“เอ่อ...”เจียงหย่วนอึ้งไปสักพัก แต่เขาก็ยังพยักหน้า “โอเคครับ งั้นผมไม่รบกวนคุณฉู่แล้วครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ”พูดจบ เจียงหย่วนก็วิ่งไปถนนอีกฝั่งอย่างรู้ตัวในตอนนั้นเอง พนักงานจากโรงงานรถขับรถเคอนิกเส็กก์ วัน มาจอดตรงหน้าฉู่เฉิน“คุณฉู่ นี่เป็นกุญแจรถของคุณครับ”พนักงานยื่นกุญแจให้ฉู่เฉินอย่างมีมารยาท“มอบให้คุณผู้หญิงคนนั้นเถอะ”ฉู่เฉินชี้ไปที่เย่ชิ่นเหยียนที่ยืนอยู่ข้างๆ“คุณฉู่คะ ของขวัญราคาแพงขนาดนี้ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ อีกอย่างระ... รถของฉันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังสามารถใช้ได้อยู่เลยค่ะ” เย่ชิ่นเหยียนลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด รถหรูราคากว่าห้าพันล้าน เธอไม่กล้าขับจริงๆ “ของที่ผมให้ไปแล้ว ผมไม่เอาคืนหรอกนะครับ หากคุณไม่ชอบก็เอาไปขายทิ้งให้โรงงานรถเก่าก็ได้ครับ”ฉู่เฉินพูดอย่างเฉยเมย“ฮะ?”เย่ชิ่นเหยียนตกใจมากจริงๆ รถหรูกว่าห้าพันล้าน ไม่ได้ขับเลยด้วยซ้ำ เขาจะให้เธอเอาไปขายให้โรงงานรถเก่างั้นเหรอ?ฉู่เฉินถือกุญแจรถไว้ในมือพร้อมยิ้มบางๆ หลังจากนั้นก็ยัดมันเข้าไปที่มือของเย่ชิ่นเหยียน“รับไว้เถอะครับ”เย่ชิ่นเหยียนถูกฉู่เฉินจับมือเล็ก ทำเอาหัวใจแทบจะทะลักมาที่คอหอย
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้ฉู่เฉินอดนึกถึงกลอนโบราณบทหนึ่งที่ว่า จอดม้าชมป่าสนยามพลบค่ำ เมื่อถึงคราวสองยามเสียงระฆังก็ดังสนั่นมายังเรือใบไม้ปลิดปลิวร่วงลงมา มันก็บดบังสะโพกขาวเนียนที่โผล่ให้เห็นตรงกระจกรถพอดีฉู่เฉินยื่นมือเข้าไปกดที่เอวเล็กของเย่ชิ่นเหยียน ค่อยๆ กดให้เธอนั่งทับลงมาตรงๆตามมาด้วยเสียงลมหายใจหอบถี่ รอบๆ ราวกับว่าทุกอย่างหยุดลงแม้ว่าพื้นที่ในรถจะแคบ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อท่าทางร่ายรำของเย่ชิ่นเหยียนแฉะแฉะจริงๆความเร่าร้อนและร้อนแรงของเย่ชิ่นเหยียน ทำให้ฉู่เฉินกระปรี้กระเปร่าไม่หยุด......อีกด้านหนึ่ง หยางเส้าหัวที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล เขาเจ็บเหมือนจะตายจนถึงตอนที่หมอเวรดึกฉีดยาชาให้เขาไป อารมณ์ของหยางเส้าหัวถึงค่อยๆ สงบขึ้น“พ่อ! เรื่องวันนี้ปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้นะครับ!”เมื่อหวนนึกถึงเมื่อกี้ พวกเขาสองคนพ่อลูกที่ได้รับคำดูถูกเหยียดหยามจากฉู่เฉิน หยางเส้าหัวอยากจะฉีกฉู่เฉินออกเป็นชิ้นๆ กินเลือดกินเนื้อของฉู่เฉินให้เกลี้ยง!หยางเทียนหลงที่ยืนหน้าแดงก่ำอยู่ตรงข้างๆ หน้าต่าง ก็กัดฟันกรอดพูดขึ้นมาว่า “แน่นอนว่าปล่อยไปไม่ได้อยู่แล้ว!”“ไอ้แซ่ฉู่นั่นทำเรื่อง
“แค่ก...”หยางเส้าหัวแววตาเต็มไปด้วยงุนงง เขาไม่อยากจะเชื่อสาวงามที่สวมชุดคนใช้ตรงหน้า ร่างกายของเขาสูญเสียพลังชีวิตไปเรื่อยๆ อาการชักก็ตามมาอัตโนมัติแม้ว่าภายในใจของเขาจะเต็มไปด้วยคำว่าทำไม แต่คอของเขาถูกมีดปอกผลไม้แทงจนทะลุหมดแล้วคอของเขาเต็มไปด้วยฟองเลือด เขาทำได้แต่เพียงส่งเสียงอึกอัก ไม่แม้แต่จะแปลงคำพูดออกมาได้“คุณฉู่ให้ฉันมาเยี่ยมคุณ คุณชายหยางความจำคงไม่แย่ขนาดนั้นใช่ไหมคะ?”ระหว่างที่พูดสาวงามก็ถอดหมวกบนหัวออก สะบัดผมสีแดงไวน์สยายออกมาหยางเส้าหัวมองเห็นลอนผมตรงหน้าผาก และรอยแดงที่เผยให้เห็นของหญิงคนนั้นอย่างชัดเจนแล้ว ม่านตาของเขาก็หดลงอย่างควบคุมไม่ได้ นี่มันหนึ่งในสองพี่น้องสาวงามนี่!ไม่ผิดแน่ คนที่มาก็คือกุหลาบเพลิง!เผชิญหน้ากับนักฆ่าชั้นยอดแบบนี้ อย่าพูดถึงหยางเส้าหัวเลย แม้แต่ประมุขของประเทศในแถบแอฟริกาก็ยังไม่สามารถหนีรอดไปได้“อั่ก...”ร่างกายของหยางเส้าหัวชักอย่างรุนแรง หลังจากนั้นก็แน่นิ่งไปกุหลาบเพลิงเข้าไปทดสอบลมหายใจของหยางเส้าหัวดู หลังจากนั้นเธอก็เผยให้เห็นรอยยิ้มชวนหลงใหล เธอควักกุหลาบสีแดงเพลิงออกมาจากหน้าอกอันอวบอั๋น หลังจากนั้นก็ยื่นเข้าไป
“ไม่เป็นไรครับ อ้อ บริษัทผมยังขาดที่ปรึกษาด้านกฎหมายอยู่ คุณสนใจจะมาทำงานที่ซินฉู่ฟาร์มาติคอลไหมครับ?”ฉู่เฉินพูดประเด็นอย่างตรงไปตรงมาคนที่ฉู่เฉินส่งไปเป็นถึงนักฆ่าระดับประเทศหากสามารถสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับการฆ่าใครสักคนของกุหลาบเพลิงได้แม้กระทั่งเบาะแสเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถย้อนไปถึงนายจ้างได้ อย่างนั้นเธอคงถูกองค์กรนักฆ่าเก็บไปนานแล้วอีกทั้งดูจากท่าทีของพ่อลูกตระกูลหยางที่ออกจากโรงงานรถไป ฉู่เฉินก็พอจะเดาได้ว่ายอมแพ้แค่ชั่วคราวเท่านั้นและนั่นก็เป็นเพราะสถานการณ์บังคับไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเผชิญหน้าจังๆ กับตระกูลหยาง ฉู่เฉินจึงไม่ลังเลที่จะใช้นักฆ่าชั้นยอดสองคนที่มีในมือแทนที่จะเผชิญหน้าโดยตรงกับตระกูลหยางในการต่อสู้ที่อยู่บนความเป็นความตายแบบนี้ คงมีแค่คนโง่เท่านั้นที่จะยอมเปิดไพ่อย่างเปิดเผย“คะ... คุณเป็นประธานซินฉู่ฟาร์มาติคอลเหรอคะ?”เย่ชิ่นเหยียนถามขึ้นมาด้วยความสงสัย“ครับ! เป็นยังไงครับ สนใจทำงานร่วมกันไหมครับ?”ฉู่เฉินคลี่ยิ้มพร้อมเอ่ยถามขึ้นมาพูดตามความจริง งานด้านกฎหมายของบริษัทเป็นปัญหาที่ฉู่เฉินต้องปวดหัวมาโดยตลอดขณะที่ยอดขายยาบำรุงปราณกำลังพุ่งกระฉูด คนรว
หลี่เจี้ยนเย่เดินตามหลังฉู่เฉินอย่างหวั่นเกรง เดินเข้าไปในลานบ้านของบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ ฉู่เฉินยังไม่ได้บอกให้เขานั่ง เขาจึงทำได้แค่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู แม้แต่ถอนหายใจออกมาเขายังไม่กล้าหลังจากไปสืบในช่วงที่ผ่านมานี้ หลี่เจี้ยนเย่พึ่งเข้าใจว่าทำไมหลี่ซื่อกรุ๊ปถึงถูกเจ้าใหญ่นายโตจ้องเล่นงาน ที่แท้เป็นเพราะไอ้ลูกอกตัญญูนั่นทำให้บุคคลยิ่งใหญ่อย่างฉู่เฉินขุ่นเคืองหลังจากผ่านการพิจารณามาอย่างหนัก สุดท้ายหลี่เจี้ยนเย่ก็ยังตัดสินใจมาขอโทษฉู่เฉินด้วยตัวเองไม่อย่างนั้น อย่างมากที่สุดก็อีกหนึ่งสัปดาห์ หลี่ซื่อกรุ๊ปต้องประกาศขายกิจการล้มละลายอย่างแน่นอน!“ประธานหลี่ใช่ไหมครับ คุณเลี้ยงลูกชายได้ดีเลยนะครับ วันนั้นผมยังจำได้อยู่ว่าคุณชายหลี่ยังโอหังมากๆ ไม่ใช่เหรอครับ? ยังบอกอีกว่าแค่ตระกูลหลี่ของพวกคุณเอ่ยปากพูด ก็สามารถทำให้บริษัทเล็กๆ ของผมล้มละลายได้”“แล้วทำไมตอนนี้กลับเป็นประธานหลี่มาขอโทษผมเองเลยล่ะครับ?”ฉู่เฉินดื่มชาไปด้วย พร้อมทั้งยิ้มอย่างเย็นชามองไปที่หลี่เจี้ยนเย่เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลี่เจียนเย่ก็คุกเข่าต่อหน้าฉู่เฉินดังตึง ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความโศกเศร้า “คุณฉู่ คุณอย่าใ
เพียงแต่ว่า หากเทียบความใหญ่ของเธอกับเย่ชิ่นเหยียนแล้ว ของเธอเล็กกว่าห้าคัพเลย!“ประธานหลี่แบบนี้ไม่ดีไหมครับ? หลานชายยังอยู่นะครับ”ระหว่างที่พูด ใบหน้าของฉู่เฉินที่เต็มไปด้วยยิ้มเยาะมองไปที่หลี่ฮุยหลี่ฮุยในตอนนี้แม้ว่าตอนนี้โทสะในใจยังไม่ปะทุ แต่เขาก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองฉู่เฉินเป็นคนที่กุมชีวิตของตระกูลหลี่ไว้อยู่ เขาสามารถทำให้ตระกูลล้มละลายได้ทุกเมื่อหากตระกูลหลี่จบลงเพราะหลี่ฮุย ทายาทรุ่นสองที่ทำอะไรไม่เป็น จะให้เขาไปขอข้าวกินเขาก็คงทำไม่ได้ “คุณฉู่ครับ คุณอย่าสนใจเขาเลยครับ ถือซะว่าเขาตาบอดเถอะครับ”หลี่เจี้ยนเย่พูดไปด้วย พร้อมทั้งถีบหลี่ฮุยอีกครั้งหนึ่งฉู่เฉินบีบหยกอ่อนในมือ ดมกลิ่นน้ำหอมที่ออกมาจากตัวของจางหลิง เขาส่ายหัวเล็กน้อย “ประธานหลี่ ความจริงใจของคุณไม่ค่อยพอนะครับผมว่า เอาแบบนี้ดีกว่าครับ คุณลองกลับไปทบทวนดูดีๆ ก่อน”“ผมก็อยากจะกลับไปพิจารณาอีกครั้ง เราค่อยนัดกันวันหลังเถอะครับ”พูดจบ ฉู่เฉินก็เอามือออกมายกแก้วน้ำชาเล็กๆ ดื่มเข้าไปนี่มัน...หลี่เจี้ยนเย่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแม้แต่เมียของเขาก็มอบให้ฉู่เฉินแล้ว แต่เขากลับไม่ร
อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินผลักประตูห้องเข้าไป เขาพึ่งเดินไปถึงห้องโถง ก็เห็นต้วนหลิงเวยสวมชุดกี่เพ้าสีแดงเพลิงที่เปิดคอเล็กน้อย พิงพนักแขนของโซฟาไว้อยู่รอยผ่าที่ชายกระโปรงของเธอหยุดลงตรงบริเวณต้นขา เผยให้เห็นขาอันขาวราวกับหิมะของเธอที่ปกปิดไว้อย่างแน่นหนาด้วยถุงน่องไหมสีขาวดวงตาที่กระตือรือร้นและน่าหลงใหลคู่หนึ่งจ้องมองไปที่ฉู่เฉินด้วยท่าทีมึนงงเธอดมกลิ่น เธอยังสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมที่คละคลุ้งในห้องอีกด้านหนึ่ง ต้วนหลิงเวยสวมใส่ชุดคนรับใช้ นอนตะแคงบนเตียงโดยกางลำตัวที่สวยงามออก เท้าสีชมพูของเธอเปลือยเปล่า มองดูฉู่เฉินด้วยดวงตาที่สวยงามเช่นเดียวกันซี้ดๆ!ดุดัน!ฉู่เฉินสัมผัสถึงพลังงานอันตรายบางอย่างที่จะพยายามจะดูดเขา“พวกเธอ...”ฉู่เฉินยืนอยู่ข้างหน้าประตู ไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า แต่เขากลับถามด้วยความกลัดกลุ้มใจเมื่อคืนที่ทำศึกรักกัน สองพี่น้องนักฆ่านี่คงไม่ได้ถูกเขาพิชิตใช่ไหม?โดยเฉพาะยัยคนเล็กต้วนหลิงเวยนั้น ภายในใจของเธอจะซ่อนความเคียดแค้นและความโกรธไว้มากขนาดไหนกันนะ?ในเมื่อการพูดคุยสองครั้งล้วนแต่ไม่เป็นมิตรแม้ว่าคืนเมื่อวานการพูดคุยจะถือว่าไหลลื่น แต่นี่ไม่ได้หม
ขณะนี้ทุกท่วงท่าที่สองพี่น้องกำลังทำอยู่นั้น ช่างยั่วยวนเหลือเกินโดยเฉพาะต้วนหลิงเวย ที่ดูน่าหลงใหลและเย้ายวนใจยิ่งกว่า ด้วยดวงตาที่สวยงามระยิบระยับราวกับน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้ผู้คนรู้สึกทนไม่ได้ในฐานะที่เป็นนักฆ่าชั้นเลิศ เธอเข้าใจผู้ชายมากที่สุดแล้ววินาทีต่อมา ก็เห็นเพียงแต่ต้วนหลิงเวยที่เอียงศีรษะ และเอียงคอที่เหมือนหยกของเธอไปข้างหน้าริมฝีปากสีแดง เธอคาบองุ่นไว้ แล้วเข้าไปใกล้ๆ ริมฝีปากของฉู่เฉินด้วยการดูดริมฝีปากอย่างอ่อนโยนและการใช้ลิ้นอย่างชาญฉลาด องุ่นที่ปอกเปลือกแล้วก็ถูกส่งเข้าไปในปากของฉู่เฉินน้ำองุ่นค่อยๆ ไหลออกมาจากมุมปากของต้วนหลิงเวยอย่างช้าๆ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ไหลลงไปคอเสื้อของเธอ เทคนิคนี้มันสุดยอดไปเลยแม้แต่ฉู่เฉินก็ยังสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาแอบตกใจคนที่เคยได้รับการฝึกฝนนี่ไม่เหมือนใครจริงๆ ถ้าหากเทียบกับกู้รั่วเสวี่ยและหลินชือหย่าที่เป็นมือใหม่ต้วนหลิงเสวี่ยก็กะพริบตายั่วยวนเช่นกัน เลียนแบบการกระทำของต้วนหลิงเวยด้วยการป้อนองุ่นเข้าปากของฉู่เฉิน แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การเคลื่อนไหวของเธอก็ดูเกร็งและอึดอัดกว่ามากขนาดเปลือกองุ่นก็ยังปอกไม่เรียบร้
แม้ว่าฉู่เฉินจะมีมรดกของมังกรเฒ่า แต่เวลานี้เขาตกอยู่ท่ามกลางอาคมประตูกลมหัศจรรย์โดยสิ้นเชิงแล้วตั้งแต่โบราณมาวิชาประตูกลมหัศจรรย์ก็คือวิชาลี้ลับที่แย่งชิงพลังจากฟ้าเพื่อสร้างโชค ลึกลับอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเห็นใต้เท้าของฉู่เฉินเกิดเป็นน้ำวน “กินคน” เสิ่นเจี้ยนเฟิงรีบตะโกนเสียงดังบอกเกาเซิ่งอี้ว่า “รีบไปเร็วเข้า! ที่นี่กำลังจะถล่มแล้ว!”เมื่อสิ้นเสียงพูด เสิ่นเจี้ยนเฟิงก็พุ่งปราดออกไป เกาเซิ่งอี้เองก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บบนร่างกาย รีบทะยานออกไปอย่างรวดเร็วโครม!วินาทีต่อมา ทั่วทั้งห้องโถงถล่มลงไปจริง ๆ เกิดเป็นหลุมลึกที่มองไม่เห็นพื้นขึ้นมาที่ใต้ดินโครมคราม!ชั่วขณะหนึ่ง อาณาเขตคฤหาสน์กว่าครึ่งคล้ายกับอยู่ท่ามกลางทรายดูดในทะเลทราย แม้แต่ตัวคฤหาสนทั้งหลังก็จมลงไปในหลุมลึกเช่นกันส่วนฉู่เฉินก็จมลงไปสู่ใต้ดินตามคฤหาสน์ไปเช่นเดียวกัน“ฮ่า ๆๆ...”เสิ่นเจี้ยนเฟิงเห็นฉู่เฉินโดนฝังลึกอยู่ในใต้ดินแล้ว เขาก็อดแหงนหน้าหัวเราะเสียงดังไม่ได้แล้วพูดว่า “ไอ้เด็กไม่รู้ความ ยังกล้าอวดดีต่อหน้าพวกเราอีกเหรอ? นี่ก็คือจุดจบของแก!”จางจิ่งหลงมองคฤหาสน์ที่โดนฝังลึกอยู่ในใต้ดินแวบหนึ่ง ก่อนจ
ฉู่เฉินกลับไม่สนใจเขาเลย เพราะว่าจางจิ่งหลงที่อยู่ข้างหลังเขาก็ออกหมัดสังหารเข้ามาเช่นกัน“ลองดูหมัดมังกรดำของฉัน!”ฟิ้ว!สายลมรุนแรงที่ขนาบโดยหมอกดำพุ่งตรงมาที่กลางหลังของฉู่เฉิน“ตายซะ!”ในขณะเดียวกัน เกาเซิ่งอี้พุ่งกายหลายครั้งราวกับภูตผีจนมาถึงด้านหลังของฉู่เฉิน เขายกฝ่ามือดำทะมึนขึ้นมาก่อนจะฟาดตรงไปที่เอวของฉู่เฉินถึงแม้ว่าฉู่เฉินจะพุ่งตัวหลบหมัดมังกรดำของจางจิ่งหลงแล้ว แต่เขาก็รับหมัดของเกาเซิ่งอี้ไปเต็ม ๆผัวะ!ลอบโจมตีสำเร็จ เกาเซิ่งอี้ยกมุมปากเล็กน้อย เผยรอยยิ้มหยันออกมาสุดท้ายฉู่เฉินก็ยังเด็กเกินไป ไม่เคยผ่านประสบการณ์ต่อสู้ตะลุมบอนเช่นนี้มาก่อนขอเพียงเขาโดนฝ่ามือนี้ แค่ไอชั่วร้ายด้านในก็เพียงพอเปลี่ยนให้ฉู่เฉินกลายเป็นน้ำเลือดน้ำหนองแล้วอย่างไรก็ตาม วินาทีถัดมา รอยยิ้มของเขาก็แข็งค้างโดยสิ้นเชิงฉู่เฉินถูกเขาซัดฝ่ามือใส่เอว ไม่เพียงไม่ล้มลงคาที่ แต่ว่าลมปราณกลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าไอชั่วร้ายของเขาไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ ให้กับฉู่เฉินเลย ตรงกันข้ามยังเป็นยาบำรุงให้ฉู่เฉินแทนเวรเอ๊ย!นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?ต้องรู้เอาไว้ว่า วิชาที่เขาฝึกฝนคือ
เมื่อไอชั่วร้ายแผ่กระจายออกมา อุณหภูมิรอบด้านพลันลดฮวบลงถึงจุดเยือกแข็งในพริบตา เวลานี้เอง ผู้ทรงอิทธิพลมากมายที่อยู่ด้านล่างเวทีพากันส่ายหน้า แปดเก้าในสิบส่วนคิดว่าฉู่เฉินจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแล้วถูกยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานสามคนล้อมเอาไว้ แม้ว่าร่างกายของฉู่เฉินเป็นเหล็ก จะบดขยี้ตะปูหลายเล่มได้เหรอ?ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้เป็นเกาเซิ่งอี้ที่มีความสามารถอ่อนด้อยที่สุดในหมู่ทั้งสามคนก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายเหมือนกัน“คนแซ่ฉู่ ต่อให้ฉันต้องตายก็จะให้แกตายไปเป็นเพื่อนด้วย”ทางด้านข้าง ฉีอวี่ไท่ที่นอนประคับประคองชีวิตอยู่บนเสาปูนมาตลอด ไอเป็นเลือดไปพลาง เอ่ยพร้อมกับหัวเราะหยันติดต่อกันไปพลางเวลานี้เอง เขารู้ว่าอวัยวะภายในของตัวเองถูกฉู่เฉินทำลายจนหมดแล้ว ต่อให้ฉู่เฉินไม่ฆ่าเขา เขาก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่พอเขาเห็นฉู่เฉินโดนยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานสามคนรุมโจมตี ดวงตาก็เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งส่วนผู้ทรงอิทธิพลมากมายที่ชมความคึกคัก เวลานี้ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความอันตรายเลยพากันถอยออกไปจากห้องโถง หลบออกไปไกลถึงอย่างไรยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานสี่คนต่อสู้กัน ต่อให้
“ไอ้หนู แกล้าดีนักนะ!”จางจิ่งหลงถลึงตาสองข้างอย่างเกรี้ยวกราด เดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว จ้องมองฉู่เฉินอย่างขุ่นเคืองเกาเซิ่งอี้ก็ลุกขึ้นมาช้า ๆ แล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มเย็นชาว่า “ฉู่เฉิน แกโอหังเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? ต่อให้อาจารย์ของแกมาก็ไม่กล้าท้าทายพวกเราสามคนพร้อมกันหรอก!”เสิ่นเจี้ยนเฟิงลุกขึ้นมาเช่นกันแล้วกล่าวว่า “เจ้าหนุ่ม เปิดเผยความสามารถมากเกินไป บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ”ถังเทียนอวี่เป็นอัจฉริยะของตระกูลถังจริง ๆ แต่ถึงอย่างเขาก็มีแค่พลัง ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้จริงเท่าไหร่นัก แต่พวกเกาเซิ่งอี้กับจางจิ่นหลงไม่เหมือนกันตลอดทางมาเดินมานี้ มีใครบ้างที่ไม่ได้ผ่านศึกมานับร้อย?เมื่อเทียบกันแล้ว ความสามารถอันน้อยนิดของถังเทียนอวี่ไม่นับว่าเป็นอะไรเลยพูดได้ว่า ถึงแม้จะอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นสี่เหมือนกัน แต่ถังเทียนอวี่สองคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจางจิ่งหลงยิ่งไม่ต้องพูดถึงจางจิ่งหลงกับเสิ่นเจี้ยนเฟิงที่เป็นยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นสี่นอกจากนี้ เกาเซิ่งอี้ก็อยู่ห่างจากระดับสร้างรากฐานชั้นสี่แค่ก้าวเดียวเท่านั้น“เดิมทีฉันไม่อยากเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขอเพียงแกย
พรวด!คราวนี้ เจ็บมากเกินไปแล้วถังเทียนอวี่อ้าปากกว้างกระอักเลือดคำโตโดยที่มีเศษอวัยวะภายในปะปนอยู่ด้วยออกมาแม้แต่แสงสีทองบนร่างของเขาสายนั้นก็หมองหม่นลงไปในพริบตาเวลานี้ถังเทียนอวี่รู้สึกแค่ว่าเหมือนอวัยวะภายในเคลื่อนที่หมดแล้ว เจ็บจนเส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดโปนขึ้นมา อ้าปากกว้าง ทว่าร้องโหยหวนไม่ออกแม้แต่นิดเดียว“นี่ก็คืออัจฉริยะของตระกูลถังเหรอ?”ฉู่เฉินใช้เท้าเหยียบใบหน้าของถังเทียนอวี่ แล้วขยี้กับพื้นไม่หยุด ก่อนจะหัวเราะหยันแล้วพูดว่า “ต่อให้เป็นหมูก็ยังเก่งกว่าอัจฉริยะแบบนี้อีกมั้ง?” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หางตาของถังเทียนอวี่ก็แทบจะเบิกโพลง เขากัดฟันแน่น ปรายตามองฉู่เฉินพลางเอ่ยว่า “นะ...นายกล้าดูถูก...”“ผัวะ!”ฉู่เฉินเตะเข้าที่ปากของถังเทียนอวี่ จากนั้นก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “ผมดูถูกตระกูลถังของคุณแล้ว คุณจะทำอะไรผมได้? ผมดูถูกคุณแล้ว คุณจะทำอะไรได้?”ถังเทียนอวี่โกรธจนตัวสั่นเทิ้มไม่หยุด แต่ก็เป็นเหมือนกับที่ฉู่เฉินพูดไว้ ตันเถียนของเขาถูกฉู่เฉินเตะจนแตกไปหมดแล้ว เขายังจะทำอะไรได้อีก?เวลานี้ บรรดาผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่รอบด้านต่างมองไปทางฉู่เฉินด้วยสายตาที่เ
บรรดาผู้ทรงอิทธิพลที่นั่งใกล้หน้าประตูมากมาย เห็นกับตาว่าแม้แต่รถกอล์ฟก็ถูกอัดจนผิดรูปไปแล้ว พวกเขาก็รีบถอยไปทางมุมกำแพง กลัวว่าจะต้องตายอย่างอนาถโดยไร้ความผิดส่วนหมัดของถังเทียนอวี่นี้ก็มีอานุภาพสะเทือนฟ้าดินจริง ๆพูดได้ว่าเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ฉู่เฉินเคยพบเจอนับตั้งแต่ที่เข้าวงการมาถึงอย่างไรตระกูลถังก็เป็นตัวตนที่กดขี่ทั้งเมืองได้ด้วยตระกูลเดียว ไม่ว่าจะเป็นวรยุทธ์หรือความสามารถของตัวถังเทียนอวี่เอง สำนักเล็ก ๆ ระดับล่างอย่างสำนักเสวียนเทียนกับสำนักอวี้ซือไม่อาจเทียบได้เลยพูดได้ว่าสำนักเล็ก ๆ ทั้งสองนั้นเป็นเพียงเศษธุลีที่ลอยวนเวียนอยู่ขอบโลกแห่งการหยั่งรู้เท่านั้นแต่ตระกูลถังกลับไม่เป็นเช่นนั้น ตัวตนที่สามารถสยบทั้งเมืองได้ด้วยพลังอำนาจของตระกูล มีใครบ้างที่ไม่ได้มาจากสำนักใหญ่ ครอบครองวิชาชั้นสูงเป็นมรดกตกทอด?เวลานี้เอง ภายในดวงตาของถังเทียนอวี่เต็มไปด้วยจิตสังหารเย็นเยียบ แทบอยากจะต่อยฉู่เฉินให้เนื้อแหลกละเอียดในหมัดเดียวเมื่อเห็นเขาจะลงมือสังหารฉู่เฉินจริง ๆ เกาเซิ่งอี้ที่นั่งอยู่บนที่สูงรีบเอ่ยปากกล่าวว่า “หลานถัง ห้ามต่อยเขาให้ตายในหมัดเดียวเด็ดขาด
เธอไม่อยากเอาชีวิตเล็ก ๆ ของตัวเองไปทิ้งตอนนี้ที่หลิ่วหรูเยียนยังอยู่กับฉู่เฉินไม่ไปไหน ก็เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากเขา ให้ช่วยพวกเธอสองแม่ลูกก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ก็เท่านั้น ไม่ตายเป็นเพื่อนฉู่เฉินแน่!“ฉู่เฉิน คนพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดาเลยนะ หรือว่านายจะลองยอมรับปากพวกเขาไปก่อนดีไหม ถึงยังไง...”ไม่รอให้หลิ่วหรูเยียนพูดจบ ฉู่เฉินก็หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะพูดขัดขึ้นมา “พวกมันเคยเป็นใครมาก่อนฉันไม่รู้ แต่อีกไม่นาน เดี๋ยวพวกมันก็จะเป็นศพแล้ว”ซี้ด!ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ บรรดานักธุรกิจทรงอิทธิพลหลายคนที่นั่งอยู่รอบ ๆ ถึงกับสูดหายใจเข้าลึกด้วยความตกใจติด ๆ กันชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านล่างแถวหน้าสุดก็ลุกขึ้นยืน และพูดกับฉู่เฉิน “นี่น้องชาย แกรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอยู่กับใคร?”“คนที่อยู่ตรงนั้นน่ะ คือปรมาจารย์เสิ่น บุคคลที่มีอิทธิพลสูงสุดของตระกูลผู้บำเพ็ญพรตแห่งปินเฉิง!”“ส่วนท่านผู้อาวุโสท่านนี้ คือผู้นำตระกูลจางแห่งเซียงเฉิงเชียวนะ!”“แล้วก็ยังท่านผู้นั้นอีก เขาคือถังเทียนอวี่อัจฉริยะของตระกูลถังแห่งอวิ๋นเฉิง!“มีท่านไหนบ้างที่สามารถเทียบเคียงกับคนแบบฉันและแกได้? เอ
“แม่คุณแซ่อะไรเหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะมองเกาเซิ่งอี้ด้วยแววตาแข็งกร้าว“แก! แกหมายความว่าอะไร?”ใบหน้าของเกาเซิ่งอี้แฝงไปด้วยความเยือกเย็น เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะจ้องฉู่เฉินตาเขม็ง“คุณสั่งให้ผมมอบหยกโลหิตกิเลนให้คุณ ผมก็ต้องยอมมอบให้คุณง่าย ๆ? แล้วถ้าผมบอกให้คุณมอบชีวิตให้ผม คุณจะยอมปาดคอฆ่าตัวตายไหม?”ฉู่เฉินพูดออกมาด้วยสีหน้าหยันเกาเซิ่งอี้หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความโกรธในใจเอาไว้ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “นี่ไอ้หนุ่ม แกไม่รู้คุณสมบัติที่แท้จริงของหยกโลหิตกิเลนด้วยซ้ำ ถ้าแกมีมันอยู่ในมือ ก็ถือเป็นการทำลายสมบัติที่มีค่าและยังจะนำพาปัญหายิ่งใหญ่ตามมาอีก”“การให้แกมอบหยกโลหิตกิเลนให้ฉัน ก็เพราะหวังดีต่อแกนะ”ฉู่เฉินพยักหน้าอย่างหนักแล้วพูดว่า “พูดได้มีเหตุผลดีจริง ๆ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของถังเทียนอวี่และคนอื่น ๆ ก็ปรากฏความเย้ยหยันออกมา เพราะยังไงสุดท้ายแล้วฉู่เฉินก็ต้องยอมศิโรราบอยู่ดีไม่ใช่หรือไง?แต่ในวินาทีถัดมา ไม่ใช่แค่ถังเทียนอวี่และคนอื่น ๆ เท่านั้น แม้แต่เกาเซิ่งอี้เองก็ถึงกับหน้าดำหน้าแดงด้วยความโกรธ เพราะคำพูดต่อมาของฉู่เฉิน“ความจ
บางทีสักวันหนึ่ง เธออาจจะสามารถเหยียบผู้ชายเฮงซวยพวกนี้ให้จมดินได้ในตอนนี้ คนที่ตกใจมากที่สุดก็ยังเป็นฉีอวี่ไท่ ความจริงแล้ว ฉีอวี่ไท่เป็นคนเดียวในรุ่นที่สองของตระกูลฉีที่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังเคยกราบอาจารย์เก่ง ๆ หลายคนตอนที่ตระกูลฉีมาพึ่งพิงเกาเซิ่งอี้ เขาก็มีพลังระดับปรมาจารย์แล้ว และหลังจากผ่านการฝึกฝนอย่างหนักหลายปี ประกอบกับทรัพยากรจำนวนมากที่เกาเซิ่งอี้มอบให้ เขาจึงประสบความสำเร็จเหมือนในวันนี้แต่ฉู่เฉินกลับสามารถใช้ลูกเตะเดียวทำลายพลังของเขา สะเทือนอวัยวะภายในร่างของเขาจนเละอย่างน้อยสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า ฉู่เฉินต้องเป็นยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานอย่างแน่นอนในความทรงจำของเขา ตระกูลฉู่แห่งเจียงจง ไม่มีพื้นฐานด้านการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย และในช่วงเวลาสามปีที่พ่อแม่ของฉู่เฉินหายสาบสูญไป ฉู่เฉินก็อยู่ในสภาพ เกือบตายตลอดเวลาอย่าว่าแต่การฝึกวรยุทธ์หรือบำเพ็ญพรตเลย แม้แต่การลุกขึ้นยืนและเดิน สำหรับฉู่เฉินแล้ว นี่เป็นเพียงความฝันที่ไม่สามารถเป็นความจริงได้ในเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่เดือน ทำไมฉู่เฉินถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้?เมื่อครู่เขาได้ทำการยืนยันหล