ในอีกด้านหนึ่ง จ้าวคังขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางกระสับกระส่ายของพ่อบ้าน หลิงเอ๋อร์ไม่สบายเหรอ?จ้าวคังอาศัยจังหวะที่พ่อบ้านไม่ทันสังเกต แอบลุกขึ้นเดินไปที่ประตูด้านหลังของห้องรับแขก เขาดันประตูออกเบาๆ และเดินมาที่เรือนหลังแต่เพิ่งจะเดินมาถึงเรือนหลัง เสียงกระแทกเป็นจังหวะแปลกๆ ก็ดังมาเข้าหูหืม?!จ้าวคังสะดุ้ง ทำไมเสียงนี้ฟังดูคุ้นหูจัง เหมือนฉากในหนังสั้นที่เขาเคยดูสมัยอยู่หอพักช่วงมหาลัยอย่างไรอย่างนึกมาถึงตรงนี้ หัวใจของจ้าวคังหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม!เขาสาวเท้าเดินไปที่ประตูเรือนของจินหลิงเอ๋อร์โดยจิตใต้สำนึก ก่อนจะแนบหูเข้ากับประตูเรือน เงี่ยหูฟังเสียงความเคลื่อนไหวจากด้านในเฮือก!ไม่ฟังยังดีซะกว่า พอได้ยินเสียงข้างใน จ้าวคังรู้สึกเหมือนเขาบนหัวงอกยาวขึ้นมาในพริบตาไฟโทสะพุ่งปรี๊ดจากเท้าขึ้นมาถึงบนหน้าผาก!พ่อลูกตระกูลจิน ทำกันเกินไปแล้ว!ถึงแม้ตระกูลจินไม่อยากดองกับตระกูลจ้าว ก็ไม่จำเป็นต้องหมิ่นเกียรติกันขนาดนี้!นึกมาถึงตรงนี้ จ้าวคังยกเท้าขึ้นถีบประตูเรือนเต็มแรง!โครม!เสียงบานประตูกระแทกเข้ากับกำแพงดังขึ้น พ่อบ้านที่กำลังร้อนใจเหมือนมดที่อยู่บนปากหม้อร้อนๆ
“กรี๊ด!”จินหลิงเอ๋อร์เห็นหมัดของจ้าวคังเหวี่ยงมาทางเธอ นัยน์ตางามพลันหดเล็กลง ก่อนจะหลุดร้องเสียงแหลมออกมาทว่า ในพริบตาที่หมัดของจ้าวคังอยู่ห่างจากจินหลิงเอ๋อร์ไม่ถึงสองนิ้ว ฉู่เฉินยกมือข้างหนึ่งกดหัวไหล่กลมมนของจินหลิงเอ๋อร์ ในขณะที่ใช้มืออีกข้างหนึ่งกดเอวอันคอดบางของจินหลิงเอ๋อร์ จากนั้นก็พลิกหมุนตัวทำให้หลบหมัดที่อันตรายถึงชีวิตของจ้าวคังไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ติ๋ง!เพราะเคลื่อนไหวแรงเกินไป ส่งผลให้เม็ดเหงื่อถูกสะบัดมาโดนแว่นตาของจ้าวคังจ้าวคังกัดฟันกรอด!ตอนนี้เขามั่นใจได้แล้วว่าจินหลิงเอ๋อร์กับผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น อยู่แถวๆ นี้ไม่ผิดแน่ไม่อย่างนั้น จะอธิบายเม็ดเหงื่อที่อยู่บนแว่นตาของเขายังไง?ด้วยความเดือดดาล จ้าวคังถอดแว่นออกมาดม แล้วก็ได้กลิ่นหอมจางๆ ของแชมพูดังคาดแชมพูยี่ห้อนี้ เป็นยี่ห้อที่จินหลิงเอ๋อร์ชอบที่สุดหนำซ้ำจ้าวคังยังเคยซื้อให้จินหลิงเอ๋อร์ด้วยตัวเองอีก“ออกมา!”ดวงตาของจ้าวคังเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย เขาตะโกนใส่อากาศในลานสวนด้วยความเคียดแค้นแต่กลับมองไม่เห็นเงาของใครสักคนไอ้เชี่ยเอ๊ยโดนสวมเขายังไม่น่ากลัวเท่าไร แต่ที่น่ากลัวกว่าก็คือ มีคนสวมเข
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่จะถามพี่ว่าบริษัทในเครือตระกูลกู้ของเรา จะได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเปิดตัวด้วยหรือเปล่า?”กู้รั่วเสวี่ยพูดอย่างลังเลว่า “พวกผู้ใหญ่ในตระกูลเองก็ได้ยินเรื่องยาบำรุงปราณมาบ้างแล้ว พวกเขาสนใจงานเปิดตัวมากทีเดียว ฉันก็เลยคิดว่า…”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง “ได้อยู่แล้ว อีกเดี๋ยวผมจะให้เสียวหู่ส่งบัตรเชิญแขกวีไอพีไปให้คุณใบหนึ่ง”“จริงเหรอ? ดีจังเลย เดี๋ยวฉันโทรศัพท์บอกพวกผู้ใหญ่ก่อนนะ ว่างแล้วค่อยคุยกัน”พอเห็นฉู่เฉินตอบตกลงอย่างรวดเร็ว กู้รั่วเสวี่ยวางสายอย่างอารมณ์ดี……ในอีกด้านหนึ่ง ณ โรงงานร้างแห่งหนึ่งที่อยู่แถบชานเมืองของเมืองเจียงจง หลี่เต้าผิงที่หนีเอาตัวรอดมาทั้งคืน ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาในที่สุดกลิ่นอายรอบตัวของเขา กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกครั้งหลังจากถอนหายใจออกมายาวๆ เขาลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทั่วตัว เมื่อเสียงดังกร๊อบแกร๊บดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลี่เต้าผิงจึงค่อยเผยรอยยิ้มออกมาไอ้เด็กแซ่ฉู่มีดีแค่นี้เองเหรอการต่อสู้เมื่อคืนที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาประมาทศัตรูเกินไป ไอ้เด็กแซ่ฉู่นั่นไม่มีทางได้เปรียบแน่นอนเหอะ!นึกมาถึงตรงนี้ หลี่เต้าผิงรู้ส
เวลานี้ หลิ่วหรูเยียนที่สวมชุดนอนกระโปรงเนื้อบางสีชมพู กำลังเอนกายในท่ากึ่งนอนอยู่บนโซฟาเธอใช้หน้าอกขนาดใหญ่สองลูกเป็นฐานประคองมือถือ และเลื่อนดูนิวฟีดที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้เรียวขายาวและขาวเนียนเบียดเสียดกันอยู่ในท่าไขว่ห้าง ตรงขอบกระโปรง มีขอบลูกไม้สีขาวโผล่มาให้เห็นวับๆ แวมๆขณะที่หลิ่วชิงเหอซึ่งอยู่ข้างๆ เปิดเผยเรือนร่างอันเย้ายวนแทบจะทั้งหมด เธอนอนคว่ำหน้ากอดหมอนข้างอยู่อีกด้านหนึ่งของโซฟามือเรียวสวยเอื้อมไปหยิบลูกเชอร์รีมากินหลี่เต้าผิงที่ซุ่มอยู่นอกหน้าต่างเงียบๆ แอบดูภาพตรงหน้าที่เรียกเลือดลมให้พลุ่งพล่านได้เป็นอย่างดี เขารู้สึกราวกับเลือดในร่างกายของเขากำลังเดือดพล่านไปทั้งตัว!โดยเฉพาะเรือนร่างของหลิ่วหรูเยียน หากมองจากมุมที่เขาอยู่ตอนนี้ เรียกได้ว่าเห็นทุกสัดส่วนอย่างชัดเจน!“ไอ้แซ่ฉู่ แกช่างมีบุญเรื่องผู้หญิงเสียจริง”หลี่เต้าผิงกัดฟันสบถด่า“ตึก!”พริบตาต่อมา หลี่เต้าผิงเขย่งปลายเท้า กระโดดเข้าไปทางหน้าต่างโดยตรงเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั่น ทำให้หลิ่วชิงเหอและหลิ่วหรูเยียนหันไปมองทางหลี่เต้าผิงพร้อมกัน“กรี๊ด!”หลิ่วชิงเหอเห็นชายชราหนวดขาวในชุดนักพร
“หรูเยียน!”หลิ่วชิงเหอพุ่งตัวออกจากประตูไปโดยที่ไม่สนใจว่าตัวเองเปลือยเปล่าอยู่แต่พอมาถึงหน้าประตูใหญ่ กลับไม่เห็นเงาร่างของหลี่เต้าผิงกับหลิ่วหรูเยียนเสียแล้วแย่แล้ว!ความบริสุทธิ์ของหรูเยียนกำลังจะถูกทำลาย!ถึงหลิ่วชิงเหอไม่รู้ว่าหลี่เต้าผิงเป็นใคร แต่แววตาหื่นกามของมันได้บ่งบอกทุกอย่างหมดแล้วหรูเยียน!ลูกสาวของแม่ แม่ผิดเองที่ปกป้องลูกไม่ได้หลิ่วชิงเหอร้อนใจจนน้ำตาไหลเป็นสาย แต่กลับทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย“คุณผู้หญิง ป้าผิดเองที่ไร้ความสามารถ ปกป้องคุณหนูไว้ไม่ได้ ลงโทษป้าเถอะค่ะ”ป้าอู๋เดินมาหยุดยืนต่อหน้าหลิ่วชิงเหอด้วยสีหน้าละอายแก่ใจ เธอก้มหน้าต่ำ ไม่กล้าสบตาหลิ่วชิงเหอที่จริงฝีมือป้าอู๋ก็ไม่ธรรมดาแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้ เธอกลับพบว่าตัวเองเหมือนจะกลายเป็นนักสู้ตัวเล็กๆ ที่ถูกคนอื่นบีบให้จนมุมอยู่เรื่อยตอนแรกก็ถูกฉู่เฉินข่มเหงอย่างเหิมเกริมถึงสองครั้ง ตอนนี้ยังถูกไอ้แก่คนนั้นกำราบได้ในคราวเดียว ทำให้ไม่สามารถปกป้องสองแม่ลูกหลิ่วชิงเหอกับหลิ่วหรูเยียนได้ มิหนำซ้ำยังเปลือยกายต่อหน้าไอ้แก่นั่นอีกหลิ่วชิงเหอตวัดสายตาเย็นชามองมาทางป้าอู๋ ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ฉู่เฉินล
เมื่อได้ยินว่าโทรศัพท์สายไม่ว่าง หลิ่วชิงเหอก็โกรธจนหน้าเขียว! ฉู่เฉินทำแบบนี้ได้อย่างไร?ต่อให้เธอกับหลิ่วหรูเยียนเคยทำผิดอะไรมาก่อน แต่ฉู่เฉินก็จะเลือดเย็นขนาดนี้ไม่ได้เหมือนกันนะ?เขามองหลิ่วหรูเยียนโดนลักพาตัว แถมยังพูดจาแดกดันอยู่ทางด้านข้างได้อย่างไร? ไอ้เวรสมควรตายเอ๊ย! หลิ่วชิงเหอโกรธแค้นจนกัดฟันกรอด บีบโทรศัพท์ในมือจนดังกรอบแกรบ แต่ว่า...เมื่อคิดถึงภาพหลิ่วหรูเยียนโดนไอ้แก่นั่นแบกไป หลิ่วชิงเหอก็เหมือนกับโดนน้ำเย็นราดใส่หัว โทสะในใจมอดดับลงในพริบตา ไม่ได้นะ! ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาแตกหักกับฉู่เฉิน เธอต้องอดทนชั่วคราวเพื่อช่วยลูกสาวแม้ว่าให้เธอทำตัวเป็นอัศวิน เมื่อเทียบกับความบริสุทธิ์ของหลิ่วหรูเยียนแล้ว เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญขนาดนั้นเลย ขอเพียงหลิ่วหรูเยียนสามารถกลับมาอยู่ข้างกายเธออย่างปลอดภัยได้ อ่อนข้อให้ไอ้เด็กเวรนี่ไว้ก่อนชั่วคราวจะเป็นไรไปถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำมาก่อนเมื่อคิดได้ดังนั้น หลิ่วชิงเหอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างสั่นเทา ก่อนโทรหาฉู่เฉินอีกครั้งฉู่เฉินกวาดตามองชื่อที่โทรมาบนโทรศัพท์แวบหนึ่งก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกดปุ่มปฏิเสธกา
ฉู่เฉินยกมุมปาก หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย อาบน้ำให้สะอาดแล้วรอฉัน ฉันหวังว่าวันนี้เธอจะทำให้ฉันได้เห็นเธอในแบบที่แตกต่างออกไป” ฉู่เฉินพูดจบก็ตัดสายโทรศัพท์ หลังจากวางโทรศัพท์ลงแล้ว หลิ่วชิงเหอเหมือนกับโดนสูบวิญญาณ ทรุดตัวลงบนโซฟาอย่างหมดแรงเธอไม่ยินยอมที่จะโดนฉู่เฉินบีบคั้นเล่นสนุกแบบนี้แต่เธอก็โดนความรู้สึกหมดหวังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนกลืนกินจนหมดอีกครั้ง “คุณนาย คะ...คุณฉู่รับปากช่วยคุณหนูหรือยังคะ?”ป้าอู๋เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง หลิ่วชิงเหอหันหน้ามองไปทางป้าอู๋ ถึงแม้เธอกำลังปิดบังสุดขีด แต่ว่าแก้มสองข้างที่แดงฉานกลับหักหลังเธออยู่ดียัยคนชั้นต่ำนี่กำลังตั้งตารอให้ฉู่เฉินมาสินะ?! ทว่าในขณะที่เดือดดาล หลิ่วชิงเหออดเอามือกุมหน้าอกของตัวเองไม่ได้อันที่จริงแล้ว ตอนที่ได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของฉู่เฉินเมื่อกี้ ส่วนลึกในใจของเธอคล้ายกับมีเปลวไฟดวงเล็ก ๆ ถูกจุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เธอเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นผู้หญิงที่อายุเลยสามสิบแล้วด้วย!ไหนเลยไม่อยากได้รับความรักความทะนุถนอมจากผู้ชาย?เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ หลิ่วชิงเหอก็ถอน
จนกระทั่งม่านราตรีคืบคลานลงมา หลิ่วชิงเหอถึงค่อยเหมือนปลาที่ขึ้นฝั่ง นอนแผ่อยู่บนเตียงพลางหอบหายใจอย่างบ้าคลั่ง เมื่อหันหน้าไปมองหลิ่วชิงเหอที่ไร้เรี่ยวแรง ฉู่เฉินก็พลิกตัวลงจากเตียง หลังจากที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็กระโดดลงมาจากหน้าต่างชั้นสองทันทีพอฉู่เฉินจากไปแล้ว หลิ่วชิงเหอถึงค่อยฝืนพยุงตัวลุกขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะเดินโซเซไปที่ห้องน้ำ แต่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็มีความเจ็บปวดอย่างรุนแรงส่งเข้ามา “ฉู่เฉิน แกมันไอ้เดรัจฉาน!”เมื่อรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง หลิ่วชิงเหอก็กัดฟันสบถด่าด้วยความโกรธเกรี้ยวอีกทางด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเดินออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว วาดภาพในอากาศ ยันต์หาวิญญาณก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ“ตามรอยระบุตำแหน่ง ปลุก!”สิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็โยนเส้นผมหนึ่งเส้นของหลิ่วหรูเยียนไปที่กลางอากาศทันทีเมื่อคำว่าปลุกดังออกมา เส้นผมเส้นนั้นกลายเป็นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มฉับพลัน ก่อนจะลอยตรงไปทางโรงงานร้างในเขตชานเมือง! แม้จะเป็นอาคมตามหาร่องรอยเหมือนกัน แต่การตามรอยระบุตำแหน่งของฉู่เฉินเหนือกว่าทะยานฟ้าค้นหาร่องรอยของหลี่เต้าผิงไม่รู้กี่ระดับ!ไม่นาน ฉ