Share

บทที่ 116

Author: มู่โร่ว
แม้แต่มั่วฝานก็แสดงได้ยอดเยี่ยมมากในวันนี้

เขาไม่รู้วิธีใช้ดาบม่อเตา ดังนั้นจึงง้างธนูทดกำลังยืนอยู่บนกำแพงเมือง สังหารคนไปหลายสิบคน

“ข้าสังหารคนหลายสิบคน ความรู้สึกที่ฆ่าคน ก็ไม่มีอะไรเกินไปกว่านี้!”

“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าบอกว่าเจ้าจะให้ข้าวสิบหมี่ต่อการสังหารหนึ่งคน เจ้าต้องให้ข้าวสารข้าสามถุง แป้งสาลีหนึ่งถุง”

“ข้าอยากจะเอากลับเมืองหลวงด้วย ให้ไทเฮาได้ดู ข้าสามารถลงสนามรบสังหารศัตรู สร้างความดีความชอบในสนามรบได้!”

เฉินขุยตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “นี่ วันนี้เจ้าทำได้ดีมาก”

“แน่นอน!”

“ดื่มกับพี่ชายสักอึก วันนี้พวกเราไม่เมาไม่กลับ!”

เพื่อบรรเทาความกดดัน ทหารสิบนายจึงเล่นเกมดื่มเหล้า!

จ้านเฉิงอิ้นดื่มเบียร์ลงท้องไปสองสามแก้ว แล้วเดินออกจากห้อง มาที่กำแพงเมือง

มีทหารจำนวนมากที่ยังปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาไม่สามารถดื่มสุราได้ แต่ยังมีพี่น้องที่ดีนำเนื้อมาให้พวกเขา

พวกเขากินเนื้อไปพร้อมกับหัวเราะ

“วันนี้ข้าสังหารคนไปกว่ายี่สิบคน ได้ข้าวสารสามถุงร้อยชั่ง แป้งสาลีหนึ่งร้อยชั่ง ไว้รอให้กองทัพศัตรูพ่ายแพ้ถอยทัพไปแล้ว ข้าจะกลับบ้านไปพร้อมกับอาหาร แล้วสู่ขอหญิงสาวที่งดงามที่สุดในหมู่บ้าน!”

“แม่ข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 117

    จ้านเฉิงอิ้นอ่านประโยคที่ว่าแผ่นดินหัวเซี่ยรวมเป็นหนึ่งแผ่นดินหัวเซี่ยถูกแบ่งแยกออกจากกันมานานแล้ว หลายร้อยปีมีการต่อสู้ไม่หยุด ไม่เคยมีใครเอ่ยถึงแนวคิดรวมเป็นหนึ่งนี้ขึ้นมา!แม้แต่ในสมัยยุคชุนชิว ก็ยังถูกแบ่งออกเป็นชนเผ่ามากมาย มีความขัดแย้งกันหากท่านเทพต้องการให้เขารวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งเดียวไม่ว่าเส้นทางนี้จะยากลำบากสักเพียงใด เขาก็จะไปสู้สุดชีวิต พยายามทำให้ความปรารถนาของนางสำเร็จเขากดพู่กันลงบนกระดาษขาวอย่างหนัก “ได้!”เย่มู่มู่เห็นกระดาษที่จ้านเฉิงอิ้นส่งกลับมา มือทั้งสองถือกระดาษเอาไว้ แล้วยิ้มด้วยความพอใจดูสิ จ้านเฉิงอิ้นเห็นด้วยแล้ว!เมื่อมีการสนับสนุนจากแม่ทัพหนุ่ม ความปรารถนาที่อยากจะรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งของเธอก็ใกล้เข้ามาหนึ่งก้าวแล้วเธอต้องการเก็บกระดาษแผ่นนี้ไว้อย่างดีใช้มันเป็นสิ่งกระตุ้นตัวเองและจ้านเฉิงอิ้นเธอเขียนจดหมายหาจ้านเฉิงอิ้นอีกว่า “พรุ่งนี้จะส่งเสบียงไปอีกชุดหนึ่ง ตอนนี้คาดว่าน่าจะได้ประมาณสามร้อยชั่ง”“มีอาหารม้าแบบหยาบและอาหารม้าแบบข้นสามคันรถ เจ้าเตรียมกระท่อมรองรับไว้ให้พร้อม”“ยังมีชามแสตนเลสอีกสามแสนใบ ติดประกาศแจ้งชาวบ้านให้นำเครื่องล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 118

    “ฉันได้ยินมาว่าเธอหาคนไปทำร้ายญาติพี่น้องเหรอ? ดูความสามารถเธอสิ ถ้าอยู่บ้านใหญ่ของฉันละก็ ฉันจะตีเธอจนลงจากเตียงไม่ได้เลย!”“เด็กผู้หญิงอย่างเธอ มีสิทธิ์อะไรมายึดทรัพย์สินของครอบครัว? อยากให้ย่า ให้ลุงใหญ่ป้าสะใภ้ใหญ่และอาเล็กทั้งครอบครัวถูกไล่ไปอยู่ข้างถนนเหรอ ทำไมเธอถึงได้เลือดเย็นขนาดนี้?”“บ้านเธออยู่ไหน? ฉันจะเอาสีแดงไปสาดบ้านเธอ!”เมื่อเห็นข้อความนี้ เย่มู่มู่ก็ขมวดคิ้วอย่างแน่นเธอโกรธมาก!ตระกูลเย่ทำตัวเป็นปีศาจอีกแล้ว ไม่บรรลุเป้าหมายต่อให้ตายก็จะไม่ยอมเลิกราสินะ!ครั้งนี้พวกเขาคิดจะก่อปัญหาแบบไหนอีก?เลขาธิการฟู่ลี่กรุ๊ปโทรหาเธอ“คุณหนูเย่ ทางบริษัทหวังว่าคุณจะจัดการชีวิตส่วนตัวให้ดี เพราะข้อพิพาทของคุณกับทรัพย์สินของครอบครัว ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแล้ว”“ตอนนี้ ความคิดเห็นทั้งหมดในเว็บไซต์ทางการต่างก็เป็นคำด่าทอ ราคาหุ้นของฟู่ลี่กรุ๊ปลดลงสี่เปอร์เซ็นต์”“ถ้าคุณไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดี คณะกรรมการจะบังคับให้คุณลงจากที่นั่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่”พอพูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ไปอย่างไม่เกรงใจเย่มู่มู่โกรธมาก เธอเปิดเฟซบุ๊ก ก็เห็นคำค้นหายอดนิยม#เย่มู่มู่ทำร้ายคน##เย่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 119

    ทนายสวีรู้กระแสบนอินเทอร์เน็ตแล้วเขาไม่คิดว่าเย่มู่มู่ที่ดูผอมและอ่อนแอจะกล้าหาคนมาทุบตีญาติของตัวเองตำรวจยังติดตามและตรวจสอบทรัพย์สินด้วยแม้ว่านิติบุคคลหมู่บ้านจะไม่ไล่เธอออกไป แต่สถานการณ์ถูกกระตุ้น การวิพากษ์วิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตที่มีต่อเธอ ก็ไม่เป็นผลดีต่อบริษัทเขาและเย่มู่มู่พบกันที่หน้าสถานีตำรวจเขาบอกกับเย่มู่มู่ว่า “ทุกอย่างยังมีผม เรื่องที่ไม่มีหลักฐานก็เงียบไปก่อน!”เธอพยักหน้า “ตกลง!”ทั้งสองเข้าไปในสถานีตำรวจด้วยกันญาติหลายคนของตระกูลเย่ต้องการพุ่งเข้าไปตบตีเย่มู่มู่ทันทีที่พวกเขาเห็นเธอแต่ก็ถูกตำรวจขวางเอาไว้ร้องตะโกนเสียงดังจนสุดแรงในสถานีตำรวจ “เธอมันหมาป่าไร้หัวใจ กล้าดียังไงไปจ้างคนมาทุบตีพวกเรา?”“ตอนพ่อเธอยังอยู่ พวกเราอยากได้เงิน เขาก็ไม่กล้าขัดแม้แต่คำเดียว แต่นี่เธอ จะเอาบ้านเอารถกลับคืนไปยังไม่พอ ยังกล้ามาตีพวกเราอีก”“วันนี้ถ้าเธอไม่เอาหุ้นในฟู่ลี่กรุ๊ปที่ถืออยู่ คฤหาสน์ ตึก และรถ...ออกมา เรื่องนี้ไม่จบง่าย ๆ แน่!”ทนายความขวางอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วพูดคำที่ชอบธรรม“คุณตำรวจ คนพวกนี้กำลังขู่กรรโชกทรัพย์ ส่วนบ้านรถของพวกเขาที่ยึดคืน ลูกความของผม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 120

    “ถ้าเรื่องนี้กระแสตีกลับ ราคาหุ้นก็จะสูงขึ้นด้วย หากพวกเขารู้จักการสร้างกระแส ก็จะเก็บปริมาณการเข้าชมได้”“ทางฝั่งตำรวจ ทางที่ดีควรจะออกมาประกาศ อธิบายความจริง!”“ครับ ให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของผมเถอะ!”“แต่เรื่องที่คนตระกูลเย่สร้างเรื่องทำลายชื่อเสียงของคุณ รวมถึงราคาหุ้นฟู่ลี่กรุ๊ปที่ตกลงไปมาก”“จะฟ้อง หรือควบคุมตัวไว้!”เธอไม่อยากเจอพวกเขาอีกแล้ว!“ควบคุมตัวไว้เกรงว่าจะยุ่งยากหน่อย เพราะพวกเขาได้รับบาดเจ็บ ปรับ หรือฟ้องพวกเขาก็ได้ แต่เวลาจะนานหน่อย”“ไม่เป็นไร ฉันมีเวลาเหลือเฟือ!”เธอฝากเรื่องหลังจากนี้ไว้กับทนายสวีเมื่อเดินออกจากสถานีตำรวจ นักข่าวและสื่อมวลชนจำนวนนับไม่ถ้วนก็มาล้อมอยู่หน้าประตูหลังจากเห็นเย่มู่มู่ออกมา พวกเขาก็เฮโลกันเข้ามา!ถ่ายรูปเธอซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฟู่ลี่กรุ๊ปฟู่ลี่กรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ และเป็นบริษัทชั้นนำที่มีเกณฑ์มาตรฐานในท้องถิ่นในช่วงปีแรก ๆ พ่อของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเซี่ยงไฮ้อยู่หลายปี แต่ต่อมาก็ถูกเบียดตกลงมา อยู่ในยี่สิบอันดับแรก ตั้งแต่พ่อของเธอจากโลกนี้ไป โลกภายนอกต่างสงสัยเกี่ยวกั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 121

    นางหย่อนกระดาษแผ่นหนึ่งให้จ้านเฉิงอิ้น บอกให้เขาเตรียมตัวรับเสบียงสี่ล้านชั่งชามแสตนเลสสองชั้นสามแสนชิ้นอาหารม้าข้นและอาหารม้าหยาบสองแสนสี่หมื่นชั่งประจวบเหมาะพอดี หัวหน้าฝ่ายขายโรงงานสิ่งทอส่งผ้าใบกันน้ำ ผ้าใบและผ้าสีล้วนมาให้มีผ้าสี่สิบตัน เธอชำระเงินส่วนที่เหลือหลังจากการซื้อขายชุดนี้สำเร็จ ก็นับว่าเป็นอันเสร็จสิ้นเนื่องจากเย่มู่มู่มีกำลังซื้อมาก โรงงานสิ่งทอที่จวนจะล้มละลาย จนสามารถดำเนินการได้ตามปกติอย่างวันนี้เจ้าของก็ไม่อยากขายโรงงานอีก เพราะการซื้อขายในสองสามครั้งนี้ ทำให้เขาได้เงินมาถึงหลายล้านเงินส่วนแบ่งที่ได้จากการขายของหัวหน้าฝ่ายขาย ก็สามารถซื้อรถดี ๆ ได้แล้วคันหนึ่งเขาไม่เต็มใจที่จะสูญเสียลูกค้าใหญ่อย่างเย่มู่มู่ไป“คุณหนูเย่ คุณยังมีความต้องการอะไร พวกเราสามารถผลิตให้ได้ทุกอย่าง!”เย่มู่มู่มีความต้องการจริงเธอรู้ว่าทหารของด่านเจิ้นกวน ไม่มีค่ายพัก ไม่มีกระโจมพวกเขานอนราบกับพื้น กลางคืนนอนบนทราย เอาของใช้ทำเป็นหมอนด่านเจิ้นกวนเวลากลางวันร้อนมาก กลางคืนหนาว อุณหภูมิกลางวันกับกลางคืนต่างกันสิ้นเชิงพวกเขาไม่มีแม้แต่เตียง ไม่รู้จะผ่านพ้นฤดูหนาวอย่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 122

    กำจัดศัตรูให้รางวัลเป็นที่นาและบ้านเรือน…ฟ้าประทานภัยแล้ง ที่นาปลูกเสบียงอาหารไม่ได้ บ้านเรือนมีประโยชน์อะไร หนำซ้ำในหมู่บ้านตายหมดไม่เหลือคนแล้วจ้านเฉิงอิ้นให้รางวัลเป็นข้าวสารกับแป้ง สำหรับทหารน้อยนั่นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดตอนนี้มีเสบียงอาหารทุกคน ได้หลับนอนบนเสบียงอาหารทุกวัน และยังต้องคอยป้องกันถูกขโมยถ้าหากมีกระโจม ความเป็นส่วนตัวที่เป็นขั้นพื้นฐานก็จะได้รับการรับประกันเปี้ยนจื่อผิงและหลี่จงหยวนแจ้งนายกองด้วยความดีใจ ว่าให้มารับกระโจมไปทหารส่วนที่เหลือไปรับเหล็กเส้น เพื่อประกอบกระโจม!เมื่อทหารน้อยรู้ว่าจะมีกระโจม ต่างดีใจเป็นอย่างยิ่ง…กระโจมเชียวนะ~มีเพียงระดับนายกองพันขึ้นไป จึงจะมีสิทธิได้พักอาศัยพวกเขาได้ใช้แล้วเช่นกันยามประกอบกระโจมล้วนกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่ง!ผ้าใบกันน้ำและผ้าใบเพิ่งรับออกไป ผ้าสีล้วนก็ร่วงตามมาทันทีมีตั้งหลายร้อยผืน!จ้านเฉิงอิ้นเรียกเฉินขุยลากไปที่จวน จะทำเป็นเสื้อผ้า!ส่วนหญิงปักผ้าชาวฉู่ที่มาขอลี้ภัย มีอาจารย์ปักผ้าคอยสอนพวกนางทำเสื้อโดยเฉพาะหลังจากนั้นไม่กี่นาที อาหารม้าสามคันรถก็ร่วงลงมาม้าสี่พันตัว กินอาหารม้าทั้งห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 123

    อาหลี่รับเลี้ยงเด็กเพิ่มสามสิบกว่าคนตอนนี้เด็กในจวนแม่ทัพมีห้าสิบคน มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงจ้านเฉิงอิ้นทิ้งแท็บเล็ตเครื่องหนึ่ง กับที่ชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ แผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ที่จวนแม่ทัพเด็ก ๆ จะเข้าเรียนทุกวัน เข้าฟังการบรรยายของอาจารย์ทางออนไลน์เว่ยกวง เสี่ยวลิ่วจื่อและซุนหย่าปามาร่วมเรียนด้วย!พวกเขานั่งบนพื้นภายในลาน จับไม้ท่อนเล็กแล้วเขียนหนังสือตามคำบรรยายของอาจารย์บนพื้นทรายในทุก ๆ วันไปเข้าเรียนตั้งแต่ฟ้าไม่ทันสร่าง เมื่อตะวันลอยขึ้นมาก็ไปช่วยทำโจ๊ก แจกโจ๊กพอตะวันตกดิน ไปเข้าเรียนต่อจวบจนแผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ส่องสว่างด้วยตนเองเด็ก ๆ เชื่อฟังและรู้เดียงสา!ย่างเอ๋อร์กับหว่านเหนียง แม่เฒ่า สาวน้อยสามขวบอยู่ต่อกันหมดทุกคนหว่านเหนียงกับแม่เฒ่าช่วยกันทำโจ๊กย่างเอ๋อร์กับสาวน้อยร่วมทำงาน เข้าเรียนและรู้หนังสือด้วยกันหลายวันผ่านมานี้ จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้กลับจวนแม่ทัพ มีอะไรต้องใช้ เป็นเถียนฉินกับสวี่หมิงที่ขี่ม้ามาส่ง!วันนี้ จ้านเฉิงอิ้นกลับมาอย่างไม่ทันตั้งตัวเด็ก ๆ ต่างยืนข้างนอกห้อง รอพบแม่ทัพใหญ่พวกเขาถูกรับเลี้ยงโดยอาหลี่ ยังไม่ได้รับการพยักหน้าเห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 124

    “ดี จำไว้ว่าเครื่องลายครามต้องสมบูรณ์!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”เว่ยกวง เสี่ยวลิ่วและซุนหย่าปาเดินออกไปและปิดประตูห้องโกดังจ้านเฉิงอิ้นมองเงินทองเครื่องประดับกองใหญ่ในห้องโกดังถวายให้ท่านเทพ ท่านคงชอบใจกระมังมีใครไม่ชอบเงินทองเครื่องประดับวิบวับ ระยิบระยับ?มุมปากแฝงยิ้ม พลางหยิบกระดาษกับพู่กันออกมา“ท่านเทพ ในจวนมีเงินทองจำนวนมาก ข้าอยากถวายแก่ท่าน”*เย่มู่มู่กำลังอยู่บนถนน ขับรถจะเทียวร้านขายเครื่องมือเธอเตรียมซื้ออุปกรณ์ท่อน้ำ ก๊อกน้ำและข้อต่อก๊อกน้ำ…ครั้นเห็นกระดาษลอยลงมา เธอก็หยุดรถและมองไปจ้านเฉิงอิ้นจะส่งเงินมาอีกแล้ว เธออยู่บนถนนใหญ่ ไม่สะดวกรับเลย!“เจ้าช้าก่อน ข้าอยู่บนถนนไม่สะดวกที่จะรับ”“อิ้นค่อยส่งให้ท่านในอีกสองสามวัน?”“ได้ แล้วก็ ตอนบ่ายข้าจะซื้อท่อน้ำ ก๊อกน้ำ ถ้าเป็นไปได้ เจ้าขุดสระน้ำใหญ่บนที่สูงบ่อหนึ่ง สั่งคนคอยเฝ้าไว้ นี่คือน้ำที่ชาวบ้านใช้ในชีวิตประจำวัน ระวังอย่าให้คนอื่นวางยาพิษได้!”“เมื่อข้าส่งท่อน้ำไป เจ้าหาคนประกอบให้เสร็จ ก็จะส่งน้ำไปยังทุกส่วนของเมืองได้!”ท่อน้ำ ก๊อกน้ำจ้านเฉิงอิ้นได้ยินชื่อของนี้เป็นครั้งแรกแต่เดาได้ว่าใช้เพื่อนำ

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 705

    หลัวซู่กับจ้านเฉิงอิ้นซึ่งเป็นผู้นำหลักของทั้งสองฝ่าย กำลังโรมรันกันอยู่ในสนามรบตอนที่ทหารเผ่าหมานทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับจ้านเฉิงอิ้นและหลัวซู่อยู่นั้นทันใดนั้นเอง รถบรรทุกสองคัน ก็พุ่งชนเข้ามาอย่างอุตลุด และพุ่งตรงไปทางกองฟืนทหารเผ่าหมานเห็นสิ่งที่ใหญ่มหึมาก็หน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างก็วิ่งหนีแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างไม่คิดชีวิตเด็กสองคนที่ถูกขึงไว้บนท่อนไม้ ไม่มีคนคอยจับตาดูเอาไว้รถบรรทุกสองคันจอดอยู่รอบ ๆ กองฟืนกองทัพตระกูลจ้านที่อยู่บนท้ายรถ ยิงธนู ยิงปืน และยิงธนูทดกำลัง ขับไล่กองทัพเผ่าหมานที่อยู่บริเวณโดยรอบออกไปจนหมดทหารที่อยู่ท้ายรถบรรทุก กระโดดลงจากรถโดยทันที จากนั้นก็ตัดเชือกให้ขาดด้วยดาบเดียวในวินาทีที่เด็กร่วงลงมาก็รับไว้ได้อย่างมั่นคงอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในด้านหลังของห้องโดยสารนับจากที่เด็กน้อยร้องให้งอแง จากนั้นก็ถูกช่วยเหลือ และยัดใส่ห้องโดยสาร…สำเร็จภายในอึดใจเดียว!ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรถออฟโรดขนาดเล็กก็ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถด้วยซ้ำในตอนนี้ทหารของกองทัพเผ่าหมานถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาถูกหลอกเข้าให้แล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 704

    “พยายามช่วยเหลือเด็กกับราษฎรห้าหมื่นคนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวดินระเบิดของพวกมัน คาดว่าตอนนี้คงเปียกโชกไปจนหมดแล้ว!”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “เดิมทีท่านบอกว่ามีวิธี เป็นวิธีเช่นนี้นี่เองสินะขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ การศึกในครั้งนี้พวกเราจะต้องมีชัยกลับมาอย่างแน่นอน!”พอวางจากวิทยุสื่อสารแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็นำแจกันเข้าไปเก็บในรถเขากล่าวกับมั่วฝานว่า “เดินหน้าเต็มที่ จู่โจมเต็มกำลัง...”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานหยิบแท่งขยายเสียงออกมา ส่วนลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่วางไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะเขากล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง จู่โจมเต็มกำลัง...”*เผ่าหมานคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนที่ตกหนักอยู่นั้นจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นสียงฟ้าร้อง จึงไม่ได้ให้ความสำคัญอันใด!เนื่องจากเสียงฟ้าร้องยังคงอยู่ และมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทว่าเมื่อฟังอย่างละเอียด กลับดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้อย่างมาก!จนกระทั่ง มีระเบิดตกลงมาข้างกายพวกเขา มีคนหลายร้อยคนถูกระเบิดจนตายพวกเขาจึงได้ค้นพบว่า...มารดามันเถิด ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 703

    เมื่อมั่วฝานได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“เป็นเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”จ้านเฉินอิ้นยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านเทพ...”“เป็นนางงั้นหรือ?”“นางดูดน้ำฝนเข้ามาในแจกัน และข้าก็เคลื่อนย้ายน้ำฝนจากแจกันมายังแผ่นดินอันแห้งแล้งของตงโจว...”เมื่อมั่วฝานได้ฟัง ก็หัวเราะเสียงดังในทันที“เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสองร่วมแรงกันลำเลียงน้ำฝนจากยุคปัจจุบันมาที่นี่กระนั้นหรือ?”“ใช่!”“ดียิ่งนักจ้านเฉิงอิ้น! ต้าฉี่ของพวกเรามีทางรอดแล้ว แม่น้ำแห้งเหือด แผ่นดินแตกระแหงแล้วอย่างไรเล่า...”“พวกเจ้าสามารถลำเลียงน้ำได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ไม่ปล่อยให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าต้องพินาศ!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าลองบินอากาศยานไร้คนขับดูหน่อย ข้าควบคุมขอบเขตของฝนตกเอาไว้แล้ว ลองดูว่าสถานที่ที่ฝังดินระเบิดเอาไว้ โดนฝนจนเปียกไปแล้วหรือไม่!”“ได้!”มั่วฝานสั่งให้หน่วยกล้าตายผู้หนึ่งบินอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง เพราะว่าไม่ต้องเกรงกลัวสภาพอากาศฟ้าร้องและฟ้าผ่า และบินได้ไกลขึ้นเล็กน้อยมุมมองภาพของอากาศยานไร้คนขับ นอกเมืองตงโจวยังคงแห้งแล้งดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทำให้อากาศข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 702

    หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status