“ที่นี่คือบ้านของตระกูลจ้าว ถ้าหากไม่มีความรู้เรื่องการตรวจประเมินของโบราณ ก็หุบปากไปซะ จะได้ไม่ทำให้คนอื่นไม่พอใจ จนก่อให้เกิดหายนะ!”ทันทีที่พูดจบ ก็มีบอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำที่ร่างกายกำยำหลายคนพุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็วซ่งหรูเซียนกล่าวเร่งรัด “ผู้นำตระกูลจ้าว จะเกรงใจมันทำไม รีบเฉดหัวมันออกไป!”“ฉันก็อยากรู้ว่าใครกล้า!”กู้รั่วเสวี่ยลุกขึ้น กล่าวเสียงเย็นชา “ผู้นำตระกูลจ้าว คุณฉู่เป็นแขกคนสำคัญของตระกูลกู้ของฉัน ก่อนหน้าที่จะเฉดหัวเขาออกไป ก็เฉดหัวฉันออกไปก่อนเถอะ”เพียงประโยคเดียว ผู้นำตระกูลจ้าวก็ตกใจจนมีสีหน้าสับสนมากเฉดหัวกู้รั่วเสวี่ยออกไป?เขาไม่กล้าแน่นอนเมื่อเห็นผู้นำตระกูลจ้าวเงียบ กู้รั่วเสวี่ยก็หันหน้ากลับไป จ้องมองซ่งหรูเซียนด้วยดวงตาเฉยชา กล่าวเสียงเย็นเยียบ “แล้วก็คุณ คนอื่นเคารพเพราะคุณเป็นปรมาจารย์ศาสตร์ฮวงจุ้ย แต่ฉันไม่”“ที่นี่คือเจียงจง ไม่ใช่เจียงเป่ย คุณไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่ง”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของซ่งหรูเซียนเรียกได้ว่ามืดขรึมขั้นสุด“คุณหนูใหญ่กู้ คืออย่างนี้ ผมก็คือปรมาจารย์วงการศาสตร์ฮวงจุ้ยแห่งเจียงเป่ย ก็รู้จักคนไม่น้อยเช่นกัน การล่วงเกิน
ฉู่เฉินแค่นเสียงหัวเราะ มองซ่งหรูเซียนที่กำลังโมโหแวบหนึ่งอย่างเหยียดหยาม “ถ้าอย่างนั้นผมขอเตือนคุณ ให้รีบหารถฉุกเฉินเอาไว้ เพราะว่าอีกเดี๋ยวคุณต้องได้กินหยกลายโลหิตก้อนนี้แน่”“เธอ! ไอ้หนู อวดดีเกินไปแล้ว!” ซ่งหรูเซียนกล่าวอย่างโมโห ชี้นิ้วทางด้านนี้ ฉู่เฉินลุกขึ้น สองมือเท้าสะเอว เดินมาตรงหน้าของปรมาจารย์กัวที่สีหน้าเขียวคล้ำ สายตาอึมครึม พูดพร้อมกับแสยะยิ้ม “ปรมาจารย์กัว คุณจะยอมรับเองตรง ๆ ว่าหยกลายโลหิตนี้เป็นของปลอม หรือว่าจะให้ผมเปิดโปงคุณดีล่ะ?”ปรมาจารย์กัวที่ตาตี่จมูกโด่งคนนั้น ดวงตาเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เชิดหน้าขึ้น กล่าวอย่างเหยียดหยาม “ไอ้หนู เธอหมายความว่ายังไง?”“หยกลายโลหิตก้อนนี้ของฉัน เป็นหยกโบราณชั้นยอด เป็นของวิเศษที่ผู้วิเศษท่านหนึ่งทำขึ้น”“คิดว่าทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ก็สัมผัสได้ถึงความไม่ธรรมดาของหยกลายโลหิตก้อนนี้ใช่ไหมล่ะ? ทำไมพอเป็นเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเธอพูด ก็กลายเป็นของปลอมไปได้ซะล่ะ?”“ในเมื่อเธอพยายามจะบอกว่าหยกลายโลหิตก้อนนี้เป็นของวิเศษปลอม ถ้าอย่างนั้นฉันก็อยากเห็นนักว่า เธอจะพิสูจน์ยังไง!”กัวหกนิ้วหรี่ดวงตา สายตาเย็นชาเล็กน้อย เต็ม
ฉู่เฉินไม่สนใจ กล่าวต่อ “ความรู้สึกแบบนี้ เป็นเพียงแค่ค่ายกลฮวงจุ้ยขนาดเล็กที่สร้างขึ้นไว้ในหยกลายโลหิตเท่านั้น ดูดซับพลังวิญญาณของเรือนและในห้องโถง กลายเป็นรัศมีฮวงจุ้ยที่พิเศษแบบหนึ่ง”“เมื่อคนธรรมดาอยู่ท่ามกลางนั้น จะรู้สึกเหมือนว่าร่างกายได้รับพลังวิญญาณ เหมือนว่าอยู่ในแดนสวรรค์”“ปรมาจารย์กัว ผมพูดถูกไหม?”ฉู่เฉินยิ้มจาง ๆ หันไปมองสีหน้าของกัวหกนิ้วที่คร่ำเครียดไปในทันทีก่อนหน้านี้ ฉู่เฉินเองก็เกือบถูกหยกลายโลหิตก้อนนี้หลอกลวงโชคดีที่เขาเปิดเนตรมังกรเพื่อมองทะลุแก่นแท้ เพียงแวบเดียวก็มองเห็นปัญหาภายในจนทะลุปรุโปร่งแล้วปรมาจารย์กัวที่มาจากเซียงเจียงคนนี้ ถือว่าพอมีความสามารถอยู่บ้างแต่ก็เป็นเพียงแค่วิชาลึกลับฮวงจุ้ย เพียงผิวเผินเท่านั้นค่ายกลฮวงจุ้ยประเภทนี้ อย่างมากก็คงอยู่ได้เป็นเวลาหนึ่งวันหลังจากหนึ่งวัน ก็จะเสื่อมลงไปเองหลอกถังจิ้งจือกับหวังคุนเจ้าใหญ่นายโตที่ไม่มีความรู้เรื่องวิชาฮวงจุ้ย และพวกเศรษฐีใหม่ยังพอไหว เมื่อเรื่องแดง คนพวกนี้ก็จะค้นพบว่าถูกหลอก ปรมาจารย์กัวผู้นี้ก็หอบเงินหนีไปไกลแล้วตั้งนานแล้ว“พูดจาเหลวไหล! ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไรเลยสักนิด!”
กัวหกนิ้วสีหน้าบิดเบี้ยว ขมับเต้นตุบ ๆเผาไฟ?ทันทีที่เผาไฟ เรื่องของหลอกลวงของเขาก็ต้องถูกเปิดโปง“ทำไม ปรมาจารย์กัวไม่กล้าใช่ไหม?” ฉู่เฉินถามพร้อมแสยะยิ้มกัวหกนิ้วพ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยาม กล่าว “ไอ้เด็กเมื่อวานซืน พูดจามั่วซั่วไม่คำนึงถึงความจริง! ทำไมถึงต้องเชื่อเธอที่บอกว่าให้เอาไปเผาไฟแล้วต้องทำตาม? ฉันเป็นปรมาจารย์จากเซียงเจียง เป็นบุคคลที่มีหน้ามีตา ทำไมถึงต้องสร้างเรื่องหยกปลอมของวิเศษปลอมอะไรพวกนี้ด้วย?”“ในเมื่อพวกคุณไม่เชื่อ ก็ช่างเถอะ วันนี้ หยกลายโลหิตก้อนนี้ ผมเอากลับไปเองแล้วกัน”ในขณะที่พูด กัวหกนิ้วก็เริ่มเก็บของ เตรียมจะหนีในเวลานี้ เจ้าใหญ่นายโตหลายท่านที่อยู่ในห้องโถง ต่อให้โง่แค่ไหนก็ได้สติกลับคืนมาแล้วนี่คือกำลังจะเตรียมตัวหนีแล้วนี่!“ปรมาจารย์กัว อยากจะไปย่อมได้ แต่เอาของไว้!” ถังจิ้งจือกล่าวเสียงเย็นเยียบกล้ามาหลอกตนถึงที่ รนหาที่ตาย!ในเวลานี้ กัวหกนิ้วเหงื่อแตกเต็มจนหลังเปียกชุ่ม สีหน้าอึมครึมสุดขีดเขาโกรธเกรี้ยว จ้องฉู่เฉินเขม็ง เพลิงโทสะระเบิดอยู่ในใจตนอุตส่าห์แต่งเรื่องราวขึ้นอย่างลำบากลำบน แต่ดันมาถูกไอ้เด็กนี้ทำลายเสียได้...น่ารังเก
ในเวลานี้ กัวหกนิ้วจ้องฉู่เฉินด้วยสายตาดุร้าย ใบหน้าเต็มไปด้วยความชั่วร้าย กล่าว “ไอ้หนู! เธอทำลายเรื่องดีของฉัน วันนี้ ฉันจะเก็บวิญญาณของเธอไว้ในธงหมื่นวิญญาณ ให้เธอไม่ได้ไปผุดไปเกิดตลอดไป!”“ดีเลย แล้วก็ให้มดแมลงอย่างพวกคุณได้เปิดหูเปิดตา ว่าอะไรเรียกว่าของวิเศษที่แท้จริง!”ทันทีที่พูดจบ กัวหกนิ้วยกมือขึ้นแล้วสะบัด ชักธงเล็กหน้าตาแปลกประหลาดสีดำผืนหนึ่งออกมาจากบริเวณเอว สีดำทั้งผืน มีหมอกสีดำที่น่ากลัวพวยพุ่งออกมา ด้านบนยังมีสัญลักษณ์และตัวหนังสือหน้าตาประหลาดต่าง ๆ อยู่บนนั้นอีกด้วย‘วืด!’กัวหกนิ้วสะบัดธงหมื่นวิญญาณ หมอกสีดำก็พวยพุ่งออกมาจากด้านในเสียงดังวืด ๆภายในชั่วพริบตา อุณหภูมิภายในห้องโถง ก็ลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง!ทุกคนรู้สึกหนาวไปทั่วทั้งตัว ราวกับตกลงไปในหุบเขาน้ำแข็งไม่นานนัก ด้านบนของห้องโถงก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำหลายกลุ่มก้อน มองดูน่าขนลุก และน่าหวาดกลัวมาก“ไอ้หนู! ของวิเศษชิ้นนี้เรียกว่าธงหมื่นวิญญาณ สามารถกลืนกินวิญญาณชั่วร้าย และขับไล่ผีได้ทุกประเภท! การที่ถูกของล้ำค่านี้ดูดกลืนเข้าไป ก็จะกลายเป็นผีหุ่นเชิด ก็จะเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจของเธอไปชั่วชีวิต”
อะไรนะ?ทุกคนภายในห้องโถง สายตาจ้องเขม็ง หันไปมองฉู่เฉินพร้อมกับหยุดหายใจไอ้เด็กนี่พูดอะไร?คาถาที่แท้จริง?เขาเป็นคาถาด้วยเหรอ?ขี้โม้ละมั้ง!หวังคุนสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวถามอย่างตื่นเต้น “ปรมาจารย์ซ่ง คุณมีความเห็นว่ายังไง? คนสมควรตายอย่างฉู่เฉิน สามารถต่อกรกับกัวหกนิ้วได้จริงไหมครับ?”ซ่งหรูเซียนหัวเราะอย่างชั่วร้าย สีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “ผู้นำตระกูลหวัง ไอ้เด็กนั่นก็แค่เสแสร้งอยากจะได้ความสนใจจากทุกคนเท่านั้น”“คาถาไล่ผีของปรมาจารย์กัว เป็นคาถามนต์ดำที่มีชื่อเสียงของทางเซียงซี! ไม่มีใครสามารถทำลายได้!” “อีกอย่าง ธงหมื่นวิญญาณในมือของเขา มองแวบเดียวก็ไม่ใช่ของของวิเศษธรรมดา ๆ”“สำหรับไอ้หนุ่มอย่างฉู่เฉิน เป็นเรื่องที่ง่ายดาย”“คอยดูเถอะ อีกไม่นานหรอก ไอ้เด็กนั่นก็จะถูกดูดเข้าไปอยู่ในธงหมื่นวิญญาณ กลายเป็นเลือด!”เมื่อได้ฟังแบบนี้ หวังคุนก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ ยิ้มอย่างเหยียดหยามด้วยสีหน้าดุร้าย“แบบนี้เยี่ยมเลย!”หวังคุนยิ้มชั่วร้ายแน่นอนว่าเขาอยากให้ฉู่เฉินตายจนทนแทบไม่ไหวแล้วไอ้เด็กนี่ กล้าหลอกลวงเขา ก็คือการรนหาที่ตาย!ทางด้านนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดร้าย ก
ฉู่เฉินถามอีกครั้ง “วันนี้ ผมทำลายคาถามนต์ดำของคุณ คุณยอมไหม?”“ยอม! ผมยอมแล้วจริง ๆ!” กัวหกนิ้วโขกหัวพร้อมกล่าวเสียงดัง ตกใจจนตัวสั่นระริกฉู่เฉินถามอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นธงหมื่นวิญญาณผืนนี้ เป็นของผม คุณยอมไหม?”“หา?”กัวหกนิ้วตกใจ แหงนหน้ามอง พบว่าฤทธิ์อัสนีบาตรในดวงตาของฉู่เฉินยังคงหลงเหลืออยู่ ตกใจจนพยักหน้ารัว ๆ “ยอม ๆ ๆ! ธงหมื่นวิญญาณผืนนี้ ถือว่าเป็นค่าชดใช้ของศิษย์ แสดงความกตัญญูต่อปรมาจารย์ฉู่”ฉู่เฉินถึงได้พยักหน้าอย่างพอใจ ยกมือขึ้นโบก ขจัดพลังอัสนีบาตบนตัวออกไปจี้หยกขาวที่ลอยอยู่กลางอากาศ เมื่อเสียการสนับสนุนของคาถาอาคม ก็ตกลงมาอยู่ในมือของฉู่เฉินเขาจ้องมองกัวหกนิ้วที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสายตาเมินเฉย กล่าวเสียงเย็นชา“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นวันนี้จะไว้ชีวิตคุณสักครั้ง! วันหลัง ถ้าหากให้ผมเห็นว่าคุณแอบอ้างชื่อเสียงหลอกชาวบ้านอีก ผมจะทำลายรากเต๋าของคุณ แล้วฆ่าแกทิ้งซะ!”สะอึก!กัวหกนิ้วตกใจจนขนลุกซู่“ครับ ๆ ๆ สิ่งที่ปรมาจารย์ฉู่สั่งสอน ศิษย์จำไว้ขึ้นใจแล้ว” กัวหกนิ้วรีบโขกหัวพร้อมกล่าวเสียงดังจากนั้น เขารีบลุกขึ้น กำลังจะหนี“เดี๋ยวก่อน!”ทันใดนั้น
ซ่งหรูเซียนตกใจจนเข่าแทบทรุด สีหน้าย่ำแย่สุดขีด เขาพูดตะกุกตะกัก “คือว่า คุณหนูใหญ่กู้ เมื่อกี้ผมก็แค่พูดเล่น”“พูดเล่น?”ดวงหน้าเรียวงามของกู้รั่วเสวี่ยแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ปรมาจารย์ซ่ง ถ้าฉันบอกว่าฉันจะทำให้คุณไม่มีที่ยืนในวงการนี้ คุณยังคิดว่าฉันพูดเล่นหรือไม่?”เฮือก!ซ่งหรูเซียนตกใจหน้าซีด ตัวสั่นสะท้านท่าทางของกู้รั่วเสวี่ยไม่เหมือนกำลังพูดเล่นสักนิดหนำซ้ำ อำนาจของตระกูลกู้สามารถเล่นงานเขาได้อย่างง่ายดายพอได้ยินดังนั้นซ่งหรูเซียนก็ตกใจ รีบคุกเข่าบนพื้นดังตุบ โขกศีรษะตะโกนว่า “คุณหนูใหญ่กู้ ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดเมตตา ปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ ถ้ากินต่อไป ผมต้องตายแน่ๆ...”ซ่งหรูเซียนได้สติ รีบหันไปทางฉู่เฉินซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือ รีบโค้งหัวตะโกนว่า “สหายฉู่ ไม่ๆๆ ปรมาจารย์ฉู่ ขอร้องล่ะ โปรดเมตตาปล่อยผมไปสักครั้งเถอะนะ”“นับตั้งแต่วันนี้ ผมซ่งหรูเซียนไม่มีทางเหยียบเข้ามาในเจียงจงอีกแม้แต่ครึ่งก้าว!”“หากที่ใดมีปรมาจารย์ฉู่อยู่ ผมซ่งหรูเซียนจะถอยห่างสิบลี้!”ฉู่เฉินยิ้มเยาะ ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ขออภัย ผมเป็นคนที่ถือคติหากมีเหตุผลมากพอก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครหน้าไหน
“ฉันก็เลยรีบสิ่งออกมาโทรหาคุณ แต่ว่า...แต่ว่าโดนลูกน้องคนหนึ่งของเขาได้ยินเข้าก็เลยแย่งโทรศัพท์ของฉันไป ถะ...แถมยังคิดจะลวนลามฉันด้วย...”อะไรนะ?!ฉู่เฉินหรี่ตาแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “คนที่พยายามลวนลามพี่เมื่อกี้อยู่ที่ไหนครับ?”“แล้วคุณชายใหญ่อู่อะไรนั่นอยู่ที่ไหนครับ?” ต้าหลิงจื่อรีบพูดว่า “อยู่ในห้องประชุมชั้นสิบสาม คุณตามฉันค่ะ” ต้าหลิงจื่อพูดพลางรีบจับมือฉู่เฉินไว้ ก่อนจะวิ่งไปทางชั้นสิบสามเพิ่งจะเลี้ยวผ่านมุมบันไดก็มีเสียงทะเลาะวิวาทดังมาจากทางห้องประชุม “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว ผมแนะนำว่าทางที่ดีคุณควรรู้จักปรับตัวไปตามสถานการณ์หน่อยนะครับ เงินก้อนนี้ธนาคารของเราสามารถเร่งทวงได้ และก็ชะลอได้ แต่เท่าที่ผมรู้มา สถานการณ์ของฉู่ซื่อกรุ๊ปในตอนนี้ เกรงว่าเวลานี้ของปีหน้าก็คงเอาเงินสองพันห้าร้อยล้านออกมาไม่ได้แล้วละมั้ง?”“อันที่จริงข้อเสนอของผมก็ไม่ได้เกินไปเลยสักนิด ขอเพียงคุณนอนกับผมแค่คืนเดียว แล้วให้ประธานหลิ่วอยู่เป็นเพื่อนพ่อของผมให้ดี เงินบริษัทพวกคุณแค่นี้จะถือเป็นอะไรได้ ให้พวกคุณก็ไม่เป็นไร”“หนึ่งเดือนได้สองพันห้าร้อยล้าน ร่างกายของคุณมีค่ามากเลยนะ” หลังจากเสียงพ
“นี่พอไหวอยู่”ดวงหน้าเล็กของอวี้ลู่ยิ้มแย้มด้วยความดีใจ ก่อนจะผลักแขนของฉู่เฉินที่ขวางอยู่ตรงหน้าอกออก แล้วหยิบกระดาษปากกาขึ้นมาเขียนสูตรยาก่อนยื่นให้กับฉู่เฉิน “นี่คือสูตรโอสถสุคนธ์ มีเฉพาะในเหยา...เอ่อสำนักศักดิ์สิทธิ์ของเรา”“ไม่เพียงสามารถขจัดกลิ่นคาวเลือดบนตัวเขา ยังสามารถเปิดสติปัญญาเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณ ถ้ากินไปนาน ๆ ก็ได้ผลดีอย่างน่าทึ่งด้วย”โอ้โห!อวี้ลู่ยังคงเป็นโฉมงามหนึ่งยิ้มล่มบ้านเมืองจริง ๆฉู่เฉินมองจนเคลิ้มไปเล็กน้อย แทบจะอดไม่ไหว อวี้ลู่ยิ้มอย่างงดงาม ทำให้ชูเฉินมองจนเคลิ้ม เกือบจะเผลอจับเธอให้โผเข้าใส่อ้อมอก “เจ้ามองอะไรน่ะ?”วินาทีต่อมา อวี้ลู่เองก็สังเกตเห็นสายตาที่ดูผิดปกติของฉู่เฉินแล้วเช่นกัน เธอจึงรีบใช้แขนบังหน้าอกขาวเนียนไว้แล้วมองฉู่เฉินอย่างระแวดระวัง “ไม่มีอะไรครับ ตอนเช้าอากาศเย็น ผมกลัวพี่จะเป็นหวัด”ฉู่เฉินยิ้มเจ้าเล่ห์พลางหอมแก้มของอวี้ลู่ทีหนึ่ง“เจ้าทำอะไร!”อวี้ลู่ลุกพรวดขึ้นมา ดวงตางามเปล่งประกายความเย็นชา!“พี่จะดุขนาดนี้ทำไม? นี่เป็นธรรมเนียมสากลไม่รู้เหรอ?”ฉู่เฉินพูดพลางค้นโทรศัพท์มือถือหาคลิปวิดีโอออกมาหลายอันแล้วพูดว่า “ไม่เ
“เปล่าครับ หัวหน้าใหญ่ถานดูเอาเองเถอะครับ”ฉู่เฉินกล่าวจบก็ถ่ายรูปส่งให้ถานเฟยชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่ถานเฟยก็อึ้งเซ่อซ่าไปแล้วศีรษะที่อยู่บนพื้นยังกินไม่เสร็จนั้น เขามองแวบเดียวก็จำได้ว่าเป็นปี้คุน เพียงแต่ว่าปี้คุนในตอนนี้ดูน่าเวทนาเล็กน้อย ทั่วทั้งร่างเหลือเพียงเศษเนื้อไม่กี่ชิ้นเท่านั้น “โอเคครับ ขอบคุณคุณฉู่นะครับ ถ้าเกิดกวาดล้างสำนักว่านเซี๋ยแล้ว ผมจะรายงานกับทางเบื้องบนขอความดีความชอบให้คุณฉู่แน่นอนครับ” ถานเฟยกล่าวจบก็วางสายโทรศัพท์ ฉู่เฉินกวาดตามองผีดิบเลือดคลั่งที่ยังคงกินอาหารอยู่ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งในรถดวงหน้าเล็กของกู้รั่วเสวี่ยซีดเผือด เอาเสื้อปิดหน้าอกไว้ มองฉู่เฉินพลางกล่าวว่า “มะ...ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมคะ?” ฉู่เฉินฉีกยิ้มกล่าวว่า “ไม่มีอะไรแล้ว น้องชายกินข้าวน่ะ พวกเราเองก็อย่าอยู่ว่าง ๆ เลย”“หา?” กู้รั่วเสวี่ยยังไม่ทันมองไปนอกหน้าต่างรถ ก็ถูกฉู่เฉินกดไว้ใต้ร่าง.....เมื่อฉู่เฉินกลับถึงบ้านเก่าของตระกูลฉู่ ก็เป็นเวลาเช้าวันถัดมาแล้วกู้รั่วเสวี่ยประคองร่างกายที่เหนื่อยล้าส่งฉู่เฉินที่หน้าประตูบ้านเก่าของตระกูลฉู่ ก่อนจะกลับไปพักผ่อนเหมือนกับหนีไปเธอ
“พอแค่นี้เหรอ”ฉู่เฉินแสยะยิ้ม ย่อตัวลงมา มองปี้คุนที่มีเลือดเต็มตัวอย่างพิจารณาแล้วพูดว่า “ผมจำได้ว่าเมื่อกี้คุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา ผมชอบท่าทางหัวแข็งดื้อรั้นของคุณนะ” ปี้คุนรู้สึกข่มขื่นใจ ถ้ารู้แต่แรกแล้วว่าฉู่เฉินยังมีไม้เด็ดที่สุดยอดขนาดนี้อยู่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงไม่ถ่อสังขารมาส่งตัวเองให้ถึงที่ตายหรอก“ผมถามคุณว่าตอนนี้คนของสำนักว่านเซี๋ยซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?” สีหน้าของฉู่เฉินพลันเย็นชาขึ้นมา จ้องมองปี้คุนด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยจิตสังหารเขาไม่มีวันลืมภาพถ่ายพวกนั้นที่ถานเฟยให้เขาดูบนเฮลิคอปเตอร์ฉู่เฉินปล่อยหลี่ว์เจิ้งหยาง เป็นเพราะว่าฉู่เฉินขี้เกียจจะสนใจตัวตลกแบบนั้น มันเหมือนเขาบดขยี้ตัวเรือด ไม่มีความหมายเลยแม้แต่น้อยแต่ปี้คุนไม่ใช่แบบนั้น!ในเมื่อหลี่ว์เจิ้งหยางเรียกเจ้าสำนักปี้ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นได้อย่างยิ่งว่าปี้คุนก็คือเจ้าสำนักว่านเซี๋ยถึงอย่างไรเขาน่าจะรู้ที่ซ่อนตัวพวกคนของสำนักว่านเซี๋ยที่เหลืออยู่เป็นอย่างดี“พี่ฉู่ ผมไม่รู้จริง ๆ นับตั้งแต่ที่โดนคนของแก๊งมังกรจับตามองครั้งก่อนก็แทบจะกวาดล้างสำนักว่านเซี๋ย พวกเราก็หนีไปกันค
เมื่อสิ้นเสียงคำพูด สีหน้าของปี้คุนเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง ก่อนจะสะบัดฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้ง ทันทีที่ลมบนฝ่ามือของเขาถูกผลักออกไป พื้นที่รอบๆ ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง“โครม!”วินาทีถัดมา สองฝ่ามือปะทะกัน เกิดคลื่นพลังสีขาวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แผ่กระจายออกไปในอากาศอย่างรุนแรงทว่า สิ่งที่ปี้คุนจินตนาการไว้ว่าร่างของชายร่างซูบผอมถูกกระแทกจนกระเด็นไปไกลกลับไม่เกิดขึ้น ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกว่าฝ่ามือของตัวเองเหมือนตบลงบนภูเขาหิน แข็งจนถูกแรงสะท้อนทำให้เซถอยไปหลายก้าว ซี้ดๆ !ปี้คุนถึงกับหน้าถอดสีด้วยความตกตะลึง! “ฟู่!”แต่ยังไม่ทันที่เขาจะตั้งตัวได้ ฝ่ามือผอมแห้งที่ดำคล้ำก็ตบลงมาอีกครั้งเมื่อเห็นดังนั้น ฉู่เฉินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหมุนตัวกลับมาพร้อมไขว้มือไว้ด้านหลัง เดินก้าวเข้าหาหลี่ว์เจิ้งหยางทีละก้าว“หืม?”ในตอนนี้หลี่เจิ้งหยางเองก็เริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ ดูเหมือนว่าปี้คุนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายผอมแห้งคนนั้นเลยสักนิด กลับเป็นฝ่ายที่ถูกกดดันเสียเอง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?เพียะ!ยังไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรออก ฝ่ามือของฉู่เฉินก็ฟาดเข้ามาเสียแล้
“ไม่ต้องกลัวนะ มีผมอยู่นี่ทั้งคน เดี๋ยวคุณคอยอยู่ในรถไว้ อย่าหนีไปไหนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”พูดจบฉู่เฉินก็หยิบกางเกงตัวใหญ่ขึ้นมาใส่ ก่อนจะเปิดประตูรถและกระโดดลงไปเขามองปี้คุนที่ใบหน้าอึมครึม และมองไปยังหลี่ว์เจิ้งหยางที่ดูเหมือนจะหน้าแดงผิดปกติ เจ้าหมอนี่น่าจะไปกินอะไรที่ไม่ควรกินมา ดูจากสีหน้าแล้วอีกไม่นานคงมีต้นไม้สักต้นต้องโชคร้ายอีกแล้ว“อะไรกัน ยังไม่พอใจกับเข็มฝนลูกแพร์ที่เจอครั้งที่แล้วเหรอ?”ขณะพูดฉู่เฉินมองไปรอบๆ และชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ในระยะไกล ก่อนจะหันไปพูดกับหลี่ว์เจิ้งหยาง “ความสุขของคุณอยู่ตรงนั้น”“ความสุขบ้าอะไร!”หลี่ว์เจิ้งหยางกัดฟันกรอด ก่อนจะดึงกระบี่ยาวออกจากหลังเสียงดังเคร้งแต่ปี้คุนเคยบอกเขาว่าฉู่เฉินตอนนี้เป็นยอดฝีมือในระยะสร้างรากฐานขั้นหนึ่งแล้ว หลี่ว์เจิ้งหยางก็ไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะทุ่มพลังทั้งหมดออกไปดังนั้นเขาจึงแค่ถือกระบี่ยาวไว้ในมือและเดินวนรอบๆ ฉู่เฉินไม่กล้าเข้าไปโจมตีฉู่เฉินมองเขาด้วยสายตาดูถูก ก่อนจะหันไปมองปี้คุน และขมวดคิ้วถามว่า “ตระกูลหลี่จากเมืองหมอตูส่งคุณมาใช่ไหม?”ปี้คุนส่งเสียงหึอย่างเย็นชา ก่อนจะยืนไขว้มือไว้ด
โดยเฉพาะชุดซีทรูแขนสั้นนั้นที่พลิ้วตามการเคลื่อนไหวของเธอ ให้ความรู้สึกวับ ๆ แวม ๆ ยั่วยวนมากจริงๆ“นี่มันเรื่องเข้าใจผิดนะครับ คุณหนูเกาก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเธออยากจะขอความช่วยเหลือจากผม”ฉู่เฉินพูดไปด้วย ใช้หลังมือสัมผัสที่ขาที่เนียนนุ่มและสวยของกู้รั่วเสวี่ยไปด้วย พอไม่มีถุงน่องซีทรูสีดำแล้ว ความรู้สึกไม่เหมือนกันจริงๆช่วงนี้ผิวของกู้รั่วเสวี่ยดีขึ้นเรื่อยๆ น่าจะเป็นเพราะร่างของเขามีประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงผิว“หึ ใครจะไปรู้ว่าช่วยไปช่วยมาอาจจะไปช่วยบนเตียงก็ได้!”ระหว่างที่พูด กู้รั่วเสวี่ยก็ปัดมือใหญ่ของฉู่เฉินออกไป หลังจากนั้นเธอก็สตาร์ตรถมุ่งหน้าไปยังเจียงจง“มีเหตุผล ฮวงจุ้ยบนเตียงดีถึงจะต่อได้เรื่อย ๆ ยังไงละครับ”ฉู่เฉินยิ้มอย่างร้ายกาจแล้วพูดขึ้นมา“อะไรนะคะ?”กู้รั่วเสวี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ นี่มันเป็นการเตรียมตัวขึ้นเตียงดีๆ นี่เอง“หึ! ช่วยนักใช่ไหม!”ระหว่างที่พูด กู้รั่วเสวี่ยก็จอดรถที่ข้างทางทางด่วน หลังจากนั้นก็พลิกตัวขึ้นคร่อมบนร่างฉู่เฉินจากนั้นกู้รั่วเสวี่ยก็ร้อนแรงไม่หยุดหย่อน ทำเอาฉู่เฉินนั่งตัวตรงโดยอัตโนมัติ เขาหัวเราะอย่างเขินอาย “ลูกสาวตระกูลมหาเศ
“อ่ะแฮ่ม!”เกาหมิงทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว กู้รั่วเสวี่ยยังนั่งดูอยู่ข้างๆ อยู่เลย ลูกสาวของเขาตัวจะติดฉู่เฉินอยู่แล้ว นี่มันใช้ได้ที่ไหน!“เอ่อ... ผู้ว่าการพูดก่อนเลยครับ ผม... ไม่สะดวก...”ฉู่เฉินกลืนน้ำลาย เขาที่อยู่ห่างจากเกาอวี้หลิงตั้งไกลก็สามารถมองเห็นร่องขาวลึกของเกาอวี้หลิงได้โดยเฉพาะก้อนกลมที่อวบอิ่มนั่น แค่มองก็รู้แล้วว่านุ่มมากๆ ยั่วเขาต่อหน้าเกาหมิงหลายแบบนี้มันจะดีเหรอ?ที่สำคัญคือสีหน้าของกู้รั่วเสวี่ยเห็นได้ชัดว่าไม่ปกติแล้วด้านหนึ่งมีกลิ่นหอมพัดมากระทบหน้า อีกด้านหนึ่งคือความเย็นยะเยือกที่แผ่เข้ามา ฉู่เฉินรับมือไหวจริงๆ“มีอะไรที่ไม่สะดวกกัน พวกคุณ... ระหว่างพวกคุณ...”“อ่ะแฮ่ม!”เกาหมิงหลายยอมใจลูกสาวของตัวเองจริงๆเขากระแอมออกมาดังๆ อีกครั้ง หลังจากนั้นก็เล่าเรื่องที่ฉู่เฉินกำราบผีดิบเลือดคลั่งได้ให้ฟังอีกครั้ง“ว้าว!”เกาอวี้หลิงเมื่อฟังจบ แววตาที่เคารพก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อมือเล็กๆ ทั้งสองของเธอประสานกันที่หน้าอก ความอิ่มเอิบทั้งสองข้างยิ่งดูโดดเด่น กลมกลึง และใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกู้รั่วเสวี่ยเหลือบมองฉู่เฉิน เมื่อเห็นว่าสายตาของเขาแทบจะหลุดไปตร
เธอไม่ด่าออกไปนั่นก็ถือว่ามีมารยาทมากพอแล้วกู้รั่วเสวี่ยตอนนี้ก็ใบหน้าขาวซีดเธอมองไปที่ลูกน้องของฉู่เฉินคนนั้น เขาก็ทำอะไรไม่คิดนี่บ้านของผู้ว่าการเชียวนะ คิดจะทุบก็ทุบเลยได้ยังไง เขาเอาความกล้ามาจากไหน?พูดจริงๆ นะ เมื่อเห็นภาพเล่านี้ฉู่เฉินก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันทีถ้าเขาลงมือเองแม้ว่าจะยุ่งยากไปหน่อย แต่ก็คงไม่ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้มุมปากของเกาหมิงหลายก็กระตุกเล็กน้อย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอึดอัดเขาไม่ได้เสียดายกระถางต้นไม้นั้นหรอก แต่เขาเสียดายอาหาร และซุปต่างๆ ที่หกเต็มพื้น“วันนี้คุณจะต้องให้คำตอบกับฉัน!”เกาอวี้หลิงเห็นว่าชายหนุ่มร้างซูบผอมยังคงยืนอยู่ที่นั่นอย่างงงงวย ราวกับว่าไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เธอยิ่งโมโหมากยิ่งขึ้น ยื่นมือเข้าไปคว้าคอเสื้อของผีดิบเลือดคลั่งไว้ ไม่ว่าเธอจะขยับเขาแรงแค่ไหนก็ตาม ฝ่ายตรงเขาก็เหมือนไม่ได้สติ ยืนแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แม้แต่มองเธอก็ยังไม่มองเลยท่าทางแบบนี้ของเขามันยิ่งทำให้เธอโมโหทำให้เกาอวี้หลิงโกรธจนจะบ้าคลั่งอยู่แล้วถึงว่าจะไม่ขอโทษ เกาอวี้หลิงก็จะไม่โกรธขนาดนี้ฉู่เฉินสีหน้าเคร่งขรึม พูดขึ้นมาอ