เมื่อได้ยินว่าโทรศัพท์สายไม่ว่าง หลิ่วชิงเหอก็โกรธจนหน้าเขียว! ฉู่เฉินทำแบบนี้ได้อย่างไร?ต่อให้เธอกับหลิ่วหรูเยียนเคยทำผิดอะไรมาก่อน แต่ฉู่เฉินก็จะเลือดเย็นขนาดนี้ไม่ได้เหมือนกันนะ?เขามองหลิ่วหรูเยียนโดนลักพาตัว แถมยังพูดจาแดกดันอยู่ทางด้านข้างได้อย่างไร? ไอ้เวรสมควรตายเอ๊ย! หลิ่วชิงเหอโกรธแค้นจนกัดฟันกรอด บีบโทรศัพท์ในมือจนดังกรอบแกรบ แต่ว่า...เมื่อคิดถึงภาพหลิ่วหรูเยียนโดนไอ้แก่นั่นแบกไป หลิ่วชิงเหอก็เหมือนกับโดนน้ำเย็นราดใส่หัว โทสะในใจมอดดับลงในพริบตา ไม่ได้นะ! ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาแตกหักกับฉู่เฉิน เธอต้องอดทนชั่วคราวเพื่อช่วยลูกสาวแม้ว่าให้เธอทำตัวเป็นอัศวิน เมื่อเทียบกับความบริสุทธิ์ของหลิ่วหรูเยียนแล้ว เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญขนาดนั้นเลย ขอเพียงหลิ่วหรูเยียนสามารถกลับมาอยู่ข้างกายเธออย่างปลอดภัยได้ อ่อนข้อให้ไอ้เด็กเวรนี่ไว้ก่อนชั่วคราวจะเป็นไรไปถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำมาก่อนเมื่อคิดได้ดังนั้น หลิ่วชิงเหอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างสั่นเทา ก่อนโทรหาฉู่เฉินอีกครั้งฉู่เฉินกวาดตามองชื่อที่โทรมาบนโทรศัพท์แวบหนึ่งก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกดปุ่มปฏิเสธกา
ฉู่เฉินยกมุมปาก หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย อาบน้ำให้สะอาดแล้วรอฉัน ฉันหวังว่าวันนี้เธอจะทำให้ฉันได้เห็นเธอในแบบที่แตกต่างออกไป” ฉู่เฉินพูดจบก็ตัดสายโทรศัพท์ หลังจากวางโทรศัพท์ลงแล้ว หลิ่วชิงเหอเหมือนกับโดนสูบวิญญาณ ทรุดตัวลงบนโซฟาอย่างหมดแรงเธอไม่ยินยอมที่จะโดนฉู่เฉินบีบคั้นเล่นสนุกแบบนี้แต่เธอก็โดนความรู้สึกหมดหวังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนกลืนกินจนหมดอีกครั้ง “คุณนาย คะ...คุณฉู่รับปากช่วยคุณหนูหรือยังคะ?”ป้าอู๋เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง หลิ่วชิงเหอหันหน้ามองไปทางป้าอู๋ ถึงแม้เธอกำลังปิดบังสุดขีด แต่ว่าแก้มสองข้างที่แดงฉานกลับหักหลังเธออยู่ดียัยคนชั้นต่ำนี่กำลังตั้งตารอให้ฉู่เฉินมาสินะ?! ทว่าในขณะที่เดือดดาล หลิ่วชิงเหออดเอามือกุมหน้าอกของตัวเองไม่ได้อันที่จริงแล้ว ตอนที่ได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของฉู่เฉินเมื่อกี้ ส่วนลึกในใจของเธอคล้ายกับมีเปลวไฟดวงเล็ก ๆ ถูกจุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เธอเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นผู้หญิงที่อายุเลยสามสิบแล้วด้วย!ไหนเลยไม่อยากได้รับความรักความทะนุถนอมจากผู้ชาย?เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ หลิ่วชิงเหอก็ถอน
จนกระทั่งม่านราตรีคืบคลานลงมา หลิ่วชิงเหอถึงค่อยเหมือนปลาที่ขึ้นฝั่ง นอนแผ่อยู่บนเตียงพลางหอบหายใจอย่างบ้าคลั่ง เมื่อหันหน้าไปมองหลิ่วชิงเหอที่ไร้เรี่ยวแรง ฉู่เฉินก็พลิกตัวลงจากเตียง หลังจากที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็กระโดดลงมาจากหน้าต่างชั้นสองทันทีพอฉู่เฉินจากไปแล้ว หลิ่วชิงเหอถึงค่อยฝืนพยุงตัวลุกขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะเดินโซเซไปที่ห้องน้ำ แต่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็มีความเจ็บปวดอย่างรุนแรงส่งเข้ามา “ฉู่เฉิน แกมันไอ้เดรัจฉาน!”เมื่อรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง หลิ่วชิงเหอก็กัดฟันสบถด่าด้วยความโกรธเกรี้ยวอีกทางด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเดินออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว วาดภาพในอากาศ ยันต์หาวิญญาณก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ“ตามรอยระบุตำแหน่ง ปลุก!”สิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็โยนเส้นผมหนึ่งเส้นของหลิ่วหรูเยียนไปที่กลางอากาศทันทีเมื่อคำว่าปลุกดังออกมา เส้นผมเส้นนั้นกลายเป็นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มฉับพลัน ก่อนจะลอยตรงไปทางโรงงานร้างในเขตชานเมือง! แม้จะเป็นอาคมตามหาร่องรอยเหมือนกัน แต่การตามรอยระบุตำแหน่งของฉู่เฉินเหนือกว่าทะยานฟ้าค้นหาร่องรอยของหลี่เต้าผิงไม่รู้กี่ระดับ!ไม่นาน ฉ
หลี่เต้าผิงลอบตำหนิตัวเองในใจ เขาเชื่อคำพูดของไอ้พวกเด็กเหลือขอจากสำนักมวยตระกูลจินฝ่ายเดียวไปได้อย่างไร? อยากจะลักพาตัวญาติสนิทของฉู่เฉินมาบีบบังคับฉู่เฉินชัด ๆ ใครจะคิดได้ว่ากลับลักพาตัวคู่แค้นของอีกฝ่ายมา โคตรเวรเลย!ตูม! ในขณะที่หลี่เต้าผิงหงุดหงิดใจไม่หยุด คิดอยู่ว่าต่อไปควรจัดการอย่างไรดี ทันใดนั้นเองก็มีสายฟ้าฟาดลงมาจากฟ้า ผ่าทะลวงหลังคาโรงงานใส่กองดินที่หลี่เต้าผิงอยู่โดยตรง “แย่แล้ว!” หลี่เต้าผิงร้องเสียงดัง พุ่งตัวทะยานออกไปข้างหน้าราวกับลูกศรที่ออกจากสายธนู ถึงแม้ว่าปฏิกิริยาตอบสนองของเขาจะรวดเร็วมากพอ แต่สายฟ้าสายนั้นยังคงผ่าใส่ไหล่ซ้าย เจ็บจนหลี่เต้าผิงกรีดร้องแว้ก ๆ ร่างกายสูญเสียการทรงตัวในพริบตา ก่อนจะร่วงลงพื้นดังตุบจนฝุ่นตลบขึ้นมา “ซู่!” ยังไม่ทันที่หลี่เต้าผิงจะได้สติกลับมา ของเหลวอุ่น ๆ ก็ตกลงมาจากด้านบน สาดเต็มหน้าเต็มตัวของเขา หลี่เต้าผิงอดเงยหน้ามองขึ้นไปไม่ได้ ก่อนจะเห็นฉู่เฉินถือขวดน้ำแร่ที่หยิบมาจากไหนก็ไม่รู้ เทของเหลวสีเหลืองอ่อนที่คล้ายกับเบียร์ลงมาบนยันต์เบญจอัสนีของเขา “ไอ้หนู! แกรนหาที่ตายแล้ว!”หลี่เต้าผิงใจเย็นต่อไปไม่ไหวแล้ว ไอ้เจ้
“ไอ้หนู ไปตายซะเถอะ!”หลี่เต้าผิงคล้ายกับเห็นภาพเขาฟันศีรษะของฉู่เฉินจนร่วงลงมา แววตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง“ไอ้แก่ จนถึงตอนนี้แกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”ฉู่เฉินหรี่ตาสองข้าง เพ่งมองไปยังปลายกระบี่ที่เขาฟันมา ก่อนจะยิ้มหยัน ถ้าเกิดบอกว่าตอนที่ประมือกันครั้งแรก หลี่เต้าผิงยังสามารถต่อสู้กับฉู่เฉินได้อย่างสูสี แต่ตอนนี้ฉู่เฉินสามารถบดขยี้หลี่เต้าผิงได้แล้ว เมื่อกี้เขาไม่ฉวยโอกาสสังหารหลี่เต้าผิง ไม่ใช่เพราะมีประสบการณ์ไม่มากพอ และไม่ใช่เพราะเกิดความใจบุญ แต่เป็นเพราะมั่นใจในตัวเอง หลังจากผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ฉู่เฉินฟื้นตัวกลับมาดังเดิมแล้ว แต่หลี่เต้าผิงกลับรักษาได้เพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้น ปราณแท้ภายในร่างกายไม่ได้รับการฟื้นฟูเลย ถึงขนาดปล่อยพลังครึ่งหนึ่งของก่อนหน้านี้ออกมาไม่ได้เวลานี้กระบี่ของเขายิ่งพิสูจน์ยืนยันการคาดเดาในใจของฉู่เฉินได้“ฉันเข้าใจเวรอะไร แกไปตายซะเถอะ!” หลี่เต้าผิงยิ่งโกรธยิ่งหงุดหงิด ไหนเลยยังสนใจเรื่องมากมายขนาดนั้น ตอนนี้เขามีแค่ความคิดเดียวเท่านั้นก็คือฆ่าไอ้เด็กเวรนี่ซะ!“ติ๊ง!” วินาทีต่อมา ฉากที่ทำให้หลี่เต้าผิงไม่อยากจะเชื่อก็ปรากฏขึ้น!”เ
หลิ่วชิงเหอดีใจยกใหญ่ทันที คิดไม่ถึงว่าไอ้เด็กเวรฉู่เฉินยังคงรักษาคำพูดมาก ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที หลิ่วชิงเหอตะบึงลงมาข้างล่างแล้วเปิดประตูบ้านเมื่อเธอเห็นฉู่เฉินยืนอุ้มหลิ่วหรูเยียนตรงหน้าประตูบ้าน ความเหนื่อยล้าทั้งหมดบนร่างกายคล้ายกับหายไปจนหมดฉู่เฉินเดินเข้ามาในห้องโถงแล้วโยนหลิ่วหรูเยียนไปบนโซฟาทันที เวลานี้ชุดนอนบาง ๆ ของเธอฉีกขาดหลายแห่ง แถมยังมีคราบเลือดและรอยฟกช้ำตรงจุดที่ชุดนอนกระโปรงขาดด้วย ดูเหมือนมีความเป็นไปได้มากว่าจะเกิดจากการที่หลี่เต้าผิงใช้แส้ปัดฟาดออกมา“หรูเยียน! นี่ลูกเป็นยังไงบ้าง!” หลิ่วชิงเหอเห็นหลิ่วหรูเยียนมีบาดแผลไปทั่วทั้งตัว น้ำตาแห่งความเจ็บปวดใจก็เอ่อคลอในดวงตา เธอรีบสาวเท้าพุ่งเข้าไปตรวจดูบาดแผลบนร่างกายของหลิ่วหรูเยียน ถ้าเกิดแผลเป็นขึ้นมา ต่อไปหลิ่วหรูเยียนยังจะออกไปเจอผู้คนได้อย่างไร? “ฉู่เฉิน ต่อให้พวกเราแม่ลูกทำผิดต่อแก แกก็ไม่เห็นต้องฉวยโอกาสเลยนี่นา” ฉู่เฉินกวาดตามองหลิ่วชิงเหอแวบหนึ่งแล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “เธอเป็นบ้าอะไร ดูให้ดี ๆ สิ นั่นเป็นแผลที่เกิดจากการโดนแส้ปัดฟาดต่างหาก”หลิ่วชิงเหอถึงค่อยสังเกตเห็นว่าบนตัวหลิ่วหรูเยี
“ตอนนั้นแสงมืดมาก ถึงแม้หนูจะเห็นแค่เค้าโครงคร่าว ๆ แต่หนูยืนยันได้ว่าคน ๆ นั้นไม่ใช่ฉู่เฉิน” พอได้ยินคำพูดนี้ ดวงหน้าเล็ก ๆ ของหลิ่วชิงเหอเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำทันที ฉู่เฉินทำเกินไปแล้วนะ!เรื่องใหญ่ขนาดนี้ หลิ่วหรูเยียนไม่มีทางพูดโกหกแน่นอนนั่นก็ยืนยันได้ว่าฉู่เฉินไม่เกี่ยวข้องกับคนที่ช่วยเหลือหลิ่วหรูเยียนเลย พอคิดถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองโดนฉู่เฉินย่ำยีอย่างเหิมเกริมเมื่อกี้ หลิ่วชิงเหอก็โกรธจนสั่นไม่หยุดไปทั้งตัว!“เธอแน่ใจนะ?”ฉู่เฉินมองไปทางหลิ่วหรูเยียนอย่างเย็นชาถ้ารู้แต่แรกว่าเธอจะข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพาน ตอนนั้นฉู่เฉินน่าจะปล่อยให้หลี่เต้าผิงใช้ยันต์เบญจอัสนีทำให้หลิ่วหรูเยียนมีสติชัดเจน“ฮึ จนป่านนี้แล้ว แกยังเสแสร้งอีกเนี่ยนะ!”หลิ่วหรูเยียนมองฉู่เฉินอย่างละเอียดด้วยสีหน้าดูแคลนพลางพูดว่า “อย่าคิดว่าฉันหมดสติตลอดนะ ตอนที่ราชันมังกรเอาชนะไอ้แก่เมื่อกี้ ฉันมองเห็นชัดเจนมาก”“ราชันมังกรเขาไม่ได้แค่ตัวสูงกว่าแก เขายังมีความเป็นชายมากกว่าแกอีก นอกจากนี้ก็หน้าตาหล่อกว่าแกมากด้วย” “ไม่เหมือนสวะที่ไม่ตั้งอย่างแก หน้าตาก็อัปลักษณ์ แถมยังอยากขโมยผลงาน หลอกเอาผลประโยชน์ต่
ฉู่เฉินสังเกตอินซู่ซู่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจอยู่เนิ่นนานถึงค่อยขมวดคิ้วกล่าวว่า “เข้ามาสิ” ทำไมวันนี้อินซู่ซู่ถึงดูไม่ค่อยปกตินิดหน่อย? เหมือนป้าอู๋เมื่อคืนสุด ๆ คงไม่ใช่ผลข้างเคียงที่เกิดจากวิชาที่เขาถ่ายทอดให้เธอหรอกใช่ไหม? แบบนี้ถ้าโดนผู้ชายคนอื่นเด็ดลูกท้อไปคงได้ไม่คุ้มเสีย ฉู่เฉินกินอาหารเช้าไปด้วย สังเกตอินซู่ซู่ไปด้วย“นายท่าน เป็นอะไรไปคะ อะ...อาหารเช้าที่ฉันทำไม่ถูกปากนายท่านเหรอ?” แค่พูดประโยคสั้น ๆ แบบนี้ อินซู่ซู่ก็พูดอย่างตะกุกตะกักแล้ว ถึงขนาดที่เธอรู้สึกว่าหัวใจน้อย ๆ ดวงนี้ของเธอเหมือนจะกระโดดออกมาเดี๋ยวนี้เลย เห็นได้ชัดว่าดูเหมือนกลัวที่จะสบตากับฉู่เฉินมาก ๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระสับกระส่ายและมีความสุขอยู่ในใจความรู้สึกเช่นนี้มันแปลกประหลาดมาก “ก็ใช้ได้”ฉู่เฉินตอบกลับลวก ๆ และลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ ๆ อินซู่ซู่ ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า “หลับตาซะ”“หา? นายท่าน นี่นายท่านจะทำอะไรคะ?” พอฉู่เฉินเดินเข้าไปใกล้ข้างกายอินซู่ซู่ เธอก็รู้สึกได้เพียงหัวใจของตัวเองคล้ายกับกำลังเต้นแรงอย่างอธิบายไม่ได้นอกจากนี้ร่างกายยังอดสั่นเทิ้มไม่ได้