ซ่งซือเยว่มองหญิงสาวที่ไม่มีอะไรจะแก้ตัว แววตาก็เผยรอยยิ้มโล่งใจออกมา"หว่านหว่าน ฉันเคยเห็นเวลาที่เธอรักใครสักคนมันเป็นยังไง""เธอพร้อมเสี่ยงทุกอย่าง ทุ่มเททั้งหมดเพื่อคนที่รัก ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต...""เพราะแบบนั้นฉันรู้ดี ที่เธอรับน้ำกรดแทนเขา ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการตอบแทน แต่ที่มากกว่านั้นเพราะเธอรักเขา..."ซ่งซือเยว่มองคนตรงหน้าที่เขารักมาครึ่งชีวิต รอยยิ้มที่แฝงในแววตาค่อยๆถูกคลุมด้วยน้ำตา..."เธอรักเขาเหมือนกับที่รักฉันในตอนนั้น แต่ฉันได้ทำเธอคนนั้นหายไปแล้ว ไม่อาจทำให้กลับมาได้อีก..."ซูหว่านเจ็บปวดใจทันที จู่ๆขอบตาก็แดงก่ำ "ซือเยว่ ฉันขอโทษ ที่ฉันหักหลังคุณก่อน..."ซ่งซือเยว่ส่ายหน้า ไม่คิดจะกล่าวโทษเธอแม้แต่น้อย "เพราะฉันที่ทำให้เธอโกรธ ถึงได้ประสบอุบัติเหตุ ทั้งหมดนี้มันมาจากฉันเอง "ความจริงสวรรค์ได้ใช้อุบัติเหตุทางรถเพื่อบอกเขาตั้งแต่แปดปีก่อนแล้ว ว่าวาสนาของเขามาได้แค่นี้ แต่เขายังกอดรัดอดีตไม่ยอมปล่อยซ่งซือเยว่คิดมาถึงตรงนี้ มุมปากยกยิ้มอ่อนโยน มองซูหว่าน แล้วยิ้มบางๆ "หว่านหว่าน ให้อภัยที่ฉันสูญเสียความทรงจำตลอดห้าปี กว่าฉันจะจำได้ ก็จำได้แค่ในอดีตเมื่อตอนยั
ซ่งซือเยว่วางสัญญาในมือลง ใบหน้าที่แสนอบอุ่นราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิ เผยรอยยิ้มบางๆซูหว่านนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย หันศีรษะมามองเขาเงียบๆ ราวกับกำลังมองเห็นเด็กหนุ่มในอดีตเขานั่งแถวหลังสุดในห้องเรียน มือข้าวนึงเท้าคางบนโต๊ะหนังสือ มองเธอที่อยู่ด้านนอกผ่านหน้าต่างเขาในตอนนั้น ก็เหมือนกับที่เป็นอยู่ในเวลานี้ อ่อนโยน สง่างาม และเรียบง่ายพวกเขาต่างมองหน้าอีกฝ่าย เป็นการบอกลา เช่นเดียวกับความเสียใจที่ต่างคนต่างก็ได้พลาดไปเมื่อครั้งเยาว์วัยผ่านไปชั่วครู่ ซ่งซือเยว่ดึงสายตากลับมา ก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองซูหว่านีกครั้ง เหมือนว่าเขาจะปล่อยวางทั้งหมดแล้ว"หว่านหว่าน สี่โมงห้านาที ฉันก็ต้องกลับเมืองหลวงแล้ว"ซูหว่านยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่เมื่อเห็นสายตาที่ปล่อยวางของเขา คำที่อยากจะพูดก็ได้แต่กลืนลงคอไปเธอมองเขา เช่นเดียวกับที่เคยส่งเขาไปแข่งขัน ตอบกลับประโยคนึงอย่างอ่อนโยน "งั้นซือเยว่ เดินทางปลอดภัยนะ..."นิ้วมือของซ่งซือเยว่ที่กำสัญญาอยู่ จู่ๆก็กำแน่นขึ้นเล็กน้อย "หว่านหว่าน เธอยังจำได้หรือเปล่าว่าสี่โมงสิบห้านาทีมีความหมายว่าอะไร?"ซูหว่านคิดอยู่สักพัก แต่กล
ณ กลุ่มบริษัทจี้ รถหรูสิบกว่าคันจอดอยู่หน้าบริษัทจี้ซือหานมีสีหน้าเย็นชา ลงมาจากรถ แล้วสาวขายาวเดินเข้าห้องท่านประธานไปซูชิงที่เดินตามมาติดๆ เห็นว่าเขาเดินค่อนข้างรีบร้อน ก็รีบพาบอดี้การ์ดลุ่มนึงตามไปด้วยจี้ซือหานเดินพร้อมกับสั่งซูชิงสียงเย็น "เตรียมเครื่องบินส่วนตัวไปวอชิงตัน"ซูชิงรับคำ "ครับ" แล้วถามต่อ "ประธานจี้ รอบนี้จะอยู่ที่วอชิงตันนานแค่ไหนครับ?"จี้ซือหานตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ "ปีนึง"ซูชิงตกตะลึง แล้วมองเขาอึ้งๆ "ประธานจี้ ทำไมไปนานขนาดนั้นครับ?"จี้ซือหานไม่ตอบ ในดวงตาของเขาเฉยชาราวกับหมอกเย็น ไม่มีแม้แสงสว่างส่องเข้าไปซูชิงเห็นว่าเขาเป็นแบบนี้ ก็ราวกับเข้าใจแล้วว่าทำไม จึงไม่ได้ถามต่อ"งั้นคืนนี้ผมจะเตรียมของใช้ส่วนตัวของท่านให้ล่วงหน้าครับ"จี้ซือหานพยักหน้าเล็กๆ แล้วเร่งฝีเท้าเข้าไปในลิฟต์ส่วนตัวท่านประธานจี้เหลียงชวนกำลังนั่งอยู่ในห้องท่านประธาน ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ เมื่อเห็นเขาเข้ามา ก็รีบลุกขึ้นเดินไปหาเขา"พี่รอง การประชุมครั้งก่อนไหนตกลงกันว่าจะให้พี่สามไปวอชิงตันเพื่อดูแลเรื่องเกี่ยวกับการบินอวกาศไม่ใช่หรอ? ทำไมกลายเป็นพี่ไปเอง?"จี้ซือหานถอดเสื้อสู
จี้เหลียงชวนถูกจ้าวหยูยียวนกวนประสาท ก็โยนโทรศัพท์ลง พับแขนเสื้อขึ้น แล้วชกเขาอย่างสนิทสนม"อาทิตย์เดียวกูทำได้แน่!"รองประธานจ้าวโดนหมัดไปทีนึง แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หลุดขำใส่เขา เก็บคอมพิวเตอร์ขึ้น แล้วเดินออกข้างนอกไปจี้เหลียงชวนขัดหูขัดตากัยท่าทางอวดดีของจ้าวหยู อยากจะตามไปชกเขาอีกสักสองสามที แต่กลับถูกจี้ซือหานห้ามเอาไว้จี้ซือหานมองแสงสายัณห์ของพระอาทิตย์ตกดินนอกหน้าต่าง ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยดวงดาว ตอนนี้เหลือเพียงความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุดจี้เหลียงชวนเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็เก็บท่าทีไม่เอางานเอาการ นั่งลงข้างเขา แล้วถามเขาเสียงเบา "พี่รอง ยังมีอะไรอยากจะใช้ผมอีกใช่ไหม?"ขนตาดำเป็นแพของจี้ซือหานโน้มลงต่ำ เขาพูดเสียงอ่อนว่า "ช่วยฉันดูแลเธอ อย่าให้ใครมารังแกเธอได้""เธอ" ที่เขาพูดมา แน่นอนว่าจี้เหลียงชวนรู้ดีว่าเป็นใคร เพียงแต่ "พี่รอง ในเมื่อง้อกลับมาไม่ได้แล้ว ก็อย่าทำเรื่องพวกนี้อีกเลย"สายตาของจี้ซือหานเลื่อนต่ำลง จ้องมองหลังนิ้วมือที่ถูกน้ำกรดเผา หลังจากเงียบไปชั่วอึดใจ ก็ตอบว่า "ฉันติดค้างเธอ"ตบนั้นของเขา เคยทำร้ายเธอเกือบตาย ต่อให้เธอให้อภัยเขาแล้ว แต่เขาไม่มีทางให
ราวกับสังเกตได้ว่าที่ด้านหลังมีคนกำลังจ้องตัวเองอยู่ ทันใดนั้นหนิงหว่านก็หันหลังไป เมื่อเห็นว่าเป็นจี้ซือหาน ใบหน้าก็ผุดความยินดีปรีดา"ซือหาน ในที่สุดก็ยอมเจอฉันแล้ว..."เธอเร่งฝีเท้ามาตรงหน้าเขาด้วยความเร็วสูง"ซือหาน สามปีมานี้ ฉันเอาแต่ถูกปฏิเสธให้อยู่แต่ข้างนอก คุณรู้ไหมว่าฉันคิดถึงคุณมาก"จี้ซือหานยกยิ้มมุมปาก แค่นหัวเราะเสียงเย็น "เธอคิดถึงฉัน?"หนิงหว่านน้ำตาคลอพยักหน้ารัวๆ "ซือหาน ฉันเคยบอกไปแล้วว่าฉันชอบคุณตั้งแต่เด็กๆ จะไม่คิดถึงคุณได้ยังไง"จี้ซือหานช้อนสายตาเฉยชาขึ้นสำรวจเธออย่างเย็นยะเยือก "แล้วพี่ชายใหญ่ฉันล่ะ?"หนิงหว่านหน้าซีดทันที แววตาเผยความรู้สึกผิด แต่ยังคงยืนยันแน่วแน่ว่า "ฉันไม่ได้รักพี่ชายใหญ่ของคุณเลย คนที่ฉันรักมาตลอดคือคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเข้าใกล้ยากตั้งแต่เด็ก ฉันจะยอมตกลงคบกับพี่ชายใหญ่ของคุณได้ยังไง..."พูดจบ เธอก็ยื่นมือออกไปหวังจะจับมือของจี้ซือหาน ยังไม่ทันจะสัมผัสโดนมือของเขา ชายหนุ่มก็เก็บมืออย่างรวดเร็วท่าทางหลบเลี่ยงประหนึ่งเห็นเธอเป็นเชื้อโรคแบบนี้ ทําให้หนิงหว่านเสียหน้า ความรู้สึกต่อจากนั้นก็คือการนึกเสียใจทีหลังที่มีอย่างท่วมท้น"ฉั
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่หนิงหว่านกลับฟังความหมายของเขาออกถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายคนโตของเขารักเธอ เขาคงจัดการเธอไปตั้งนานแล้วหนิงหว่านโกรธจนหน้าซีดขาว ในใจก็รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาถ้า ถ้าให้เขารู้เรื่องในอดีตแล้วล่ะก็...เธอไม่กล้าคิดต่อ และไม่กล้าโวยวายต่อหน้าเขาอีกต่อไปเธอกําหมัดแน่น กัดฟันกรอด จ้องมองรถโคนีเซกที่ขับเข้าไปในคฤหาสน์อย่างโกรธเคืองเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสืบเรื่องในอดีตได้ แล้วเธอก็กำจับจุดอ่อนของเขาไว้ด้วยจี้ซือหาน อีกไม่นาน อีกไม่นานคุณจะต้องชดใช้อย่างสาสมสําหรับการผิดสัญญาของคุณ!!!จี้ซือหานกลับไปถึงวิลล่าก็ถอดเสื้อโค้ทออก ส่งให้คนรับใช้แล้วสั่งให้คนไปเอาน้ำยาฆ่าเชื้อมาขวดหนึ่งคนใช้รีบนําน้ำยาฆ่าเชื้อมา หลังจากเขารับมาแล้วก็พ่นไปยังนิ้วที่เกือบถูกหนิงหว่านสัมผัสหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จี้ซือหานก็เดินไปที่ห้องหนังสือ หลังจากจัดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับงานแล้ว เขาก็เปิดลิ้นชักออกเมื่อสายตาของเขาสัมผัสกับโทรศัพท์ส่วนตัวเครื่องนั้น หัวใจของเขาก็หยุดเต้นไปชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกเจ็บปวดและหายใจไม่ออกทําให้เขาเริ่มหายใจลําบากเขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ หยิบโทรศัพ
ซานซานรู้ว่าซ่งซือเยว่ไปแล้ว จี้ซือหานก็ไปแล้วด้วย จึงรีบมาโรงพยาบาลซูหว่านกําลังนอนคว่ำอยู่บนเตียงคนไข้ แผลที่หลังถึงแม้ทายาแล้วแต่ก็ยังเปื่อยอยู่เธอเอียงศีรษะ ดวงตาที่ว่างเปล่าและไร้ชีวิตชีวา มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่ไหวติงซานซานเดินเข้าไปใกล้ จึงพบว่าเธอเจ็บจนเหงื่อเย็นไหลโชก แต่กลับไม่ส่งเสียงร้องออกมาสักแอะมือเล็ก ๆ ของเธอจับผ้าปูที่นอนไว้แน่น เหมือนอยากจะใช้สิ่งนี้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด แต่ก็ไม่มีประโยชน์เมื่อเห็นซูหว่านแบบนี้ ซานซานก็รู้สึกปวดใจจนน้ําตาไหลพราก "หว่านหว่าน..."เมื่อได้ยินเสียงของซานซาน ซูหว่านจึงค่อย ๆ ยกขนตาขึ้น เธอเพ่งมองคนตรงหน้าอยู่นานเพราะสายตาไม่สามารถโฟกัสได้เมื่อมองเห็นเงาร่างของซานซานอย่างเลือนราง เธออ้าปากที่แห้งผาก เอ่ยเรียกเสียงเบาว่า "พี่ซานซาน..."หวันหว่านไม่ค่อยเรียกเธอแบบนี้นัก ปกติเรียกถ้าเรียกเธอแบบนี้ มักจะเป็นเวลาที่หว่านหว่านต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดซานซานรู้สึกปวดใจยิ่งนัก เธอหยิบผ้าขนหนูที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา ก้มตัวลงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากให้เธอ"หว่านหว่าน เป็นอลันที่บอกฉันว่าไม่มีใครดูแลเธอ ฉันถึงได้รีบมา ขอโทษนะ ฉันมาส
อลันเพิ่งวางโทรศัพท์ลงในเสื้อกาวน์สีขาว ก็เห็นชายแต่งตัวทันสมัย หน้าตาหล่อเหลากําลังเดินมาที่ห้องวีไอพีเมื่อเขาเห็นเธอ เขาเลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มที่สดใสและสดใส สาดออกมาจากหางตาของเขา "คุณหมอครับ ขอถามหน่อยว่าคุณซูอยู่ในห้องนี้หรือเปล่า?"เมื่อได้ยินว่าเขามาหาซูหว่าน สีหน้าของอลันก็แข็งทื่อทันที เธอแน่ใจแล้วหรือ ว่าคนที่ตามจีบคุณซูมาเร็วขนาดนี้?หัวใจของอลันเต้นแรงไม่หยุด แต่ใบหน้ายังคงยิ้มอยู่ "ใช่ค่ะ ขอถามหน่อยว่าคุณคือ?"เขาหยิบนามบัตรใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท ยื่นให้เธอ "ผมชื่อเสิ่นหนานอี้ครับ"เมื่ออลันเห็นนามบัตรสีทองเขียนว่า'หัวหน้านักออกแบบของ บริษัท ก่อสร้างชูเหิง จํากัด'มุมปากของเธอก็โค้งเล็กน้อย "สวัสดีค่ะ"เสิ่นหนานอี้คว้ามือของเธอ วางนามบัตรลงบนฝ่ามือของเธอแล้วยิ้มมุมปาก "ถ้าอยากออกแบบบ้านติดต่อผมนะครับ ผมจะให้ส่วนลด 20% แก่คุณ"พูดจบเขาก็หันตัวกลับอย่างรวดเร็ว เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย แต่ทันทีที่เขาหันตัว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปทันที...หลังจากเสิ่นหนานอี้เดินมาถึงหน้าประตูห้องผู้ป่วยแล้ว ก็หยุดฝีเท้าลง ยิ้มแย้มอีกครั้ง เคาะประตู "คุณซู ผมเข้ามาได้ไหมครับ?"
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ