แชร์

บทที่ 116

ผู้เขียน: มู่โร่ว
แม้แต่มั่วฝานก็แสดงได้ยอดเยี่ยมมากในวันนี้

เขาไม่รู้วิธีใช้ดาบม่อเตา ดังนั้นจึงง้างธนูทดกำลังยืนอยู่บนกำแพงเมือง สังหารคนไปหลายสิบคน

“ข้าสังหารคนหลายสิบคน ความรู้สึกที่ฆ่าคน ก็ไม่มีอะไรเกินไปกว่านี้!”

“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าบอกว่าเจ้าจะให้ข้าวสิบหมี่ต่อการสังหารหนึ่งคน เจ้าต้องให้ข้าวสารข้าสามถุง แป้งสาลีหนึ่งถุง”

“ข้าอยากจะเอากลับเมืองหลวงด้วย ให้ไทเฮาได้ดู ข้าสามารถลงสนามรบสังหารศัตรู สร้างความดีความชอบในสนามรบได้!”

เฉินขุยตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “นี่ วันนี้เจ้าทำได้ดีมาก”

“แน่นอน!”

“ดื่มกับพี่ชายสักอึก วันนี้พวกเราไม่เมาไม่กลับ!”

เพื่อบรรเทาความกดดัน ทหารสิบนายจึงเล่นเกมดื่มเหล้า!

จ้านเฉิงอิ้นดื่มเบียร์ลงท้องไปสองสามแก้ว แล้วเดินออกจากห้อง มาที่กำแพงเมือง

มีทหารจำนวนมากที่ยังปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาไม่สามารถดื่มสุราได้ แต่ยังมีพี่น้องที่ดีนำเนื้อมาให้พวกเขา

พวกเขากินเนื้อไปพร้อมกับหัวเราะ

“วันนี้ข้าสังหารคนไปกว่ายี่สิบคน ได้ข้าวสารสามถุงร้อยชั่ง แป้งสาลีหนึ่งร้อยชั่ง ไว้รอให้กองทัพศัตรูพ่ายแพ้ถอยทัพไปแล้ว ข้าจะกลับบ้านไปพร้อมกับอาหาร แล้วสู่ขอหญิงสาวที่งดงามที่สุดในหมู่บ้าน!”

“แม่ข
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 117

    จ้านเฉิงอิ้นอ่านประโยคที่ว่าแผ่นดินหัวเซี่ยรวมเป็นหนึ่งแผ่นดินหัวเซี่ยถูกแบ่งแยกออกจากกันมานานแล้ว หลายร้อยปีมีการต่อสู้ไม่หยุด ไม่เคยมีใครเอ่ยถึงแนวคิดรวมเป็นหนึ่งนี้ขึ้นมา!แม้แต่ในสมัยยุคชุนชิว ก็ยังถูกแบ่งออกเป็นชนเผ่ามากมาย มีความขัดแย้งกันหากท่านเทพต้องการให้เขารวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งเดียวไม่ว่าเส้นทางนี้จะยากลำบากสักเพียงใด เขาก็จะไปสู้สุดชีวิต พยายามทำให้ความปรารถนาของนางสำเร็จเขากดพู่กันลงบนกระดาษขาวอย่างหนัก “ได้!”เย่มู่มู่เห็นกระดาษที่จ้านเฉิงอิ้นส่งกลับมา มือทั้งสองถือกระดาษเอาไว้ แล้วยิ้มด้วยความพอใจดูสิ จ้านเฉิงอิ้นเห็นด้วยแล้ว!เมื่อมีการสนับสนุนจากแม่ทัพหนุ่ม ความปรารถนาที่อยากจะรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งของเธอก็ใกล้เข้ามาหนึ่งก้าวแล้วเธอต้องการเก็บกระดาษแผ่นนี้ไว้อย่างดีใช้มันเป็นสิ่งกระตุ้นตัวเองและจ้านเฉิงอิ้นเธอเขียนจดหมายหาจ้านเฉิงอิ้นอีกว่า “พรุ่งนี้จะส่งเสบียงไปอีกชุดหนึ่ง ตอนนี้คาดว่าน่าจะได้ประมาณสามร้อยชั่ง”“มีอาหารม้าแบบหยาบและอาหารม้าแบบข้นสามคันรถ เจ้าเตรียมกระท่อมรองรับไว้ให้พร้อม”“ยังมีชามแสตนเลสอีกสามแสนใบ ติดประกาศแจ้งชาวบ้านให้นำเครื่องล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 118

    “ฉันได้ยินมาว่าเธอหาคนไปทำร้ายญาติพี่น้องเหรอ? ดูความสามารถเธอสิ ถ้าอยู่บ้านใหญ่ของฉันละก็ ฉันจะตีเธอจนลงจากเตียงไม่ได้เลย!”“เด็กผู้หญิงอย่างเธอ มีสิทธิ์อะไรมายึดทรัพย์สินของครอบครัว? อยากให้ย่า ให้ลุงใหญ่ป้าสะใภ้ใหญ่และอาเล็กทั้งครอบครัวถูกไล่ไปอยู่ข้างถนนเหรอ ทำไมเธอถึงได้เลือดเย็นขนาดนี้?”“บ้านเธออยู่ไหน? ฉันจะเอาสีแดงไปสาดบ้านเธอ!”เมื่อเห็นข้อความนี้ เย่มู่มู่ก็ขมวดคิ้วอย่างแน่นเธอโกรธมาก!ตระกูลเย่ทำตัวเป็นปีศาจอีกแล้ว ไม่บรรลุเป้าหมายต่อให้ตายก็จะไม่ยอมเลิกราสินะ!ครั้งนี้พวกเขาคิดจะก่อปัญหาแบบไหนอีก?เลขาธิการฟู่ลี่กรุ๊ปโทรหาเธอ“คุณหนูเย่ ทางบริษัทหวังว่าคุณจะจัดการชีวิตส่วนตัวให้ดี เพราะข้อพิพาทของคุณกับทรัพย์สินของครอบครัว ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแล้ว”“ตอนนี้ ความคิดเห็นทั้งหมดในเว็บไซต์ทางการต่างก็เป็นคำด่าทอ ราคาหุ้นของฟู่ลี่กรุ๊ปลดลงสี่เปอร์เซ็นต์”“ถ้าคุณไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดี คณะกรรมการจะบังคับให้คุณลงจากที่นั่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่”พอพูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ไปอย่างไม่เกรงใจเย่มู่มู่โกรธมาก เธอเปิดเฟซบุ๊ก ก็เห็นคำค้นหายอดนิยม#เย่มู่มู่ทำร้ายคน##เย่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 119

    ทนายสวีรู้กระแสบนอินเทอร์เน็ตแล้วเขาไม่คิดว่าเย่มู่มู่ที่ดูผอมและอ่อนแอจะกล้าหาคนมาทุบตีญาติของตัวเองตำรวจยังติดตามและตรวจสอบทรัพย์สินด้วยแม้ว่านิติบุคคลหมู่บ้านจะไม่ไล่เธอออกไป แต่สถานการณ์ถูกกระตุ้น การวิพากษ์วิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตที่มีต่อเธอ ก็ไม่เป็นผลดีต่อบริษัทเขาและเย่มู่มู่พบกันที่หน้าสถานีตำรวจเขาบอกกับเย่มู่มู่ว่า “ทุกอย่างยังมีผม เรื่องที่ไม่มีหลักฐานก็เงียบไปก่อน!”เธอพยักหน้า “ตกลง!”ทั้งสองเข้าไปในสถานีตำรวจด้วยกันญาติหลายคนของตระกูลเย่ต้องการพุ่งเข้าไปตบตีเย่มู่มู่ทันทีที่พวกเขาเห็นเธอแต่ก็ถูกตำรวจขวางเอาไว้ร้องตะโกนเสียงดังจนสุดแรงในสถานีตำรวจ “เธอมันหมาป่าไร้หัวใจ กล้าดียังไงไปจ้างคนมาทุบตีพวกเรา?”“ตอนพ่อเธอยังอยู่ พวกเราอยากได้เงิน เขาก็ไม่กล้าขัดแม้แต่คำเดียว แต่นี่เธอ จะเอาบ้านเอารถกลับคืนไปยังไม่พอ ยังกล้ามาตีพวกเราอีก”“วันนี้ถ้าเธอไม่เอาหุ้นในฟู่ลี่กรุ๊ปที่ถืออยู่ คฤหาสน์ ตึก และรถ...ออกมา เรื่องนี้ไม่จบง่าย ๆ แน่!”ทนายความขวางอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วพูดคำที่ชอบธรรม“คุณตำรวจ คนพวกนี้กำลังขู่กรรโชกทรัพย์ ส่วนบ้านรถของพวกเขาที่ยึดคืน ลูกความของผม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 120

    “ถ้าเรื่องนี้กระแสตีกลับ ราคาหุ้นก็จะสูงขึ้นด้วย หากพวกเขารู้จักการสร้างกระแส ก็จะเก็บปริมาณการเข้าชมได้”“ทางฝั่งตำรวจ ทางที่ดีควรจะออกมาประกาศ อธิบายความจริง!”“ครับ ให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของผมเถอะ!”“แต่เรื่องที่คนตระกูลเย่สร้างเรื่องทำลายชื่อเสียงของคุณ รวมถึงราคาหุ้นฟู่ลี่กรุ๊ปที่ตกลงไปมาก”“จะฟ้อง หรือควบคุมตัวไว้!”เธอไม่อยากเจอพวกเขาอีกแล้ว!“ควบคุมตัวไว้เกรงว่าจะยุ่งยากหน่อย เพราะพวกเขาได้รับบาดเจ็บ ปรับ หรือฟ้องพวกเขาก็ได้ แต่เวลาจะนานหน่อย”“ไม่เป็นไร ฉันมีเวลาเหลือเฟือ!”เธอฝากเรื่องหลังจากนี้ไว้กับทนายสวีเมื่อเดินออกจากสถานีตำรวจ นักข่าวและสื่อมวลชนจำนวนนับไม่ถ้วนก็มาล้อมอยู่หน้าประตูหลังจากเห็นเย่มู่มู่ออกมา พวกเขาก็เฮโลกันเข้ามา!ถ่ายรูปเธอซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฟู่ลี่กรุ๊ปฟู่ลี่กรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ และเป็นบริษัทชั้นนำที่มีเกณฑ์มาตรฐานในท้องถิ่นในช่วงปีแรก ๆ พ่อของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเซี่ยงไฮ้อยู่หลายปี แต่ต่อมาก็ถูกเบียดตกลงมา อยู่ในยี่สิบอันดับแรก ตั้งแต่พ่อของเธอจากโลกนี้ไป โลกภายนอกต่างสงสัยเกี่ยวกั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 121

    นางหย่อนกระดาษแผ่นหนึ่งให้จ้านเฉิงอิ้น บอกให้เขาเตรียมตัวรับเสบียงสี่ล้านชั่งชามแสตนเลสสองชั้นสามแสนชิ้นอาหารม้าข้นและอาหารม้าหยาบสองแสนสี่หมื่นชั่งประจวบเหมาะพอดี หัวหน้าฝ่ายขายโรงงานสิ่งทอส่งผ้าใบกันน้ำ ผ้าใบและผ้าสีล้วนมาให้มีผ้าสี่สิบตัน เธอชำระเงินส่วนที่เหลือหลังจากการซื้อขายชุดนี้สำเร็จ ก็นับว่าเป็นอันเสร็จสิ้นเนื่องจากเย่มู่มู่มีกำลังซื้อมาก โรงงานสิ่งทอที่จวนจะล้มละลาย จนสามารถดำเนินการได้ตามปกติอย่างวันนี้เจ้าของก็ไม่อยากขายโรงงานอีก เพราะการซื้อขายในสองสามครั้งนี้ ทำให้เขาได้เงินมาถึงหลายล้านเงินส่วนแบ่งที่ได้จากการขายของหัวหน้าฝ่ายขาย ก็สามารถซื้อรถดี ๆ ได้แล้วคันหนึ่งเขาไม่เต็มใจที่จะสูญเสียลูกค้าใหญ่อย่างเย่มู่มู่ไป“คุณหนูเย่ คุณยังมีความต้องการอะไร พวกเราสามารถผลิตให้ได้ทุกอย่าง!”เย่มู่มู่มีความต้องการจริงเธอรู้ว่าทหารของด่านเจิ้นกวน ไม่มีค่ายพัก ไม่มีกระโจมพวกเขานอนราบกับพื้น กลางคืนนอนบนทราย เอาของใช้ทำเป็นหมอนด่านเจิ้นกวนเวลากลางวันร้อนมาก กลางคืนหนาว อุณหภูมิกลางวันกับกลางคืนต่างกันสิ้นเชิงพวกเขาไม่มีแม้แต่เตียง ไม่รู้จะผ่านพ้นฤดูหนาวอย่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 122

    กำจัดศัตรูให้รางวัลเป็นที่นาและบ้านเรือน…ฟ้าประทานภัยแล้ง ที่นาปลูกเสบียงอาหารไม่ได้ บ้านเรือนมีประโยชน์อะไร หนำซ้ำในหมู่บ้านตายหมดไม่เหลือคนแล้วจ้านเฉิงอิ้นให้รางวัลเป็นข้าวสารกับแป้ง สำหรับทหารน้อยนั่นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดตอนนี้มีเสบียงอาหารทุกคน ได้หลับนอนบนเสบียงอาหารทุกวัน และยังต้องคอยป้องกันถูกขโมยถ้าหากมีกระโจม ความเป็นส่วนตัวที่เป็นขั้นพื้นฐานก็จะได้รับการรับประกันเปี้ยนจื่อผิงและหลี่จงหยวนแจ้งนายกองด้วยความดีใจ ว่าให้มารับกระโจมไปทหารส่วนที่เหลือไปรับเหล็กเส้น เพื่อประกอบกระโจม!เมื่อทหารน้อยรู้ว่าจะมีกระโจม ต่างดีใจเป็นอย่างยิ่ง…กระโจมเชียวนะ~มีเพียงระดับนายกองพันขึ้นไป จึงจะมีสิทธิได้พักอาศัยพวกเขาได้ใช้แล้วเช่นกันยามประกอบกระโจมล้วนกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่ง!ผ้าใบกันน้ำและผ้าใบเพิ่งรับออกไป ผ้าสีล้วนก็ร่วงตามมาทันทีมีตั้งหลายร้อยผืน!จ้านเฉิงอิ้นเรียกเฉินขุยลากไปที่จวน จะทำเป็นเสื้อผ้า!ส่วนหญิงปักผ้าชาวฉู่ที่มาขอลี้ภัย มีอาจารย์ปักผ้าคอยสอนพวกนางทำเสื้อโดยเฉพาะหลังจากนั้นไม่กี่นาที อาหารม้าสามคันรถก็ร่วงลงมาม้าสี่พันตัว กินอาหารม้าทั้งห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 123

    อาหลี่รับเลี้ยงเด็กเพิ่มสามสิบกว่าคนตอนนี้เด็กในจวนแม่ทัพมีห้าสิบคน มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงจ้านเฉิงอิ้นทิ้งแท็บเล็ตเครื่องหนึ่ง กับที่ชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ แผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ที่จวนแม่ทัพเด็ก ๆ จะเข้าเรียนทุกวัน เข้าฟังการบรรยายของอาจารย์ทางออนไลน์เว่ยกวง เสี่ยวลิ่วจื่อและซุนหย่าปามาร่วมเรียนด้วย!พวกเขานั่งบนพื้นภายในลาน จับไม้ท่อนเล็กแล้วเขียนหนังสือตามคำบรรยายของอาจารย์บนพื้นทรายในทุก ๆ วันไปเข้าเรียนตั้งแต่ฟ้าไม่ทันสร่าง เมื่อตะวันลอยขึ้นมาก็ไปช่วยทำโจ๊ก แจกโจ๊กพอตะวันตกดิน ไปเข้าเรียนต่อจวบจนแผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ส่องสว่างด้วยตนเองเด็ก ๆ เชื่อฟังและรู้เดียงสา!ย่างเอ๋อร์กับหว่านเหนียง แม่เฒ่า สาวน้อยสามขวบอยู่ต่อกันหมดทุกคนหว่านเหนียงกับแม่เฒ่าช่วยกันทำโจ๊กย่างเอ๋อร์กับสาวน้อยร่วมทำงาน เข้าเรียนและรู้หนังสือด้วยกันหลายวันผ่านมานี้ จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้กลับจวนแม่ทัพ มีอะไรต้องใช้ เป็นเถียนฉินกับสวี่หมิงที่ขี่ม้ามาส่ง!วันนี้ จ้านเฉิงอิ้นกลับมาอย่างไม่ทันตั้งตัวเด็ก ๆ ต่างยืนข้างนอกห้อง รอพบแม่ทัพใหญ่พวกเขาถูกรับเลี้ยงโดยอาหลี่ ยังไม่ได้รับการพยักหน้าเห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 124

    “ดี จำไว้ว่าเครื่องลายครามต้องสมบูรณ์!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”เว่ยกวง เสี่ยวลิ่วและซุนหย่าปาเดินออกไปและปิดประตูห้องโกดังจ้านเฉิงอิ้นมองเงินทองเครื่องประดับกองใหญ่ในห้องโกดังถวายให้ท่านเทพ ท่านคงชอบใจกระมังมีใครไม่ชอบเงินทองเครื่องประดับวิบวับ ระยิบระยับ?มุมปากแฝงยิ้ม พลางหยิบกระดาษกับพู่กันออกมา“ท่านเทพ ในจวนมีเงินทองจำนวนมาก ข้าอยากถวายแก่ท่าน”*เย่มู่มู่กำลังอยู่บนถนน ขับรถจะเทียวร้านขายเครื่องมือเธอเตรียมซื้ออุปกรณ์ท่อน้ำ ก๊อกน้ำและข้อต่อก๊อกน้ำ…ครั้นเห็นกระดาษลอยลงมา เธอก็หยุดรถและมองไปจ้านเฉิงอิ้นจะส่งเงินมาอีกแล้ว เธออยู่บนถนนใหญ่ ไม่สะดวกรับเลย!“เจ้าช้าก่อน ข้าอยู่บนถนนไม่สะดวกที่จะรับ”“อิ้นค่อยส่งให้ท่านในอีกสองสามวัน?”“ได้ แล้วก็ ตอนบ่ายข้าจะซื้อท่อน้ำ ก๊อกน้ำ ถ้าเป็นไปได้ เจ้าขุดสระน้ำใหญ่บนที่สูงบ่อหนึ่ง สั่งคนคอยเฝ้าไว้ นี่คือน้ำที่ชาวบ้านใช้ในชีวิตประจำวัน ระวังอย่าให้คนอื่นวางยาพิษได้!”“เมื่อข้าส่งท่อน้ำไป เจ้าหาคนประกอบให้เสร็จ ก็จะส่งน้ำไปยังทุกส่วนของเมืองได้!”ท่อน้ำ ก๊อกน้ำจ้านเฉิงอิ้นได้ยินชื่อของนี้เป็นครั้งแรกแต่เดาได้ว่าใช้เพื่อนำ

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 396

    “เครื่องประดับชุดนี้ ฉันประมูลมาจากงานประมูลสี่ร้อยล้าน”“ฉีหยางเจ้าลูกตัวแสบนั่น บอกว่าในงานเลี้ยงครบรอบสาขาย่อยคราวก่อน ไปทำให้เธอโกรธเข้า ถึงขั้นที่เธอออกไปโดยไม่ลา และทิ้งเขาไว้ที่งานเลี้ยง”“เรื่องนี้เขาเป็นคนผิด ควรขอโทษเธอ เครื่องประดับชุดนี้ ถ้าเธอรับเอาไว้ น้าก็จะทำเป็นว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว”พูดพลางคุณหญิงลู่ก็ดันกล่องไปให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่มองอย่างไม่แยแสทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบชักสายตากลับไปแม้เครื่องประดับชุดนี้จะราคาแพงมาก แต่ใช่ว่าในตู้เซฟของแม่เธอจะไม่มีและเครื่องประดับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้เธอ ทั้งราคาแพงและหายากกว่าชุดสร้อยพลอยชุดนี้กว่าเยอะเธอไม่ได้รับเอาไว้ และดันกล่องกลับไปอีกครั้ง“คุณน้าเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ เรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิด วันนั้นฉันไม่ควรไปร่วมงานเลย!”“และฉันเองก็คิดไม่ถึงว่า เขาจะวางแผนใหญ่โตขนาดนี้รอหนู”คำพูดที่เย่มู่มู่กล่าวออกมานี้ คุณหญิงไม่อยากที่จะได้ยินเลยสักนิดสำหรับเธอนั้น ลู่ฉีหยางลูกชายของเธอผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ทำให้เธอเป็นกังวล ในแวดวงบรรดาเศรษฐินีเขาคือลูกบ้านอื่นมาตั้งแต่เด็กหน้าตาเขาหล่อเหลา ผลการเรียนดีเย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 395

    ขณะที่สองมือของเศรษฐินีแตะตัวเย่มู่มู่ เย่มู่มู่เบือนตัวหลีกทันทีเศรษฐินีคนนี้ทำอย่างกับรู้จักมักคุ้นกันมานานเกินไปแล้วเธอไม่ได้รู้จักเศรษฐินีคนนี้สักหน่อยมิหนำซ้ำยังไม่ใช่เพื่อนสนิทของแม่อีกในขณะนี้เอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ลู่ฉีหยางที่ตั้งใจแต่งตัวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เดินออกมาครั้นเขาเห็นเย่มู่มู่ ดวงตาทั้งสองก็พลันเปล่งประกาย“มู่มู่ เธอมาแล้วเหรอ?”“แม่ฉันอยากเจอเธอมากแล้ว ตั้งแต่บินมาเมืองหลวง เธอก็ด่าฉันสาดเสียเทเสียยกหนึ่ง ว่าฉันเปิดเผยภูมิหลังและตัวตนของเธอ ทั้งที่ฉันไม่ได้บอกเธอสักคำได้ยังไง”“แต่เธอวางใจนะ ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สื่อและนักข่าวจะไม่มีทางปล่อยข่าวออกไปแน่นอน แล้วก็หาภูมิหลังของเธอบนเน็ตไม่เจอด้วย”“แล้วก็ เธอสนใจไลฟ์สดที่เธอทำมาก ๆ ถามว่าเธอสนใจจะก่อตั้งบริษัทอินคิวไอดอลเอ็มซีเอ็นไหม...”คุณหญิงลู่คว้ามือของเย่มู่มู่เอาไว้อย่างกระตือรือร้น พร้อมลากเธอไปนั่งลงบนโซฟา“ไลฟ์ช่วยเกษตรกรที่เธอทำนั่น ได้เป็นที่นิยมในเน็ตมาก ๆ ได้รับความนิยมเยอะมาก ๆ ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสามเดือน ยอดแฟนคลับของห้องไลฟ์สดทั้งสองห้องก็สูงถึงสามสิบล้าน”“กระท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 394

    บีบให้เธอต้องหยุดรถเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สีดำคันหนึ่ง มีผู้ชายสวมชุดสูทสีดำ ใส่แว่นดำ รูปร่างสูงใหญ่ห้าคนลงมาจากรถดูแล้วพวกเขาคล้ายกับบอดีการ์ดมีผู้ชายสวมหมวกคนหนึ่ง มาตรงหน้ากระจกรถเย่มู่มู่ ก่อนจะเคาะกระจกรถเย่มู่มู่ลดกระจกลงท่าทีของผู้ชายคนนั้นมีมารยาทเป็นอย่างมาก หลังเขาถอดหมวกออกและเป็นฝ่ายคำนับให้เธอก่อน“คุณหนูเย่ ใช่ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า ในมือเธอกดเบอร์โทร 191 ไว้แล้ว หากอีกฝ่ายกระทำอะไรเกินขอบเขตออกมา...เธอจะต่อสายแจ้งตำรวจทันทีเพียงแต่อีกฝ่ายถามเธอด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “คุณหญิงกับคุณชายบ้านผม อยากจะเชิญคุณไปทานข้าวสักมื้อน่ะครับ”ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสอง อีกสามชั่วโมงถึงจะเป็นเวลาอาหารเย็นข้ออ้างนี้จะเกินจริงไปหน่อยหรือเปล่าเย่มู่มู่ส่ายศีรษะ แล้วกล่าวปฏิเสธ “ฉันไม่มีเวลา!”“คุณหนูเย่ผมเห็นของที่คุณใส่ไว้เต็มรถ คุณจะส่งไปไหนเหรอครับ พวกเราช่วยไปส่งให้คุณได้นะครับ”“รบกวนคุณช่วยรับคำเชิญไปทานข้าวกับคุณผู้หญิงและคุณชายบ้านเราด้วยนะครับ”พูดพลางเหล่าบอดีการ์ด ก็เตรียมจะเปิดประตูด้วยท่าทีอันธพาล พวกเขาเข้าไปในรถบรรทุกคันน้อย แล้ว ‘เชิญ’ เย่มู

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 393

    ม้าขาวของจ้านเฉิงอิ้นพุ่งออกมาราวกับตกใจ เบื้องหลังม้าขาวมีผู้บัญชาการกลุ่มใหญ่กำลังไล่ตามมาเซี่ยเวย จ้าวเฉียน สวีจื่อหลิงต่างตะโกนใส่มั่วฝานว่า “สกัดเอาไว้ เร็วเข้า สกัดม้าเอาไว้...”“ท่านแม่ทัพใหญ่ได้รับบาดเจ็บหนัก ให้ม้าหยุด”มั่วฝานสั่งหน่วยกล้าตาย “ขวางม้าเอาไว้!”หน่วยกล้าตายล้วงเชือกออกมา แล้วคล้องคอม้าเอาไว้อย่างรวดเร็วม้าถูกหน่วยกล้าตายตรึงไว้อย่างแรงทั้งสี่ มันยกเท้าหน้าขึ้นสูง พร้อมคำรามด้วยความหวาดกลัว!ขณะนี้จ้านเฉิงอิ้นที่อยู่บนหลังม้ากำลังจะร่วงลงมาเหล่าทหารผ่านศึกมือเร็วตาไว รับตัวจ้านเฉิงอิ้นเอาไว้ทั้งเนื้อตัวของจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเลือด ถูกม้าทำให้สั่นโคลงเคลงอย่างแรง เดิมทีหมดสติไปแล้ว ทว่าตอนนี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทหารผ่านศึกตะโกนดังลั่น “ท่านรัฐทายาท ท่านแม่ทัพฟื้นแล้วขอรับ”มั่วฝานกล่าวอย่างร้อนใจ “เรียกหมอประจำกองทัพ เร็วเข้า...”วินาทีถัดมา มือที่เปื้อนเลือดสดของจ้านเฉิงอิ้นก็คว้าปกเสื้อของมั่วฝานเอาไว้ เนื่องจากเขาเห็นแจกันในอ้อมอกของมั่วฝานมั่วฝานรีบคุกเข่าลง พร้อมประคองเขาเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ครั้นอ้าปากก็อันกระอักเลือด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 392

    ทีแรกทั้งสองฝ่ายสู้กันมือเปล่า ทัพพันธมิตรสี่แคว้นด้วยจำนวนคนมาก จึงได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังจ้านเฉิงอิ้นใช้วัตถุระเบิดจนหมดส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน นำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบสถานการณ์พลันพลิกกลับอาวุธของพวกเขาล้ำสมัยยิ่งนัก แม้ยังฝึกใช้ดาบม่อเตาไม่คล่อง ทว่าชุดเกราะและเสื้อกันกระสุนก็ป้องกันได้สองชั้นอาวุธของทัพศัตรูไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทัพแคว้นเยี่ยค่อย ๆ ถอยทัพทีละก้าว ๆคนเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆห้าหมื่นนายถูกระเบิดตายไปหลายพันนายเข่นฆ่ากับจ้านเฉิงอิ้นตายไปอีกบางส่วนตอนนี้เซี่ยเวยนำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบจำนวนของทหารแคว้นเยี่ยน กำลังลดลงไปอย่างรวดเร็วจากสี่หมื่นสองพันคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ลดลงไปถึงสามหมื่นสองหมื่น...ขณะที่ในสนามรบเหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนเยี่ยนเย่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้วเขาหวังเพียงว่าคนอื่นจะช่วยเขาได้ทว่าครั้นเขาหันหลังกลับไปมองเจียงเหว่ยกับเกาอี้กลับนำคนเข้ามามีเพียงมู่ซาและกำลังพลห้าหมื่นนายของเขาขวางไว้ได้เพียงครู่หนึ่ง หลังพวกเขาลิ้มลอง ก็ค้นพบว่าอุปกรณ์ของกองทัพตระกูลจ้านร้ายแรงเพียงใดมู่ซาเองก็ต้านไม่อยู่ ตายไปหนึ่ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 391

    ในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เบื้องหลังของพวกเขาก็มีกองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนายปรากฏตัวขึ้นมาพวกเขาติดอุปกรณ์สมบูรณ์แบบ กำลังถือดาบม่อเตาและดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง พร้อมแบกหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา กำลังคนและม้าสองแสนนายกำลังพุ่งเข้ามาด้วยทีท่าดุเดือดครั้นเยี่ยนเย่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเบื้องหลัง ก็พลันหันหน้ากลับไปเห็นเฉินขุย เฉินอู่และซ่งตั๋วนำกำลังคนจำนวนมากพุ่งเข้ามา!มู่ซาตะโกนเสียงดัง “พวกเขาออกมาจากไหน? เหตุใดถึงมาขวางทางหนีทีไล่เรา?”เจียงเหว่ยด่ากราดอย่างเดือดดาล “ข้ารู้อยู่แล้วไอ้คนไร้ประโยชน์เช่นเจ้า หนึ่งคิดกลอุบายไม่เป็น สองนำทหารสู้รบไม่เป็น กระทั่งสถานการณ์ข้าศึกแข็งแกร่งเราอ่อนแอก็ยังไม่รู้”“ข้าเคยบอกแล้วอย่างไร ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสเหมาะในการฆ่าจ้านเฉิงอิ้น ตอนนี้จบเห่แล้ว กลับกันตอนนี้ยังถูกจัดการได้อย่างง่ายดายอีก!”เกาอี้ผู้บัญชาการแคว้นฉีกล่าวขึ้นทั้งเดือดเป็นฟืนเป็นไฟว่า “เลิกทะเลาะกันได้แล้ว คิดหาวิธีฝ่าวงล้อมก่อน กองทัพตระกูลจ้านสองพันนายเรายังรับมือไม่ได้ ตอนนี้กองทัพตระกูลจ้านยกทัพมาทั้งกองทัพ พวกเจ้าอยากตายอยู่ที่นี่หรือ? ยังจะมาทะเลาะกันเอง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 390

    ส่วนที่แข็งแกร่งของจ้านเฉิงอิ้นคือ ทหารผ่านศึกในกองทัพของเขาล้วนมีประสบการณ์ในการรบอย่างโชกโชน ทุกคนที่รอดชีวิตมาได้ล้วนมีฝีมือไม่ธรรมดาเกราะและอาวุธของกองทัพตระกูลจ้านมีคุณภาพสูง สามารถต่อกรกับศัตรูได้ในสัดส่วนหนึ่งต่อสิบนอกจากนี้ การซื้อใจชาวบ้านสี่ร้อยคนที่ถูกใช้เป็นระเบิดมนุษย์ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นได้เปรียบยิ่งขึ้นอุปกรณ์และระเบิดเหล่านี้ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างพวกเขาขยายกว้างขึ้นหากเป็นเมื่อครู่ พวกเขายังกล้ายืนยันได้อย่างมั่นใจว่าจ้านเฉิงอิ้นต้องตายอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ ความหวังที่จะชนะเลือนลางลงบางคนเริ่มอยากล่าถอย เพราะไม่ต้องการไปตายขณะที่เจียงเหว่ยถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นกลับถูกทหารของเยี่ยนเย่ขวางทางไว้เยี่ยนเย่นำกองทัพหนึ่งแสนคน โดยมีห้าหมื่นคนคอยติดตามอยู่ข้างกายหน้าที่ของพวกเขาคือปกป้องเยี่ยนเย่ พร้อมทั้งจับตาดูความเคลื่อนไหวในสนามรบอยู่ตลอดเวลาเสียงเยียบเย็นของเยี่ยนเย่ดังขึ้น “แม่ทัพแคว้นฉู่กำลังจะไปไหนหรือ?”“ในเมื่อทุกคนร่วมกันวางแผนสังหารจ้านเฉิงอิ้น เจ้าจะถอนตัวเองไปโดยพลการได้อย่างไร”“วางใจเถอะ ต่อให้ต้องบุกทะลวง กองทัพแคว้นเยี่ยนของข้าจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 389

    ซุนหลินพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “กินได้สิ!”พูดจบ เขาหยิบมันเทศขึ้นมาเช็ดกับเสื้อ แล้วหักออก...เนื้อสีม่วงแดงของมันเทศก็เผยออกมากลิ่นหอมเฉพาะตัวของมันเทศลอยออกมาให้ได้กลิ่นชัดเจนซุนหลินกลัวว่าคนอื่นจะไม่เชื่อ เขาเลยกัดไปคำหนึ่ง เนื้อกรอบหวานละมุนใจ“อร่อยจริงๆ!”“มันเทศสามารถนำไปปิ้งหรือนึ่งก็ได้ หรือจะใช้ต้มทำเป็นโจ๊ก หรือข้าวมันเทศก็ได้... มีวิธีกินเยอะแยะ ทั้งหวานทั้งเหนียว หอมอร่อยมาก!"จากนั้นเขาก็ยื่นมันเทศให้ซุนเฮ่อ “ลุงสาม ลองชิมดูสักคำสิ”ซุนเฮ่อชะงักเล็กน้อยก่อนรับมันเทศมาลองกัดคำหนึ่งทันทีที่กัดเข้าไป เขาเบิกตากว้างกล่าวด้วยความประหลาดใจ “หวานจริง ๆ แถมยังมีน้ำในเนื้ออีก กรอบมาก...”เขาพูดพร้อมเคี้ยวอีกสองสามคำ “อร่อยมาก!”ซุนหลินยิ้มอย่างภูมิใจ “อร่อยใช่ไหมล่ะ! ที่ด่านเจิ้นกวนของเราปลูกมันเทศไว้มากกว่าหมื่นหมู่ ต่อไปนี้ทุกคนก็จะได้กินกันทั่วหน้า!”เหล่าชาวบ้านต่างพากันเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ขณะฟังซุนหลินกล่าว “หมื่นหมู่ นั่นเป็นพื้นที่กว้างขนาดไหนกันนะ!”“ไร่นาทุกผืนล้วนมีน้ำรดได้ แม่น้ำที่ด่านเจิ้นกวนไม่ขาดแคลนน้ำเลยจริงๆ!”“คำพูดของท่านแม่ทัพใหญ่เป็นค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 388

    ลูกน้องของผู้นำให้คำสั่งเด็ดขาดกับพวกเขาก่อนจากมา ยังได้กำชับเป็นพิเศษว่า“จงคิดถึงครอบครัวของพวกเจ้า พ่อแม่ที่แก่ชรา ภรรยาที่อ่อนแอ และลูก ๆ ที่ยังเล็กจนต้องการการดูแล...”“แม่ทัพต้องการได้ยินข่าวดี หากสำเร็จ ภรรยา พ่อแม่ และลูก ๆ ของพวกเจ้า ผู้นำจะดูแลพวกเขาให้ จะไม่ปล่อยให้พวกเขาขาดอาหารแม้แต่มื้อเดียว และยังจะแบ่งบ้านกับที่ดินสิบหมู่ให้ด้วย!"“ไปเถอะ อย่าทำให้ท่านผู้ผิดหวัง!”แต่ตอนนี้ พวกเขามองดูน้ำในกระบอกน้ำเก็บความร้อน มองดูแป้งห่อ โจ๊กหวาน และเสบียงแห้ง...ท่านแม่ทัพถูกกองกำลังพันธมิตรจากสี่แคว้นปิดล้อมไว้ที่นี้ และถูกต้อนจนมุม แต่กลับยังเลือกที่จะมอบเสบียงอาหารและน้ำที่ล้ำค่าที่สุดให้พวกเขาพวกเขาไม่อาจทรยศหักหลังด้วยการกระทำชั่วช้าเช่นการระเบิดสังหารท่านแม่ทัพและกองทัพตระกูลจ้านได้พวกเขาลงมือไม่ลงในขณะที่ทุกคนจมอยู่ในความเงียบงัน ผู้นำกลุ่มของพวกเขาอย่างซุนเฮ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ พวกเรายังมีครอบครัวอยู่ในเมืองหยงโจว สามารถพาออกมาได้ จะได้รับอาหารกับน้ำหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“แน่นอน ตราบใดที่เป็นประชาชนแคว้นต้าฉี่ ทุกคนย่อมมีอาหารก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status