ซูซูโค้งตัวเล็กน้อยให้จางเฉิงหลง เอ่ยอย่างสุภาพว่า “สวัสดีตอนเย็นค่ะ รองผู้อำนวยการจาง ฉันคือพิธีกร ซูซู” “สวัสดีตอนเย็นครับ ผมกับเพื่อนร่วมงานหลายคนของโรงพยาบาลเรากำลังดูไลฟ์สดของคุณอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เมื่อกี้คนแซ่ฉู่พูดจาอวดดีเกินไปแล้ว! ”“ผมคิดว่าผู้ชมส่วนใหญ่น่าจะยังไม่ทราบว่าโรคหอบหืดนี้รักษายากแค่ไหน อันที่จริงหลัก ๆ แล้วโรคหอบหืดเกิดขึ้นจากเซลล์ของถุงลมปอดที่ตายเป็นจำนวนมาก” “พูดอีกอย่างก็คือ หากต้องการรักษาโรคหอบหืดจำเป็นจะต้องให้เซลล์ถุงลมปอดของผู้ป่วยฟื้นคืนชีพจากความตาย” เมื่อคำพูดนี้กล่าวออกมา แม้แต่เจ้าหน้าที่ในช่องไลฟ์สดล้วนพากันสูดลมหายใจเย็นยะเยือก “เท่าที่ผมทราบมา แม้แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์กับยาโมเลกุลที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกก็ไม่สามารถฟื้นฟูการทำงานของ เซลล์ถุงลมปอดที่ตายไปได้ เขาเป็นแค่คุณชายเศรษฐีจะไปมีความสามารถอะไร?” เมื่อฟังเขาพูดจบ ซูซูก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “พูดอีกอย่างก็คือ เมื่อเป็นโรคหอบหืดแล้ว อย่างน้อยในแง่ของการแพทย์สมัยใหม่ก็เท่ากับถูกตัดสินประหารชีวิตแล้ว ทำได้เพียงกินยาไปตลอดชีวิต เป็นแบบนี้เหรอคะ รองผู้อำนวยการจาง?”
นี่ยังไม่จบ ในขณะที่สวี่ถิงถิงตกใจจนหน้าถอดสี ฉู่เฉินก็หยิบน้ำแร่ขึ้นมาหนึ่งขวดแล้วอมน้ำคำเล็ก ๆ ไว้ในปาก จากนั้นก็ประกบปาก ค่อย ๆ ส่งน้ำแร่คำนี้ตรงเข้าไปในปากของสวี่ถิงถิงเชี่ย! ไอ้เวรนี่กำลังทำอะไรอยู่?! ซูซูที่เป็นพิธีกรสาวของช่องไลฟ์สดตกตะลึงจนตาค้างโดยสิ้นเชิง ผู้ชมสองสามล้านคนก็มองอย่างอึ้ง ๆ เช่นกัน “กลืนลงไป!”ฉู่เฉินพูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ อึก! แม้ว่าสวี่ถิงถิงจะทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่เธอยังคงกลืนน้ำแร่คำนั้นลงไปในท้อง เวลานี้สมองของเธองุนงงไปหมดแล้ว! ในช่องไลฟ์สดยังมีผู้ชมสองล้านกว่าคนกำลังดูอยู่ ฉู่เฉินก็ทำตัวเหิมเกริมขนาดนี้เชียวเหรอ? แต่ว่าทำไมถึงรู้สึกแปลก ๆ ความรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อกี้ก็ดีขึ้นมากทันทีเหมือนกัน?ส่วนในช่องไลฟ์สด หลิ่วหรูเยียนที่เห็นฉากนี้กลับอดหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้ เธอเคยเห็นการรักษาแบบตบตี และก็เคยเห็นการฝังเข็มครอบแก้วเพื่อรักษาโรคเรื้อรัง แต่ไม่เคยเห็นการรักษาแบบฉู่เฉินมาก่อนเลย “โคตรเชี่ย! นี่แม่งกำลังลวนลามไม่ใช่หรือไง!” “ถ้านี่รักษาโรคหอบหืดได้ งั้นยังจะมีแผนกหูตาคอจมูกปากไปอีกทำไม!” “เวรเอ๊ย ป
อย่าว่าแต่จางเฉิงหลงไม่เชื่อเลย แม้แต่ซุนเซี่ยวเหรินกับฮว่าจิ่วหยางก็รู้สึกเหมือนกำลังฝันไปพวกเขาต่างก็เป็นคนที่หมกมุ่นกับแพทย์แผนจีนมาหลายสิบปี แม้แต่พวกเขาก็ดูไม่ออกว่าฉู่เฉินใช้วิธีการรักษาแบบใดกันแน่ หลิ่วหรูเยียนยิ่งทำหน้าตะลึงงัน หรือว่าแมวตาบอดอย่างฉู่เฉินจะโชคดีเจอหนูตายอีกแล้ว? เขาแม่งโชคดีจริง ๆ! และในคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว หลิ่วชิงเหอที่กำลังดูไลฟ์สดเช่นเดียวกันก็มีสีหน้าซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆฉู่เฉินตรงหน้านี้ยังเป็นไอ้สวะเมื่อตอนนั้นอยู่อีกหรือเปล่า? ตอนนี้เธอไม่เข้าใจฉู่เฉินมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไลฟ์สดคืนนี้ การแสดงความสามารถที่โดดเด่นของฉู่เฉินเกินกว่าที่เธอจินตนาการไว้มากถ้าเกิดแค่ครั้งสองครั้งอาจพูดได้ว่าฉู่เฉินเดาสุ่ม หรือไม่ก็อาศัยโชคล้วน ๆ แต่พอติดต่อกันครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นไม่ใช่โชคแล้ว!“หรือว่าการเปลี่ยนแปลงพวกนี้ของเขาจะเกี่ยวข้องกับกายาโอสถสวรรค์?” หลิ่วชิงเหอจ้องมองฉู่เฉิน จมอยู่ในห้วงความคิด..... ในช่องไลฟ์สด ผู้ชมที่ยังเยาะหยันฉู่เฉินเมื่อครู่นี้ เวลานี้พวกเขาต่างพุ่งเป้าไปที่จางเฉิงหลงกับโรงพยาบาลประชาชนแล้ว“เชี่ย โรงพ
“เพียงแต่ว่าคุณอย่าลืมเอาขี้มาด้วยละ ผมยังรอดูคุณไลฟ์สดกินขี้อยู่นะ”เมื่อได้ยินคำกล่าว จางเฉิงหลงก็อดทำหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธจัดไม่ได้! จนถึงตอนนี้แล้ว หมอนี่ยังปากแข็งอีก! “นายว่าไงนะ?! แน่จริงก็พูดอีกครั้งสิ!” จางเฉิงหลงหน้าเขียว โกรธจนหอบหายใจแฮก ๆ ต่อให้เขาเป็นฝ่ายแพ้จริง ๆ ก็ไม่มีทางไลฟ์สดกินขี้เด็ดขาด เขายังต้องรักษาหน้าตาอยู่โอเคไหม! การเดิมพันเมื่อกี้เป็นแค่การพูดเพราะโมโหไปชั่วขณะเท่านั้น แต่หมอนี้กลับคิดเป็นจริงเป็นจังซะอย่างนั้น? อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดฉู่เฉินเป็นฝ่ายแพ้จะต้องเอาศีรษะนี้โขกหัวขอขมา!ใครใช้ให้เขามีตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาชน และฉู่เฉินเป็นตัวอะไรกันล่ะ! ส่วนเรื่องความยุติธรรม?โลกนี้มีความยุติธรรมมากขนาดนั้นที่ไหนกัน! “ยังต้องให้ทวนซ้ำอีกกี่ครั้ง? หมอไร้ฝีมืออย่างพวกคุณไม่เพียงทำให้คนเสียชีวิต ขนาดความซื่อสัตย์จริงใจขั้นต่ำสุดในการเป็นมนุษย์ยังไม่มีเลยเหรอ?!” ฉู่เฉินเอ่ยเยาะหยันด้วยเสียงเย็นชา รองผู้อำนวยการบ้าอะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าฉู่เฉินก็ไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเขาจะต้องยื่นหน้ามาให้ฉู่เฉินตบให้ได้ ฉู่เฉินก็ขี้
เมื่อได้ยินฮว่าจิ่วหยางเรียกฉู่เฉินด้วยความเคารพ จางเฉิงหลงกับผู้เชี่ยวชาญหลายคนในห้องทำงานต่างอดตะลึงไม่ได้ ไอ้เด็กฉู่เฉินคนนี้คงไม่ได้รู้จักกับฮว่าจิ่วหยางหรอกใช่ไหม?“หรือว่าหมอเทวดาฮว่า...”“ไม่ใช่หรอก จากในน้ำเสียงของผู้อาวุโสฮว่าเมื่อกี้ คนแซ่ฉู่น่าจะเจอผู้อาวุโสฮว่าเป็นครั้งแรกเหมือนกัน” “เหอะ ฉันว่าผู้อาวุโสฮว่าอาจจะไปเปิดโปงคำโกหกของเขาก็ได้ ไอ้หมอนี่ทำลายชื่อเสียงแพทย์แผนจีนต่อหน้าแฟนคลับกว่าสองล้านคน ผู้อาวุโสฮว่าจะนั่งมองดูเฉย ๆ ได้ยังไง?” ผู้คนต่างแสดงความคิดเห็นขึ้นมาอย่างหลากหลาย เมื่อได้ยินความคิดเห็นของผู้คน จางเฉิงหลงก็มองผู้อาวุโสฮว่ากับฉู่เฉินในหน้าจออย่างละเอียดอีกครั้ง พอเห็นทั้งคู่ดูไม่เหมือนคนรู้จักเก่าจริง ๆ เขาถึงค่อยรู้สึกวางใจเล็กน้อย ตราบใดที่ผู้อาวุโสฮว่าไม่ได้สนับสนุนฉู่เฉิน เช่นนั้นเขาก็มีวิธีการมากมายที่จะเหยียบฉู่เฉินอย่างโหดเหี้ยมไว้ใต้ฝ่าเท้า!ภายในห้องนั่งเล่นของบ้านเก่าตระกูลฉู่ ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ผู้อาวุโสฮว่า อันที่จริงแล้วหลักการนี้ไม่ได้ยากเลย ในความรู้แพทย์แผนจีนเบื้องต้นก็มีบันทึกไว้ชัดเจน”ว่าไงนะ? เมื่อคำพูดนี้ออกม
ที่แท้วิธีการรักษาพื้นฐานสุดเหล่านั้นยังสามารถปรับให้ดีขึ้นแบบนี้ได้ด้วยเพียงแต่ว่าฉู่เฉินมีเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้บอกเขาให้ชัดเจน ตอนที่ฉู่เฉินนวดให้สวี่ถิงถิงเมื่อกี้มีพลังวิญญาณกลุ่มเล็ก ๆ อยู่ในฝ่ามือการนวดหน้าอกเป็นเพียงฉากหน้า ความจริงแล้วเขาอัดพลังวิญญาณเข้าไปในถุงลมปอดที่เสียหายของสวี่ถิงถิงผ่านการสัมผัสอย่างแนบชิดตรงฝ่ามือและใบหน้า หลังจากที่ผ่านการบำรุงด้วยพลังวิญญาณ ถุงลมปอดที่เสียหายของสวี่ถิงถิงถึงได้ฟื้นฟูกลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้ในน้ำแร่คำนั้นก็มีพลังวิญญาณในร่างฉู่เฉินด้วย นี่ถึงรักษาโรคหอบหืดของสวี่ถิงถิงให้หายได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ภาย ใต้ผลสองชั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือต่อให้ฮว่าจิ่วหยางใช้วิธีการของฉู่เฉิน นวดหน้าอกผู้ป่วยจนเปลี่ยนรูปก็ไม่ทำให้อาการของโรคดีขึ้นได้เลยสักนิดเดียว “อย่างนั้นก็หมายความว่าอาการป่วยของเธอหายดีแล้ว?” ฮว่าจิ่วหยางหันหน้ามองไปทางสวี่ถิงถิง เวลานี้เขาประหลาดใจที่พบว่าสวี่ถิงถิงไม่หอบแล้วจริง ๆ เมื่อดูนาฬิกาข้อมือแวบหนึ่ง นับตั้งแต่ที่ฮว่าจิ่วหยางเข้ามาในห้องจนกระทั่งตอนนี้ยังไม่ถึงห้านาทีเลย! ในใจของฮว่าจิ่วหยางยิ่งรู้สึกสงสัยใคร่รู้เก
ตูม! จางเฉิงหลงถูกฮว่าจิ่วหยางซักถามจนสมองดังวิ้ง ๆสถานการณ์ไม่อาจชัดเจนไปมากกว่านี้แล้ว ถ้าเขากล้าสงสัยฉู่เฉินอีกก็เท่ากับว่ากำลังสงสัยฮว่าจิ่วหยาง จางเฉิงหลงรู้สึกขมขื่นในใจ! เขาไม่ยอมรับ! แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฮว่าจิ่วหยาง เขากลับทำได้เพียงสะกดกลั้นความรู้สึกไม่พอใจทั้งหมดไว้ในใจ ไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียว “เปล่านะครับ ผู้อาวุโสฮว่า ผะ...ผม...” “เลิกพูดไร้สาระ ก่อนหน้านี้คุณบอกไม่ใช่เหรอว่าถ้าเกิดคุณฉู่รักษาโรคของเธอให้หายได้ คุณจะกินขี้ชามใหญ่? ตอนนี้คุณทำตามที่เดิมพันไว้ได้แล้ว” พอได้ยินฮว่าจิ่วหยางเอ่ยคำพูดนี้ออกมา จางเฉิงหลงก็ตะลึงงันนั่นเป็นคำพูดที่เขาเอ่ยเพราะความโกรธไปชั่วขณะโอเคไหมใครจะเอาการเดิมพันแบบนี้มาคิดเป็นจริงเป็นจังกันล่ะ? “เชี่ย คราวนี้รองผู้อำนวยการจางจะบุกเบิกอาหารของมนุษย์แล้ว” “จากนี้ไป รองผู้อำนวยการจางจะเป็นผู้ชายที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของห่วงโว่อาหาร รองผู้อำนวยการ มาเลย เขมือบขี้ชามนี้เลย” “รองผู้อำนวยการ อย่ายอมแพ้เด็ดขาดนะ ก็แค่กินขี้ไม่ใช่เหรอ? พวกเราสนับสนุนคุณ!” ข้อความนับไม่ถ้วนลอยผ่านในช่องไลฟ์สด ดวงหน้าของจางเฉิงหลงซีดเผือด
เมื่อเห็นเสียงซักถามเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ในช่องไลฟ์สด หลิ่วหรูเยียนก็ลุกขึ้นพรวดแล้วพูดกับซูซูว่า “คุณซูคะ ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ฉันยังมีประชุมสำคัญที่ต้องเข้าร่วมในบริษัท ขอตัวก่อนนะคะ” หลิ่วหรูเยียนพูดจบก็คว้ากระเป๋าสะพายข้างแล้วหันตัวหมายจะเดินออกไป“อะไรกัน นี่ก็คือความซื่อสัตย์ของผู้จัดการใหญ่หลิ่วเหรอ?” ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ก็มีเสียงเอ่ยถามอย่างเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากทางด้านหลังเท้าของหลิ่วหรูเยียนที่ก้าวออกไปพลันหยุดชะงัก จากนั้นเธอก็หันตัวกลับมาทันทีแล้วยิ้มหยันให้ฉู่เฉินก่อนจะพูดว่า “ฮึ ฉู่เฉิน นายอย่าคิดว่าโชคดีแล้วจะมีความหมายอะไรนะ?”“นายอวดว่าวิชาแพทย์สูงส่งไม่ใช่หรือไง? ถ้ามีความสามารถ นายก็เข้าร่วมการแข่งแพทย์แผนจีนระดับมณฑลในเดือนหน้าสิ!”“ฉันจะส่งตัวแทนจากบริษัทไปแข่งกับนายเอง!” “ถ้าไม่มีความกล้าพอก็เลิกพูดพล่ามซะ!” หลังจากทิ้งท้ายคำพูดไว้แล้ว หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งออกไปจากสตูดิโอเหมือนหนีเอาตัวรอด ในช่องไลฟ์สดเต็มไปด้วยเสียงด่าทอหลิ่วหรูเยียนอยู่ชั่วขณะ ซูซูขมวดคิ้ว พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอเลยรีบเอ่ยปากตอนที่ยังมีโอกาสว่า “เฮ้อ จริง ๆ แล้วด้วยวิชาแพทย์ของคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ
“ติ๊ง!”เวลานี้เอง ภายในสนามกีฬาเจียงจง หลี่จวิ้นเฟิงที่กำลังหลับตาพักผ่อนพลันได้ยินเสียงใสกังวานดังขึ้นข้างหูสำเร็จแล้ว!หลี่จวิ้นเฟิงลืมตาขึ้นฉับพลัน ท่าทางดูล้ำลึกจนยากจะคาดเดา เขายกเตาหลอมโอสถบนพื้นขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว แล้วเอ่ยปากพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ยาเทวดาสำเร็จแล้ว สามารถทดสอบผลลัพธ์ได้ทันที!”เมื่อสิ้นเสียงพูด หลี่จวิ้นเฟิงก็เปิดฝาเตาหลอมโอสถ ยาสีดำสามเม็ดกลิ้งจากเตาหลอมโอสถมาที่มือของหลี่จวิ้นเฟิงไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็เลือกผู้โชคดีสามคนจากที่นั่งผู้ชมด้านล่างเวที ทั้งสามคนล้วนเป็นผู้สูงวัยอายุเกิดหกสิบปี นอกจากนี้ยังมีคนหนึ่งถือผลตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคระบบหัวใจหลอดเลือดอย่างรุนแรง ใส่ขดลวดหัวใจไว้ในร่างกายสามอันแล้วหลี่จวิ้นเฟิงส่งยาในมือให้คนผู้นั้นหนึ่งเม็ดทันที แล้วยื่นน้ำแร่ไปให้อีกหนึ่งขวดผู้สูงอายุทั้งสามคนกินยาของหลี่จวิ้นเฟิงลงไปแล้ว อาการป่วยก็ดีขึ้นมากจริง ๆ ถึงขนาดที่ผู้ป่วยอาการหนักที่สุดคนนั้น จากเดิมที่ถูกลูกชายลูกสาวประคองขึ้นเวที แต่หลังจากกินยาเข้าไปก็ยืดตัวตรง เดินลงจากเวทีด้วยตัวเอง เมื่อเห็นฉากนี้ หลายคนที่ก่อนหน้านี้วิพากษ์วิ
แต่ยาลูกกลอนที่กระถางยาของเขาหลอมออกมาได้ก็สาเหตุมาจากยันต์อักขระเหล่านั้น ราวกับผลิตออกมาจากสายการผลิตไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติหรือคุณภาพของยาที่หลอมสำเสร็จ เทียบไม่ได้กับกระถางยาทองคำม่วงที่อยู่ในมือของฉู่เฉินแม้แต่น้อยหลี่จวิ้นเฟิงอดหัวเราะขำขันออกมาไม่ได้หลังจากเห็นกระถางยาที่ขึ้นสนิมในมือฉู่เฉิน จึงชี้ไปยังกระถางยาทองคำม่วงในมือฉู่เฉินพร้อมกล่าวขึ้น “คนแซ่ฉู่ ไม่ใช่ว่ากะอีแค่กระถางยาที่ดีกว่านี้หน่อยยังซื้อไม่ไหวหรอกนะ”“นี่เก็บสินค้าแผงลอยจากตลาดขยะที่ไหนมา ยังกล้าเอามาหลอมโอสถอีก ไม่กลัวคนกินแล้วตายหรือไง”ฉู่เฉินคร้านจะสนใจเขาเลยหยิบวัตถุดิบยาสองสามชนิดออกมาจากในกองสมุนไพร แล้วใช้มือเดียวบี้บดจนวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นผง จากนั้นจึงโยนผงยาที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ทิ้งไปขณะที่ผงสมุนไพรเข้าสู่กระถางยาทองคำม่วง ฉู่เฉินก็ถ่ายพลังวิญญาณมายังกลางฝ่ามือต่อจากนั้นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของฉู่เฉินราวกับเล่นกลหลี่จวิ้นเฟิงไม่กล่าววาจาใดอีก คว้าวัตถุดิบยาแล้วก็นำวัตถุดิบยาทั้งหมดใส่เข้าไปในกระถางยาเป็นไปตามที่อวี้ลู่คาดการณ์ไว้เลย ในกระบวนการหลอมโอสถทั้งหมด หลี่จวิ้นเฟิง
“หรูเยียน ที่ลูกพูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ”หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็เริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้างถ้าเป็นอย่างที่หลิ่วหรูเยียนพูดมาจริง ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าก็หลอกล่อเอาสูตรยาบำรุงปราณมาจากฉู่เฉินในช่วงที่ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด ฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะได้มียาบำรุงปราณขายด้วยเช่นกันแล้วนี่?คิดเรื่องพวกนี้แล้วหลิ่วชิงเหอก็กลับมานั่งลงที่เดิม จากที่ตอนแรกกะจะลุกขึ้นเตรียมออกจากสนามแข่งขันนี้ไป“จริงแท้แน่นอน หลี่จวิ้นเฟิงบอกกับหนูเองเลยนะ อีกอย่าง ถ้าเขาไม่มั่นใจก็คงไม่เลือกการแข่งขันหลอมโอสถหรอกค่ะ”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางยิ้มชั่วร้ายแม้ฉู่เฉินชนะไปรอบหนึ่งแล้ว ยังไงการแข่งขันรอบสองก็ถือว่าเสมอกันขอแค่หลี่จวิ้นเฟิงชนะการแข่งขันรอบที่สาม ผลก็จะออกมาเสมอกันทุกคนฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะไม่ขายหน้า และในทางตรงกันข้ามก็ยังได้รับความนิยมและประโยชน์โดยอาศัยการแข่งขันรอบที่สามนี้ด้วย ……อีกด้านหนึ่ง ถังจิ้งจือที่นั่งอยู่ตำแหน่งกรรมการก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไป เยาะเย้ยกล่าว “ใช่แล้วยังไงล่ะ หรือว่าการแข่งขันรอบสามนี้ไม่ยอดเยี่ยมน่าชมหรอกเหรอ”“พวกคุณอย่าลืมซะล่ะ สามารถจัดการแข่งขันแพทย์แผนจีนตลอดทั้งปีนี้ได้ก็เพร
หลินจื้อหงทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตบโต๊ะกล่าวเสียงดังลั่น“ท่านหลิน ผมไม่เห็นด้วยกับคำพูดคุณ!”ถังจิ้งจือเบะปากกล่าว “การแข่งขันแพทย์แผนจีนคราวก่อนก็จับฉลากได้ผู้ป่วยอาการแตกต่างกัน หรือใครจับได้โรคอาการรุนแรงก็ถือว่าคนนั้นชนะเหรอ?”“กฎก็เขียนชัดเจนอยู่แล้วว่าตัดสินจากการรักษา”“ไม่ใช่ความผิดของคุณหลี่ที่หยิบได้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ก็คงกล่าวได้ว่าคุณหลี่มีคุณธรรมสูงส่งโชคเข้าข้างเขาก็เท่านั้น”“ส่วนฉู่เฉินรักษาคนไข้โรคฝีหนองทั้งร่างนั้นหายได้ก็เป็นวาสนาของคนไข้รายนั้น ไม่ใช่ผลงานของฉู่เฉินฝ่ายเดียว ดังนั้นฉันคิดว่าการแข่งขันนี้ต้องตัดสินเสมอกันเท่านั้น”แม่ง!จางเสวี่ยเหยียนเริ่มเกิดความคิดอยากจะตบปากคน!ฮว่าจิ่วหยางสูดลมหายใจลึก ถึงยังไงพวกเขาไม่กี่คนก็ล้วนเป็นกรรมการ หากมีการทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ขึ้นมาระหว่างกรรมการด้วยกันเอง จะทำให้คนอื่นเห็นวงการแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องตลกฮว่าจิ่วหยางคิดแล้วก็หันหน้าไปกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ ไม่ทราบว่าคุณยอมรับคำตัดสินของท่านถังนี้หรือไม่” ฉู่เฉินยิ้มเยาะ มองสำรวจหลี่จวิ้นเฟิงและถังจิ้งจือ แล้วพยักหน้ากล่าว “ก็ได้ ถ้าผมไม่ยอมรับ เจ้าสอ