เมื่ออลันเห็นว่าเธอขอบคุณตัวเอง ในใจก็ยิ่งรู้สึกผิด เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นเธอยังติดใจอยู่แต่อยู่ต่อหน้ากู้จิ่งเซิน ต่อให้จะมีเรื่องที่อยากจะบอกเธอมากมายแค่ไหน ก็ไม่รีบที่จะบอกออกไปหรอกหลังจากที่เธอใช้เวลาพูดคุยรำลึกความหลังกับซูหว่านไม่นาน ก็ไปตรวจอาการที่ขาของกู้จิ่งเซินให้ หลักๆ ก็ตรวจเรื่องกล้ามเนื้อลีบนี่แหละเส้นประสาทช่วงขาของเขาเสียไปหมดแล้ว คงจะยืนขึ้นอีกครั้งได้ยาก ตอนนี้แค่พยายามรักษาไม่ให้กล้ามเนื้อขาลีบจนเกินไปเท่านั้นหลังจากที่ตรวจเสร็จ ซูหว่านก็รีบดึงตัวเธอไปถามอย่างใจร้อนทันที "คุณหมอโจว ขาของเขาเป็นอย่างไรบ้าง? จะสามารถยืนขึ้นได้เมื่อไร?"เธอกำลังจะบอกความจริง แต่คนที่นั่งอยู่บนรถเข็นกลับกำมือข้างหนึ่งแล้วแกล้งทำเป็นไอออกมา จากนั้นก็ส่งสายตาเป็นสัญญาณบอกให้เธออย่าพูดอลันนวดที่หัวคิ้วทีหนึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมกู้จิ่งเซินต้องปิดบังซูหว่านด้วย หลังจากที่ลังเลอยู่สักพักจึงได้พูดกับซูหว่านว่า "เธอถามเขาเองเถอะ"เธอไม่อยากที่จะทำเรื่องช่วยปกปิดอาการป่วยแล้ว ต่อไปหากว่าเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็โยนให้คนป่วยไปจัดการเองแล้วกันซูหว่านหันหน้ากลับไปมองซ่งซือเยว่ทีหนึ่ง เมื่
อลันนิ่งอึ้งไป เพิ่งจะตั้งสติกลับมาได้ว่าทั้งสองคนได้เจอกันแล้วก็จริง คฤหาสน์หลังนี้ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าออกได้ง่ายๆ นอกจากว่าประธานจี้จะเป็นคนมาส่งด้วยตัวเองเพียงแค่คิดไม่ถึงว่าทั้งๆ ที่สองคนได้เจอกันแล้ว แต่คุณซูก็ยังดูต่อต้านประธานจี้ขนาดนั้น เป็นเพราะยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันงั้นเหรอ?อลันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรวบรวมความกล้าพูดกับซูหว่านอีกครั้ง "คุณซู ประธานจี้รักคุณมากนะคะ ตอนที่คุณตายไปแล้วเขา...""อลัน"จู่ๆ ซูหว่านก็เรียกชื่อของเธอขึ้นมา ทำให้อลันหยุดพูดในทันที"คุณเป็นคนที่สี่แล้วที่บอกว่าเขารักฉันมากตั้งแต่ฉันกลับประเทศมา"จิเหยียนโจว ซานซาน ซือเยว่ อลัน ทุกคนต่างก็พูดประโยคนี้กับเธอเหมือนกับพวกเขาคิดว่าถ้าหากเธอรู้ว่าจี้ซือหานรักเธอ แล้วเธอจะยอมกลับไปอยู่ข้างกายเขาโดยไม่สนใจอะไรอย่างนั้นแหละแต่พวกเขาเคยคิดถึงเธอบ้างหรือเปล่า?เคยคิดบ้างไหมว่าในสายตาของเธอจี้ซือหานเป็นคนยังไง?เธอมองไปที่อลันด้วยดวงตาที่แดงก่ำราวกับไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้อีกแล้ว"อลัน ถ้าเขารักฉัน เขาจะบังคับให้ฉันคุกเข่ารินเหล้าให้เขาหลังจากที่เราแยกทางกันไหม?""ถ้ารักฉัน จะโยนเช็คห้าร
ดวงตาคู่สวยของจี้ซือหานหรี่ลงเล็กน้อย แววตาดูสับสน แต่สติของเขากลับชัดเจนมากเขารู้ว่าคนที่มาคืออลันและรู้ว่าเธอจะมาหยุดเขา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรและยังคงดื่มไวน์แดงต่อไปอลันแย่งแก้วเหล้าไป พูดกับเขาด้วยสีหน้าเย็นชาว่า "ประธานจี้คะ ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ต่อไป การล้างกระเพาะก็ช่วยคุณไม่ได้นะคะ"จี้ซือหานยังคงไม่พูดอะไรสักคํา เหมือนไม่อยากพูดอะไร นิ้วเรียวยาวของเขายืนไปหยิบแก้วไวน์อีกแก้วหนึ่งอลันเห็นเขาดื้อรั้นแบบนี้ พลันคิ้วเรียวงามก็ขมวดเป็นปม "ประธานจี้คะ คุณซูยังมีชีวิตอยู่ คุณควรตั้งสติให้ดีและไปตามจีบกลับมาใหม่ ไม่ใช่ใช้ชีวิตด้วยการดื่มเหล้าเหมือนเมื่อก่อน นี่ไม่ใช่ประธานจี้ที่ฉันรู้จักนะคะ"เขาในอดีต ทั้งสูงส่งสง่างามและเย็นชาราวกับเป็นเทพบุตรที่จุติลงมาจากสวรรค์ ไม่อาจจะแตะต้องได้เลยแต่ตอนนี้เขาสูญเสียความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยสิ้นเชิง ดวงตาทั้งคู่มืดมัวราวกับมองไม่เห็นความหวังแม้แต่น้อยอลันแย่งแก้วเหล้าของเขาไปอีกครั้ง แล้วพูดกับเขาว่า "ประธานจี้คะ คุณทําตัวแบบนี้เพื่อคุณซูต่อไป เธอก็ไม่เห็นหรอกค่ะ สิ่งที่เธอเห็นตอนนี้ มีแต่ความโหดร้ายที่คุณเคยทํากับเธอ และก่อนตา
ดวงตาแดงก่ำของจี้ซือหานสั่นไหวเล็กน้อย เหมือนกําลังสับสน แต่หลังจากลังเลอยู่ไม่กี่วินาที เขาก็กลับมาเฉยเมยเหมือนเดิมเขากำแก้วเหล้าด้วยมือข้างเดียว มองอลันด้วยสายตาเย็นชาและห่างเหิน "อย่าไปหาเธอ แล้วก็อย่าไปรบกวนเธอด้วย..."ในเมื่อเลือกจะส่งเสริมเธอกับซ่งซือเยว่ งั้นก็ปล่อยมือ อย่าทําให้เธอลําบากใจอีก...อลันตกใจ ถามเขาด้วยความเหลือชื่อ "ประธานจี้ คุณยอมแพ้แล้วเหรอคะ?"เธอโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนรักผู้หญิงได้ถึงขนาดนี้จี้ซือหานเป็นคนแรก เขารักซูหว่าน รักจนยอมสละชีวิต ยอมสละทุกอย่างแต่ผู้ชายแบบนี้กลับเลือกที่จะปล่อยมือ?จี้ซือหานไม่ได้ตอบคําพูดของอลันอีก เพียงแค่เงยหน้ากระดกไวน์แดงทีละแก้วไม่รู้ว่าดื่มเร็วเกินไปหรือว่าเป็นเพราะอะไร ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาพลันเปลี่ยนไปเป็นสีขาวซีดเขาวางแก้วไวน์ในมือลง นิ้วมือเรียวยาวจับที่บาร์แล้วก้มตัวลง ก่อนจะกระอักเลือดลงในถังขยะด้านล่างเลือดสีแดงสดไหลลงมาตามมุมปากหยดลงบนพื้น ไม่นานก็ย้อมถังขยะและพื้นสะอาดให้เป็นสีแดงฉาน...พออลันเห็นเลือดเต็มพื้นก็ตกใจจนร้องอุทาน "ประธานจี้ คุณเลือดออกในกระเพาะแล้ว ใครก็ได้รีบมาที รีบพาเขา
ทางด้านซูหว่าน พอเข้าไปในวิลล่า ก็เห็นห้องรับแขกถูกทุบจนเละเทะเหล่าแม่บ้านในห้องต่างตัวสั่นเลิกลั่ก ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่กล้าพูดอะไรส่วนผู้ก่อเหตุกําลังนั่งอยู่บนโซฟาและเล่นมีดปอกผลไม้อยู่เมื่อซูหว่านเห็นมีดในมือของเขา เธอก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย แต่ก็ยังรวบรวมความกล้าและเดินไปหาเขา"ฉัน... กลับมาแล้วค่ะ"จิเหยียนโจวค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตาสีดําสนิทจ้องเธอเขม็งเขาไม่ได้พูดอะไรสักคํา เพียงแค่จ้องมองเธออย่างนั้น ราวกับกําลังจ้องมองเหยื่อที่กําลังจะตายซูหว่านถูกเขาจ้องจนรู้สึกขนพองสยองเกล้า มือที่กําแน่นเต็มไปด้วยเหงื่อเธอบังคับตัวเองให้สงบลง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองจิเหยียนโจว..."คุณจิ เราคุยกันหน่อยเถอะค่ะ""ได้สิ"จิเหยียนโจวตบโซฟาที่อยู่ข้าง ๆ แล้วยกมุมปากขึ้นยิ้มนิด ๆรอยยิ้มนี้และแววตาเมื่อครู่ต่างทําให้ซูหว่านรู้สึกหวาดกลัวยิ่งนักเธอไม่ได้นั่งข้างเขา แต่เลือกที่จะนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวตรงข้ามเขาแทน"คุณจิ ฉันกลับไปอังกฤษกับคุณไม่ได้แล้วค่ะ""ได้สิ"จิเหยียนโจวพยักหน้า เหมือนเดาการตัดสินใจของเธอออกตั้งนานแล้ว จึงไม่แปลกใจที่ได้ยินเรื่องนี้ซูหว่านรู้ว่าหลังจากที่เขาพูดคําว
ซูหว่านเงียบไป ไม่ได้ตอบเขา ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นไม่มีอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น นั่นทําให้จิเหยียนโจวไม่เข้าใจหลังจากเขาเงียบไปหลายวินาที ก็พูดอย่างไม่สนใจว่า "ถ้าเธอไม่ตอบ งั้นก็อยู่ข้างกายฉัน เป็นตัวแทนของชูยีต่อไปละกัน..."ซูหว่านบีบฝ่ามือที่กําแน่นเป็นกําปั้น เธอยังคงเลือกที่จะไม่ตอบคำถามแต่ถามกลับไปแทนว่า "ดังนั้น คุณจิ เราหย่ากันได้ไหมคะ?"จิเหยียนโจวได้ยินเธอพูดแบบนี้ ก็คิดว่าเธอยอมรับแล้ว ก็อดแค่นหัวเราะไม่ได้ "นิสัยเธอนี่ไม่เหมือนพี่สาวเธอเลยสักนิด ถ้าเป็นพี่เธอล่ะก็ ถูกทําร้ายแบบนี้ ต่อให้ตายก็ไม่มีทางยอมหันหลังกลับหรอก เธอนี่กลับกัน ไอ้ตัวซวยนั่นพูดปลอบสักสองสามคํา ก็ยอมกลับสู่อ้อมกอดของมันซะแล้ว"ซูหว่านนิ่งเงียบ ก่อนจะพูดตามคําพูดของเขาว่า "ใช่ค่ะ ฉันไม่เหมือนพี่สาวฉันเลยสักนิด ข้อนี้คุณก็รู้ดีอยู่แก่ใจ แต่คุณกลับยังบังคับให้ฉันเป็นเธอ..."จิเหยียนโจวสีหน้าสําลัก ไม่ได้ตอบเธอกลับ แต่ซูหว่านกลับพูดต่อ "คุณฉือ ที่จริงฉันก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณเห็นฉันเป็นพี่สาว ไม่ใช่เพราะหัวใจดวงนี้เท่านั้น แต่ยังเพื่อบรรเทาความรู้สึกผิดที่มีต่อพี่สาวด้วยนะคะ"จิเหยียนโจวได้ยินก็แค่นหัวเราะเสี
เมื่อมีดเล่มนั้นกําลังจะแทงเข้าที่หน้าอก มือยาวข้างหนึ่งก็คว้าข้อมือของเธอไว้...ชายคนนั้นแย่งมีดปอกผลไม้ไป แล้วยิ้มให้เธอ "มีดเล็กแบบนี้ จะควักหัวใจออกมาได้ยังไงเล่า..."จิเหยียนโจวหันตัวเดินไปที่ห้องครัวแล้วหยิบมีดทําครัวมาหนึ่งเล่มก่อนจะโยนไปตรงหน้าเธอ "ใช้เล่มนี้สิ"แต่ครั้งนี้ซูหว่านไม่ฟังเขา ดวงตาอันใสแจ๋วของเธอเงยขึ้นมองสํารวจจิเหยียนโจว"ที่จริงแล้ว คุณตัดใจไม่ได้ที่จะควักหัวใจของพี่สาวออกมาหรอกค่ะ"ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่า ตอนนี้เธอมีหัวใจของชูยี เขาไม่มีทางยอมให้เธอตายที่เขาทําแบบนี้ ก็เพื่อหยั่งเชิงเธอเท่านั้น...ราวกับถูกเธอเดาความคิดออก สีหน้าของจิเหยียนโจวพลันคล้ำลงทันที “เธอต้องหย่าให้ได้ใช่ไหม”ซูหว่านพยักหน้าเบา ๆ "คุณจิคะ ฉันรู้ว่าคําขอของฉันมันมากเกินไปหน่อย แต่คุณแต่งงานกับฉัน แต่เดิมมันก็ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว คนที่คุณรักคือพี่สาวของฉัน แต่กลับแต่งงานกับน้องสาวของเธอ แม้ว่าจะเป็นในนามของเธอก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วคนคนนั้นก็ไม่ใช่เธอนะคะ"คําพูดของซูหว่านทําให้ดวงตาสีดําสนิทของจิเหยียนโจวกลับมามีแววเปล่งประกายอีกครั้ง แต่เขาก็ยังคงเม้มปากแน่น ไม่พูดอะไรซูหว่านก้ม
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พอซูหว่านล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็ออกมาจากห้องและตรงไปที่ร้านอาหารทันทีจิเหยียนโจวกําลังหั่นขนมปังอย่างเอื่อยเฉื่อย พอเห็นเธอออกมา ก็เหล่ตามองเธอ"รถของเธอ เอากลับมาแล้ว"ซูหว่านนิ่งไปสักพักก่อนจะนึกถึงเมอร์เซเดสที่ถูกลืมไว้ในห้องใต้ดินของไนท์คลับ"ขอบคุณค่ะ พี่เขย..."เธอเรียกพี่เขยอย่างคล่องปากมากจิเหยียนโจวไม่แสดงสีหน้าอะไร ยังคงพลิกดูภาพสถาปัตยกรรมบนโทรศัพท์มือถือต่อไปเขาไม่พูดอะไร ซูหว่านก็ทําตัวเรียบร้อย ก้มหน้ากินอาหารแบบฝรั่งเศสหลังจากกินไปพอประมาณ ซูหว่านก็ทักทายเขา แล้วหยิบกุญแจรถออกจากบ้านไปเธอสัญญากับซือเยว่ว่า หลังจากจัดการเรื่องจิเหยียนโจวเสร็จแล้ว จะพาซานซานไปพบเขาเมื่อเธอเดินออกจากวิลล่าและกําลังจะเปิดประตูรถ ทันใดนั้นก็มีรถสีขาวคันหนึ่งจอดลงอยู่ตรงหน้าเธอพอประตูรถเปิดออก อลันในชุดกระโปรงยาวสีขาวก็เดินลงมาจากรถหลังจากเธอเดินไปหยุดตรงด้านหน้าซูหว่านแล้ว ใบหน้าอันงดงามละเอียดอ่อนก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยน "คุณซู มีเวลาคุยกันหน่อยไหมคะ?"ซูหว่านเหมือนจะเดาได้ว่าอลันมาหาตนเพราะอะไร จึงยิ้มแล้วปฏิเสธ "คุณหมอโจว ขอโทษทีนะคะ ตอนนี้ฉันไม่มีเวลา ไว