นี่ยังไม่จบ ในขณะที่สวี่ถิงถิงตกใจจนหน้าถอดสี ฉู่เฉินก็หยิบน้ำแร่ขึ้นมาหนึ่งขวดแล้วอมน้ำคำเล็ก ๆ ไว้ในปาก จากนั้นก็ประกบปาก ค่อย ๆ ส่งน้ำแร่คำนี้ตรงเข้าไปในปากของสวี่ถิงถิงเชี่ย! ไอ้เวรนี่กำลังทำอะไรอยู่?! ซูซูที่เป็นพิธีกรสาวของช่องไลฟ์สดตกตะลึงจนตาค้างโดยสิ้นเชิง ผู้ชมสองสามล้านคนก็มองอย่างอึ้ง ๆ เช่นกัน “กลืนลงไป!”ฉู่เฉินพูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ อึก! แม้ว่าสวี่ถิงถิงจะทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่เธอยังคงกลืนน้ำแร่คำนั้นลงไปในท้อง เวลานี้สมองของเธองุนงงไปหมดแล้ว! ในช่องไลฟ์สดยังมีผู้ชมสองล้านกว่าคนกำลังดูอยู่ ฉู่เฉินก็ทำตัวเหิมเกริมขนาดนี้เชียวเหรอ? แต่ว่าทำไมถึงรู้สึกแปลก ๆ ความรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อกี้ก็ดีขึ้นมากทันทีเหมือนกัน?ส่วนในช่องไลฟ์สด หลิ่วหรูเยียนที่เห็นฉากนี้กลับอดหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้ เธอเคยเห็นการรักษาแบบตบตี และก็เคยเห็นการฝังเข็มครอบแก้วเพื่อรักษาโรคเรื้อรัง แต่ไม่เคยเห็นการรักษาแบบฉู่เฉินมาก่อนเลย “โคตรเชี่ย! นี่แม่งกำลังลวนลามไม่ใช่หรือไง!” “ถ้านี่รักษาโรคหอบหืดได้ งั้นยังจะมีแผนกหูตาคอจมูกปากไปอีกทำไม!” “เวรเอ๊ย ป
อย่าว่าแต่จางเฉิงหลงไม่เชื่อเลย แม้แต่ซุนเซี่ยวเหรินกับฮว่าจิ่วหยางก็รู้สึกเหมือนกำลังฝันไปพวกเขาต่างก็เป็นคนที่หมกมุ่นกับแพทย์แผนจีนมาหลายสิบปี แม้แต่พวกเขาก็ดูไม่ออกว่าฉู่เฉินใช้วิธีการรักษาแบบใดกันแน่ หลิ่วหรูเยียนยิ่งทำหน้าตะลึงงัน หรือว่าแมวตาบอดอย่างฉู่เฉินจะโชคดีเจอหนูตายอีกแล้ว? เขาแม่งโชคดีจริง ๆ! และในคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว หลิ่วชิงเหอที่กำลังดูไลฟ์สดเช่นเดียวกันก็มีสีหน้าซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆฉู่เฉินตรงหน้านี้ยังเป็นไอ้สวะเมื่อตอนนั้นอยู่อีกหรือเปล่า? ตอนนี้เธอไม่เข้าใจฉู่เฉินมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไลฟ์สดคืนนี้ การแสดงความสามารถที่โดดเด่นของฉู่เฉินเกินกว่าที่เธอจินตนาการไว้มากถ้าเกิดแค่ครั้งสองครั้งอาจพูดได้ว่าฉู่เฉินเดาสุ่ม หรือไม่ก็อาศัยโชคล้วน ๆ แต่พอติดต่อกันครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นไม่ใช่โชคแล้ว!“หรือว่าการเปลี่ยนแปลงพวกนี้ของเขาจะเกี่ยวข้องกับกายาโอสถสวรรค์?” หลิ่วชิงเหอจ้องมองฉู่เฉิน จมอยู่ในห้วงความคิด..... ในช่องไลฟ์สด ผู้ชมที่ยังเยาะหยันฉู่เฉินเมื่อครู่นี้ เวลานี้พวกเขาต่างพุ่งเป้าไปที่จางเฉิงหลงกับโรงพยาบาลประชาชนแล้ว“เชี่ย โรงพ
“เพียงแต่ว่าคุณอย่าลืมเอาขี้มาด้วยละ ผมยังรอดูคุณไลฟ์สดกินขี้อยู่นะ”เมื่อได้ยินคำกล่าว จางเฉิงหลงก็อดทำหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธจัดไม่ได้! จนถึงตอนนี้แล้ว หมอนี่ยังปากแข็งอีก! “นายว่าไงนะ?! แน่จริงก็พูดอีกครั้งสิ!” จางเฉิงหลงหน้าเขียว โกรธจนหอบหายใจแฮก ๆ ต่อให้เขาเป็นฝ่ายแพ้จริง ๆ ก็ไม่มีทางไลฟ์สดกินขี้เด็ดขาด เขายังต้องรักษาหน้าตาอยู่โอเคไหม! การเดิมพันเมื่อกี้เป็นแค่การพูดเพราะโมโหไปชั่วขณะเท่านั้น แต่หมอนี้กลับคิดเป็นจริงเป็นจังซะอย่างนั้น? อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดฉู่เฉินเป็นฝ่ายแพ้จะต้องเอาศีรษะนี้โขกหัวขอขมา!ใครใช้ให้เขามีตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาชน และฉู่เฉินเป็นตัวอะไรกันล่ะ! ส่วนเรื่องความยุติธรรม?โลกนี้มีความยุติธรรมมากขนาดนั้นที่ไหนกัน! “ยังต้องให้ทวนซ้ำอีกกี่ครั้ง? หมอไร้ฝีมืออย่างพวกคุณไม่เพียงทำให้คนเสียชีวิต ขนาดความซื่อสัตย์จริงใจขั้นต่ำสุดในการเป็นมนุษย์ยังไม่มีเลยเหรอ?!” ฉู่เฉินเอ่ยเยาะหยันด้วยเสียงเย็นชา รองผู้อำนวยการบ้าอะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าฉู่เฉินก็ไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเขาจะต้องยื่นหน้ามาให้ฉู่เฉินตบให้ได้ ฉู่เฉินก็ขี้
เมื่อได้ยินฮว่าจิ่วหยางเรียกฉู่เฉินด้วยความเคารพ จางเฉิงหลงกับผู้เชี่ยวชาญหลายคนในห้องทำงานต่างอดตะลึงไม่ได้ ไอ้เด็กฉู่เฉินคนนี้คงไม่ได้รู้จักกับฮว่าจิ่วหยางหรอกใช่ไหม?“หรือว่าหมอเทวดาฮว่า...”“ไม่ใช่หรอก จากในน้ำเสียงของผู้อาวุโสฮว่าเมื่อกี้ คนแซ่ฉู่น่าจะเจอผู้อาวุโสฮว่าเป็นครั้งแรกเหมือนกัน” “เหอะ ฉันว่าผู้อาวุโสฮว่าอาจจะไปเปิดโปงคำโกหกของเขาก็ได้ ไอ้หมอนี่ทำลายชื่อเสียงแพทย์แผนจีนต่อหน้าแฟนคลับกว่าสองล้านคน ผู้อาวุโสฮว่าจะนั่งมองดูเฉย ๆ ได้ยังไง?” ผู้คนต่างแสดงความคิดเห็นขึ้นมาอย่างหลากหลาย เมื่อได้ยินความคิดเห็นของผู้คน จางเฉิงหลงก็มองผู้อาวุโสฮว่ากับฉู่เฉินในหน้าจออย่างละเอียดอีกครั้ง พอเห็นทั้งคู่ดูไม่เหมือนคนรู้จักเก่าจริง ๆ เขาถึงค่อยรู้สึกวางใจเล็กน้อย ตราบใดที่ผู้อาวุโสฮว่าไม่ได้สนับสนุนฉู่เฉิน เช่นนั้นเขาก็มีวิธีการมากมายที่จะเหยียบฉู่เฉินอย่างโหดเหี้ยมไว้ใต้ฝ่าเท้า!ภายในห้องนั่งเล่นของบ้านเก่าตระกูลฉู่ ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ผู้อาวุโสฮว่า อันที่จริงแล้วหลักการนี้ไม่ได้ยากเลย ในความรู้แพทย์แผนจีนเบื้องต้นก็มีบันทึกไว้ชัดเจน”ว่าไงนะ? เมื่อคำพูดนี้ออกม
ที่แท้วิธีการรักษาพื้นฐานสุดเหล่านั้นยังสามารถปรับให้ดีขึ้นแบบนี้ได้ด้วยเพียงแต่ว่าฉู่เฉินมีเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้บอกเขาให้ชัดเจน ตอนที่ฉู่เฉินนวดให้สวี่ถิงถิงเมื่อกี้มีพลังวิญญาณกลุ่มเล็ก ๆ อยู่ในฝ่ามือการนวดหน้าอกเป็นเพียงฉากหน้า ความจริงแล้วเขาอัดพลังวิญญาณเข้าไปในถุงลมปอดที่เสียหายของสวี่ถิงถิงผ่านการสัมผัสอย่างแนบชิดตรงฝ่ามือและใบหน้า หลังจากที่ผ่านการบำรุงด้วยพลังวิญญาณ ถุงลมปอดที่เสียหายของสวี่ถิงถิงถึงได้ฟื้นฟูกลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้ในน้ำแร่คำนั้นก็มีพลังวิญญาณในร่างฉู่เฉินด้วย นี่ถึงรักษาโรคหอบหืดของสวี่ถิงถิงให้หายได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ภาย ใต้ผลสองชั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือต่อให้ฮว่าจิ่วหยางใช้วิธีการของฉู่เฉิน นวดหน้าอกผู้ป่วยจนเปลี่ยนรูปก็ไม่ทำให้อาการของโรคดีขึ้นได้เลยสักนิดเดียว “อย่างนั้นก็หมายความว่าอาการป่วยของเธอหายดีแล้ว?” ฮว่าจิ่วหยางหันหน้ามองไปทางสวี่ถิงถิง เวลานี้เขาประหลาดใจที่พบว่าสวี่ถิงถิงไม่หอบแล้วจริง ๆ เมื่อดูนาฬิกาข้อมือแวบหนึ่ง นับตั้งแต่ที่ฮว่าจิ่วหยางเข้ามาในห้องจนกระทั่งตอนนี้ยังไม่ถึงห้านาทีเลย! ในใจของฮว่าจิ่วหยางยิ่งรู้สึกสงสัยใคร่รู้เก
ตูม! จางเฉิงหลงถูกฮว่าจิ่วหยางซักถามจนสมองดังวิ้ง ๆสถานการณ์ไม่อาจชัดเจนไปมากกว่านี้แล้ว ถ้าเขากล้าสงสัยฉู่เฉินอีกก็เท่ากับว่ากำลังสงสัยฮว่าจิ่วหยาง จางเฉิงหลงรู้สึกขมขื่นในใจ! เขาไม่ยอมรับ! แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฮว่าจิ่วหยาง เขากลับทำได้เพียงสะกดกลั้นความรู้สึกไม่พอใจทั้งหมดไว้ในใจ ไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียว “เปล่านะครับ ผู้อาวุโสฮว่า ผะ...ผม...” “เลิกพูดไร้สาระ ก่อนหน้านี้คุณบอกไม่ใช่เหรอว่าถ้าเกิดคุณฉู่รักษาโรคของเธอให้หายได้ คุณจะกินขี้ชามใหญ่? ตอนนี้คุณทำตามที่เดิมพันไว้ได้แล้ว” พอได้ยินฮว่าจิ่วหยางเอ่ยคำพูดนี้ออกมา จางเฉิงหลงก็ตะลึงงันนั่นเป็นคำพูดที่เขาเอ่ยเพราะความโกรธไปชั่วขณะโอเคไหมใครจะเอาการเดิมพันแบบนี้มาคิดเป็นจริงเป็นจังกันล่ะ? “เชี่ย คราวนี้รองผู้อำนวยการจางจะบุกเบิกอาหารของมนุษย์แล้ว” “จากนี้ไป รองผู้อำนวยการจางจะเป็นผู้ชายที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของห่วงโว่อาหาร รองผู้อำนวยการ มาเลย เขมือบขี้ชามนี้เลย” “รองผู้อำนวยการ อย่ายอมแพ้เด็ดขาดนะ ก็แค่กินขี้ไม่ใช่เหรอ? พวกเราสนับสนุนคุณ!” ข้อความนับไม่ถ้วนลอยผ่านในช่องไลฟ์สด ดวงหน้าของจางเฉิงหลงซีดเผือด
เมื่อเห็นเสียงซักถามเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ในช่องไลฟ์สด หลิ่วหรูเยียนก็ลุกขึ้นพรวดแล้วพูดกับซูซูว่า “คุณซูคะ ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ฉันยังมีประชุมสำคัญที่ต้องเข้าร่วมในบริษัท ขอตัวก่อนนะคะ” หลิ่วหรูเยียนพูดจบก็คว้ากระเป๋าสะพายข้างแล้วหันตัวหมายจะเดินออกไป“อะไรกัน นี่ก็คือความซื่อสัตย์ของผู้จัดการใหญ่หลิ่วเหรอ?” ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ก็มีเสียงเอ่ยถามอย่างเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากทางด้านหลังเท้าของหลิ่วหรูเยียนที่ก้าวออกไปพลันหยุดชะงัก จากนั้นเธอก็หันตัวกลับมาทันทีแล้วยิ้มหยันให้ฉู่เฉินก่อนจะพูดว่า “ฮึ ฉู่เฉิน นายอย่าคิดว่าโชคดีแล้วจะมีความหมายอะไรนะ?”“นายอวดว่าวิชาแพทย์สูงส่งไม่ใช่หรือไง? ถ้ามีความสามารถ นายก็เข้าร่วมการแข่งแพทย์แผนจีนระดับมณฑลในเดือนหน้าสิ!”“ฉันจะส่งตัวแทนจากบริษัทไปแข่งกับนายเอง!” “ถ้าไม่มีความกล้าพอก็เลิกพูดพล่ามซะ!” หลังจากทิ้งท้ายคำพูดไว้แล้ว หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งออกไปจากสตูดิโอเหมือนหนีเอาตัวรอด ในช่องไลฟ์สดเต็มไปด้วยเสียงด่าทอหลิ่วหรูเยียนอยู่ชั่วขณะ ซูซูขมวดคิ้ว พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอเลยรีบเอ่ยปากตอนที่ยังมีโอกาสว่า “เฮ้อ จริง ๆ แล้วด้วยวิชาแพทย์ของคุณฉ
หืม?จินเจิ้นหลงอดอึ้งไม่ได้ ฉู่เฉินรู้ชื่อลูกชายของเขาได้อย่างไร? ไอ้เด็กนี่คงไม่ได้หาเรื่องฉู่เฉินหรอกใช่ไหม? พอคิดถึงความเป็นไปไปได้เช่นนี้ จินเจิ้นหลงก็ตกใจกลัวจนกลืนน้ำลาย เอ่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่แล้ว ไม่ทราบว่าปรมาจารย์ฉู่มีอะไรจะชี้แนะ?” “ไม่อย่างนั้นให้ผมพาเขามาเยี่ยมคุณวันหลังไหม?” ฉู่เฉินส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องมาเยี่ยมแล้ว ผมกะดูแล้วว่าอีกเดี๋ยวเขาก็จะมาถึงแล้ว” ว่าไงนะ? จินเจิ้นหลงขมวดคิ้วมุ่น ไม่รู้ว่าคำพูดนี้ของฉู่เฉินมีเจตนาอะไรกันแน่ จินหลิงเอ๋อร์ที่อยู่ทางด้านข้างก็มองไปทางฉู่เฉินด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน .....เวลานี้เอง ห่างจากบ้านเก่าของตระกูลฉู่ออกไปหลายร้อยเมตร จินอ้าวเทียนที่พันผ้าพันแผลเต็มมือกำลังเดินมาทางบ้านเก่าของตระกูลฉู่อย่างคุกคาม ความจริงแล้ว ตอนกลางวันเขาเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่บังเอิญว่าตอนนั้นฉู่เฉินกำลังจัดวางค่ายกลซ่อนงำไว้รอบ ๆ บ้านเก่าของตระกูลฉู่ จินอ้าวเทียนพาคนของสำนักมวยวนอยู่รอบบ้านเก่าของตระกูลฉู่ครึ่งค่อนวันก็หาตำแหน่งที่แน่ชัดของบ้านเก่าตระกูลฉู่ไม่เจอ ท้ายที่สุดก็