“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่จะถามพี่ว่าบริษัทในเครือตระกูลกู้ของเรา จะได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเปิดตัวด้วยหรือเปล่า?”กู้รั่วเสวี่ยพูดอย่างลังเลว่า “พวกผู้ใหญ่ในตระกูลเองก็ได้ยินเรื่องยาบำรุงปราณมาบ้างแล้ว พวกเขาสนใจงานเปิดตัวมากทีเดียว ฉันก็เลยคิดว่า…”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง “ได้อยู่แล้ว อีกเดี๋ยวผมจะให้เสียวหู่ส่งบัตรเชิญแขกวีไอพีไปให้คุณใบหนึ่ง”“จริงเหรอ? ดีจังเลย เดี๋ยวฉันโทรศัพท์บอกพวกผู้ใหญ่ก่อนนะ ว่างแล้วค่อยคุยกัน”พอเห็นฉู่เฉินตอบตกลงอย่างรวดเร็ว กู้รั่วเสวี่ยวางสายอย่างอารมณ์ดี……ในอีกด้านหนึ่ง ณ โรงงานร้างแห่งหนึ่งที่อยู่แถบชานเมืองของเมืองเจียงจง หลี่เต้าผิงที่หนีเอาตัวรอดมาทั้งคืน ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาในที่สุดกลิ่นอายรอบตัวของเขา กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกครั้งหลังจากถอนหายใจออกมายาวๆ เขาลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทั่วตัว เมื่อเสียงดังกร๊อบแกร๊บดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลี่เต้าผิงจึงค่อยเผยรอยยิ้มออกมาไอ้เด็กแซ่ฉู่มีดีแค่นี้เองเหรอการต่อสู้เมื่อคืนที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาประมาทศัตรูเกินไป ไอ้เด็กแซ่ฉู่นั่นไม่มีทางได้เปรียบแน่นอนเหอะ!นึกมาถึงตรงนี้ หลี่เต้าผิงรู้ส
เวลานี้ หลิ่วหรูเยียนที่สวมชุดนอนกระโปรงเนื้อบางสีชมพู กำลังเอนกายในท่ากึ่งนอนอยู่บนโซฟาเธอใช้หน้าอกขนาดใหญ่สองลูกเป็นฐานประคองมือถือ และเลื่อนดูนิวฟีดที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้เรียวขายาวและขาวเนียนเบียดเสียดกันอยู่ในท่าไขว่ห้าง ตรงขอบกระโปรง มีขอบลูกไม้สีขาวโผล่มาให้เห็นวับๆ แวมๆขณะที่หลิ่วชิงเหอซึ่งอยู่ข้างๆ เปิดเผยเรือนร่างอันเย้ายวนแทบจะทั้งหมด เธอนอนคว่ำหน้ากอดหมอนข้างอยู่อีกด้านหนึ่งของโซฟามือเรียวสวยเอื้อมไปหยิบลูกเชอร์รีมากินหลี่เต้าผิงที่ซุ่มอยู่นอกหน้าต่างเงียบๆ แอบดูภาพตรงหน้าที่เรียกเลือดลมให้พลุ่งพล่านได้เป็นอย่างดี เขารู้สึกราวกับเลือดในร่างกายของเขากำลังเดือดพล่านไปทั้งตัว!โดยเฉพาะเรือนร่างของหลิ่วหรูเยียน หากมองจากมุมที่เขาอยู่ตอนนี้ เรียกได้ว่าเห็นทุกสัดส่วนอย่างชัดเจน!“ไอ้แซ่ฉู่ แกช่างมีบุญเรื่องผู้หญิงเสียจริง”หลี่เต้าผิงกัดฟันสบถด่า“ตึก!”พริบตาต่อมา หลี่เต้าผิงเขย่งปลายเท้า กระโดดเข้าไปทางหน้าต่างโดยตรงเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั่น ทำให้หลิ่วชิงเหอและหลิ่วหรูเยียนหันไปมองทางหลี่เต้าผิงพร้อมกัน“กรี๊ด!”หลิ่วชิงเหอเห็นชายชราหนวดขาวในชุดนักพร
“หรูเยียน!”หลิ่วชิงเหอพุ่งตัวออกจากประตูไปโดยที่ไม่สนใจว่าตัวเองเปลือยเปล่าอยู่แต่พอมาถึงหน้าประตูใหญ่ กลับไม่เห็นเงาร่างของหลี่เต้าผิงกับหลิ่วหรูเยียนเสียแล้วแย่แล้ว!ความบริสุทธิ์ของหรูเยียนกำลังจะถูกทำลาย!ถึงหลิ่วชิงเหอไม่รู้ว่าหลี่เต้าผิงเป็นใคร แต่แววตาหื่นกามของมันได้บ่งบอกทุกอย่างหมดแล้วหรูเยียน!ลูกสาวของแม่ แม่ผิดเองที่ปกป้องลูกไม่ได้หลิ่วชิงเหอร้อนใจจนน้ำตาไหลเป็นสาย แต่กลับทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย“คุณผู้หญิง ป้าผิดเองที่ไร้ความสามารถ ปกป้องคุณหนูไว้ไม่ได้ ลงโทษป้าเถอะค่ะ”ป้าอู๋เดินมาหยุดยืนต่อหน้าหลิ่วชิงเหอด้วยสีหน้าละอายแก่ใจ เธอก้มหน้าต่ำ ไม่กล้าสบตาหลิ่วชิงเหอที่จริงฝีมือป้าอู๋ก็ไม่ธรรมดาแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้ เธอกลับพบว่าตัวเองเหมือนจะกลายเป็นนักสู้ตัวเล็กๆ ที่ถูกคนอื่นบีบให้จนมุมอยู่เรื่อยตอนแรกก็ถูกฉู่เฉินข่มเหงอย่างเหิมเกริมถึงสองครั้ง ตอนนี้ยังถูกไอ้แก่คนนั้นกำราบได้ในคราวเดียว ทำให้ไม่สามารถปกป้องสองแม่ลูกหลิ่วชิงเหอกับหลิ่วหรูเยียนได้ มิหนำซ้ำยังเปลือยกายต่อหน้าไอ้แก่นั่นอีกหลิ่วชิงเหอตวัดสายตาเย็นชามองมาทางป้าอู๋ ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ฉู่เฉินล
เมื่อได้ยินว่าโทรศัพท์สายไม่ว่าง หลิ่วชิงเหอก็โกรธจนหน้าเขียว! ฉู่เฉินทำแบบนี้ได้อย่างไร?ต่อให้เธอกับหลิ่วหรูเยียนเคยทำผิดอะไรมาก่อน แต่ฉู่เฉินก็จะเลือดเย็นขนาดนี้ไม่ได้เหมือนกันนะ?เขามองหลิ่วหรูเยียนโดนลักพาตัว แถมยังพูดจาแดกดันอยู่ทางด้านข้างได้อย่างไร? ไอ้เวรสมควรตายเอ๊ย! หลิ่วชิงเหอโกรธแค้นจนกัดฟันกรอด บีบโทรศัพท์ในมือจนดังกรอบแกรบ แต่ว่า...เมื่อคิดถึงภาพหลิ่วหรูเยียนโดนไอ้แก่นั่นแบกไป หลิ่วชิงเหอก็เหมือนกับโดนน้ำเย็นราดใส่หัว โทสะในใจมอดดับลงในพริบตา ไม่ได้นะ! ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาแตกหักกับฉู่เฉิน เธอต้องอดทนชั่วคราวเพื่อช่วยลูกสาวแม้ว่าให้เธอทำตัวเป็นอัศวิน เมื่อเทียบกับความบริสุทธิ์ของหลิ่วหรูเยียนแล้ว เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญขนาดนั้นเลย ขอเพียงหลิ่วหรูเยียนสามารถกลับมาอยู่ข้างกายเธออย่างปลอดภัยได้ อ่อนข้อให้ไอ้เด็กเวรนี่ไว้ก่อนชั่วคราวจะเป็นไรไปถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำมาก่อนเมื่อคิดได้ดังนั้น หลิ่วชิงเหอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างสั่นเทา ก่อนโทรหาฉู่เฉินอีกครั้งฉู่เฉินกวาดตามองชื่อที่โทรมาบนโทรศัพท์แวบหนึ่งก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกดปุ่มปฏิเสธกา
ฉู่เฉินยกมุมปาก หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย อาบน้ำให้สะอาดแล้วรอฉัน ฉันหวังว่าวันนี้เธอจะทำให้ฉันได้เห็นเธอในแบบที่แตกต่างออกไป” ฉู่เฉินพูดจบก็ตัดสายโทรศัพท์ หลังจากวางโทรศัพท์ลงแล้ว หลิ่วชิงเหอเหมือนกับโดนสูบวิญญาณ ทรุดตัวลงบนโซฟาอย่างหมดแรงเธอไม่ยินยอมที่จะโดนฉู่เฉินบีบคั้นเล่นสนุกแบบนี้แต่เธอก็โดนความรู้สึกหมดหวังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนกลืนกินจนหมดอีกครั้ง “คุณนาย คะ...คุณฉู่รับปากช่วยคุณหนูหรือยังคะ?”ป้าอู๋เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง หลิ่วชิงเหอหันหน้ามองไปทางป้าอู๋ ถึงแม้เธอกำลังปิดบังสุดขีด แต่ว่าแก้มสองข้างที่แดงฉานกลับหักหลังเธออยู่ดียัยคนชั้นต่ำนี่กำลังตั้งตารอให้ฉู่เฉินมาสินะ?! ทว่าในขณะที่เดือดดาล หลิ่วชิงเหออดเอามือกุมหน้าอกของตัวเองไม่ได้อันที่จริงแล้ว ตอนที่ได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของฉู่เฉินเมื่อกี้ ส่วนลึกในใจของเธอคล้ายกับมีเปลวไฟดวงเล็ก ๆ ถูกจุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เธอเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นผู้หญิงที่อายุเลยสามสิบแล้วด้วย!ไหนเลยไม่อยากได้รับความรักความทะนุถนอมจากผู้ชาย?เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ หลิ่วชิงเหอก็ถอน
จนกระทั่งม่านราตรีคืบคลานลงมา หลิ่วชิงเหอถึงค่อยเหมือนปลาที่ขึ้นฝั่ง นอนแผ่อยู่บนเตียงพลางหอบหายใจอย่างบ้าคลั่ง เมื่อหันหน้าไปมองหลิ่วชิงเหอที่ไร้เรี่ยวแรง ฉู่เฉินก็พลิกตัวลงจากเตียง หลังจากที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็กระโดดลงมาจากหน้าต่างชั้นสองทันทีพอฉู่เฉินจากไปแล้ว หลิ่วชิงเหอถึงค่อยฝืนพยุงตัวลุกขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะเดินโซเซไปที่ห้องน้ำ แต่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็มีความเจ็บปวดอย่างรุนแรงส่งเข้ามา “ฉู่เฉิน แกมันไอ้เดรัจฉาน!”เมื่อรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง หลิ่วชิงเหอก็กัดฟันสบถด่าด้วยความโกรธเกรี้ยวอีกทางด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเดินออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว วาดภาพในอากาศ ยันต์หาวิญญาณก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ“ตามรอยระบุตำแหน่ง ปลุก!”สิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็โยนเส้นผมหนึ่งเส้นของหลิ่วหรูเยียนไปที่กลางอากาศทันทีเมื่อคำว่าปลุกดังออกมา เส้นผมเส้นนั้นกลายเป็นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มฉับพลัน ก่อนจะลอยตรงไปทางโรงงานร้างในเขตชานเมือง! แม้จะเป็นอาคมตามหาร่องรอยเหมือนกัน แต่การตามรอยระบุตำแหน่งของฉู่เฉินเหนือกว่าทะยานฟ้าค้นหาร่องรอยของหลี่เต้าผิงไม่รู้กี่ระดับ!ไม่นาน ฉ
หลี่เต้าผิงลอบตำหนิตัวเองในใจ เขาเชื่อคำพูดของไอ้พวกเด็กเหลือขอจากสำนักมวยตระกูลจินฝ่ายเดียวไปได้อย่างไร? อยากจะลักพาตัวญาติสนิทของฉู่เฉินมาบีบบังคับฉู่เฉินชัด ๆ ใครจะคิดได้ว่ากลับลักพาตัวคู่แค้นของอีกฝ่ายมา โคตรเวรเลย!ตูม! ในขณะที่หลี่เต้าผิงหงุดหงิดใจไม่หยุด คิดอยู่ว่าต่อไปควรจัดการอย่างไรดี ทันใดนั้นเองก็มีสายฟ้าฟาดลงมาจากฟ้า ผ่าทะลวงหลังคาโรงงานใส่กองดินที่หลี่เต้าผิงอยู่โดยตรง “แย่แล้ว!” หลี่เต้าผิงร้องเสียงดัง พุ่งตัวทะยานออกไปข้างหน้าราวกับลูกศรที่ออกจากสายธนู ถึงแม้ว่าปฏิกิริยาตอบสนองของเขาจะรวดเร็วมากพอ แต่สายฟ้าสายนั้นยังคงผ่าใส่ไหล่ซ้าย เจ็บจนหลี่เต้าผิงกรีดร้องแว้ก ๆ ร่างกายสูญเสียการทรงตัวในพริบตา ก่อนจะร่วงลงพื้นดังตุบจนฝุ่นตลบขึ้นมา “ซู่!” ยังไม่ทันที่หลี่เต้าผิงจะได้สติกลับมา ของเหลวอุ่น ๆ ก็ตกลงมาจากด้านบน สาดเต็มหน้าเต็มตัวของเขา หลี่เต้าผิงอดเงยหน้ามองขึ้นไปไม่ได้ ก่อนจะเห็นฉู่เฉินถือขวดน้ำแร่ที่หยิบมาจากไหนก็ไม่รู้ เทของเหลวสีเหลืองอ่อนที่คล้ายกับเบียร์ลงมาบนยันต์เบญจอัสนีของเขา “ไอ้หนู! แกรนหาที่ตายแล้ว!”หลี่เต้าผิงใจเย็นต่อไปไม่ไหวแล้ว ไอ้เจ้
“ไอ้หนู ไปตายซะเถอะ!”หลี่เต้าผิงคล้ายกับเห็นภาพเขาฟันศีรษะของฉู่เฉินจนร่วงลงมา แววตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง“ไอ้แก่ จนถึงตอนนี้แกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”ฉู่เฉินหรี่ตาสองข้าง เพ่งมองไปยังปลายกระบี่ที่เขาฟันมา ก่อนจะยิ้มหยัน ถ้าเกิดบอกว่าตอนที่ประมือกันครั้งแรก หลี่เต้าผิงยังสามารถต่อสู้กับฉู่เฉินได้อย่างสูสี แต่ตอนนี้ฉู่เฉินสามารถบดขยี้หลี่เต้าผิงได้แล้ว เมื่อกี้เขาไม่ฉวยโอกาสสังหารหลี่เต้าผิง ไม่ใช่เพราะมีประสบการณ์ไม่มากพอ และไม่ใช่เพราะเกิดความใจบุญ แต่เป็นเพราะมั่นใจในตัวเอง หลังจากผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ฉู่เฉินฟื้นตัวกลับมาดังเดิมแล้ว แต่หลี่เต้าผิงกลับรักษาได้เพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้น ปราณแท้ภายในร่างกายไม่ได้รับการฟื้นฟูเลย ถึงขนาดปล่อยพลังครึ่งหนึ่งของก่อนหน้านี้ออกมาไม่ได้เวลานี้กระบี่ของเขายิ่งพิสูจน์ยืนยันการคาดเดาในใจของฉู่เฉินได้“ฉันเข้าใจเวรอะไร แกไปตายซะเถอะ!” หลี่เต้าผิงยิ่งโกรธยิ่งหงุดหงิด ไหนเลยยังสนใจเรื่องมากมายขนาดนั้น ตอนนี้เขามีแค่ความคิดเดียวเท่านั้นก็คือฆ่าไอ้เด็กเวรนี่ซะ!“ติ๊ง!” วินาทีต่อมา ฉากที่ทำให้หลี่เต้าผิงไม่อยากจะเชื่อก็ปรากฏขึ้น!”เ
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ