ครืน!ในขณะที่ปลายเท้าของฉู่เฉินเพิ่งจะแตะถึงพื้น ต้นไม้ใหญ่สองต้นที่สูงเทียมฟ้าบนศาลาที่เขายืนอยู่เมื่อกี้ถูกฟันขาดเป็นสองท่อนเมื่อต้นไม้ล้มครืน ตรงรอยที่ถูกฟันของต้นไม้พลันมีควันลอยคลุ้งกรุ่นซี้ด!พอเห็นภาพนั้น ฉู่เฉินอดสูดหายใจไม่ได้ตาเฒ่านั่นมีของวิเศษอยู่ในมืองั้นเหรอ!แถมยังเป็นของวิเศษสายดำซะด้วย!ไม่ได้ถูกเล่นงานในคราวเดียว ชายชราพยักหน้าเบาๆ “แกเป็นผู้บำเพ็ญพรตจริงๆ ด้วยสินะ!”ฉู่เฉินวางหลิ่วชิงเหอที่กำลังปากอ้าตาค้าง และหน้าซีดด้วยความตกใจกลัว ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ขมวดคิ้วจ้องชายชรา “แกเป็นใคร?”ชายชรายิ้มตอบอย่างเย็นชา เขาถือดาบไพล่ไปข้างหลัง “แกฆ่าคนของตระกูลหยาง ยังกล้าถามว่าฉันเป็นใครอีก แต่ก็ช่างเถอะ ฉันจะสงเคราะห์ให้แกได้รู้ก่อนตายก็แล้วกัน”“ฉันก็คือหูเจี้ยนเซิง ผู้ที่ตระกูลหยางแห่งเมืองหลงเฉิงยกย่องและขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสองภูติวายุดำ”“ได้ตายด้วยกระบี่ของฉัน นับว่าเป็นบุญของแก ถ้าไม่อยากให้ฉันฆ่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังแกไปด้วย ก็ยื่นคอมาให้บั่นเสียดีๆ”“ไม่อย่างนั้น กระบี่ชื่อหลงเล่มนี้ของฉันเกรงว่าคงจะต้องปลิดชีพวิญญาณบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นซะแล้ว
“ไม่รู้จักกลัวตาย!”หูเจี้ยนเซิงหันหลังให้ฉู่เฉิน คำรามเสียงต่ำขึ้นมา “ปราณมังกรเพลิง!”เมื่อสิ้นเสียงพูดของเขา บนกระบี่ชื่อหลงเล่มนั้นก็พลันมีเงามังกรสีแดงเส้นหนึ่งพวยพุ่งขึ้นมา“ครืน!”ดาบนั้นของฉู่เฉินยังไม่ทันตวัดลงไป ก็ถูกมังกรมีแดงเพลิงตัวนั้นพุ่งชนออกไป แม้แต่กระบี่ยาวในมือก็ยังกระเด็นลอยออกไปไกลถึงเจ็ดแปดเมตรพรืด!ฉู่เฉินกระอักเลือกคำโตอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ ฉู่เฉินถูกโจมตีหนักกว่าครั้งเมื่อกี้หลายขุมกลิ่นอายเร่าร้อนขุมหนึ่งพวยพุ่งเข้าสู่เส้นชีพจรทั่วร่าง ป่วนพล่านอยู่ในอวัยวะภายในของเขาฉู่เฉินพยายามอดทนต่ออาการเจ็บที่หน้าอก ยืนตัวตรงอย่างยากลำบาก เขากัดฟันเงยหน้ามองหูเจี้ยนเซิง“ไอ้หนู ตอนนี้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างแกกับตระกูลหยางของพวกฉันหรือยัง”หูเจี้ยนเซิงเอามือไพล่หลัง จ้องพิจารณาฉู่เฉินด้วยสีหน้าหยิ่งยโส และพูดว่า “ฉันจะฆ่าแก ใช้เพียงกระบี่เดียวก็เพียงพอแล้ว! ตอนนี้ฉันจะไว้ชีวิตคนข้างๆ แก”“ขอแค่แกคุกเข่าสารภาพบาปของแก่ต่อหน้าดวงวิญญาณของหยางเส้าหัว ฉันจะยอมฆ่าแกแค่คนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว ไม่อย่างนั้น ใครก็ตามที่อยู่ข้างแก ล้วนต้องตาย!”พูดจบ หูเจี้ยนเซิงก้
นึกมาถึงตรงนี้ ฉู่เฉินราวกับตระหนักและตื่นรู้ทุกอย่างในพริบตา ในสมองของเขา วิชายันต์อาคม รวมถึงวิชากระบี่ วิชาต่อสู้ที่เคยเรียนมาได้จางหายไปอย่างช้าๆ ในขณะที่ปัญญาของฉู่เฉินได้กระจ่างชัดขึ้นมาอีกหนึ่งระดับชั่วพริบตานั้น ความคิดที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดในสมองของฉู่เฉินถูกลบล้างออกไปจนสิ้นเวลานี้ เขาก็คือฉู่เฉิน ผู้บำเพ็ญพรตบริสุทธิ์คนหนึ่งครืน!เมื่อฉู่เฉินนึกมาถึงตรงนี้ แสงสว่างเรืองรองขุมหนึ่งได้ระเบิดออกมาจากร่างของเขาราวกับมีมังกรขนาดใหญ่ตัวหนึ่งพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา ขณะเดียวกัน อากาศรอบกายของเขาก็ราวกับถูกตัดขาด แยกออกมาเป็นเอกเทศหูเจี้ยนเซิงที่เห็นภาพน่าอัศจรรย์นั่นถึงกับตกตะลึงตาค้างไม่ว่าฉู่เฉินจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดขึ้น เขาก็ต้องรีบจบการต่อสู้ครั้งนี้ และกำจัดไอ้หนูที่ลึกลับยากหยั่งถึงคนนี้ให้เร็วที่สุด เลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น และเดินตามรอยเท้าของกู่ฉางเซิงและฮวาว่านโหลวนึกมาถึงตรงนี้ หูเจี้ยนเซิงตวัดกระบี่ชื่อหลงในมือ ประกายแสงสีแดงบริสุทธิ์พุ่งฟันไปทางฉู่เฉินที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น“กรี๊ด! ฉู่เฉิน! รีบหนีเร็วสิ!”พอเห็นว่ากระบี่นั่นฟาดฟ
เปรี้ยง!ในช่วงวินาทีหน้าสิ่วหน้าขวาน ทันใดนั้น เสียงสายฟ้าฟาดดังมาจากเบื้องบนอะไรน่ะ?!หัวใจของหูเจี้ยนเซิงหนักอึ้งจมดิ่ง นี่มันสายอัสนีระดับสร้างรากฐานแค่ภายในเวลาสั้นๆ สิบกว่านาที ฉู่เฉินก็สามารถทะลวงขั้นพลังเข้าสู่ระดับสร้างรากฐานได้แล้วงั้นเหรอเป็นไปไม่ได้!เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!หูเจี้ยนเซิงก้าวข้ามเป็นผู้ฝึกปราณขั้นเก้าตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว แต่ระยะเวลาสิบปีผ่านไปแล้ว เขาก็ยังไม่อาจก้าวข้ามอุปสรรคขั้นสุดท้ายได้เลยทว่าภายในเวลาเพียงสิบนาที ฉู่เฉินที่เป็นผู้ฝึกปราณขั้นเจ็ดกลับสามารถทะลวงขั้นพลังสามขั้นติดกัน และกลายเป็นผู้บำเพ็ญพรตขั้นสร้างรากฐานแล้วงั้นเหรอ?!เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองแต่ไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ สายอัสนีอันน่าครั่นคร้ามก็ได้ฟาดฟันลงมาอย่างไร้ความปรานีแล้วกระบี่ของหูเจี้ยนเซิงยังไม่ทันสัมผัสถูกตัวหลิ่วชิงเหอ ก็ถูกคลื่นพลังอันน่ากริ่งเกรงขุมหนึ่งดีดออกมาแม้แต่หูเจี้ยนเซิงก็ยังถูกพลังขุมนั้นสะท้อนใส่จนกระบี่หลุดออกจากมือ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังถูกบีบให้ถอยหลังออกไปอีกสามก้าวด้วย“ไอ้หนู ฉันอยากรู้นักแกจะคอยขัดขวางฉันได้ยังไง!”ไม่ว่ายังไงเขาไม่
ฉู่เฉินตวัดสายตามองชายชราคนนั้นแวบหนึ่ง ยกมือตวัดเข็มเงินออกไป พุ่งแทงเข้าที่จุดต้าจุยของเขาเมื่อเข็มเงินถูกแทงเข้าไป อาการเจ็บเอวของชายชราก็หายไปในพริบตาพอรู้สึกได้ว่าร่างกายเบาโล่งขึ้นมาก ชายชราออกวิ่งทันทีโดยไม่หันหลังกลับมาอีกน่ากลัวเกินไปแล้ว กลางวันแสกๆ โยนคนเป็นๆ ลงมาด้านล่างศาลาแบบนี้พอชายชราวิ่งออกไปไกล ฉู่เฉินจึงค่อยสาวเดินไปหาหูเจี้ยนเซิง“ไอ้หนู! แก… แกกล้าเหรอ!”หูเจี้ยนเซิงถอยกรูด พลางควานหากระบี่ชื่อหลงไปทั่ว“ทำไมฉันจะไม่กล้า!”พูดจบ ฉู่เฉินก้าวเท้าออกไป เอื้อมมือออกไปคว้าลำคอของหูเจี้ยนเซิง เอ่ยถามด้วยสายตาเย็นชาว่า “บอกฉันมา แกหาฉันเจอได้ยังไง”ตอนที่ออกมาจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ ฉู่เฉินจงใจปล่อยดวงจิตออกไปเพื่อสำรวจบริเวณรอบๆ ก่อนแล้วหลังจากมั่นใจว่าไม่มีกลิ่นอายอันตรายแล้ว ฉู่เฉินจึงขับรถมาที่สวนสาธารณะเป๋ยหลิ่งแห่งนี้ซึ่งก็หมายความว่า หูเจี้ยนเซิงไม่ได้ตามเขามาจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ แต่อีกฝ่ายตามเขามาที่สวนสาธารณะเป๋ยหลิ่งโดยตรง“เหอะ! ไอ้หนู แกอย่าคิดว่าจะได้อะไรจากปาก… อ๊าก!”หูเจี้ยนเซิงเพิ่งจะพูดได้ครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็ยื่นมือไปคว้าแขนอีกข้างของเขา
จนกระทั่งเมื่อดวงอาทิตย์คล้อยต่ำ ฉู่เฉินแทบจะพัฒนาหลิ่วชิงเหอในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านท่วงท่า เรื่องความลึก เขาศึกษาจนกระจ่างแจ้งถ่องแท้หมดแล้ว เวลานี้ หลิ่วชิงเหอถึงค่อยจัดแจงผมเผ้าอันยุ่งเหยิงของตัวเองให้เข้าที่ และมุดออกมาจากพุ่มไม้ที่อยู่ใต้ศาลาชมวิวเมื่อมองดูฉู่เฉินที่เดินเข้าไปนั่งในรถซูเปอร์คาร์ ก่อนจะจากไปพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์อันก้องกระหึ่ม หลิ่วชิงเหอได้แต่กำหมัดน้อยๆ เข้าหากันแน่น เธอในตอนนี้อย่าว่าแต่ขับรถเลย แค่จะเดินขาก็สั่นสะท้านไปทั้งสองข้างแล้ว“ไอ้บัดซบฉู่เฉิน!”วันนี้หลิ่วชิงเหอถูกเล่นงานจนหมดสภาพแล้วจริงๆเธอรู้สึกปวดระบมกล้ามเนื้อทุกมัดในร่างกาย ขาทั้งสองข้างถูกจับพาดในหลากหลายท่วงท่า และหลากหลายองศาแต่เรื่องเดียวที่ทำให้เธอชื่นใจก็คือ ฉู่เฉินเอาเบอร์โทรศัพท์ของหลี่จิงจิงซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาชนให้เธอแล้ว หลังจากคุยกันคร่าวๆ หลี่จิงจิงยินยอมที่จะเซ็นสัญญาร่วมงานกับฉู่ซื่อกรุ๊ปถ้ารู้แต่แรกว่าฉู่เฉินมีช่องทางอย่างนี้อยู่ เธอกับหลิ่วหรูเยียนคงไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้นไปขอร้องผู้ว่าการเฉียวแล้วขณะที่สตาร์ตเครื่องยนต์ หลิ่วชิงเหอนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เก
“พี่ตามผมมาทำไม”ฉู่เฉินได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังจึงขมวดคิ้วและหยุดเดิน“ทำไมเล่า หรือเจ้าซ่อนความลับอันใดไว้ แค่ห้องกลั่นยาห้องหนึ่ง กลัวคนจะเห็นอะไรเข้าหรืออย่างไร”อวี้ลู่เอ่ยจบก็ไม่รอให้ฉู่เฉินพูดอะไร เธอบุกเข้าไปในห้องลับของฉู่เฉินโดยพลการเมื่อเห็นสิ่งของต่างๆ ที่ต้องใช้ในการกลั่นยาและสร้างอาวุธวางเรียงรายไว้บนชั้นวางไม้สองตัวที่วางอยู่สองฝั่ง อวี้ลู่อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า “ดูไม่ออกเลยนะเนี่ย เจ้าสร้างอาวุธเป็นด้วยหรือ”ขณะเอ่ย อวี้ลู่หยิบกระบี่วิญญาณที่ฉู่เฉินสร้างเองขึ้นมาเพ่งพินิจ จากนั้นก็ทดลองจับดู ก่อนจะขว้างทิ้งราวกับทิ้งขยะไร้ประโยชน์ชิ้นหนึ่ง“คุณภาพต่ำเกินไป ไม่ควรค่ากับเงินแม้แต่อีแปะเดียว”เอ่ยจบ นางหันไปมองกระบี่ชื่อหลงที่มีสภาพสมบุกสมบันที่วางอยู่ด้านหนึ่ง อวี้ลู่สัมผัสได้ถึงปราณมังกรชื่อหลง นางพยักหน้าเล็กน้อย “นับว่าพอจะเป็นของวิเศษระดับพิภพได้ น่าเสียดายที่วิญญาณกระบี่เสียหายหนักเกินไป ทำให้ไร้ซึ่งคุณค่าใดๆ แล้ว”ฉู่เฉินรีบก้าวเท้าเข้าไปเมื่อเห็นว่าอวี้ลู่ทำท่าจะขว้างของทิ้งอีกครั้ง เขาพูดห้ามว่า “นี่ พี่สาว ผมว่าพี่คิดว่าที่นี่เป็นบ้านตัวเองไปแล้วจริงๆ ล่
คิดได้ดังนั้น นัยน์ตางดงามของอวี้ลู่ก็พลันปรากฏไอสังหารอันเข้มข้น!นี่นางโดนไอ้มังกรลามกบัดซบหลอกงั้นหรือ?!ชั่วพริบตาหนึ่ง บ้านใหญ่ตระกูลฉู่ถูกไอสังหารอันเข้มข้นแผ่ปกคลุมไปทั้งหลังอุณหภูมิรอบด้านพลันติดลบในทันใดฉู่เฉินเองก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เขายักคิ้ว มองหน้าอวี้ลู่ “พี่สาว นี่บ้านผมนะ พี่…”“ตายเสียเถอะ!”ฉู่เฉินยังพูดไม่ทันจบ อวี้ลู่พลันสับฝ่ามือเข้ามาเชี่ย!ยัยคนนี้เปลี่ยนสีหน้าเร็วกว่าพลิกหนังสือซะอีกฉู่เฉินตะลึงพรึงเพริด เขาเขย่งปลายเท้าโฉบตัวไปที่ประตูด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฝ่ามือลมของอวี้ลู่ไล่ตามมาติดๆ ราวกับเงา วินาทีต่อมาตามติดมาใกล้ฉู่เฉินอยู่ในระยะไม่ถึงสามนิ้วแล้วหากถูกฝ่ามือของอวี้ลู่โจมตีเข้า ฉู่เฉินมีสิบชีวิตก็ยังไม่รอดในวินาทีหน้าสิ่วหน้าขวาน สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดของฉู่เฉินถูกกระตุ้นออกมา พลังวิญญาณที่อยู่รอบตัวถูกขับเคลื่อนให้ปั่นป่วนราวกับคลื่นลูกใหญ่พริบตาต่อมา เขาไหวตัวไปด้านข้างด้วยท่าร่างที่รวดเร็วดุจสายฟ้าครืน!กำแพงที่อยู่ด้านข้างถูกฉู่เฉินพุ่งชนจนเกิดเป็นรูขนาดใหญ่ ฉู่เฉินที่วิ่งทะลุกำแพงเพิ่งจะหยุดยืนในลานบ้าน อวี้ลู่ก็ตามติดม
“เหอะ ๆ...นะ....นี่เป็นฟ้า...ลิขิต...”ฉีอวี่ไท่พูดจบก็คอเอียง และสิ้นลมหายใจคาที่จนกระทั่งทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบ บรรดาผู้ทรงอิทธิพลที่มาร่วมงานเลี้ยงถึงค่อยยืนตรงตัวสั่นระริก มองฉู่เฉินด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจกลัว“คุณฉู่ พะ...พวกเราเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาของหอการค้าตะวันออกใหญ่เท่านั้นนะ บุญคุณความแค้นระหว่างพวกคุณไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราเลยนะครับ!”ชายวัยกลางคนที่เยาะหยันฉู่เฉินก่อนหน้านี้ ขาอ่อนยวบก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อเห็นเขาคุกเข่า ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ แทบจะคุกเข่าลงไปตาม ๆ กันถึงแม้เฉียนหลงวิลล่าจะสร้างขึ้นมาอย่างใหญ่โตโอ่อ่า แต่ปัญหาคือที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมืองมากเกินไป ต่อให้ฉู่เฉินฆ่าพวกเขาไปด้วยแล้วป้อนให้ผีดิบเลือดคลั่งกินจนหมด ก็คงไม่มีใครรู้เลยนอกจากนี้ ต่อให้สืบได้ว่าพวกเขาโดนผีดิบเลือดคลั่งกลืนกินทั้งเป็นแล้วจะทำอย่างไรได้?ใครจะต่อกรกับเจ้านั่นได้?ว่ากันว่าใต้เข่าของลูกผู้ชายมีทองคำ เพียงแต่ยังไม่ถึงช่วงเวลาความเป็นความตาย เมื่อเทียบกับชีวิตแล้ว คุกเข่าโขกหัวจะนับเป็นอะไรได้?“คุณฉู่ พวกเราไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ นะครับ นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าเกาเซิ่งอี้จ
“ฉู่เฉิน กะ...นายแกทำอะไร? เลี้ยงศพฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ!” เมื่อเห็นผีดิบเลือดคลั่ง เสิ่นเจี้ยนเฟิงก็ตื่นตระหนกทันทีสิ่งที่เขาฝึกฝนคือวิชาประตูกลมหัศจรรย์ และเคยได้ยินเรื่องของผีดิบเลือดคลั่งมาบ้าง เขายิ่งไม่อยากโดนผีดิบเลือดคลั่งกลืนกินทั้งเป็นฉู่เฉินไม่สนใจเสิ่นเจี้ยนเฟิงเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าย่อตัวลงมาตบหน้าเกาเซิ่งอี้แล้วพูดว่า “บอกมา ปีนั้นคุณลักพาตัวพ่อแม่ของผมไปใช่ไหม ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน!”ม่านตาของเกาเซิ่งอี้หดลงเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้ารัว ๆ แล้วพูดว่า “ผมไม่รู้ ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น!”“อ้อ? เหรอครับ? ดูเหมือนว่าต้องช่วยคุณฟื้นความทรงจำให้ดีสักหน่อยแล้วสินะ”เมื่อสิ้นเสียงพูดของฉู่เฉิน เขาก็เอานิ้วชี้ไปยังเสิ่นเจี้ยนเฟิงที่ทรุดอยู่กับพื้นแล้วเอ่ยว่า “เจ้าทึ่ม กินอาหารได้แล้ว” “โฮก!”เมื่อเห็นเสิ่นเจี้ยนเฟิงที่หายใจรวยริน ภายในม่านตาที่มืดดำคู่นั้นของเจ้าทึ่มพลันเปล่งแสงสีฟ้าอ่อน ก่อนส่งเสียงคำรามที่น่าพรั่นพรึงออกมาพวกผู้ทรงอิทธิพลในวงการธุรกิจที่อยู่ในที่แห่งนี้ตกใจกลัวจนขดตัว ไม่กล้ามองอีกเลย “ไอ้คนแซ่ฉู่ แกแม่งจะต้องไม่ตายดี!”เสิ่นเจี้ยนเฟิงถูกเจ้าทึ่มค
สำนักใหญ่ของโลกบำเพ็ญเพียรเกือบทั้งหมดล้วนรวมตัวกันอยู่ในเขตอันกว้างใหญ่นี้ส่วนพวกเขาอย่างมากสุดก็เป็นได้แค่ปลาซิวปลาสร้อยเท่านั้นหากต่อสู้กับฉู่เฉินอย่างถึงที่สุดจริง ๆ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกเขาเลย“ใช่แล้ว ขอเพียงแกปล่อยพวกเราไป พวกเราจะไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ออกไปเด็ดขาด แกก็จะหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนโลกแห่งการหยั่งรู้ตามฆ่าได้ด้วย” เสิ่นเจี้ยนเฟิงเอ่ยเสริมโดยที่แฝงการข่มขู่ไว้กึ่งหนึ่งเช่นกัน“ฉู่เฉิน หยุดดีกว่านะ พวกเราหาเรื่องคนพวกนี้ไม่ไหวหรอก”หลิ่วหรูเยียนเห็นฉู่เฉินยังคงเงียบไม่พูดไม่จาก็รีบลุกออกมาพูดเกลี้ยกล่อมในความคิดของเธอ วันนี้ฉู่เฉินได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาแล้วนอกจากนี้ ตั้งแต่นี้ไป มณฑลเจียงจะไม่มีหอการค้าตะวันออกใหญ่อะไรอีก ส่วนบรรดาผู้มีอิทธิพลในวงการธุรกิจที่อยู่ในที่แห่งนี้ก็ได้เห็นความสามารถของฉู่เฉินกับตาตัวเองแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือ แทบทุกคนต่างรู้แล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงของฉู่เฉินเช่นนี้ไม่ว่าวันหน้าฉู่ซื่อกรุ๊ปจะไปหาใครที่อยู่ที่นี่ในวันนี้ อีกฝ่ายล้วนต้องช่วยเหลือฉู่ซื่อกรุ๊ปโดยไม่มีเงื่อนไขสำหรับหลิวหรูเยียนแล้ว เรื่องพวกนี้เป็นผลประโย
“เมื่อกี้คุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา ผมไม่เดินเข้ามา แล้วคุณจะฆ่าผมได้ยังไงล่ะ?”ฉู่เฉินยิ้ม เพียงแต่ในความคิดของเกาเซิ่งอี้ รอยยิ้มของเขาน่าหวาดหวั่นเกินไป ทำให้คนตกใจกลัวมากเกินไปจริง ๆ“มะ...เมื่อกี้เห็นชัด ๆ ว่าแกโดนวิชาหุ่นเชิดของฉันไปแล้ว โดนฝังลึกอยู่ใต้ดินไปแล้ว เป็นไปได้ยังไง...” เสิ่นเจี้ยนเฟิงเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก มองไปทางฉู่เฉินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่ยินยอม นี่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยเขาถึงขนาดใช้วิชาหุ่นเชิดที่เคยสังหารยอดฝีมือระดับเดียวกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน คนพวกนั้นแต่ละคนล้วนเป็นพวกมีประสบการณ์โชกโชนที่ผ่านศึกมานับร้อยแม้แต่พวกเขาก็ไม่อาจหนีพ้นเคราะห์ไปได้ ฉู่เฉินทำได้ยังไง...ฉู่เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ว่า “คุณหมายถึงเจ้านี่เหรอ?”สิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็หยิบหุ่นฟางออกมาจากด้านหลัง หุ่นฟาง?!ม่านตาของเสิ่นเจี้ยนเฟิงหดลงเล็กน้อย เขาคุ้นเคยกับหุ่นฟางตัวนั้นเป็นอย่างดี สำนักอวี้ซือ แต่เจ้าสำนักอวี้ซือเพิ่งจะฝึกปรือถึงระดับสร้างรากฐานชั้นสาม ฉู่เฉินไม่มีทางป็นคนของสำนักอวี้ซือได้เลย “วิชาหุ่นเชิดของคุณไม่เลวเอามาก ๆ เลยจริง ๆ แต่ว่าเมื่อเทียบกับ
แม้ว่าฉู่เฉินจะมีมรดกของมังกรเฒ่า แต่เวลานี้เขาตกอยู่ท่ามกลางอาคมประตูกลมหัศจรรย์โดยสิ้นเชิงแล้วตั้งแต่โบราณมาวิชาประตูกลมหัศจรรย์ก็คือวิชาลี้ลับที่แย่งชิงพลังจากฟ้าเพื่อสร้างโชค ลึกลับอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเห็นใต้เท้าของฉู่เฉินเกิดเป็นน้ำวน “กินคน” เสิ่นเจี้ยนเฟิงรีบตะโกนเสียงดังบอกเกาเซิ่งอี้ว่า “รีบไปเร็วเข้า! ที่นี่กำลังจะถล่มแล้ว!”เมื่อสิ้นเสียงพูด เสิ่นเจี้ยนเฟิงก็พุ่งปราดออกไป เกาเซิ่งอี้เองก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บบนร่างกาย รีบทะยานออกไปอย่างรวดเร็วโครม!วินาทีต่อมา ทั่วทั้งห้องโถงถล่มลงไปจริง ๆ เกิดเป็นหลุมลึกที่มองไม่เห็นพื้นขึ้นมาที่ใต้ดินโครมคราม!ชั่วขณะหนึ่ง อาณาเขตคฤหาสน์กว่าครึ่งคล้ายกับอยู่ท่ามกลางทรายดูดในทะเลทราย แม้แต่ตัวคฤหาสนทั้งหลังก็จมลงไปในหลุมลึกเช่นกันส่วนฉู่เฉินก็จมลงไปสู่ใต้ดินตามคฤหาสน์ไปเช่นเดียวกัน“ฮ่า ๆๆ...”เสิ่นเจี้ยนเฟิงเห็นฉู่เฉินโดนฝังลึกอยู่ในใต้ดินแล้ว เขาก็อดแหงนหน้าหัวเราะเสียงดังไม่ได้แล้วพูดว่า “ไอ้เด็กไม่รู้ความ ยังกล้าอวดดีต่อหน้าพวกเราอีกเหรอ? นี่ก็คือจุดจบของแก!”จางจิ่งหลงมองคฤหาสน์ที่โดนฝังลึกอยู่ในใต้ดินแวบหนึ่ง ก่อนจ
ฉู่เฉินกลับไม่สนใจเขาเลย เพราะว่าจางจิ่งหลงที่อยู่ข้างหลังเขาก็ออกหมัดสังหารเข้ามาเช่นกัน“ลองดูหมัดมังกรดำของฉัน!”ฟิ้ว!สายลมรุนแรงที่ขนาบโดยหมอกดำพุ่งตรงมาที่กลางหลังของฉู่เฉิน“ตายซะ!”ในขณะเดียวกัน เกาเซิ่งอี้พุ่งกายหลายครั้งราวกับภูตผีจนมาถึงด้านหลังของฉู่เฉิน เขายกฝ่ามือดำทะมึนขึ้นมาก่อนจะฟาดตรงไปที่เอวของฉู่เฉินถึงแม้ว่าฉู่เฉินจะพุ่งตัวหลบหมัดมังกรดำของจางจิ่งหลงแล้ว แต่เขาก็รับหมัดของเกาเซิ่งอี้ไปเต็ม ๆผัวะ!ลอบโจมตีสำเร็จ เกาเซิ่งอี้ยกมุมปากเล็กน้อย เผยรอยยิ้มหยันออกมาสุดท้ายฉู่เฉินก็ยังเด็กเกินไป ไม่เคยผ่านประสบการณ์ต่อสู้ตะลุมบอนเช่นนี้มาก่อนขอเพียงเขาโดนฝ่ามือนี้ แค่ไอชั่วร้ายด้านในก็เพียงพอเปลี่ยนให้ฉู่เฉินกลายเป็นน้ำเลือดน้ำหนองแล้วอย่างไรก็ตาม วินาทีถัดมา รอยยิ้มของเขาก็แข็งค้างโดยสิ้นเชิงฉู่เฉินถูกเขาซัดฝ่ามือใส่เอว ไม่เพียงไม่ล้มลงคาที่ แต่ว่าลมปราณกลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าไอชั่วร้ายของเขาไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ ให้กับฉู่เฉินเลย ตรงกันข้ามยังเป็นยาบำรุงให้ฉู่เฉินแทนเวรเอ๊ย!นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?ต้องรู้เอาไว้ว่า วิชาที่เขาฝึกฝนคือ
เมื่อไอชั่วร้ายแผ่กระจายออกมา อุณหภูมิรอบด้านพลันลดฮวบลงถึงจุดเยือกแข็งในพริบตา เวลานี้เอง ผู้ทรงอิทธิพลมากมายที่อยู่ด้านล่างเวทีพากันส่ายหน้า แปดเก้าในสิบส่วนคิดว่าฉู่เฉินจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแล้วถูกยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานสามคนล้อมเอาไว้ แม้ว่าร่างกายของฉู่เฉินเป็นเหล็ก จะบดขยี้ตะปูหลายเล่มได้เหรอ?ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้เป็นเกาเซิ่งอี้ที่มีความสามารถอ่อนด้อยที่สุดในหมู่ทั้งสามคนก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายเหมือนกัน“คนแซ่ฉู่ ต่อให้ฉันต้องตายก็จะให้แกตายไปเป็นเพื่อนด้วย”ทางด้านข้าง ฉีอวี่ไท่ที่นอนประคับประคองชีวิตอยู่บนเสาปูนมาตลอด ไอเป็นเลือดไปพลาง เอ่ยพร้อมกับหัวเราะหยันติดต่อกันไปพลางเวลานี้เอง เขารู้ว่าอวัยวะภายในของตัวเองถูกฉู่เฉินทำลายจนหมดแล้ว ต่อให้ฉู่เฉินไม่ฆ่าเขา เขาก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่พอเขาเห็นฉู่เฉินโดนยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานสามคนรุมโจมตี ดวงตาก็เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งส่วนผู้ทรงอิทธิพลมากมายที่ชมความคึกคัก เวลานี้ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความอันตรายเลยพากันถอยออกไปจากห้องโถง หลบออกไปไกลถึงอย่างไรยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานสี่คนต่อสู้กัน ต่อให้
“ไอ้หนู แกล้าดีนักนะ!”จางจิ่งหลงถลึงตาสองข้างอย่างเกรี้ยวกราด เดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว จ้องมองฉู่เฉินอย่างขุ่นเคืองเกาเซิ่งอี้ก็ลุกขึ้นมาช้า ๆ แล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มเย็นชาว่า “ฉู่เฉิน แกโอหังเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? ต่อให้อาจารย์ของแกมาก็ไม่กล้าท้าทายพวกเราสามคนพร้อมกันหรอก!”เสิ่นเจี้ยนเฟิงลุกขึ้นมาเช่นกันแล้วกล่าวว่า “เจ้าหนุ่ม เปิดเผยความสามารถมากเกินไป บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ”ถังเทียนอวี่เป็นอัจฉริยะของตระกูลถังจริง ๆ แต่ถึงอย่างเขาก็มีแค่พลัง ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้จริงเท่าไหร่นัก แต่พวกเกาเซิ่งอี้กับจางจิ่นหลงไม่เหมือนกันตลอดทางมาเดินมานี้ มีใครบ้างที่ไม่ได้ผ่านศึกมานับร้อย?เมื่อเทียบกันแล้ว ความสามารถอันน้อยนิดของถังเทียนอวี่ไม่นับว่าเป็นอะไรเลยพูดได้ว่า ถึงแม้จะอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นสี่เหมือนกัน แต่ถังเทียนอวี่สองคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจางจิ่งหลงยิ่งไม่ต้องพูดถึงจางจิ่งหลงกับเสิ่นเจี้ยนเฟิงที่เป็นยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นสี่นอกจากนี้ เกาเซิ่งอี้ก็อยู่ห่างจากระดับสร้างรากฐานชั้นสี่แค่ก้าวเดียวเท่านั้น“เดิมทีฉันไม่อยากเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขอเพียงแกย
พรวด!คราวนี้ เจ็บมากเกินไปแล้วถังเทียนอวี่อ้าปากกว้างกระอักเลือดคำโตโดยที่มีเศษอวัยวะภายในปะปนอยู่ด้วยออกมาแม้แต่แสงสีทองบนร่างของเขาสายนั้นก็หมองหม่นลงไปในพริบตาเวลานี้ถังเทียนอวี่รู้สึกแค่ว่าเหมือนอวัยวะภายในเคลื่อนที่หมดแล้ว เจ็บจนเส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดโปนขึ้นมา อ้าปากกว้าง ทว่าร้องโหยหวนไม่ออกแม้แต่นิดเดียว“นี่ก็คืออัจฉริยะของตระกูลถังเหรอ?”ฉู่เฉินใช้เท้าเหยียบใบหน้าของถังเทียนอวี่ แล้วขยี้กับพื้นไม่หยุด ก่อนจะหัวเราะหยันแล้วพูดว่า “ต่อให้เป็นหมูก็ยังเก่งกว่าอัจฉริยะแบบนี้อีกมั้ง?” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หางตาของถังเทียนอวี่ก็แทบจะเบิกโพลง เขากัดฟันแน่น ปรายตามองฉู่เฉินพลางเอ่ยว่า “นะ...นายกล้าดูถูก...”“ผัวะ!”ฉู่เฉินเตะเข้าที่ปากของถังเทียนอวี่ จากนั้นก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “ผมดูถูกตระกูลถังของคุณแล้ว คุณจะทำอะไรผมได้? ผมดูถูกคุณแล้ว คุณจะทำอะไรได้?”ถังเทียนอวี่โกรธจนตัวสั่นเทิ้มไม่หยุด แต่ก็เป็นเหมือนกับที่ฉู่เฉินพูดไว้ ตันเถียนของเขาถูกฉู่เฉินเตะจนแตกไปหมดแล้ว เขายังจะทำอะไรได้อีก?เวลานี้ บรรดาผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่รอบด้านต่างมองไปทางฉู่เฉินด้วยสายตาที่เ