หลิ่วหรูเยียนหัวเราะในลำคอ “คุณแม่คงไม่คิดว่าไอ้ฉู่เฉินมีความสามารถด้านการแพทย์จริงๆ หรอกใช่ไหมคะ?”“แค่หาใครก็ได้ไปเปิดโปงเขา จะชนะได้รางวัลไหมไม่สำคัญซักนิด หนูแค่อยากให้ทุกคนรู้ว่ามันเป็นจอมลวงโลก!”“แค่แฉกลโกงของมันได้ พวกเราสองแม่ลูกก็กอบกู้ชื่อเสียงกลับมาได้แล้วไม่ใช่เหรอคะ?”“อีกอย่าง ถึงตอนนั้นเราฉวยโอกาสเหยียบซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลของมันให้จมดิน แล้วก็ถีบบริษัทของมันออกจากเมืองเจียงจงไปเลย หรือไม่ก็ทำให้มันล้มละลายจนต้องปิดบริษัทไปซะ!”หลิ่วชิงเหอครุ่นคิดครู่หนึ่ง “หรูเยียน แม่จำเป็นต้องเตือนลูก ฉู่เฉินในตอนนี้ ต่างจากเมื่อก่อนมากจริงๆ ลูกอย่า…”“โอ๊ย คุณแม่คะ”หลิ่วชิงเหอยังพูดไม่ทันจบ หลิ่วหรูเยียนก็ตัดบทอย่างรำคาญว่า “มันจะต่างจากเมื่อก่อนได้ยังไง เมื่อก่อนมันเป็นไอ้พิการที่แขนขาเกือบหักหมด ตอนนี้ก็แค่กลับมาเดินเหินได้ปกติเท่านั้นเอง”“แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ยังเป็นแค่ไอ้สวะที่นกเขาไม่ขันไม่ใช่หรือไงคะ?”“เอาเป็นว่า เรื่องนี้คุณแม่ไม่ต้องยุ่ง หนูจัดการเองได้ค่ะ”พูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็เดินกระฟัดกระเฟียดขึ้นไปชั้นบนหลิ่วชิงเหอมองแผ่นหลังของหลิ่วหรูเยียน ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึ
สัมผัสอันผ่อนคลายที่มาพร้อมกับริมฝีปากเล็กๆ ของจินหลิงเอ๋อร์ ทำให้ฉู่เฉินดำดิ่งสู่ห้วงภวังค์ต้องยอมรับว่าไอ้แก่หลี่เต้าผิงมีความสามารถด้านการปรุงยาจริงๆขนาดผู้หญิงบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนอย่างจินหลิงเอ๋อร์ หลังจากถูกพิษจากยาปลุกกำหนัดของเขาเข้า ยังถูกครอบงำด้วยแรงปรารถนาอันร้อนรุ่มในพริบตาถึงแม้ฉู่เฉินจะผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจินหลิงเอ๋อร์ที่บ้าคลั่งอย่างนี้ เขากลับควบคุมตัวเองไม่ได้เลยแม้แต่น้อยอย่างไรจินเจิ้นหลงกับจินอ้าวเทียนก็ไม่อยู่ ฉู่เฉินจึงดันประตูห้องออก อุ้มจินหลิงเอ๋อร์ที่ร้อนรุ่มไปทั้งตัวเดินไปที่ลานบ้าน กวาดสายตามองรอบๆ ก่อนที่สายตาของเขาจะสะดุดที่ศาลากลางลานสวน เขาปัดเครื่องชาบนโต๊ะออก จากนั้นก็จับตัวจินหลิงเอ๋อร์ขึงไว้บนโต๊ะแสงแดดอ่อนๆ สาดส่องไปที่ใบหน้าแดงเรื่อของจินหลิงเอ๋อร์ ทำให้ดวงหน้าที่สวยอยู่แล้วของเธอ ยิ่งดูหยาดเยิ้มขึ้นอีกหลายส่วนฉู่เฉินยกมือวาดยันต์พรางกาย จากนั้นก็ยกอาวุธออกศึกทันทีผ่านไปไม่นาน เสียงครวญครางอันกระเส่าเร่าร้อนและเสียงกระแทกเป็นจังหวะดังผสมปนเปกันอยู่ในลานสวน……ในเวลานี้เอง รถเบนซ์หรูสีดำคันหนึ่งขับเ
ในอีกด้านหนึ่ง จ้าวคังขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางกระสับกระส่ายของพ่อบ้าน หลิงเอ๋อร์ไม่สบายเหรอ?จ้าวคังอาศัยจังหวะที่พ่อบ้านไม่ทันสังเกต แอบลุกขึ้นเดินไปที่ประตูด้านหลังของห้องรับแขก เขาดันประตูออกเบาๆ และเดินมาที่เรือนหลังแต่เพิ่งจะเดินมาถึงเรือนหลัง เสียงกระแทกเป็นจังหวะแปลกๆ ก็ดังมาเข้าหูหืม?!จ้าวคังสะดุ้ง ทำไมเสียงนี้ฟังดูคุ้นหูจัง เหมือนฉากในหนังสั้นที่เขาเคยดูสมัยอยู่หอพักช่วงมหาลัยอย่างไรอย่างนึกมาถึงตรงนี้ หัวใจของจ้าวคังหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม!เขาสาวเท้าเดินไปที่ประตูเรือนของจินหลิงเอ๋อร์โดยจิตใต้สำนึก ก่อนจะแนบหูเข้ากับประตูเรือน เงี่ยหูฟังเสียงความเคลื่อนไหวจากด้านในเฮือก!ไม่ฟังยังดีซะกว่า พอได้ยินเสียงข้างใน จ้าวคังรู้สึกเหมือนเขาบนหัวงอกยาวขึ้นมาในพริบตาไฟโทสะพุ่งปรี๊ดจากเท้าขึ้นมาถึงบนหน้าผาก!พ่อลูกตระกูลจิน ทำกันเกินไปแล้ว!ถึงแม้ตระกูลจินไม่อยากดองกับตระกูลจ้าว ก็ไม่จำเป็นต้องหมิ่นเกียรติกันขนาดนี้!นึกมาถึงตรงนี้ จ้าวคังยกเท้าขึ้นถีบประตูเรือนเต็มแรง!โครม!เสียงบานประตูกระแทกเข้ากับกำแพงดังขึ้น พ่อบ้านที่กำลังร้อนใจเหมือนมดที่อยู่บนปากหม้อร้อนๆ
“กรี๊ด!”จินหลิงเอ๋อร์เห็นหมัดของจ้าวคังเหวี่ยงมาทางเธอ นัยน์ตางามพลันหดเล็กลง ก่อนจะหลุดร้องเสียงแหลมออกมาทว่า ในพริบตาที่หมัดของจ้าวคังอยู่ห่างจากจินหลิงเอ๋อร์ไม่ถึงสองนิ้ว ฉู่เฉินยกมือข้างหนึ่งกดหัวไหล่กลมมนของจินหลิงเอ๋อร์ ในขณะที่ใช้มืออีกข้างหนึ่งกดเอวอันคอดบางของจินหลิงเอ๋อร์ จากนั้นก็พลิกหมุนตัวทำให้หลบหมัดที่อันตรายถึงชีวิตของจ้าวคังไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ติ๋ง!เพราะเคลื่อนไหวแรงเกินไป ส่งผลให้เม็ดเหงื่อถูกสะบัดมาโดนแว่นตาของจ้าวคังจ้าวคังกัดฟันกรอด!ตอนนี้เขามั่นใจได้แล้วว่าจินหลิงเอ๋อร์กับผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น อยู่แถวๆ นี้ไม่ผิดแน่ไม่อย่างนั้น จะอธิบายเม็ดเหงื่อที่อยู่บนแว่นตาของเขายังไง?ด้วยความเดือดดาล จ้าวคังถอดแว่นออกมาดม แล้วก็ได้กลิ่นหอมจางๆ ของแชมพูดังคาดแชมพูยี่ห้อนี้ เป็นยี่ห้อที่จินหลิงเอ๋อร์ชอบที่สุดหนำซ้ำจ้าวคังยังเคยซื้อให้จินหลิงเอ๋อร์ด้วยตัวเองอีก“ออกมา!”ดวงตาของจ้าวคังเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย เขาตะโกนใส่อากาศในลานสวนด้วยความเคียดแค้นแต่กลับมองไม่เห็นเงาของใครสักคนไอ้เชี่ยเอ๊ยโดนสวมเขายังไม่น่ากลัวเท่าไร แต่ที่น่ากลัวกว่าก็คือ มีคนสวมเข
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่จะถามพี่ว่าบริษัทในเครือตระกูลกู้ของเรา จะได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเปิดตัวด้วยหรือเปล่า?”กู้รั่วเสวี่ยพูดอย่างลังเลว่า “พวกผู้ใหญ่ในตระกูลเองก็ได้ยินเรื่องยาบำรุงปราณมาบ้างแล้ว พวกเขาสนใจงานเปิดตัวมากทีเดียว ฉันก็เลยคิดว่า…”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงดัง “ได้อยู่แล้ว อีกเดี๋ยวผมจะให้เสียวหู่ส่งบัตรเชิญแขกวีไอพีไปให้คุณใบหนึ่ง”“จริงเหรอ? ดีจังเลย เดี๋ยวฉันโทรศัพท์บอกพวกผู้ใหญ่ก่อนนะ ว่างแล้วค่อยคุยกัน”พอเห็นฉู่เฉินตอบตกลงอย่างรวดเร็ว กู้รั่วเสวี่ยวางสายอย่างอารมณ์ดี……ในอีกด้านหนึ่ง ณ โรงงานร้างแห่งหนึ่งที่อยู่แถบชานเมืองของเมืองเจียงจง หลี่เต้าผิงที่หนีเอาตัวรอดมาทั้งคืน ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาในที่สุดกลิ่นอายรอบตัวของเขา กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกครั้งหลังจากถอนหายใจออกมายาวๆ เขาลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทั่วตัว เมื่อเสียงดังกร๊อบแกร๊บดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลี่เต้าผิงจึงค่อยเผยรอยยิ้มออกมาไอ้เด็กแซ่ฉู่มีดีแค่นี้เองเหรอการต่อสู้เมื่อคืนที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาประมาทศัตรูเกินไป ไอ้เด็กแซ่ฉู่นั่นไม่มีทางได้เปรียบแน่นอนเหอะ!นึกมาถึงตรงนี้ หลี่เต้าผิงรู้ส
เวลานี้ หลิ่วหรูเยียนที่สวมชุดนอนกระโปรงเนื้อบางสีชมพู กำลังเอนกายในท่ากึ่งนอนอยู่บนโซฟาเธอใช้หน้าอกขนาดใหญ่สองลูกเป็นฐานประคองมือถือ และเลื่อนดูนิวฟีดที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้เรียวขายาวและขาวเนียนเบียดเสียดกันอยู่ในท่าไขว่ห้าง ตรงขอบกระโปรง มีขอบลูกไม้สีขาวโผล่มาให้เห็นวับๆ แวมๆขณะที่หลิ่วชิงเหอซึ่งอยู่ข้างๆ เปิดเผยเรือนร่างอันเย้ายวนแทบจะทั้งหมด เธอนอนคว่ำหน้ากอดหมอนข้างอยู่อีกด้านหนึ่งของโซฟามือเรียวสวยเอื้อมไปหยิบลูกเชอร์รีมากินหลี่เต้าผิงที่ซุ่มอยู่นอกหน้าต่างเงียบๆ แอบดูภาพตรงหน้าที่เรียกเลือดลมให้พลุ่งพล่านได้เป็นอย่างดี เขารู้สึกราวกับเลือดในร่างกายของเขากำลังเดือดพล่านไปทั้งตัว!โดยเฉพาะเรือนร่างของหลิ่วหรูเยียน หากมองจากมุมที่เขาอยู่ตอนนี้ เรียกได้ว่าเห็นทุกสัดส่วนอย่างชัดเจน!“ไอ้แซ่ฉู่ แกช่างมีบุญเรื่องผู้หญิงเสียจริง”หลี่เต้าผิงกัดฟันสบถด่า“ตึก!”พริบตาต่อมา หลี่เต้าผิงเขย่งปลายเท้า กระโดดเข้าไปทางหน้าต่างโดยตรงเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั่น ทำให้หลิ่วชิงเหอและหลิ่วหรูเยียนหันไปมองทางหลี่เต้าผิงพร้อมกัน“กรี๊ด!”หลิ่วชิงเหอเห็นชายชราหนวดขาวในชุดนักพร
“หรูเยียน!”หลิ่วชิงเหอพุ่งตัวออกจากประตูไปโดยที่ไม่สนใจว่าตัวเองเปลือยเปล่าอยู่แต่พอมาถึงหน้าประตูใหญ่ กลับไม่เห็นเงาร่างของหลี่เต้าผิงกับหลิ่วหรูเยียนเสียแล้วแย่แล้ว!ความบริสุทธิ์ของหรูเยียนกำลังจะถูกทำลาย!ถึงหลิ่วชิงเหอไม่รู้ว่าหลี่เต้าผิงเป็นใคร แต่แววตาหื่นกามของมันได้บ่งบอกทุกอย่างหมดแล้วหรูเยียน!ลูกสาวของแม่ แม่ผิดเองที่ปกป้องลูกไม่ได้หลิ่วชิงเหอร้อนใจจนน้ำตาไหลเป็นสาย แต่กลับทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย“คุณผู้หญิง ป้าผิดเองที่ไร้ความสามารถ ปกป้องคุณหนูไว้ไม่ได้ ลงโทษป้าเถอะค่ะ”ป้าอู๋เดินมาหยุดยืนต่อหน้าหลิ่วชิงเหอด้วยสีหน้าละอายแก่ใจ เธอก้มหน้าต่ำ ไม่กล้าสบตาหลิ่วชิงเหอที่จริงฝีมือป้าอู๋ก็ไม่ธรรมดาแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้ เธอกลับพบว่าตัวเองเหมือนจะกลายเป็นนักสู้ตัวเล็กๆ ที่ถูกคนอื่นบีบให้จนมุมอยู่เรื่อยตอนแรกก็ถูกฉู่เฉินข่มเหงอย่างเหิมเกริมถึงสองครั้ง ตอนนี้ยังถูกไอ้แก่คนนั้นกำราบได้ในคราวเดียว ทำให้ไม่สามารถปกป้องสองแม่ลูกหลิ่วชิงเหอกับหลิ่วหรูเยียนได้ มิหนำซ้ำยังเปลือยกายต่อหน้าไอ้แก่นั่นอีกหลิ่วชิงเหอตวัดสายตาเย็นชามองมาทางป้าอู๋ ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ฉู่เฉินล
เมื่อได้ยินว่าโทรศัพท์สายไม่ว่าง หลิ่วชิงเหอก็โกรธจนหน้าเขียว! ฉู่เฉินทำแบบนี้ได้อย่างไร?ต่อให้เธอกับหลิ่วหรูเยียนเคยทำผิดอะไรมาก่อน แต่ฉู่เฉินก็จะเลือดเย็นขนาดนี้ไม่ได้เหมือนกันนะ?เขามองหลิ่วหรูเยียนโดนลักพาตัว แถมยังพูดจาแดกดันอยู่ทางด้านข้างได้อย่างไร? ไอ้เวรสมควรตายเอ๊ย! หลิ่วชิงเหอโกรธแค้นจนกัดฟันกรอด บีบโทรศัพท์ในมือจนดังกรอบแกรบ แต่ว่า...เมื่อคิดถึงภาพหลิ่วหรูเยียนโดนไอ้แก่นั่นแบกไป หลิ่วชิงเหอก็เหมือนกับโดนน้ำเย็นราดใส่หัว โทสะในใจมอดดับลงในพริบตา ไม่ได้นะ! ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาแตกหักกับฉู่เฉิน เธอต้องอดทนชั่วคราวเพื่อช่วยลูกสาวแม้ว่าให้เธอทำตัวเป็นอัศวิน เมื่อเทียบกับความบริสุทธิ์ของหลิ่วหรูเยียนแล้ว เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญขนาดนั้นเลย ขอเพียงหลิ่วหรูเยียนสามารถกลับมาอยู่ข้างกายเธออย่างปลอดภัยได้ อ่อนข้อให้ไอ้เด็กเวรนี่ไว้ก่อนชั่วคราวจะเป็นไรไปถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำมาก่อนเมื่อคิดได้ดังนั้น หลิ่วชิงเหอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างสั่นเทา ก่อนโทรหาฉู่เฉินอีกครั้งฉู่เฉินกวาดตามองชื่อที่โทรมาบนโทรศัพท์แวบหนึ่งก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกดปุ่มปฏิเสธกา