2
คืนวิวาห์
มหัศจรรย์พันลึกมากสำหรับงานแต่งที่เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ ก่อนหน้าที่จะมีวันนี้วิเนตย์ไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปหาเธอที่บ้านของยายนวลน้อยเลยแม้แต่วันเดียว วธุกานับหนึ่งถึงสิบทุกครั้งที่อยากจะขอยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้ พอมาคิดถึงเรื่องสินสอดที่ยายนวลน้อยรับมาแล้วก็ทำไม่ลงเลยจริงๆ ภายในงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายแขกเหรื่อก็มีเพียงแค่ญาติสนิทของคู่บ่าวสาวฝั่งละไม่กี่สิบคนครั้งแรกที่หญิงสาวได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวแบบถนัดตาก็ในวันแต่งงานของตัวเองนี่แหละ อดยอมรับไม่ได้ว่าวิเนตย์เป็นชายไทยแท้ผู้มีใบหน้าเคร่งขรึม แววตาดุดันจนบางครั้งก็น่ากลัวจนเกินไป ตลอดเวลาที่อยู่ภายในงานเขาไม่ชวนเธอพูดสักคำเดียว แม้แต่รอยยิ้มนิดๆ ก็ยังไม่มี นี่มันงานแต่งประเภทไหนกันอยากรู้นัก แต่วธุกาก็มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะรักษาหน้าของทุกคนเอาไว้ ด้วยการนิ่งและเงียบจนกว่าจะได้ฤกษ์เข้าหอ และอยู่ด้วยกันสองต่อสองภายในห้องนอน
“คุณเข้าใจกฎเหล็กสามข้อของผมดีหรือยัง” นี่คือคำพูดแรกของเจ้าบ่าวภายในห้องหอ เจ้าสาวคนงามถึงกับถอนหายใจเบาๆ ที่ได้ยิน
“เข้าใจค่ะ” อาจจะเพราะเหนื่อยหรือล้าก็เป็นได้ทำให้วธุกาไม่มีแรงแม้จะโต้ตอบเขาได้มากกว่านี้
“ก็ดี งั้นผมจะย้ำอีกทีนะคุณวาท ก่อนที่คุณจะเป็นเมียผมอย่างเต็มตัวในคืนนี้” คราวนี้เจ้าสาวแสนสวยถึงกับหันขวับไปมองคนพูด ‘เย็นไว้วาทๆ’ ในใจก็พร่ำบอกตัวเองแบบนี้
“ผมแต่งงานเพราะอยากได้เมีย” มันผิดปกติตรงไหน ผู้หญิงคนไหนแต่งงานก็ต้องเป็นเมียกันทั้งนั้น
“แต่ผมไม่ต้องการแม่ของลูก หรือเพื่อนคู่ชีวิตที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า” อันนี้ชักไม่ปกติเสียแล้ว วธุกาคิ้วขมวดแน่นเพราะไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร
“ผมต้องการแค่เรื่องบนเตียง...ผมถึงเลือกคุณ” ตายอนาถกับความจริงข้อนี้ วธุกาเซหลุนๆ ไปด้านหลังแล้วนั่งลงบนเตียงนอนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบแสนสวยเอาไว้ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางไว้ยังดูออกว่าซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น ป้าคุณไม่ได้บอกหรือยังไง ผมให้คนบอกเรื่องนี้ไปตั้งแต่วันที่ไปขอคุณแล้วนะคุณวาท” วิเนตย์พูดคล้ายตำหนิเจ้าสาวของตนเอง วธุกาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองเขา แววตาไหวระริกอย่างเจ็บปวดในคำพูดของเจ้าบ่าวตัวเอง
“คุณวิเนตย์คุณมันบ้าที่สุด ใครเขาไปขอผู้หญิงเพียงเพราะเรื่องบนเตียงกันบ้าง”
“ผมถึงเลือกคุณยังไงล่ะ”
“หา! เลือกฉันทำไมคะ ฉันมันมีอะไรที่ไปเตะตาต้องใจคุณเข้า” ถามแล้วก็หายใจหอบแรงเข้าอย่างโมโห
“คุณอายุสามสิบห้าปีไม่เคยมีคนรัก ผมคิดว่าคุณน่าจะต้องการสิ่งเดียวกับผม”
“คุณคิดว่าฉันอดอยากปากแห้งมากจนต้องมาแต่งงานกับคุณเพื่อเรื่องบนเตียงนี่เหรอ คุณเอาอะไรมาคิด จะบอกให้นะถ้าฉันรู้ก่อนหน้าว่าที่คุณอยากแต่งงานด้วยเพราะเรื่องนี้ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่แต่งหรอก!” หญิงสาวตะโกนใส่เขาจนเจ็บคอ ยกมือขึ้นกุมขมับที่เริ่มจะปวดจี๊ดๆ ขึ้นมา
“แสดงว่าป้าคุณไม่ได้บอก” ฝ่ายเจ้าบ่าวกลับใจเย็นได้อย่างน่าประหลาดใจ ซ้ำยังเลิกคิ้วถามอย่างไม่สะทกสะท้าน
“คุณป้าบอกแต่ไม่หมด” หญิงสาวสะบัดเสียงใส่เขาอย่างโกรธๆ
“งั้นก็ช่วยไม่ได้”
“อะไรนะ! นี่คุณ” วธุกานึกว่าตัวเองฟังผิดไป แต่เจ้าบ่าวของเธอกลับยืนยันด้วยคำพูดประโยคถัดมา
“ผมจ่ายค่าสินสอดไปแล้ว คุณก็ต้องทำหน้าที่ของคุณ งานนี้รับรองใครเบี้ยวผมเอาตายแน่” มีขู่พร้อม
“คุณหมายความว่าไง นี่อย่าบอกนะว่าคุณ...” ท่าทางของเจ้าบ่าวเธอชักเริ่มไม่ดีเสียแล้ว เขากำลังรูดเนกไทออกจากลำคอพร้อมปลดกระดุมออกหมดทุกเม็ด
“ก็ตามที่พูดนั่นแหละคุณวาท เพราะว่ามันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว งานแต่งจัดไปแล้วทุกคนรับรู้หมดแล้วว่าคุณคือเมียของผม คุณก็ต้องทำหน้าที่ของคุณ”
“โอ๊ะ!” ข้อมือเรียวถูกเจ้าบ่าวดึงให้ลุกขึ้นยืน วิเนตย์กระชากผ้าปูที่นอนออกจากเตียงสุดแรง กลีบกุหลาบหล่นเกลื่อนเต็มพื้นห้อง โดยที่บทสนทนาเมื่อครู่นี้ยังไม่ได้รับความกระจ่างแต่อย่างใด
“ยืนทำบื้ออะไรอยู่ ไปหยิบผ้าปูมาเปลี่ยนสิในตู้” คนพูดชี้นิ้วไปที่ตู้เสื้อผ้า วธุกายังปรับตัวและหัวใจไม่ทัน แต่ก็ยอมที่จะเดินตัวตรงไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบผ้าปูที่นอนผืนใหม่ออกมาแบบงงๆ
“ไม่รู้จะโรยอะไรกันนักหนาเสียเวลาชะมัด” พูดไปก็ใช้เท้าเขี่ยกลีบกุหลาบให้พ้นทางเดินไปด้วย วธุกามองเขาอย่างไม่เข้าใจ ดูเขาเร่งรีบแบบแปลกๆ ชอบกล
“เปลี่ยนทำไมคะ” ไม่อยากจะใสซื่อแต่อยากรู้จริงๆ
“นอนทับกลีบกุหลาบนี่เข้าไปก็คันแย่ เร็วเข้าคุณวาท มาช่วยผมปูที่นอนด้วย” เขาสั่งพร้อมกับสะบัดผ้าปูไปให้หญิงสาวที่ยืนอยู่อีกฝั่ง วธุกายืนงงแค่ครู่เดียว ครั้นเจอสายตาจ้องดุใส่ก็จำต้องช่วยเขาปูผ้าปูที่นอนแบบเลี่ยงไม่ได้ จนทุกอย่างเรียบร้อยเจ้าสาวแสนสวยก็กลับมายืนมองเจ้าบ่าวที่กำลังสลัดเสื้อสีขาวออกอย่างหวั่นๆ
“แก้ผ้าสิคุณวาท รออะไรอยู่” วิเนตย์บอกขณะที่มือก็แกะกระดุมกางเกงเจ้าบ่าวออก
“แก้ผ้า!” วธุกาสะดุ้งจนกลัวหันมองไปรอบๆ ก็รู้สึกหวาดระแวงแบบแปลกๆ
“ใช่มันแปลกตรงไหน วันนี้ผมเหนื่อยมามากพอแล้วรีบๆ เถอะเสร็จแล้วจะได้นอน” หญิงสาวได้ยินแล้วหนังตากระตุกถี่ๆ เคยได้ยินว่าเขาเป็นคนขวานผ่าซากคิดยังไงก็พูดยังงั้น เพิ่มเข้าไปอีกนิดว่า ห่าม ดิบ และ เถื่อนมาก! สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ จะผิดไหมหากเธอจะปฏิเสธเขาในคืนนี้
“เอ่อ คือว่าฉัน”
“อย่ามาบอกว่าเหนื่อยขอนอนก่อน เพราะผมคงจะเหนื่อยยิ่งกว่าคุณตอนทำ”
“อ๊าย! คุณมันบ้าที่สุด ช่วยพูดอะไรให้มันรู้สึกดีๆ หน่อยจะได้ไหม แค่นี้ฉันก็รู้สึกแย่เกินจะทนไหวแล้ว” วธุกาอยากร้องไห้เหลือเกินในตอนนี้ ฟังเขาพูดสิมันน่านัก น่าเอาไม้หน้าสามมาฟาดหัวสักสองสามที เผื่อสมองของเขาจะเข้าที่เข้าทางเป็นคนปกติขึ้นมาบ้าง
ตอนที่ : 4 คืนวิวาห์ 2 “อย่ามาโวยวายใส่ผมนะคุณวาท ผมไม่ชอบผู้หญิงสติไม่ดีที่อะไรนิดอะไรหน่อยก็เอาแต่กรี๊ดๆ ใส่กันแบบนี้ มันน่ารำคาญรู้ไหม” ‘ผู้หญิงสติไม่ดี?’ คนถูกตำหนิอ้าปากเหวอชี้นิ้วใส่ตัวเองแบบอยากจะกระโดดถีบเจ้าบ่าวในคืนเข้าหอเสียเหลือเกิน ‘เย็นไว้วาทๆ’ ได้แต่ท่องสามคำนี้ไว้ในใจ แล้วดวงตาคู่สวยก็ต้องเบิกโตขึ้นเมื่อเจ้าบ่าวของตนเดินตรงดิ่งเข้ามาหา “เดี๋ยว! คุณจะทำอะไร” “ก็คุณช้าผมจะถอดให้เอง” วธุกาถูกดันตัวลงไปนอนอยู่บนเตียงขณะที่เขาจับโน่นพลิกนี่หาบางอย่างอยู่ ไม่ช้าซิปที่ฝังอยู่ด้านหลังชุดก็ปรากฏให้เขาได้รูดลงอย่างง่ายดาย “อย่าดิ้นสิ” เสียงดุไม่ได้ทำให้เจ้าสาวที่กำลังดิ้นหนีไปมาหยุดได้ หนักเข้าเจ้าบ่าวก็เอาเนกไทที่รูดทิ้งเมื่อครู่มามัดมือของหญิงสาวเอาไว้ “คุณวิเนตย์นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอยังไง มามัดฉันทำไม!” “ใครใช้ให้คุณดิ้น” “โธ่...คุณวิเนตย์อย่ามัดฉันสิ แล้วก็อย่าถอดด้วย อะ...อ๊าย!” ไม่ทันแล้วชุดเจ้าสาวถูกถอดออกจากปลายเท้าและหล่นลงไปกองอยู่บนพื้น เหลือเพียงผ้าลูกไม้ชิ้นน้อยแสนบางเบา แค่เหลือบตาขึ้
ตอนที่ : 5 คืนวิวาห์ 3 บทรักของวิเนตย์คล้ายคนตายอดตายอยากมาอย่างยาวนาน วธุกาเหลือบตาลงด้านล่างมองคนตัวใหญ่ที่กำลังทำตัวเป็นทารกดูดนมมารดา รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ตรงที่ถูกเขาดูดดึงจนแข็งขืน ได้แต่ยกมือขึ้นไปวางบนหัวไหล่ของเขาแล้วดันออกเบาๆ แต่ก็ถูกเขาปัดออกอย่างนุ่มนวลและแนบเนียนเป็นที่สุด หญิงสาวอยากปล่อยเสียงโฮออกมานักในตอนนี้ ครั้งแรกมันไม่ได้อ่อนหวานน่าละลายใจเลย กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเป็นที่สุด เป็นเพราะไอ้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าบ่าวนี่แหละ ที่ตะกละตะกลามเหลือเกิน “คุณวิเนตย์ อื้อ!” เขาจูบหน้าท้องแบนราบลงไปจุ่มปลายลิ้นตรงหลุมสะดือ ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นด้านบนแล้วเปิดลิ้นชักออกมา กว่าจะรู้ว่าเขาทำอะไรวธุกาก็หน้าชาเจ็บจุกไปถึงขั้วหัวใจ ในคืนเข้าหอเขากำลังสวมถุงยางอนามัย! ‘แต่ผมไม่ต้องการแม่ของลูก หรือเพื่อนคู่ชีวิตที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า’ สวมเสร็จก็หันมามองเธอ ซึ่งตอนนี้แววตาคงรื้นไปด้วยหยาดน้ำใสๆ เต็มสองข้าง มันห่อเหี่ยวและรู้สึกเศร้าเหลือเกินในตอนนี้ เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอคิดสิ่งใดอยู่ในใจ “เราคุยกันแล้วคุณเองก็รู้” และเขาเล
ตอนที่ : 6 ชีวิตคู่หรือคี่ดี3ชีวิตคู่หรือคี่ดี ตื่นเช้าขึ้นมาก็ไม่พบสามีบนเตียงนอนเสียแล้ว วธุกามองนาฬิกาที่ติดอยู่ข้างผนังห้อง เจ็ดโมงเช้าแล้วเธอเพิ่งตื่นเป็นเรื่องที่ผิดปกติไปจากทุกวัน เพราะหญิงสาวมักจะตื่นขึ้นมาตรวจตราความเรียบร้อยของงานที่รีสอร์ตในช่วงตีห้าครึ่งในแต่ละวัน หญิงสาวถอนหายใจหนักๆ ให้กับห้องนอนที่ไม่คุ้นเคย ผ้าปูสีขาวยับยู่ยี่และมีหลักฐานบางอย่างจากการเข้าหออย่างดุเดือดเลือดพล่าน รีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อลงไปยังด้านล่างของบ้าน “คุณวาทหนูชื่อเพลินนะคะ เป็นแม่บ้านของที่นี่ค่ะ” สาวน้อยหน้าตาน่ารักทักวธุกาอย่างยิ้มแย้ม “แล้วยังไงจ๊ะ” วธุกาถามสาวน้อยที่ถักเปียทั้งสองข้างอย่างชื่นชมในความอ่อนน้อมถ่อมตนของหญิงสาว “หนูมีหน้าที่มาเก็บกวาดเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้คุณวิเนตย์ทุกเช้า และก็ทำความสะอาดบ้านหลังนี้ค่ะ” “อ้อ งั้นเหรอ แล้วอาหารเช้าคุณวิเนตย์ของเพลินกินที่ไหนล่ะ” “กินที่ห้องอาหารของลูกค้าค่ะ” “ห้องอาหารของลูกค้า?” คิ้วขมวดแน่นเพราะคิดว่าเขาน่าจะรับประทานมื้อเช้าที่บ้านหลังน
ตอนที่ : 7 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 2 “ทำงานไม่ได้เรื่องขนาดต้องให้เมียฉันมาช่วยเลยหรือยังไง หรือว่าต้องให้เปลี่ยนคนใหม่” พูดตำหนิใส่พนักงานแล้วสายตาก็หรี่มองภรรยาแบบไม่พอใจ “เอ่อ ดาขอโทษค่ะคุณวิเนตย์” “ไม่ต้องมาขอโทษ ปัญหาแค่นั้นยังแก้ไขเองไม่ได้ต่อไปฉันจะไว้ใจให้เธอดูแลจุดนี้ได้ยังไง” “คุณวิเนตย์คะ” วธุกาเรียกเขาเบาๆ “อะไร!” แต่สามีเธอกลับตวาดกลับมาให้หน้าเสีย “ฉันแค่อยากบอกว่าลูกค้ากำลังเดินมาทางนี้ค่ะ เบาๆ เสียงหน่อย แค่นี้แหละค่ะที่อยากบอก” พูดเสร็จว
ตอนที่ : 8 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 3 หญิงสาวไม่มีวันทำใจได้หรอกในเรื่องนี้ ในเมื่อเขาไม่ให้ยุ่งงานในบ้าน แต่ให้ออกนอกบ้านไปได้ เรื่องอะไรที่เธอจะอยู่ให้ชอกช้ำใจ วธุกาไม่มีรถขับ แต่หญิงสาวก็ยังมีเพื่อนสนิทที่พอจะขับรถมารับถึงรีสอร์ตแห่งนี้ได้เหมือนกัน “แกออกมากับฉันแบบนี้คุณวิเนตย์เขาจะไม่โกรธเอาเหรอ เพิ่งแต่งงานเองนะ” นนท์นทีเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนประถมเอ่ยขึ้นระหว่างที่ขับรถพาวธุกาออกจากวิเนตย์ธารารีสอร์ตไป “เขาคงไม่โกรธแกหรอกนนท์อย่าคิดมาก ฉันอยากหาที่สงบๆ พักสมองเสียหน่อย ขอฉันไปนอนที่รีสอร์ตของแกนะ” “ยัยวาท แกพูดอะไรออกมา กลับไปนอนที่บ้านยายนวลน้อยยังจะดีเสียกว่ามานอนกับฉันนะ ฉันเป็นผู้ชายนะถึงจะเคยแก้ผ้าเล่นน้ำมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้
ตอนที่ : 9 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 4 ส่วนวธุกาที่กำลังจะเดินเข้าไปในบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ของสามี หญิงสาวมองเห็นเขานั่งอยู่ตรงระเบียงสายตามองเหม่อลงไปยังแม่น้ำด้านล่าง ที่มีบ้านพักบนแพของลูกค้าเรียงรายอยู่นับแปดสิบห้อง หญิงสาวเดินเงียบๆ ตรงไปหาเขาจนได้ระยะใกล้พอสมควร “คุณวัสบอกว่าคุณอยากเจอฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ” ถามพร้อมกับเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับสามี เขาผินหน้าดุๆ กลับมามอง สายตาจ้องเขม็งราวกับเธอไปทำเรื่องผิดอะไรมา “อะไรคะ” ถูกจ้องแบบไม่ละสายตาแบบนี้วธุกาเองก็เริ่มใจคอไม่ดีเท่าไหร่ ‘คนบ้าอะไรหน้าตาดุชะมัด’ “คุณหายไปไหนมาทั้งวัน รู้ไหมผมถามใครก็ไม่มีใครรู้” นั่นปะไรสิ่งที่เขาต้องการหาเรื่องเธอ หญิงสาวกลอ
ตอนที่ : 10 หัวใจว้าวุ่น4หัวใจว้าวุ่น คนถูกกวนตลอดทั้งคืนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างลำบากยากเย็น มือน้อยควานหาสามีด้านข้างก็เจอแต่ความว่างเปล่า วธุกาปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดตอนเช้าก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่ง มองดูพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างและยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าได้กอดใครบางคนมาตลอดทั้งคืน รีบสลัดความคิดนี้ออกจากหัวลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป ชีวิตมันจะอยู่แค่นี้จริงๆ หรือ วธุกาเริ่มตั้งข้อสงสัยให้กับการใช้ชีวิตคู่ของเธอกับเขา เสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่ายามมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ในกระจกแผ่นใหญ่ตรงหน้า หญิงสาวผู้มีใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากสวยอวบอิ่มกับดวงตาที่หวานซึ้งรับกับคิ้วโค้งพอเหมาะ ทุกอย่างลงตัวสวยตามฉบับสาวไทย วธุกามีความสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม รูปร่างอวบอัดได้สัดส่วน เพราะการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันทำให้รูปร่างยังคงสวยงามอยู่แม้จะมีอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้ว ความจริงแล้วเธอไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้พบผู้ชายคนไหนที่ถูกใจมาก่อนหน้านี้ แต่บทจะพลาดก็ง่ายดายเหลือเกิน หญิงสาวมองโทรศัพท์มือถือแล
ตอนที่ : 11 หัวใจว้าวุ่น 2 “ชิมยังไงมันก็มีพลาดกันได้ตลอด ผมเลยต้องเผื่อเอาไว้ไง” “เอาตัวเองเป็นหนูทดลองนี่นะ” “ผมพอใจทำใครจะทำไม” “ใครจะไปทำอะไรเจ้าของรีสอร์ตล่ะคะ ไม่กล้าหรอก” วธุกายุติบทสนทนาด้วยการตักข้าวต้มเข้าปาก ตาก็มองดูการรับประทานอาหารของสามีไปพลาง ๆ มีบ่อยครั้งที่เขามองกลับมาแล้วเธอหลบตาไม่ทัน “อุ๊บ!” ข้าวต้มแทบจะไหลพรวดลงคอแบบไม่ได้กลืน รีบยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มในทันที “เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกคุณวาท ดูซิ เลอะปากไปหมดแล้วนั่น” ความใจดีของสามีก็เผยออกมา ในตอนที่เขาหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกล่อง แล้วเช็ดขอบปากให้อย่างลวกๆ นุ่มนวลเหรอ ฝันไปเถอะ “พอแล้วๆ กะจะต่อยปากกันหรือไงเช็ดแบบนี้” หญิงสาวรีบดึงมือสามีออกแล้วมองค้อนเขาเล็กน้อย “หวังดีแท้ๆ” ‘เก็บไว้ใช้กับตัวเองเถอะคนบ้า’ “คุณวิเนตย์ฉันมีเรื่องจะขอคุณ” วธุกาเขี่ยข้าวต้มในถ้วยไปมาระหว่างบอกเขา “เรื่องอะไร” วิเนตย์ถามกลับทั้งที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่ในปาก ออกจะไร้มารยาทสำหรับวธุกาแต่หญิงสาวกลับไม่ถือสาเขาแ
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ
ตอนที่ : 55 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 3 หญิงสาวไม่อาจเห็นได้ว่าคุณหมอกับนางพยาบาลทำอะไรกับร่างกายของเธอ เพราะว่ามีผ้าคลุมกั้นไว้ไม่ให้มองเห็น แต่ว่าคำพูดของพวกเขาเหล่านั้นดังชัดเจนในความรู้สึก ถูกสั่งให้เบ่งคลอดเหมือนเบ่งอุจจาระ คิดแล้วก็ยังงงไม่หายมันเหมือนกันตรงไหน มือไม้เย็นเฉียบทั้งที่เครื่องปรับอากาศนั้นเปิดเบาๆ เบ่งไปก็เจ็บไป จนรู้สึกได้ว่าท่อนล่างชาไปหมดแล้วในตอนนี้ แต่แล้วคุณหมอก็เปล่งเสียงตื่นเต้นออกมา “หัวออกมาแล้วค่ะคุณแม่! ออกแรงเบ่งครั้งสุดท้ายเลยค่ะ เอ้าเบ่ง! อือ...อึ๊บ!” พรวด!!! รู้สึกเหมือนเธอจะได้ยินเสียงแบบนี้ จากนั้นความเจ็บทั้งมวลก็หายไป สิ่งแรกที่รับรู้ได้คือ โล่ง สักพักนางพยาบาลก็นำเจ้าตัวเล็กมาพร้อมเผยให้เห็นเพศอย่างชัดเจน “ผู้หญิงน
ตอนที่ : 54 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 2 ‘ยัยวาทแกจะไปซื้อของไว้ก่อนคลอดทำไม โบราณเขาถือ’ ผู้เป็นป้าบอกไว้เสียน่ากลัวในวันที่เธอไปเยี่ยมลูกชายของอรตี แต่มีหรือเธอจะไม่เตรียมของไว้ก่อน เพราะพอเข้าห้องคลอดไปแล้วใครจะไปซื้อของให้ลูก สามีของเธอก็ใช่ว่าจะเลือกของพวกนี้เป็นเลยทีเดียว คนเป็นแม่หาข้อมูลไว้เรียบร้อยและเตรียมพร้อมเสมอ เลือกเสื้อผ้าผ้าอ้อมในลวดลายที่เป็นกลางใส่ได้ทั้งชายและหญิง จากนั้นพอคลอดเสร็จแล้วค่อยไปเลือกซื้อใหม่อีกรอบ พอถึงเวลานี้จริงๆ จึงสะดวกและรวดเร็วมาก วิเนตย์สั่งงานเอกวัสเอาไว้พร้อมกับบอกว่าตัวเขาอาจจะอยู่โรงพยาบาลไปเลยหากวธุกาคลอดจริง จากนั้นก็พาภรรยาขึ้นรถขับไปโรงพยาบาลในตัวเมืองทันที ระหว่างทางคนท้องก็ไม่ได้มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด “คุณแน่ใจนะว่ามูกเลือดจริงๆ คุณวาท”&
ตอนที่ : 53 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ20ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ พอเริ่มเข้าเดือนที่แปดวธุกาก็น้ำหนักพุ่งพรวดจาก 48 กิโลกรัมช่วงก่อนท้อง มาเป็น 60 กิโลกรัมในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งคู่รอที่จะลุ้นเพศของลูกตอนคลอดเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะหญิงหรือชายพวกเขาก็รักไม่ต่างกัน ส่วนคนกำลังจะเป็นพ่อก็เอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี คอยเตือนให้ภรรยานับช่วงเวลาที่ลูกดิ้นตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด หลังจากได้รับสมุดตารางบันทึกการดิ้นของทารกเอาไว้ในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าทารกที่อยู่ในครรภ์ยังปกติดีหรือเปล่า หากผิดปกติก็จะได้ไปพบหมอได้ทันเวลา “หลังกินข้าวเจ้าตัวเล็กดิ้นไปกี่ครั้งแล้วคุณวาท” วิเนตย์เดินเข้ามาถามหลังจากภรรยาเพิ่งรับประทานมื้อเที่ยงไปหมาดๆ คนท้องเลยหันไปหยิบสมุดตา