หลิ่วหรูเยียนหัวเราะในลำคอ “คุณแม่คงไม่คิดว่าไอ้ฉู่เฉินมีความสามารถด้านการแพทย์จริงๆ หรอกใช่ไหมคะ?”“แค่หาใครก็ได้ไปเปิดโปงเขา จะชนะได้รางวัลไหมไม่สำคัญซักนิด หนูแค่อยากให้ทุกคนรู้ว่ามันเป็นจอมลวงโลก!”“แค่แฉกลโกงของมันได้ พวกเราสองแม่ลูกก็กอบกู้ชื่อเสียงกลับมาได้แล้วไม่ใช่เหรอคะ?”“อีกอย่าง ถึงตอนนั้นเราฉวยโอกาสเหยียบซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลของมันให้จมดิน แล้วก็ถีบบริษัทของมันออกจากเมืองเจียงจงไปเลย หรือไม่ก็ทำให้มันล้มละลายจนต้องปิดบริษัทไปซะ!”หลิ่วชิงเหอครุ่นคิดครู่หนึ่ง “หรูเยียน แม่จำเป็นต้องเตือนลูก ฉู่เฉินในตอนนี้ ต่างจากเมื่อก่อนมากจริงๆ ลูกอย่า…”“โอ๊ย คุณแม่คะ”หลิ่วชิงเหอยังพูดไม่ทันจบ หลิ่วหรูเยียนก็ตัดบทอย่างรำคาญว่า “มันจะต่างจากเมื่อก่อนได้ยังไง เมื่อก่อนมันเป็นไอ้พิการที่แขนขาเกือบหักหมด ตอนนี้ก็แค่กลับมาเดินเหินได้ปกติเท่านั้นเอง”“แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ยังเป็นแค่ไอ้สวะที่นกเขาไม่ขันไม่ใช่หรือไงคะ?”“เอาเป็นว่า เรื่องนี้คุณแม่ไม่ต้องยุ่ง หนูจัดการเองได้ค่ะ”พูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็เดินกระฟัดกระเฟียดขึ้นไปชั้นบนหลิ่วชิงเหอมองแผ่นหลังของหลิ่วหรูเยียน ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึ
สัมผัสอันผ่อนคลายที่มาพร้อมกับริมฝีปากเล็กๆ ของจินหลิงเอ๋อร์ ทำให้ฉู่เฉินดำดิ่งสู่ห้วงภวังค์ต้องยอมรับว่าไอ้แก่หลี่เต้าผิงมีความสามารถด้านการปรุงยาจริงๆขนาดผู้หญิงบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนอย่างจินหลิงเอ๋อร์ หลังจากถูกพิษจากยาปลุกกำหนัดของเขาเข้า ยังถูกครอบงำด้วยแรงปรารถนาอันร้อนรุ่มในพริบตาถึงแม้ฉู่เฉินจะผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจินหลิงเอ๋อร์ที่บ้าคลั่งอย่างนี้ เขากลับควบคุมตัวเองไม่ได้เลยแม้แต่น้อยอย่างไรจินเจิ้นหลงกับจินอ้าวเทียนก็ไม่อยู่ ฉู่เฉินจึงดันประตูห้องออก อุ้มจินหลิงเอ๋อร์ที่ร้อนรุ่มไปทั้งตัวเดินไปที่ลานบ้าน กวาดสายตามองรอบๆ ก่อนที่สายตาของเขาจะสะดุดที่ศาลากลางลานสวน เขาปัดเครื่องชาบนโต๊ะออก จากนั้นก็จับตัวจินหลิงเอ๋อร์ขึงไว้บนโต๊ะแสงแดดอ่อนๆ สาดส่องไปที่ใบหน้าแดงเรื่อของจินหลิงเอ๋อร์ ทำให้ดวงหน้าที่สวยอยู่แล้วของเธอ ยิ่งดูหยาดเยิ้มขึ้นอีกหลายส่วนฉู่เฉินยกมือวาดยันต์พรางกาย จากนั้นก็ยกอาวุธออกศึกทันทีผ่านไปไม่นาน เสียงครวญครางอันกระเส่าเร่าร้อนและเสียงกระแทกเป็นจังหวะดังผสมปนเปกันอยู่ในลานสวน……ในเวลานี้เอง รถเบนซ์หรูสีดำคันหนึ่งขับเ
ในอีกด้านหนึ่ง จ้าวคังขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางกระสับกระส่ายของพ่อบ้าน หลิงเอ๋อร์ไม่สบายเหรอ?จ้าวคังอาศัยจังหวะที่พ่อบ้านไม่ทันสังเกต แอบลุกขึ้นเดินไปที่ประตูด้านหลังของห้องรับแขก เขาดันประตูออกเบาๆ และเดินมาที่เรือนหลังแต่เพิ่งจะเดินมาถึงเรือนหลัง เสียงกระแทกเป็นจังหวะแปลกๆ ก็ดังมาเข้าหูหืม?!จ้าวคังสะดุ้ง ทำไมเสียงนี้ฟังดูคุ้นหูจัง เหมือนฉากในหนังสั้นที่เขาเคยดูสมัยอยู่หอพักช่วงมหาลัยอย่างไรอย่างนึกมาถึงตรงนี้ หัวใจของจ้าวคังหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม!เขาสาวเท้าเดินไปที่ประตูเรือนของจินหลิงเอ๋อร์โดยจิตใต้สำนึก ก่อนจะแนบหูเข้ากับประตูเรือน เงี่ยหูฟังเสียงความเคลื่อนไหวจากด้านในเฮือก!ไม่ฟังยังดีซะกว่า พอได้ยินเสียงข้างใน จ้าวคังรู้สึกเหมือนเขาบนหัวงอกยาวขึ้นมาในพริบตาไฟโทสะพุ่งปรี๊ดจากเท้าขึ้นมาถึงบนหน้าผาก!พ่อลูกตระกูลจิน ทำกันเกินไปแล้ว!ถึงแม้ตระกูลจินไม่อยากดองกับตระกูลจ้าว ก็ไม่จำเป็นต้องหมิ่นเกียรติกันขนาดนี้!นึกมาถึงตรงนี้ จ้าวคังยกเท้าขึ้นถีบประตูเรือนเต็มแรง!โครม!เสียงบานประตูกระแทกเข้ากับกำแพงดังขึ้น พ่อบ้านที่กำลังร้อนใจเหมือนมดที่อยู่บนปากหม้อร้อนๆ
“กรี๊ด!”จินหลิงเอ๋อร์เห็นหมัดของจ้าวคังเหวี่ยงมาทางเธอ นัยน์ตางามพลันหดเล็กลง ก่อนจะหลุดร้องเสียงแหลมออกมาทว่า ในพริบตาที่หมัดของจ้าวคังอยู่ห่างจากจินหลิงเอ๋อร์ไม่ถึงสองนิ้ว ฉู่เฉินยกมือข้างหนึ่งกดหัวไหล่กลมมนของจินหลิงเอ๋อร์ ในขณะที่ใช้มืออีกข้างหนึ่งกดเอวอันคอดบางของจินหลิงเอ๋อร์ จากนั้นก็พลิกหมุนตัวทำให้หลบหมัดที่อันตรายถึงชีวิตของจ้าวคังไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ติ๋ง!เพราะเคลื่อนไหวแรงเกินไป ส่งผลให้เม็ดเหงื่อถูกสะบัดมาโดนแว่นตาของจ้าวคังจ้าวคังกัดฟันกรอด!ตอนนี้เขามั่นใจได้แล้วว่าจินหลิงเอ๋อร์กับผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น อยู่แถวๆ นี้ไม่ผิดแน่ไม่อย่างนั้น จะอธิบายเม็ดเหงื่อที่อยู่บนแว่นตาของเขายังไง?ด้วยความเดือดดาล จ้าวคังถอดแว่นออกมาดม แล้วก็ได้กลิ่นหอมจางๆ ของแชมพูดังคาดแชมพูยี่ห้อนี้ เป็นยี่ห้อที่จินหลิงเอ๋อร์ชอบที่สุดหนำซ้ำจ้าวคังยังเคยซื้อให้จินหลิงเอ๋อร์ด้วยตัวเองอีก“ออกมา!”ดวงตาของจ้าวคังเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย เขาตะโกนใส่อากาศในลานสวนด้วยความเคียดแค้นแต่กลับมองไม่เห็นเงาของใครสักคนไอ้เชี่ยเอ๊ยโดนสวมเขายังไม่น่ากลัวเท่าไร แต่ที่น่ากลัวกว่าก็คือ มีคนสวมเข
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่จะถามพี่ว่าบริษัทในเครือตระกูลกู้ของเรา จะได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเปิดตัวด้วยหรือเปล่า?”กู้รั่วเสวี่ยพูดอย่างลังเลว่า “พวกผู้ใหญ่ในตระกูลเองก็ได้ยินเรื่องยาบำรุงปราณมาบ้างแล้ว พวกเขาสนใจงานเปิดตัวมากทีเดียว ฉันก็เลยคิดว่า…”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง “ได้อยู่แล้ว อีกเดี๋ยวผมจะให้เสียวหู่ส่งบัตรเชิญแขกวีไอพีไปให้คุณใบหนึ่ง”“จริงเหรอ? ดีจังเลย เดี๋ยวฉันโทรศัพท์บอกพวกผู้ใหญ่ก่อนนะ ว่างแล้วค่อยคุยกัน”พอเห็นฉู่เฉินตอบตกลงอย่างรวดเร็ว กู้รั่วเสวี่ยวางสายอย่างอารมณ์ดี……ในอีกด้านหนึ่ง ณ โรงงานร้างแห่งหนึ่งที่อยู่แถบชานเมืองของเมืองเจียงจง หลี่เต้าผิงที่หนีเอาตัวรอดมาทั้งคืน ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาในที่สุดกลิ่นอายรอบตัวของเขา กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกครั้งหลังจากถอนหายใจออกมายาวๆ เขาลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทั่วตัว เมื่อเสียงดังกร๊อบแกร๊บดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลี่เต้าผิงจึงค่อยเผยรอยยิ้มออกมาไอ้เด็กแซ่ฉู่มีดีแค่นี้เองเหรอการต่อสู้เมื่อคืนที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาประมาทศัตรูเกินไป ไอ้เด็กแซ่ฉู่นั่นไม่มีทางได้เปรียบแน่นอนเหอะ!นึกมาถึงตรงนี้ หลี่เต้าผิงรู้ส
เวลานี้ หลิ่วหรูเยียนที่สวมชุดนอนกระโปรงเนื้อบางสีชมพู กำลังเอนกายในท่ากึ่งนอนอยู่บนโซฟาเธอใช้หน้าอกขนาดใหญ่สองลูกเป็นฐานประคองมือถือ และเลื่อนดูนิวฟีดที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้เรียวขายาวและขาวเนียนเบียดเสียดกันอยู่ในท่าไขว่ห้าง ตรงขอบกระโปรง มีขอบลูกไม้สีขาวโผล่มาให้เห็นวับๆ แวมๆขณะที่หลิ่วชิงเหอซึ่งอยู่ข้างๆ เปิดเผยเรือนร่างอันเย้ายวนแทบจะทั้งหมด เธอนอนคว่ำหน้ากอดหมอนข้างอยู่อีกด้านหนึ่งของโซฟามือเรียวสวยเอื้อมไปหยิบลูกเชอร์รีมากินหลี่เต้าผิงที่ซุ่มอยู่นอกหน้าต่างเงียบๆ แอบดูภาพตรงหน้าที่เรียกเลือดลมให้พลุ่งพล่านได้เป็นอย่างดี เขารู้สึกราวกับเลือดในร่างกายของเขากำลังเดือดพล่านไปทั้งตัว!โดยเฉพาะเรือนร่างของหลิ่วหรูเยียน หากมองจากมุมที่เขาอยู่ตอนนี้ เรียกได้ว่าเห็นทุกสัดส่วนอย่างชัดเจน!“ไอ้แซ่ฉู่ แกช่างมีบุญเรื่องผู้หญิงเสียจริง”หลี่เต้าผิงกัดฟันสบถด่า“ตึก!”พริบตาต่อมา หลี่เต้าผิงเขย่งปลายเท้า กระโดดเข้าไปทางหน้าต่างโดยตรงเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั่น ทำให้หลิ่วชิงเหอและหลิ่วหรูเยียนหันไปมองทางหลี่เต้าผิงพร้อมกัน“กรี๊ด!”หลิ่วชิงเหอเห็นชายชราหนวดขาวในชุดนักพร
“หรูเยียน!”หลิ่วชิงเหอพุ่งตัวออกจากประตูไปโดยที่ไม่สนใจว่าตัวเองเปลือยเปล่าอยู่แต่พอมาถึงหน้าประตูใหญ่ กลับไม่เห็นเงาร่างของหลี่เต้าผิงกับหลิ่วหรูเยียนเสียแล้วแย่แล้ว!ความบริสุทธิ์ของหรูเยียนกำลังจะถูกทำลาย!ถึงหลิ่วชิงเหอไม่รู้ว่าหลี่เต้าผิงเป็นใคร แต่แววตาหื่นกามของมันได้บ่งบอกทุกอย่างหมดแล้วหรูเยียน!ลูกสาวของแม่ แม่ผิดเองที่ปกป้องลูกไม่ได้หลิ่วชิงเหอร้อนใจจนน้ำตาไหลเป็นสาย แต่กลับทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย“คุณผู้หญิง ป้าผิดเองที่ไร้ความสามารถ ปกป้องคุณหนูไว้ไม่ได้ ลงโทษป้าเถอะค่ะ”ป้าอู๋เดินมาหยุดยืนต่อหน้าหลิ่วชิงเหอด้วยสีหน้าละอายแก่ใจ เธอก้มหน้าต่ำ ไม่กล้าสบตาหลิ่วชิงเหอที่จริงฝีมือป้าอู๋ก็ไม่ธรรมดาแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้ เธอกลับพบว่าตัวเองเหมือนจะกลายเป็นนักสู้ตัวเล็กๆ ที่ถูกคนอื่นบีบให้จนมุมอยู่เรื่อยตอนแรกก็ถูกฉู่เฉินข่มเหงอย่างเหิมเกริมถึงสองครั้ง ตอนนี้ยังถูกไอ้แก่คนนั้นกำราบได้ในคราวเดียว ทำให้ไม่สามารถปกป้องสองแม่ลูกหลิ่วชิงเหอกับหลิ่วหรูเยียนได้ มิหนำซ้ำยังเปลือยกายต่อหน้าไอ้แก่นั่นอีกหลิ่วชิงเหอตวัดสายตาเย็นชามองมาทางป้าอู๋ ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ฉู่เฉินล
เมื่อได้ยินว่าโทรศัพท์สายไม่ว่าง หลิ่วชิงเหอก็โกรธจนหน้าเขียว! ฉู่เฉินทำแบบนี้ได้อย่างไร?ต่อให้เธอกับหลิ่วหรูเยียนเคยทำผิดอะไรมาก่อน แต่ฉู่เฉินก็จะเลือดเย็นขนาดนี้ไม่ได้เหมือนกันนะ?เขามองหลิ่วหรูเยียนโดนลักพาตัว แถมยังพูดจาแดกดันอยู่ทางด้านข้างได้อย่างไร? ไอ้เวรสมควรตายเอ๊ย! หลิ่วชิงเหอโกรธแค้นจนกัดฟันกรอด บีบโทรศัพท์ในมือจนดังกรอบแกรบ แต่ว่า...เมื่อคิดถึงภาพหลิ่วหรูเยียนโดนไอ้แก่นั่นแบกไป หลิ่วชิงเหอก็เหมือนกับโดนน้ำเย็นราดใส่หัว โทสะในใจมอดดับลงในพริบตา ไม่ได้นะ! ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาแตกหักกับฉู่เฉิน เธอต้องอดทนชั่วคราวเพื่อช่วยลูกสาวแม้ว่าให้เธอทำตัวเป็นอัศวิน เมื่อเทียบกับความบริสุทธิ์ของหลิ่วหรูเยียนแล้ว เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญขนาดนั้นเลย ขอเพียงหลิ่วหรูเยียนสามารถกลับมาอยู่ข้างกายเธออย่างปลอดภัยได้ อ่อนข้อให้ไอ้เด็กเวรนี่ไว้ก่อนชั่วคราวจะเป็นไรไปถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำมาก่อนเมื่อคิดได้ดังนั้น หลิ่วชิงเหอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างสั่นเทา ก่อนโทรหาฉู่เฉินอีกครั้งฉู่เฉินกวาดตามองชื่อที่โทรมาบนโทรศัพท์แวบหนึ่งก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกดปุ่มปฏิเสธกา
ก๊อก!ในเวลาที่ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้น ใต้โต๊ะก็เกิดเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง!เซียวเฟิงก้มหน้ามองไปยังใต้โต๊ะด้วยความแปลกใจ หลิ่วหรูเยียนเก็บมือกลับมาในช่วงเวลาเดียวกับที่เซียวเฟิงก้มตัวมอง แต่เพราะเหตุนี้เมื่อมองจากมุมของเซียวเฟิงก็ทำให้เขาตะลึงมากเวลาฉู่เฉินกินข้าว ตรงนั้นห้าวหาญได้ขนาดนี้เชียว?หลิ่วหรูเยียนฉวยโอกาสนี้วางตะเกียบและถ้วยชามลง จากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มกล่าวกับทุกคนว่า “พวกคุณกินกันก่อนได้เลยค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันต้องรีบกลับแล้วค่ะ”ฮะ?ฉู่เฉินรีบเงยหน้าหันขวับไปมองหลิ่วหรูเยียนแกล้งฉันเกินครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ฉันเกือบจะถูกเปิดโปงใต้โต๊ะแล้ว แต่เธอบอกจะไปก็ไปเนี่ยนะ?“ขอบคุณการรักษาด้วยสปาของคุณฉู่นะคะ บ๊ายบาย”หลิ่วหรูเยียนยังไม่ลืมโบกมือลาฉู่เฉินที่หน้าแดงก่ำอยู่ จากนั้นขาเรียวงามนั้นก็เดินส่ายสะโพกสวยไปมาแล้วหายไปจากสายตาของฉู่เฉินเมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนลุกจากที่นั่งแล้ว ต้วนหลิงเวยก็ไม่พลาดโอกาสเข้ามาแทนที่จึงได้นั่งข้างฉู่เฉิน ดวงตางามคู่นั้นชำเลืองมองใต้โต๊ะเป็นระยะ ๆอาจเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้ดวงตาคู่งามของเธอนั้นระยิบระยับมีเสน่ห์เวลาไม่นาน
ถึงแม้ว่าเซียวเฟิงจะมีอคติกับฉู่เฉินตลอดมา แต่วันนั้นฉู่เฉินทั้งโอบทั้งกอดน้องเซียวเสวี่ยอิ๋งของเขาต่อหน้าคนมากมายแบบนั้น ทั้งที่ทั้งสองคนยังไม่ได้คบกันอย่างเปิดเผยสักหน่อย แต่รอบกายฉู่เฉินกลับมีผู้หญิงมากมายขนาดนั้นแล้วนี่คืออะไรกัน?สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่อาจทนเห็นเซียวเสวี่ยอิ๋งเสียเปรียบได้นั่นเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาเลยนะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ซิสค่อน แต่เซียวเฟิงจะไม่ยอมให้ฉู่เฉินมีคนอื่นแต่ก็ยังเหล่น้องสาวเขาแน่“ท่านนี้คือผู้จัดการใหญ่หลิ่วของฉู่ซื่อกรุ๊ป ชื่อหลิ่วหรูเยียน มาให้ฉันช่วยรักษาอาการให้น่ะ เมื่อกี้รักษาด้วยวารีบำบัดให้เขา เสียงกรีดร้องนั้นพวกคุณก็ได้ยินกันแล้วสินะ?”ฉู่เฉินตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มรักษาด้วยวารีบำบัด?หลิ่วหรูเยียนได้ยินแล้วเม้มปากโดยไม่รู้ตัว วารีบำบัดที่ไหนทำกันแบบนี้ฮะ?จนถึงตอนนี้เธอยังรู้สึกถึงความเจ็บจี๊ดอยู่เลยนะ“วะ…วารีบำบัด?”ไม่เพียงแค่เซียวเฟิงคนเดียวที่ขมวดคิ้ว แม้แต่ถานเฟยก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ“ไม่จำเป็นต้องมาสนใจเรื่องยิบย่อยเหล่านี้ ทุกคนคงหิวกันแล้วใช่ไหม กินข้าวกันเถอะ”ขณะกล่าวฉู่เฉินก็เดินไปนั่งตรงกลางระหว่างต้วนหลิงเสวี่
เซียวเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วค่อยนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับถานเฟย แต่สายตายังคงมองไปทางอาคารปีกตะวันออกเป็นระยะหลังจากผ่านไปสิบกว่านาทีเต็ม ประตูห้องรับแขกก็เปิดออก ก่อนที่ฉู่เฉินจะเดินเข้ามาในห้องรับแขก“คุณฉู่”ถานเฟยกับเซียวเฟิงพากันลุกขึ้น แล้วผงกศีรษะทักทายฉู่เฉินฉู่เฉินยิ้มพลางโบกมือกล่าวว่า “หัวหน้าใหญ่ถาน นั่งสิครับ”เมื่อพูดจบก็ให้ต้วนหลิงเวยรินชาหอมให้ทั้งสองคน ฉู่เฉินดื่มน้ำชาไปด้วย ยิ้มพลางเอ่ยปากพูดไปด้วยว่า “หัวหน้าใหญ่ถาน ดึกดื่นมาเยี่ยมกัน มีธุระเหรอครับ?” ถานเฟยสบตากับเซียวเฟิงแวบหนึ่งแล้วค่อยเอ่ยปากพูดอย่างเขินอายว่า “คุณชายฉู่ พูดแบบไม่ปิดบังเลยนะครับ ผมมาเจียงจงครั้งนี้ก็เพื่อขอให้คุณฉู่ลงมือช่วยเหลือ”“คุณยังจำเรื่องของสำนักว่านเซี๋ยได้หรือเปล่าครับ?”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยภาพถ่ายที่ถานเฟยให้เขาดูบนเฮลิคอปเตอร์ แต่ละใบล้วนเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังของเด็กอายุไม่ถึงสิบขวบรวมไปถึงซากแขนขาที่มีเลือดนองพื้น ฉู่เฉินไม่มีทางลืมไปชั่วชีวิต“จากเบาะแสที่คุณฉู่ให้มา ตอนนี้แก๊งมังกรจับตัวคนของสำนักว่านเซี๋ยได้หลายคนแล้วจริง ๆ จากคำให้การของพวกเขา ยังมีบุ
ฉู่เฉินที่ถลกชายกระโปรงของต้วนหลิงเวยขึ้นมา เตรียมจะทำการใหญ่ก็ตกใจเสียงร้องของหลิ่วหรูเยียนจนสะดุ้ง เขารีบหันหน้ามองไปทางหน้าประตู เห็นว่าเป็นหลิ่วหรูเยียนก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้เจ้าทึ่มไม่ดูประตูใหญ่ หนีไปเตร็ดเตร่ที่ไหนอีกแล้วคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ยังบุกเข้ามาในห้องอาบน้ำของอาคารปีกตะวันออกได้โชคดีที่เป็นคนที่มาอาบนวดให้เขา ถ้าเกิดเป็นคนร้ายละก็ เช่นนั้นก็เป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงแล้วไม่ใช่หรือไง“ฉะ ฉู่เฉิน นาย...”ฉู่เฉินเหลือกตาใส่หลิ่วหรูเยียนแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “อะไรของเธอ เข้ามาทดสอบอุณหภูมิน้ำสิ” เขากล่าวจบก็ตบสะโพกอวบอิ่มของต้วนหลิงเวยที่ทำหน้าผิดหวังไปหนึ่งฉาด ฝ่ายหลังได้แต่ทำปากยื่น กระทืบเท้า บิดเอวแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำหลิ่วหรูเยียนมองฉู่เฉินที่แทบจะระเบิดโลก ในใจรู้สึกประหม่าถึงขีดสุดด้วยความรู้สึกที่ทั้งอยากรู้และประหม่า หลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ถอดชุดทำงานและกระโปรงมินิสเกิร์ตออก เหลือไว้เพียงชุดชั้นในลูกไม้สีดำ เรียวขาขาวเนียนทั้งสองข้างส่ายไหว บิดเอวก้าวเข้าไปในอ่างอาบน้ำเสียงน้ำดังซ่า ๆ ควบคู่ไปกับฉู่เฉินที่ก้าวเข้ามาใกล้หลิ่วหรูเยียน เขาเอื้อมมือไปจั
เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือนักพรตชิวสุ่ยที่ช่วยย้ายบ้านเมื่อตอนกลางวัน ต้วนหลิงเวยก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไมถึงเป็นคุณ?”นักพรตชิวสุ่ยรีบทำหน้ายิ้มแย้มให้ แล้วกวักมือเรียกนักพรตเด็กหลายคนที่อยู่ด้านหลัง นักพรตเด็กสิบกว่าคนที่แบกถุงกระสอบก็เดินมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว“คุณหนูท่านนี้ หลายวันก่อนรู้ว่าคุณฉู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังหาโอกาสเหมาะ ๆ มาแสดงความห่วงใยไม่ได้เลย นี่เป็นสมุนไพรร้อยปีที่เก็บรักษาไว้ในคลังยาของสำนักเสวียนเทียนเรา ตั้งใจนำมามอบให้คุณฉู่โดยเฉพาะครับ” นักพรตชิวสุ่ยกล่าวจบก็ยังชะเง้อคอ มองเข้าไปในวิลล่าเฟิ่งหมิงแวบหนึ่ง“มองอะไร!”ต้วนหลิงเวยถลึงดวงตางาม เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “ทิ้งสมุนไพรไว้ คุณไปได้แล้ว รบกวนการพักผ่อนของนายท่าน ระวังหัวของคุณไว้ด้วยละ!”เดิมทีต้วนหลิงเวยข่มกลั้นเพลิงตัณหาไว้ในใจอยู่แล้ว เมื่อเห็นดวงตาสองข้างของนักพรตชิวสุ่ยกวาดมองไปทั่วก็ยิ่งเดือดดาล เธอหิ้วถุงกระสอบบนพื้นขึ้นมา ก่อนจะหันกายเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงเงาหลังอันอ่อนช้อยให้นักพรตชิวสุ่ยเมื่อโดนปิดประตูไม่ต้อนรับแขก นักพรตชิวสุ่ยก็ได้แต่จากไปด้วยความอับอายแต่เขาเ
“ใครกันนะ ทำเอาเสียอารมณ์เลย!”ต้วนหลิงเสวี่ยวักน้ำที่ขอบอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ พลางปลดกระดุมกี่เพ้าออกความขาวเนียนดุจหิมะเผยออกมาตรงหน้าฉู่เฉินเช่นนี้เอง โดยเฉพาะทรวงอกอวบอิ่ม ดูขาวเนียนนุ่มลื่นจริง ๆบางทีอาจเป็นเพราะปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ฉู่เฉินถึงได้ประทานความเมตตาอย่างทั่วถึงมาโดยตลอด ความสามารถของต้วนหลิงเวยเพิ่มพรวดพราด แต่จนถึงตอนนี้ความสามารถของต้วนหลิงเสวี่ยกลับไม่เพิ่มขึ้นมากนักตรงกันข้าม บางส่วนบนร่างกายยิ่งโดดเด่นขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งนุ่มลื่นขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วยฉู่เฉินกลืนน้ำลาย พยายามข่มใจใช้เคล็ดวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง แล้วก้มหน้ามองหน้าจอแวบหนึ่งเดิมทีเขายังนึกว่าเป็นถานเฟย แต่ก็พบว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นคนที่โทรศัพท์มา แววตาของฉู่เฉินอดเปล่งประกายไม่ได้เขามองอ่างอาบน้ำที่มีขนาดเท่าห้องอาบน้ำเล็ก ๆ ก่อนจะเลียริมฝีปาก กดรับสายแล้วพูดว่า “นี่เพิ่งแยกจากกันไม่กี่วัน เธอคงไม่ได้คิดถึงกันอีกแล้วใช่ไหม?”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ปลายสายเงียบไปพักใหญ่ จากนั้นถึงค่อยเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ฉู่เฉิน นายยังจำเรื่องประชุมบอร์ดบริหารที่ฉันเคยบอ
ฉู่เฉินทำให้อวี่ลู่โกรธจนเวียนหัวแล้ว บำเพ็ญเพียรอยู่ในแดนเซียนอย่างยากลำบากมากว่าพันปี เธอไม่เคยเจอคนที่หน้าหนาขนาดนี้มาก่อนเลย ทำไมดูเหมือนเธอติดหนี้บุญคุณฉู่เฉินอย่างใหญ่หลวงแทนล่ะ? ดูเหมือนเธอช่วยเหลือฉู่เฉินทุกอย่างเลยไม่ใช่เหรอนี่ทำให้เธอหงุดหงิดมาก และไม่เข้าใจมาก ๆเมื่อได้ยินว่าจะย้ายบ้าน อินซู่ซู่กับพี่น้องตระกูลต้วนกลับดีใจอย่างยิ่งบ้านเก่าของตระกูลฉู่ไม่ได้รับการซ่อมแซมมานานแล้วจริง ๆ ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย แค่ประตูใหญ่บานนี้ก็ถูกคนผลักจนล้มมาหลายครั้งแล้วภายใต้ความช่วยเหลือจากนักพรตชิวสุ่ยกับบรรดานักพรตน้อยของสำนักเสวียนเทียน ไม่นานก็เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะย้ายเข้าไปในวิลล่าเฟิ่งหมิงอย่างเอิกเกริกทันทีที่เข้าไปในประตู ความขุ่นเคืองในใจของอวี้ลู่เหมือนจะสลายหายไปทันทีพูดตามตรง สไตล์การตกแต่งแบบโบราณนี้เข้ากับรสนิยมของเธอมากจริง ๆ ที่สำคัญคือเครื่องใช้ไฟฟ้าทันสมัยในบ้านก็มีครบครัน นี่สะดวกสบายมาก หลังจากนั้นก็เดินตามฉู่เฉินวนภายในถ้ำที่ภูเขาด้านหลัง เมื่อเธอเห็นน้ำพุสวรรค์เนตรมังกร นัยน์ตาอดส่องประกายขึ้นมาไม่ได้จุ๊บ!อวี้ลู่อดไม่ได้ที่จะกอ
“คุณฉู่ ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา!”นักพรตชิวสุ่ยคุกเข่าลงตรงหน้าฉู่เฉินดังตุบฉู่เฉินหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้ผมเคยรับปากอะไรคุณด้วยเหรอ?”ซี้ด!นักพรตชิวสุ่ยกลืนน้ำลายแรง ๆ เพลิงโทสะสุมทรวงถึงขีดสุด “เรียกนักพรตน้อยตรงหน้าประตูพวกนั้นมา แล้วตามผมกลับไปบ้านเก่าของตระกูลฉู่” ฉู่เฉินตบไหล่นักพรตชิวสุ่ยเบา ๆ “นี่คุณ...” นักพรตชิวสุ่ยมองฉู่เฉินอย่างไม่เข้าใจ“ย้ายบ้าน”ฉู่เฉินกล่าวจบก็เดินออกจากถ้ำโดยไม่หันหน้ากลับมาเช่นกันเวรเอ๊ย!นักพรตชิวสุ่ยแทบจะกระอักเลือดออกมา นี่ฉู่เฉินไม่รอสักครู่หนึ่งเลยจริง ๆปัญหาคือทางฝั่งสำนักเสวียนเทียนยังคาราคาซังอยู่เลยตอนนี้นักพรตชิวสุ่ยร้อนใจเหมือนถูกไฟแผดเผานานแล้ว แต่เขาไม่กล้าแสดงออกมาอีก รู้สึกแค่ว่าเหมือนตับไตไส้พุงใกล้จะถูกไฟเผาไหม้แล้วต่อให้เป็นแบบนี้ เขาก็ได้แต่ทำตามด้วยความเชื่อฟังเท่านั้น.....บรรดาผู้หญิงที่กำลังรอข่าวของฉู่เฉินอย่างเงียบ ๆ ในบ้านเก่าตระกูลฉู่ เมื่อเห็นฉู่เฉินพานักพรตชิวสุ่ยกับนักพรตน้อยสี่ห้าคนเข้าบ้านมาด้วยกัน พวกเธอก็ลุกขึ้นมาด้วยความรู้สึกประหลาดใจอินซู่ซู่วิ่งไปที่ห้องนอ
ฉู่เฉินยิ้มอย่างเฉยชาแล้วพูดว่า “เมื่อกี้หัวหน้าใหญ่ถานพูดไว้ไม่ใช่เหรอครับ? ว่าจะแจ้งประธานซู ผมคิดว่าประธานซูคงไม่เห็นแก่เรื่องส่วนตัวหรอกใช่ไหมครับ” หา?!เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ร่างกายของเจียงจงต้าวทรุดฮวบลงกับพื้นสองปีมานี้ เขารับสินบนมาไม่น้อย และไม่รู้ว่าทำเรื่องผิดศีลธรรมไปมากเท่าไหร่ ถ้าเกิดโดนสมาคมเสวียนเหมินปลดออกจากตำแหน่งจริง ๆ เช่นนั้นเขาก็ย่ำแย่แล้ว“ได้ครับ งั้นผมจะทำตามที่คุณฉู่ว่า พอผมจัดการเรื่องราวเสร็จแล้ว จะไปรวมตัวกับคุณฉู่ที่วิลล่าเฟิ่งหมิงนะครับ” ถานเฟยกล่าวอย่างมีความนัยแอบแฝงฉู่เฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ก็ดีครับ มีเรื่องอะไรไว้ไปถึงที่วิลล่าเฟิ่งหมิงแล้วค่อยคุยกันก็ยังไม่สาย” ฉู่เฉินกล่าวจบก็หิ้วนักพรตชิวสุ่ยเหมือนกับหิ้วลูกเจี๊ยบเดินออกจากอาคารสำนักงานของแก๊งมังกรชิงซงกำลังคิดจะแอบหนีไป ผลปรากฏว่าถูกเซียวเฟิงคว้าคอเสื้อไว้ ทำเอาชิงซงตกใจกลัวจนขาอ่อนยวบก่อนจะคุกเข่าลงไป“ผู้บัญชาการเซียว...” เซียวเฟิงหัวเราะหยันแล้วพูดว่า “ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นตามอำเภอใจ ดูถูกแก๊งมังกร วันนี้คุณไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น และใช้เวลาครึ่งชีวิตที่เหลือของคุณในคุกของ