ชายคนนั้นถอดเสื้อผ้าของเธอ อุ้มเธอขึ้น กดเธอกับผนังแล้วจูบเธอการเคลื่อนไหวของเขาครอบงำมาก แต่ซูหว่านก็เหมือนกับไม้ที่ปล่อยให้เขาเล่นกับมันผู้ชายกอดเธอจูบกันสักพัก อาจจะรู้สึกน่าเบื่อนิดหน่อย เอื้อมมือไปหยิกที่เอวเธอ"เจ็บ..."จูบของเขาก็ยังบ้าเหมือนเดิมทักษะการจูบของเขาดีมาก ทําให้ซูหว่านรู้สึกว่าไม่ได้ถูกบังคับ แต่เพลิดเพลินกับมันพอความคิดนี้ออกมา เธอก็อยากตีตัวเองให้ตาย จะเพลิดเพลินได้ยังไง?!เธอคิดว่าผู้ชายจะจากไปหลังจากกินอิ่มแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะอุ้มเธอไปห้องน้ำหลังจากช่วยเธอทําความสะอาดแล้ว เขาก็กอดเธอลงบนเตียง กอดเธอเข้าไปในอ้อมแขน ตบหลังเธอด้วยมือเดียวและกล่อมให้เธอนอนซูหว่านอยู่ในอ้อมแขนของเขา ตกใจจนไม่อยากเชื่อว่า "คุณ..."เธอพยายามถามเขาว่าทำไม แต่ผู้ชายก็อ่อนโยนและลูบผมของเธอว่า "นอนไปเถอะ"น้ำเสียงตามใจนี้ ทำไมเหมือนกําลังพูดกับแฟน?เขากับเธอเป็นความสัมพันธ์ที่ถูกบังคับ จะนอนกอดกันเหมือนคู่รักได้อย่างไร?ซูหว่านเบิกตากว้างมองเขา อยากเห็นว่าเขาเป็นใคร แต่มองไม่เห็นอะไรเลย"คุณหน้าตาน่าเกลียดมาก เลยไม่กล้าแสดงโฉมหน้าที่แท้จริงให้คนอื่นเห็นใช่ไหม?"ถ้าชอบเธ
ซูหว่านกลัวจนหยุดพูดทันทีมีผิดหวังเล็กน้อยและเหลือบมองชายคนนั้นเขาไม่ได้โกรธ แสดงว่าเขาไม่ใช่จี้ซือหานเธอรู้สึกไม่สบายใจมาก จึงกล้าพลิกตัวจากอ้อมแขนของเขา หันหลังให้เขา และหลับตาลงไม่รู้ว่าทําไม แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ใช่จี้ซือหาน แต่เธอมักจะรู้สึกว่าเขาจะไม่ทําร้ายตัวเองก็รู้สึกโล่งใจและหลับไปหลังจากเธอหลับไป ผู้ชายก็ตึงเธอกลับเข้าสู่อ้อมแขนอีกครั้งเขากอดเธอไว้ สักพักเขาก็ตบหลังเธอเบา ๆ ต่อไปซูหว่านเหนื่อยมาก นอนหนัก สับสนก็ฝันถึงวัยรุ่นคนนั้นอีกครั้งฝันว่าเขายกเท้าขึ้น เล็งไปที่หัวใจของเธอและเตะแรงสองครั้งฝันว่าเขาหักนิ้วเธอและตบเธออย่างแรงเธอนอนอยู่บนพื้นและขดตัวเป็นลูกบอลเพราะเจ็บปวดกลับยังยื่นมือมาหาเขาด้วยความคาดหวัง "ซ่งซือเยว่ ฉันเจ็บ ฉันเจ็บมาก"พึมพําของเธอ ทั้งหมดตกลงในหูของผู้ชาย มือที่ตบหลังก็แข็งตัวทันทีหลังจากผู้ชายจ้องมองผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาเวลายาวนานแล้ว เขาก็ผลักเธอออกไป พลิกตัวลงจากเตียง สวมเสื้อผ้า หยิบเสื้อโค้ทขึ้นมา และเดินตรงไปชั่วขณะหนึ่งที่ผู้ชายปิดประตู ซูหว่านพึมพําเบา ๆ ว่า "จี้ซือหาน..."เธอฝันว่าจี้ซือหานกอดเธอนอนและกล่อมเธอเ
เธอนอนอย่างงง ๆ ที่บ้านในคืนสุดท้ายและวันหยุดประจําปีครึ่งเดือนก็สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์เธอยังจําได้ว่าต้องไปส่งมอบงานที่อิงฮว่าอินเตอร์เนชั่นแนลเลยจึงได้แต่บังคับตัวเองให้ลุกขึ้นหลังจากอาหารเช้า กินยาเสร็จสติดีขึ้นบ้าง แต่สีหน้ายังน่าเกลียดเธอแต่งหน้าเข้มข้น หลังจากคลุมสีเบสที่ป่วยแล้ว เธอก็ถือกระเป๋าไปที่อิงฮว่าอินเตอร์เนชั่นแนลพอเข้าออฟฟิศ โจวโจวและจ้าวหยูก็ล้อมเข้ามา "หว่านหว่าน คุณลาออกแล้วหรือ?"ซูหว่านพยักหน้า "ใช่ ลาแล้วค่ะ"โจวโจวจับมือเธอด้วยสีหน้าไม่ลังเล "หว่านหว่าน ทําไมคุณลาออกกะทันหันล่ะ?"จ้าวหยูก็ทําหน้างง "ค่ะ เงินเดือนของอิงฮว่าสูงกว่ากลุ่มอื่นมาก เงินเดือนประจำปีไม่ต่ำกว่าหลายล้านบาท คุณลาออกแบบนี้ก็น่าเสียดายนะ"ซูหว่านยิ้ม "เงินเดือนของอิงฮว่าค่อนข้างสูง แต่ฉันมีแผนอื่นค่ะ"จ้าวหยูมองเธอขึ้น ๆ ลง ๆ "คุณน่าจะถูกกลุ่มบริษัทจี้ขุแย่งไปแล้วใช่ไหม?""พระเจ้านะ!"โจวโจวเบิกตากลมโตและประหลาดใจว่า "หว่านหว่าน เงินเดือนที่กลุ่มบริษัทจี้จ่ายมากกว่าอิงฮว่าหลายเท่า คุณจะโรจน์รุ่งพุ่งแรงหรือยัง?"ซูหว่านหัวเราะกับรูปลักษณ์ที่น่ารักของโจวโจว "ยังค่ะ แผนการที่ฉันพู
"คุณจะไปหาประธานเหรอ?"หนิงหว่านที่สวมชุดทํางานสวยสดใส เห็นซูหว่านรอลิฟต์ก็ไม่เข้ามา ถามด้วยความสงสัยซูหว่านกลับมาตั้งสติได้ รีบส่ายหัวลง "ขอโทษนะ ฉันยังมีของที่ลืมเอาไปแล้ว ประธานหนิงพวกคุณขึ้นไปก่อนเถอะ"เธอพูดจบก็หันไป แม้แต่มองก็ไม่กล้ามองทั้งคู่อีกหนิงหว่านมองหลังเธอเหมือนหนีไป อดไม่ได้ที่จะเอียงหน้าพูดกับจี้ซือหานว่า "ผู้ช่วยตัวน้อยคนนี้แปลกจริง ๆ พวกเราไม่ใช่สัตว์ร้าย กลัวจนแม้แต่ลิฟต์ก็ไม่กล้านั่งแล้วค่ะ"จี้ซือหานไม่ได้ตอบ ในดวงตาที่เฉยเมย มองไม่เห็นอารมณ์ใด ๆ อย่างชัดเจน ราวกับว่าไม่สนใจทุกสิ่งรอบตัวเลยหนิงหว่านเห็นแบบนี้ ยื่นมือเรียวยาวออกมา จับแขนเขา พูดเบา ๆ ว่า "ซือหาน ขอบคุณที่ส่งฉันไปห้องฉุกเฉินในคืนนั้น หลายปีมานี้ฉันอยู่ต่างประเทศ กินอาหารตรงนั้นไม่ชิน เป็นโรคกระเพาะ เอะอะก็กําเริบบ่อย ๆ รบกวนคุณแล้วค่ะ"วันนั้นพ่อพาตัวเองไปเยี่ยมตระกูลจี้และพูดคุยเกี่ยวกับการหมั้น พอเธอมีความสุข เธอก็ดื่มเหล้าเพิ่มอีกสองสามแก้ว แต่ไม่คิดว่าจะกระตุ้นลําไส้และกระเพาะอาหาร โชคดีที่จี้ซือหานไม่ปฏิเสธตัวเองภายใต้สายตาของทุกคนและพาเธอไปห้องฉุกเฉินเธออยากหาโอกาสขอบคุณเขามาตลอด แ
แม้ว่าเธอจะสงสัยเล็กน้อย แต่เธอก็ยังรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและรับสาย"เสี่ยวซู มาที่ออฟฟิศสักครั้งครับ"เสียงอ่อนโยนของประธานมาจากข้างในเขาสั่งคำเดียวก็วางสายไปไม่ให้ซูหว่านปฏิเสธเมื่อนึกถึงจี้ซือหานอยู่ เธอไม่อยากไปจริง ๆ แต่ประธานริเริ่มที่จะหาเธอต้องมีเรื่องสําคัญบางอย่างที่ต้องสั่งตั้งแต่เธออยู่ที่อิงฮว่า ประธานเป็นมิตรกับเธอมาตลอด จึงกัดฟันไปที่สํานักงานของประธานตามที่เธอคาดไว้ จี้ซือหานนั่งอยู่ในสํานักงานและกําลังพูดคุยกับประธานหนิงรุ่ยเฉิงพวกเขากําลังพูดถึงความร่วมมือในโครงการซึ่งเกี่ยวข้องกับการประมูลแผ่นตะวันตกของเมืองก่อนหน้านี้ หลังจากกลุ่มบริษัทหลินเกิดอุบัติเหตุ กลุ่มบริษัทจี้ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร จู่ ๆ การประมูลก็เลื่อนออกไปหลายวันทำให้การเปิดประมูลจนถึงตอนนี้ยังไม่เปิด ทางฝั่งกลุ่มบริษัทหลินก็ไม่เคยสงสัยเรื่องสัญญาปลอมและหลินเจ๋อเฉินได้รับบาดเจ็บและคนยังอยู่ในอาการโคม่า คาดว่ายังไม่ทันได้ส่งสัญญาปลอมให้กับกลุ่มบริษัทหลินเพียงแต่เธอกังวลเล็กน้อย หลินเจ๋อเฉินตื่นขึ้นมาและพบปัญหาสัญญาปลอม กลัวว่าจะมาคิดบัญชีกับเธอแต่นี่เป็นคําพูดในภายหลัง เมื่อหลินเจ๋อ
หนิงหว่านพูดอ้อมค้อมมากประการที่หนึ่งคือเตือนเธอว่าการลาออกยังไม่ได้รับการอนุมัติ เธอยังคงเป็นพนักงานของอิงฮว่าและสิ่งที่ประธานมอบต้องจัดการประการที่สองคือบอกเธอว่าปฏิเสธประธานทันทีทําให้ประธานเสียหน้า เรื่องนี้เธอไม่ทําก็ต้องทําแล้วซูหว่านเข้าใจความหมายของหนิงหว่านและถอนหายใจลึก ๆ ในก้นบึ้งของหัวใจเพิ่งเป็นเธอที่หุนหันพลันแล่นเกินไป พูดโดยไม่ได้คิดในสถานการณ์ตอนนี้ เธอก็ยากที่จะปฏิเสธอีก มิฉะนั้นจะดูเหมือนไม่รู้ว่าดีร้ายซูหว่านได้ทําได้แค่แข็งหนังศีรษะเพื่อรับมือ ถือซะว่าช่วยอิงฮว่าทํางานเป็นครั้งสุดท้ายเถอะเธอหันหลังและเดินออกไป หนิงรุ่ยเฉิงมองเงาหลังของเธอ ถอนสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามและมองไปที่จี้ซือหาน"ซือหาน งานเลี้ยงอาหารคืนนี้ คุณจะไปไหม?"เมื่อเขาพูดกับจี้ซือหาน น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและประจบสอพลอ แม้แต่แววตาก็อ่อนโยนและใจดีจี้ซือหานพิงหลังอยู่บนโซฟา มือหนึ่งจับหน้าผาก อีกมือหนึ่งถือโทรศัพท์ สายตาจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์ตลอดเวลา ไม่ได้เงยหน้าขึ้นตลอดการเดินทางหนิงรุ่ยเฉิงเห็นเขาไม่พูดอะไรสักคํา คิดว่าเขาไม่อยากไป ยุ่งเลยว่า "ดูสมองผมสิ ตระกูลกู้กับอิงฮว่าของเ
ซูหว่านเพิ่งจองร้านอาหารในโทรศัพท์เสร็จ และโทรศัพท์ของหนิงรุ่ยเฉิงก็โทรเข้ามาอีกครั้ง"เสี่ยวซู ส่งที่อยู่ร้านอาหารให้ประธานจี้ก็มักจะส่งสําเนาด้วยครับ"หลังจากสั่งเสร็จก็วางสายไป ไม่เปิดโอกาสให้ซูหว่านพูดเลยเธอวางโทรศัพท์ลงด้วยสีหน้าเย็นชา เปิดไลน์โทรศัพท์ และส่งที่อยู่ไปยังผู้ช่วยที่รับผิดชอบการเดินทางของจี้ซือหานสุดท้ายอีกฝ่ายก็ตอบว่า "พี่ซู ผมติดต่อประธานจี้ไม่ได้ชั่วคราว คุณส่งไลน์ให้เขาเถอะ"ซูหว่าน...เธอได้แต่กัดฟันและดึงหมายเลขงานของจี้ซือหานกลับมาจากบัญชีดําและส่งต่อที่อยู่อย่างรวดเร็วก็แฮ็กอีกครั้งหลังจากทําเสร็จแล้ว เธอก็เอากุญแจของรถพาณิชย์และไปรับรถที่ลานจอดรถของบริษัทเธอเพิ่งออกมาจากลิฟต์ ก็เห็นลิฟต์พิเศษที่อยู่ข้าง ๆ เปิดแล้วจี้ซือหานสวมเสื้อโค้ทสีดําและเดินออกมาด้วยขายาวซูหว่านหัวใจเต้นและหันไปอย่างรวดเร็วก็ถึงว่าไม่เห็นเธอคิดว่าเขาจะไม่สนใจเธอและจากไปโดยตรง แต่ไม่คิดว่าเขาจะเดินเข้าหาเธออย่างกะทันหันซูหว่านเครียดจนจับฝ่ามือแน่นทันที อยากขยับก้าวเดินจากไป แต่เท้าไม่ฟังเธอสามารถรู้สึกถึงเสียงฝีเท้านั้นได้อย่างชัดเจน อยู่ข้างหลังเธอ ค่อย ๆ หยุดเขา
เขาสวมเสื้อเชิ้ต สีน้ำเงินเข้มและเสื้อโค้ทสีเดียวกัน มองจากที่ไกล ๆ ดูรูปร่างเพรียวบางและเต็มไปด้วยออร่าเมื่อเข้ามาใกล้แล้ว ยังสามารถเห็นใบหน้าที่สวมใต้แว่นตาขอบทองได้อย่างชัดเจน ความอ่อนเยาว์จางหายไปนานแล้ว เหลือเพียงสะอาดและวุฒิภาวะหลังจากผ่านไปหลายปี การได้เห็นเขาแบบนี้อีกครั้ง ก้นบึ้งของหัวใจของซูหว่าน เหลือเพียงความสงบและไม่มีคลื่นเลยเธอยกมือขึ้นอย่างเป็นสัญลักษณ์และโบกมือให้พวกเขา "ทางนี้!"ผู้ชายเห็นเธอโบกมือในฝูงชน สีหน้าหายใจไม่ออกเล็กน้อยเขาพาคนมาทำธุระที่เมืองเอเพื่อประมูลทางตะวันตกของเมืองเป็นหลักไม่อยากให้คนที่กลุ่มบริษัทหนิงรู้ว่าเขาจะมา ต้องส่งคนมาต้อนรับตัวเอง และจัดงานเลี้ยงอาหารด้วยเขายากที่จะปฏิเสธการต้อนรับที่ดีใจ ได้แต่ยอม แต่ไม่คิดว่าคนที่มารับตนเองจะเป็นซูหว่านจริงหลังจากตกตะลึงไปหลายวินาที เขาก็กลับสู่ธรรมชาติอย่างรวดเร็ว พาคนไป เดินไปหาซูหว่านชายสูงเกือบ1.87เมตร เมื่อเขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ เขาสูงกว่าเธอหนึ่งหัวเขาได้แต่มองลงไปที่เธอ "คุณซู ไม่ได้เจอกันนานนะ"คุณซูที่ประโยคหนึ่ง ตัดมิตรภาพที่พวกเขาเคยมีมาตั้งแต่เด็กซูหว่านยิ้มเย็นชา โดยไม่พูด
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ