ซ่งซือเยว่มองหญิงสาวที่ไม่มีอะไรจะแก้ตัว แววตาก็เผยรอยยิ้มโล่งใจออกมา"หว่านหว่าน ฉันเคยเห็นเวลาที่เธอรักใครสักคนมันเป็นยังไง""เธอพร้อมเสี่ยงทุกอย่าง ทุ่มเททั้งหมดเพื่อคนที่รัก ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต...""เพราะแบบนั้นฉันรู้ดี ที่เธอรับน้ำกรดแทนเขา ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการตอบแทน แต่ที่มากกว่านั้นเพราะเธอรักเขา..."ซ่งซือเยว่มองคนตรงหน้าที่เขารักมาครึ่งชีวิต รอยยิ้มที่แฝงในแววตาค่อยๆถูกคลุมด้วยน้ำตา..."เธอรักเขาเหมือนกับที่รักฉันในตอนนั้น แต่ฉันได้ทำเธอคนนั้นหายไปแล้ว ไม่อาจทำให้กลับมาได้อีก..."ซูหว่านเจ็บปวดใจทันที จู่ๆขอบตาก็แดงก่ำ "ซือเยว่ ฉันขอโทษ ที่ฉันหักหลังคุณก่อน..."ซ่งซือเยว่ส่ายหน้า ไม่คิดจะกล่าวโทษเธอแม้แต่น้อย "เพราะฉันที่ทำให้เธอโกรธ ถึงได้ประสบอุบัติเหตุ ทั้งหมดนี้มันมาจากฉันเอง "ความจริงสวรรค์ได้ใช้อุบัติเหตุทางรถเพื่อบอกเขาตั้งแต่แปดปีก่อนแล้ว ว่าวาสนาของเขามาได้แค่นี้ แต่เขายังกอดรัดอดีตไม่ยอมปล่อยซ่งซือเยว่คิดมาถึงตรงนี้ มุมปากยกยิ้มอ่อนโยน มองซูหว่าน แล้วยิ้มบางๆ "หว่านหว่าน ให้อภัยที่ฉันสูญเสียความทรงจำตลอดห้าปี กว่าฉันจะจำได้ ก็จำได้แค่ในอดีตเมื่อตอนยั
ซ่งซือเยว่วางสัญญาในมือลง ใบหน้าที่แสนอบอุ่นราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิ เผยรอยยิ้มบางๆซูหว่านนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย หันศีรษะมามองเขาเงียบๆ ราวกับกำลังมองเห็นเด็กหนุ่มในอดีตเขานั่งแถวหลังสุดในห้องเรียน มือข้าวนึงเท้าคางบนโต๊ะหนังสือ มองเธอที่อยู่ด้านนอกผ่านหน้าต่างเขาในตอนนั้น ก็เหมือนกับที่เป็นอยู่ในเวลานี้ อ่อนโยน สง่างาม และเรียบง่ายพวกเขาต่างมองหน้าอีกฝ่าย เป็นการบอกลา เช่นเดียวกับความเสียใจที่ต่างคนต่างก็ได้พลาดไปเมื่อครั้งเยาว์วัยผ่านไปชั่วครู่ ซ่งซือเยว่ดึงสายตากลับมา ก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองซูหว่านีกครั้ง เหมือนว่าเขาจะปล่อยวางทั้งหมดแล้ว"หว่านหว่าน สี่โมงห้านาที ฉันก็ต้องกลับเมืองหลวงแล้ว"ซูหว่านยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่เมื่อเห็นสายตาที่ปล่อยวางของเขา คำที่อยากจะพูดก็ได้แต่กลืนลงคอไปเธอมองเขา เช่นเดียวกับที่เคยส่งเขาไปแข่งขัน ตอบกลับประโยคนึงอย่างอ่อนโยน "งั้นซือเยว่ เดินทางปลอดภัยนะ..."นิ้วมือของซ่งซือเยว่ที่กำสัญญาอยู่ จู่ๆก็กำแน่นขึ้นเล็กน้อย "หว่านหว่าน เธอยังจำได้หรือเปล่าว่าสี่โมงสิบห้านาทีมีความหมายว่าอะไร?"ซูหว่านคิดอยู่สักพัก แต่กล
ณ กลุ่มบริษัทจี้ รถหรูสิบกว่าคันจอดอยู่หน้าบริษัทจี้ซือหานมีสีหน้าเย็นชา ลงมาจากรถ แล้วสาวขายาวเดินเข้าห้องท่านประธานไปซูชิงที่เดินตามมาติดๆ เห็นว่าเขาเดินค่อนข้างรีบร้อน ก็รีบพาบอดี้การ์ดลุ่มนึงตามไปด้วยจี้ซือหานเดินพร้อมกับสั่งซูชิงสียงเย็น "เตรียมเครื่องบินส่วนตัวไปวอชิงตัน"ซูชิงรับคำ "ครับ" แล้วถามต่อ "ประธานจี้ รอบนี้จะอยู่ที่วอชิงตันนานแค่ไหนครับ?"จี้ซือหานตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ "ปีนึง"ซูชิงตกตะลึง แล้วมองเขาอึ้งๆ "ประธานจี้ ทำไมไปนานขนาดนั้นครับ?"จี้ซือหานไม่ตอบ ในดวงตาของเขาเฉยชาราวกับหมอกเย็น ไม่มีแม้แสงสว่างส่องเข้าไปซูชิงเห็นว่าเขาเป็นแบบนี้ ก็ราวกับเข้าใจแล้วว่าทำไม จึงไม่ได้ถามต่อ"งั้นคืนนี้ผมจะเตรียมของใช้ส่วนตัวของท่านให้ล่วงหน้าครับ"จี้ซือหานพยักหน้าเล็กๆ แล้วเร่งฝีเท้าเข้าไปในลิฟต์ส่วนตัวท่านประธานจี้เหลียงชวนกำลังนั่งอยู่ในห้องท่านประธาน ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ เมื่อเห็นเขาเข้ามา ก็รีบลุกขึ้นเดินไปหาเขา"พี่รอง การประชุมครั้งก่อนไหนตกลงกันว่าจะให้พี่สามไปวอชิงตันเพื่อดูแลเรื่องเกี่ยวกับการบินอวกาศไม่ใช่หรอ? ทำไมกลายเป็นพี่ไปเอง?"จี้ซือหานถอดเสื้อสู
จี้เหลียงชวนถูกจ้าวหยูยียวนกวนประสาท ก็โยนโทรศัพท์ลง พับแขนเสื้อขึ้น แล้วชกเขาอย่างสนิทสนม"อาทิตย์เดียวกูทำได้แน่!"รองประธานจ้าวโดนหมัดไปทีนึง แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หลุดขำใส่เขา เก็บคอมพิวเตอร์ขึ้น แล้วเดินออกข้างนอกไปจี้เหลียงชวนขัดหูขัดตากัยท่าทางอวดดีของจ้าวหยู อยากจะตามไปชกเขาอีกสักสองสามที แต่กลับถูกจี้ซือหานห้ามเอาไว้จี้ซือหานมองแสงสายัณห์ของพระอาทิตย์ตกดินนอกหน้าต่าง ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยดวงดาว ตอนนี้เหลือเพียงความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุดจี้เหลียงชวนเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็เก็บท่าทีไม่เอางานเอาการ นั่งลงข้างเขา แล้วถามเขาเสียงเบา "พี่รอง ยังมีอะไรอยากจะใช้ผมอีกใช่ไหม?"ขนตาดำเป็นแพของจี้ซือหานโน้มลงต่ำ เขาพูดเสียงอ่อนว่า "ช่วยฉันดูแลเธอ อย่าให้ใครมารังแกเธอได้""เธอ" ที่เขาพูดมา แน่นอนว่าจี้เหลียงชวนรู้ดีว่าเป็นใคร เพียงแต่ "พี่รอง ในเมื่อง้อกลับมาไม่ได้แล้ว ก็อย่าทำเรื่องพวกนี้อีกเลย"สายตาของจี้ซือหานเลื่อนต่ำลง จ้องมองหลังนิ้วมือที่ถูกน้ำกรดเผา หลังจากเงียบไปชั่วอึดใจ ก็ตอบว่า "ฉันติดค้างเธอ"ตบนั้นของเขา เคยทำร้ายเธอเกือบตาย ต่อให้เธอให้อภัยเขาแล้ว แต่เขาไม่มีทางให
ราวกับสังเกตได้ว่าที่ด้านหลังมีคนกำลังจ้องตัวเองอยู่ ทันใดนั้นหนิงหว่านก็หันหลังไป เมื่อเห็นว่าเป็นจี้ซือหาน ใบหน้าก็ผุดความยินดีปรีดา"ซือหาน ในที่สุดก็ยอมเจอฉันแล้ว..."เธอเร่งฝีเท้ามาตรงหน้าเขาด้วยความเร็วสูง"ซือหาน สามปีมานี้ ฉันเอาแต่ถูกปฏิเสธให้อยู่แต่ข้างนอก คุณรู้ไหมว่าฉันคิดถึงคุณมาก"จี้ซือหานยกยิ้มมุมปาก แค่นหัวเราะเสียงเย็น "เธอคิดถึงฉัน?"หนิงหว่านน้ำตาคลอพยักหน้ารัวๆ "ซือหาน ฉันเคยบอกไปแล้วว่าฉันชอบคุณตั้งแต่เด็กๆ จะไม่คิดถึงคุณได้ยังไง"จี้ซือหานช้อนสายตาเฉยชาขึ้นสำรวจเธออย่างเย็นยะเยือก "แล้วพี่ชายใหญ่ฉันล่ะ?"หนิงหว่านหน้าซีดทันที แววตาเผยความรู้สึกผิด แต่ยังคงยืนยันแน่วแน่ว่า "ฉันไม่ได้รักพี่ชายใหญ่ของคุณเลย คนที่ฉันรักมาตลอดคือคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเข้าใกล้ยากตั้งแต่เด็ก ฉันจะยอมตกลงคบกับพี่ชายใหญ่ของคุณได้ยังไง..."พูดจบ เธอก็ยื่นมือออกไปหวังจะจับมือของจี้ซือหาน ยังไม่ทันจะสัมผัสโดนมือของเขา ชายหนุ่มก็เก็บมืออย่างรวดเร็วท่าทางหลบเลี่ยงประหนึ่งเห็นเธอเป็นเชื้อโรคแบบนี้ ทําให้หนิงหว่านเสียหน้า ความรู้สึกต่อจากนั้นก็คือการนึกเสียใจทีหลังที่มีอย่างท่วมท้น"ฉั
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่หนิงหว่านกลับฟังความหมายของเขาออกถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายคนโตของเขารักเธอ เขาคงจัดการเธอไปตั้งนานแล้วหนิงหว่านโกรธจนหน้าซีดขาว ในใจก็รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาถ้า ถ้าให้เขารู้เรื่องในอดีตแล้วล่ะก็...เธอไม่กล้าคิดต่อ และไม่กล้าโวยวายต่อหน้าเขาอีกต่อไปเธอกําหมัดแน่น กัดฟันกรอด จ้องมองรถโคนีเซกที่ขับเข้าไปในคฤหาสน์อย่างโกรธเคืองเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสืบเรื่องในอดีตได้ แล้วเธอก็กำจับจุดอ่อนของเขาไว้ด้วยจี้ซือหาน อีกไม่นาน อีกไม่นานคุณจะต้องชดใช้อย่างสาสมสําหรับการผิดสัญญาของคุณ!!!จี้ซือหานกลับไปถึงวิลล่าก็ถอดเสื้อโค้ทออก ส่งให้คนรับใช้แล้วสั่งให้คนไปเอาน้ำยาฆ่าเชื้อมาขวดหนึ่งคนใช้รีบนําน้ำยาฆ่าเชื้อมา หลังจากเขารับมาแล้วก็พ่นไปยังนิ้วที่เกือบถูกหนิงหว่านสัมผัสหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จี้ซือหานก็เดินไปที่ห้องหนังสือ หลังจากจัดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับงานแล้ว เขาก็เปิดลิ้นชักออกเมื่อสายตาของเขาสัมผัสกับโทรศัพท์ส่วนตัวเครื่องนั้น หัวใจของเขาก็หยุดเต้นไปชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกเจ็บปวดและหายใจไม่ออกทําให้เขาเริ่มหายใจลําบากเขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ หยิบโทรศัพ
ซานซานรู้ว่าซ่งซือเยว่ไปแล้ว จี้ซือหานก็ไปแล้วด้วย จึงรีบมาโรงพยาบาลซูหว่านกําลังนอนคว่ำอยู่บนเตียงคนไข้ แผลที่หลังถึงแม้ทายาแล้วแต่ก็ยังเปื่อยอยู่เธอเอียงศีรษะ ดวงตาที่ว่างเปล่าและไร้ชีวิตชีวา มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่ไหวติงซานซานเดินเข้าไปใกล้ จึงพบว่าเธอเจ็บจนเหงื่อเย็นไหลโชก แต่กลับไม่ส่งเสียงร้องออกมาสักแอะมือเล็ก ๆ ของเธอจับผ้าปูที่นอนไว้แน่น เหมือนอยากจะใช้สิ่งนี้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด แต่ก็ไม่มีประโยชน์เมื่อเห็นซูหว่านแบบนี้ ซานซานก็รู้สึกปวดใจจนน้ําตาไหลพราก "หว่านหว่าน..."เมื่อได้ยินเสียงของซานซาน ซูหว่านจึงค่อย ๆ ยกขนตาขึ้น เธอเพ่งมองคนตรงหน้าอยู่นานเพราะสายตาไม่สามารถโฟกัสได้เมื่อมองเห็นเงาร่างของซานซานอย่างเลือนราง เธออ้าปากที่แห้งผาก เอ่ยเรียกเสียงเบาว่า "พี่ซานซาน..."หวันหว่านไม่ค่อยเรียกเธอแบบนี้นัก ปกติเรียกถ้าเรียกเธอแบบนี้ มักจะเป็นเวลาที่หว่านหว่านต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดซานซานรู้สึกปวดใจยิ่งนัก เธอหยิบผ้าขนหนูที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา ก้มตัวลงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากให้เธอ"หว่านหว่าน เป็นอลันที่บอกฉันว่าไม่มีใครดูแลเธอ ฉันถึงได้รีบมา ขอโทษนะ ฉันมาส
อลันเพิ่งวางโทรศัพท์ลงในเสื้อกาวน์สีขาว ก็เห็นชายแต่งตัวทันสมัย หน้าตาหล่อเหลากําลังเดินมาที่ห้องวีไอพีเมื่อเขาเห็นเธอ เขาเลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มที่สดใสและสดใส สาดออกมาจากหางตาของเขา "คุณหมอครับ ขอถามหน่อยว่าคุณซูอยู่ในห้องนี้หรือเปล่า?"เมื่อได้ยินว่าเขามาหาซูหว่าน สีหน้าของอลันก็แข็งทื่อทันที เธอแน่ใจแล้วหรือ ว่าคนที่ตามจีบคุณซูมาเร็วขนาดนี้?หัวใจของอลันเต้นแรงไม่หยุด แต่ใบหน้ายังคงยิ้มอยู่ "ใช่ค่ะ ขอถามหน่อยว่าคุณคือ?"เขาหยิบนามบัตรใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท ยื่นให้เธอ "ผมชื่อเสิ่นหนานอี้ครับ"เมื่ออลันเห็นนามบัตรสีทองเขียนว่า'หัวหน้านักออกแบบของ บริษัท ก่อสร้างชูเหิง จํากัด'มุมปากของเธอก็โค้งเล็กน้อย "สวัสดีค่ะ"เสิ่นหนานอี้คว้ามือของเธอ วางนามบัตรลงบนฝ่ามือของเธอแล้วยิ้มมุมปาก "ถ้าอยากออกแบบบ้านติดต่อผมนะครับ ผมจะให้ส่วนลด 20% แก่คุณ"พูดจบเขาก็หันตัวกลับอย่างรวดเร็ว เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย แต่ทันทีที่เขาหันตัว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปทันที...หลังจากเสิ่นหนานอี้เดินมาถึงหน้าประตูห้องผู้ป่วยแล้ว ก็หยุดฝีเท้าลง ยิ้มแย้มอีกครั้ง เคาะประตู "คุณซู ผมเข้ามาได้ไหมครับ?"