เธอรักสวยรักงามมาตลอดชีวิต ยาที่เบิกไปก่อนตายก็เพื่อป้องกันการปวมน้ำ กลัวว่าถ้าตายไปแล้วจะไม่สวยแต่ในตอนนี้ แผ่นหลังของเธอจะไม่สามารถสวยงามสมบูรณ์แบบเหมือนเมื่อก่อนได้อีกแล้ว...เมื่อเห็นเธอที่เป็นแบบนี้ หัวใจของจี้ซือหานก็พลันหยุดเต้นไปทันที ใบหน้าหล่อเหลา เปลี่ยนเป็นขาวซีดในฉับพลัน...เขาโยนร่มในมือทิ้งไป นั่งคุกเขาลงต่อหน้าเธอ อยากจะเอามือที่กำลังสั่นเทิ้มไปกอดเธอไว้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแตะต้องตรงไหนชุดเจ้าสาวตรงส่วนด้านหลังของเธอ ได้ถูกกรดกัดจนเละเปื่อยไปหมดแล้ว ผิวหนังก็ไหม้รุนแรงจนสามารถเห็นกระดูกได้อย่างชัดเจนบาดแผลที่รุนแรงแบบนี้ ทำให้จี้ซือหานรู้สึกปวดใจจนน้ำตาค่อยๆ ไหลรินลงมาเขายกมือสั่นๆ ขึ้นไปแตะใบหน้าของเธออย่างทำอะไรไม่ถูก...ซูหว่านรู้สึกเจ็บจนเหงื่อเย็นไหลออกมาในทันที "ยะ อย่าแตะฉัน...เจ็บ..."จี้ซือหานรีบปล่อยมือ ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ แต่กลับพูดอะไรไม่ออกดวงคาเรียวคมคู่สวยที่กำลังสะท้อนใบหน้าที่ซีดขาวของเธออยู่ เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเขามองไปยังอลันที่รีบวิ่งเข้ามาอย่างทำอะไรไม่ถูก "เร็ว! อลัน รีบมาช่วยเธอ!"น้ำเสียงของเขาพร่าแหบและสั่นเครือ เป็นความเจ็บปวดที่อ
ในตอนที่มีดเล่มนั้นกำลังจะแทงเข้ามาที่คอของเขา จี้ซือหานก็เงยดวงตาที่แดงก่ำของเขาขึ้นมาแล้วคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ได้แค่ออกแรงครั้งเดียวก็หักมือของพนักงานทำความสะอาดคนนั้นได้ จากนั้นก็แย่งมีดในมือของเขามา แทงเข้าไปตรงหน้าอกของเขาเขาแทงเข้าไปอย่างเต็มแรง จนเลือดสดๆ ไหลทะลักออกมา เปื้อนเสื้อผ้าของเขาจนแดงฉานไปหมดแต่เขากลับดึงมีดออกมาแล้วแทงกลับเข้าไปแรงๆ อีกครั้งโดยไม่กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ..."ประธานจี้!"ซูชิงวิ่งเข้ามาถึงก่อนอลัน เมื่อเห็นว่าเขาคิดจะฆ่าคนขึ้นมาจริงๆ ก็รีบเข้ามาห้าม "คุณจะฆ่าคนไม่ได้นะครับ เอาให้ผมจัดการเถอะ"พนักงานทำความสะอาดที่ถูกคุมตัวอยู่บนพื้นกลับหัวเราะออกมาอย่างเสียสติ "จี้ซือหาน เก่งจริงมึงก็ฆ่ากูเลยสิ กูจะดูสิว่าถ้าฆ่าคนแล้วมึงจะยังเป็นผู้ครอบครองอำนาจของตระกูลจี้ได้อยู่อีกหรือเปล่า!"ดวงตาแดงก่ำของจี้ซือหานค่อยๆ เปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมเย็นชา เขายกมีดในมือขึ้นหวังจะแทงเข้าไปที่คอของเขาโดยไม่สนใจการห้ามของซูชิงเลยสักนิดแต่ซูชิงกลับยื่นมือออกมาขวางไว้ ที่ด้านหลังมือถูกแทงเป็นแผลลึกเขารีบฝืนเจ็บแล้วเข้าไปห้ามจี้ซือหานสุดฤทธิ์ โดยไม่ได้หันไปดูบาดแผลตัวเองเ
ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จี้ซือหานกำลังอุ้มซูหว่าน อลันช่วยเขาวางเธอลงบนพรมอลันไปถามหาคนในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า หยิบเอาสายยางมา เปิดน้ำออกแรงๆเพื่อชำระล้างกรดซัลฟิวริกที่แผ่นหลังหลายครั้งขณะที่กำลังล้างน้ำอยู่ ซูหว่านซึ่งนอนราบอยู่บนพื้น แม้จะอยู่ในสภาวะที่ไม่มีสติ แต่ร่างกายยังคงเจ็บปวดจนต้องสั่นสะท้านออกมาจี้ซือหานเห็นเธอเจ็บปวดมากขนาดนั้น หัวใจของเขาก็เจ็บแปล๊บตามไปด้วยเหมือนจะขาดใจความโหดเหี้ยมในใจพลันก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอเขาหงายนิ้วมือขาวซีด ลูบใบหน้าที่ไร้สีเลือดนั่นสิ่งที่ปลายนิ้วสัมผัสโดน กลับเป็นผิวหนังที่เย็นเฉียบไร้ซึ่งอุณหภูมิหัวใจของเขาหยุดไปชั่วขณะ ความตื่นตระหนก ความหวาดกลัวที่เคยสูญเสียเธอไปแล้วครั้งนึงเมื่อสามปีก่อน ก็จู่โจมเข้ามาทุกสารทิศมือของเขาที่สั่นเทา วางลงบนเบื้องล่างจมูกของเธอ เมื่อไม่อาจสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเธอ ร่างกายก็อ่อนระทวยลงทันที"อลัน...เธอไม่หายใจแล้ว..."เมื่อได้ยินเสียงสั่นของจี้ซือหาน มือของอลันที่กำลังชำระล้างกรดซัลฟิวริกก็ชะงัก เธอยื่นมือออกไปจับลมหายใจกับชีพจรของซูหว่านด้วยความรวดเร็ว"ยังมีลมหายใ
เมื่อซานซานกับซูชิงรีบตามมา สิ่งที่เห็นก็คือจี้ซือหานที่อยู่ในสภาพเหมือนคนที่วิญญาณหลุดลอยไปแล้วซูชิงเดินไปตรงหน้าเขา เมื่อเห็นนิ้วมือของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ ก็รีบพูดขึ้นมา "ประธานจี้ ผมจะไปตามหมอมาให้ครับ"ซูชิงรีบไปตามหมอมารักษาแผลให้เขาอย่างรวดเร็วเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ยังคงนั่งอยู่บนพื้น ปล่อยให้พวกเขาทรมานต่อไป...ซานซานไม่มีอารมณ์มานั่งเป็นห่วงว่าจี้ซือหานเป็นยังไง เขากำมือแน่น เอาแต่จ้องไปยังบานประตูที่ปิดสนิทเวลาทุกวินาทีผ่านไปด้วยความเชื่องช้า ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็ค่อยๆเปิดออก...อลันที่สวมชุดปลอดเชื้อโรค มีเหงื่อท่วมเต็มใบหน้า เดินออกมาจากด้านในซานซานยังไม่ได้เดินเข้าไป ก็เห็นเงาดำพุ่งผ่านตัวเธอเข้าไปก่อน"เธอเป็นยังไงบ้าง?"จี้ซือหานเหงื่อท่วมไปทั้งตัว เส้นผมหนาสามสี่เส้นปรกลงตรงหน้าผาก ยาวมาถึงขนตามีหยดน้ำไหลเขากลับไม่รู้สึกตัว ดวงตาเรียวหม่นหมองคู่นั้นจ้องอลันไม่กระพริบ"ตอนนี้ช่วยชีวิตได้แล้ว แต่เพราะสาหัสมาก ตอนนี้ก็เลยยังสลบอยู่..."จี้ซือหานยกขาขึ้นเตรียมจะพุ่งเข้าไป แต่อลันเอ่ยห้ามไว้ "ย้ายไปอยู่ห้องผู้ป่วยหนักแล้ว"เขาหยุดฝีเท้าลง แล้วพูดกับอล
ซูหว่านที่อยู่ในห้องICU เนื้อเยื่อผิวหนังด้านหลังถูกไฟไหม้เป็นบริเวณกว้าง ติดเชื้อซ้ำหลายครั้ง หมอช่วยต้องคอยช่วยชีวิตอยู่หลายหนนับว่าหลังจากผ่านมาได้สองสัปดาห์ ในที่สุดก็ล้มลุกคลุกคลานมาได้ แต่เมื่อเธอฟื้นขึ้นมา ความเจ็บปวดที่ราวกับถูกฉีกทึ้งเนื้อออกเป็นชิ้นๆ กลับทำให้เธอสลบไปอีกครั้งด้วยความเจ็บปวดอลันจึงยุ่งหัวหมุนอีกครั้ง เพื่อช่วยดึงวิญญาณของเธอให้กลับมาจากโลกหลังความตายจี้ซือหานในสภาพให้น้ำเกลือกำลังเฝ้าอยู่หน้าห้อง เห็นภาพนั้นจู่ๆหัวใจก็หยุดเต้นเขายอมให้น้ำกรดพวกนั้นสาดมาที่ร่างกายของเขาซะยังดีกว่ายอมให้ซูหว่านมารับแทนแต่เธอกลับเลือกวิธีน่าเวทนาเช่นนี้ เพื่อตอบแทนน้ำใจของเขา...ดวงตาแดงก่ำของเขามองไปยังซูหว่านที่สลบไปด้วยความเจ็บปวดผ่านกระจก ปวดใจจนอยากเป็นฝ่ายแบกรับความเจ็บปวดนั้นไว้เองเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อลันจ้องภาพหน้าจอคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เมื่อเห็นจังหวะการเต้นเป็นไปตามปกติ ก็ถอนใจโล่งอกเธอเดินออกมาจากอีกทางนึง แล้วพูดกับจี้ซือหานและซานซานที่นั่งยองๆอยู่บนพื้น "คุณซูรอดพ้นขีดอันตรายแล้ว!"ซานซานได้ยินประโยคนั้น ร่างกายก็อ่อนยวบ นั่งนิ่งอยู่บนพื้น ความรู้สึกที่
เมื่อจี้ซือหานป้อนน้ำเสร็จ ก็ถามเธอเสียงนุ่มนวล "เอาอีกไหม?"ซูหว่านส่ายหน้าเบาๆ สายตาพลันก็เหลือบไปเห็นบนรอยข้อต่อนิ้วมือ มีรอยแผลไหม้ปรากฎอยู่เธอช้อนสายตาขึ้นมองเขา "มือของคุณ..."จี้ซือหานลอบเก็บนิ้วมือ หลบหลีกให้พ้นจากสายตาของเธอ จากนั้นใช้มืออีกข้างหยิบผ้าขนหนูสะอาดขึ้นมาเช็ดปากให้เธอเขาไม่ตอบคำถามของเธอ ซูหว่านจึงไม่ถามอีก ดวงตาใสบริสุทธิ์มองไปรอบๆห้องผู้ป่วยอย่างคาดคะเน "ฉันสลบไปนานแค่ไหน?"เมื่อจี้ซือหานเช็ดคราบน้ำบริเวณริมฝีปากให้เธอเสร็จ ก็ตอบว่า "ครึ่งเดือนกว่าๆ"เธอนึกว่าอย่างมากก็สามสี่วัน ไม่คิดเลยว่าจะนานมากกว่าครึ่งเดือนคนที่เธอเห็นเมื่อลืมตาก็คือจี้ซือหาน แล้วซานซานกับซือเยว่ล่ะ?เธออยากจะถามจี้ซือหาน แต่เห็นเขาประคองข้างศีรษะเธอเบาๆ เพื่อเปลี่ยนหมอนใบใหม่ให้จากนั้นนําอุปกรณ์อาบน้ํามาทําความสะอาดแก้ม ปาก และผิวเนอกร่มผ้าให้เธอเขาทำทั้งหมดนี่ด้วยความเป็นธรรมชาติ ราวกับว่าตอนที่เธอสลบไป เขาก็ดูแลเธอแบบนี้ซูหว่านรู้สึกเกร็งนิดหน่อย ขนตางอนยาวเรียงสวยเป็นแพโน้มต่ำลงมา เหม่อมองพื้นหลังจากจี้ซือหานช่วยทำความสะอาดให้เธอเสร็จ ก็มองเธออยู่เงียบๆหลายวินาที จาก
จี้ซือหานดึงประตูห้องผู้ป่วยที่ปิดสนิทออก มองซ่งซือเยว่ที่นั่งอยู่บนวิลแชร์ทีนึง ก่อนจะยืดตัวเร่งฝีเท้าจากไปพวกเขาคุยอะไรกันข้างใน ซ่งซือเยว่ได้ยินไม่ชัด เมื่อเห็นจี้ซือหานออกไป ก็ยังเข้าใจว่าเขามีธุระด่วน จึงไม่ได้คิดอะไรมากเขาทอดสายตามองซูหว่านที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยนิดนึง จากนั้นเข็นวิลแชร์เข้าไปในห้องผู้ป่วยซูหว่านเอียงศีรษะเหม่อมองหน้าต่าง กระทั่งเงาของใครบางคนมาบังสายตา เธอจึงค่อยๆดึงสติกลับมา"ซือเยว่..."พอเห็นว่าเป็นเขา ซูหว่านก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นบางๆ "คุณมาแล้ว..."ซ่งซือเยว่หยักหน้าเบาๆ เมื่อเห็นว่าแผ่นหลังของเธอพันผ้าก็อซหนาหลายชั้น จากเดิมสีหน้าที่ซีดอยู่แล้ว ก็ซีดมากขึ้นอีก"หว่านหว่าน เจ็บมากใช่ไหม..."ซูหว่านอยากจะยิ้มแล้วตอบกลับไปว่าไม่เจ็บ แต่แค่ขยับนิดเดียว ความเจ็บซ่านที่ราวกับถูกฉีกทึ้งก็ถาโถมขึ้นอีกครั้ง เธอเจ็บแสบจนเหงื่อไหลซ่งซือเยว่ยื่นมือออกมาอยากจะจับไหล่ของเธอ แต่ราวกับนึกอะไรได้ ก็มือค้างไปกลางอากาศ ไม่กล้าแตะโดนตัวเธอเขามองซูหว่าน เกลี้ยกล่อมเธอด้วยความอ่อนโยน "อย่าซี้ซั้วขยับ มันจะกระทบโดนบาดแผลได้ง่าย..."ซูหว่านกระพริบตาน้อยๆ เป็นการตอบรั
ซ่งซือเยว่มองหญิงสาวที่ไม่มีอะไรจะแก้ตัว แววตาก็เผยรอยยิ้มโล่งใจออกมา"หว่านหว่าน ฉันเคยเห็นเวลาที่เธอรักใครสักคนมันเป็นยังไง""เธอพร้อมเสี่ยงทุกอย่าง ทุ่มเททั้งหมดเพื่อคนที่รัก ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต...""เพราะแบบนั้นฉันรู้ดี ที่เธอรับน้ำกรดแทนเขา ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการตอบแทน แต่ที่มากกว่านั้นเพราะเธอรักเขา..."ซ่งซือเยว่มองคนตรงหน้าที่เขารักมาครึ่งชีวิต รอยยิ้มที่แฝงในแววตาค่อยๆถูกคลุมด้วยน้ำตา..."เธอรักเขาเหมือนกับที่รักฉันในตอนนั้น แต่ฉันได้ทำเธอคนนั้นหายไปแล้ว ไม่อาจทำให้กลับมาได้อีก..."ซูหว่านเจ็บปวดใจทันที จู่ๆขอบตาก็แดงก่ำ "ซือเยว่ ฉันขอโทษ ที่ฉันหักหลังคุณก่อน..."ซ่งซือเยว่ส่ายหน้า ไม่คิดจะกล่าวโทษเธอแม้แต่น้อย "เพราะฉันที่ทำให้เธอโกรธ ถึงได้ประสบอุบัติเหตุ ทั้งหมดนี้มันมาจากฉันเอง "ความจริงสวรรค์ได้ใช้อุบัติเหตุทางรถเพื่อบอกเขาตั้งแต่แปดปีก่อนแล้ว ว่าวาสนาของเขามาได้แค่นี้ แต่เขายังกอดรัดอดีตไม่ยอมปล่อยซ่งซือเยว่คิดมาถึงตรงนี้ มุมปากยกยิ้มอ่อนโยน มองซูหว่าน แล้วยิ้มบางๆ "หว่านหว่าน ให้อภัยที่ฉันสูญเสียความทรงจำตลอดห้าปี กว่าฉันจะจำได้ ก็จำได้แค่ในอดีตเมื่อตอนยั