ซูหว่านตกตะลึง เหม่อมองผู้ชายตรงหน้า สมองว่างเปล่าจี้ซือหานเชยคางขึ้นเล็กน้อย จับจ้องดวงตาของเธออยู่เงียบๆ ราวกับกำลังรอคําตอบจากเธอซูหว่านก้มหน้า ครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน แต่กลับนึกอะไรไม่ออก จึงได้แต่พูดอย่างรู้สึกผิด "ฉันจำไม่ได้แล้ว..."ถ้าหากเธอยังเพ้อถึงชื่อซ่งซือเยว่ในฝันเหมือนอย่างในอดีต ถ้างั้นระหว่างเธอกับเขาก็คงไม่ต้องไปต่อกันแล้วมือของเธอที่อยู่บนแผงอกของเขา ค่อยๆกำแน่น "ขอโทษ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้..."เธอลุกขึ้นเตรียมจะไป แต่จี้ซือหานกลับกอดเธอแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของเธอเอาไว้เบื้องล่าง ดวงตาสวยงามจ้องเธอเขาไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แต่จูบลงบนแก้มของเธอแผ่วเบา จากนั้นลุกขึ้น อุ้มเธอเข้าห้องอาบน้ำ...เสียงร้องครางของชายหนุ่ม เคล้าคลอกับเสียงน้ำไหลที่ตามมาติดๆ ลอยออกมาจากด้านในแว่วๆ...เสียงสุดท้าย เป็นเสียงจากลำคอที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาของชายหนุ่มซึ่งยังไม่เต็มอิ่มและต้องการอีกเขาว่า "หว่านหว่าน ในที่สุดเธอก็เรียกชื่อของฉันในฝันแล้ว..."ซูหว่านเหนื่อยจนสุดชีวิต แต่กลับยังฝืนร่างกายมานั่งวาดแบบต่อ เธอวาดไปด้วยแล้วก็ด่าจี้ซือหานในใจไปด้วยในที่สุดภายก็วาดจุดสุดท้า
เสิ่นหนานอี้ที่มาถึงเมืองเกรทฟอลส์ เมื่อเห็นวิลล่าสไตล์ปราสาทที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่สมมาตรอยู่ตลอดเวลาพังทลายลงทันทีเขาก้มหน้ามองรองเท้าแตะแห่งการประท้วงเพื่อแสดงออกต่อจี้ซือหานว่า "ฉันไม่แคร์นาย"...แล้วมองดูปราสาทตรงหน้าอีกครั้ง จู่ๆก็รู้สึกว่า การตัดสินใจของเขาเมื่อกี้ ออกจะเลอะเทอะไปหน่อย...ประตูวิลล่าเปิดอยู่ เสิ่นหนานอี้กลืนน้ําลายและเดินเข้าไปข้างในเมื่อเห็นว่าภายในวิลล่าหรูหราโอ่อ่ากว่าด้านนอก ความคับข้องใจของเสิ่นหนานอี้ก็หลั่งไหลเข้ามาในใจ"คุณซู รู้หรือเปล่า วันนั้นที่คุณถูกท่านประธานจี้พาตัวไป ผมนอนอยู่ที่ไหน?"ซูหว่านกำลังม้วนภาพวาด พร้อมกับถาม "นอนอยู่ที่ไหน?"เสิ่นหนานอี้ฉีกยิ้มบางๆ แล้วหัวเราะแห้ง "นอนอยู่ใต้สะพานลอย เป็นเพื่อนกับพวกคนจรจัดแอฟริกัน!"มือของซูหว่านที่กำลังม้วนภาพวาดอยู่ ก็ชะงักเล็กน้อย เธอพูดอย่างรู้สึกผิด "ขอโทษนะ คุณเสิ่น ฉันไม่รู้เลย..."เสิ่นหนานอี้โบกมืออย่างใจกว้าง บ่งบอกว่าไม่เป็นไร "ถึงแม้ว่าคุณนอนในที่ที่ดีกว่าผม แต่คุณก็ต้องเสียเงินไปห้าล้าน"ขอแค่เธอต้องเจอกับเรื่องน่าสังเวชมากกว่าเขา เขาก็จะพอหาความรู้สึกยุติธรรมในใจได้ เพียงแต่
ในสระว่ายน้ำ คลื่นค่อยๆซัดเป็นระลอกบนผิวน้ำ ใต้แสงของดวงจันทร์...ชายหนุ่มกดหญิงสาวลงกับขอบสระว่ายน้ำ น้ำเสียงยั่วยวนล่อลวงให้เธอหลงใหล "หว่านหว่าน เธอยังไม่เคยพูดเลยว่ารักฉัน..."ฉันรักคุณสามคํานี้ เป็นสัญญาอย่างหนึ่ง ที่เมื่อพูดออก มันก็คือคําสาบานที่สัญญาไว้กับคนรักซูหว่านที่ขาดความกล้า มองดูดวงจันทร์ที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า แล้วก็ไม่รู้จะเอ่ยปากยังไงจี้ซือหานจ้องมองหญิงสาวในอ้อมกอด รอให้เธอเอ่ยคำว่า "ฉันรักคุณ" ออกมาอย่างเงียบๆ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้รับคำตอบดวงตาของเขาที่ก้มต่ำลงกระตุกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ยกริ้มฝีปากยิ้มบางๆ "ฉันคงขอมากไป"ซูหว่านอ้าปากพะงาบๆ อยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ชายหนุ่มก็อุ้มเธอขึ้นมา ใช้ผ้าขนหนูหห่อหุ้มตัวเธอไว้ จากนั้นอุ้มเธอกลับห้องอาบน้ำคืนนี้ จี้ซือหานไม่ได้พูดอะไรกับเธอมาก เพียงแต่สวมกอดเธอจากด้านหลังแน่น ราวกับแค่ว่านี้ก็พอใจแล้วซูหว่านหันกลับไปมองเขาหลายครั้ง แต่ชายหนุ่มไม่มีปฏิกิริยาอะไร ช่วงที่เธอพลิกไปพลิกมานอนไม่หลับนั้นเอง เขาจึงลืมตาคู่นั้นขึ้นนิ้วเรียวยาวลูบแผ่นหลังของเธอ กล่อมให้เธอนอน "หว่านหว่าน นอนเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปที่ที
จี้ซือหานเห็นรอยยิ้มที่สดใสของเธอ ความรู้สึกหดหู่ที่มืดมนในห้องหัวใจตั้งแต่เมื่อคืน ก็หายไปไม่น้อยทันทีเขาจับมือเธอและพาเธอไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากเปลี่ยนชุดขี่ม้าให้เธอด้วยตัวเองแล้ว เขาก็หันไปสั่งให้คนเอาเสื้อผ้าพิเศษของเขามาซูหว่านรออยู่นอกประตู เท้ากับบนราวบันได เขณะที่กำลังเตะก้อนหินบนพื้นอย่างเบื่อหน่ายนั้นเอง ประตูด้านหลังก็เปิดออกอย่างช้า ๆชายหนุ่มเดินออกมารับแสงแดด บนใบหน้าที่เย็นชาราวหิมะ สวมแว่นกันแดดสีดํา ขับใบหน้าให้ประณีตและมีมิติมากขึ้นสัดส่วนของเขาสมบูรณ์แบบ ท่อนบนสวมเสื้อสีขาวรัดรูป เข้ากับเข็มขัดสีดําที่พันรอบเอวแน่นท่อนล่างสวมกางเกงขี่ม้าสีขาว ขาเรียวยาวเมื่อถูกกางเกงยกสูงยิ่งเผยให้ดูขายาวมากขึ้น ใต้หัวเข่าลงไปเป็นรองเท้าบูทขี่ม้าทรงสูงสีดำชายหนุ่มถือหมวกกันน็อคด้วยมือข้างเดียว เอียงศีรษะน้อยๆปะทะกับแสงอาทิตย์แสงที่มีสีสันหลากหลายปรากฏขึ้น สะท้อนบนแว่นกันแดดตามทิศทางเอนเอียงของเขาทำให้เขาที่แผ่รังสีเย็นชาไปทั้งกาย ดูเหมือนกับคุณชายผู้สูงศักดิ์ที่เดินออกมาจากภาพวาดสีน้ำมันโบราณเขาเดินมาตรงหน้าซูหว่าน ยกนิ้วมือเรียวยาวที่เห็นกระดูกข้อต่อ สวมหม
เมื่อกี้เห็นจี้ซือหานช่วยสวมหมวกกันน็อคให้ซูหว่าน ท่าทางนุ่มนวลและคลั่งรักแบบนั้น ทำให้เซิ่งจิ่นอิจฉา ในขณะเดียวกันก็ริษยาด้วยนิดหน่อยเธอกับซูหว่านก็หน้าตาเหมือนกัน แต่ภูมิหลังครอบครัว ความสามารถ การศึกษาของเธอสูงกว่าซูหว่านด้วยซ้ำจี้ซือหานดันไม่ชอบเธอ แต่กลับไปชอบซูหว่านที่คุณสมบัติเทียบฉันเธอไม่ติด นี่มันทำให้เธอรู้สึกเหนือความคาดหมายไปมากจริงๆซูหว่านปรายตามองเซิ่งจิ่นที่มั่นใจซะเต็มประดา แล้วตอบกลับเรียบๆ "งั้นคุณก็ไปถามเขาดูสิ"เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจี้ซือหานถึงตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ เพราะงั้นก็เลยไม่สามารถตอบคำถามของเซิ่งจิ่นได้เซิ่งจิ่นได้ยินคำพูดนี้ ก็เข้าใจว่าเป็นคำท้าทาย ใบหน้างามบึ้งตึงขั้นทันที "คุณซูไปเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน?"ซูหว่านขมวดคิ้ว ถามเธอด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ "คุณหมอเซิ่ง คุณถาม ฉันก็แค่ตอบตามความจริง มันเกี่ยวอะไรกับความมั่นใจ?"เซิ่งจิ่นยกริมฝีปากแสยะยิ้ม "คุณก็แค่มีจี้ซือหานคอยหนุนหลังให้ ถึงได้กล้ามาอวดดีต่อหน้าฉัน"ซูหว่านรู้สึกว่าคุยกับเซิ่งจิ่นไม่รู้เรื่อง จึงเม้มริมฝีปากสีแดง ไม่ตอบอะไรเธออีกเซิ่งจิ่นเห็นว่าเธอเป็นใบ้ไม่พูด
มองดูแผ่นหลังของเซิ่งจิ่นที่เดินเข้าสนามม้าไปอย่างสง่างามและมีชั้นเชิงแล้ว มือที่กำหมัดของซูหว่านก็กำแน่นยิ่งขึ้นเธอจ้องเซิ่งจิ่นพลิกตัวขึ้นม้า แล้ววิ่งตามจี้ซือหานไปติดๆ คล้ายๆว่าจะพูดอะไรบางอย่างกับเขาจี้ซือหานค่อยๆลดความเร็วในการขี่ม้าลง จากนั้นมองตามทิศทางที่เซิ่งจิ่นชี้มายังเธอซึ่งกำลังนั่งอยู่ในโซนพักผ่อนชายหนุ่มที่อยู่บนม้า เวลาที่เคียงข้างกับเซิ่งจิ่น ดูเหมาะสมกันมาก ในขณะที่ซูหว่านที่ขี่ม้าไม่เป็น ได้แต่ดูอยู่ไกลๆความสิ้นหวังของคนที่มาจากชนชั้นล่าง ก็คือเกิดมาก็แพ้ตั้งแต่เริ่มต้น พอโตขึ้นแล้วมาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ก็เหมือนจะยากที่จะเรียนให้เป็นถึงแม้ว่าเมื่อกี้ซูหว่านจะสวนเซิ่งจิ่นไป แต่ลึกๆในใจก็ยังรู้สึกต่ำต้อย จึงค่อยๆดึงสายตากลับมา ลุกขึ้นเดินไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ่งที่เซิ่งจิ่นพูดกับจี้ซือหานก็คือ "จี้ซือหาน คุณซูใช้ประโยชน์จากการที่มีคุณหนุนหลัง มาทำหยิ่งผยองใส่ฉัน คุณจะสั่งไม่สั่งสอนเธอหน่อยหรอ?"จี้ซือหานมองซูหว่านนิดนึง ดึงสายตากลับมา ดึงแส้เรียวยาวจากอานม้า แล้วยกมือขึ้นฟาดใส่ก้นม้าตัวที่เซิ่งจิ่นนั่งอยู่อย่างแรง!ม้าตัวนั้นยกขาหน้าขึ้นด้วยความเจ็บปวด
มือที่ถูกเขาปล่อยออกเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า เช่นเดียวกับหัวใจที่รู้สึกหวิวๆขึ้นมาเธอมองไปยังจี้ซือหานซึ่งยืนอยู่ในระยะไกล กําลังเงี่ยหูฟังคําพูดของหญิงสาว สีหน้าค่อยๆหม่นหมองลง"รู้ไหมว่าเธอเป็นใคร?"เซิ่งจิ่นเดินมาอยู่ข้างกายซูหว่าน ยืนมองไปยังที่ไกลๆไปพร้อมกับเธอซูหว่านไม่ได้ตอบ แต่เซิ่งจิ่นกลับบ่นงึมงำออกมา"เธอคือเจียงโม่ แก้วตาดวงใจของคุณเจียง หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของยุโรป"เซิ่งจิ่นหันศรีษะมาด้านข้าง สังเกตใบหน้าของซูหว่านที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ยังแสร้งทำเป็นนิ่งเฉยอยู่"ภูมิหลังชีวิตของเธอ แม้แต่ฉันยังต้องยอมถอยให้ แต่คุณที่เทียบไม่ติดแม้กระทั่งฉัน จะไปแย่งจี้ซือหานกับเธองั้นหรอ?"ซูหว่านกำมือข้างที่ว่างเปล่าแน่น หันศีรษะมาด้านข้างมองเซิ่งจิ่นด้วยสายตาเย็นชา"คุณหมอเซิ่ง ถ้าแม้แต่คนรักยังต้องแย่งมาล่ะก็ ถ้างั้นฉันก็ไม่เสียดายหรอก ฉันว่าคุณก็เก็บความคิดที่จะแย่งไปด้วยดีกว่านะ"เธอหมุนตัวอยากจะออกจากสนามม้าไปก่อน แต่เซิ่งจิ่นกลับตามเธอมาด้านหลัง ไม่เลิกราวี"คุณซู ถ้าจี้ซือหานรักคุณจริง เมื่อกี้คงไม่ปล่อยมือคุณ แล้วเดินไปกับคุณหนูเจียงโดยไม่ลังเลขนาดนั้น""เห็นได้ชัดว่า
หลังจากที่ซูหว่านออกจากสนามม้าแล้ว ก็เห็นรถหรูหลายสิบคันที่จอดอยู่ข้างนอก จู่ๆก็รู้สึกงงงวยเล็กน้อยประเทศที่ไม่คุ้นเคย สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย คนที่แปลกหน้า ไม่รู้จักใครเลย ความเหงาอ้างว้างเช่นนี้ จู่ๆก็ทําให้เธออยากวิ่งหนีเธอยืนอยู่ที่ประตู ขณะที่ความรู้สึกหดหู่หนักขึ้น มือใหญ่เรียวยาว ก็จับมือเล็กๆของเธอ ประสานฝ่ามือเอาไว้แน่น"หว่านหว่าน"เสียงเย็นปะปนกับความกังวลของจี้ซือหานดังขึ้นเหนือศีรษะซูหว่านไม่กล้าแหงนหน้าขึ้นมอง ได้แต่ก้มสายตาต่ำ มองมือที่ปล่อยเธอไปแล้ว และจับมือเธอขึ้นมาใหม่จี้ซือหานมองตามสายตาของเธอไปยังมือที่ประสานเข้าด้วยกันสิบนิ้ว แล้วก็เพิ่งนึกได้ว่าเมื่อกี้นี้ตัวเองปล่อยมือของเธอไปทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหวิวในใจ รีบโน้มตัวลง ก้มหัวขอโทษเธอ "หว่านหว่าน ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันน่าจะบอกเธอให้ชัดเจนก่อน ไม่ใช่ปล่อยมือเธอแล้วไปกับผู้หญิงคนอื่น ฉันรักษาระยะห่างไม่ดีเอง ฉันเป็นคนผิด"เมื่อซูหว่านห็นดวงตาที่ประดับด้วยดวงดาวระยิบระยับคู่นั้น มีแต่ความตึงเครียดเผยให้เห็น ก็เกิดสงสัยในตัวเองว่าเธอทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่หรือเปล่าเธอที่ไม่มีความรู้สึกปลอดภัย ความรู้