กินกันอย่างรวดเร็วและเร่งรีบ ราวกับไม่ได้กินอาหารสัตว์มานานมากม้าที่หิวโซ กินไปน้ำตาไหลไปพวกมันคงรู้เช่นกัน ถ้ายังไม่ได้ดื่มน้ำ ไม่ได้กินหญ้า พวกมันจะหิวตายหลังจากหิวตาย ร่างกายจะกลายเป็นเสบียงอาหารของทหารเผ่าฉู่วันนี้ได้ดื่มน้ำจนอิ่ม มีอาหารสัตว์ชั้นดี ชีวิตแบบนี้ช่างดีเหลือเกินอู๋ซานหลางเรียกทหารมาหา เขาใช้เหล็กเสริมสร้างคอกม้าตลอดทั้งคืนเฉินอู่ค้นพบคนมีสายเลือดชนเผ่าหมานในหมู่พลเมือง ที่ชำนาญด้านการเลี้ยงม้าและให้เขาดูแลม้าศึกโดยเฉพาะเวลานี้ ด่านเจิ้นกวนมีม้าศึกมากกว่าหนึ่งหมื่นห้าพันตัว!แม้จะเผชิญหน้ากับม้าศึกที่โหดเหี้ยมที่สุดของชนเผ่าหมานแต่กองกำลังก็ไม่เป็นรองเช่นกัน*หลี่หยวนจง หลินต้าจวิน เหอหงไปเผาค่ายพักของทหารเผ่าหมานตรงประตูตะวันตกพวกเขาจุดน้ำมันตะเกียง ใช้หน้าไม้ตระกูลฉินยิงจากระยะไกลลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนบินผ่านท้องฟ้าข้ามมาพร้อมด้วยประกายไฟกระโจมค่ายพักของสามหมื่นคนไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทหารเผ่าหมานนับไม่ถ้วนถูกยิงเสียชีวิตยังมีทหารอยากโจมตีกลับ แต่ยังไม่ทันหนีออกจากกระโจมก็ถูกยิงเสียชีวิตก่อนรถกระทุ้งกำแพงเมืองห้าคันถูกเผาไม่เหลือซาก กองทัพต
ถึงแม้ตอนนี้เป็นฤดูร้อน จะปลูกพืชผลนับว่ายังทันพวกเขาไม่มีเมล็ดพันธุ์ แต่เย่มู่มู่ส่งมั่นฝรั่ง มันเทศ ข้าวโพดมาให้…ปลูกได้ทุกอย่างฟักทอง แตงโม แตงกวา ฟักเขียว…พวกเขาเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ทั้งหมดโรงครัวมีคนเอาเมล็ดออกโดยเฉพาะ จะเก็บเพียงเม็ดพรรณเพื่อใช้ปลูกจ้านเฉิงอิ้นติดป้ายประกาศ: เรียกคืนที่ดินทั้งเมือง ปลูกพืชผลในพื้นที่ขนาดใหญ่ไม่มีเมล็ดพันธุ์ สามารถยื่นขอกับค่ายทหารได้ในค่ายทหารมีคนช่วยวัดขนาดที่ดิน ปลูกพืชผักผลไม้อะไร ต้องใช้เมล็ดพันธุ์เท่าไหร่โดยเฉพาะหลังจากติดป้ายประกาศ พลเมืองทั่วเมืองต่างดีใจเป็นล้นพ้นในที่สุดพวกเขาสามารถปลูกพืชผลได้แล้ว!สามารถผลิตและพึ่งตนเองได้แล้วพ่อค้าในเมืองไม่มีที่นา แต่ล้วนมีลานด้านหน้ากับลานด้านหลัง เอาไว้ปลูกพืชผลได้หลังจากมีการประกาศ ค่ายทหารเต็มไปด้วยขบวนแถวรอรับเมล็ดพันธุ์ทุกคนพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น ว่าจะปลูกพืชอะไรมันเทศ มันฝรั่ง ข้าวโพด หรือว่าแตงกวา ฟักเขียว…มันเทศมันฝรั่งไม่มีในยุคสมัยนี้ แม้จะเป็นแตงโมก็ยังไม่หวานฉ่ำเท่านี้พวกเขาอยากปลูกทุกอย่างช่วงเวลาก่อนหน้าตอนรับโจ๊ก ทุกคนสามารถรับแตงโมได้คนละซีก แทบทุกครัวเรือ
ให้ทางร้านส่งไปที่โกดังตีนเขาบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนเธอโทรหาคนขับหวง ถามว่ารถของเขาเติมน้ำมันเต็มถังคือกี่ลิตรคนขับหวงตอบกลับหนึ่งพันหนึ่งร้อยลิตร ประมาณหนึ่งหมื่นบาทเขาเน้นย้ำว่ารถบรรทุกเปลืองน้ำมันมากเย่มู่มู่กล่าว “คุณไปเติมน้ำมันให้รถ เติมให้เต็มหนึ่งหมื่นบาท กลับมาแล้วดูดน้ำมันลงถังน้ำมัน ฉันจะให้คุณหนึ่งหมื่นห้าพันบาท”คนขับหวงได้กำไรเปล่าห้าพันบาท เขาดีใจมาก จึงตอบตกลงอย่างรวดเร็วเขาถามเย่มู่มู่กลับว่าต้องการน้ำมันเท่าไหร่เย่มู่มู่ตอบ “สองพันลิตรพอแล้ว อย่าเติมเกินเป็นอันขาด ฉันกลัวคุณจะถูกจับ”“ครับ ผมจะแยกไปเติมน้ำมันให้เต็มถังที่ปั๊มน้ำมันสองแห่ง”“แล้วค่าถังน้ำมัน?”“มาเบิกกับฉันได้!”คนขับหวงขับรถเปล่าไปเติมน้ำมันอย่างดีใจสุดท้ายเย่มู่มู่อยู่ที่ร้านขายปุ๋ย กว้านซื้อปุ๋ยในร้านขายปุ๋ยจนเกลี้ยงเธอซื้อกระดูกป่น มูลไก่ มูลแกะ…ปุ๋ยผสมที่มีแม่ปุ๋ยสามธาตุ ยูเรีย…ซื้อมาสิบกว่าถุง!หลังจากบรรทุกท้ายกระบะเต็มแล้ว เธอขับรถไปยังพื้นที่เงียบสงบและส่งปุ๋ยทั้งหมดไปที่นั่นเธอกลับมาถึงโกดังตีนเขารถแทร็กเตอร์สองคัน รถไถนาขนาดใหญ่หนึ่งคัน ส่งมาแล้วทั้งหมดรถพ่วงสา
ทหารแต่ละนายต่างดีใจเป็นล้นพ้นพวกเขาสามารถคาดการณ์ได้ หากข้าวพันธุ์ผสมออกผลผลิต จะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับแผ่นดินหัวเซี่ยและทั้งหกแคว้นยิ่งใหญ่เพียงใดหนึ่งหมู่ให้ผลผลิตถึงแปดร้อยชั่ง!ถ้าแหล่งน้ำต้าฉี่เพียงพอ ปลูกข้าวนาน้ำทั่วเมืองหนึ่งแค้วนต้าฉี่สามารถเลี้ยงดูผู้คนทั้งหกแคว้นได้ข้าวพันธุ์ผสม~สำหรับพวกเขามันไม่ได้เป็นเพียงเมล็ดพันธุ์ แต่เป็นยุทธภัณฑ์ที่มีความสำคัญมากยิ่งกว่าอาหารหลักของค่ายทหารตอนนี้คือข้าวสาร ทุกคนเห็นหมดแล้วเช่นกันพวกทหารแต่ละนายต่างอ้วนขึ้นชาวบ้านไม่ได้ผอมจนเห็นกระดูกอีก สีหน้าพวกเขาอมชมพูระเรื่อ สภาพจิตใจก็ดีเป็นอย่างยิ่งจ้านเฉิงอิ้นให้ความสำคัญกับเมล็ดพันธุ์ของข้าวนาน้ำมากเป็นพิเศษ จึงตั้งใจให้หลี่หยวนจงและเปี้ยนจื่อผิงมารับผิดชอบในการเพาะปลูกเสบียงอาหารโดยเฉพาะพืชผลผลิตสูงอย่างมันฝรั่ง มันเทศ ข้าวโพดนำไปเพาะปลูกให้หมดข้าวสาลีปลูกผิดฤดู แต่มีการแบ่งที่นาผืนหนึ่งออกมาลองทดสอบ เพื่อดูว่าปริมาณผลผลิตของข้าวสาลีเป็นอย่างไรพวกเขาประกาศรับสมัครพลเมือง มาทำการเกษตรและช่วยหว่านเมล็ดพันธุ์ภายในเมืองจะตอบแทนด้วยเสบียงอาหารหกชั่ง แป้งสามชั่งให้กั
มีหัว นอกจากทาสีแดงตรงหัว มันทั้งยาวทั้งใหญ่มีดวงตาทำจากแก้ว!ตรงกลางเป็นเรือนหลังเล็กที่ปิดประกอบด้วยแก้วแผ่นใหญ่ ข้างในเรือนคล้ายว่าจะมีเก้าอี้สีดำ ข้างหน้าเก้าอี้มีอุปกรณ์ทรงกลมสิ่งที่น่าตื่นตามากที่สุด ข้างหลังสิ่งของนี้มีคราดกับส้อมเรียงเป็นแถวนี่คืออุปกรณ์การเกษตรที่ท่านเทพกล่าวถึง?แม่เจ้านี่คืออุปกรณ์การเกษตร?อุปกรณ์การเกษตรในโลกท่านเทพ มีลักษณะเช่นนี้?ของสิ่งนี้โหญ่โตมโหฬารน่าหวาดกลัวยิ่งนัก!มันใหญ่กว่ารถม้าของพระประยูรญาติทั้งหมดในเมืองหลวงด้วยซ้ำยิ่งมันมีรูปร่างที่พวกเขาไม่อาจจินตนาการได้!ทุกคนจึงเกรงขามกับสิ่งของชิ้นนี้ แต่พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้มันพวกเขารู้ว่าของที่ท่านเทพส่งมา ไม่มีทางทำร้ายพวกเขาเพราะว่า ท่านเทพเป็นคนดีครั้นเห็นของสิ่งนี้นิ่งไม่ขยับอยู่กับพื้น“แม่ทัพใหญ่ นี่ นี่คืออุปกรณ์การเกษตรในโลกของท่านเทพ น่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่งขอรับ!”“อุปกรณ์นี้ใช้งานอย่างไร? เกรงกว่าคนทั้งแคว้นต้าฉี่ก็ไม่มีใครใช้เป็น!”“คราดไถนาสิบกว่าอัน ต้องใช้กี่คนจึงจะลากไหว”“ใช้ม้านับสิบตัว น่าจะลากมาไถนาไหวอยู่กระมัง!”ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็น เสนอแนะควา
จ้านเฉิงอิ้นใช้บลูทูทส่งวิดีโอรถแทร็กเตอร์ รถไถนาให้พวกเขาพวกเขาแสดงความสนใจต่อรถไถนาเป็นอย่างมากบางคนนั่งในที่ร่ม ศึกษาวิดีโอบางคนศึกษาล้อรถขนาดใหญ่บางคนศึกษาหัวรถไฟรถ…มั่วฝานขึ้นนั่งห้องคนขับรถไถนาเป็นคนแรก สร้างแรงบันดาลไว้ว่าจะเป็นผู้ชายขับรถจ้านเฉิงอิ้นเห็นสถานการณ์เช่นนั้น พลางยิ้มจำใจเขาขยับแจกันออกไป รอคอยเสบียงรอบต่อไปที่เย่มู่มู่จะส่งมาให้เย่มู่มู่ส่งจอบ เคียว พลั่ว จอบปลายแหลม ง่าม ส้อมพรวนดิน…มาอย่างละหนึ่งพันเล่มส่งอุปกรณ์การเกษตรมาทั้งหมดหนึ่งหมื่นกว่าชิ้น ครอบคลุมพื้นที่ราบขนาดใหญ่อุปกรณ์การเกษตรทุกชิ้นทาไว้ด้วยสีดำ ส่วนที่ไม่ได้ทาสีดำส่องสว่างเงาวับ แหลมคมเป็นอย่างยิ่งคุณภาพแตกต่างจากของช่างตีเหล็กด่านเจิ้นกวนอย่างสิ้นเชิงจอบหนึ่งพันเล่ม ทุก ๆ เล่มมีขนาด น้ำหนัก เล็กใหญ่เหมือนกันทุกประการคล้ายว่าไม่ใช่คนผลิต!แต่รวมศูนย์ผลิตพร้อมกันในปริมาณมากโลกของท่านเทพ เป็นโลกที่มีลักษณะเป็นอย่างไรกันนะเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจกับยุคสมัยปัจจุบันของเย่มู่มู่แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้เย่มู่มู่หย่อนปุ๋ยชนิดต่าง ๆ ยูเรีย ปุ๋ยผสมมาให้อย่างต่อเนื่อง…มูล
จ้านเฉิงอิ้นรับไว้ด้วยมือเดียว แล้วเปิดออก“พระราชโองการแคว้นต้าฉี่: จ้านเฉิงอิ้นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพตระกูลจ้าน ทำกองทัพตระกูลจ้านสองแสนคน เสียชีวิตหนึ่งแสนแปดหมื่นคน”“ฮ่องเต้กล่าวโทษ เขาไม่มีความสามารถของการเป็นผู้บังคับบัญชา ให้ยึดอำนาจทางการทหาร ลดตำแหน่งแม่ทัพผู้บัญชาการสูงสุด”“หลังจากนี้สิบวัน กำลังคนคงเหลือของกองทัพตระกูลจ้าน จะมีสวีหวยเข้าควบคุม”“สวีหวยนำกองกำลังหนึ่งแสนคน เข้าตั้งถิ่นฐานที่ด่านเจิ้นกวน รับมอบภารกิจรักษาด่านเจิ้นกวน ดูแลพลเมืองในอีกสิบวัน!”จ้านเฉิงอิ้นสองมือจับพระราชโองการแน่น กระดูกนิ้วมือบีบจนเป็นสีขาว!ทั้งที่ด่านเจิ้นกวนรักษาไว้ได้แล้วพวกเขามีเมล็ดพันธุ์ มีอุปกรณ์การเกษตรใช้บุกเบิกที่ดินรกร้างว่างเปล่า มีรถไถนากับรถแทร็กเตอร์ มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ มีปุ๋ย…ทุกอย่างกำลังดำเนินไปในทางที่ดี!เหตุใดต้องเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มาลดตำแหน่งของเขา ยึดอำนาจทางการทหารของเขา!มั่วฝานสัมผัสได้ถึงภายในห้องโถงหารือ มีความหนาวเหน็บเย็นเข้ากระดูก เขาจับจมูก ก้าวถอยหลังสองก้าวอย่างระมัดระวังพูดเกลี้ยกล่อม “แม่ทัพอยู่ข้างนอก ไม่อยู่ภายใต้คำสั่งทหาร เจ้าไม่ต
ใกล้เวลาพลบค่ำ ในที่สุดเย่มู่มู่รอกระทั่งคนขับหวงมาส่งน้ำมันชุดสองถังน้ำมันรถบรรทุกของเขาบรรจุได้หนึ่งพันหนึ่งร้อยลิตร ไปกลับสองเที่ยว ดูดน้ำมันดีเซลออกมาได้เต็ม ๆ สองร้อยลิตรจำนวนสิบถังเย่มู่มู่จ่ายเงินให้คนขับหวงสี่หมื่นบาท รวมเงินซื้อถังน้ำมันคนขับหวงได้กำไรเปล่าหนึ่งหมื่นห้าพันบาท เขาดีใจมากช่วงนี้เขาช่วยเย่มู่มู่ขนย้ายของ ไม่ถึงหนึ่งเดือน เขาหาเงินมาได้ถึงหลายหมื่นเย่มู่มู่บอกกล่าวคนขับหวง พรุ่งนี้ให้ส่งน้ำแข็งกับเนื้อหมูแช่แข็ง ส่งถึงช่วงเที่ยงก็พอตอนกลางวันพี่ซุนคนดูแลโกดังกลับบ้านไปกินข้าว ในโกดังไม่มีคน เธอจะได้สะดวกในการส่งของไปคนขับหวงตอบรับทันที จากนั้นจึงขับรถจากไปอย่างดีใจ!*ตอนดึก เย่มู่มู่ไม่ใช้แจกันเติมน้ำจากลำธารอีก ถ้าด่านเจิ้นกวนมีความจำเป็น เธอจะส่งน้ำใช้ดื่มปริมาณของสามเดือนไปให้ในคราเดียวตอนฟ้าสว่าง เย่มู่มู่เห็นว่าในแจกันไม่มีกระดาษข้อความขอบแจกันสะอาดเป็นอย่างยิ่ง จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ส่งกระดาษข้อความมาให้เธอล้างหน้าล้างตาอย่างง่ายเสร็จ พนักงานบริการของบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนก็นำอาหารเช้ามาส่งเธอกินข้าวอาหารเช้าพร้อมกับโทรหาเซียวหัว ถามว่
ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล
หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล
แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา
ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ
หลัวซู่กับจ้านเฉิงอิ้นซึ่งเป็นผู้นำหลักของทั้งสองฝ่าย กำลังโรมรันกันอยู่ในสนามรบตอนที่ทหารเผ่าหมานทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับจ้านเฉิงอิ้นและหลัวซู่อยู่นั้นทันใดนั้นเอง รถบรรทุกสองคัน ก็พุ่งชนเข้ามาอย่างอุตลุด และพุ่งตรงไปทางกองฟืนทหารเผ่าหมานเห็นสิ่งที่ใหญ่มหึมาก็หน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างก็วิ่งหนีแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างไม่คิดชีวิตเด็กสองคนที่ถูกขึงไว้บนท่อนไม้ ไม่มีคนคอยจับตาดูเอาไว้รถบรรทุกสองคันจอดอยู่รอบ ๆ กองฟืนกองทัพตระกูลจ้านที่อยู่บนท้ายรถ ยิงธนู ยิงปืน และยิงธนูทดกำลัง ขับไล่กองทัพเผ่าหมานที่อยู่บริเวณโดยรอบออกไปจนหมดทหารที่อยู่ท้ายรถบรรทุก กระโดดลงจากรถโดยทันที จากนั้นก็ตัดเชือกให้ขาดด้วยดาบเดียวในวินาทีที่เด็กร่วงลงมาก็รับไว้ได้อย่างมั่นคงอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในด้านหลังของห้องโดยสารนับจากที่เด็กน้อยร้องให้งอแง จากนั้นก็ถูกช่วยเหลือ และยัดใส่ห้องโดยสาร…สำเร็จภายในอึดใจเดียว!ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรถออฟโรดขนาดเล็กก็ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถด้วยซ้ำในตอนนี้ทหารของกองทัพเผ่าหมานถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาถูกหลอกเข้าให้แล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บุ
“พยายามช่วยเหลือเด็กกับราษฎรห้าหมื่นคนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวดินระเบิดของพวกมัน คาดว่าตอนนี้คงเปียกโชกไปจนหมดแล้ว!”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “เดิมทีท่านบอกว่ามีวิธี เป็นวิธีเช่นนี้นี่เองสินะขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ การศึกในครั้งนี้พวกเราจะต้องมีชัยกลับมาอย่างแน่นอน!”พอวางจากวิทยุสื่อสารแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็นำแจกันเข้าไปเก็บในรถเขากล่าวกับมั่วฝานว่า “เดินหน้าเต็มที่ จู่โจมเต็มกำลัง...”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานหยิบแท่งขยายเสียงออกมา ส่วนลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่วางไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะเขากล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง จู่โจมเต็มกำลัง...”*เผ่าหมานคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนที่ตกหนักอยู่นั้นจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นสียงฟ้าร้อง จึงไม่ได้ให้ความสำคัญอันใด!เนื่องจากเสียงฟ้าร้องยังคงอยู่ และมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทว่าเมื่อฟังอย่างละเอียด กลับดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้อย่างมาก!จนกระทั่ง มีระเบิดตกลงมาข้างกายพวกเขา มีคนหลายร้อยคนถูกระเบิดจนตายพวกเขาจึงได้ค้นพบว่า...มารดามันเถิด ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนท
เมื่อมั่วฝานได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“เป็นเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”จ้านเฉินอิ้นยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านเทพ...”“เป็นนางงั้นหรือ?”“นางดูดน้ำฝนเข้ามาในแจกัน และข้าก็เคลื่อนย้ายน้ำฝนจากแจกันมายังแผ่นดินอันแห้งแล้งของตงโจว...”เมื่อมั่วฝานได้ฟัง ก็หัวเราะเสียงดังในทันที“เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสองร่วมแรงกันลำเลียงน้ำฝนจากยุคปัจจุบันมาที่นี่กระนั้นหรือ?”“ใช่!”“ดียิ่งนักจ้านเฉิงอิ้น! ต้าฉี่ของพวกเรามีทางรอดแล้ว แม่น้ำแห้งเหือด แผ่นดินแตกระแหงแล้วอย่างไรเล่า...”“พวกเจ้าสามารถลำเลียงน้ำได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ไม่ปล่อยให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าต้องพินาศ!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าลองบินอากาศยานไร้คนขับดูหน่อย ข้าควบคุมขอบเขตของฝนตกเอาไว้แล้ว ลองดูว่าสถานที่ที่ฝังดินระเบิดเอาไว้ โดนฝนจนเปียกไปแล้วหรือไม่!”“ได้!”มั่วฝานสั่งให้หน่วยกล้าตายผู้หนึ่งบินอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง เพราะว่าไม่ต้องเกรงกลัวสภาพอากาศฟ้าร้องและฟ้าผ่า และบินได้ไกลขึ้นเล็กน้อยมุมมองภาพของอากาศยานไร้คนขับ นอกเมืองตงโจวยังคงแห้งแล้งดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทำให้อากาศข
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง