองขอเพียงกองทัพลู่เจ๋อไปปรากฏตัวตรงโรงงานระเบิดเมื่อทำเช่นนั้นแล้ว ความสนใจของมู่ฉีซิวก็จะตกอยู่ที่เมืองอวิ๋นโจวและคอยสังเกตุการเคลื่อนไหวของโรงงานระเบิดตลอดเวลาถึงกระทั่งเพิ่มกำลังการป้องกันเมื่อเป็นเช่นนั้น มุมของเหมืองแร่ก็จะไม่มีใครสนใจพวกเขาบุกยึดเหมืองแร
หลังจากจ้านเฉิงอิ้นแสดงความเห็นออกไป เหล่านายทหารต่างแสดงเห็นด้วย!“เมื่อแม่ทัพใหญ่รู้สึกว่าที่แห่งนี้จำต้องยึดมา เช่นนั้นเราจะทำการเข้ายึดเหมืองแร่ก่อน!”พวกเขายืนขึ้นทุกคนและคุกเข่าข้างเดียวพร้อมกับคารวะจ้านเฉิงอิ้น“ข้าน้อยเต็มใจยอมเป็นม้ารับใช้ท่าน!”จ้านเฉิงอิ้นพยุงคนให้ยืนขึ้น “ลุกขึ้นเถิด คืนนี้ออกเดินทางก่อนส่วนหนึ่ง คนที่มีรถกับม้า ค่อยเดินทางในอีกสามวัน!”“ขอรับ แม่ทัพ!”“กลับไปเตรียมตัวเถอะ!”ขณะที่ทุกคนใกล้จะแยกย้ายจากไป มีทหารขี่ม้ามารายงานอย่างเร่งรีบ“มีรายงาน แม่ทัพใหญ่ กองทัพลู่เจ๋อส่งมอบหนังสือชี้แจง!”เหล่านายทหารถึงกับหยุดฝีเท้าและหันกลับมาจ้านเฉิงอิ้นรับจดหมายเอาไว้และเปิดม้วนหนังแกะที่อยู่ด้านในเห็นเพียงบนนั้นกล่าวว่ากองทัพลู่เจ๋อถูกฮ่องเต้หลอก ตำแหน่งสูงเงินเดือนสูง รางวัลศักดินาอะไรเหล่านั้น…พวกเขาไม่เคยเห็นแม้แต่หัวเมืองและที่ดินของตนเองว่ามีหน้าตาเป็นเช่นไรเลยด้วยซ้ำ!กองทัพที่มีเกือบสามแสนคนในตอนแรกตอนนี้เหลือไม่ถึงแปดหมื่นคน สองวันนี้มีคนหนีไปอีกไม่น้อยพวกเขายอมอดอาหารดีกว่าและไม่เต็มใจไปปิดล้อมโจมตีอีกเพราะว่ากองทัพธงเหลืองมีระเบิด แ
โรงงานทั้งหลังใหญ่มากกินพื้นที่อยู่หลายหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านมีหน้าที่รับผิดชอบกระบวนการที่แตกต่างกันมีรับผิดชอบผลิตสายนำระเบิดมีรับผิดชอบเผาปูน!ของสำเร็จรูปจะประกอบที่หมู่บ้านกลางซึ่งมีทหารอยู่จำนวนมากที่สุดอากาศยานไร้คนขับขนาดใหญ่สามารถบินเข้าไปได้จางเฉาตื่นเต้นมากและเขียนในจดหมาย “แม่ทัพ ให้ข้าไปวางระเบิดเถอะ ข้าสามารถระเบิดทั้งโรงงานได้คืนนี้เลย”“ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร? ก็แค่วางระเบิดเท่านั้นเอง!”“ข้าแทบรอไม่ไหวแล้ว! ระเบิดตอนกลางคืน เพลิงไฟต้องสวยมากแน่ขอรับ!”เซี่ยเวยกล่าว “แม่ทัพใหญ่ จะให้จางเฉาวางระเบิดหรือไม่?”นายทหารหลายคนมองมาที่เขาจ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “อย่าปล่อยให้เขาจุดพลุไฟ แต่ดำเนินการกวาดล้างกองกำลังป้องกันทั้งหมด”ภายในโรงงานดินปืน กองทัพธงเหลืองมีอยู่แปดหมื่นคน!แปดหมื่นคนนี้เผชิญหน้ากับกองทัพตระกูลจ้าน จะทำให้พี่น้องตายและบาดเจ็บตั้งเท่าไหร่!พวกนายทหารพากันหัวเราะแม่ทัพใหญ่ไม่ใช่ไม่ให้วางระเบิด แต่ต้องการกวาดล้างคนให้หมด“พลเมืองที่ถูกบังคับให้ทำงานข้างในนั้นล่ะขอรับ?”“วางระเบิดโรงงานขนาดเล็กก่อนแล้วรอทหารรักษาการณ์ส่วนใหญ่ไปตรวจดู ยั
จ้านเฉิงอิ้นอ่านแผนการค้าที่เย่มู่มู่ส่งให้เธอเป็นคนมีความคิดรอบคอบและยังรู้วิธีทำการค้าถึงแม้ไม่มีทองคำเงินเครื่องประดับที่เขาส่งให้ แต่เธอก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้เช่นเดียวกันเขายิ้มแย้มเขียนจดหมายตอบกลับ “ขอรับ คำพูดของท่านเทพเป็นใหญ่ที่สุด!”“อืม งั้นข้าจะสั่งซื้อตอนนี้เลย”เย่มู่มู่จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุดวิทยาลัยจะเปิดเรียนในอีกหนึ่งอาทิตย์ เดิมทีเธอวางแผนไปเมืองหลวงล่วงหน้าเพื่อปรับตัวให้เข้ากับบ้านหลังใหม่และดำเนินการขั้นตอนของโรงเรียนนานาชาติที่หลูซีจะเข้าเรียนให้เรียบร้อยดูจากวันนี้ คงต้องยืดเวลาเดินทางไปเมืองหลวงออกไปอีกห้าวันเธอไหว้วานเวินลี่ดำเนินการขั้นตอนการเข้าเรียนของหลูซีให้เสร็จล่วงหน้า!เธอเร่งตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวให้นำของจากสำนักงานใหญ่มาส่งภายในคืนนั้นสำหรับรองเท้า เธอให้เจ้าของร้านส่งมาในคืนนั้นรองเท้ายี่ห้อนี้ ถือว่ามีชื่อเสียงเล็กน้อยในประเทศก่อนหน้านี้ ภายหลังการแข่งขันสูงขึ้น บริษัทเริ่มชักหน้าไม่ถึงหลังช่วงเวลารุ่งเรืองสูงสุด มีห้าพันกว่าสาขาทั่วประเทศต่อมาร้านค้าปิดตัวลงปีละหนึ่งพันกว่าร้านค้าหลังจาก
ตั้งแต่หลูซีเข้าเรียนหนังสือ เขาได้เรียนวิธีใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ใช้เวลาคำนวณนานมากสุดท้ายเขาคำนวณได้ว่า เครื่องลายครามหนึ่งชิ้นขายได้หนึ่งพันล้านบาทหนึ่งพันล้านบาทสามารถซื้อเสบียงอาหารได้ห้าร้อยชั่ง!เสบียงอาหารห้าร้อยชั่งสามารถเลี้ยงคนได้สองแสนแปดหมื่นคนเป็นเวลาหนึ่งปีเพียงหมอนลายครามเล็ก ๆ เท่านี้ สามารถเลี้ยงได้สองแสนแปดหมื่นคนเป็นเวลาหนึ่งปี!พวกเขารู้สึกว่าเงินนี้ช่างหาง่ายเหลือเกินทันใดนั้น หลูซีกับหลูหมิงก็นำสิ่งของมีมูลค่าที่อยู่บนตัวออกมาทั้งหมด!สนับข้อมือตรงข้อมือของหลูซีเป็นของรางวัลจากรัฐทายาทน้อยทำมาจากหนังแพะ บนนั้นฝังทองคำและอัญมณีเอาไว้ งดงามเป็นอย่างยิ่งนี่คือของชิ้นเล็กที่มีมูลค่าสูงสุดของเขาส่วนหลูหมิงหยิบของที่ตนเองสะสมมาเป็นเวลานาน มีแก้วลายครามหนึ่งใบแหวนสำหรับยิงธนูหนึ่งวง มีรอยสึกมากแต่ยังใช้งานได้และยังหยิบมีดสั้นฝังทองคำกับอัญมณีอีกหนึ่งเล่มเป็นของรางวัลที่รัฐทายาทมอบให้เขาเช่นกันรัฐทายาทเป็นคนใจกว้าง ใครทำผลงาน เขาไม่เคยตระหนี่ในของรางวัลเลยสักครั้งหลูซีเห็นพี่ใหญ่หลูหมิงหยิบมีดสั้นออกมาเข