การเสียชีวิตของซ่งหู่กระทบกระเทือนใจหลี่เต้าผิงไม่น้อยจริง ๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นทำให้เขาโศกเศร้าใจ แต่ฉินหล่างเป็นคนที่เขาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กจนโต พูดได้ว่าความรู้สึกระหว่างทั้งสองคนเป็นทั้งศิษย์อาจารย์และเหมือนกับพ่อลูก “ศิษย์เอ๋ยค่อย ๆ เดินนะ รออาจารย์แก้แค้นให้แก!”สิ้นคำพูด กลิ่นอายรอบตัวหลี่เต้าผิงเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมดุดันอย่างยิ่ง นัยน์ตาสองข้างก็เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย!วินาทีต่อมา หลี่เต้าผิงหยิบกระดาษยันต์ที่วาดยันต์ไว้เรียบร้อยแล้วออกมาจากตัว ก่อนจะพับเป็นนกกระเรียนกระดาษอย่างรวดเร็ว“ทะยานฟ้าค้นหาร่องรอย คำสั่งเร่งด่วน ปลุก!”จากนั้นหลี่เต้าผิงพูดพึมพำและจิ้มนกกระเรียนกระดาษเบา ๆ ราวกับสั่งการนกกระเรียนกระดาษตัวนั้นค่อย ๆ บินขึ้นสูงกว่าหนึ่งเมตร ก่อนจะไปตามห้องของโรงแรมเพื่อติดตามร่องรอยนกกระเรียนกระดาษตัวนี้จะค้นหากลิ่นอายของฉินหล่าง ตามรอยไปตลอดทาง ขอเพียงเป็นสถานที่ที่ฉินหล่างเคยไป กลิ่นอายของฉินหล่างก็จะยังหลงเหลืออยู่ภายในหนึ่งวัน นกกระเรียนกระดาษจึงพาหลี่เต้าผิงไปที่สำนักมวยตระกูลจินก่อน หลังจากเก็บนกกระเรียนกระดาษกลับมาแล้ว หลี่เต้าผิงได้ตรวจสอบบริเวณใกล้เ
อินซู่ซู่ถูกหลี่เต้าผิงที่โผล่มากะทันหันทำให้ตกใจ เธอสงบสติอารมณ์ของเธอก่อน ถึงจะขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นมาว่า “คุณเป็นใคร? ลูกศิษย์ของคุณคือใคร?”“ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าใครฆ่าลูกศิษย์ของคุณหลีกไป ไม่อย่างนั้น... ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความแล้วนะ”หลี่เต้าผิงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา โบกแส้ปัดสองครั้ง ยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย “แจ้งความเหรอ? คนสวย อย่ามาแสร้งเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย ผู้ที่สามารถร่างยันต์พรางกายในบ้านนี้ ต้องเป็นผู้ที่สังหารลูกศิษย์ของฉัน”“บอกมา เจ้าของบ้านหลังนี้อยู่ที่ไหน!”คำพูดนั้นกำลังสิ้นสุดลง หลี่เต้าผิงเพียงแค่ก้าวเดินเข้ามา ร่างของเขาที่ดูเหมือนวิญญาณอยู่ห่างจากอินซู่ซู่ไม่ถึงห้าสิบเมตรจิๆ !อย่าคิดว่าปราณของอินซู่ซู่ไม่สูง แต่ประสบการณ์ที่เธอพบเจอมาก็ไม่น้อย นี่มันวิชาย่อพสุธาชัดๆ !แม้แต่ศิษย์อาวุโสในสำนัก ล้วนแต่ได้ยินแค่วิชาย่อพสุธา อย่าพูดถึงแสดงวิชาออกมาเลยแต่ว่าตาแก่เจ้าเล่ห์นี่สามารถใช้วิชาย่อพสุธาออกมาได้ถึงขั้นสูงเช่นนี้เลยเหรอ?แบบนี้ก็แสดงว่าตาแก่เจ้าเล่ห์ที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ อย่างน้อยต้องอยู่ระดับเดียวกับอาจารย์ของเธอใช่ไหม?เมื่อเห็นว่าอิน
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลี่เต้าผิงก็ร้อนรนขึ้นมา กัดฟันพูดขึ้นมาด้วยความโมโห ซัดฝ่ามือเข้าไปที่หน้าอกของอินซู่ซู่ปัง!ฝ่ามือเดียวนี้ฟาดอินซู่ซู่ไปไกลถึงสามสี่เมตร กระแทกลงไปที่พื้นอย่างแรงหลี่เต้าผิงกวาดสายตาไปที่อินซู่ซู่ที่สลบอยู่ กัดฟันพร้อมพูดขึ้นมาว่า “รอก่อนเดี๋ยวฉันจะมาจัดการเธอ นังเลว!”พูดเสร็จ ก็รีบหันศีรษะ หลบหลีกเขาไปในป่าที่ไม่ไกลในขณะที่หลี่เต้าผิงกำลังหลบหนีเข้าไปในป่า อินซู่ซู่แม้ว่าจะสะลึมสะลือ แต่เธอก็ฝืนตัวเองลืมตาทั้งสองขึ้นมา ในขณะที่เธอกำลังจะพยายามลุกขึ้น ก็กระอักเลือดสีแดงสดออกมาคำใหญ่เนื่องด้วยบาดแผลที่สาหัส ความร้อนรุ่มภายในร่างกายเธอก็ยิ่งรุนแรงขึ้นอินซู่ซู่ตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ดูเหมือนเธอกำลังจะถูกความร้อนกัดกินในทันที“ไม่ได้ ต้องพยายาม... ต้องรีบรายงานนายท่านให้เร็วที่สุด...”กัดฟันแล้วกัดฟันอีก อินซู่ซู่ใช้ความปรารถนาที่แรงกล้าเฮือกสุดท้าย คลานขึ้นมาจากพื้น โซเซไปจนถึงทางแยก ยื่นมือไปโบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง แล้วรีบไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าในป่า หลี่เต้าผิงที่เห็นว่าอินซู่ซู่วิ่งหนีขึ้นแท็กซี่ไป ก็โกรธจัดหากเขารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เม
“นายท่าน... ตาแก่นั่นเหมือนต้องการจะทำร้ายคุณ เขาเอาแต่พูดว่าจะแก้แค้นให้ลูกศิษย์ของเขา ฉัน... ฉันต้องการรีบมาแจ้งให้คุณทราบ แต่กลับถูกตาแก่นั่น...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ อินซู่ซู่ก็สำลักทันที พ่นเลือดสีดำออกมาอีกครั้ง“ไม่ต้องพูดแล้ว”ฉู่เฉินรีบตรวจสอบที่กระเป๋าเสื้อของอินซู่ซู่ พบว่าตรงหน้าอกของอินซู่ซู่มีรอยฝ่ามือสีดำปรากฏขึ้น!อีกทั้งรอยฝ่ามือนั้นยังขยายขอบเขตไปอย่างกว้างขวางไม่หยุดซี้ด!ฝ่ามือวายุทมิฬ?!แม้แต่ฉู่เฉินยังอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นขึ้นมา หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ภายในสามยามนี้ หากรอยฝ่ามือนี้แพร่กระจายไปยังทั่วทั้งร่างกาย อินซู่ซู่ก็จะตายทันทีไม่มีเวลาให้คิดมากมาย ฉู่เฉินก็รีบสั่งให้สาวใช้เตรียมห้องที่สงบให้เขาห้องหนึ่ง พร้อมส่งคนให้ไปหยิบเข็มเงินมา เขาใช้เข็มเงินปิดจุดใหญ่ๆ หลายจุดของอินซู่ซู่ไว้ก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของสารพิษจากฝ่ามือวายุทมิฬ......อีกด้านหนึ่ง หลี่เต้าผิงตามนกกระเรียนกระดาษ มาถึงป่าซึ่งห่างจากเทียนเฟิ่งวิลล่าเพียงหนึ่งร้อยเมตร เขาถึงโน้มตัวลงมา สายตาเย็นยะเยือกมองไปทางเทียนเฟิ่งวิลล่าในตอนนั้นเอง ก็มีลูกศิษย์สองคนจากสำนั
“สวบๆๆ”ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ดูเหมือนไกลแต่ใกล้ ฉู่เฉินตามหาที่มาของเสียง ผู้อาวุโสที่สวมชุดนักพรต ในมือถือแส้หางม้า ปรากฏร่างหนึ่งขึ้นมาห่างจากฉู่เฉินไม่ถึงห้าเมตรหยุดอยู่กับที่ตรงนั้น“เจ้าหนุ่ม แกนี่บังอาจจริงๆ !”หลี่เต้าผิงกัดฟันพูดขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาตจ้องมองมาที่ฉู่เฉิน “ ฉันให้เวลาแกแค่สามลมหายใจ ยอมรับผิดต่อหน้าฉันซะ ไม่อย่างนั้นคฤหาสน์นี่จะถูกฉันทำลายอย่างสิ้นซาก!”ฉู่เฉินกวาดสายตามองไปที่หลี่เต้าผิงทีหนึ่ง ขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ตาแก่ ต่อมลูกหมากแกมีปัญหาเหรอ? ทำไมพูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้?”ไอ้ฉิบหาย!หลี่เต้าผิงตะคอกออกมาด้วยความโมโห โกรธจนใบหน้าบูดเบี้ยวไปหมด ฟาดแส้หางม้าที่อยู่ในมือไปทางฉู่เฉิน เสียงดังเพียะ ไอกระบี่ที่เงียบและมองไม่เห็นปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในหมอกหนาทึบและหายไปทันทีฉู่เฉินก็หัวใจเต้นแรงขึ้น ราวกับว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณเขารีบหลบไปข้างๆตูม!ต้นสนที่หนาพอๆ กับปากชามด้านข้าง ฉู่เฉินก็ถูกตัดออกเป็นส่วนท่อนเมื่อเห็นภาพแบบนี้ ฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา ปลดปล่อยพลังวิญญาณงั้นเหรอ?เป็นไปไม่ได้!หรือว่านี่จะเป็นเวทมนตร์วิชาลึ
หลังจากที่หลี่เต้าผิงพูดจบ กลิ่นอายรอบๆ ตัวเขาก็เปลี่ยนไปด้วยตูม!แรงกดดันความน่าสะพรึงกลัวของปรมาจารย์การฝึกฝนระดับหก แผ่คลุมไปทั่วทุกแห่ง และกระบี่อ่อนในมือของเขาก็เปล่งประกายแสงเย็นภายใต้แสงจันทร์อันมืดมิดบนท้องฟ้า“ชิ้ง!”ในขณะนี้ หลี่เต้าผิงไม่ได้ยับยั้งสิ่งใดและปลดปล่อยการเคลื่อนไหวอันทรงพลังทันทีที่เรียกว่าวิชาแยกภูเขาหัวซาน ไอกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวฟันผ่านอากาศรอบตัวเขา ทิ้งรอยร้าวสีขาวเงินเอาไว้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!พูดจริงๆ ฉู่เฉินในตอนนี้ ถึงแม้ว่าระดับพลังของเขาจะมั่นคงในการฝึกปราณชั้นหกแล้วแต่ว่าหากเทียบกันในด้านประสบการณ์การต่อสู้แล้ว เขายังห่างชั้นกับหลี่เต้าผิงไปหลายขั้นเมื่อเห็นกระบี่กำลังจะตกลงบนศีรษะ ฉู่เฉินก็ไม่กล้าออมมืออีกต่อไป เขารีบบินถอยหลังเพื่อสร้างระยะห่างระหว่างตัวเขากับหลี่เต้าผิงในทันที“เจ้าหนุ่ม จะหนีไปไหน!”หลี่เต้าผิงโบกกระบี่ยาวในมือ โดยสามารถตัดผ่านภูเขาหลายพันลูกได้ในครั้งเดียวชิ้ง!แสงกระบี่สีเงินผ่านหน้าเขาไป!ฉู่เฉินรีบกระโดดขึ้นอย่างรีบร้อน ในขณะที่เขากำ
ขณะที่สายลมยามค่ำคืนพัดชุดบางๆ ของเธอปลิวขึ้น เธอก็เปลือยกายหมดทั้งตัวในตอนนั้นเอง ผู้ชื่นชอบดาราศาสตร์พวกนั้นก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงกรีดร้องออกมานี่มันลาภก้อนโตชัดๆ ในตอนนั้นเอง ภายในกล้องส่องทางไกลจู่ๆ ก็มีดวงตาที่สวยงามเย็นชาคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้น ทำเอาคนเหล่านั้นตกใจจนทิ้งกล้องส่องทางไกล แล้ววิ่งหนีลงเนินเขาไปหลังจากที่ขับไล่พวกมดแมลงพวกนี้ไปได้แล้ว สตรีศักดิ์สิทธิ์กลั้นหายใจอีกครั้งและตั้งสมาธิ รู้สึกถึงคลื่นพลังที่ล้นออกมาอย่างต่อเนื่อง“มังกรลามก ครั้งนี้เจ้าอย่าได้จะคิดหนีออกไปจากน้ำมือของข้าได้อีก!”ด้วยเสียงร้องคำรามที่ชัดเจนและเย็นชา เธอก้าวขึ้นไปในอากาศเบาๆ ด้วยเท้าที่เหมือนหยกของเธอ ร่างของเธอเหินไปในทิศทางของเทียนเฟิ่งวิลล่าราวกับ ‘เหินฟ้า’ ในภาพยนตร์!......ขณะนั้นเอง การต่อสู้ในเทียนเฟิ่งวิลล่าก็มาถึงขั้นที่ดุเดือดเช่นกันฉู่เฉินและหลี่เต้าผิงล้วนแต่ปลดปล่อยท่าไม้ตายและเทคนิคต่างๆ ออกมาจนหมดแล้ว ตอนนี้เป็นหมัดต่อหมัด ฝ่ามือต่อฝ่ามือกำลังประจันหน้ากันอยู่“ปังๆๆ !”ทั้งสองปะทะหมัดกันอีกสามครั้ง คลื่นพลังที่น่าหวาดกลัวก็กระจายไปยังบริเวณรอบๆ แม้แต่ทรายและหินท
ฉันยังจะเข้าไปอะไรอีก!หลี่เต้าผิงเอามือกุมที่หน้าอก คลานขึ้นมาจากพื้นด้วยความยากลำบากหลังจากแลกหมัดกันไปมากกว่าสิบครั้ง เลือดที่เขาพ่นออกมาก็แทบจะเกือบครึ่งลิตรแล้ว หากยังต่อสู้ต่อไปอีก ฉู่เฉินอาจจะทำให้เขาหมดแรงจนตายได้ในเมื่อที่นี่คือที่ของฉู่เฉิน ผู้ช่วยเหลือก็เยอะแม้ว่าจะเป็นแค่คนธรรมดา ก็สามารถทำให้พลังวิญญาณในร่างกายเขาหมดแรงลง และสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายฉู่เฉินใช้ประโยชน์จากเวลา สถานที่ และผู้คนให้เต็มที่ หลี่เต้าผิงไม่ใช่คนโง่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาก็วางแผนเส้นทางหลบหนีไว้แล้ว“ไอ้เด็กนี่ วันนี้ฉันจะขอสู้ตายกับแกละ!”ทันใดนั้นหลี่เต้าผิงก็ตะคอกออกมาเสียงดัง กลิ่นอายแห่งความป่าเถื่อนเพิ่มขึ้นไปไม่รู้กี่ขั้น หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยหมัดที่ดั่งแสงหนาวผ่านหน้าของฉู่เฉินไป!“นายท่านระวัง!”อินซู่ซู่เมื่อเห็นแสงหนาวนั้น รวดเร็วราวกับสายฟ้าพุ่งไปทางฉู่เฉิน ก็รีบนำตัวบังข้างหน้าฉู่เฉินฉู่เฉินหัวใจรัดแน่น ที่จริงแล้วสถานการณ์ของเขาตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากหลี่เต้าผิงมากนัก เมื่อเห็นว่าแสงหนาวนั้นเข้าใกล้ตัวเอง ก็หลับตาขึ้นมาอย่างอดไม่ได้แค่อินซู่ซู่คนเดียวไม่สามารถป้องกันอาว
ถุย!หลิงเสวี่ยจ้องฉู่เฉินด้วยความเกลียดชังเธอคุกเข่าบนพื้นมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว นวดจนแขนทั้งปวดทั้งเมื่อย ฉู่เฉินม่รู้จักทะนุถนอมผู้หญิงเลยงั้นเหรอ?แม้แต่น้ำสักอึกก็ไม่ให้เธอดื่ม อย่างน้อยก็น่าจะให้เธอได้พักบ้างสิ“ฉู่เฉิน คุณคงไม่คิดจริงๆ หรอกนะว่าพวกเราในวังว่านเจี้ยนจะกลัวคุณ? ตราบใดที่กำลังเสริมมาถึง คนเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกก็จะถูกขับไล่ออกไป ถึงเวลานั้น... ถึงเวลานั้นคุณจะมาร้องไห้ก็ไม่ทันแล้ว!”หลิงเสวี่ยไม่อาจทนได้อีกต่อไป กัดฟันเงยหน้าขึ้นมองฉู่เฉินด้วยความโกรธแค้นฉู่เฉินหัวเราะเบาๆ ส่ายหัวและกล่าวว่า “วังว่านเจี้ยน? กำลังเสริม? คุณคิดง่ายเกินไปแล้ว”กล่าวถึงตรงนี้ ฉู่เฉินก็ค่อยๆ วางถ้วยชาลงและกล่าวอย่างใจเย็น “คุณคงไม่คิดว่าผมจงใจปล่อยข่าวออกไปเพื่อจัดการกับพวกคุณโดยเฉพาะหรอกใช่ไหม?”“ถ้าคิดแบบนั้น คุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”อย่าว่าแต่พวกคุณสามสำนักเลย ต่อให้สามสิบหรือสามร้อย ผมก็ไม่ใส่ใจ”โอ้ย บ้าจริง!คุณนี่โม้เกินไปแล้ว!หลิงเสวี่ยโกรธจนฝ่ามือคันยุบยิบ อยากจะตบฉู่เฉินสักสองฉาดเมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและกล่าวว่า “ไม่เชื่
“ปรมาจารย์ อย่ารับปากเขานะครับ!”“ปรมาจารย์ วังว่านเจี้ยนของเรายังจะกลัวเขาที่เป็นแค่ผู้บำเพ็ญอิสระคนเดียวอีกเหรอ!”“ปรมาจารย์ ผมอาสาไปเฝ้าประตูเขาเพื่อปกป้องสำนักเองครับ!”เหล่าศิษย์ต่างตาเบิกโพลงด้วยความโกรธแค้น!ความหมายในคำพูดของฉู่เฉิน นั้นชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด คือต้องการใช้หลิงเสวี่ยแลกกับความปลอดภัยของทั้งสำนักเทียนเจี้ยนของพวกเขา!ใครในที่นี้ที่ไม่ใช่ลูกผู้ชายอกสามศอกบ้าง?ยิ่งไปกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังเป็นศิษย์น้องหญิงที่พวกเขาเฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืนแล้วจะให้นั่งดูศิษย์น้องสาวที่สวยดั่งเทพธิดาไปอุ่นเตียงให้สารเลวฉู่เฉินนั่นได้ยังไง?!“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของวังเทียนเจี้ยน ให้ฉันได้ไตร่ตรองก่อน”ถึงปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะหน้าหนาแค่ไหน ก็ไม่อาจตอบรับฉู่เฉินได้โดยง่าย ท้ายที่สุดแล้วก็เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของสำนักเทียนเจี้ยนโดยเฉพาะในโลกแห่งการหยั่งรู้ มีกฎที่ไม่ได้เขียนไว้ว่าอยู่อย่างหนึ่งไม่ว่าจะเป็นนิกายหรือสำนักไหน การส่งศิษย์หญิงให้คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นกระถางหลอมเพื่อบำเพ็ญคู่หรือเพื่ออุ่นเตียง ล้วนเท่ากับเป็นการยอมจำนนต่ออีกฝ่ายวังเทียนเจี้ยนแค่ประสบ
ต้องรีบกำจัดหายนะนี่ออกไปโดยด่วน ไม่งั้นแม้แต่ประตูหินหนักหมื่นชั่งของวังเทียนเจี้ยนคงจะทนได้อีกไม่นานแม้ประตูหินบานนั้นจะเป็นสิ่งที่บรรพจารย์ทิ้งไว้ แม้แต่ผู้มีพลังระดับทารกวิญญาณก็ไม่อาจทำอะไรวังเทียนเจี้ยนได้ในเวลาอันสั้น แต่ตอนนี้หน้าประตูวังเทียนเจี้ยนกลับมีเสียงดังกึกก้องดังขึ้นถ้าจะบอกว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนไม่กังวล นั่นก็เป็นโกหกอย่างไรเสียก็มีสำนักชิงอวิ๋นเป็นตัวอย่างอยู่ตรงหน้า ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจึงตระหนักถึงความร้ายกาจในเรื่องนี้ดี“ไม่ต้องรีบร้อน ใช่แล้ว ที่นี่มีห้องรับรองแขกไหม?”ฉู่เฉินวางถ้วยชาลง เอามือเท้าคาง เอนตัวนอนบนเก้าอี้ยาวและเงยหน้าขึ้นกวาดตามองปรมาจารย์ว่านเจี้ยนแวบหนึ่งอะไรนะ?ห้องรับรองแขกเหรอ?ตอนนี้เหล่าศิษย์ทุกคนในวังเทียนเจี้ยน ล้วนมีสีหน้าโกรธจัด!ฉู่เฉินคิดว่าวังเทียนเจี้ยนเป็นโรงแรมหรือไง? ยังจะขอห้องรับรองแขกอีก!“กึก...”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนกัดฟัน ก่อนจะพยักหน้ากล่าว “แน่นอนว่ามีครับ คุณฉู่...”“หาว …”ฉู่เฉินหาว ขยี้ตาแล้วกล่าวว่า “งั้นก็ดีเลย รบกวนเจ้าสำนักจัดให้ผมสักห้องด้วยครับ ผมอยากพูดคุยเรื่องชีวิตกับศิษย์น้องหลิงเสวี่ยอย่างลึก
อะไรนะ?!ดวงตาคู่สวยของหลิงเสวี่ยจ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาราวกับจะกลืนกินฉู่เฉินเข้าไปทั้งเป็นเหล่าศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ ต่างก็พากันจ้องฉู่เฉินเขม็งด้วยสายตาอาฆาตหลิงเสวี่ยคือหนึ่งในสามหญิงงามแห่งวังเทียนเจี้ยน โดยปกติแล้ว ถือเป็นคู่ครองในอุดมคติของบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้อง แต่ที่น่าเสียดายก็คือหลิงเสวี่ยดูเหมือนจะไม่สนใจใครเลยกระทั่งศิษย์พี่ใหญ่ถานเฟิงก็ยังโดนศิษย์น้องหลิงเสวี่ยปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว ตอนนี้เจ้าเด็กฉู่เฉินคนนี้กลับขอให้ศิษย์น้องหญิงที่พวกเขาเฝ้าใฝ่ฝันมานวดขาให้เขาเนี่ยนะ?“ปรมาจารย์ คนคนนี้จองหองเกินไป ผม...”“ถอยไป!”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนถลึงตาจ้องถานเฟิงอย่างดุดัน การฆ่าฉู่เฉินยังไม่ง่าย?แต่ถ้าฆ่าฉู่เฉินแล้ว แล้วเหล่ายอดฝีมือที่เขาเอาชนะมาได้จะทำยังไง?จะให้วังเทียนเจี้ยนถูกทำลายงั้นเหรอ?เมื่อถานเฟิงเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความดุร้ายของปรมาจารย์ว่านเจี้ยน ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นเยียบเข้าไปและรีบถอยไปยืนอยู่ด้านข้าง“หลิงเสวี่ย ไม่ได้ยินที่คุณฉู่สั่งเหรอ?”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนสีหน้ามืดมน กัดฟันเอ่ยถาม“อะไรนะ? ปรมาจารย์ ฉัน...”หลิ
เมื่อปรมาจารย์ว่านเจี้ยนได้ยินรายงานจากศิษย์ในสำนัก ก็รีบร้อนสั่งว่า “ใครก็ได้ รีบปิดประตูเขาเร็วเข้า ห้ามผู้ใดบุกรุกเข้ามาโดยเฉพาะฉู่เฉิน ห้ามให้เขาเข้ามาเด็ดขาด”น่ากลัวเกินไปแล้ว แม้วังเทียนเจี้ยนจะมีคนหนุนหลังอยู่ แต่ศึกใหญ่นี้ ถ้าปะทุขึ้นในวังเทียนเจี้ยน ทั้งวังเทียนเจี้ยนก็อาจจะพินาศย่อยยับ ถึงจะชนะแล้วยังไงล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายล้วนเป็นสำนักระดับสูงสุดในโลกแห่งการหยั่งรู้ แม้อำนาจเบื้องหลังวังเทียนเจี้ยน ก็ใช่ว่าจะสามารถคว้าชัยชนะได้แต่ในเวลานี้ เพียงเห็นเงาร่างผู้หนึ่งพุ่งทะยานมาทางประตูเขาวังเทียนเจี้ยนรวดเร็วดั่งสายลมกรรโชก“ปรมาจารย์ ท่านดู...”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนมองตามปลายนิ้วของศิษย์ในสำนักไป เพียงเห็นฉู่เฉินสภาพเปื้อนฝุ่น กำลังวิ่งหน้าตั้งมาทางวังเทียนเจี้ยนด้วยรอยยิ้มจางบนใบหน้าแม่ง!รูม่านตาของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนหดแคบลงทันที กลัวอะไรก็เจออย่างนั้นจริงๆดาวหายนะฉู่เฉิน ดันมาแล้วจริงๆ !“เร็ว… รีบปิดประตูเขาเดี๋ยวนี้!”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนตกใจจนพูดจาตะกุกตะกักเขาไม่ได้กลัวฉู่เฉิน แต่กลัวกลุ่มคนที่ตามหลังฉู่เฉินมาไกลๆ ต่างหาก!เปรี้ยง!พร้อมด้วยเสียงดังส
“ถอยไป!”ทันทีที่เทพสังหารชูขวานยักษ์ขึ้น ว่านโซ่วเซียนเวิงก็เอ่ยปากห้ามอย่างกะทันหัน“ท่านอาจารย์ เขา...”“หืม?!”ดวงตาของว่านโซ่วเซียนเวิงเย็นเยียบลง ทำให้เทพสังหารตกใจรีบถอยไปหลายก้าว ก้มศีรษะลงต่ำ“สหายน้อย เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ? มอบยาสร้างกล้ามเนื้อ?”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย พลางแบมือออกกล่าวว่า “ทุกท่าน หากไม่เชื่อก็สามารถตรวจดูด้วยตัวเองได้ ถ้าเป็นของปลอมแม้แต่น้อย เอาผิดกับผมได้!”เมื่อกล่าวจบ ว่านโซ่วเซียนเวิงกับผู้เฒ่าเทียนเสวียนก็ก้าวออกมาเกือบจะในเวลาเดียวกัน รวดเร็วราวสายฟ้า แย่งชิงยาสร้างกล้ามเนื้อจากมือของฉู่เฉินไปคนละเม็ดผู้มีอิทธิพลระดับทารกวิญญาณคนอื่นๆ ก็ทยอยกันมาหยิบยาสร้างกล้ามเนื้อไปคนละเม็ดเช่นกัน แล้วตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่นาน“เป็นยาสร้างกล้ามเนื้อจริงๆ!”ในดวงตาของว่านโซ่วเซียนเวิงมีประกายแสงวาบผ่าน ก่อนจะเหลือบตามองฉู่เฉินอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยถามว่า “ยาลูกกลอนนี้ แกไปได้มาจากที่ไหน?”แม้ยาสร้างกล้ามเนื้อจะไม่ได้ระดับสูงนัก แต่คนที่สามารถหลอมได้กลับมีน้อยอย่างยิ่งอย่าว่าแต่ในโลกแห่งการหยั่งรู้ แม้แต่ในเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าสิบทศภูมิ ล้วนเป็นยาวิเศษล้ำค
ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นทำหน้าร้องห่มร้องไห้ อ้อนวอนติดต่อกันเมื่อเห็นว่าพวกเทพสังหารลับมีดเตรียมลงมือต่อสู้อีกครั้ง ประตูใหญ่สำนักชิงอวิ๋นของเขายังจะเหลืออยู่อีกเหรอ“เห็นแก่ที่คุณมีความจริงใจเต็มเปี่ยม ผมปล่อยคุณไปสักครั้งก็ได้ แต่ว่าผมเดินทางมาไกลมาก คุณคงไม่ให้ผมจากไปมือเปล่าหรอกใช่ไหม?”ฉู่เฉินค่อย ๆ ลุกขึ้น เอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง ก้มมองท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า“ขอให้คุณฉู่ระบุให้ชัดเจนด้วย”คราวนี้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นร้องไห้แล้วจริง ๆ นับตั้งแต่รับตำแหน่งเจ้าสำนักมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีจนย่อยยับ ที่สำคัญคือเขายังไม่กล้าโต้แย้งสักคำด้วยอัดอั้นตันใจจนกระอักเลือดแล้วจริง ๆ “พูดไปแล้วก็ง่ายนิดเดียว คุณดูสมุนไพรในรายการนี้ แล้วเตรียมมาคนละชุด”ฉู่เฉินกล่าวพลางล้วงใบรายการออกมาจากในอกแล้วยื่นให้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพอได้เห็น ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นก็ร้อนใจแล้วบนนั้นเป็นสมุนไพรหายากทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหญ้าเสวียนเทียน ดอกร้อยสีสัน รากวิญญาณปฐพี...ถึงขนาดที่มีสมุนไพรบางตัวที่แม้แต่เขาก็ไม่เคยเห
“ฉู่เฉิน คุณคิดจะเป็นศัตรูกับสำนักชิงอวิ๋นของผมถึงตายเลยหรือไง!”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นกัดฟันกรอด ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดง!ทุกอย่างล้วนเป็นปัญหาที่ฉู่เฉินก่อขึ้นมา หากไม่ใช่เพราะฉู่เฉินฆ่าลูกศิษย์ของเขา เขาจะเล่นงานฉู่เฉินหนักขนาดนี้ได้อย่างไร?และตอนนี้ฉู่เฉินชักนำหายนะร้ายแรงมา แต่อยากให้เขาคุกเข่าอ้อนวอนเหรอ?ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นก็เป็นเจ้าสำนัก อย่าว่าแต่ใต้เข่าของลูกผู้ชายมีทองคำเลย แค่เขาคุกเข่าต่อหน้าลูกศิษย์หลายร้อยคนของสำนักชิงอวิ๋น อนาคตเขายังมีหน้าไปปกครองสำนักชิงอวิ๋นได้อย่างไร? “คุณก็เป็นเจ้าสำนักผู้ยิ่งใหญ่ ทำไมพูดจาเหมือนเด็กที่ยังฟันไม่ขึ้นล่ะ? เห็นชัด ๆ ว่าคุณเป็นคนเชิญผมมา คุณอยากจะฆ่าผมให้ตาย คุณคิดว่าผมยังใส่ใจเรื่องเป็นศัตรูกับสำนักชิงอวิ๋นของพวกคุณอีกเหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ เอ่ยด้วยใบหน้าดูแคลนถึงอย่างไรข้าวของที่ถูกทำลายตอนนี้ก็ไม่ใช่ทรัพย์สินของฉู่เฉิน ต่อให้สำนักชิงอวิ๋นถูกถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?ครั้งนี้ ฉู่เฉินอยากให้ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นเข้าใจหลักการที่ว่าเชิญเทพง่าย แต่ส
วินาทีต่อมา เทพสังหารตวัดขวานศึกในมือผ่านอากาศ พุ่งตรงลงมาบนศีรษะของท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นขวานนี้คล้ายกับมีพลังที่สามารถผ่าภูผาได้เมื่อเห็นว่ากระบวนท่าสังหารมาถึงแล้ว ปราณแท้รอบกายท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพลันพุ่งพล่าน กระบี่ยาวในมือปล่อยรัศมีแสงงดงามหมื่นสาย ตวัดกระบี่ออกไปเต็มแรงรับขวานศึกของเทพสังหารขวานศึกฟาดฟัน กระบี่ยาวผ่าอากาศ! เคร้ง!แม้ว่าท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นออกแรงอย่างสุดกำลัง แต่เขายังคงโดนขวานของเทพสังหารกระแทกจนกระเด็นออกไปแล้วพรวด!ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นกระอักเลือดออกมา เขากระเด็นออกไปสิบเมตร ก่อนจะร่วงกระแทกลงมาบนบันไดหินอย่างหนักหน่วง บันไดหินเหล็กโดนกระแทกจนเป็นหลุมลึก พลังแตกต่างกันมากเกินไป เทพสังหารไม่ใช่คนที่ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นสามารถต่อกรได้เลยหากไม่ใช่เพราะยังมีลมปราณน่าสะพรึงกลัวหลายสายในฝูงชนพุ่งเป้ามาที่ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ขวานนี้เพียงพอที่จะส่งเขาไปสู่ปรโลกแล้ว“หยกโลหิตกิเลนไม่มีความเกี่ยวข้องกับสำนักว่านเซียนของพวกคุณเลย พวกคุณปล้นกันชัด ๆ! ตะ...ต่อให้ผมตายก็ไม่ยอม!”ท่านธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋นพยายา