“กะ...แกลอบโจมตี...” ฉินหล่างกุมใบหน้าด้านขวาที่โดนกระแทกใส เขากลิ้งตัวก่อนจะลุกพรวดขึ้นมาจากพื้น เวลานี้ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขามีรอยรองเท้าสีดำสนิท แถมยังมีเลือดไหลซึมจากในรอยรองเท้าไม่หยุด สมองส่งเสียงดังวิ้ง ๆ “ปัง!”สิ่งที่ตอบเขามีเพียงการตบใบหน้าฉาดใหญ่อย่างไร้เสียงของฉู่เฉินเท่านั้นแค่ตบหน้าทีเดียว ฉินหล่างก็ล้มคว่ำลงกับพื้นอีกครั้งเวลานี้ฉินหล่างมึนงงโดยสิ้นเชิงแล้ว เขาอยู่ระดับฝึกปราณชั้นห้านะ ความสามารถเทียบเท่ากับปรมาจารย์!มองไปทั่วทั้งเจียงจงก็หายอดฝีมือระดับปรมาจารย์เจอได้ไม่กี่คนใช่หรือเปล่า? แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าฉู่เฉิน เขาเหมือนกับเป็นเด็กสาวขวบที่โดนฉู่เฉินจัดการได้ตามใจชอบ ถึงขนาดไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อต้านเลย หรือว่าฉู่เฉินคนนี้คือ...จนกระทั่งตอนนี้เอง เขาถึงสังเกตเห็นว่ากลิ่นอายรอบตัวฉู่เฉินคล้ายคลึงกับอาจารย์ของตนเองอย่างน่าประหลาด ใช่แล้ว!มันดูเหมือนคนธรรมดา แต่ความจริงแล้วน่ากลัวสุดขีด เขาก็อยู่ระดับฝึกปราณชั้นหกเหรอ? พอคิดถึงความเป็นไปได้เช่นนี้ นัยน์ตาของฉินหล่างพลันหดลง ลอบตะโกนว่าแย่แล้ว แต่ในตอนนี้เอง เท้าขนาดใหญ่ของฉู่เฉินเหยียบบ
“จินเจิ้นหลงล่ะ?” ฉู่เฉินเดินกลับไปที่ห้องโถงพลางเอ่ยปากถามอย่างเฉยชา“คุณฉู่ ช่วยด้วยครับ”จินอ้าวเทียนคุกเข่าต่อหน้าฉู่เฉินดังตุบ แล้วอ้อนวอนด้วยสีหน้าเคารพนอบน้อมฉู่เฉินกวาดตามองจินอ้าวเทียนแวบหนึ่ง แต่ไม่สนใจเขาเลย ทว่านั่งลงบนโซฟาตามจินหลิงเอ๋อร์ตอนนี้ทั่วทั้งตัวของจินหลิงเอ๋อร์มีเพียงเสื้อคลุมตัวเดียวเท่านั้น หน้าอกอวบอิ่มสองข้างอยู่ในสภาพปกปิดไว้เพียงครึ่งเดียว ท่อนล่างก็เปลือยเปล่า เผยให้เห็นขาขาวนวลดุจหิมะสองข้างกับสะโพกกลมกลึงโดดเด่นกลางอากาศเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงหน้าเล็กที่ร้องไห้จนเหมือนดอกสาลี่ต้องหยาดฝน ยิ่งเห็นแล้วชวนให้รู้สึกสงสาร“คุณฉู่ พ่อของฉันขะ...เขาโดนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แถมหลี่ก่านก็ยังทรยศตระกูลจิน ตอนนี้พ่อของฉันกำลังโดนเขาคุมตัวอยู่ค่ะ” จินหลิงเอ๋อร์ก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฉู่เฉินฟังขณะที่พูด หลังจากพูดจบ จินหลิงเอ๋อร์อดหลั่งน้ำตาอีกครั้งไม่ได้ เธอโผเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของฉู่เฉินแล้วส่งเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดครั้งนี้เธอตกใจกลัวแล้วจริง ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าอยู่ในบ้านหรืออยู่ข้างนอก เธอคือคุณหนูที่ทรงอำนาจอยู่เสมอ ท
การเสียชีวิตของซ่งหู่กระทบกระเทือนใจหลี่เต้าผิงไม่น้อยจริง ๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นทำให้เขาโศกเศร้าใจ แต่ฉินหล่างเป็นคนที่เขาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กจนโต พูดได้ว่าความรู้สึกระหว่างทั้งสองคนเป็นทั้งศิษย์อาจารย์และเหมือนกับพ่อลูก “ศิษย์เอ๋ยค่อย ๆ เดินนะ รออาจารย์แก้แค้นให้แก!”สิ้นคำพูด กลิ่นอายรอบตัวหลี่เต้าผิงเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมดุดันอย่างยิ่ง นัยน์ตาสองข้างก็เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย!วินาทีต่อมา หลี่เต้าผิงหยิบกระดาษยันต์ที่วาดยันต์ไว้เรียบร้อยแล้วออกมาจากตัว ก่อนจะพับเป็นนกกระเรียนกระดาษอย่างรวดเร็ว“ทะยานฟ้าค้นหาร่องรอย คำสั่งเร่งด่วน ปลุก!”จากนั้นหลี่เต้าผิงพูดพึมพำและจิ้มนกกระเรียนกระดาษเบา ๆ ราวกับสั่งการนกกระเรียนกระดาษตัวนั้นค่อย ๆ บินขึ้นสูงกว่าหนึ่งเมตร ก่อนจะไปตามห้องของโรงแรมเพื่อติดตามร่องรอยนกกระเรียนกระดาษตัวนี้จะค้นหากลิ่นอายของฉินหล่าง ตามรอยไปตลอดทาง ขอเพียงเป็นสถานที่ที่ฉินหล่างเคยไป กลิ่นอายของฉินหล่างก็จะยังหลงเหลืออยู่ภายในหนึ่งวัน นกกระเรียนกระดาษจึงพาหลี่เต้าผิงไปที่สำนักมวยตระกูลจินก่อน หลังจากเก็บนกกระเรียนกระดาษกลับมาแล้ว หลี่เต้าผิงได้ตรวจสอบบริเวณใกล้เ
อินซู่ซู่ถูกหลี่เต้าผิงที่โผล่มากะทันหันทำให้ตกใจ เธอสงบสติอารมณ์ของเธอก่อน ถึงจะขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นมาว่า “คุณเป็นใคร? ลูกศิษย์ของคุณคือใคร?”“ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าใครฆ่าลูกศิษย์ของคุณหลีกไป ไม่อย่างนั้น... ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความแล้วนะ”หลี่เต้าผิงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา โบกแส้ปัดสองครั้ง ยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย “แจ้งความเหรอ? คนสวย อย่ามาแสร้งเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย ผู้ที่สามารถร่างยันต์พรางกายในบ้านนี้ ต้องเป็นผู้ที่สังหารลูกศิษย์ของฉัน”“บอกมา เจ้าของบ้านหลังนี้อยู่ที่ไหน!”คำพูดนั้นกำลังสิ้นสุดลง หลี่เต้าผิงเพียงแค่ก้าวเดินเข้ามา ร่างของเขาที่ดูเหมือนวิญญาณอยู่ห่างจากอินซู่ซู่ไม่ถึงห้าสิบเมตรจิๆ !อย่าคิดว่าปราณของอินซู่ซู่ไม่สูง แต่ประสบการณ์ที่เธอพบเจอมาก็ไม่น้อย นี่มันวิชาย่อพสุธาชัดๆ !แม้แต่ศิษย์อาวุโสในสำนัก ล้วนแต่ได้ยินแค่วิชาย่อพสุธา อย่าพูดถึงแสดงวิชาออกมาเลยแต่ว่าตาแก่เจ้าเล่ห์นี่สามารถใช้วิชาย่อพสุธาออกมาได้ถึงขั้นสูงเช่นนี้เลยเหรอ?แบบนี้ก็แสดงว่าตาแก่เจ้าเล่ห์ที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ อย่างน้อยต้องอยู่ระดับเดียวกับอาจารย์ของเธอใช่ไหม?เมื่อเห็นว่าอิน
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลี่เต้าผิงก็ร้อนรนขึ้นมา กัดฟันพูดขึ้นมาด้วยความโมโห ซัดฝ่ามือเข้าไปที่หน้าอกของอินซู่ซู่ปัง!ฝ่ามือเดียวนี้ฟาดอินซู่ซู่ไปไกลถึงสามสี่เมตร กระแทกลงไปที่พื้นอย่างแรงหลี่เต้าผิงกวาดสายตาไปที่อินซู่ซู่ที่สลบอยู่ กัดฟันพร้อมพูดขึ้นมาว่า “รอก่อนเดี๋ยวฉันจะมาจัดการเธอ นังเลว!”พูดเสร็จ ก็รีบหันศีรษะ หลบหลีกเขาไปในป่าที่ไม่ไกลในขณะที่หลี่เต้าผิงกำลังหลบหนีเข้าไปในป่า อินซู่ซู่แม้ว่าจะสะลึมสะลือ แต่เธอก็ฝืนตัวเองลืมตาทั้งสองขึ้นมา ในขณะที่เธอกำลังจะพยายามลุกขึ้น ก็กระอักเลือดสีแดงสดออกมาคำใหญ่เนื่องด้วยบาดแผลที่สาหัส ความร้อนรุ่มภายในร่างกายเธอก็ยิ่งรุนแรงขึ้นอินซู่ซู่ตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ดูเหมือนเธอกำลังจะถูกความร้อนกัดกินในทันที“ไม่ได้ ต้องพยายาม... ต้องรีบรายงานนายท่านให้เร็วที่สุด...”กัดฟันแล้วกัดฟันอีก อินซู่ซู่ใช้ความปรารถนาที่แรงกล้าเฮือกสุดท้าย คลานขึ้นมาจากพื้น โซเซไปจนถึงทางแยก ยื่นมือไปโบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง แล้วรีบไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าในป่า หลี่เต้าผิงที่เห็นว่าอินซู่ซู่วิ่งหนีขึ้นแท็กซี่ไป ก็โกรธจัดหากเขารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เม
“นายท่าน... ตาแก่นั่นเหมือนต้องการจะทำร้ายคุณ เขาเอาแต่พูดว่าจะแก้แค้นให้ลูกศิษย์ของเขา ฉัน... ฉันต้องการรีบมาแจ้งให้คุณทราบ แต่กลับถูกตาแก่นั่น...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ อินซู่ซู่ก็สำลักทันที พ่นเลือดสีดำออกมาอีกครั้ง“ไม่ต้องพูดแล้ว”ฉู่เฉินรีบตรวจสอบที่กระเป๋าเสื้อของอินซู่ซู่ พบว่าตรงหน้าอกของอินซู่ซู่มีรอยฝ่ามือสีดำปรากฏขึ้น!อีกทั้งรอยฝ่ามือนั้นยังขยายขอบเขตไปอย่างกว้างขวางไม่หยุดซี้ด!ฝ่ามือวายุทมิฬ?!แม้แต่ฉู่เฉินยังอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นขึ้นมา หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ภายในสามยามนี้ หากรอยฝ่ามือนี้แพร่กระจายไปยังทั่วทั้งร่างกาย อินซู่ซู่ก็จะตายทันทีไม่มีเวลาให้คิดมากมาย ฉู่เฉินก็รีบสั่งให้สาวใช้เตรียมห้องที่สงบให้เขาห้องหนึ่ง พร้อมส่งคนให้ไปหยิบเข็มเงินมา เขาใช้เข็มเงินปิดจุดใหญ่ๆ หลายจุดของอินซู่ซู่ไว้ก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของสารพิษจากฝ่ามือวายุทมิฬ......อีกด้านหนึ่ง หลี่เต้าผิงตามนกกระเรียนกระดาษ มาถึงป่าซึ่งห่างจากเทียนเฟิ่งวิลล่าเพียงหนึ่งร้อยเมตร เขาถึงโน้มตัวลงมา สายตาเย็นยะเยือกมองไปทางเทียนเฟิ่งวิลล่าในตอนนั้นเอง ก็มีลูกศิษย์สองคนจากสำนั
“สวบๆๆ”ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ดูเหมือนไกลแต่ใกล้ ฉู่เฉินตามหาที่มาของเสียง ผู้อาวุโสที่สวมชุดนักพรต ในมือถือแส้หางม้า ปรากฏร่างหนึ่งขึ้นมาห่างจากฉู่เฉินไม่ถึงห้าเมตรหยุดอยู่กับที่ตรงนั้น“เจ้าหนุ่ม แกนี่บังอาจจริงๆ !”หลี่เต้าผิงกัดฟันพูดขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาตจ้องมองมาที่ฉู่เฉิน “ ฉันให้เวลาแกแค่สามลมหายใจ ยอมรับผิดต่อหน้าฉันซะ ไม่อย่างนั้นคฤหาสน์นี่จะถูกฉันทำลายอย่างสิ้นซาก!”ฉู่เฉินกวาดสายตามองไปที่หลี่เต้าผิงทีหนึ่ง ขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ตาแก่ ต่อมลูกหมากแกมีปัญหาเหรอ? ทำไมพูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้?”ไอ้ฉิบหาย!หลี่เต้าผิงตะคอกออกมาด้วยความโมโห โกรธจนใบหน้าบูดเบี้ยวไปหมด ฟาดแส้หางม้าที่อยู่ในมือไปทางฉู่เฉิน เสียงดังเพียะ ไอกระบี่ที่เงียบและมองไม่เห็นปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในหมอกหนาทึบและหายไปทันทีฉู่เฉินก็หัวใจเต้นแรงขึ้น ราวกับว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณเขารีบหลบไปข้างๆตูม!ต้นสนที่หนาพอๆ กับปากชามด้านข้าง ฉู่เฉินก็ถูกตัดออกเป็นส่วนท่อนเมื่อเห็นภาพแบบนี้ ฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา ปลดปล่อยพลังวิญญาณงั้นเหรอ?เป็นไปไม่ได้!หรือว่านี่จะเป็นเวทมนตร์วิชาลึ
หลังจากที่หลี่เต้าผิงพูดจบ กลิ่นอายรอบๆ ตัวเขาก็เปลี่ยนไปด้วยตูม!แรงกดดันความน่าสะพรึงกลัวของปรมาจารย์การฝึกฝนระดับหก แผ่คลุมไปทั่วทุกแห่ง และกระบี่อ่อนในมือของเขาก็เปล่งประกายแสงเย็นภายใต้แสงจันทร์อันมืดมิดบนท้องฟ้า“ชิ้ง!”ในขณะนี้ หลี่เต้าผิงไม่ได้ยับยั้งสิ่งใดและปลดปล่อยการเคลื่อนไหวอันทรงพลังทันทีที่เรียกว่าวิชาแยกภูเขาหัวซาน ไอกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวฟันผ่านอากาศรอบตัวเขา ทิ้งรอยร้าวสีขาวเงินเอาไว้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!พูดจริงๆ ฉู่เฉินในตอนนี้ ถึงแม้ว่าระดับพลังของเขาจะมั่นคงในการฝึกปราณชั้นหกแล้วแต่ว่าหากเทียบกันในด้านประสบการณ์การต่อสู้แล้ว เขายังห่างชั้นกับหลี่เต้าผิงไปหลายขั้นเมื่อเห็นกระบี่กำลังจะตกลงบนศีรษะ ฉู่เฉินก็ไม่กล้าออมมืออีกต่อไป เขารีบบินถอยหลังเพื่อสร้างระยะห่างระหว่างตัวเขากับหลี่เต้าผิงในทันที“เจ้าหนุ่ม จะหนีไปไหน!”หลี่เต้าผิงโบกกระบี่ยาวในมือ โดยสามารถตัดผ่านภูเขาหลายพันลูกได้ในครั้งเดียวชิ้ง!แสงกระบี่สีเงินผ่านหน้าเขาไป!ฉู่เฉินรีบกระโดดขึ้นอย่างรีบร้อน ในขณะที่เขากำ