“บอกมา จินเจิ้นหลงอยู่ที่ไหน?”ฉินหล่างเอ่ยปากพูดด้วยเสียงเย็นชา“แกกล้าดีนักนะที่ทำตัวไร้มารยาทกับศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเรา!”เมื่อเห็นหลี่ก่านถูกฉินหล่างหิ้วขึ้นกลางอากาศ ลูกศิษย์ของสำนักหลายคนก็รวบรวมความกล้าพุ่งไปข้างหน้า ทว่าพวกเขามาเร็ว แต่ก็ไปเร็วยิ่งกว่า ถึงขนาดที่พวกเขายังไม่ทันเข้าใกล้ฉินหล่าง ก็เห็นฝ่ายตรงข้ามโบกมือทีหนึ่ง สายลมพัดมาอย่างรุนแรง ลูกศิษย์สิบกว่าคนของสำนักพากันล้มลงไปกองกับพื้นลุกไม่ขึ้นอีก ไม่รู้ว่าตายหรือยัง “ซี้ด!” เมื่อเห็นฉากนี้ หลี่ก่านก็อดตกใจกลัวจนหนังศีรษะชาไม่ได้ เมื่อกี้มือของฉินหล่างปล่อยปราณแท้ออกมา ขนาดจินเจิ้นหลงที่เป็นอาจารย์ของเขาก็ทำเรื่องนี้ไม่ได้เลยมั้ง?นี่อธิบายได้ว่าพลังของอีกฝ่ายเหนือกว่าจินเจิ้นหลงมาก! “บอกมา จินเจิ้นหลงอยู่ที่ไหน ฉันขอเตือนแกไว้เลยว่าความอดทนของฉันมีจำกัดมาก!” ฉินหล่างค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น สายตาที่พร้อมจะฆ่าคนจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของหลี่ก่าน ทำให้หลี่ก่านตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษทันที เหงื่อเย็น ๆ ไหลรินลงมา“ท่านผู้กล้าได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย ผะ...ผมจะบอก ผมจะบอก อาจารย์ของผมอยู่ที่...” ขณะที่ฉิ
“พ่อ พวกเราไม่ไป!” จินอ้าวเทียนกับจินหลิงเอ๋อร์เอ่ยด้วยสีหน้าดื้อรั้นจินเจิ้นหลงขมวดคิ้วเอ่ยเสียงเคร่งขรึมว่า “คนที่มาไม่เป็นมิตร พ่ออาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา พวกลูก...”จินเจิ้นหลงยังไม่ทันพูดจบ จินอ้าวเทียนก็พุ่งปราดเข้าไป จินอ้าวเทียนสังเกตฉินหล่างพลางแค่นเสียงเย็นแล้วพูดว่า “แกแม่งเบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม กล้าลงมือทำร้ายคนในถิ่นของสำนักตระกูลจินเราเหรอ?”สิ้นเสียงพูด จินอ้าวเทียนก็ยกมือขึ้นต่อยหมัดพิฆาตใส่หน้าของฉินหล่างก่อนหน้านี้โดนฉู่เฉินสั่งสอนไปหนึ่งยก จินอ้าวเทียนก็เดือดดาลอยู่แล้ว ตอนนี้มีไอ้คนรนหาที่ตายจากไหนก็ไม่รู้มาเป็นที่ระบายอารมณ์ให้เขาได้พอดี แต่ไม่ว่าอย่างไรคุณชายจินก็คิดไม่ถึงว่าชายวัยกลางคนที่ไม่เตะตาตรงหน้านี้ยังมีความสามารถเหนือกว่าพ่อของเขาเสียอีกเขาเพิ่งจะออกหมัดนี้ลงไปก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงส่งมาจากตรงท้องน้อย วินาทีต่อมา ร่างกายของเขาก็กระเด็นลอยออกไปโครม!จินอ้าวเทียนตกลงไปไกลเจ็ดแปดเมตร ก่อนจะกระอักเลือดออกมา“แก...” เวรเอ๊ย นี่มันเล่นสกปรกนี่หว่า จินอ้าวเทียนเอามือกุมเป้ากางเกง ร้องไห้เสียงดังตะโกนบอกจินเจิ้นหลงด้วยสีหน้า
“ผมทำเท่าที่ทำได้แล้ว นอกจากนี้ขอเพียงคุณเชื่อฟังแต่โดยดี บอกที่อยู่ของฉู่เฉินออกมา ผมคิดว่าคุณฉินจะต้องเมตตาคุณแน่” หลี่ก่านกล่าวจบก็เบนสายตาไปทางฉินหล่าง ความจริงแล้วระหว่างทางที่มาตระกูลจิน หลี่ก่านได้เล่าเรื่องของซ่งหู่ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว นอกจากนี้ยังตั้งใจพาฉินหล่างวนบริเวณรอบข้างบ้านใหญ่ตระกูลฉู่เป็นพิเศษด้วยแต่น่าเสียดายที่ฉู่เฉินทำการควบคุมไว้อย่างลับ ๆ ก่อนที่จะไป ด้วยเหตุนี้พวกเขาสองคนวนรอบบ้านใหญ่ตระกูลฉู่สามรอบก็หาบ้านเก่าตระกูลฉู่ไม่เจอนี่ถึงได้ย้อนกลับมาทางเดิม ไปที่ตระกูลจิน “เหอะ พวกแกหลงผิดไปแล้วจริง ๆ! คุณฉู่มีบุญคุณกับตระกูลจินของฉัน ต่อให้ฆ่าพวกเรา พวกแกก็อย่าหวังว่าจะรู้ที่อยู่ของคุณฉู่เลย!” จินเจิ้นหลงยังไม่ทันเอ่ยปาก จินหลิงเอ๋อร์ก็ตวาดด้วยความเกรี้ยวกราด เอ่ยปากพูดอย่างเด็ดขาด“คุณฉิน คุณก็เห็นแล้วนะครับ ตระกูลจินใจแข็งกันหมด ถ้าเกิดไม่สั่งสอนพวกเขาสักหน่อย เกรงว่าพวกเขาคงไม่บอกที่อยู่ของฉู่เฉินหรอกครับ” ฉินหล่างหัวเราะอย่างเหี้ยมเกรียม ดวงตาเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยตัณหากวาดมองร่างของจินหลิงเอ๋อร์ไปมา จากนั้นเขาก็ก้าวมาข้างหน้า ก่อนจะโบกมือให้หลี่ก่
ฉินหล่างหันหน้าไปมองจินอ้าวเทียนแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มเหี้ยมว่า “พูดมา!” “ฉู่เฉิน...จริง ๆ แล้วฉู่เฉินก็เป็นแค่คนช่วยเหลือ คนที่ต้องการฆ่าซ่งหู่จริง ๆ คะ...คือโจวเทียนเฟิ่ง” จินอ้าวเทียนกลอกตาหลายครั้ง โยนความผิดไปที่โจวเทียนเฟิ่งทันที ถึงแม้ฉู่เฉินมีบุญคุณกับตระกูลจิน ไม่ว่ามองจากด้านไหนก็ไม่ควรบอกที่อยู่ของฉู่เฉินออกมา แต่ว่าโจวเทียนเฟิ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลจินจินอ้าวเทียนได้แต่เสียสละโจวเทียนเฟิ่งเพื่อช่วยเหลือจินหลิงเอ๋อร์ “อ้อ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ แววตาของฉินหล่างพลันเย็นเยียบ เขาหันไปหาหลี่ก่านที่ยังคงยืนอยู่หน้าประตูจ้องมองเรือนร่างของจินหลิงเอ๋อร์พลางน้ำลายไหล เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาราวกับจะฆ่าคนของฉินหล่าง หลี่ก่านก็ตกใจกลัวจนตัวสั่นทันที“พูดอีกอย่างก็คือ คนที่ชื่อโจวเทียนเฟิ่งถึงจะเป็นตัวการที่ฆ่าศิษย์น้องของฉันเหรอ?” ฉินหล่างหรี่ตามองจินอ้าวเทียน“ถูกต้อง ครอบครัวของซ่งหู่ตายในเงื้อมมือของสำนักเฟิ่งกันหมด เขากลับมาที่เจียงจงเพื่อแก้แค้น คนที่เขาตามหาก็คือโจวเทียนเฟิ่ง”จินอ้าวเทียนเล่ารายละเอียดทั้งหมดที่เขาได้ยินให้ฉินหล่างฟังหลังจากที่ฟังจินอ้าว
ปลาหยินหยางกับมังกรทองตัวเล็กนั้นคล้ายกับกำลังตอบสนองซึ่งกันและกันจากไกล ๆ ประสานพลังหยินหยางภายในร่างกายของฉู่เฉินไว้ เมื่อพลังวิญญาณมหาศาลทะลักเข้ามาในร่างกาย ทะเลปราณที่เคยว่างเปล่าของฉู่เฉินก็เต็มไปด้วยพลังวิญญาณเหลวสีทอง หลังจากสูดลมหายใจลึกติดต่อกันหลายครั้ง ระดับของฉู่เฉินก็หยุดอยู่ช่วงกลางของฝึกปราณชั้นหกอย่างมั่นคงแล้วส่วนสถานการณ์ของโจวเทียนเฟิ่งก็ใกล้เคียงกับฉู่เฉินเช่นกัน ขณะที่ปราณแท้ในร่างกายยิ่งเต็มเปี่ยม ตรงท้องน้อยของเธอก็ปรากฏลวดลายปลาหยินหยางในขณะที่โจวเทียนเฟิ่งตกตะลึง ทันใดนั้นก็มีเสียงต่อสู้ดังมาจากหน้าประตูฉู่เฉินขมวดคิ้ว ไม่สนใจเสียงด้านนอกประตู แต่อุ้มโจวเทียนเฟิ่งขึ้นมาแล้วกดเธอลงบนโซฟาทันที .....ปัง ๆๆ! เสียงดังสนั่นขึ้นหลายครั้ง บอดี้การ์ดหลายคนกระเด็นลอยเข้าไปในลานบ้านของเทียนเฟิ่งวิลล่า“ใครกัน!” หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดได้ยินเสียงดังผิดปกติก็รีบพุ่งออกมาจากคฤหาสน์เมื่อเขาเห็นเพื่อนร่วมงานหลายคนนอนกองกับพื้นหายใจรวยริน เขาก็อดเดือดดาลไม่ได้!“แกบังอาจนักนะ กล้าทำตัวเหิมเกริมที่เทียนเฟิ่งวิลล่า ดูสิว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้!” เมื่อสิ้นคำพูด หั
“คุณฉู่...” จงอาหู่ฝืนข่มกลั้นความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ลุกขึ้นมาอย่างโซเซ แต่วินาทีต่อมาเขาก็สูญเสียการทรงตัวอีกครั้งแล้วล้มลงไปกองกับพื้นทันที “เสียวหู่ ทำใจให้สบายรักษาอาการบาดเจ็บ ที่นี่ไม่มีเรื่องอะไรให้นายต้องยุ่งด้วยแล้ว” ฉู่เฉินสะบัดมือโยนขวดยาบำรุงปราณให้จงอาหู่ ก่อนจะเดินอยู่บนรองเท้าแตะไปหาฉินหล่างฉินหล่างนิ่วหน้าจ้องมองฉู่เฉิน อย่างไรก็ตามเขากลับมองพลังฝึกปรือของฉู่เฉินไม่ออกเลย กลิ่นอายของฉู่เฉินดูคลุมเครือเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา บางครั้งเหมือนยอดฝีมือระดับสุดยอด บางครั้งก็เหมือนคนธรรมดา นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? “แกก็คือฉู่เฉิน ตัวการที่สังหารซ่งหู่ศิษย์น้องของฉันใช่ไหม?” ฉินหล่างฝืนทำเป็นเยือกเย็น พอตั้งท่าเรียบร้อยแล้วก็ตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ “ซ่งหู่คือศิษย์น้องของนาย?”ฉู่เฉินขมวดคิ้วถามเมื่อคืนฉู่เฉินยังคงขบคิดว่าควรขุดสำนักของซ่งหู่ออกมาอย่างไร ถึงอย่างไรอาจารย์ของซ่งหู่ก็เป็นผู้บำเพ็ญตน จะเหลืออันตรายแอบแฝงแบบนี้ไว้ไม่ได้เด็ดขาด แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะใส่ใจขนาดนี้ ส่งตัวเองมาหาถึงที่เลย “ถูกต้อง ฉัน...”ฟิ้ว!ฉินหล่างเพิ่งพยักหน้าก็เห็นฉู่เฉินยกเ
“กะ...แกลอบโจมตี...” ฉินหล่างกุมใบหน้าด้านขวาที่โดนกระแทกใส เขากลิ้งตัวก่อนจะลุกพรวดขึ้นมาจากพื้น เวลานี้ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขามีรอยรองเท้าสีดำสนิท แถมยังมีเลือดไหลซึมจากในรอยรองเท้าไม่หยุด สมองส่งเสียงดังวิ้ง ๆ “ปัง!”สิ่งที่ตอบเขามีเพียงการตบใบหน้าฉาดใหญ่อย่างไร้เสียงของฉู่เฉินเท่านั้นแค่ตบหน้าทีเดียว ฉินหล่างก็ล้มคว่ำลงกับพื้นอีกครั้งเวลานี้ฉินหล่างมึนงงโดยสิ้นเชิงแล้ว เขาอยู่ระดับฝึกปราณชั้นห้านะ ความสามารถเทียบเท่ากับปรมาจารย์!มองไปทั่วทั้งเจียงจงก็หายอดฝีมือระดับปรมาจารย์เจอได้ไม่กี่คนใช่หรือเปล่า? แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าฉู่เฉิน เขาเหมือนกับเป็นเด็กสาวขวบที่โดนฉู่เฉินจัดการได้ตามใจชอบ ถึงขนาดไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อต้านเลย หรือว่าฉู่เฉินคนนี้คือ...จนกระทั่งตอนนี้เอง เขาถึงสังเกตเห็นว่ากลิ่นอายรอบตัวฉู่เฉินคล้ายคลึงกับอาจารย์ของตนเองอย่างน่าประหลาด ใช่แล้ว!มันดูเหมือนคนธรรมดา แต่ความจริงแล้วน่ากลัวสุดขีด เขาก็อยู่ระดับฝึกปราณชั้นหกเหรอ? พอคิดถึงความเป็นไปได้เช่นนี้ นัยน์ตาของฉินหล่างพลันหดลง ลอบตะโกนว่าแย่แล้ว แต่ในตอนนี้เอง เท้าขนาดใหญ่ของฉู่เฉินเหยียบบ
“จินเจิ้นหลงล่ะ?” ฉู่เฉินเดินกลับไปที่ห้องโถงพลางเอ่ยปากถามอย่างเฉยชา“คุณฉู่ ช่วยด้วยครับ”จินอ้าวเทียนคุกเข่าต่อหน้าฉู่เฉินดังตุบ แล้วอ้อนวอนด้วยสีหน้าเคารพนอบน้อมฉู่เฉินกวาดตามองจินอ้าวเทียนแวบหนึ่ง แต่ไม่สนใจเขาเลย ทว่านั่งลงบนโซฟาตามจินหลิงเอ๋อร์ตอนนี้ทั่วทั้งตัวของจินหลิงเอ๋อร์มีเพียงเสื้อคลุมตัวเดียวเท่านั้น หน้าอกอวบอิ่มสองข้างอยู่ในสภาพปกปิดไว้เพียงครึ่งเดียว ท่อนล่างก็เปลือยเปล่า เผยให้เห็นขาขาวนวลดุจหิมะสองข้างกับสะโพกกลมกลึงโดดเด่นกลางอากาศเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงหน้าเล็กที่ร้องไห้จนเหมือนดอกสาลี่ต้องหยาดฝน ยิ่งเห็นแล้วชวนให้รู้สึกสงสาร“คุณฉู่ พ่อของฉันขะ...เขาโดนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แถมหลี่ก่านก็ยังทรยศตระกูลจิน ตอนนี้พ่อของฉันกำลังโดนเขาคุมตัวอยู่ค่ะ” จินหลิงเอ๋อร์ก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฉู่เฉินฟังขณะที่พูด หลังจากพูดจบ จินหลิงเอ๋อร์อดหลั่งน้ำตาอีกครั้งไม่ได้ เธอโผเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของฉู่เฉินแล้วส่งเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดครั้งนี้เธอตกใจกลัวแล้วจริง ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าอยู่ในบ้านหรืออยู่ข้างนอก เธอคือคุณหนูที่ทรงอำนาจอยู่เสมอ ท