ซานซานสวมกระโปรงยาวสีดำเผิดหลัง สะพายกระเป๋าแบรนด์นั่งบนโซฟา สำรวจสภาพแวดล้มรอบ ๆ คฤหาสน์เมื่อเห็นซูหว่านเดินลงจากบันไดวนลงมาก็รีบลุกขึ้นจากโซฟา จะเดินไปหาเธอแต่ซูหว่านกลับเร็วกว่า"เธอช้า ๆ หน่อย เดี๋ยวก็ล้มหรอก"ซานซานประคองเธอไว้แล้วลูบผมสั้นเธออย่างอ่อนโยน "เมื่อก่อนไว้ผมยาวตลอด ตอนนี้ตัดผมสั้นแล้วดูสดใสขึ้นเยอะนะ"ซูหว่านแม้จะมีความทุกข์ในใจแต่ก็ไม่ได้แสดงออกให้ซานซานเห็น "เมื่อก่อนป่วยออด ๆ แอด ๆ มาตลอด ตอนนี้ดูสดใสขึ้นก็ดีแล้วล่ะ"ซานซานยิ้มอย่างซึ้งใจ "เธอคิดแบบนี้ได้ก็ดีแล้ว"ซูหว่านยิ้มตอบ "ซานซาน เธอกินข้าวเช้ารึยัง?"ซานซานพยักหน้าตอบ "กินแล้ว"เธอพูดจบก็หันมองซ้ายขวาถามซูหว่าน "คุณจิคนนั้นล่ะ?"ซูหว่านเงยหน้ามองไปทางห้องนอนชั้นสอง "คงกำลังเป็นเด็กหลายบุคคลิกอยู่มั้ง"ซานซานผงะไปอย่างไม่เข้าใจ กว่าเธอจะเข้าใจซูหว่านก็ลากเธอเดินออกไปที่สวนข้างนอกแล้ว"เมื่อกี้เธอด่าจิเหยียนโจวว่า เป็นผู้ป่วยโรคจิตหลายบุคลิกใช่ไหม?"ซูหว่านพยักหน้าลากเธอมานั่งลงบนโซพาตัวน้อยสาวใช้ยกกาแฟและของขวัญมาเสิร์ฟวางไว้หน้าซานซานทันทีซานซานบอกขอบคุณกับสาวใช้แล้วถามซูหว่านอย่างไม่เข้าใจ
ซูหว่านอุ่นใจขึ้นมา ซานซานก็เป็นแบบนี้ตลอด ยอมทุ่มเทให้เธอทุกอย่างไม่ใช่แค่พี่สาวที่แสนดีของเธอ แต่ยังเป็นแสงสว่างในความมืดมิดของเธออีกด้วยจะปล่อยให้คนอบอุ่นแบบนี้ไปเสี่ยงอันตรายกับเธอที่อังกฤษได้ยังไง?"ความสัมพันธ์ของฉันกับจิเหยียนโจวซับซ้อนเกินไป ไม่รู้ว่าอนาคตจะกลายเป็นแบบไหน ฉันไม่อยากให้เธอไปเสี่ยงอันตรายกับฉัน""ฉันรู้ว่าเธอกังวลอะไร แต่ว่าหว่านหว่าน..."ซานซานมองซูหว่านแล้วพูดอย่างมั่นคง "ฉันเหลือเธอเป็นญาติเพียงคนเดียวแล้ว ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนที่นั่นก็คือบ้านของฉัน"ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนที่นั่นก็คือบ้านของฉัน ประโยคนี้ทำให้ซูหว่านกลั้นน้ำตาไหวจนทะลักออกมาซานซานยกมือตบหลังเธอเบาๆ "หว่านหว่านคนดี ไม่ต้องร้องนะ ฉันยังไม่เคยไปอังกฤษเลย ถือว่าไปเปิดหูเปิดตาแล้วกัน"ซูหว่านอยากเปลี่ยนใจเธอแต่อยู่ๆ ซานซานก็โพล่งออกมา "เกือบลืมเลย การศึกษาฉันไม่สูงพูดภาษอังกฤษได้แค่ไม่กี่คำอย่าง สวัสดี ขอบคุณอะไรพวกนี้ แล้ววันหลังจะคุยกับฝรั่งยังไงล่ะเนี่ย?"เธอพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "ถ้าใช้แค่ภาษามือ คนต่างชาติพวกนั้นจะรู้เรื่องไหมนะ?"ตอนแรกซูหว่านกำลังร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล แต่เมื่อได
เมื่อก่อนเรื่องที่จี้เหลียงชวนเป็นกังวลที่สุดก็คือกลัวว่าพี่รองจะตกหลุมรักซูหว่านแต่คำตอบที่ได้รับจากการลองใจในหลาย ๆ ครั้งก็คือไม่รัก เขาเลยไม่ได้ไปยุ่งกับพี่รองอีกใครจะไปนึกว่าหลังจากที่ซูหว่านเสียชีวิต พี่รองของเขาจะกรีดแขนตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย และกินยาอย่างบ้าคลั่งเพื่อเธออีกตอนนี้เพิ่งจะถูกช่วยชีวิตกลับมาหยก ๆ พอฟื้นขึ้นมาก็ดึงสายน้ำเกลือออกแล้วกลับไปไปดื่มเหล้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ช่างไม่รักชีวิตตัวเองเลยจริง ๆจี้ซือหานไม่ได้ยินเลยว่าเขากำลังพูดอะไร เขายื่นมือไปทางเขา "เอามาให้ฉัน"จี้เหลียงชวนกดขวดเหล้าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย "ถ้าพี่ยังดื่มต่อไปแบบนี้ก็ได้ตายแน่ ๆ ดื่มอีกไม่ได้แล้ว"จู่ ๆ จี้ซือหานก็ยิ้มเย็นออกมาแล้วพูด "เดิมทีฉันก็ไม่ได้จะอยากมีชีวิตอยู่แล้วนี่"จี้เหลียงชวนสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมพร้อมนึกย้อนกลับไปถึงภาพพี่รองในตอนเด็กที่เกือบจะถูกเหลียนหว่านชิงทรมานจนเกือบตายเลยอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตระกูลจี้ พี่รองก็คงจะจากโลกนี้ไปนานแล้วเขาปล่อยมือที่กดขวดเหล้าออกแล้วส่งมันให้กับจี้ซือหาน "ดื่มให้มันน้อย ๆ หน่อยนะ"จี้ซือหานรินเหล้าเสร็จก็ถือแก
จี้ซือหานหัวเราะอย่างเยือกเย็น ดวงตาเย็นชาและห่างเหินคู่หนึ่งเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยตัวเองเขากดความเจ็บปวดที่อึดอึดในหัวใจของเขา เเล้วหยิบแก้วขึ้นมาและดื่มอีกครั้งลูกกระเดือกที่เซ็กซี่ขยับไปมา เขาใช้วิธีกลืนความเจ็บปวดเหล่านั้นลงไปพร้อมกับไวน์แต่ไวน์ก็ไม่สามารถหยุดความเจ็บปวดนั้นได้ จี้ซือหานวางแก้วของเขา ลุกขึ้นและเดินโซเซไปทางชั้นสอง...เมื่อมองดูเเผ่นหลังที่เย็นชาและโดดเดี่ยวนั้น จู่ ๆ จี้เหลียงชวนก็รู้สึกว่าสิ่งที่ปู่ของเขาพูดนั้นถูกต้อง ความรักเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะไปยุ่งกับมันดันเป็นพี่ีรองที่ถูกสอนแต่เด็กว่าอย่าหวั่นไหวกับอะไรง่าย ๆ กลับกลายเป็นคนที่หวั่นไหวมากที่สุด แต่กลับเป็นเขาที่เลือกที่จะเฉยเมยต่อความรักจี้เหลียงชวนเล่นกับแก้วไวน์และจ้องมองไปที่ซูชิง ซึ่งมีสีหน้าเป็นกังวลเช่นกัน "พี่ีรองของฉันรู้ว่าคุณซูยังมีชีวิตอยู่ แต่เขายังคงหดหู่และไม่มีความสุข ไม่ใช่ว่าไปขอเขาคืนดี เเต่ถูกปฏิเสธมาหรอกนะ?"ซูชิงถอนสายตาที่เป็นกังวลของเธอออกและพยักหน้าไปทางจี้เหลียงชวน "ดูเหมือนว่าคุณซูจะผิดหวังกับประธานจี้เเล้ว"เขาก็ไม่ได้บอกว่าคุณซูไม่รักประธานจี้ แต่เขารู้สึกเสมอว่าเธอเคยรั
พอพูดจบจี้เหลียงชวนก็วางแก้วไวน์ หยิบเสื้อนอกแล้วลุกออกไปพอเขาเดินออกมาถึงข้างนอกกำลังเปิดประตูรถ เฉียวซานซานก็โทรเข้ามาพอดีเขารับสายไปพลางระหว่างขึ้นไปนั่งในรถ "มีอะไร"ซานซานกุมโทรศัพท์ไว้ในมือพูดกับเขาว่า "คุณชายเจ็ด คุณอยู่ไหน ฉันมีธุระกับคุณนิดหน่อย"จี้เหลียงชวนเงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ก็บอกแล้วว่าจะไม่เจอกันตอนกลางวัน เจอแค่ตอนกลางคืนไม่ใช่หรือไง?"เขาไปเอาผู้หญิงที่เคยหย่าร้างมาเป็นแฟน ถูกเพื่อนคนรวยที่เป็นเพลย์บอยเยาะเย้ยมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแต่เสน่ห์ของเธอทำให้เขาอดใจไม่ได้ เขาจึงต้องทนรับแรงกดดันจากการถูกเยาะเย้ย ให้เธอได้นั่งตำแหน่งแฟนสาวของเขาต่อไปแต่อย่าหวังว่าเขาจะไปหาเธอตอนกลางวัน ถ้าถูกพวกเพื่อน ๆ เห็นเข้า เขาต้องถูกพวกนั้นถากถางอีกแน่ เขาคงทนไม่ไหวซานซานเหลือบมองคฤหาสน์ของจี้เหลียงชวนแล้วพูดว่า "ฉันอยู่หน้าบ้านคุณแล้ว คุณกลับมาหน่อยนะ"จี้เหลียงชวนหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "โอเค งั้นเธอรอฉันก่อน"กับผู้หญิงถ้าอีกฝ่ายขออะไรเขาก็ตอบสนองตลอดอยู่แล้ว ยิ่งกับแฟนยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาวางสายแล้วสตาร์ทรถตรงกลับไปที่ค
ซานซานคิดว่าการมาหาเขาในตอนกลางวันจะทำให้เขาหงุดหงิด แต่คิดไม่ถึงว่าคำแรกที่คำพูดกับเธอเมื่อเจอกันคืออย่าสูบบุหรี่เดิมทีเธออยากจะพูดกับเขาแบบสบาย ๆ ว่าจี้เหลียงชวนเราเลิกกันเถอะแล้วหันหลังกลับไปเลย แต่ตอนนี้เธอกลับพูดไม่ออกจี้เหลียงชวนจูงมือเธอเข้าบ้านไป "รีบร้อนมาหาฉันแบบนี้ เธออยากเหรอทำกับฉันเหรอ?"ตอนแรกซานซานก็รู้สึกประทับใจเล็กน้อย แต่พอเธอได้ยินเขาพูดออกมาแบบนี้ สีหน้าเธอก็แย่ลง "เปล่า ฉันอยากจะ..."ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรจี้เหลียงชวนก็หันกลับมาเชยคางของเธอขึ้นแล้วก้มหน้าลงมาจูบเธอการจูบที่เนิ่นนานและน่าอึดอัดทำให้ซานซานหายใจไม่ออก เธอจึงหยิกเอวของเขาอย่างแรง เขาถึงยอมหยุดเพิ่งจะปล่อยให้เธอหายใจได้แค่แวบเดียว จี้เหลียงชวนก็อุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินไปที่ห้องนอนหลังจากที่ชายหนุ่มโยนเธอลงบนเตียง เขาก็กระชากเน็คไทออก ปลดกระดุมเสื้อแล้วคร่อมทับร่างเธอทันทีหลังจากเสร็จกิจกันแล้ว ซานซานก็เอื้อมไปหยิบบุหรี่บนโต๊ะหัวเตียงตามความเคยชิน แต่จี้เหลียงชวนจับมือเธอไว้แล้วดึงเธอมากอดไว้ในอ้อมแขนเขาพูดด้วยความรำคาญใจเล็กน้อย "ทำไมคุณถึงดื้อขนาดนี้นะ..."ซานซานนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา เ
กิจการไนท์คลับเป็นไปได้ดีมาก ถ้าจะขายก็น่าเสียดาย มอบให้ผู้จัดการดูแลต่อไปเป็นทางที่ดีที่สุดแล้วซานซานแบ่งหุ่นไนท์คลับบางส่วนให้กับผู้จัดการ และให้เขาส่งรายงานการเงินให้เธอตรงเวลาทุกเดือนหลังจากที่เธอกลับบ้านจัดกระเป๋าเดินทางเสร็จ เธอก็ส่งข้อความหาหว่านหว่านบอกว่าเธอจัดการเรื่องของเธอเสร็จแล้วพร้อมออกเดินทางไม่นานซูหว่านก็ตอบข้อความของเธอ บอกว่าครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของจิเหยียนโจวต้องดำเนินการขออนุญาติก่อน บอกให้เธอรอไปก่อนซานซานคิดว่ามันคงต้องใช้เวลานาน ไม่คิดว่าคนที่ความสามารถทางด้านการเงินสูงอย่างจิเหยียนโจวจัดการขอเส้นทางบินได้รวดเร็วขนาดนี้ก่อนที่เธอจะลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หลายใบออกจากบ้าน เธอก็หันกลับไปมองคฤหาสน์ที่เธอซื้อมาอีฃกครั้งเดิมทีเธอคิดจะขายบ้านทิ้ง แต่เธอคิดว่าไม่แน่หว่านหว่านอาจจะหลุดพ้นจากจิเหยียนโจวได้ในอนาคต ดังนั้นเธอจึงเก็บไว้ก่อนเธอถอนสายตากลับมา หลังจากกำชับแม่บ้านให้ดูแลบ้านให้ดีแล้วก็ลากกระเป๋าออกจากบ้านชายในรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมที่อยู่ห่างออกไปเมื่อเห็นเธอท่าทางเหมือนกำลังจะเดินทางไกล ก็ทนไม่ได้ต้องลงจากรถ"เธอจะไปไหน?"พอได้ยินเสียงดังมาจากข้
ซานซานโบกมือ เธอไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เธอสนใจว่าจี้ซือหานเคยมาหาหว่านหว่านซานซานถามด้วยความสับสน "จี้ซือหานมาหาเธอทำไม?"เมื่อนึกถึงท่าทางสูญเสียการควบคุมของจี้ซือหานแล้ว สีหน้าของซูหว่านก็ดูคล้ายจะหายใจไม่ออกเล็กน้อย "เขาบอกว่าเขารักฉันมาแปดปีแล้ว เขาขอให้ฉันให้โอกาสเขาสักครั้ง"พอพูดจบ เธอก็ยิ้มแห้ง ๆ อย่างขมขื่น "ซานซาน เธอว่ามันตลกไหมล่ะ?"เขาทำกับเธอแบบนั้น แล้วยังมาบอกว่าเขารักเธอเนี่ยนะ ยากที่เชื่อว่าความรักที่ล่าช้านี้แบบนี้มันมาจากใจเขาจริง ๆหลังจากที่ซานซานหายตกใจ อารมณ์ในสายตาเธอก็กลายเป็นซับซ้อนขึ้นมาทันที"หว่านหว่าน มีเรื่องนึงที่ฉันไม่ได้บอกเธอ""ที่จริงหลังจากที่เธอตาย จี้ซือหานเคยมาหาเธอ""ตอนนั้นพอเขารู้ว่าเธอตาย เขาดูเหมือนตายทั้งเป็นเลย""แต่ฉันจมอยู่กับความโกรธแค้นที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องตาย ฉันก็เลยไม่ได้คิดอะไรต่อ""แต่ตอนนี้พอเธอบอกว่าเขารักเธอมาแปดปี ก็เลยรู้สึกว่าไม่แน่เขาจะรักเธอจริง ๆ..."แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่า ในเมื่อจี้ซือหานรักหว่านหว่าน แล้วทำไมเขาต้องทอดทิ้งหว่านหว่านด้วยหลังจากทิ้งหว่านหว่านไปแล้วยังลงมือลงไม้กับเธอเพื่อปกป้องคนเลวสอ