Share

บทที่ 267

Author: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นมองสายตาแน่วแน่ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เป็นไปไม่ได้! ท่านเทพเป็นเทพองค์เดียวในโลก!”

มั่วฝานยักไหล่ พลางวางขวดเปล่าลง

“ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้น เพราะกองทัพธงเหลืองไม่เพียงแต่มีอาวุธที่ล้ำหน้าเท่านั้น”

“กองทัพธงเหลืองยังมีเสบียงอาหาร...ที่จำนวนคนในกองทัพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็เพราะชาวบ้านใกล้จะอดตายกันหมด ขอแค่มีคนให้ข้าวกิน ไม่ใช่แค่ยอมเข้าร่วมกองทัพ แต่ถึงขั้นยอมสละชีวิตให้ด้วยซ้ำ!”

“ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้บอกท่าน แม่ทัพลู่เคยนำทหารสองแสนไปต่อสู้กับกองทัพธงเหลืองเมื่อครึ่งเดือนก่อน แต่พ่ายแพ้...”

“ตอนนั้นกองทัพธงเหลืองมีคนแค่หลักหมื่นเท่านั้น เหตุที่ไม่มีข่าวแพร่ออกไป เพราะทางราชสำนักปิดเรื่องนี้ไว้”

“ตอนนี้กองกำลังภายใต้แม่ทัพลู่ ไม่เหลือสองแสนอีกแล้ว คงราว ๆ หนึ่งแสนห้าหมื่นเท่านั้น”

“หากพวกเขาไม่เปลี่ยนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีกว่านี้ การเผชิญหน้ากับกองทัพธงเหลืองจะไม่มีทางชนะได้!”

“ท่านแม่ทัพ คิดว่าวิธีนี้คล้ายกับวิธีที่ท่านใช้ในการปกป้องด่านเจิ้นกวนจากศัตรูหรือไม่?”

เมื่อคำพูดของมั่วฝานจบลงแล้ว คิ้วของจ้านเฉิงอิ้นก็ขมวดแน่น ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 268

    เจียงหยวนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นว่า “รัฐทายาท ท่านไม่กลัวหรือว่าฝ่ายนั้นก็มีท่านเทพเหมือนกัน?”“ถึงจะมี แต่จะแข็งแกร่งกว่าท่านเทพของเราหรือไม่เล่า?”เจียงหยวนย่อมปกป้องท่านเทพของฝ่ายตน“แน่นอนว่าไม่มี!”“นั่นก็พอแล้ว!”“ไป กลับจวนไปพักผ่อนกัน!”*ในที่สุดเย่มู่มู่ก็ได้รับอาวุธชุดที่สามในครั้งนี้ มีหน้าไม้ราชวงศ์ฉินจำนวนห้าหมื่นคัน ดาบม่อเตาเตาสามหมื่นเล่ม ลูกธนูหนึ่งล้านห้าแสนดอกอาวุธหลากหลายชนิด เช่น หอก โล่ เกอ และง้าว...อย่างละหนึ่งพันชิ้นชุดเกราะอีกห้าพันชุด!ยังมีดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังส่งมาอีกสองพันกว่าเล่ม ซึ่งทั้งหมดลับคมพร้อมใช้งานเขานำดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังเหล่านี้มาให้เย่มู่มู่ลอง หากเธอไม่รับ ก็จะส่งคืนกลับไปเย่มู่มู่ชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกมาทดลอง!เพียงโบกดาบ เสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้นดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังมีคมดาบที่แหลมคม ลับคมทางด้านซ้าย ตัวดาบยาวมาก กว่าหนึ่งหนึ่งจุดหกหมี่...น้ำหนักเบากว่าดาบม่อเตา สะดวกต่อการพกพาเย่มู่มู่รับดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังสองพันเล่มไว้ทั้งหมด และสั่งเพิ่มอีกสามหมื่นเล่มเธอคิดว่าจ้านเฉิงอิ้นและพลทหารใต้บัญชาของเขาน่าจะชื่นชอบ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 269

    “ปลายข้าวนี้เป็นข้าวใหม่หรือข้าวเก่า?” เย่มู่มู่เอ่ยถาม“เป็นข้าวใหม่ครับ เป็นฤดูเดียวกันกับข้าวสารที่ผมขายให้คุณ”“ปลายข้าวจากโรงงานของพี่เขยผมที่ขายให้คุณจะไม่เป็นที่จับตามองของทางการแน่นอน”ปลายข้าวในแต่ละปีมักถูกขายให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์ จะไม่นำเข้าตลาด แต่ปีนี้ คนเลี้ยงหมูลดน้อยลง โรงงานผลิตอาหารสัตว์จึงลดการผลิต ดังนั้นปลายข้าวจึงเหลือมากขึ้นพี่เขยของเขาที่เป็นเจ้าของโรงงาน มองกองปลายข้าวเหล่านี้ กังวลจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับเขาได้แต่ลองขายให้เย่มู่มู่ดู!เย่มู่มู่ถามเขาว่า “ตอนนี้มีปลายข้าวเหลืออยู่เท่าไหร่?”“มีเยอะเลยครับ ราว ๆ ห้าร้อยตัน!”“ถ้างั้นฉันขอซื้อทั้งหมด คุณไปเอาปลายข้าวไปส่งที่บ้านพักตากอากาศ!”“ได้เลยครับ!”หลังจากพูดคุยกับเจ้าของร้านขายข้าวเสร็จแล้ว เย่มู่มู่ก็ได้รับข้อความจากนักออกแบบร้านขายวัตถุโบราณบอกว่า การปรับปรุงพื้นหลังและตกแต่งภายในร้านเรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งวิดีโอถ่ายทั่วร้านมาให้เธอตรวจสอบตู้สินค้าไม้สีดำสนิท แท่นจัดวางโชว์สินค้า ห้องน้ำชา...การตกแต่งสไตล์จีนโบราณที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ช่างเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศของร้านขา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 270

    เขาให้ลูกน้องยกหอกตั้งตรง แล้วฟันฉับไปในแนวนอนเสียงแกรกดังขึ้น หอกทองสัมฤทธิ์ยาวหักออกในทันทีผู้บังคับบัญชาทั้งเก้าคนเบิกตากว้าง จ้องดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังในมือของเฉิงจื่อเซียว“นี่...นี่มันอาวุธแหลมคมรวมกับเฉือนเหล็กได้เหมือนโคลน!”จ้านเฉิงอิ้นและเฉินขุยกับพรรคพวก ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากด้านนอก จึงพากันออกมาดู เมื่อเห็นเฉิงจื่อเซียวใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง ดวงตาดูคล้ายมีความบ้าคลั่งเล็กน้อย พลางมองดาบในมือของเขา...ไม่ใช่แค่เขา คนอื่น ๆ ในหมู่ผู้บังคับบัญชาเองก็ต้องตกตะลึงกับความคมกริบของดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังเช่นกัน!เมื่อเห็นจ้านเฉิงอิ้นเดินออกมา ผู้บังคับบัญชาทั้งเก้าคนจึงพากันยกกำปั้นขึ้นคารวะอย่างพร้อมเพรียง “ท่านแม่ทัพใหญ่!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มเล็กน้อยพร้อมพยักหน้า “ทุกคนคิดว่าอาวุธชุดนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”เฉิงจื่อเซียวกำดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังในมือแน่น ไม่ยอมปล่อยจากมือ“ท่านแม่ทัพใหญ่ ดาบเล่มนี้คมกริบยิ่งนัก ทั่วต้าฉี่...ไม่สิ ทั่วทั้งหัวเซี่ยก็คงไม่มีดาบเล่มไหนเทียบได้~”เขามองไปยังกองดาบหลายพันเล่มที่วางอยู่บนพื้นในใจก็ตื้นตันหากได้ติดอาวุธดาบเหล่านี้ให้กับทหารใต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 271

    จ้านเฉิงอิ้นขี่ม้าไปที่คันนาของพื้นที่เพาะปลูก เมื่อชาวบ้านเห็นเขา ก็พากันคุกเข่าลง!จ้านเฉิงอิ้นรีบให้เหล่าราษฎรลุกขึ้นมาหลังทุกคนลุกขึ้นมา ก็แยกย้ายกันไปไถหว่านที่นาอย่างกระตือรือร้นจ้านเฉิงอิ้นเห็นมั่วฝานกำลังบุกตะลุยอย่างอิสรเสรีอยู่ในทุ่งหญ้ารกร้างเขาค้นพบเคล็ดลับในการขับรถไถแล้ว จึงใช้งานรถไถได้อย่างคุ้นเคยในรถมีแอร์ เย็นสบายอย่างมาก แถมยังสามารถเปิดเพลงได้ด้วยด้วยเหตุนี้ เขาจึงขับตะบึงรถไถไปในทุ่งนาอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า พร้อมเสียงหัวเราะอันเบิกบาน!เมื่อจวงเหลียงเห็นจ้านเฉิงอิ้นมาตรวจการ ก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ประสานคารวะต่อเขา“ท่านแม่ทัพ ต่อให้พื้นที่ว่างทั้งหมดถูกเพาะปลูกแล้ว เสบียงอาหารที่เพาะปลูกออกมาก็ยังไม่เพียงพอให้คนในเมืองได้รับประทานขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นมองไปรอบ ๆ ที่เชิงเขามีพื้นที่ว่างอยู่บริเวณหนึ่งจำนวนคนในด่านเจิ้นกวนเพิ่มขึ้นไม่หยุด ต่อให้บุกเบิกที่ดินทั้งหมด เสบียงที่เพาะปลูกออกมาก็ยังไม่เพียงพอให้ราษฎรทั้งเมืองกิน“ท่านแม่ทัพ ข้าอยากจะขยายด่านเจิ้นกวนออกไปอีกสามเท่า! แต่จะกินบริเวณไปถึงอาณาเขตของเผ่าหมาน และแคว้นฉู่และฉีทั้งสองแคว้นขอรับ”จ้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 272

    มือของเขาสั่นเล็กน้อยเป็นความตื่นเต้น!เมื่อก่อนทำตัวเป็นเต่าหดหัว ถูกเผ่าหมานรังแกมาหนึ่งปียามนี้ได้โอกาสเชิดหน้าชูตาแล้ว!สาแกใจยิ่งนัก!หลังเถียนฉินออกจากจวนแม่ทัพ เฉินขุย เฉินอู่ เฉินจวิ้นหลิน แม้แต่มั่วฝานก็มาแล้วแม่ทัพทั้งหลายหายใจหอบ พุ่งตรงไปที่ห้องหนังสือของจวนแม่ทัพทันทีที่เฉินขุยเข้าไปในห้องหนังสือ ก็ตะโกนว่า “ท่านแม่ทัพ ไม่ดีแล้วขอรับ ฮ่องเต้มีราชโองการลงมา!”มั่วฝานที่ลงมาจากรถไถนา วิ่งมาจนสีหน้าแดงก่ำเขาหาเก้าอี้มานั่งลงอย่างไม่ใส่ใจ เปิดพัดลมตัวน้อยออก แล้วพูดวัตถุประสงค์ที่มาออกมา“ข้าเดาไม่ผิด ฮ่องเต้น้อยสั่งให้เจ้านำทัพกลับเมืองหลวง เพื่อปราบกองทัพธงเหลือง!”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้วถามว่า “แม่ทัพลู่เล่า? เหตุใดจึงต้องให้ข้ากลับเมืองหลวงด้วย?”“เขาแพ้อีกแล้ว กองทัพธงเหลืองมีห้าแสนคนแล้ว!”ทันใดนั้น ไม่เพียงเฉินขุยและเฉินอู่ ทว่าแม้แต่เฉินจวิ้นหลินและเหอหงก็ประหลาดใจแล้ว…กองทัพตระกูลจ้านของพวกเขาต่อสู้อย่างยากลำบากมานานเพียงนี้ ก็ยังมีกำลังทหารเพียงแสนสี่หมื่นนายเท่านั้นกองทัพธงเหลืองเพิ่งจัดตั้งได้เพียงสามเดือน จู่ ๆ ก็ขยายกำลังทหารไปถึงห้าแสนนายแล้ว!

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 273

    แม้แต่เฉินจวิ้นหลินก็อดกล่าวกับจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ว่า “ท่านแม่ทัพ ท่านยังคงอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวงเลยขอรับ หากไม่วางใจเรื่องคนที่บ้าน สามารถส่งคนไปที่เมืองหลวง เพื่อรับญาติของท่านกลับมาได้ขอรับ”เฉินจวิ้นหลินซึ่งเป็นจอหงวนบู๊ผู้นี้ เคยเข้าประชุมราชสำนักเพียงครั้งเดียวจึงไม่รู้ว่าวังหลวงมีการคุ้มกันแน่นหนา ต่อให้ส่งคนกลับเมืองหลวงก็ไม่สามารถรับคนกลับมาได้มั่วฝานโน้มน้าวว่า “ไทเฮาจะดูแลพวกเขาให้ปลอดภัยเอง!”ห้องหนังสือตกอยู่ในความเงียบงันกองทัพตระกูลจ้านสามารถขับไล่กองทัพพันธมิตรของเผ่าหมาน และแคว้นฉู่แคว้นฉีได้ ก็ย่อมสามารถปราบปรามกองทัพธงเหลืองได้เช่นกันแต่ จะต้องจ่ายในราคามหาศาลต่อให้กองทัพธงเหลืองไม่เคยได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ แต่อาวุธของพวกเขาก็ไม่ใช่ของที่กองทัพแคว้นฉู่และฉีจะเปรียบได้ อีกทั้งจำนวนคนยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยส่วนทางด่านเจิ้นกวน จ้านเฉิงอิ้นก็ไม่อาจถอนตัวได้ ทันทีที่ข่าวเรื่องเขาพาคนจากไปลือไปถึงแคว้นฉู่และแคว้นฉีสองแคว้นจะต้องวกกลับมาอีกแน่มีเพียงรับสมัครทหารและซื้อม้าต่อไป ขยายจำนวนคนให้ถึงสามแสน แล้วระดมกำลังสองแสนนายเข้าปราบกองทัพธงเหลืองอีกห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 274

    เย่มู่มู่นำกล่องสีดำมิดหมีใบหนึ่ง มาถึงถนนย่านวัตถุโบราณเธอเพิ่งจอดรถเสร็จ ผู้อาวุโสมู่ก็ออกมาจากร้านมารับด้วยตนเอง พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มใบหน้าแล้วในตอนที่เขาเห็นเย่มู่มู่อุ้มกล่องสีดำสนิท ตัวกล่องแกะสลักลวดลายโบราณไว้ มีการปิดทองประดับไว้ ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมาในฉับพลันกล่องนี้ ก็เป็นของเก่าเช่นกัน!หากเดาไม่ผิด ก็น่าจะเป็นของยุคของแคว้นต้าฉี่เช่นเดียวกันผู้อาวุโสมู่หัวเราะเสียงดังพลางกล่าวกับเย่มู่มู่ว่า “รีบมาเร็วเข้า นักออกแบบรอคุณอยู่นานแล้ว”เย่มู่มู่มาถึงร้านวัตถุโบราณการตกแต่งของร้านเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ประตูโค้งทรงพัด โคมไฟระย้าแบบโบราณ เฟอร์นิเจอร์ไม้ดำ…ร้านขายวัตถุโบราณได้รับการตกแต่งให้มีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์เป็นอย่างมากทั้งตู้โชว์ โต๊ะโชว์ แท่นโชว์…ล้วนออกแบบตามสไตล์โบราณ!เธอพอใจอย่างมากนักออกแบบแนะนำแรงบันดาลใจในการออกแบบ และโต๊ะโชว์ ตู้โชว์ ให้เธอฟังทีละรายการเมื่อขึ้นมาด้านบน ชั้นบนมีพื้นที่รับแขกส่วนตัวอยู่ด้านหลังห้องหนึ่ง และเหลืออีกห้องหนึ่งไว้เป็นห้องเก็บของที่ติดตั้งระบบกันขโมยระดับธนาคารนี่เป็นคำแนะนำจากผู้อาวุโสมู่ยังไม่ได้ติดตั้ง ร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นตัวอักษรที่ถูกสลักไว้ แม้แต่มือของผู้อาวุโสสวี่ก็สั่นแล้ว เขาหยิบกล่องแว่นตาออกมาจากอกเสื้อกล่องหนึ่ง แล้วสวมแว่นสายตายาวอย่างสั่นเทาเขาหยิบชามกระเบื้องเคลือบไปส่องดูใต้แสงไฟอย่างละเอียด ด้านข้างของตราประทับมีตัวอักษรเล็ก ๆ“จวนรัฐทายาทแห่งตระกูลมั่ว”น้ำเสียงของผู้อาวุโสสวี่ตื่นเต้นขึ้นมาทันที“ตระกูลมั่ว เป็นตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดของแคว้นต้าฉี่ ฮองเฮาแห่งแคว้นต้าฉี่ล้วนมาจากตระกูลมั่ว ลูกหลานและชนรุ่นหลังล้วนปรากฏผู้มีชื่อเสียงสืบต่อมา…”“ในอดีต ตอนที่แคว้นฉี่ล่มสลาย ตระกูลมั่วกลับได้รับการปกปักรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ หลายร้อยปีให้หลัง สถานศึกษาของตระกูลมั่วก็เป็นที่โด่งดังไปทั่วดินแดน”“เย่มู่มู่ไม่กล้าเชื่อ ก็คือตระกูลมั่วอันนั้นหรือคะ?”“ใช่แล้ว!”ว่ากันว่ามั่วฝานอายุยี่สิบ รุ่นราวคราวเดียวกับจ้านเฉิงอิ้นความประทับใจที่เย่มู่มู่มีต่อเขา เอนไปทางจอมเสเพลตัวน้อยที่ไร้เดียงสาอยู่บ้างเงินเยอะและยังใจกว้างด้วย!เป็นคนที่ให้เงินเยอะที่สุดนอกจากจ้านเฉิงอิ้น!“ชามใบนี้ผมเอาแล้ว!” ผู้อาวุโสสวี่พูดอย่างเริงร่าและตรงไปตรงมาผู้อาวุโสยื่นมือออกมา บังชามเอาไว้“ไม่ได้ ต้

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 520

    กระทั่งสื่อยังหันกล้องมาจ่อเขาหลังจากนั้นหลูหมิงและหลูซีที่อยู่บนรถก็ลงมาวันนี้ทั้งสองคนบรรจงแต่งตัว สวมชุดคลุมยาวเนื้อผ้าเดียวกับมั่วฝาน ทว่าคนละแบบ และผูกผมยาวไว้ตรงท้ายทอยหลูซีกระทั่งลวดมือหยิบกระบี่ยาววัสดุสไตล์โบราณเอาไว้ตลอดกระบี่ยาวอยู่ในมือเขา กลับกลมกลืนอย่างคาดไม่ถึง!เย่มู่มู่ให้เขาเลือกมาหนึ่งเล่ม จากในบรรดากระบี่ชื่อดังสิบกว่าเล่มที่เถ้าแก่โรงงานเลียนแบบของโบราณเคยส่งมา!เขาเลือกกระบี่มังกรเล่มหนึ่ง!ในวินาทีที่เย่มู่มู่ลงมาจากรถ เมื่อรองผู้อำนวยการจางได้ยินเสียงข่าว ก็ออกมาต้อนรับพวกเขาเข้าไปด้วยตนเอง“มู่ม่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ผมคิดว่าคุณจะมาถึงสายกว่านี้ซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะมาเร็วที่สุด!”“มา ๆ เชิญชั้นบนเลย!”“พวกผู้อาวุโสจาง ผู้อาวุโสสวี่ ผู้อาวุโสมู่เขามาหรือยังคะ?”“ยังครับ เหล่าจางยังไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน เหล่ามู่ยังเข้าสอนนักเรียนอยู่ ผู้อาวุโสสวี่อีกคนติดต่อไม่ได้ ไม่เป็นไรครับ ติดต่อกับผู้ช่วยของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ต้องมาอย่างแน่นอน เกรงก็แต่ว่าไม่ถึงวินาทีสุดท้ายของพิธีตัดริบบิ้น จะไม่โผล่หัวมา!”“คุณวางใจเถอะครับ ขอแค่คุณมาถึงแล้ว พวกเขาจะต้องมา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 519

    มั่วฝานจะไปยับยั้งการร่วมมือของราชสำนักกับกองทัพธงเหลือง โดยผ่านมุมมองนี้ได้ เป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงในบันทึกประวัติศาสตร์ไม่เป็นทางการ การตายของฮ่องเต้น้อย เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพธงเหลืองบุกเข้าไปในเมืองหลวง ฆ่าเขาขณะเกิดการนองเลือดในราชวังแน่นอนว่าในหนังสือประวัติศาสตร์บันทึกอย่างไม่เป็นทางการจดบันทึกอย่างเร่งรีบข้ามไปข้ามมา ไม่มีประโยคเพิ่มเติมมาเขียนถึงฮ่องเต้น้อยเลยคงเป็นเพราะตายในการนองเลือดที่ราชวัง!ทว่าตอนนี้มั่วฝานร้อนใจอยากจะฆ่าเขาให้ตาย เย่มู่มู่ไม่มีอะไรจะพูด“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าของให้เจ้าประสบความสำเร็จ”“แน่นอนว่า ก่อนเจ้าจะกลับไปต้าฉี่ พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่งก่อน!”มั่วฝานถามขึ้นว่า “สำคัญมากหรือไม่?”ตอนนี้เขาค่อนข้างร้อนใจกับต้าฉี่เย่มู่มู่ตอบ “สำคัญมาก พรุ่งนี้เช้าเราจะไปนั่งรถไฟความเร็วสูงกัน!”“คืนนี้พวกเจ้าพักผ่อนให้สบายใจ ทางนั้นยังมีจ้านเฉิงอิ้นอยู่”“เขาเป็นถึงโหวขั้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย เติบโตมาอยู่ในค่ายทหารตั้งแต่เด็ก เคยรับมือกับแม่ทัพใหญ่ในสงครามมานับไม่ถ้วน!”“กะอีแค่การโจมตีของพันธมิตรไม่กี่ฝ่ายไม่ใช่หรือ? เ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 518

    มั่วฝานถามหลูหมิง หลูหมิงจึงบอกสถานการณ์ยากลำบากของกองทัพตระกูลจ้านเมื่อเขารู้ว่าฮ่องเต้น้อยร่วมมือกับกองทัพธงเหลืองก็พลันโพล่งเสียงหัวเราะออกมาขำไป ๆ ก็คุกเข่าร้องไห้กับพื้นเขารู้ทิศทางของประวัติศาสตร์ผู้อาวุโสยังถ่ายบันทึกประวัติศาสตร์อย่างไม่เป็นทางการ ที่บันทึกเกี่ยวกับต้าฉี่และจ้านเฉิงอิ้นมาให้เย่มู่มู่อ่านจากในหนังสือสะสมที่ไม่ได้เผยแพร่จากพิพิธภัณฑ์เย่มู่มู่พิมพ์ออกมา แล้วให้คนโบราณทั้งสามคนอ่านทิศทางสุดท้ายของประวัติศาสตร์จ้านเฉิงอิ้นตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวน กองทักตระกูลจ้านแหลกสลายตายทั้งกองทัพจริง ๆชาวบ้านด่านเจิ้นกวนถูกเผ่าหมาน แคว้นฉู่และฉีสังหารไปกึ่งหนึ่งในวันนั้นเลย!พวกเขาสังหารยังไม่พอ ไม่คิดเลยว่าจะย่างกินด้วยกินอยู่สามวันสามคืน และนำคนที่เหลือมาทำเป็นของแห้ง ขับไล่บุกโจมตีหัวเมืองอื่น ๆ ของต้าฉี่ตลอดทั้งทางเดิมทียังเจอการต้านทานบางส่วนอีกด้วย กองกำลังเล็ก ๆ ของสวีหวยหนึ่งแสนคนต้านทานเอาไว้ครู่หนึ่งแต่พบว่าสู้ไม่ได้ จึงรีบเผ่นออกไปทันทีเขารวมกับกองกำลังสองแสนคนของแม่ทัพลู่เดิมทีพวกเขาสามแสนคน ยังพอมีกำลังทำศึก ต้านทานทัพพันธมิตรฉู่ ฉีและเผ่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 517

    หลังเย่มู่มู่ส่งของไป ก็หยุดไม่ได้เนื่องจากกองทัพตระกูลจ้านขาดคนไปห้าหมื่นคนในฉับพลัน ต้องรีบรับสมัครทหารใหม่หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ดาบม่อเตา ชุดเกราะ...ต้องสั่งมาอีกชุด!เกราะกันกระสุนต้องเติมสต็อกต่อให้ของเซี่ยเวยเอาไปหมดแล้ว กองทัพตระกูลจ้านที่เหลืออยู่ล่ะ?เธอติดต่อซื้อปลายข้าวกับเจ้าของร้านขายข้าวอีกแน่นอนว่าตอนต่อสายไปหาเขาก็เป็นเวลาดึกดื่นเที่ยงคืนแล้วแม้ทั้งสองคนจะเป็นพาร์ตเนอร์เปิดบริษัทการค้าต่างประเทศ ทว่าเขากับพี่เขยแทบจะไม่สนใจเลยกระทั่งเขายังคิดจะถอนหุ้นเสียด้วยซ้ำเนื่องจากเดือนที่แล้วเขาเปิดร้านสินค้าเกษตรและโภคภัณฑ์อีกร้านหนึ่ง ธุรกิจไม่ค่อยดีนัก กักตุนสินค้าไว้จำนวนมาก เงินทุนหมุนเวียนติดขัดเมื่อเอ่ยปากกับเย่มู่มู่ ความตั้งใจเดิมคือคิดจะยืมเงินเธอทว่าเย่มู่มู่เข้าใจปิด ถอนหุ้นให้เขาทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงโอนเงินไปยังบัญชีเขาแม้จะบอกว่าความร่วมมือไม่สำเร็จ ทว่าการซื้อขายยังอยู่ หากเย่มู่มู่แสดงออกว่าต้องการ จะยังซื้อข้าวจากร้านของเขาต่อประโยคเดียวทำเอาเจ้าของร้านขายข้าวอัดอั้นแทบแย่ทว่าเย่มู่มู่จะซื้อธัญพืชตอนดึกดื่นเที่ยงคืน ทำเอาเขาดีใจเป็นอย่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 516

    ด้านในล้างจนสะอาดหมดแล้วเย่มู่มู่กลิ้งถังน้ำเข้าไปในบ่อน้ำข้าง ๆ โดยตรง ใส่น้ำเข้าไปโดยอัตโนมัติครึ่งชั่วโมง ทั้งหมดก็ถูกใส่จนเต็มนาทีสุดท้ายในสี่ชั่วโมง รถบรรทุกน้ำมันยี่สิบคันขับเข้ามาอีกฝ่ายสวมหน้ากากอนามัยและแว่นดำ ไร้ซึ่งความเกรงใจ ให้เย่มู่มู่โอนทั้งหมดจ่ายเงินของรถบรรทุกน้ำมันพร้อมกันทีเดียวหลังเย่มู่มู่จ่ายเงิน สีหน้าของคนที่นำขบวนมาถึงค่อย ๆ ผ่อนคลายขึ้นมาพวกเขาขับรถเก๋งสองสามคันกลับไปเวลานี้ฟ้ามืดสนิทแล้วเย่มู่มู่มองเวลา ระยะเวลาสี่ชั่วโมงยังเหลือไม่กี่นาทีสุดท้ายเธอใส่รถบรรทุกน้ำมันทั้งหมดเข้าไปในที่ว่างเปล่าตอนนี้ที่เธอทำได้ก็ทำหมดแล้วที่ช่วยได้ก็พยายามช่วยสุดความสามารถส่วนทางกองกำลังห้าหมื่นคนของเซี่ยเวยนั้น จะปกป้องแคว้นเยี่ยนเอาไว้ได้หรือไม่เธอทำได้เพียงรอดูแล้วแต่เธอหวังว่าเซี่ยเวยจะปกป้องเอาไว้ได้หากราบรื่นก็ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนเช่นนั้นความปรารถนาที่จะรวมทั้งใต้หล้าเป็นหนึ่งเดียว แว่นแคว้นแรกก็บรรลุผลแล้วเมื่อเย่มู่มู่คิดมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็แผ่ซ่านขึ้นมาทั้งตัวแวบหนึ่งพร้อมกับพลันตื่นเต้นขึ้นมาเธอหวังเป็นอย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 515

    เวินลี่ตอบตกลงว่าจะหารถบรรทุกน้ำมันมาให้ ภายใต้การรับรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเย่มู่มู่ส่วนจำนวนที่แน่ชัด ยังตอบตกลงไม่ได้เย่มู่มู่กระทั่งพูดกับเธออย่างกล้าหาญว่า หวังว่าจะรวมไปถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งด้วยแบบนั้นจะได้ขนน้ำมันมาได้อย่างต่อเนื่องในเวลานี้เอง เวินลี่ก็ตัดสายทิ้งไปเลยรวมถึงปั๊มน้ำมันด้วยภูมิหลังไม่เท่าไร ไม่มีเส้นสายบริษัทน้ำมัน จึงไม่ได้โควตา...ยากเป็นอย่างมาก!สำเร็จเรียบร้อย เย่มู่มู่ยังหาโรงงานที่ทำขนส่งถังใส่น้ำในพื้นที่ และเหมาสต็อกทั้งหมดเงื่อนไขเพียงหนึ่งเดียวคือต้องล้างภายในถังเหล็กให้สะอาด และฆ่าเชื้อให้เรียบร้อยขนมาภายในสามชั่วโมงเธอต้องการบรรจุน้ำใส่ถังใหญ่เหล่านี้ให้เรียบร้อย แล้วใส่ในที่ว่างเปล่าภายในแจกันผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถขนส่งหลาบขบวน ขับมาถึงใต้ตีนเขาเย่มู่มู่ตรวจสอบถังน้ำมัน ทั้งหมดถูกเติมจนเต็มแล้วน้ำมันเครื่อง น้ำยาล้างกระจกและอะไหล่ต่าง ๆ เตรียมไว้ครบหมดแล้วขบวนรถล็อตแรกยี่สิบคัน เธอจ่ายเงินค่าเช่าหนึ่งปีเลยเงินนี้แทบจะซื้อรถบรรทุกเก่า ๆ ได้สักคันแล้วหัวหน้าของขบวนรถที่มองอยู่อึ้งไปเลย เธอแก้ไขสัญญากับมือ บอกว่าหากหนึ่งปียั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 514

    ความกดดันที่เขาเผชิญในตอนนี้ มากมายเสียยิ่งกว่าพวกเขากลับไปป้องกันแคว้นเยี่ยนเสียอีกทว่ากลับตัดสินใจให้พวกเขากลับไปปกป้องเมืองอย่างแน่วแน่ความเชื่อใจนี้ บุญคุณนี้ พวกเขาหกคนจะไม่มีวันลืมทั้งหกคนลุกขึ้นขอตัวลากับจ้านเฉิงอิ้นทันทีจ้านเฉิงอิ้นให้เวลาพวกเขาได้เตรียมตัวเพียงสองชั่วยามเท่านั้นผ่านไปสองชั่วยาม ต้องออกเดินทางกลับแคว้นเยี่ยนเมื่อเย่มู่มู่ได้ยินเรื่องนี้ ก็ถามจ้านเฉิงอิ้น...“ตอนนี้มีรถกี่คัน? อาหารกับแหล่งน้ำล่ะ?”คนห้าหมื่นคนกลับไปรักษาป้องกัน และช่วงชิงเวลากับแคว้นฉู่และฉีสองแคว้นตามแผนที่ที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมา และคำอธิบายของหลูซีกับหลูหมิง แคว้นฉู่และฉีอยู่ใกล้กับแคว้นเยี่ยนมากกว่า...พวกเขารีบกลับไปป้องกัน...และยังต้องต้องแก้ปัญหาอาหารการกิน และน้ำท่าของราษฎรเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนให้เรียบร้อย ราษฎรแคว้นเยี่ยนจะได้มีกำลังมาสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่อย่าว่าแต่ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเลย ขอเพียงพวกเขามีน้ำและอาหาร ก็ถูกสนับสนุนให้เป็นฮ่องเต้แล้วฉะนั้น ตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นยังมีเสบียงอีกเท่าไร?จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “รถบรรทุกยี่สิบคัน รถบรรทุกขนาดกลางสามสิบคัน รถเล็กสิบค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 513

    เหตุใดจ้านเฉิงอิ้นจะไม่รู้ถึงความกดดันของห้าหมื่นคน ที่ต้องเผชิญหน้ากับคนห้าแสนคนแม้จะช่วงชิงภูเขาเหมืองและระเบิดโรงงานดินปืนทิ้งไปแล้ว สูญเสียไปหนึ่งแสนคนยังมีอีกสี่แสนคนแต่เขาเองก็รู้ว่า จะให้ไปเฝ้าเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนเอาไว้ มีเพียงเซี่ยเวยที่มีเหตุผลและน่าเชื่อถือที่สุดจ้านเฉิงอิ้นสั่งให้เถียนฉินตามตัวเซี่ยเวยและทหารกลุ่มหนึ่งมาพวกเขาทุกคนกึ่งคุกเข่าพร้อมพยักหน้าจ้านเฉิงอิ้นมองพวกเขา หลังจากอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง ความรู้สึกของทุกคนก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นวันนี้เมื่อยืนยันว่าฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนนำกองกำลังทหารทั้งหมดมายังต้าฉี่จะต้องมีกองกำลังแคว้นอื่นที่ฉวยโอกาสช่วงโกลาหลเข้ามาแน่พวกเขาจะต้องเฝ้าเอาไว้ให้ดีจ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ตามรายงานที่น่าเชื่อถือได้ เยี่ยนซวี่รวบรวมกองกำลังสองแสนห้าหมื่นนายสุดท้ายของแคว้นเยี่ยนนำมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการข้าและกองทัพตระกูลจ้าน...”พวกเซี่ยเวย จ้าวเฉียนต่างพากันเงยหน้าขึ้นมา พวกเขาเผยสีหน้าคาดไม่ถึงออกมาในทันใดกระทั่งเซี่ยเวยเอ่ยปากออกมาด้วยความตกตะลึง “เขาบ้าไปแล้วหรือ? รวบรวมกำลังทหารทั้งหมดมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการท่านเนี่ยนะ?”“หากแ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 512

    ขับตรงไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยนโดยตรง ชักอาวุธออกมา กวาดล้างกองทหารประจำการณ์ในเมืองหลวงของพวกเขา ฆ่าขุนนางในราชสำนัก ให้ดีที่สุดต้องเอาเลือดของราชวงศ์แคว้นเยี่ยนล้างรอบหนึ่งด้วยหากให้คนพวกเขาได้อีกสองสามหมื่นคน เขาสามารถผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนได้เลย!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่หยวนจงก็อดรนทนไม่ไหวที่จะออกเดินทางเมื่อเลือกจำนวนคนเรียบร้อยแล้ว ก็เลือกทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านสองในสามส่วนเมื่อจ้านเฉิงอิ้นไป ทิ้งทหารผ่านศึกเอาไว้สองสามพันนายคนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องเบื้องล่างของหลี่หยวนจงและยังมีทหารเบื้องล่างของอู๋ลี่ที่ฝีมือไม่เลวส่วนหนึ่งพวกเขาไม่เคยผ่านกลิ่นคาวเลือดและความโหดร้ายของสนามรบมาก่อน ครั้งนี้ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ขับรถไปกลับรวดเร็วเป็นอย่างมาก!หลังทั้งสองคนหารือกันเสร็จ ตอนค่ำก็ออกเดินทางวันนี้ อู๋ลี่กับหน่วยเก่าของสวีหวยทะเลาะกัน จะแพร่งพรายออกไปทั้งค่ายทหาร และแพร่งพรายไปทั่วทั้งด่านเจิ้นกวน...หัวข้อบทสนทนาหลังกินข้าวที่ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานไม่หยุด คืออู๋ลี่เลาะกับเว่ยโจวกองกำลังทั้งสองฝั่งลงไม้ลงมือ ซัดกันจนกระโจมพังไปหมดผลลั

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status