ซูหว่านเงียบไป ไม่ได้ตอบเขา ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นไม่มีอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น นั่นทําให้จิเหยียนโจวไม่เข้าใจหลังจากเขาเงียบไปหลายวินาที ก็พูดอย่างไม่สนใจว่า "ถ้าเธอไม่ตอบ งั้นก็อยู่ข้างกายฉัน เป็นตัวแทนของชูยีต่อไปละกัน..."ซูหว่านบีบฝ่ามือที่กําแน่นเป็นกําปั้น เธอยังคงเลือกที่จะไม่ตอบคำถามแต่ถามกลับไปแทนว่า "ดังนั้น คุณจิ เราหย่ากันได้ไหมคะ?"จิเหยียนโจวได้ยินเธอพูดแบบนี้ ก็คิดว่าเธอยอมรับแล้ว ก็อดแค่นหัวเราะไม่ได้ "นิสัยเธอนี่ไม่เหมือนพี่สาวเธอเลยสักนิด ถ้าเป็นพี่เธอล่ะก็ ถูกทําร้ายแบบนี้ ต่อให้ตายก็ไม่มีทางยอมหันหลังกลับหรอก เธอนี่กลับกัน ไอ้ตัวซวยนั่นพูดปลอบสักสองสามคํา ก็ยอมกลับสู่อ้อมกอดของมันซะแล้ว"ซูหว่านนิ่งเงียบ ก่อนจะพูดตามคําพูดของเขาว่า "ใช่ค่ะ ฉันไม่เหมือนพี่สาวฉันเลยสักนิด ข้อนี้คุณก็รู้ดีอยู่แก่ใจ แต่คุณกลับยังบังคับให้ฉันเป็นเธอ..."จิเหยียนโจวสีหน้าสําลัก ไม่ได้ตอบเธอกลับ แต่ซูหว่านกลับพูดต่อ "คุณฉือ ที่จริงฉันก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณเห็นฉันเป็นพี่สาว ไม่ใช่เพราะหัวใจดวงนี้เท่านั้น แต่ยังเพื่อบรรเทาความรู้สึกผิดที่มีต่อพี่สาวด้วยนะคะ"จิเหยียนโจวได้ยินก็แค่นหัวเราะเสี
เมื่อมีดเล่มนั้นกําลังจะแทงเข้าที่หน้าอก มือยาวข้างหนึ่งก็คว้าข้อมือของเธอไว้...ชายคนนั้นแย่งมีดปอกผลไม้ไป แล้วยิ้มให้เธอ "มีดเล็กแบบนี้ จะควักหัวใจออกมาได้ยังไงเล่า..."จิเหยียนโจวหันตัวเดินไปที่ห้องครัวแล้วหยิบมีดทําครัวมาหนึ่งเล่มก่อนจะโยนไปตรงหน้าเธอ "ใช้เล่มนี้สิ"แต่ครั้งนี้ซูหว่านไม่ฟังเขา ดวงตาอันใสแจ๋วของเธอเงยขึ้นมองสํารวจจิเหยียนโจว"ที่จริงแล้ว คุณตัดใจไม่ได้ที่จะควักหัวใจของพี่สาวออกมาหรอกค่ะ"ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่า ตอนนี้เธอมีหัวใจของชูยี เขาไม่มีทางยอมให้เธอตายที่เขาทําแบบนี้ ก็เพื่อหยั่งเชิงเธอเท่านั้น...ราวกับถูกเธอเดาความคิดออก สีหน้าของจิเหยียนโจวพลันคล้ำลงทันที “เธอต้องหย่าให้ได้ใช่ไหม”ซูหว่านพยักหน้าเบา ๆ "คุณจิคะ ฉันรู้ว่าคําขอของฉันมันมากเกินไปหน่อย แต่คุณแต่งงานกับฉัน แต่เดิมมันก็ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว คนที่คุณรักคือพี่สาวของฉัน แต่กลับแต่งงานกับน้องสาวของเธอ แม้ว่าจะเป็นในนามของเธอก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วคนคนนั้นก็ไม่ใช่เธอนะคะ"คําพูดของซูหว่านทําให้ดวงตาสีดําสนิทของจิเหยียนโจวกลับมามีแววเปล่งประกายอีกครั้ง แต่เขาก็ยังคงเม้มปากแน่น ไม่พูดอะไรซูหว่านก้ม
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พอซูหว่านล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็ออกมาจากห้องและตรงไปที่ร้านอาหารทันทีจิเหยียนโจวกําลังหั่นขนมปังอย่างเอื่อยเฉื่อย พอเห็นเธอออกมา ก็เหล่ตามองเธอ"รถของเธอ เอากลับมาแล้ว"ซูหว่านนิ่งไปสักพักก่อนจะนึกถึงเมอร์เซเดสที่ถูกลืมไว้ในห้องใต้ดินของไนท์คลับ"ขอบคุณค่ะ พี่เขย..."เธอเรียกพี่เขยอย่างคล่องปากมากจิเหยียนโจวไม่แสดงสีหน้าอะไร ยังคงพลิกดูภาพสถาปัตยกรรมบนโทรศัพท์มือถือต่อไปเขาไม่พูดอะไร ซูหว่านก็ทําตัวเรียบร้อย ก้มหน้ากินอาหารแบบฝรั่งเศสหลังจากกินไปพอประมาณ ซูหว่านก็ทักทายเขา แล้วหยิบกุญแจรถออกจากบ้านไปเธอสัญญากับซือเยว่ว่า หลังจากจัดการเรื่องจิเหยียนโจวเสร็จแล้ว จะพาซานซานไปพบเขาเมื่อเธอเดินออกจากวิลล่าและกําลังจะเปิดประตูรถ ทันใดนั้นก็มีรถสีขาวคันหนึ่งจอดลงอยู่ตรงหน้าเธอพอประตูรถเปิดออก อลันในชุดกระโปรงยาวสีขาวก็เดินลงมาจากรถหลังจากเธอเดินไปหยุดตรงด้านหน้าซูหว่านแล้ว ใบหน้าอันงดงามละเอียดอ่อนก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยน "คุณซู มีเวลาคุยกันหน่อยไหมคะ?"ซูหว่านเหมือนจะเดาได้ว่าอลันมาหาตนเพราะอะไร จึงยิ้มแล้วปฏิเสธ "คุณหมอโจว ขอโทษทีนะคะ ตอนนี้ฉันไม่มีเวลา ไว
"เด็กหนุ่มคนนั้นที่คุณเห็นที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยเมืองเอ ก็คือเพิ่งผ่านเรื่องแบบนี้มา...""ที่จริงตั้งแต่เด็ก ประธานจี้ก็ทนอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้มาตลอด""แม่ของเขา ขอเพียงเป็นสิ่งที่ประธานจี้ใส่ใจ เธอก็จะทําลายทิ้งโดยไม่เลือกวิธี ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ...""ประธานจี้เองก็เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเปิดเผยความชอบและความคิดของตัวเองให้ใครรู้...""แต่เขากลับได้พบคุณเมื่อสิบปีก่อนและตกหลุมรักคุณเข้า แต่เขาก็ไม่กล้าเข้าใกล้คุณเพราะบทเรียนอันเจ็บปวดของเพื่อนเล่นเขานะคะ""ต่อมาเขาก็ได้พบคุณอีกครั้งที่หน้าประตูไนท์คลับ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่สามารถรักใครได้ แต่เขาก็ยังตกหลุมรักคุณ...""พี่ฉันบอกว่าเขาซื้อคุณโดยไม่ลังเล ก็เพราะเขาตกหลุมรักคุณตั้งแต่ที่ประตูมหาวิทยาลัยเมืองเอ เขาถึงได้ทําแบบนี้นะคะ""ไม่อย่างนั้น ตามนิสัยที่เย็นชาของประธานจี้แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะสงสารคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องหรอกค่ะ...""คุณเป็นผู้หญิงคนแรกของเขาและเป็นคนเดียวที่เขารักนะคะ...""เขาที่ไม่เคยมีความรักมาก่อน พอมีความรักแล้ว ทําให้เขาควบคุมไม่ได้ที่อยากจะอยู่กับคุณ""พี่ฉันบอกว่า หลังจากพวกคุณ
"เมื่อกู้จิ่งเซินปรากฏตัว เขาทําให้ความขัดแย้งระหว่างพวกคุณรุนแรงขึ้น ครั้งนั้นที่คุณเลือกออกจากคฤหาสน์กับกู้จิ่งเซิน เขาก็คิดจะปล่อยมือแล้วนะคะ แต่ไม่คิดว่าคุณจะล่วงเกินเหลียนซิงหรูเพื่อฉัน...""เขารู้วิธีการของเหลียนซิงหรูดี กลัวว่าคุณจะถูกเธอฆ่าทันที หลังจากได้ยินฉันโทรไปก็รีบไปที่ห้างทันที สถานการณ์ในตอนนั้นเขาสามารถพาคุณออกไปได้ก็จริง แต่ถ้าทำอย่างนั้นจะต้องเปิดเผยตัวตนของคุณแน่นอน""เขากล้าที่จะต่อต้านแม่ของเขาเพื่อคุณ แต่เขาไม่อยากให้คุณเข้าไปพัวพันกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนของเขา ต้องทนรับกับเหตุการณ์นองเลือดต่าง ๆ ไปกับเขา และในเวลานั้น เขาเองก็คิดว่าคุณไม่รักเขา ก็เลยยิ่งไม่อยากทําให้คุณเดือดร้อนไปด้วย...""เพียงแต่ว่า เขาไม่คิดว่าการตบในครั้งนั้นจะคร่าเอาชีวิตคุณไป..."อลันหยุดพูดไปครู่หนึ่ง เมื่อพูดอีกครั้งน้ำเสียงก็แหบแห้งเล็กน้อย"คุณซู ตอนที่คุณกําลังจะเสียชีวิต โทรหาเขาแต่โทรไม่ติด นั่นเป็นเพราะเขาติดการประชุมที่นาซาค่ะ""แล้วก็ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้บันทึกเบอร์โทรของคุณนะคะ แต่เป็นเพราะเขาจดจําเบอร์โทรของคุณไว้ในใจมานานแล้วค่ะ...""และเขาก็ไม่เคยนอนกับหนิงหว่าน เป็นหนิง
ดวงตาทั้งสองที่ยังมีน้ำตาอยู่ข้างในของซูหว่าน ค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มออกมา "คุณหมอโจว ขอรบกวนคุณช่วยฉันบอกเขาว่าฉันให้อภัยเขาแล้ว แต่ฉันไม่สามารถกลับไปเคียงข้างเขาได้อีกแล้วค่ะ..."คิ้วที่สวยงามของอลันขมวดเข้าด้วยกันเบา ๆ "เป็นเพราะซ่งซือเยว่เหรอคะ?"ขนตาที่ดกหนาของซูหว่านหลุบลง เหมือนตกอยู่ในความทรงจำที่ผ่านมา"คุณหมอโจว คุณรู้ไหมคะว่าฉันเติบโตมาได้ยังไง เพราะซ่งซือเยว่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ซื้อยาให้ฉันไม่ขาดสาย ฉันถึงได้ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาได้ บุญคุณนี้ไม่ใช่หนึ่งปีเท่านั้น แต่เกือบจะยี่สิบปีแล้ว""ตั้งแต่เล็กจนโต ทุกครั้งที่ทุกคนต่างก็ทอดทิ้งฉัน มีเพียงเขากับซานซานเท่านั้นที่ไม่เคยทิ้งฉันไป และเพื่อรักษาหัวใจของฉัน เขาต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด ในเมื่อฉันตกลงว่าจะดูแลเขาไปตลอดชีวิต แล้วจะทำให้เขาผิดหวังได้ยังไงกันคะ... "เธอพูดสองประโยคนี้จบ ก็หันหลังแล้วเดินออกไปจากร้านกาแฟไม่รู้ว่าฝนตกหนักลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เม็ดฝนที่มีขนาดเท่าเมล็ดถั่วตกลงมา ทำให้ซูหว่านไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีเธอถึงกับลืมเรียกรถ ทำเพียงก้มหน้าเหยียบน้ำฝนและเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ๆ ...อลันยืมร่มแล้ววิ่งตามออกมา
ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ น้ำฝนตกเป็นสายลงบนตัวชายหนุ่มผมดกสีดำขลับและชุดสูทแสนเนี๊ยบ ล้วนเปียกหมดน้ำฝนไหลจากใบหน้าหล่อเหลาที่สมบูรณ์แบบลงไปตามคอเรียวระหงส์เขาเดินตรงไปยังรถอย่างเหม่อลอยโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปอลันเห็นเขากลับมาก็รีบกางร่มเดินไปตรงหน้าเขาเพื่อกันฝนให้เขา"ขอโทษค่ะ ประธานจี้"เธอไม่ได้รับความยินยอมจากประธานจี้และมาหาคุณซูโดยพลการเองเดิมคิดว่าสามารถอธิบายให้เข้าใจ คุณซูอาจพิจารณากลับมาหาประธานจี้ แต่ไม่คิดว่าจะได้ผลลัพธ์แบบนี้น้ำฝนไหลรินตามไรผมบนหน้าผากของจี้ซือหานและหยดลงมา กระทบบนขนตาหนาเป็นแพรจนเขากะพริบเล็กน้อยเขาช้อนแววตาที่เย็นชาราวหิมะขึ้นมองอลัน "ฉันกับเธอจบลงอย่างสิ้นสุดแล้ว วันหลังเธออย่าพูดถึงชื่อนี้ต่อหน้าฉันอีก..."อลันมองจี้ซือหานอย่างอึ้ง ๆ เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่อยากจะยอมรับผลลัพธ์แบบนี้ "ประธานจี้ คุณซูเคยรักคุณนะคะ"จี้ซือหานยกริมฝีปากบางยิ้มบาง ๆ "อลัน คนที่เธอรัก มีแค่ซ่งซือเยว่..."อลันเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ขมวดคิ้วทันที "ประธานจี้คะ เมื่อกี้เธอยอมรับออกมาแล้วว่าเคยรักคุณ เพียงแค่ระหว่างที่ทดสอบคุณได้แต่ความผิดหวังเป็นคำตอบ ทำให้ตอนนี้พวกคุณมาถึ
ซูชิงมองบอดี้การ์ดที่ตามหลังคุณซูไม่ใกล้ไม่ไกลก็ถอนหายใจเล็กน้อยประธานจี้รักคุณซูมากขนาดนั้นแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะปล่อยมือ ในใจเขาจะเจ็บแค่ไหนกันนะซูชิงครุ่นคิดจากนั้นก็หยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งซองแล้วยื่นให้จี้ซือหาน "ประธานจี้ ผ่อนคลายหน่อยเถอะครับ..."จี้ซือหานกวาตามองบุหรี่ซองนั้นอย่างเฉยเมย สีหน้าค่อย ๆ กลับมาเย็นชาและเข้าถึงยาก "ทิ้งไปเถอะ"วันหลังเขาไม่ต้องการของพวกนี้แล้ว คนบางคน ซ่อนไว้ในใจลึก ๆ ก็เพียงพอในการเคียงข้างเขาไปตลอดชีวิตแล้ว...ซูชิงไม่คิดว่า ประธานจี้ที่ใช้ชีวิตโดยการอาศัยบุหรี่และเหล้าตลอดสามปีมานี้ จะทิ้งได้อย่างง่ายดายขนาดนี้เขาเหลือบมองประธารนจี้ เห็นเขาเอามือพาดหน้าต่างรถข้างเดียวแล้วเอียงคอมองข้างนอก เหมือนเขาเห็นประธานจี้คนเดิมอีกครั้งก่อนที่เขาจะพบกับคุณซูนั้น เขาไม่แตะบุหรี่และเหล้าสักนิด ทั้งยังเหย่อหยิ่ง เฉยเมยไม่แยแสกับทุกสิ่งไม่ว่าจะคนหรือสิ่งอื่นเขาตอนนี้ที่ผ่านความเจ็บปวดจากความรัก แววตาเย็นชาดุจหิมะของเขามีความเศร้าหมองเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่กลับให้ความรู้สึกว่าเขาคนเดิมกลับมาแล้วซูชิงตื่นเต้นเล็กน้อยและเก็บบุหรี่ในมือพูดกับเขาว่า "ประธานจี
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ