ตอนนั้น เขาก็ถูกมัดไว้กับเก้าอี้ ได้แต่มองดูผ่านหน้าต่างสูงจรดพื้น โดยที่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง!จิเหยียนโจวรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะเป็นบ้าไปแล้ว เขาพยายามขัดขืนจากการถูกมัดอย่างบ้าคลั่ง ทว่าไม่ว่ายังไงก็ดิ้นออกจากโซ่ที่ตรวนไว้ไม่หลุด!เขาจึงได้แต่ทิ้งร่างลงกับพนักเก้าอี้อย่างสิ้นหวัง ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นจ้องชูยีที่กำลังร้องไห้จนเสียศูนย์เช่นเดียวกันผ่านหน้าจอ"เหยียนโจว ระหว่างฉันกับคุณ มีแต่ฉันที่เป็นฝ่ายไล่ตามคุณมาตลอด""ตั้งแต่อายุสิบสี่ ที่ฉันเริ่มชอบคุณ ฉันก็เอาแต่ตามตื๊อคุณไม่หยุด การกระทำของฉัน คงจะทำให้คุณทุกข์ใจมากสินะ""ตอนนี้ ฉันเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง คงจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว หลังจากที่ฉันจากไป ก็จะไม่มีใครตามตอแยคุณอีก...""ถ้าหาก ฉันก็แค่บอกว่าถ้าน่ะนะ ถ้าคุณยังนึกถึงฉันบ้าง ก็มาหาฉันที่หน้าหลุมฝังศพได้"ชูยีก้มหน้าลงมองไปยังมือที่กล้ามเนื้อฝ่อจนกลายเป็นสีเหลือง ยกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างโล่งอก"ฉันจำได้ว่า ครั้งแรกที่ได้จับมือคุณ ฉันก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อนนะ""ตอนนั้น ฉันนึกว่าคุณจะสะบัดฉันออกซะอีก แต่คุณไม่ได้ทำ ฉันถึงได้กล้าที่จะไล่ตามคุณ...""ฉันน่าจะรับวัฒนธรรมของฝรั่งมา
คลิปที่ชูยีทิ้งเอาไว้ ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้กล่าวโทษเขาเลยสักคำ เอาแต่ขอโทษเขาไม่หยุดระหว่างเขาและเธอ เขาอยู่สูงส่งเสมอ ส่วนเธอนั้นได้แต่ร้องขอความรักเพียงน้อยนิดด้วยความต่ำต้อยจิเหยียนโจวนึกถึงตอนที่เจอชูยีครั้งแรก เขานั่งอยู่ในรถ ลดหน้าต่างลงครึ่งนึง ทอดสายตาลงมองชูยีกับเคซีย์ที่ถูกกลุ่มคนจรจัดล้อมเอาไว้ด้วยความเรียบเฉยตอนนั้น รถจอดอยู่ข้างทาง กำลังรอสัญญาณไฟจราจร เขาที่รู้สึกเบื่อๆ ก็แค่ปรายตาไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็เห็นเข้ากับชูยีที่เอาแขนกอดศีรษะไว้ นั่งยองลงกับพื้น ขดตัวแน่นท่ามกลางกลุ่มคนสกปรกพวกนั้นจังหวะที่เขาเห็นเธอเงยหน้าขึ้นมามองเขา ในแววตาเปร่งประกายแสงสะอาดบริสุทธิ์ ความสะอาดบริสุทธิ์นั้นไม่คู่ควรที่จะมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สกปรกและมั่วสุมแบบนั้น เขาเกิดความคิดขึ้นมา จากนั้นก็ตะโกนออกไปว่าให้หยุดเขาในตอนนั้น ยังไม่รู้ว่าเคซีย์ที่คอยปกป้องอยู่ข้างกายชูยี ก็คือลูกชายนอกสมรสของตระกูลจิ เป็นพี่ชายต่างแม่ ถ้าหากว่าเขารู้ว่าเคซีย์อยู่กับชูยี งั้นเขาก็คงไม่มีทางส่งเสียชูยีเขาเคยได้ยินชูยีบอกว่า นับตั้งแต่ที่เขาส่งเสียเธอ เธอมักจะแอบเฝ้ารออยู่หน้าประตูบ้านตระกูลจิหลังเลิ
ครั้งเดียวที่เขาเป็นฝ่ายรุกก่อน ก็คือตอนที่เห็นเคซีย์พาพี่น้องในราชวงศ์มาตามจีบชูยีอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังลากชูยีออกจากสนามฟุตบอลไปด้วยทั้งคู่วิ่งรับแสงในช่วงพระอาทิตย์ตกอยู่บนสนามฟุตบอล คนที่อยู่รอบๆต่างก็ส่งเสียงเชียร์พวกเขา ราวกับกำลังแสดงหนังรักแห่งยุคอะไรเทือกนั้น...จิเหยียนโจวยัดมือข้างนึงลงกระเป๋ากางเกง แล้วแค่นเสียงเย็นอย่างไม่แยแส เขาคิดว่าชูยีไม่มีทางตอบตกลงเคซีย์ จึงไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยกระทั่งจอร์จบอกเขาว่าชูยีไม่ได้กลับบ้านเลยตอนนั้นเพื่อให้สะดวกกับการวาดรูป ชูยีจึงไปเช่าห้องที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย เป็นห้องเช่าที่เป็นของจอร์จจิเหยียนโจวกลัวว่าชูยีอยู่คนเดียวจะไม่ปลอดภัย จึงให้จอร์จที่อาศัยอยู่ข้างห้องไปคอยเยี่ยมชูยีบ่อยๆครั้งนี้จอร์จลับมาพอดี เห็นว่าในห้องของชูยีไม่เปิดไฟเลย จึงโทรไปหาจิเหยียนโจวจิเหยียนโจวได้ยินว่าชูยีไม่ได้กลับบ้าน มือที่กำลังจับพู่กันอยู่ก็ชะงักไปสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัว ดันเป็นภาพที่ชูยีเขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มเคซีย์เขาคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นบ้าไปแล้ว ชูยีชอบแค่เขา จะไปจุ๊บเคซีย์ได้ยังไงเขาปลอบใจตัวเองว่า เป็นไปไม่ได้!แต่เขาที่ยิ่งค
เขารู้สึกว่าท่าทางของเธอที่ไม่พูดอะไรแบบนี้ เย้ายวนมากกว่าเมื่อกี้นี้ซะอีก อยู่ๆก็รู้สึกอยากลิ้มรสชาติของเธอให้ดูดดื่มกว่านี้อย่างห้ามใจไม่อยู่ท่าทางของชูยีในตอนนั้น ฝังลึกอยู่ในสมองของจิเหยียนโจว ทุกครั้งที่นึกถึง เขามักจะอดยิ้มออกมาไม่ได้เธอเบิกตาโพล่ง มองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาใสบริสุทธิ์คู่นั้น เริ่มจากความประหลาดใจ กลายเป็นตกใจ และเปลี่ยนเป็นความยินดี ทั้งหมดนั้นเป็นเวลาหนึ่งนาทีเต็มๆสุดท้ายตอนที่เขาปล่อยเธอออก เธอเงยหน้าขึ้น กอดคอเขาด้วยสีหน้าเบิกบาน แล้วถามด้วยรอยยิ้มเขินอาย"เหยียนโจว ถ้าเทียบกับเป้ยซือแล้ว คุณชอบฉันมากกว่าสินะ?"จิเหยียนโจวไม่ได้ตอบคำถามของเธอ แต่จับคางของเธอไว้ เลิกคิ้วขึ้น "ถ้ายังพูดมากอีก ฉันก็จะจูบเธออีก"ทว่าชูยีกลับเขย่งปลายเท้าขึ้น ขยับเข้าไปใกล้ใบหูของเขาอย่างไม่เคอะเขิน แล้วพูดกับเขาว่า "เหยียนโจว ฉันชอบให้คุณจูบฉัน"ลมหายใจอุ่นๆ รินรดลงที่ใบหู ทำให้จิเหยียนโจวหันข้างมาในแววตากับมุมปากกลับถูกปกคลุมด้วยรอยยิ้ม เพราะประโยคเดียวของเธอคืนนั้นเอง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนผลักใครลง แต่เอาเป็นว่าพวกเขาก็คบกันไปโดยปริยายก่อนที่จะเปิดประสบการณ์รั
เคซีย์พีบประตูห้องดูหนังออก ทันใดนั้นแสงไฟก็สว่างขึ้นเขาสวมรองเท้าบูททหาร เดินลงมาจากขั้นบันไดด้านบน มาตรงหน้าจิเหยียนโจวทีละก้าวมือที่สวมถุงมือหนัง กดปุ่มที่เบาะแถวหน้าเบาะตัวนั้นค่อยๆหมุนกลับมาช้าๆ จากนั้นเคซีย์ก็นั่งลงบนเก้าอี้ มองจิเหยียนโจวด้วยท่าทีเหยียดหยาม"นายน่าจะเดาได้แล้วสินะ ที่นายต้องเข้าคุก มันเป็นเหตุการณ์ที่ฉันจัดฉากขึ้นมาเอง"จิเหยียนโจวดึงความคิดกลับ ดวงตาที่มืดมิดค่อยๆช้อนขึ้นกวาดมองเคซีย์ด้วยความเย็นชา"ตั้งแต่เด็กจนโตอัลเลนทำดีกับแก เรียกว่าเป็นพี่ชายของแกยังได้ ทำไมแกต้องฆ่าเขา?""ใครที่มันขวางทางฉัน ก็ต้องตายให้หมด ไม่สนว่าเขาจะเป็นพี่ชายฉันไหม ที่สำคัญยังไงก็ไม่ใช่เพี่น้องแท้ๆ มีอะไรให้ต้องเมตตา"เคซีย์ยกมุมปากขึ้นยิ้มเรียบๆอย่างไม่รู้สึกรู้สา ราวกับว่าในสายตาของเขา สิ่งที่เรียกว่าชีวิตคนเดิมทีก็ไม่ต่างอะไรจากของเล่น"แกคิดว่าฆ่าอัลเลนแล้ว ราชวงศ์จะยกมรดกไว้ในมือแกหรือไง?"ลูกบุญธรรมที่ไม่มีเลือดเนื้อเชื้อไข ราชวงศ์จะให้เขาสืบทอดต่อได้ยังไง ฝันล้มๆแล้งๆ"ราชวงศ์ไม่ยกมรดกให้ฉันอยู่แล้ว ที่ฉันทำแบบนี้ จริงๆแล้วก็เพื่อนาย..."เพื่อจิเหยียนโจว เขาสร้
เคซีย์เห็นท่าทางจิเหยียนโจวที่อยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด ก็รู้สึกสำราญใจอย่างบอกไม่ถูก เผยอริมฝีปากบางออก ค่อยๆเฉือนให้ตายทั้งเป็นต่อไป"เหยียนโจว ฉันรู้อยู่แล้วว่าจะทะลวงหัวใจของนายยังไง เพราะงั้นหลังจากที่นายออกจากคุก ฉันเลยเตรียมโชว์สุดพิเศษไว้เพื่อนายโดยเฉพาะ"เคซีย์ปรบมืออีกสองสามที หน้าจอก็สลับเปลี่ยนเป็นอีกคลิปนึง...เป็นภาพที่ชูยีกับเคซีย์ร่วมรักกันอย่างเร่าร้อนบนเตียง ส่วนเขาถูกมัดไว้กับเก้าอี้ โดนบังคับให้ดู!เส้นเลือดบนหลังมือของจิเหยียนโจวระเบิดขึ้นมาในทันที เขากำหมัดแน่นทั้งสองข้าง พุ่งเข้าไปจะต่อยหน้าเคซีย์อย่างจังแต่เขาที่ถูกล่ามโซ่เอาไว้ คว้าได้เพียงแค่ส้นผมที่ปรกตรงหน้าผากของเคซีย์ จากนั้นก็ไม่สามารถสัมผัสได้แม้แต่ผิวของเคซีย์...เขาดวงตาแดงก่ำ กัดฟันคำรามใส่เคซีย์ "ฉันจะฆ่าแก! จะต้องฆ่าแกแน่!"เคซีย์แค่นเสียงเย็นทีนึง "เหยียนโจว ถ้าฉันยังเป็นคนเร่ร่อนเหมือนเมื่อก่อน การที่แกจะฆ่าฉันก็ไม่ต่างอะไรกับเหยียบมดตัวนึง แต่น่าเสียดายที่ฉันดวงดี ใครจะไปคิดว่าฉันจะถูกราชวงศ์รับเลี้ยง แม้แต่พ่อของแกก็ยังตกใจน่าดูเลยไม่ใช่หรอ?"เคซีย์ยื่นหน้าออกมาข้างหน้า ให้มือของจิเหยีย
เคซีย์ดึงสายตาที่มองชูยีกลับ หันกลับไปมองจิเหยียนโจวที่ถูกมัดไว้กับเก้าอี้ ขยับไปไหนไม่ได้ด้วยสายตาเย็นชา"ฉันหลอกให้เธอแต่งงานกับฉัน แล้วใช้อุบายทำให้เธอร่วมรักกับฉัน ทั้งหมดนั่นก็เพื่อยั่วให้แกโมโหยังไงล่ะ!""แล้วแกก็ตกหลุมพลางจริงๆ เริ่มทรมานชูยี แล้วก็แก้แค้นฉันอย่างบ้าคลั่ง...""วินาทีนั้นฉันก็รู้แล้วว่านายใกล้จะเป็นบ้าไปจริงๆ แต่นั่นมันก็ยังไม่พอ!""เพื่อให้นายได้กลายเป็นปีศาจอย่างแท้จริง ฉันเลยจงใจพาชูยีหนี...""ทันทีที่ชูยีหนีไป นายก็เป็นบ้าอย่างสมบูรณ์ ตอนที่ได้เห็นสภาพเป็นบ้าเป็นหลังของนาย ฉันโคตรสะใจเลยว่ะ!""โดยเฉพาะตอนที่รู้ว่าตระกูลจิตัดนายออก แล้วให้หลานชายอีกคนขึ้นเป็นทายาทแทน ฉันสะใจจนแทบบ้า!""แต่ฉันไม่คิดมาก่อนว่าชูยีจะเลือกที่จะจากไปอย่างสงบ..."ตอนที่เคซีย์พูดประโยคสุดท้าย สีหน้าที่สำราญใจ ทันใดนั้นก็ดิ่งลง"นายรู็ไหมว่าทำไมชูยีถึงเลือกที่จะจากไปอย่างสงบ?"เคซีย์ลุกขึ้นยืน จับใบหน้าของจิเหยียนโจวไว้ แล้วออกแรงดึงขึ้นมาเคซีย์ก้มหน้าลง จ้องดวงตาที่แดงก่ำของจิเหยียนโจวนิ่ง แล้วหัวเราะเสียงเย็น"ชูยีไม่ได้กลัวความเจ็บปวดจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แล้วก็ไม่ได้
ตอนที่จิเหยียนโจวได้ยินประโยคนั้น หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาความเจ็บที่เหมือนกับความเศร้าใจ กลับไม่ได้ทำให้เขาพุ่งเข้าไปกอดเธอจากด้านหลัง ตรงกันข้ามกับพูดออกมาอย่างไม่คิดว่า"คนที่สมควรตาย ก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้"ชูยีที่ถือตัวอ่อนอยู่ ตัวแข็งทื่อไปแล้วหันกลับมามองเขาช้าๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อตอนนั้นเขามีสีหน้ายังไงน่ะหรอ จิเหยียนโจวจำไม่ได้แล้วเหมือนกันน่าจะยืนมองดูเธอด้วยสายตาและท่าทางเย็นชาไร้ความรู้สึกล่ะมั้งยังไงก็ตาม หลังจากที่ชูยีห็นสีหน้าของเขา ความตกใจในแววตาค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความผิดหวังสุดท้ายเธอไม่ได้พูดอะไร แค่ก้มหน้าลง จ้องตัวอ่อนในมืออย่างเหม่อลอยหลังจากที่เขาเดินจากไปไกลแล้ว ถึงได้ยินเสียงของเธอแว่วมาจากด้านหลัง"ที่แท้ฉันสมควรตายนี่เอง"จิเหยียนโจวชะงักฝีเท้าลง หันกลับไปมองชูยีที่ยืนอยู่ข้างถังขยะด้วยใบหน้าซีดขาวแวบนึงสภาพของเธอที่ผอมแห้งลีบไปทั้งตัวราวกับคนใกล้ตายนั้น ทำให้ทุกครั้งที่จิเหยียนโจวนึกถึงก็ต้องรู้สึกผิดจนสุดหัวใจมาจนถึงทุกวันนี้!แม้แต่ความทรงจำเขาก็ยังไม่กล้าย้อนกลับไปคิดถึง ก็เพราะกลัวว่าตัวเองจะถูกความมืดดำแบบนี้ดูดกลืนเข้าไป แ