1
กฎของเรา
ผู้หญิงอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้วยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรัก ขืนปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปตามธรรมชาติคานทองนิเวศน์คงได้ถามหา วธุกา จึงไม่ลังเลที่จะรับปากแต่งงานทันทีที่มีการสู่ขอเกิดขึ้น สิ่งใดก็แล้วแต่ที่จะทำให้ชีวิตของเธอได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่ ได้มีชีวิตครอบครัวแสนอบอุ่นหญิงสาวก็พร้อมจะตัดสินใจเลือกทางนั้นในทันที เว้นเสียแต่กฎบ้าบอคอแตกของเขานั่นแหละที่ทำให้เธอต้องหยุดเพื่อคิดสักนิดหนึ่ง
ส่วนเขา วิเนตย์ ชายผู้ฝังความรักไปพร้อมกับภรรยาและลูกน้อยที่เสียชีวิตไปเมื่อห้าปีก่อนจากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบจึงไม่ต้องการอะไรในชีวิตอีก นอกจากปรารถนาจะปลดปล่อยความรุ่มร้อนในร่างกาย การแต่งงานคือทางออกเดียวของเขา เพื่อจะระบายสิ่งที่เก็บกักเอาไว้ห้าปีเต็มได้อย่างถูกต้อง
หลังจากที่ตอบตกลงแต่งงานไปเมื่อวันก่อน วันนี้ตัวแทนจากฝ่ายชายก็เข้ามาพบนางอารตีผู้เป็นป้าของเธอ พร้อมกับการสนทนาที่ใช้เวลานานเกือบหนึ่งชั่วโมง กระดาษแผ่นหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้าของวธุกา หลังจากตัวแทนของฝ่ายชายได้กลับไปแล้ว
“อะไรคะคุณป้า” ถามพร้อมสีหน้างุนงง
“ข้อตกลงที่คุณวิเนตย์ร่างมา ไม่มากหรอกแค่สามข้อ” ผู้เป็นป้าตอบพร้อมกับชำเลืองไปยังกระดาษในมือของหลานสาว
“ข้อตกลง?”
“อ่านดูสิยัยวาท ฉันว่าก็คุ้มดีนะ” นางอารตีทำหน้าเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่มันผิดปกติอย่างร้ายแรงสำหรับคนที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
1.สินสอดจ่ายครั้งเดียวจบ ไม่มีการขอนอกรอบหลังจากแต่งงานไปแล้ว
2.ไม่มีการแบ่งสินสมรสเมื่อหย่า
3.ห้ามท้องเด็ดขาด (สำคัญสุด)
มือเล็กถึงกับสั่นระริกเมื่อกวาดสายตาอ่านทั้งสามข้อจบลง โดยเฉพาะข้อที่สามนี่มันน่าโมโหนัก ถึงกับต้องทำตัวหนาตัวเอียงกันมาเลยทีเดียว นี่เขาคิดว่าเธอเป็นคนยังไงถึงได้มาตั้งเงื่อนไขที่เหยียบย่ำจิตใจกันได้ถึงเพียงนี้
“ทุเรศ...นี่มันทุเรศที่สุด วาทไม่ตงไม่แต่งมันแล้วค่ะคุณป้า” อารมณ์โกรธของวธุกาพุ่งปรี๊ดให้กับความคิดของผู้ชายคนนี้
“ไม่ได้นะยัยวาท แกแก่จะเป็นสาวทึนทึกอยู่แล้ว มีผู้ชายหลงมาสู่ขอก็บุญท่วมหัวแกแล้ว รถด่วนขบวนสุดท้ายต้องรีบคว้าเอาไว้นะรู้ไหม” นางอารตีบอกด้วยท่าทางขึงขัง
“คุณป้าคะ เขาทำเหมือนวาทไม่มีศักดิ์ศรี กฎบ้าบอคอแตกอะไรกันแบบนี้ เหมือนกลัวว่าวาทจะไปถลุงเงินของเขาจนหมดตัวอย่างนั้นล่ะ วาทไม่แต่งแล้วค่ะ”
“ไม่ได้!”
“คุณป้าจะมาบังคับวาทไม่ได้นะคะ”
“ก็วันก่อนแกตอบตกลงเขาไปเองนะยัยวาท จะมาผิดคำพูดแบบนี้ได้ยังไง”
“ก็วันก่อนเขายังไม่ได้ออกกฎเกณฑ์บ้าๆ แบบนี้ยังไงคะ คนดีๆ ที่ไหนเขาทำกันคะคุณป้านี่มันคนบ้าชัดๆ”
“ยังไงแกก็จะต้องแต่งงานนะยัยวาทเพราะเงินสินสอดที่คุณวิเนตย์จะให้นั้น มันมากพอที่จะช่วยเหลือคนในบ้านเราได้ทุกคน แกคิดดูสิ อีกหน่อยยัยอรแต่งงานต้องเสียเงินเสียทองจัดงานแต่งอีก คุณแม่ก็แก่ตัวลงเข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เงินทองก็ไม่ค่อยมี ธุรกิจของบ้านเราก็ย่ำแย่คนงานจะออกไปหมดแล้วมั้งนี่” ผู้เป็นป้าร่ายยาวถึงปัญหาที่สั่งสมมานาน โดยเฉพาะรีสอร์ตริมน้ำที่ลูกค้าลดน้อยถอยลงไปทุกวัน
“ยัยอรจะแต่งงาน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับวาทคะคุณป้า” คนถามกลอกตาใส่อย่างหน่ายใจ ส่วนเรื่องยายนั้นเธอพร้อมที่จะช่วยดูแลอย่างเต็มใจเสมอ
“ก็ฉันเอาเงินคุณวิเนตย์เขามาใช้แล้วน่ะสิ ตั้งแต่วันก่อนที่แกรับปากว่าจะแต่งงานกับเขา เขาก็เซ็นเช็คฝากคนเอามาให้เลย”
“คุณป้า! แล้วทำไมเขาเอาสินสอดมาให้ก่อนล่ะคะยังไม่ได้แต่งงานกันเลย”
“ฉันเป็นคนขอเองล่ะ แต่ไม่ได้เอามาใช้เองหรอกนะอย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิดไปล่ะ เอาไปให้คุณแม่หมดทุกบาททุกสตางค์ ถือว่าเป็นค่าเลี้ยงดูแกตั้งแต่เด็กจนโตยังไงล่ะยัยวาท เลี้ยงเด็กที่แม่มันทิ้งไปอยู่กับผัวฝรั่งที่เมืองนอก พ่อมันก็ไปมีครอบครัวใหม่ไม่คิดมาเหลียวแล คิดดูสิกว่าจะส่งเสียแกเรียนจบก็หมดไปกี่ล้านแล้ว จบมาก็ยังมาเกาะคุณแม่กินอีก สินสอดทั้งหมดนี่ยกให้คุณแม่ถูกต้องที่สุด” นางอารตีโจมตีจุดอ่อนของผู้เป็นหลาน
“แต่วาทไม่ได้เกาะคุณยายกินนะคะ วาทก็ทำงานที่บ้านของเราทุกวันไม่ได้อยู่เฉยๆ นะคะ”
“โอ๊ย งานพวกนี้ใครๆ ก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งแกหรอกยัยวาท แทนที่แกจะไปหาผัวรวยๆ หรือไปทำธุรกิจดีๆ ในเมือง แล้วเอาเงินมาให้คุณแม่ แกกลับชอบที่จะอยู่กับป่าเขาลำเนาไพรไปวันๆ แบบนี้ มิน่าถึงไม่มีผัวกับเขาสักที”
“แต่คุณป้าคะ วาท...”
“พอๆ แกไม่ต้องพูดแล้วยัยวาท อีกหน่อยยัยอรแต่งงานแกจะอยู่ตรงไหนของบ้านฉันอยากรู้นัก ถ้าคุณแม่ยกสมบัติให้ฉันตามที่คุยกันไว้ ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้แกอยู่บ้านหลังนี้ก็ได้นะ” นางอารตีพูดแล้วก็เชิดหน้าใส่หลานสาวในไส้
“คุณป้า...”
“ฉันพูดจริง” ทั้งน้ำเสียงและแววตาที่มองมานั้นเหมือนจะเฉือนหัวใจของวธุกาให้ขาดรอนๆ นี่หรือคือสายตาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่สาวของแม่ เป็นป้าแท้ๆ ของเธอ ในบางเวลาก็ดูเหมือนจะเป็นคนอื่นไป
“ถ้าวาทแต่งงานไปกับคุณวิเนตย์ คุณป้าก็จะโล่งตาโล่งใจใช่ไหมคะ ทั้งหมดนี่ก็แค่ไม่อยากให้วาทอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย” คำพูดคล้ายน้อยใจของหญิงสาวไม่ได้ทำให้นางอารตีรู้สึกเห็นอกเห็นใจแต่อย่างใด
“แกจะคิดยังไงก็เชิญยัยวาท แต่นี่คือโอกาสดีที่สุดในชีวิตของแกแล้ว ถ้าแกไม่เอาแกก็โง่สิ้นดี” พูดจบก็เดินจากไป ปล่อยให้วธุกาอยู่กับความจริงที่ว่าผู้เป็นป้าไม่เต็มใจให้เธออยู่ในบ้านหลังนี้ไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
หญิงสาวเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อหายายผู้เป็นที่รัก ยายนวลน้อยมีอายุแปดสิบกว่าปีแล้ว เดินเหินไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกต้องนั่งอยู่บนรถเข็นเสียส่วนใหญ่ มีแค่วธุกาที่มักจะพาท่านออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก
“มาพายายไปดูแม่น้ำหน่อยสิวาท” เห็นหน้าหลานสาวคนโปรดยายนวลน้อยก็รีบกวักมือเรียกอย่างดีใจ
“ค่ะคุณยาย” วธุกาตรงไปอุ้มผู้เป็นยายลงบันไดมานั่งรถเข็นอีกคันที่อยู่ด้านล่าง แล้วเข็นพาออกไปสูดอากาศด้านนอกตรงระเบียงซึ่งสามารถมองเห็นสายน้ำที่ไหลผ่านหน้ารีสอร์ตแห่งนี้ได้ถนัดตา
“ยัยอรบอกว่าจะพายายมาดูแม่น้ำ พอแฟนโทรมาแค่นั้นแหละวิ่งปรู๊ดออกไปเลย” ยายนวลน้อยฟ้องแบบขำๆ
“ยัยอรกำลังมีความรักค่ะคุณยาย ปล่อยๆ ไปบ้าง โตกว่านี้เดี๋ยวก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควรค่ะ” แม้คนแม่จะใจร้ายแต่ลูกสาวอย่างอรตีกลับเป็นลูกไม้หล่นไกลต้น เป็นเด็กนิสัยน่ารักพูดจาอ่อนน้อมถ่อมตน เสียอย่างเดียวเชื่อฟังผู้เป็นแม่มากไปหน่อย จนบางครั้งอรตีก็ขาดความเป็นตัวของตัวเองไป
“ยายก็ว่างั้น แล้วเราล่ะวาทเห็นหน้าว่าที่เจ้าบ่าวบ้างหรือยัง” หญิงชราหันมามองหน้าหลานสาวแล้วถามด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า วธุกาเห็นแล้วก็พลอยรู้สึกอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย
ตอนที่ : 2 กฎของเรา 2 “คุณยาย วาทไม่ค่อยอยากแต่งงานเลยค่ะ มันแปลกๆ ไงไม่รู้” “อ้าว แล้วกัน ไม่แต่งแล้วจะมีลูกเลี้ยงตอนแก่เหรอยัยวาท เป็นสาวโสดไปชั่วชีวิตมันไม่สนุกหรอกนะ” “วาทเลี้ยงตัวเองได้ค่ะคุณยาย สมัยนี้ผู้หญิงเราเก่งจะตายไปไม่ต้องง้อให้ใครมาเลี้ยงหรอกค่ะ” วธุกาไม่กล้าบอกผู้เป็นยายถึงกฎสามข้อโดยเฉพาะข้อที่สามของวิเนตย์ เกรงว่าท่านจะไม่เห็นด้วยแล้วเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตไป “อย่าคิดแบบนั้นสิวาท อนาคตวาทจะอยู่คนเดียวไปอย่างนั้นเหรอ ถ้าวาทแต่งงานยายก็ยังใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่ามีคนรับไปดูแลแล้ว ดีกว่าอยู่กับยัยตีมีแต่จะถูกโขกสับไปวันๆ ประสาทจะกินอยู่แล้วยายน่ะ มีเรื่องมาให้คิดอยู่ได้ไม่เว้นแต่ละวัน ตั้งแต่สาวยันแก่นิสัยมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย” ยายนวลน้อยพูดแล้วก็ส่ายหน้า เพราะว่าเป็นลูกในไส้ถึงได้รู้เห็นธาตุแท้ของนางอารตีมาตั้งแต่เล็กจนโต “คุณยายว่าวาทควรจะแต่งงานกับคุณวิเนตย์จริงๆ เหรอคะ” หญิงสาวถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ “สมควรที่สุดเลยล่ะวาทเอ๊ย อย่างน้อยๆ ก็จะได้มีสามีเป็นตัวเป็นตนมีคนคอยช่วยเหลือกันในวันข้างหน้า มีลูกคอย
ตอนที่ : 3 คืนวิวาห์2คืนวิวาห์ มหัศจรรย์พันลึกมากสำหรับงานแต่งที่เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ ก่อนหน้าที่จะมีวันนี้วิเนตย์ไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปหาเธอที่บ้านของยายนวลน้อยเลยแม้แต่วันเดียว วธุกานับหนึ่งถึงสิบทุกครั้งที่อยากจะขอยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้ พอมาคิดถึงเรื่องสินสอดที่ยายนวลน้อยรับมาแล้วก็ทำไม่ลงเลยจริงๆ ภายในงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายแขกเหรื่อก็มีเพียงแค่ญาติสนิทของคู่บ่าวสาวฝั่งละไม่กี่สิบคน ครั้งแรกที่หญิงสาวได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวแบบถนัดตาก็ในวันแต่งงานของตัวเองนี่แหละ อดยอมรับไม่ได้ว่าวิเนตย์เป็นชายไทยแท้ผู้มีใบหน้าเคร่งขรึม แววตาดุดันจนบางครั้งก็น่ากลัวจนเกินไป ตลอดเวลาที่อยู่ภายในงานเขาไม่ชวนเธอพูดสักคำเดียว แม้แต่รอยยิ้มนิดๆ ก็ยังไม่มี นี่มันงานแต่งประเภทไหนกันอยากรู้นัก แต่วธุกาก็มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะรักษาหน้าของทุกคนเอาไว้ ด้วยการนิ่งและเงียบจนกว่าจะได้ฤกษ์เข้าหอ และอยู่ด้วยกันสองต่อสองภายในห้องนอน “คุณเข้าใจกฎเหล็กสามข้อของผมดีหรือยัง” นี่คือคำพูดแรกของเจ้าบ่าวภายในห้องหอ เจ้าสาวคนงามถึงกับถอนหายใจเบาๆ ที่ได้ยิน “เข้าใจค่ะ” อา
ตอนที่ : 4 คืนวิวาห์ 2 “อย่ามาโวยวายใส่ผมนะคุณวาท ผมไม่ชอบผู้หญิงสติไม่ดีที่อะไรนิดอะไรหน่อยก็เอาแต่กรี๊ดๆ ใส่กันแบบนี้ มันน่ารำคาญรู้ไหม” ‘ผู้หญิงสติไม่ดี?’ คนถูกตำหนิอ้าปากเหวอชี้นิ้วใส่ตัวเองแบบอยากจะกระโดดถีบเจ้าบ่าวในคืนเข้าหอเสียเหลือเกิน ‘เย็นไว้วาทๆ’ ได้แต่ท่องสามคำนี้ไว้ในใจ แล้วดวงตาคู่สวยก็ต้องเบิกโตขึ้นเมื่อเจ้าบ่าวของตนเดินตรงดิ่งเข้ามาหา “เดี๋ยว! คุณจะทำอะไร” “ก็คุณช้าผมจะถอดให้เอง” วธุกาถูกดันตัวลงไปนอนอยู่บนเตียงขณะที่เขาจับโน่นพลิกนี่หาบางอย่างอยู่ ไม่ช้าซิปที่ฝังอยู่ด้านหลังชุดก็ปรากฏให้เขาได้รูดลงอย่างง่ายดาย “อย่าดิ้นสิ” เสียงดุไม่ได้ทำให้เจ้าสาวที่กำลังดิ้นหนีไปมาหยุดได้ หนักเข้าเจ้าบ่าวก็เอาเนกไทที่รูดทิ้งเมื่อครู่มามัดมือของหญิงสาวเอาไว้ “คุณวิเนตย์นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอยังไง มามัดฉันทำไม!” “ใครใช้ให้คุณดิ้น” “โธ่...คุณวิเนตย์อย่ามัดฉันสิ แล้วก็อย่าถอดด้วย อะ...อ๊าย!” ไม่ทันแล้วชุดเจ้าสาวถูกถอดออกจากปลายเท้าและหล่นลงไปกองอยู่บนพื้น เหลือเพียงผ้าลูกไม้ชิ้นน้อยแสนบางเบา แค่เหลือบตาขึ้
ตอนที่ : 5 คืนวิวาห์ 3 บทรักของวิเนตย์คล้ายคนตายอดตายอยากมาอย่างยาวนาน วธุกาเหลือบตาลงด้านล่างมองคนตัวใหญ่ที่กำลังทำตัวเป็นทารกดูดนมมารดา รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ตรงที่ถูกเขาดูดดึงจนแข็งขืน ได้แต่ยกมือขึ้นไปวางบนหัวไหล่ของเขาแล้วดันออกเบาๆ แต่ก็ถูกเขาปัดออกอย่างนุ่มนวลและแนบเนียนเป็นที่สุด หญิงสาวอยากปล่อยเสียงโฮออกมานักในตอนนี้ ครั้งแรกมันไม่ได้อ่อนหวานน่าละลายใจเลย กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเป็นที่สุด เป็นเพราะไอ้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าบ่าวนี่แหละ ที่ตะกละตะกลามเหลือเกิน “คุณวิเนตย์ อื้อ!” เขาจูบหน้าท้องแบนราบลงไปจุ่มปลายลิ้นตรงหลุมสะดือ ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นด้านบนแล้วเปิดลิ้นชักออกมา กว่าจะรู้ว่าเขาทำอะไรวธุกาก็หน้าชาเจ็บจุกไปถึงขั้วหัวใจ ในคืนเข้าหอเขากำลังสวมถุงยางอนามัย! ‘แต่ผมไม่ต้องการแม่ของลูก หรือเพื่อนคู่ชีวิตที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า’ สวมเสร็จก็หันมามองเธอ ซึ่งตอนนี้แววตาคงรื้นไปด้วยหยาดน้ำใสๆ เต็มสองข้าง มันห่อเหี่ยวและรู้สึกเศร้าเหลือเกินในตอนนี้ เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอคิดสิ่งใดอยู่ในใจ “เราคุยกันแล้วคุณเองก็รู้” และเขาเล
ตอนที่ : 6 ชีวิตคู่หรือคี่ดี3ชีวิตคู่หรือคี่ดี ตื่นเช้าขึ้นมาก็ไม่พบสามีบนเตียงนอนเสียแล้ว วธุกามองนาฬิกาที่ติดอยู่ข้างผนังห้อง เจ็ดโมงเช้าแล้วเธอเพิ่งตื่นเป็นเรื่องที่ผิดปกติไปจากทุกวัน เพราะหญิงสาวมักจะตื่นขึ้นมาตรวจตราความเรียบร้อยของงานที่รีสอร์ตในช่วงตีห้าครึ่งในแต่ละวัน หญิงสาวถอนหายใจหนักๆ ให้กับห้องนอนที่ไม่คุ้นเคย ผ้าปูสีขาวยับยู่ยี่และมีหลักฐานบางอย่างจากการเข้าหออย่างดุเดือดเลือดพล่าน รีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อลงไปยังด้านล่างของบ้าน “คุณวาทหนูชื่อเพลินนะคะ เป็นแม่บ้านของที่นี่ค่ะ” สาวน้อยหน้าตาน่ารักทักวธุกาอย่างยิ้มแย้ม “แล้วยังไงจ๊ะ” วธุกาถามสาวน้อยที่ถักเปียทั้งสองข้างอย่างชื่นชมในความอ่อนน้อมถ่อมตนของหญิงสาว “หนูมีหน้าที่มาเก็บกวาดเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้คุณวิเนตย์ทุกเช้า และก็ทำความสะอาดบ้านหลังนี้ค่ะ” “อ้อ งั้นเหรอ แล้วอาหารเช้าคุณวิเนตย์ของเพลินกินที่ไหนล่ะ” “กินที่ห้องอาหารของลูกค้าค่ะ” “ห้องอาหารของลูกค้า?” คิ้วขมวดแน่นเพราะคิดว่าเขาน่าจะรับประทานมื้อเช้าที่บ้านหลังน
ตอนที่ : 7 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 2 “ทำงานไม่ได้เรื่องขนาดต้องให้เมียฉันมาช่วยเลยหรือยังไง หรือว่าต้องให้เปลี่ยนคนใหม่” พูดตำหนิใส่พนักงานแล้วสายตาก็หรี่มองภรรยาแบบไม่พอใจ “เอ่อ ดาขอโทษค่ะคุณวิเนตย์” “ไม่ต้องมาขอโทษ ปัญหาแค่นั้นยังแก้ไขเองไม่ได้ต่อไปฉันจะไว้ใจให้เธอดูแลจุดนี้ได้ยังไง” “คุณวิเนตย์คะ” วธุกาเรียกเขาเบาๆ “อะไร!” แต่สามีเธอกลับตวาดกลับมาให้หน้าเสีย “ฉันแค่อยากบอกว่าลูกค้ากำลังเดินมาทางนี้ค่ะ เบาๆ เสียงหน่อย แค่นี้แหละค่ะที่อยากบอก” พูดเสร็จว
ตอนที่ : 8 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 3 หญิงสาวไม่มีวันทำใจได้หรอกในเรื่องนี้ ในเมื่อเขาไม่ให้ยุ่งงานในบ้าน แต่ให้ออกนอกบ้านไปได้ เรื่องอะไรที่เธอจะอยู่ให้ชอกช้ำใจ วธุกาไม่มีรถขับ แต่หญิงสาวก็ยังมีเพื่อนสนิทที่พอจะขับรถมารับถึงรีสอร์ตแห่งนี้ได้เหมือนกัน “แกออกมากับฉันแบบนี้คุณวิเนตย์เขาจะไม่โกรธเอาเหรอ เพิ่งแต่งงานเองนะ” นนท์นทีเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนประถมเอ่ยขึ้นระหว่างที่ขับรถพาวธุกาออกจากวิเนตย์ธารารีสอร์ตไป “เขาคงไม่โกรธแกหรอกนนท์อย่าคิดมาก ฉันอยากหาที่สงบๆ พักสมองเสียหน่อย ขอฉันไปนอนที่รีสอร์ตของแกนะ” “ยัยวาท แกพูดอะไรออกมา กลับไปนอนที่บ้านยายนวลน้อยยังจะดีเสียกว่ามานอนกับฉันนะ ฉันเป็นผู้ชายนะถึงจะเคยแก้ผ้าเล่นน้ำมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้
ตอนที่ : 9 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 4 ส่วนวธุกาที่กำลังจะเดินเข้าไปในบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ของสามี หญิงสาวมองเห็นเขานั่งอยู่ตรงระเบียงสายตามองเหม่อลงไปยังแม่น้ำด้านล่าง ที่มีบ้านพักบนแพของลูกค้าเรียงรายอยู่นับแปดสิบห้อง หญิงสาวเดินเงียบๆ ตรงไปหาเขาจนได้ระยะใกล้พอสมควร “คุณวัสบอกว่าคุณอยากเจอฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ” ถามพร้อมกับเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับสามี เขาผินหน้าดุๆ กลับมามอง สายตาจ้องเขม็งราวกับเธอไปทำเรื่องผิดอะไรมา “อะไรคะ” ถูกจ้องแบบไม่ละสายตาแบบนี้วธุกาเองก็เริ่มใจคอไม่ดีเท่าไหร่ ‘คนบ้าอะไรหน้าตาดุชะมัด’ “คุณหายไปไหนมาทั้งวัน รู้ไหมผมถามใครก็ไม่มีใครรู้” นั่นปะไรสิ่งที่เขาต้องการหาเรื่องเธอ หญิงสาวกลอ
ตอนที่ : 18 ฮันนีมูนจริง ๆ 2 “หยุด! เอาไว้ที่เดิมเดี๋ยวนี้คุณวาท” คนในอ่างก็ใช่จะยอมลุกยืนตามภรรยาแล้วดึงเสื้อคลุมเก็บไว้ที่เดิม “คุณเก่งนะ คุณรู้ด้วยว่าผมกำลัง...” เขากระซิบชมติดใบหูแล้วหอมแก้มนุ่มๆ เสียฟอดใหญ่ คนถูกหอมก็ผิวเนื้อแดงซ่านไปทั้งตัว วิเนตย์เห็นแล้วก็ครางฮือในลำคอถ้าไม่รู้อายุจริงของหญิงสาว เขาก็คงคิดว่าตัวเองได้เมียเด็กเป็นแน่แท้ เพราะไม่ว่าจะจับจะชิมตรงไหนก็หวานละมุนนุ่มลิ้นไปเสียทุกสัดส่วน กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ก็ร่วมหนึ่งชั่วโมง วิเนตย์เลยต้องโทรศัพท์สั่งให้คนงานนำอาหารมาเสิร์ฟที่ห้องพักแทน ระหว่างนั่งรับประทานมื้อเที่ยงตรงหน้าระเบียง วธุกาก็แทบไม่กล้ามองสบตากับสามีตรงๆ สักครั้ง ความขวยอายก่อเกิดขึ้นเพราะว่าก่อนหน้าในห้องน้ำนั้นเร่าร้อนจนเดือดพล่านกันเลยทีเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งหน้าร้อนผ่าวจนปรากฏเด่นชัดออกมาให้สามีได้เห็น
ตอนที่ : 17 ฮันนีมูนจริง ๆ6ฮันนีมูนจริงๆ ในเมื่อตกปากรับคำกันเป็นมั่นเหมาะแล้ว วธุกาก็ไม่คิดทำตัวเองให้ทุกข์ใจมากไปกว่านี้ หญิงสาวหลับตาลงแล้วพยายามนึกไว้อยู่เสมอว่าเขาคือ สามี และจะเป็นไปจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เป็นอิสระหย่าขาดจากกันไป ท้องฟ้าสีสดใสเสียงน้ำไหลเอื่อยตามกระแสกับสามีที่ลอยตัวอยู่ด้านข้าง มีบางครั้งที่ตัวของวิเนตย์จะหลุดออกห่างไป เขาก็จะดึงข้อมือของเธอเอาไว้แทน “นานมากแล้วนะที่ผมไม่ได้ทำแบบนี้” “ค่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน อยู่กับแม่น้ำทั้งทีกลับไปว่ายแต่ในสระ” หญิงสาวมองดูนักท่องเที่ยวที่มีบางส่วนลากกระเป๋ามารวมกันไว้ตรงแพใหญ่ส่วนกลาง เหมือนกำลังจะเตรียมตัวคืนห้องพักและเดินทางกลับกัน
ตอนที่ : 16 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 4 “เว่อร์ไปแล้ว อ๊ะ!” วิเนตย์ดึงคนเถียงไม่หยุดเข้ามากอดแล้วเอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มไปด้วยกัน วธุกาดิ้นขลุกขลักเพียงเล็กน้อยก่อนจะสงบลงในอ้อมกอดของสามี หัวใจเต้นในจังหวะแรงเร็วด้วยกันทั้งคู่ จนไม่รู้ว่าเป็นเสียงเต้นของใครกันแน่ ชั่วอึดใจหนึ่งฝ่ายสามีก็กดจูบลงบนหน้าผากของภรรยาอย่างนุ่มนวล “ผมขอโทษที่พูดถึงเมียเก่าให้คุณได้ยิน ต่อไปนี้ผมจะไม่หลุดปากแบบนี้อีกแล้วคุณวาท” ดวงตาคู่สวยกะพริบถี่ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเขาพูดเรื่องนี้ออกมา หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แบบคนเผื่อใจเจ็บไว้แล้ว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวิเนตย์ ยังไงเสียเขาก็คือเมียคุณส่วนฉันก็แค่...คนอื่น” ขมขื่นอยู่ไม่น้อยที่ต้องเอ่ยคำนี้ออกมา คำว่า คนอื่น “อย่าพูดแบบนี้
ตอนที่ : 15 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 3 วธุกาอ้าปากน้อยๆ เมื่ออีกสองคนก็บ้าจี้ตามเขาไปด้วย เดินตามหลังสามีผ่านจุดบริการลงไปยังทางลงแพ หญิงสาวหันหลังกลับไปมองคนทั้งคู่ พบว่าพวกเขาพากันปิดปากหัวเราะอย่างขำขัน “กลายเป็นตัวตลกไปเลยทั้งคุณและฉัน” มีบ่นลอยๆ อยู่ข้างหลังสามี “มีแต่คนจะอิจฉาล่ะไม่ว่า” “ใครเขาจะมาอิจฉาเรากันล่ะ ไม่มีหรอก” “มีสิ ก็คนที่ยังไม่มีคู่ยังไงล่ะ เอามานี่” วิเนตย์เอื้อมมือมาดึงกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากมือของภรรยา เมื่อเดินมาถึงบันไดไม้ที่วางพาดจากบนฝั่งไปยังบ้านพักบนแพ ซึ่งความชันของมันก็ทำให้เดินได้ลำบากอยู่ไม่น้อย เขาเกรงว่าภรรยาจะหิ้วกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้ามาค่อนข้างเยอะจะเดินผ่า
ตอนที่ : 14 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 2 “คุณไม่หนาวเหรอคะ ไปใส่เสื้อผ้าก่อนไหมเดี๋ยวฉันจะได้ปิดคอมพ์” วธุกาเสียงสั่นนิดๆ “ใส่ทำไมเสียเวลา รีบปิดแล้วไปขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้คุณวาท” เสียงของวิเนตย์เริ่มแข็งขึ้นพร้อมกับสายตาจ้องบังคับ วธุกากลั้นใจกดปุ่ม shut down แล้วปิดเก็บโน้ตบุ๊กของตนเองไว้ หันหลังกลับมาก็ต้องผงะกับภาพของสามีที่กำลังนอนกอดอกรออยู่บนเตียง หญิงสาวแทบเข่าอ่อนทันทีที่ผ้าขนหนูของเขากำลังเปลี่ยนรูปผิดร่างจากปกติตรงจุดยุทธศาสตร์ เหมือนกับว่ามันกำลังพร้อมเสียเหลือเกินสำหรับการออกสมรภูมิรบบนเตียงนอน “คุณวิเนตย์” “หืมว่าไง” “เอ่อ คือว่าฉัน
ตอนที่ : 13 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน5แน่ใจนะว่าฮันนีมูน วธุกาได้ฟังแผนการฮันนีมูนของสามีแล้วก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ พ่อเจ้าประคุณช่างคิดออกมาได้ คนดีๆ ที่ไหนเขาจะทำกันแบบนี้ แผนการฮันนีมูนห้าวันสี่คืนของเขามันช่างน่าประทับใจมาก (อันนี้ประชด) วันที่ 1-2 พักที่ห้องสวีตบนแพ มีอาหารเช้าเย็นให้เป็นแบบบุฟเฟต์ ชมวิวแม่น้ำสวยๆ หรือไม่ก็ใส่เสื้อชูชีพลงไปลอยคออยู่หน้าที่พัก ช่วง 16.00 น. แพก็ลากเราไปไกลจากรีสอร์ตหนึ่งกิโลกว่าๆ แล้วปล่อยให้ลงน้ำลอยคอกลับมาที่พักอย่างสนุกสนาน&nbs
ตอนที่ : 12 หัวใจว้าวุ่น 3 มุมหนึ่งของรีสอร์ตเอกวัสกำลังรายงานสถานการณ์ของเช้านี้ให้เจ้านายฟังเหมือนทุกวัน แต่สายตาของวิเนตย์กลับไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เขากำลังบอกเล่าแต่อย่างใด หนุ่มใหญ่ลองเบนสายตาตามก็พบว่าเจ้านายกำลังมองไปยังร่างสมส่วนที่กำลังเดินไปอีกทาง “คุณวิเนตย์...คุณวิเนตย์ครับ” “ว่าไงคุณวัสถึงไหนแล้วครับ” คนรู้ตัวว่ากำลังเหม่อลอยไปอีกทางรีบหันกลับมาแล้วทำหน้าปกติตามเดิม เอกวัสถึงกับอมยิ้มทันทีเพราะนานทีปีหนไม่เคยเห็นวิเนตย์เป็นอย่างนี้มาก่อน “ผมพูดจบแล้วนะครับ” “อะไรกันผมยังฟังไม่หมดเลย คุณพูดใหม่เลยแล้วกัน” ‘อ้าว ก็มัวแต่มองเมียอยู่นั่นแหละ’ เอกวัสค้อนเจ้านายเล็กๆ ก่อนจะเริ่มต้นรายงานสถานการณ์ประจำวันใหม่อีกรอบ วิเนตย์ชอบที่จะฟังจากปากของตนมากกว่าการอ่านจากเอกสารเป็นแผ่นๆ “มีเท่านี้ครับวันนี้ลูกค้าน้อย” “งั้นคุณวัสก็ไปทำงานของคุณต่อเถอะครับ ผมไม่มีอะไรแล้ว” “ได้ครับ ว่าแต่คุณวิเนตย์จะไปฮันนีมูนวันไหนเหรอครับ ผมจะได้ดูวันพักร้อนของตัวเองไว้ก่อนเผื่อจะแพลนตรงกัน” “ฮั
ตอนที่ : 11 หัวใจว้าวุ่น 2 “ชิมยังไงมันก็มีพลาดกันได้ตลอด ผมเลยต้องเผื่อเอาไว้ไง” “เอาตัวเองเป็นหนูทดลองนี่นะ” “ผมพอใจทำใครจะทำไม” “ใครจะไปทำอะไรเจ้าของรีสอร์ตล่ะคะ ไม่กล้าหรอก” วธุกายุติบทสนทนาด้วยการตักข้าวต้มเข้าปาก ตาก็มองดูการรับประทานอาหารของสามีไปพลาง ๆ มีบ่อยครั้งที่เขามองกลับมาแล้วเธอหลบตาไม่ทัน “อุ๊บ!” ข้าวต้มแทบจะไหลพรวดลงคอแบบไม่ได้กลืน รีบยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มในทันที “เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกคุณวาท ดูซิ เลอะปากไปหมดแล้วนั่น” ความใจดีของสามีก็เผยออกมา ในตอนที่เขาหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกล่อง แล้วเช็ดขอบปากให้อย่างลวกๆ นุ่มนวลเหรอ ฝันไปเถอะ “พอแล้วๆ กะจะต่อยปากกันหรือไงเช็ดแบบนี้” หญิงสาวรีบดึงมือสามีออกแล้วมองค้อนเขาเล็กน้อย “หวังดีแท้ๆ” ‘เก็บไว้ใช้กับตัวเองเถอะคนบ้า’ “คุณวิเนตย์ฉันมีเรื่องจะขอคุณ” วธุกาเขี่ยข้าวต้มในถ้วยไปมาระหว่างบอกเขา “เรื่องอะไร” วิเนตย์ถามกลับทั้งที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่ในปาก ออกจะไร้มารยาทสำหรับวธุกาแต่หญิงสาวกลับไม่ถือสาเขาแ
ตอนที่ : 10 หัวใจว้าวุ่น4หัวใจว้าวุ่น คนถูกกวนตลอดทั้งคืนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างลำบากยากเย็น มือน้อยควานหาสามีด้านข้างก็เจอแต่ความว่างเปล่า วธุกาปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดตอนเช้าก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่ง มองดูพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างและยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าได้กอดใครบางคนมาตลอดทั้งคืน รีบสลัดความคิดนี้ออกจากหัวลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป ชีวิตมันจะอยู่แค่นี้จริงๆ หรือ วธุกาเริ่มตั้งข้อสงสัยให้กับการใช้ชีวิตคู่ของเธอกับเขา เสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่ายามมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ในกระจกแผ่นใหญ่ตรงหน้า หญิงสาวผู้มีใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากสวยอวบอิ่มกับดวงตาที่หวานซึ้งรับกับคิ้วโค้งพอเหมาะ ทุกอย่างลงตัวสวยตามฉบับสาวไทย วธุกามีความสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม รูปร่างอวบอัดได้สัดส่วน เพราะการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันทำให้รูปร่างยังคงสวยงามอยู่แม้จะมีอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้ว ความจริงแล้วเธอไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้พบผู้ชายคนไหนที่ถูกใจมาก่อนหน้านี้ แต่บทจะพลาดก็ง่ายดายเหลือเกิน หญิงสาวมองโทรศัพท์มือถือแล