อินซู่ซู่ถูกหลี่เต้าผิงที่โผล่มากะทันหันทำให้ตกใจ เธอสงบสติอารมณ์ของเธอก่อน ถึงจะขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นมาว่า “คุณเป็นใคร? ลูกศิษย์ของคุณคือใคร?”“ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าใครฆ่าลูกศิษย์ของคุณหลีกไป ไม่อย่างนั้น... ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความแล้วนะ”หลี่เต้าผิงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา โบกแส้ปัดสองครั้ง ยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย “แจ้งความเหรอ? คนสวย อย่ามาแสร้งเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย ผู้ที่สามารถร่างยันต์พรางกายในบ้านนี้ ต้องเป็นผู้ที่สังหารลูกศิษย์ของฉัน”“บอกมา เจ้าของบ้านหลังนี้อยู่ที่ไหน!”คำพูดนั้นกำลังสิ้นสุดลง หลี่เต้าผิงเพียงแค่ก้าวเดินเข้ามา ร่างของเขาที่ดูเหมือนวิญญาณอยู่ห่างจากอินซู่ซู่ไม่ถึงห้าสิบเมตรจิๆ !อย่าคิดว่าปราณของอินซู่ซู่ไม่สูง แต่ประสบการณ์ที่เธอพบเจอมาก็ไม่น้อย นี่มันวิชาย่อพสุธาชัดๆ !แม้แต่ศิษย์อาวุโสในสำนัก ล้วนแต่ได้ยินแค่วิชาย่อพสุธา อย่าพูดถึงแสดงวิชาออกมาเลยแต่ว่าตาแก่เจ้าเล่ห์นี่สามารถใช้วิชาย่อพสุธาออกมาได้ถึงขั้นสูงเช่นนี้เลยเหรอ?แบบนี้ก็แสดงว่าตาแก่เจ้าเล่ห์ที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ อย่างน้อยต้องอยู่ระดับเดียวกับอาจารย์ของเธอใช่ไหม?เมื่อเห็นว่าอิน
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลี่เต้าผิงก็ร้อนรนขึ้นมา กัดฟันพูดขึ้นมาด้วยความโมโห ซัดฝ่ามือเข้าไปที่หน้าอกของอินซู่ซู่ปัง!ฝ่ามือเดียวนี้ฟาดอินซู่ซู่ไปไกลถึงสามสี่เมตร กระแทกลงไปที่พื้นอย่างแรงหลี่เต้าผิงกวาดสายตาไปที่อินซู่ซู่ที่สลบอยู่ กัดฟันพร้อมพูดขึ้นมาว่า “รอก่อนเดี๋ยวฉันจะมาจัดการเธอ นังเลว!”พูดเสร็จ ก็รีบหันศีรษะ หลบหลีกเขาไปในป่าที่ไม่ไกลในขณะที่หลี่เต้าผิงกำลังหลบหนีเข้าไปในป่า อินซู่ซู่แม้ว่าจะสะลึมสะลือ แต่เธอก็ฝืนตัวเองลืมตาทั้งสองขึ้นมา ในขณะที่เธอกำลังจะพยายามลุกขึ้น ก็กระอักเลือดสีแดงสดออกมาคำใหญ่เนื่องด้วยบาดแผลที่สาหัส ความร้อนรุ่มภายในร่างกายเธอก็ยิ่งรุนแรงขึ้นอินซู่ซู่ตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ดูเหมือนเธอกำลังจะถูกความร้อนกัดกินในทันที“ไม่ได้ ต้องพยายาม... ต้องรีบรายงานนายท่านให้เร็วที่สุด...”กัดฟันแล้วกัดฟันอีก อินซู่ซู่ใช้ความปรารถนาที่แรงกล้าเฮือกสุดท้าย คลานขึ้นมาจากพื้น โซเซไปจนถึงทางแยก ยื่นมือไปโบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง แล้วรีบไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าในป่า หลี่เต้าผิงที่เห็นว่าอินซู่ซู่วิ่งหนีขึ้นแท็กซี่ไป ก็โกรธจัดหากเขารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เม
“นายท่าน... ตาแก่นั่นเหมือนต้องการจะทำร้ายคุณ เขาเอาแต่พูดว่าจะแก้แค้นให้ลูกศิษย์ของเขา ฉัน... ฉันต้องการรีบมาแจ้งให้คุณทราบ แต่กลับถูกตาแก่นั่น...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ อินซู่ซู่ก็สำลักทันที พ่นเลือดสีดำออกมาอีกครั้ง“ไม่ต้องพูดแล้ว”ฉู่เฉินรีบตรวจสอบที่กระเป๋าเสื้อของอินซู่ซู่ พบว่าตรงหน้าอกของอินซู่ซู่มีรอยฝ่ามือสีดำปรากฏขึ้น!อีกทั้งรอยฝ่ามือนั้นยังขยายขอบเขตไปอย่างกว้างขวางไม่หยุดซี้ด!ฝ่ามือวายุทมิฬ?!แม้แต่ฉู่เฉินยังอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นขึ้นมา หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ภายในสามยามนี้ หากรอยฝ่ามือนี้แพร่กระจายไปยังทั่วทั้งร่างกาย อินซู่ซู่ก็จะตายทันทีไม่มีเวลาให้คิดมากมาย ฉู่เฉินก็รีบสั่งให้สาวใช้เตรียมห้องที่สงบให้เขาห้องหนึ่ง พร้อมส่งคนให้ไปหยิบเข็มเงินมา เขาใช้เข็มเงินปิดจุดใหญ่ๆ หลายจุดของอินซู่ซู่ไว้ก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของสารพิษจากฝ่ามือวายุทมิฬ......อีกด้านหนึ่ง หลี่เต้าผิงตามนกกระเรียนกระดาษ มาถึงป่าซึ่งห่างจากเทียนเฟิ่งวิลล่าเพียงหนึ่งร้อยเมตร เขาถึงโน้มตัวลงมา สายตาเย็นยะเยือกมองไปทางเทียนเฟิ่งวิลล่าในตอนนั้นเอง ก็มีลูกศิษย์สองคนจากสำนั
“สวบๆๆ”ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ดูเหมือนไกลแต่ใกล้ ฉู่เฉินตามหาที่มาของเสียง ผู้อาวุโสที่สวมชุดนักพรต ในมือถือแส้หางม้า ปรากฏร่างหนึ่งขึ้นมาห่างจากฉู่เฉินไม่ถึงห้าเมตรหยุดอยู่กับที่ตรงนั้น“เจ้าหนุ่ม แกนี่บังอาจจริงๆ !”หลี่เต้าผิงกัดฟันพูดขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาตจ้องมองมาที่ฉู่เฉิน “ ฉันให้เวลาแกแค่สามลมหายใจ ยอมรับผิดต่อหน้าฉันซะ ไม่อย่างนั้นคฤหาสน์นี่จะถูกฉันทำลายอย่างสิ้นซาก!”ฉู่เฉินกวาดสายตามองไปที่หลี่เต้าผิงทีหนึ่ง ขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ตาแก่ ต่อมลูกหมากแกมีปัญหาเหรอ? ทำไมพูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้?”ไอ้ฉิบหาย!หลี่เต้าผิงตะคอกออกมาด้วยความโมโห โกรธจนใบหน้าบูดเบี้ยวไปหมด ฟาดแส้หางม้าที่อยู่ในมือไปทางฉู่เฉิน เสียงดังเพียะ ไอกระบี่ที่เงียบและมองไม่เห็นปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในหมอกหนาทึบและหายไปทันทีฉู่เฉินก็หัวใจเต้นแรงขึ้น ราวกับว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณเขารีบหลบไปข้างๆตูม!ต้นสนที่หนาพอๆ กับปากชามด้านข้าง ฉู่เฉินก็ถูกตัดออกเป็นส่วนท่อนเมื่อเห็นภาพแบบนี้ ฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา ปลดปล่อยพลังวิญญาณงั้นเหรอ?เป็นไปไม่ได้!หรือว่านี่จะเป็นเวทมนตร์วิชาลึ
หลังจากที่หลี่เต้าผิงพูดจบ กลิ่นอายรอบๆ ตัวเขาก็เปลี่ยนไปด้วยตูม!แรงกดดันความน่าสะพรึงกลัวของปรมาจารย์การฝึกฝนระดับหก แผ่คลุมไปทั่วทุกแห่ง และกระบี่อ่อนในมือของเขาก็เปล่งประกายแสงเย็นภายใต้แสงจันทร์อันมืดมิดบนท้องฟ้า“ชิ้ง!”ในขณะนี้ หลี่เต้าผิงไม่ได้ยับยั้งสิ่งใดและปลดปล่อยการเคลื่อนไหวอันทรงพลังทันทีที่เรียกว่าวิชาแยกภูเขาหัวซาน ไอกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวฟันผ่านอากาศรอบตัวเขา ทิ้งรอยร้าวสีขาวเงินเอาไว้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!พูดจริงๆ ฉู่เฉินในตอนนี้ ถึงแม้ว่าระดับพลังของเขาจะมั่นคงในการฝึกปราณชั้นหกแล้วแต่ว่าหากเทียบกันในด้านประสบการณ์การต่อสู้แล้ว เขายังห่างชั้นกับหลี่เต้าผิงไปหลายขั้นเมื่อเห็นกระบี่กำลังจะตกลงบนศีรษะ ฉู่เฉินก็ไม่กล้าออมมืออีกต่อไป เขารีบบินถอยหลังเพื่อสร้างระยะห่างระหว่างตัวเขากับหลี่เต้าผิงในทันที“เจ้าหนุ่ม จะหนีไปไหน!”หลี่เต้าผิงโบกกระบี่ยาวในมือ โดยสามารถตัดผ่านภูเขาหลายพันลูกได้ในครั้งเดียวชิ้ง!แสงกระบี่สีเงินผ่านหน้าเขาไป!ฉู่เฉินรีบกระโดดขึ้นอย่างรีบร้อน ในขณะที่เขากำ
ขณะที่สายลมยามค่ำคืนพัดชุดบางๆ ของเธอปลิวขึ้น เธอก็เปลือยกายหมดทั้งตัวในตอนนั้นเอง ผู้ชื่นชอบดาราศาสตร์พวกนั้นก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงกรีดร้องออกมานี่มันลาภก้อนโตชัดๆ ในตอนนั้นเอง ภายในกล้องส่องทางไกลจู่ๆ ก็มีดวงตาที่สวยงามเย็นชาคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้น ทำเอาคนเหล่านั้นตกใจจนทิ้งกล้องส่องทางไกล แล้ววิ่งหนีลงเนินเขาไปหลังจากที่ขับไล่พวกมดแมลงพวกนี้ไปได้แล้ว สตรีศักดิ์สิทธิ์กลั้นหายใจอีกครั้งและตั้งสมาธิ รู้สึกถึงคลื่นพลังที่ล้นออกมาอย่างต่อเนื่อง“มังกรลามก ครั้งนี้เจ้าอย่าได้จะคิดหนีออกไปจากน้ำมือของข้าได้อีก!”ด้วยเสียงร้องคำรามที่ชัดเจนและเย็นชา เธอก้าวขึ้นไปในอากาศเบาๆ ด้วยเท้าที่เหมือนหยกของเธอ ร่างของเธอเหินไปในทิศทางของเทียนเฟิ่งวิลล่าราวกับ ‘เหินฟ้า’ ในภาพยนตร์!......ขณะนั้นเอง การต่อสู้ในเทียนเฟิ่งวิลล่าก็มาถึงขั้นที่ดุเดือดเช่นกันฉู่เฉินและหลี่เต้าผิงล้วนแต่ปลดปล่อยท่าไม้ตายและเทคนิคต่างๆ ออกมาจนหมดแล้ว ตอนนี้เป็นหมัดต่อหมัด ฝ่ามือต่อฝ่ามือกำลังประจันหน้ากันอยู่“ปังๆๆ !”ทั้งสองปะทะหมัดกันอีกสามครั้ง คลื่นพลังที่น่าหวาดกลัวก็กระจายไปยังบริเวณรอบๆ แม้แต่ทรายและหินท
ฉันยังจะเข้าไปอะไรอีก!หลี่เต้าผิงเอามือกุมที่หน้าอก คลานขึ้นมาจากพื้นด้วยความยากลำบากหลังจากแลกหมัดกันไปมากกว่าสิบครั้ง เลือดที่เขาพ่นออกมาก็แทบจะเกือบครึ่งลิตรแล้ว หากยังต่อสู้ต่อไปอีก ฉู่เฉินอาจจะทำให้เขาหมดแรงจนตายได้ในเมื่อที่นี่คือที่ของฉู่เฉิน ผู้ช่วยเหลือก็เยอะแม้ว่าจะเป็นแค่คนธรรมดา ก็สามารถทำให้พลังวิญญาณในร่างกายเขาหมดแรงลง และสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายฉู่เฉินใช้ประโยชน์จากเวลา สถานที่ และผู้คนให้เต็มที่ หลี่เต้าผิงไม่ใช่คนโง่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาก็วางแผนเส้นทางหลบหนีไว้แล้ว“ไอ้เด็กนี่ วันนี้ฉันจะขอสู้ตายกับแกละ!”ทันใดนั้นหลี่เต้าผิงก็ตะคอกออกมาเสียงดัง กลิ่นอายแห่งความป่าเถื่อนเพิ่มขึ้นไปไม่รู้กี่ขั้น หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยหมัดที่ดั่งแสงหนาวผ่านหน้าของฉู่เฉินไป!“นายท่านระวัง!”อินซู่ซู่เมื่อเห็นแสงหนาวนั้น รวดเร็วราวกับสายฟ้าพุ่งไปทางฉู่เฉิน ก็รีบนำตัวบังข้างหน้าฉู่เฉินฉู่เฉินหัวใจรัดแน่น ที่จริงแล้วสถานการณ์ของเขาตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากหลี่เต้าผิงมากนัก เมื่อเห็นว่าแสงหนาวนั้นเข้าใกล้ตัวเอง ก็หลับตาขึ้นมาอย่างอดไม่ได้แค่อินซู่ซู่คนเดียวไม่สามารถป้องกันอาว
เขาเห็นแค่รอยฝ่ามือที่ยังคงประทับไว้ตรงหน้าอกข้างซ้ายฉู่เฉินหยิบเข็มเงินสามเหลี่ยมออกมาจากถุงเข็ม แล้วแทงตามรอยฝ่ามือพู่!เข็มเงินเพิ่งปักลงไป เลือดสีดำข้างในก็ทะลักออกมาฉู่เฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ โน้มตัวลง ใช้แรงดูดลงไปที่บาดแผลตามมาด้วยความรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ฉู่เฉินรีบหันหน้าไปเพื่อพ่นเลือดสีดำนั่นออกมาหลังจากที่เขาพ่นเลือดสีดำออกมาอย่างต่อเนื่องแล้ว อินซู่ซู่ที่หมดสติไปถึงฟื้นขึ้นมา“อือ...”อินซู่ซู่ที่เพิ่งฟื้นขึ้นมา ดวงตาที่สวยงามหรี่ลงอย่างหวาดกลัว เมื่อได้สติเธอก็ดิ้นรนไม่รอให้ฉู่เฉินได้อธิบาย ร่างขาวราวกับหิมะลอยมาจากกลางอากาศแสนไกลสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ยินเสียงอินซู่ซู่ร้องขอความช่วยเหลือด้วยความหวาดกลัว เธอจึงมองไปทางเทียนเฟิ่งวิลล่าไม่เป็นไรถ้าไม่มอง แต่เมื่อมองมันแล้ว ในดวงตาสวยคู่นั้นก็เผยให้เห็นสายตาพยาบาทที่ปะทุขึ้นมา!“ใต้แสงจันทร์และดวงดาวที่สดใส กล้าดียังไงมาทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้ เจ้าต้องตาย!”เมื่อพูดประโยคนั้นจบ สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ยกมือหยกของเธอขึ้น ฟาดฝ่ามือวายุไปที่ฉู่เฉินแม้ว่าเธอจะคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในโลกมนุษย์แล้วก็ตาม แต่ภายในใจก็ยังคง
เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือนักพรตชิวสุ่ยที่ช่วยย้ายบ้านเมื่อตอนกลางวัน ต้วนหลิงเวยก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไมถึงเป็นคุณ?”นักพรตชิวสุ่ยรีบทำหน้ายิ้มแย้มให้ แล้วกวักมือเรียกนักพรตเด็กหลายคนที่อยู่ด้านหลัง นักพรตเด็กสิบกว่าคนที่แบกถุงกระสอบก็เดินมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว“คุณหนูท่านนี้ หลายวันก่อนรู้ว่าคุณฉู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังหาโอกาสเหมาะ ๆ มาแสดงความห่วงใยไม่ได้เลย นี่เป็นสมุนไพรร้อยปีที่เก็บรักษาไว้ในคลังยาของสำนักเสวียนเทียนเรา ตั้งใจนำมามอบให้คุณฉู่โดยเฉพาะครับ” นักพรตชิวสุ่ยกล่าวจบก็ยังชะเง้อคอ มองเข้าไปในวิลล่าเฟิ่งหมิงแวบหนึ่ง“มองอะไร!”ต้วนหลิงเวยถลึงดวงตางาม เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “ทิ้งสมุนไพรไว้ คุณไปได้แล้ว รบกวนการพักผ่อนของนายท่าน ระวังหัวของคุณไว้ด้วยละ!”เดิมทีต้วนหลิงเวยข่มกลั้นเพลิงตัณหาไว้ในใจอยู่แล้ว เมื่อเห็นดวงตาสองข้างของนักพรตชิวสุ่ยกวาดมองไปทั่วก็ยิ่งเดือดดาล เธอหิ้วถุงกระสอบบนพื้นขึ้นมา ก่อนจะหันกายเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงเงาหลังอันอ่อนช้อยให้นักพรตชิวสุ่ยเมื่อโดนปิดประตูไม่ต้อนรับแขก นักพรตชิวสุ่ยก็ได้แต่จากไปด้วยความอับอายแต่เขาเ
“ใครกันนะ ทำเอาเสียอารมณ์เลย!”ต้วนหลิงเสวี่ยวักน้ำที่ขอบอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ พลางปลดกระดุมกี่เพ้าออกความขาวเนียนดุจหิมะเผยออกมาตรงหน้าฉู่เฉินเช่นนี้เอง โดยเฉพาะทรวงอกอวบอิ่ม ดูขาวเนียนนุ่มลื่นจริง ๆบางทีอาจเป็นเพราะปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ฉู่เฉินถึงได้ประทานความเมตตาอย่างทั่วถึงมาโดยตลอด ความสามารถของต้วนหลิงเวยเพิ่มพรวดพราด แต่จนถึงตอนนี้ความสามารถของต้วนหลิงเสวี่ยกลับไม่เพิ่มขึ้นมากนักตรงกันข้าม บางส่วนบนร่างกายยิ่งโดดเด่นขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งนุ่มลื่นขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วยฉู่เฉินกลืนน้ำลาย พยายามข่มใจใช้เคล็ดวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง แล้วก้มหน้ามองหน้าจอแวบหนึ่งเดิมทีเขายังนึกว่าเป็นถานเฟย แต่ก็พบว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นคนที่โทรศัพท์มา แววตาของฉู่เฉินอดเปล่งประกายไม่ได้เขามองอ่างอาบน้ำที่มีขนาดเท่าห้องอาบน้ำเล็ก ๆ ก่อนจะเลียริมฝีปาก กดรับสายแล้วพูดว่า “นี่เพิ่งแยกจากกันไม่กี่วัน เธอคงไม่ได้คิดถึงกันอีกแล้วใช่ไหม?”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ปลายสายเงียบไปพักใหญ่ จากนั้นถึงค่อยเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ฉู่เฉิน นายยังจำเรื่องประชุมบอร์ดบริหารที่ฉันเคยบอ
ฉู่เฉินทำให้อวี่ลู่โกรธจนเวียนหัวแล้ว บำเพ็ญเพียรอยู่ในแดนเซียนอย่างยากลำบากมากว่าพันปี เธอไม่เคยเจอคนที่หน้าหนาขนาดนี้มาก่อนเลย ทำไมดูเหมือนเธอติดหนี้บุญคุณฉู่เฉินอย่างใหญ่หลวงแทนล่ะ? ดูเหมือนเธอช่วยเหลือฉู่เฉินทุกอย่างเลยไม่ใช่เหรอนี่ทำให้เธอหงุดหงิดมาก และไม่เข้าใจมาก ๆเมื่อได้ยินว่าจะย้ายบ้าน อินซู่ซู่กับพี่น้องตระกูลต้วนกลับดีใจอย่างยิ่งบ้านเก่าของตระกูลฉู่ไม่ได้รับการซ่อมแซมมานานแล้วจริง ๆ ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย แค่ประตูใหญ่บานนี้ก็ถูกคนผลักจนล้มมาหลายครั้งแล้วภายใต้ความช่วยเหลือจากนักพรตชิวสุ่ยกับบรรดานักพรตน้อยของสำนักเสวียนเทียน ไม่นานก็เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะย้ายเข้าไปในวิลล่าเฟิ่งหมิงอย่างเอิกเกริกทันทีที่เข้าไปในประตู ความขุ่นเคืองในใจของอวี้ลู่เหมือนจะสลายหายไปทันทีพูดตามตรง สไตล์การตกแต่งแบบโบราณนี้เข้ากับรสนิยมของเธอมากจริง ๆ ที่สำคัญคือเครื่องใช้ไฟฟ้าทันสมัยในบ้านก็มีครบครัน นี่สะดวกสบายมาก หลังจากนั้นก็เดินตามฉู่เฉินวนภายในถ้ำที่ภูเขาด้านหลัง เมื่อเธอเห็นน้ำพุสวรรค์เนตรมังกร นัยน์ตาอดส่องประกายขึ้นมาไม่ได้จุ๊บ!อวี้ลู่อดไม่ได้ที่จะกอ
“คุณฉู่ ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา!”นักพรตชิวสุ่ยคุกเข่าลงตรงหน้าฉู่เฉินดังตุบฉู่เฉินหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้ผมเคยรับปากอะไรคุณด้วยเหรอ?”ซี้ด!นักพรตชิวสุ่ยกลืนน้ำลายแรง ๆ เพลิงโทสะสุมทรวงถึงขีดสุด “เรียกนักพรตน้อยตรงหน้าประตูพวกนั้นมา แล้วตามผมกลับไปบ้านเก่าของตระกูลฉู่” ฉู่เฉินตบไหล่นักพรตชิวสุ่ยเบา ๆ “นี่คุณ...” นักพรตชิวสุ่ยมองฉู่เฉินอย่างไม่เข้าใจ“ย้ายบ้าน”ฉู่เฉินกล่าวจบก็เดินออกจากถ้ำโดยไม่หันหน้ากลับมาเช่นกันเวรเอ๊ย!นักพรตชิวสุ่ยแทบจะกระอักเลือดออกมา นี่ฉู่เฉินไม่รอสักครู่หนึ่งเลยจริง ๆปัญหาคือทางฝั่งสำนักเสวียนเทียนยังคาราคาซังอยู่เลยตอนนี้นักพรตชิวสุ่ยร้อนใจเหมือนถูกไฟแผดเผานานแล้ว แต่เขาไม่กล้าแสดงออกมาอีก รู้สึกแค่ว่าเหมือนตับไตไส้พุงใกล้จะถูกไฟเผาไหม้แล้วต่อให้เป็นแบบนี้ เขาก็ได้แต่ทำตามด้วยความเชื่อฟังเท่านั้น.....บรรดาผู้หญิงที่กำลังรอข่าวของฉู่เฉินอย่างเงียบ ๆ ในบ้านเก่าตระกูลฉู่ เมื่อเห็นฉู่เฉินพานักพรตชิวสุ่ยกับนักพรตน้อยสี่ห้าคนเข้าบ้านมาด้วยกัน พวกเธอก็ลุกขึ้นมาด้วยความรู้สึกประหลาดใจอินซู่ซู่วิ่งไปที่ห้องนอ
ฉู่เฉินยิ้มอย่างเฉยชาแล้วพูดว่า “เมื่อกี้หัวหน้าใหญ่ถานพูดไว้ไม่ใช่เหรอครับ? ว่าจะแจ้งประธานซู ผมคิดว่าประธานซูคงไม่เห็นแก่เรื่องส่วนตัวหรอกใช่ไหมครับ” หา?!เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ร่างกายของเจียงจงต้าวทรุดฮวบลงกับพื้นสองปีมานี้ เขารับสินบนมาไม่น้อย และไม่รู้ว่าทำเรื่องผิดศีลธรรมไปมากเท่าไหร่ ถ้าเกิดโดนสมาคมเสวียนเหมินปลดออกจากตำแหน่งจริง ๆ เช่นนั้นเขาก็ย่ำแย่แล้ว“ได้ครับ งั้นผมจะทำตามที่คุณฉู่ว่า พอผมจัดการเรื่องราวเสร็จแล้ว จะไปรวมตัวกับคุณฉู่ที่วิลล่าเฟิ่งหมิงนะครับ” ถานเฟยกล่าวอย่างมีความนัยแอบแฝงฉู่เฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ก็ดีครับ มีเรื่องอะไรไว้ไปถึงที่วิลล่าเฟิ่งหมิงแล้วค่อยคุยกันก็ยังไม่สาย” ฉู่เฉินกล่าวจบก็หิ้วนักพรตชิวสุ่ยเหมือนกับหิ้วลูกเจี๊ยบเดินออกจากอาคารสำนักงานของแก๊งมังกรชิงซงกำลังคิดจะแอบหนีไป ผลปรากฏว่าถูกเซียวเฟิงคว้าคอเสื้อไว้ ทำเอาชิงซงตกใจกลัวจนขาอ่อนยวบก่อนจะคุกเข่าลงไป“ผู้บัญชาการเซียว...” เซียวเฟิงหัวเราะหยันแล้วพูดว่า “ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นตามอำเภอใจ ดูถูกแก๊งมังกร วันนี้คุณไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น และใช้เวลาครึ่งชีวิตที่เหลือของคุณในคุกของ
“ผู้บัญชาการเซียวเป็นคนที่ยึดมั่นในความยุติธรรมมากครับ”ฉู่เฉินมองไปที่เซียวเฟิง แล้วเผยรอยยิ้มที่มีเลศนัยเมื่อได้ยินคำพูดนี้ หัวใจที่หวั่นวิตกของเซียวเฟิงก็โล่งใจในที่สุดถานเฟยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน จากนั้นถึงค่อยหันหน้าไปมองเจียงจงต้าวแล้วเอ่ยปากพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ตราบใดที่คุณฉู่ไม่ยอมให้อภัยคุณ ผมจะเป็นตัวแทนของแก๊งมังกรไปขอคำอธิบายจากประธานซูด้วยตัวเอง”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เจียงจงต้าวถึงกับมึนงงไปแล้วเพื่อที่จะดำรงตำแหน่งรองประธานนี้ ไม่รู้ว่าเขาเสียเงินไปมากเท่าไร ขอเส้นสายมามากเท่าไหร่จะให้ถูกปลดง่าย ๆ แบบนี้ได้ที่ไหนกัน?เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงจงต้าวก็ไม่สนใจหน้าตาอะไรอีกแล้ว เขาโขกศีรษะพลางพูดกับฉู่เฉินว่า “คุณฉู่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับผมจริง ๆ”“ทั้งหมดเป็นเพราะคนของสำนักเสวียนเทียน โลภมากอยากได้สมบัติในมือของคุณถึงได้ส่งคนมาหาผม แถมยังบอกว่าคุณไม่มีสำนัก สามารถจัดการได้ตามใจชอบ ขอเพียงได้รับสมบัติในมือของคุณ พวกเขาจะมอบทองคำขนาดใหญ่ให้ผมปีละสองแท่ง”“ไม่เชื่อคุณก็ดูสิ นี่ก็คือของไอ้สารเลวชิวสุ่ยมอบให้ผม”เจียงจงต้าวพูดพลางหยิบทองคำขนาดใหญ่สี่แท่ง
หรือว่า...ตอนนี้เอง พวกเขาสองคนทำได้เพียงภาวนาในใจอย่างเงียบ ๆ ว่าถานเฟยไม่ได้มาเพราะเรื่องของฉู่เฉิน“ลมอะไร?”ถานเฟยเอ่ยพลางหัวเราะด้วยเสียงเย็นชา “ลมปีศาจไง!”เมื่อสิ้นเสียงพูด ถานเฟยก็ไม่สนใจพวกเซียวเฟิงเลย แต่เดินไปหาฉู่เฉินอย่างรวดเร็ว“คุณฉู่ ต้องขออภัยจริง ๆ ที่สร้างความลำบากให้คุณมากขนาดนี้ ผมเป็นตัวแทนของหัวหน้าหลงขอกล่าวขอโทษคุณอย่างเป็นทางการครับ”ภายใต้สายตาตกตะลึงอย่างยิ่งของทุกคน ถานเฟยกลับโค้งตัวให้ฉู่เฉินสามครั้งติดกัน!เมื่อเจียงจงต้าวเห็นภาพนี้ ในใจพลันเย็นเยียบไปครึ่งหนึ่งดูเหมือนว่าแม้แต่ทองคำขนาดใหญ่สี่แท่งที่อยู่ในแขนเสื้อของเขาก็กลายเป็นเผือกร้อนมือแล้วนักพรตชิวสุ่ยเต๋ายิ่งตกใจกลัวจนเหงื่อแตกพลั่กเป็นสายฝน ร่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สั่นจนเป็นก้อนแล้วชิงซงก็ทรุดตัวลงไปบนเก้าอี้ทันที ไม่มีความกล้าแม้กระทั่งจะเงยหน้ามองฉู่เฉินสักแวบหนึ่ง ครั้งนี้เตะถูกแผ่นเหล็กเข้าแล้วจริง ๆเดิมทีเขาแค่อยากรังแกงฉู่เฉินที่ไม่มีสำนักและคนหนุนหลัง แย่งชิงกระจกแปดทิศจากในมือของฉู่เฉินแต่คนอย่างฉู่เฉินจำเป็นต้องมีคนหนุนหลังด้วยเหรอ?ต้องมีสำนักด้วยเหรอ?ไม่จำเป็นเลย
คำพูดนี้ของเซียวเฟิงไม่เพียงพูดกับพวกเจียงจงต้าว แต่ยังพูดกับฉู่เฉินด้วยก่อนที่ความจริงจะกระจ่าง เซียวเฟิงไม่มีทางเลือกข้างโดยง่ายเป็นอันขาดขณะที่เวลาผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละวินาที ในขณะที่ทุกคนยังคงรอคอยถานเฟย เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของนักพรตชิวสุ่ยพลันดังขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งราวกับเร่งเอาชีวิตเมื่อก้มหน้ามองหมายเลขที่โทรศัพท์เข้ามา เห็นว่าเป็นหัวหน้านักพรตชิวเฟิง นักพรตชิวสุ่ยก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ก่อนจะรับสายแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องชิวเฟิง มีธุระอะไรรอให้ฉันกลับไปแล้วค่อยคุย!” “ศะ...ศิษย์พี่เจ้าสำนัก...กะ...เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ!”แม้จะมีสายโทรศัพท์กั้นไว้ แต่นักพรตชิวสุ่ยก็ยังรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังในน้ำเสียงของนักพรตชิวเฟิง“เป็นอะไรไป เกิดอะไรขึ้น?” นักพรตชิวสุ่ยรู้สึกเหมือนหัวใจหนักอึ้ง รีบถามซักไซ้“ศิษย์พี่ ละ...ลัทธิศักดิ์สิทธิ์ ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานหลายสิบคนของลัทธิศักดิ์สิทธิ์ล้อมสำนักเสวียนเทียนไว้แล้ว เอาแต่พูดว่ามาหาพวกเราเพื่อขอคำอธิบายครับ”“ตะ...แต่ผมจำไม่ได้จริง ๆ ว่าพวกเราเคยล่วงเกินลัทธิศักดิ์สิทธิ์นะครับ”เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ คำพูดของชิวเฟิงมีความรู้สึกเหมือ
“ถ้าหากสมบัติชิ้นนี้ไม่ได้เป็นของพวกคุณ ผมก็จะให้พวกคุณต้องชดใช้ด้วยชีวิตเช่นกัน”ทันทีที่พูดจบ ฉู่เฉินก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรหาถานเฟยทันทีเดิมทีฉู่เฉินไม่ได้อยากให้ถานเฟยเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ก็จนปัญญาจริง ๆ เพราะนักพรตชิวสุ่ยดื้อด้านราวกับพลาสเตอร์แปะแผลหนังหมา ที่พยายามสลัดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุด!ไม่นานนัก อีกฝ่ายก็รับโทรศัพท์ ก่อนที่เสียงของถานเฟยจะดังขึ้นจากปลายสาย “คุณฉู่ ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ ผมก็กำลังจะติดต่อหาคุณพอดี!”มุมปากของฉู่เฉินกระตุกเล็กน้อยสองที ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา “ถานเฟย ผมว่าคุณจงใจจะเล่นงานผมใช่ไหม ยังจะบอกว่ากำลังจะโทรหาผมอีก? กลัวแค่ว่าถ้าคราวหน้าจะเจอกัน คุณคงต้องไปไหว้หลุมศพผมที่สุสานแทนแล้วล่ะ!”อะไรนะ?!เมื่อถานเฟยได้ยินแบบนั้น ก็ถึงกับชาวาบไปทั้งตัว รีบถามกลับด้วยงุนงง “คุณฉู่ หมายความว่ายังไงกัน? ผมยังไม่ทันได้ขอบคุณคุณด้วยซ้ำ จะจงใจเล่นงานคุณได้ยังไง?”ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ “จริงเหรอ? นี่คุณไม่ได้คิดจะใช้โอกาสที่มอบกระจกแปดทิศให้ผม แล้วปล่อยให้สมาคมเสวียนเหมินแห่งมณฑลเจียงหาเรื่องผมใช่ไหม?”“ผมได้ยินมาว่า การขโมยสมบัติของผู้อื่นน