อีกด้านหนึ่ง แพทย์สภาเจียงจง ห้องทำงานของฝ่ายบริหารการตลาดยังคงเปิดไฟไว้สว่างหญิงวัยกลางคน อายุราวๆ สามสิบเอ็ดถึงสามสิบสองปี สวมเครื่องแบบสีขาวและปล่อยผมยาวคลุมไหล่ กำลังอ่านเอกสารเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนบริษัทซินฉู่ฟาร์มาติคอลในมืออย่างตั้งใจเธอคือเจียงอิ่ง หัวหน้าฝ่ายสาวสวยผู้มีชื่อเสียงแห่งแพทย์สภาเจียงจงวันนี้ตอนบ่ายเธอได้รับสายจากหลี่จวิ้นเฟิง ขอร้องให้เธอช่วยปรับปรุงบริษัทใหม่ที่ชื่อว่าซินฉู่ฟาร์มาติคอลตอนแรกเจียงอิ่งไม่อยากจะตอบตกลงสักเท่าไหร่แต่ว่าเธอติดหนี้บุญคุณหลี่จวิ้นเฟิงไว้ หากไม่ใช่เพราะเขา โรคข้อเข่าเสื่อมของเธอก็คงจะก่อกวนเธอจนถึงตอนนี้พอลองพิจารณาดูแล้ว เจียงอิ่งจึงทำได้แค่พยักหน้าตอบรับแต่ถึงอย่างไร เธอก็เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย และไม่สามารถแทรกแซงองค์กรที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายของโดยไม่มีเหตุผล ดังนั้นเธอจึงได้รับเอกสารทั้งหมดจากซินฉู่ฟาร์มาติคอลมา“ซู๊ด”เจียงอิ่งหันศีรษะเล็กน้อยแล้วกัดหลอดชานมเข้าไปอย่างจัง พร้อมทั้งให้รางวัลตัวเองด้วยการจิบชานมที่ทั้งหวานและอร่อยเพียงแต่ว่าการกระทำที่แสนธรรมดาของเธอนี้ กลับทำให้เหล่าเพื่อนร่วมงานที่กำลังเดินผ่
ประตูรถถูกเปิดออก หญิงสาวรูปร่างเพรียวบางในชุดเครื่องแบบสีขาวราวกับหิมะและหมวกสีขาวใบเล็ก ผิวของเธอขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะ กล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชาชายที่อยู่ข้างหลังเธอว่า “ปิดอาคารทำงานของบริษัทซินฉู่ฟาร์มาติคอลให้หมด!”หลังจากที่เธอพูดจบ คนจำนวนนับสิบคนในชุดเครื่องแบบสีขาวรุมกันวิ่งเข้าไปในห้องโถงของอาคารผ่านไปไม่นาน เขตอาคารทำงานของซินฉู่ฟาร์มาติคอลทั้งหมดก็ถูกเหล่าคนในชุดเครื่องแบบสีขาวล้อมไว้“พวกคุณจะทำอะไร? มีสิทธิ์อะไรมาปิดห้องทำงานของพวกเรา!”กวนเหล่ยที่พึ่งเลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยประธานได้ไม่นานก็ออกโรงก่อนเป็นคนแรก หน้าอกที่อวบอั๋น ถามขึ้นมาด้วยความมั่นใจเจียงอิ่งเอามือทั้งสองข้างไพล่หลังไว้ เจียงอิงสวมรองเท้าหนังสีดำและเดินอย่างช้าๆ ท่ามกลางฝูงชนและมองไปที่กวนเหล่ยแล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันมีเหตุผลที่จะสงสัยว่าบริษัทของพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน!”“ดังนั้นการปิดกั้นอาคารสำนักงานของบริษัทของพวกคุณเพื่อการตรวจสอบตามปกติจึงถือเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายค่ะ”“อีกอย่างแจ้งให้เจ้านายของบริษัทพวกคุณด้วยนะคะว่าภายในครึ่งชั่วโมงให้รีบมายังห้องประชุมของบริษัท ไม่อย่างนั้นหากตราประ
ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง เขาก็ผละตัวออกมาจากกู้รั่วเสวี่ยกู้รั่วเสวี่ยสัมผัสได้ว่าข้างกายของเธอว่างเปล่า เธอจึงขมวดคิ้วถามขึ้นมาว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?”ฉู่เฉินส่งเสียงพึมพำในลำคอ พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่เจียงอิ่งพาคนมาปิดซินฉู่ฟาร์มาติคอลให้เธอฟังอีกครั้ง“อะไรนะคะ? ปิดล้อมเหรอคะ?”กู้รั่วเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว หลังจากนั้นเธอก็ยื่นมือเข้าไปรั้งฉู่เฉินแล้วเอ่ยว่า “พี่อย่าหุนหันไปนะคะ ตอนนี้กิจการเดียวที่ซินฉู่ฟาร์มาติคอลมีก็คือยาบำรุงปราณนะคะ”“พี่เคยยื่นเรื่องขอใบอนุญาตจำหน่ายแล้วหรือยังคะ?ยาใหม่ทุกตัวต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการขึ้นทะเบียนและจำหน่ายอย่างเคร่งครัด ขั้นแรกต้องมีรายงานการทดลองทางการแพทย์ และใบอนุญาตจำหน่ายสองสิ่งนี้ขาดไม่ได้แม้ว่าใบอนุญาตจะมีโจวเทียนเฟิ่งจัดการให้แล้ว แต่ในมือของฉู่เฉินไม่มีรายงานการทดลองทางการแพทย์นี่เป็นจุดที่ฉู่เฉินจะโดนเล่นงาน“ใบอนุญาตอะไรก็ช่างมัน ใครหน้าไหนที่กล้ามาปิดบริษัทของผม คนคนนั้นก็โชคร้ายอย่างแรงแล้วล่ะ!”พูดจบฉู่เฉินก็สวมเสื้อผ้า รีบออกไปจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ เขารีบขับรถมุ่งตรงไปยังอาคารทำงานของซินฉู่ฟาร์มาติคอลกู้รั่ว
การที่จะรับมือกับผู้หญิงสวยที่ดูถูกผู้อื่นเช่นนี้ เราต้องทำลายจิตวิญญาณของเธอให้สิ้นซากไม่อย่างนั้นไม่อย่างนั้นเธอก็คงชูคอไม่เลิกใช่ไหมล่ะ?แม้ว่าฉู่เฉินจะชอบมุมนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะระงับความเย่อหยิ่งของเธอจนหมดสิ้น เราต้องไม่ปล่อยให้เธอคิดชูคอไปมากกว่านี้เจียงอิ่งชี้ไปที่ป้ายชื่อของเธอซึ่งอยู่บนหน้าอกซึ่งเกือบจะเป็นมุมเก้าสิบองศา และพูดว่า “อ่านไม่ออกเหรอ? ฝ่ายบริหารการตลาดแพทย์สภาเจียงจง!”ฉู่เฉินก้าวเดินไปข้างหน้า มองไปที่ป้ายบนหน้าอกของเธอมันแน่นมาก!เธอเอาผ้าปิดตัวเธอไว้แน่นเกินไป จนกระทั่งมองไม่เห็นแม้แต่ร่องอกของเธอเลย“มองอะไร!”เจียงอิ่งก็สามารถสัมผัสได้ถึงสายตาของฉู่เฉินได้ทันที“เจียงอิ่ง ชื่อเพราะดีนะครับ”ฉู่เฉินยิ้มอย่างใจเย็น ยกศีรษะขึ้นช้าๆ และมองตรงเข้าไปในดวงตาของเจียงอิ่งแล้วพูดว่า “อย่างไรก็ตาม หากจะสั่งปิดบริษัทของผม ก็คงไม่ใช่คุณที่จะออกคำสั่งใช่ไหมครับ?”“ถ้าผมจำไม่ผิด หากไม่มีหมายสั่งปิดมาจากกรมตำรวจ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ปิดบริษัทผม”ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อยกขึ้น ยิ้มอย่างยโส “ฉันเตรียมพร้อมไว้นานแล้ว”หลังจากนั้นเจียงอิ่งก็นำมือที่อยู่ไพล่หลังอ
กายาหงส์หยกเหมันต์ถือเป็นลักษณะร่างกายชั้นสูงติดสามสิบอันดับแรก นอกจากนี้ ผู้หญิงคนใดก็ตามที่มีลักษณะร่างกายอย่างนี้ ภายนอกจะดูเย็นชาดุจภูเขาน้ำแข็ง ภายในร้อนแรงดุจภูเขาไฟฉู่เฉินท่องจำส่วนที่สำคัญที่สุดของคัมภีร์ที่ได้รับสืบทอดมาจากมังกรเฒ่าได้อย่างขึ้นใจแต่แรกแล้ว ซึ่งส่วนสำคัญที่ว่านั้นก็คือรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะร่างกายรูปแบบต่างๆ นั่นเองไม่รู้ว่ามังกรเฒ่ามีสัมพันธ์กับผู้หญิงไปมากมายขนาดไหนแล้ว ถึงได้รู้เรื่องลักษณะร่างกายทั้งภายในและภายนอกรูปแบบต่างๆ อย่างละเอียดขนาดนี้“เมื่อกี้คุณว่าไงนะ!”สีหน้าของเจียงอิ่งเคร่งขรึมขึ้นมาทันที“ผมบอกว่าถุงใต้ตา ไม่ได้สบถคำหยาบ”ฉู่เฉินกลอกตาใส่เจียงอิ่ง สาวเดินเข้าไปในห้องประชุม จากนั้นก็ตรงไปนั่งตำแหน่งสูงสุดที่อยู่ปลายโต๊ะเจียงอิ่งเอือมระอาฉู่เฉินคนนี้ใช้แค่คำว่า ‘เหลือทน’ มาบรรยายก็ยังไม่พอตั้งแต่เจอกันจนถึงตอนนี้ เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ฉู่เฉินเอาความมั่นใจมาจากไหน เขาไม่แตกตื่นลนลานไม่พอ ยังพูดจาท้าทายซ้ำแล้วซ้ำเล่า“เหอะ!”เจียงอิ่งแค่นเสียง รอถึงตอนที่ตรวจสอบและสั่งปิดบริษัทของนายก่อนเถอะ จะคอยดูว่ายังอวดดีแบบนี้ได้อยู่อีกร
เจียงอิ่งลุกขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือเรียวขาวไปทางเจียงเหวินป๋อเจียงเหวินป๋อเองก็ไม่นึกว่าวันนี้คนที่รับผิดชอบคดีจะเป็นสาวงามน้ำแข็งพันปีผู้ขึ้นชื่อแห่งสภาแพทย์ ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมา รีบดึงสติและจับมือของเจียงอิ่งอย่างกระตือรือร้นจนกระทั่งผ่านไปสามวินาที เจียงอิ่งขมวดคิ้วบอกว่า “อธิบดีเจียง คุณบีบมือแรงจนฉันเจ็บแล้วนะคะ”“อ้อ… โธ่เอ๋ย ดูผมสิ เสียมารยาทแล้วๆ”เจียงเหวินป๋อปล่อยมือเล็กนิ่มที่เย็นเฉียบของเจียงอิ่งอย่างอาลัยอาวรณ์ พลางกลืนน้ำลาย ก่อนจะหันไปมองฉู่เฉินที่นั่งตำแหน่งสูงสุดเวลานี้ ฉู่เฉินกำลังจ้องเจียงเหวินป๋อด้วยรอยยิ้มมีเลศนัยครั้นสบสายตากัน เจียงเหวินป๋อนัยน์ตาหดเล็กลง ใบหน้าสูงวัยกระตุกเล็กน้อยแม่งเอ๊ย เมืองเจียงจงจะแคบเกินไปแล้วมั้ง?ทำไมเจอไอ้ตัวซวยนี่อีกแล้ว!เจียงเหวินป๋อฝืนฉีกยิ้มให้ฉู่เฉิน “โอ้ นี่คุณฉู่ไม่ใช่เหรอ? นะ…นี่มันเรื่องอะไรกันครับ?”พอเห็นเจียงเหวินป๋อก้มหัวลดตัวทันทีที่เห็นฉู่เฉิน แววตาของเจียงอิ่งฉายแววสงสัยนี่มันอะไรกัน?เจียงเหวินป๋อรู้จักฉู่เฉินด้วยเหรอ หนำซ้ำยังดูเหมือนกลัวเขามากอย่างนั้นแหละ?“ไม่มีอะไร เจ้าหน้าที่เจียงไม่ค่อยถูก
แต่พริบตาต่อมา สีหน้าของเจียงอิ่งก็กลับมาเป็นปกติ เธอจ้องพิจารณาฉู่เฉินด้วยสายตาเย็นชา “ประธานฉู่ ไม่ต้องมาประกาศแวดวงเพื่อนของคุณให้ฉันรู้จักหรอกนะคะ”“แม้ฟางอวี่เจิ้งจะมาเอง ฉันก็จะทำตามเดิมไม่เปลี่ยน”ด้วยเส้นสายของครอบครัวสามีเธอ ฟางอวี่เจิ้งคนเดียวยังพอเอาชนะได้อยู่เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องที่ผู้มีพระคุณไหว้วานมา แม้ต้องใช้เส้นสายจากครอบครัวสามี เจียงอิ่งก็ต้องจัดการฉู่เฉินให้ได้ไม่อย่างนั้น เธอจะอธิบายกับผู้มีพระคุณยังไงล่ะ?นึกมาถึงตรงนี้ เจียงอิ่งควงโทรศัพท์เล่น เหมือนกำลังรอให้ฉู่เฉินโทรหาฟางอวี่เจิ้ง จากนั้นเธอก็จะโจมตีเขาแรงๆ ทำให้เขาสิ้นหวัง“แหม วางมาดได้เนียนมาก”ฉู่เฉินยกนิ้วโป้งให้เจียงอิ่ง“คุณฉู่ พูดอะไรของคุณ คนอื่นเขาไม่จำเป็นต้องวางมาดหรอกนะ”จ้าวเจวียนพูดจบ ใบหน้าเล็กๆ ของจ้าวอิ่งแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาดุจน้ำแข็งทันที เธอตวัดสายตามองจ้าวเจวียนยัยคนนี้ชาติก่อนเป็นช่างก่อปูนรึไงนะ?ถึงได้วิ่งมาพูดแทรกอุดรูโหว่อยู่ตรงนี้?ในตอนนี้เอง จู่ๆ โทรศัพท์ของฉู่เฉินก็ดังขึ้นก้มหน้ามองหน้าจอ ฉู่เฉินก็ยิ้มบาง “พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา โทรศัพท์จากฟางอวี่เจิ้ง ถ้าไงคุณ
ฟางอวี่เจิ้งหัวเราะหยัน ก่อนเอ่ยว่า “เจียงอิ่ง สามีของคุณมีเส้นสายกับผู้ว่าการเฉียวก็จริง แต่ปัญหาก็คือ ผู้เฒ่าในบ้านของผู้ว่าการเฉียวป่วยหนักอยู่”“ผมรายงานผู้ว่าการเฉียวไปแล้ว ว่าได้หาหมอมีชื่อคนหนึ่งให้เขา และหมอชื่อดังคนนี้ก็คือฉู่เฉิน”อะไรนะ?เจียงอิ่งได้ยินก็ตะลึงงันฉู่เฉินมีวิชาแพทย์ด้วยเหรอ?เจียงอิ่งยังไม่ทันได้สติ ฟางอวี่เจิ้งก็แค่นหัวเราะและเอ่ยต่อว่า “ความสามารถด้านการแพทย์ของหมอเทวดาฉู่ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวที่เป็นพยานได้”“ท่านผู้อาวุโสจิ่วฮว่าหยาง ยังมีหมอเทวดาซุนแห่งเมืองเจียงจงของเรา รวมถึงศาสตราจารย์เฝิง ศาสตราจารย์จาง และศาสตราจารย์หลินแห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์ระดับมณฑล ต่างก็ชื่นชมความสามารถด้านการแพทย์ของหมอเทวดาฉู่ไม่ขาดปาก”“ลองคิดดูสิ ถ้าหมอเทวดาฉู่รักษาผู้เฒ่าในบ้านของผู้ว่าการเฉียวหายได้จริง คุณจะมีจุดจบยังไง?”“อีกอย่าง เรื่องที่สามีของคุณจะเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าเลขาฯ ผู้ว่าการ รวมถึงโครงการซ่อมแซมสะพานเมืองที่ครอบครัวสามีของคุณตั้งความหวังไว้ ถ้าหากต้องพลาดโอกาสทั้งหมดนั้นไปเพราะการกระทำของคุณ ไม่รู้ว่าตำแหน่งของคุณในบ้านสามีจะเป็นยังไง…”“ผมพูดแค่นี้ล