กำจัดศัตรูให้รางวัลเป็นที่นาและบ้านเรือน…ฟ้าประทานภัยแล้ง ที่นาปลูกเสบียงอาหารไม่ได้ บ้านเรือนมีประโยชน์อะไร หนำซ้ำในหมู่บ้านตายหมดไม่เหลือคนแล้วจ้านเฉิงอิ้นให้รางวัลเป็นข้าวสารกับแป้ง สำหรับทหารน้อยนั่นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดตอนนี้มีเสบียงอาหารทุกคน ได้หลับนอนบนเสบียงอาหารทุกวัน และยังต้องคอยป้องกันถูกขโมยถ้าหากมีกระโจม ความเป็นส่วนตัวที่เป็นขั้นพื้นฐานก็จะได้รับการรับประกันเปี้ยนจื่อผิงและหลี่จงหยวนแจ้งนายกองด้วยความดีใจ ว่าให้มารับกระโจมไปทหารส่วนที่เหลือไปรับเหล็กเส้น เพื่อประกอบกระโจม!เมื่อทหารน้อยรู้ว่าจะมีกระโจม ต่างดีใจเป็นอย่างยิ่ง…กระโจมเชียวนะ~มีเพียงระดับนายกองพันขึ้นไป จึงจะมีสิทธิได้พักอาศัยพวกเขาได้ใช้แล้วเช่นกันยามประกอบกระโจมล้วนกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่ง!ผ้าใบกันน้ำและผ้าใบเพิ่งรับออกไป ผ้าสีล้วนก็ร่วงตามมาทันทีมีตั้งหลายร้อยผืน!จ้านเฉิงอิ้นเรียกเฉินขุยลากไปที่จวน จะทำเป็นเสื้อผ้า!ส่วนหญิงปักผ้าชาวฉู่ที่มาขอลี้ภัย มีอาจารย์ปักผ้าคอยสอนพวกนางทำเสื้อโดยเฉพาะหลังจากนั้นไม่กี่นาที อาหารม้าสามคันรถก็ร่วงลงมาม้าสี่พันตัว กินอาหารม้าทั้งห
อาหลี่รับเลี้ยงเด็กเพิ่มสามสิบกว่าคนตอนนี้เด็กในจวนแม่ทัพมีห้าสิบคน มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงจ้านเฉิงอิ้นทิ้งแท็บเล็ตเครื่องหนึ่ง กับที่ชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ แผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ที่จวนแม่ทัพเด็ก ๆ จะเข้าเรียนทุกวัน เข้าฟังการบรรยายของอาจารย์ทางออนไลน์เว่ยกวง เสี่ยวลิ่วจื่อและซุนหย่าปามาร่วมเรียนด้วย!พวกเขานั่งบนพื้นภายในลาน จับไม้ท่อนเล็กแล้วเขียนหนังสือตามคำบรรยายของอาจารย์บนพื้นทรายในทุก ๆ วันไปเข้าเรียนตั้งแต่ฟ้าไม่ทันสร่าง เมื่อตะวันลอยขึ้นมาก็ไปช่วยทำโจ๊ก แจกโจ๊กพอตะวันตกดิน ไปเข้าเรียนต่อจวบจนแผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ส่องสว่างด้วยตนเองเด็ก ๆ เชื่อฟังและรู้เดียงสา!ย่างเอ๋อร์กับหว่านเหนียง แม่เฒ่า สาวน้อยสามขวบอยู่ต่อกันหมดทุกคนหว่านเหนียงกับแม่เฒ่าช่วยกันทำโจ๊กย่างเอ๋อร์กับสาวน้อยร่วมทำงาน เข้าเรียนและรู้หนังสือด้วยกันหลายวันผ่านมานี้ จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้กลับจวนแม่ทัพ มีอะไรต้องใช้ เป็นเถียนฉินกับสวี่หมิงที่ขี่ม้ามาส่ง!วันนี้ จ้านเฉิงอิ้นกลับมาอย่างไม่ทันตั้งตัวเด็ก ๆ ต่างยืนข้างนอกห้อง รอพบแม่ทัพใหญ่พวกเขาถูกรับเลี้ยงโดยอาหลี่ ยังไม่ได้รับการพยักหน้าเห
“ดี จำไว้ว่าเครื่องลายครามต้องสมบูรณ์!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”เว่ยกวง เสี่ยวลิ่วและซุนหย่าปาเดินออกไปและปิดประตูห้องโกดังจ้านเฉิงอิ้นมองเงินทองเครื่องประดับกองใหญ่ในห้องโกดังถวายให้ท่านเทพ ท่านคงชอบใจกระมังมีใครไม่ชอบเงินทองเครื่องประดับวิบวับ ระยิบระยับ?มุมปากแฝงยิ้ม พลางหยิบกระดาษกับพู่กันออกมา“ท่านเทพ ในจวนมีเงินทองจำนวนมาก ข้าอยากถวายแก่ท่าน”*เย่มู่มู่กำลังอยู่บนถนน ขับรถจะเทียวร้านขายเครื่องมือเธอเตรียมซื้ออุปกรณ์ท่อน้ำ ก๊อกน้ำและข้อต่อก๊อกน้ำ…ครั้นเห็นกระดาษลอยลงมา เธอก็หยุดรถและมองไปจ้านเฉิงอิ้นจะส่งเงินมาอีกแล้ว เธออยู่บนถนนใหญ่ ไม่สะดวกรับเลย!“เจ้าช้าก่อน ข้าอยู่บนถนนไม่สะดวกที่จะรับ”“อิ้นค่อยส่งให้ท่านในอีกสองสามวัน?”“ได้ แล้วก็ ตอนบ่ายข้าจะซื้อท่อน้ำ ก๊อกน้ำ ถ้าเป็นไปได้ เจ้าขุดสระน้ำใหญ่บนที่สูงบ่อหนึ่ง สั่งคนคอยเฝ้าไว้ นี่คือน้ำที่ชาวบ้านใช้ในชีวิตประจำวัน ระวังอย่าให้คนอื่นวางยาพิษได้!”“เมื่อข้าส่งท่อน้ำไป เจ้าหาคนประกอบให้เสร็จ ก็จะส่งน้ำไปยังทุกส่วนของเมืองได้!”ท่อน้ำ ก๊อกน้ำจ้านเฉิงอิ้นได้ยินชื่อของนี้เป็นครั้งแรกแต่เดาได้ว่าใช้เพื่อนำ
เย่มู่มู่อ่านจดหมายของเขาแล้วยิ้มถึงแม้เป็นแม่ทัพใหญ่มีชื่อเสียงลือนามในบันทึกประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้บันทึกอย่างเป็นทางการ ในท้ายที่สุดเขาเพิ่งอายุยี่สิบในยุคปัจจุบัน ผู้ชายอายุยี่สิบยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ชอบเล่นเกม ชอบเล่นบาสเก็ตบอล สนใจเทคโนโลยีทุกประเภทจ้านเฉิงอิ้นไม่มีอะไรมากไปกว่านี้เช่นกันเพียงอากาศยานไร้คนขับตัวหนึ่งก็ทำเขาสั่นสะเทือนเย่มู่มู่ตอบจดหมายพลางยิ้ม “นี่คืออากาศยานไร้คนขับ ข้าซื้อมันมาแล้ว!”“ท่านเทพ มีของศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้จริงหรือ?”“ใช่ จะส่งไปให้เดี๋ยวนี้”“มีแผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์และเครื่องสำรองไฟสองชุด…เจ้าหาคนประกอบด้วย”“อากาศยานไร้คนขับบินสามสิบนาทีก็ไม่มีไฟแล้ว เครื่องสำรองไฟมีไว้เพื่อเติมไฟให้กับอากาศยานไร้คนขับได้ดีขึ้น!”“ส่วนใช้อย่างไร มีวิดีโอกับคู่มือการใช้อ้างอิง หากเครื่องระเบิดก็ไม่เป็นไร ส่งกลับมาซ่อมก็เป็นพอ”“ขอรับ คงแพงมากสินะ อิ้นจะใช้มันอย่างดี”เย่มู่มู่หาตรอกซอยไร้คน จอดรถสนิทแล้วส่งเสบียงไปจ้านเฉิงอิ้นกับเหล่าทหารอยู่ในห้องโถงหารือวันนี้ ท่านเทพส่งเสบียงให้จำนวนมหาศาล ทุกคนล้วนดีใจเป็นล้นพ้นภายในสองเดือนไม่ต้องกังว
เขาเห็นทหารที่กำลังฝึกซ้อม และเห็นแถวที่ยืนเรียงรอรับโจ๊กเห็นจวนแม่ทัพ จวนเฉิน จวนรัฐทายาทเห็นกลุ่มผู้หญิงปักผ้ากำลังเย็บปักเสื้อผ้าตรงเฉลียงของจวนเฉินเห็นภายในเมืองมีดินเหนียวที่แตกระแหงจนเป็นร่องหุบเหวเห็นภายในเมืองมีชาวบ้านทำงานหนักภายใต้แสงแดดที่แผดจ้าหลังจากอากาศยานไร้คนขับบินภายในเมืองครบรอบ ก็บินออกจากกำแพงเมือง จนมาถึงสถานที่ที่เผ่าฉู่กับเผ่าฉีสู้กันเมื่อไม่กี่วันก่อนพื้นแผ่นดินเป็นสีน้ำตาลเข้ม เป็นสีของคราบเลือดที่แห้งกร้านบริเวณที่ถูกระเบิด ยังมีแขนขาดขาขาดให้เห็นเป็นเลือนรางหลุมที่เกิดจากแรงระเบิดยังอยู่ กลายเป็นหุบเหวขนาดใหญ่ ล้อมรอบเมืองเป็นวงกลมหลังจากอากาศยานไร้คนขับบินออกไปยี่สิบลี้ จึงเห็นค่ายพักของแคว้นฉู่พวกเขาเห็นฮ่องเต้แคว้นฉีกับหลิงเซี่ยวเฟิงคนของแคว้นฉู่ เดินเข้าไปในกระโจมเดียวกันทั้งสองคนสมคบกัน ไม่รู้กำลังแอบวางแผนอะไรมีทหารของแคว้นฉู่พบอากาศยานไร้คนขับ จึงชักคันธนูจะยิงลงมาอากาศยานไร้คนขับบินขึ้นสูง ลูกธนูจึงยิงไม่โดนเขาเรียกนักยิงธนูกลุ่มหนึ่งเข้ามา แต่ละคนชักคันธนู…แต่กลับไม่มีใครยิงถูกอากาศยานไร้คนขับการกระทำของพวกเขา รบกวนถึงฮ
จ้านเฉิงอิ้นเห็นบนโต๊ะ มีรุ่นมาตรฐานสิบเครื่อง รุ่นขั้นสูงยี่สิบเครื่องเขาแบ่งรุ่นมาตรฐานให้แม่ทัพเจ็ดคน คนละหนึ่งเครื่องมั่วฝานทำการประกอบอย่างอดใจไม่ไหว ควบคุมอากาศยานไร้คนขับบินออกไปเรียบร้อยคนอื่นเห็นเช่นนั้นต่างขยับตัวเข้าไปดูทุกคนบอกมั่วฝานให้บินไปถึงค่ายพักเผ่าหมานแต่ระยะห่างไกลเกินไป อากาศยานไร้คนขับไม่สามารถบินไกลเกินร้อยลี้ได้!เขาบินไปค่ายพักเผ่าหมาน ที่อยู่ฝั่งตะวันตกของด่านเจิ้นกวนจำนวนคนเผ่าหมานลดลงไปมากเดิมทีมีหกหมื่นคน ตอนนี้มีไม่ถึงสองสามหมื่น การควบคุมหละหลวม ทหารเผ่าหมานบางคนถึงขั้นคิดจะหนีทหารแม่ทัพใหญ่ของเผ่าหมานที่เพิ่งรับตำแหน่งยังมาไม่ถึงด่านเจิ้นกวน ทหารเผ่าหมานอยู่กันราวกับกองทรายที่กระจัดกระจายครั้นมั่วฝานบินถึงน่านฟ้าของเผ่าหมานกุนซือจวงเหลียงถือปากกาลูกลื่น กระดาษขาวหนึ่งแผ่น วาดแผนที่การกระจายของค่ายทหารเผ่าหมานทางตะวันตกออกมาอย่างรวดเร็วมุ้งเน้นทำเครื่องหมายที่ตำแหน่งของกระโจมกำลังหลัก ทหารม้าศึกและมือยิงธนู…ข้างในสุดมีรถกระทุ้งกำแพงเมืองห้าคัน หากเผาทิ้งทั้งหมด ก็จะกำจัดความเป็นไปได้ที่เผ่าหมานจะโจมตีเมืองฝั่งตะวันตกได้ช่วงนี้
จ้านเฉิงอิ้นยืนบนที่ราบ ทะเลสาบใหญ่มาก กินพื้นที่ไปหลายสิบหมู่[1]ถ้าเติมจนเต็มจริง ๆ ด่านเจิ้นกวนจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีก!เขาเขียนข้อความ “ท่านเทพ ข้าถึงริมทะเลสาบแล้ว”เย่มู่มู่ตอบกลับ “ท่อน้ำมีมากหน่อย ระวังหน่อยนะ!”จ้านเฉิงอิ้นเชื่อฟังดั่งเคย ถอยหลังกลับไปราวสิบหมี่ทันใดนั้น ท่อเป็นม้วน ๆ ขนาดใหญ่ก็ตกลงมาจากฟ้า สู่รอบ ๆ แจกันพวกเขาเป็นคนยุคสมัยโบราณ เพิ่งเคยเห็นท่ออ่อนคดงอเป็นครั้งแรกนี่คือท่อน้ำที่ท่านเทพพูดถึง?แข็งแรงมาก อ่อนมาก สามารถคดงอได้ตามใจชอบท่อหนึ่งม้วนม้วนไว้หลายรอบ ยาวหนึ่งพันหมี่มีท่อร่วงลงมาทั้งหมดสิบม้วนและมีข้อต่ออีกหลายกล่อง กล่องเครื่องมือห้าสิบกล่องเปี้ยนจื่อผิงเปิดกล่องเครื่องมืออย่างสงสัยมีทั้งคีม ไขควง มีดคัตเตอร์ กระดาษทรายและกาวอเนกประสงค์... แต่ละอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ใช้งานได้จริงทั้งนั้นจ้านเฉิงอิ้นเปิดแท็บเล็ต ค้นหาวิดีโอวิธีต่อท่อน้ำและวิธีต่อก๊อกน้ำก่อนหน้านี้เปี้ยนจื่อผิงเคยติดตามซ่งตั๋วระยะเวลาหนึ่ง เมื่อซ่งตั๋วไม่อยู่ เขาจึงพูดกับจ้านเฉิงอิ้น “ท่านแม่ทัพ ให้ข้าน้อยทำเถอะขอรับ”เขาเห็นท่อน้ำในวิดีโอ ทำการฝังไว้ใต้พ
เปี้ยนจื่อผิงที่ติดตั้งก๊อกน้ำอยู่ข้างล่างภูเขา คล้ายว่าเขาจะได้ยินเสียงโห่ร้องจากบนเขาเขาบิดเปิดก๊อกน้ำสายน้ำน้ำแร่ที่หวานชื่นซึบซาบเข้าไปถึงหัวใจ พุ่งออกมาแล้วมีน้ำไหลออกมาจริง ๆ!เขาใช้สองมือกวักน้ำแล้วดื่มอย่างทนรอไม่ไหว ชุ่มชื่นหวานฉ่ำ ยากที่จะลืมอย่างยิ่งคุณภาพน้ำดีกว่าที่บ่อทรายมาก!เมื่อพลเมืองและกลุ่มทหารที่มาช่วยขุดดินเห็นภาพเหตุการณ์นี้ต่างตกตะลึงทุกคนพวกเขาชะงักไม่กี่ลมหายใจ ก็วางอุปกรณ์ในมือแล้วมุ่งหน้ามาทางก๊อกน้ำพวกเขาแย่งชิงเพื่อเป็นคนแรกในการลิ้มลองน้ำแร่อันหวานฉ่ำเป็นน้ำ?เป็นน้ำแร่สดชื่นที่สามารถดื่มได้!ดีอย่างยิ่ง จากนี้ไปเพียงเปิดก๊อกน้ำก็จะมีน้ำไหลออกมาไม่หยุดใช่หรือไม่เหล่าพลเมืองต่างดีใจน้ำตาไหลแม้แต่กลุ่มทหารน้อยยังรู้สึกประทับใจกับเหตุการณ์นี้หลังจากพวกพลเมืองชิมรสชาติของน้ำแล้ว พวกเขาต่างคุกเข่าและกราบสักการะน้ำ“เทวดาฟ้าดิน ในที่สุดก็เห็นน้ำตาของพลเมืองด่านเจิ้นกวน ส่งน้ำจากสวรรค์ลงมาสู่โลก เพื่อให้ทุกคนได้มีน้ำดื่มเสียที”“ท่านแม่ เป็นน้ำ หวานฉ่ำอร่อยเป็นอย่างยิ่ง! ต่อจากนี้ไปพวกเราจะมีน้ำดื่มแล้วใช่หรือไม่ น้องชายกับน้องสาวจะไม
ไม่ หากให้พูดอย่างชัดเจนเลยก็คือ แจกันส่งคนได้แล้วจ้านเฉิงอิ้นดีใจเป็นอย่างยิ่งหลังหายใจเพียงแพล็บเดียวเท่านั้น เขาก็กลับมาไม่วางใจอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ามั่วฝานถูกส่งไปยังโลกของท่านเทพจริง ๆ หรือเปล่าเขาฟังเสียงที่แว่วมาจากแจกันอย่างตั้งใจเป็นอย่างที่คิด เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกแหลมจี๊ดคุยโวโอ้อวดของมั่วฝาน“ข้า ข้าถูกส่งมาที่ใด? เทพยดาปีศาจทุกองค์ฟังนะ ข้าเป็นหลานชายของขุนนางชั้นสูงที่สืบทอดตระกูลมั่วแห่งแคว้นต้าฉี่...”ทันใดนั้น มั่วฝานก็เปลี่ยนคำพูด ราวกับพบบุคคลที่น่าอัศจรรย์อะไรเข้า“เอ๊ะ ท่าน ท่านหน้าตาละม้ายคล้ายรูปปั้นเสมือนในวัดเลยนี่!”ทันใดนั้นมั่วฝานก็ตะโกนเรียกด้วยความดีใจปนความตกตะลึง“ท่าน...ท่านเทพ ท่านคือท่านเทพจริง ๆ ด้วย...”ครั้นได้ยินถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นก็วางใจอย่างสมบูรณ์มั่วฝานกับหน่วยกล้าตายของเขา ไม่ได้ถูกส่งตัวไปผิดโลก ทว่าถูกส่งไปข้างกายท่านเทพแม้มั่วฝานจะมีหลายครั้งที่เชื่อถือไม่ได้ ทว่าก็ปกป้องท่านเทพได้แน่มิหนำซ้ำหน่วยกล้าตายข้างกายเขา เป็นยอดฝีมือที่ผ่านการเลือกหลายชั้น และเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานเพีบงแต่ จ้านเฉิงอิ้นโทษที่ตัวเองได้รับบ
หลังจ้านเฉิงอิ้นหมดสติไปอีกครั้ง มั่วฝาน จวงเหลียงและบรรดาทหารผ่านศึกที่ป่วยวุ่นวายอลหม่านไปหมดในวินาทีสำคัญ กลับหาตัวซ่งอวิ๋นฮุยไม่เจอทุกคนย้ายตัวจ้านเฉิงอิ้นออกมาจากถนนลูกรัง แล้วนำเขาไปวางไว้บนพื้นเรียบในบรรดาผู้บัญชาการของทัพแคว้นเยี่ยนของเซี่ยเวย มีทหารผ่านศึกนายหนึ่งชำนาญศาสตร์การแพทย์ เป็นหมอประจำกองทัพที่ติดตามทัพเขาพกเข็มสำหรับการฝังเข็มและครอบแก้ว ผ้าพันแปล และสมุนไพรบางส่วนติดตัวมาด้วย...เขาจับชีพจรจ้านเฉิงอิ้นก่อน จากนั้นก็เป็นอันต้องขมวดคิ้วตามมามั่วฝานกับจวงเหลียงจ้องเขาตาไม่กะพริบ พร้อมเอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ “เป็นอย่างไรบ้าง?”ทหารผ่านศึกตอบ “ยังทันขอรับ ปกติร่างกายของท่านแม่ทัพก็ดีอยู่แล้ว ยังช่วยชีวิตได้!”ทั้งสองคนถอนหายใจเบา ๆ เฮือกหนึ่ง!หมอประจำกองทัพจุดตะบันไฟ เผาเข็มรอบหนึ่ง จากนั้นก็ทิ่มเข้าไปในจุดฝังเข็มบนร่างจ้านเฉิงอิ้น เพื่อห้ามไม่ให้เลือดออกตรงมุมปากของจ้านเฉิงอิ้นไม่มีเลือดออกมาอีกตรงบาดแผลใช้เหล้ามาฆ่าเชื้อ ก่อนจะพันด้วยผ้าพันแผลสุดท้ายก็ยัดยาลูกกลอนเม็ดเล็ก ๆ สีดำเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากของจ้านเฉิงอิ้น...หลังทำทุกอย่างเสร็จ ก็จับชีพ
เขาไม่อยากเสียโอกาสนี้ไปแต่งงานกับเย่มู่มู่เป็นวิธีแก้สถานการณ์เพียงวิธีเดียวก่อนมาที่นี่ เขาเคยคิดว่าเย่มู่มู่เป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ หรือไม่ก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดาไม่ได้สะดุดตาอะไรหรืออาจเป็นผู้หญิงที่ชอบเขาตั้งแต่แรกเห็น และคลั่งไคล้เขาตั้งแต่เด็กเขาเคยเห็นผู้หญิงพรรค์นี้มามากมายหากเป็นแบบนี้จริง ๆ ก็จัดการง่ายแล้วเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า เย่มู่มู่จะสวยและมีความคิดเป็นของตัวเองขนาดนี้สิ่งที่ทำให้เขายากจะรับได้ก็คือ เย่มู่มู่ไม่ชอบเขาใช่แล้ว เขาจะบอกว่าชอบเย่มู่มู่ตั้งแต่แรกพบไม่ได้ทว่าครั้งแรกที่เห็นก็ตกตะลึงในตัวเธอ และมีความรู้สึกดี ๆ เลยเขาไม่สามารถรับได้ว่าเย่มู่มู่กลับไม่ชอบเขาหากไม่ชอบเขา แล้วลู่ซื่อกรุ๊ปจะแก้สถานการณ์อย่างไรเขาขยันขนาดนี้มาตั้งแต่เด็ก แข่งขันกับพี่ใหญ่มาสารพัดอย่าง ยังไม่ทันถึงนาทีสุดท้าย หรือว่าจะต้องยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ?ไม่ เขาจะไม่ยอมแพ้เป็นอันขาดเย่มู่มู่ไม่มีทางไม่ชอบเขา!เห็นใบหน้าของลู่ฉีหยางคล้ำดำหมองไปหมด แล้วเข้ามาใกล้เธอ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆเย่มู่มู่กอดแจกันขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว หลับอยู่ในซอกห้องรับแขก“นี่ นี่พวกคุณกำล
“ขอโทษด้วยจริง ๆ ฉันรับเอาไว้ไม่ได้...”เย่มู่มู่ปฏิเสธลู่ฉีหยางอย่างมีเหตุผลเต็มประดาครั้นลู่ฉีหยางได้ยินประโยคนี้ นิสัยเดิมก็เผยออกมาเขาสะบัดดอกไม้ไปบนพื้นอย่างแรงในทันใด กลีบดอกไม้ร่วงอยู่เต็มพรมและพื้นท่าทีสดใสงดงามในทีแรก สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเป็นขึงขังอย่างไร้ที่เปรียบ “เธอปฏิเสธฉันเหรอ?”เขากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบน่าขนลุกเย่มู่มู่หลบไปข้าง ๆ เธอกลัวลู่ฉีหยางเล็กน้อยคนคนนี้เปลี่ยนสีหน้าเร็วกว่าเปิดหน้าหนังสือเสียอีกหลังจากนั้น ลู่ฉีหยางก็แสยะยิ้ม“เย่มู่มู่ ฉันให้เกียรติเธอ ถึงได้ให้เธอเป็นแฟนของฉัน เธอคิดว่า ตอนนี้เธอยังมีทางเลือกอีกเหรอ?” หลังจากนั้นลู่ฉีหยางก็ดีดนิ้วทีหนึ่งบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่นอกห้อง เข้ามาภายในห้องทั้งหมด พวกเขายืนตั้งแถวอยู่ตรงหน้าประตู ขวางทางออกทางเดียวของเย่มู่มู่เอาไว้ครั้นเย่มู่มู่เห็นภาพฉากนี้ ก็แอบคิดในใจจบเห่แล้วเดิมทีลู่ฉีหยางกับแม่เขาไม่ใช่คนสุภาพอะไรแม้จะบอกว่าเป็นบุคคลในสังคมชั้นสูง ปีนขึ้นมาได้ถึงตำแหน่งในตอนนี้ วิธีการต้องสกปรกโสมมกว่านักธุรกิจธรรมดาไม่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่มีทางหยุดรถของเธอบนถนนใหญ่ และพาตัวเ
“เครื่องประดับชุดนี้ ฉันประมูลมาจากงานประมูลสี่ร้อยล้าน”“ฉีหยางเจ้าลูกตัวแสบนั่น บอกว่าในงานเลี้ยงครบรอบสาขาย่อยคราวก่อน ไปทำให้เธอโกรธเข้า ถึงขั้นที่เธอออกไปโดยไม่ลา และทิ้งเขาไว้ที่งานเลี้ยง”“เรื่องนี้เขาเป็นคนผิด ควรขอโทษเธอ เครื่องประดับชุดนี้ ถ้าเธอรับเอาไว้ น้าก็จะทำเป็นว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว”พูดพลางคุณหญิงลู่ก็ดันกล่องไปให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่มองอย่างไม่แยแสทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบชักสายตากลับไปแม้เครื่องประดับชุดนี้จะราคาแพงมาก แต่ใช่ว่าในตู้เซฟของแม่เธอจะไม่มีและเครื่องประดับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้เธอ ทั้งราคาแพงและหายากกว่าชุดสร้อยพลอยชุดนี้กว่าเยอะเธอไม่ได้รับเอาไว้ และดันกล่องกลับไปอีกครั้ง“คุณน้าเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ เรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิด วันนั้นฉันไม่ควรไปร่วมงานเลย!”“และฉันเองก็คิดไม่ถึงว่า เขาจะวางแผนใหญ่โตขนาดนี้รอหนู”คำพูดที่เย่มู่มู่กล่าวออกมานี้ คุณหญิงไม่อยากที่จะได้ยินเลยสักนิดสำหรับเธอนั้น ลู่ฉีหยางลูกชายของเธอผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ทำให้เธอเป็นกังวล ในแวดวงบรรดาเศรษฐินีเขาคือลูกบ้านอื่นมาตั้งแต่เด็กหน้าตาเขาหล่อเหลา ผลการเรียนดีเย
ขณะที่สองมือของเศรษฐินีแตะตัวเย่มู่มู่ เย่มู่มู่เบือนตัวหลีกทันทีเศรษฐินีคนนี้ทำอย่างกับรู้จักมักคุ้นกันมานานเกินไปแล้วเธอไม่ได้รู้จักเศรษฐินีคนนี้สักหน่อยมิหนำซ้ำยังไม่ใช่เพื่อนสนิทของแม่อีกในขณะนี้เอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ลู่ฉีหยางที่ตั้งใจแต่งตัวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เดินออกมาครั้นเขาเห็นเย่มู่มู่ ดวงตาทั้งสองก็พลันเปล่งประกาย“มู่มู่ เธอมาแล้วเหรอ?”“แม่ฉันอยากเจอเธอมากแล้ว ตั้งแต่บินมาเมืองหลวง เธอก็ด่าฉันสาดเสียเทเสียยกหนึ่ง ว่าฉันเปิดเผยภูมิหลังและตัวตนของเธอ ทั้งที่ฉันไม่ได้บอกเธอสักคำได้ยังไง”“แต่เธอวางใจนะ ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สื่อและนักข่าวจะไม่มีทางปล่อยข่าวออกไปแน่นอน แล้วก็หาภูมิหลังของเธอบนเน็ตไม่เจอด้วย”“แล้วก็ เธอสนใจไลฟ์สดที่เธอทำมาก ๆ ถามว่าเธอสนใจจะก่อตั้งบริษัทอินคิวไอดอลเอ็มซีเอ็นไหม...”คุณหญิงลู่คว้ามือของเย่มู่มู่เอาไว้อย่างกระตือรือร้น พร้อมลากเธอไปนั่งลงบนโซฟา“ไลฟ์ช่วยเกษตรกรที่เธอทำนั่น ได้เป็นที่นิยมในเน็ตมาก ๆ ได้รับความนิยมเยอะมาก ๆ ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสามเดือน ยอดแฟนคลับของห้องไลฟ์สดทั้งสองห้องก็สูงถึงสามสิบล้าน”“กระท
บีบให้เธอต้องหยุดรถเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สีดำคันหนึ่ง มีผู้ชายสวมชุดสูทสีดำ ใส่แว่นดำ รูปร่างสูงใหญ่ห้าคนลงมาจากรถดูแล้วพวกเขาคล้ายกับบอดีการ์ดมีผู้ชายสวมหมวกคนหนึ่ง มาตรงหน้ากระจกรถเย่มู่มู่ ก่อนจะเคาะกระจกรถเย่มู่มู่ลดกระจกลงท่าทีของผู้ชายคนนั้นมีมารยาทเป็นอย่างมาก หลังเขาถอดหมวกออกและเป็นฝ่ายคำนับให้เธอก่อน“คุณหนูเย่ ใช่ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า ในมือเธอกดเบอร์โทร 191 ไว้แล้ว หากอีกฝ่ายกระทำอะไรเกินขอบเขตออกมา...เธอจะต่อสายแจ้งตำรวจทันทีเพียงแต่อีกฝ่ายถามเธอด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “คุณหญิงกับคุณชายบ้านผม อยากจะเชิญคุณไปทานข้าวสักมื้อน่ะครับ”ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสอง อีกสามชั่วโมงถึงจะเป็นเวลาอาหารเย็นข้ออ้างนี้จะเกินจริงไปหน่อยหรือเปล่าเย่มู่มู่ส่ายศีรษะ แล้วกล่าวปฏิเสธ “ฉันไม่มีเวลา!”“คุณหนูเย่ผมเห็นของที่คุณใส่ไว้เต็มรถ คุณจะส่งไปไหนเหรอครับ พวกเราช่วยไปส่งให้คุณได้นะครับ”“รบกวนคุณช่วยรับคำเชิญไปทานข้าวกับคุณผู้หญิงและคุณชายบ้านเราด้วยนะครับ”พูดพลางเหล่าบอดีการ์ด ก็เตรียมจะเปิดประตูด้วยท่าทีอันธพาล พวกเขาเข้าไปในรถบรรทุกคันน้อย แล้ว ‘เชิญ’ เย่มู
ม้าขาวของจ้านเฉิงอิ้นพุ่งออกมาราวกับตกใจ เบื้องหลังม้าขาวมีผู้บัญชาการกลุ่มใหญ่กำลังไล่ตามมาเซี่ยเวย จ้าวเฉียน สวีจื่อหลิงต่างตะโกนใส่มั่วฝานว่า “สกัดเอาไว้ เร็วเข้า สกัดม้าเอาไว้...”“ท่านแม่ทัพใหญ่ได้รับบาดเจ็บหนัก ให้ม้าหยุด”มั่วฝานสั่งหน่วยกล้าตาย “ขวางม้าเอาไว้!”หน่วยกล้าตายล้วงเชือกออกมา แล้วคล้องคอม้าเอาไว้อย่างรวดเร็วม้าถูกหน่วยกล้าตายตรึงไว้อย่างแรงทั้งสี่ มันยกเท้าหน้าขึ้นสูง พร้อมคำรามด้วยความหวาดกลัว!ขณะนี้จ้านเฉิงอิ้นที่อยู่บนหลังม้ากำลังจะร่วงลงมาเหล่าทหารผ่านศึกมือเร็วตาไว รับตัวจ้านเฉิงอิ้นเอาไว้ทั้งเนื้อตัวของจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเลือด ถูกม้าทำให้สั่นโคลงเคลงอย่างแรง เดิมทีหมดสติไปแล้ว ทว่าตอนนี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทหารผ่านศึกตะโกนดังลั่น “ท่านรัฐทายาท ท่านแม่ทัพฟื้นแล้วขอรับ”มั่วฝานกล่าวอย่างร้อนใจ “เรียกหมอประจำกองทัพ เร็วเข้า...”วินาทีถัดมา มือที่เปื้อนเลือดสดของจ้านเฉิงอิ้นก็คว้าปกเสื้อของมั่วฝานเอาไว้ เนื่องจากเขาเห็นแจกันในอ้อมอกของมั่วฝานมั่วฝานรีบคุกเข่าลง พร้อมประคองเขาเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ครั้นอ้าปากก็อันกระอักเลือด
ทีแรกทั้งสองฝ่ายสู้กันมือเปล่า ทัพพันธมิตรสี่แคว้นด้วยจำนวนคนมาก จึงได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังจ้านเฉิงอิ้นใช้วัตถุระเบิดจนหมดส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน นำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบสถานการณ์พลันพลิกกลับอาวุธของพวกเขาล้ำสมัยยิ่งนัก แม้ยังฝึกใช้ดาบม่อเตาไม่คล่อง ทว่าชุดเกราะและเสื้อกันกระสุนก็ป้องกันได้สองชั้นอาวุธของทัพศัตรูไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทัพแคว้นเยี่ยค่อย ๆ ถอยทัพทีละก้าว ๆคนเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆห้าหมื่นนายถูกระเบิดตายไปหลายพันนายเข่นฆ่ากับจ้านเฉิงอิ้นตายไปอีกบางส่วนตอนนี้เซี่ยเวยนำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบจำนวนของทหารแคว้นเยี่ยน กำลังลดลงไปอย่างรวดเร็วจากสี่หมื่นสองพันคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ลดลงไปถึงสามหมื่นสองหมื่น...ขณะที่ในสนามรบเหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนเยี่ยนเย่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้วเขาหวังเพียงว่าคนอื่นจะช่วยเขาได้ทว่าครั้นเขาหันหลังกลับไปมองเจียงเหว่ยกับเกาอี้กลับนำคนเข้ามามีเพียงมู่ซาและกำลังพลห้าหมื่นนายของเขาขวางไว้ได้เพียงครู่หนึ่ง หลังพวกเขาลิ้มลอง ก็ค้นพบว่าอุปกรณ์ของกองทัพตระกูลจ้านร้ายแรงเพียงใดมู่ซาเองก็ต้านไม่อยู่ ตายไปหนึ่ง