เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง แสงแดดที่แสบตานอกหน้าต่าง ค่อย ๆ สาดผ่านหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานเข้ามาเธอกลอกตามองไปรอบ ๆ สํารวจสภาพแวดล้อมโดยรอบ อบอุ่นมาก แต่ไม่คุ้นเคยขณะที่เธอกําลังคิดอยู่ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออก ซานซานถือน้ําอุ่นเดินเข้ามา"หว่านหว่าน เธอตื่นแล้วเหรอ"ซูหว่านเห็นเป็นซานซาน จึงเดาได้ว่านี่เป็นบ้านใหม่ซานซานเธอฝืนร่างกายที่อ่อนปวกเปียกและลุกขึ้นจากเตียง"อย่าขยับ เธอนอนลงก็พอ..."ซานซานวางน้ําไว้ข้าง ๆ แล้วประคองซูหว่านให้พิงหัวเตียง แต่ไม่ยอมให้เธอลุกจากเตียง"ฉันไปหาหมอให้เธอแล้ว บอกว่าเธออารมณ์รุนแรงเกินไปถึงสลบไป..."ซูหว่านยกมุมปากขึ้น ฝืนยิ้มอ่อนโยน "ขอบคุณนะ ซานซาน"ซานซานยกมือขึ้นทัดผมที่ยุ่งเหยิงตรงหน้าผากของเธอไว้หลังหู พลางพูดอย่างอ่อนโยนว่า "เด็กโง่ พูดอะไรตามมารยาท นี่เป็นสิ่งที่พี่สาวอย่างฉันควรทํา ถึงอย่างไรการดูแลเธอให้ดีก็เป็นหน้าที่ของฉันตั้งแต่เล็กจนโต..."คําพูดที่อบอุ่นหัวใจที่หายไปนานและการกระทําที่หายไปนานทําให้หัวใจที่เย็นชาของซูหว่านอบอุ่นขึ้นมาทันทีและดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้งซานซานรู้สึกปวดใจ ลูบใบหน้
ในปีนั้นตอนที่อายุสิบแปดปี ซูหว่านกอดแขนของซ่งซือเยว่แล้วถามเขา "ซือเยว่ ซือเยว่ นายจะขอฉันแต่งงานตอนไหนเหรอ?"ซ่งซือเยว่ที่กำลังอ่านหนังสือได้ยินเธอถามแบบนี้เลยยิ้มแล้วใช้ปากกาจิ้มไปที่จมูกของเธอ "รอตอนที่ฉันมีความสามารถในการขอเธอแต่งงาน"ซูหว่านเบะปาก แล้วพูดอย่างไม่มีปิดบัง "แล้วตอนไหนนายถึงจะมีความสามารถ?"ซ่งซือเยว่ถือหนังสือในมือขึ้นมาแล้วตอบกลับเธอ "รอตอนที่ฉันเรียนรู้ความรู้พวกนี้จนหมดแล้วกลายเป็นคนที่มีความสามารถ ก็จะมีความสามารถในการขอเธอแต่งงานได้"ซูหว่านใช้มือทั้งสองข้างเท้าคางแล้วบุ้ยปากพูด "อย่าให้ถึงตอนที่นายเป็นคนที่มีความสามารถแล้วก็ลืมฉัน ไม่ขอฉันแต่งงานแล้ว"ใครจะไปนึกว่าคำพูดที่พูดออกมาเล่น ๆ จะกลายเป็นจริง ในที่สุดซ่งซือเยว่ก็กลายเป็นคนที่มีความสามารถแล้วก็ลืมเธอรอในตอนที่เขานึกขึ้นมาได้เธอก็ใกล้จะจากโลกนี้ไปแล้วแต่ไอ้เจ้าคนซื่อบื้อนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะตายไปแล้วยังไงก็จะขอเธอแต่งงานไปเป็นภรรยาให้จนได้ซูหว่านกอดทะเบียนสมรสไว้ที่อกแล้วร้องไห้ออกมายกใหญ่อีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้เขาขอเธอแต่งงานโดยที่ไม่ได้สนใจอะไร แต่เพื่อที่จะได้กลับมาเธอกลับไปแต่งงานกับจิ
สีหน้าของซานซานชงักค้างไป จากนั้นค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้ารังเกียจ"รู้ไหมว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงไม่ให้ฉันไปบ้านเกิดเขา""เพราะเจียงหลีเหรอ?"ซานซานพยักหน้า แล้วพรั่งหรูเรื่องในตอนนั้นให้เธอฟัง"เจียงยวู่กับเจียงหลีไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ พวกเขาเลยคบกันแล้วพ่อแม่ของพวกเขาก็เห็นด้วย แต่เพื่อสนองความจอมปลอมโอ้อวดของตัวเอง เจียงหลีเลยอยากให้เจียงยวู่ซื้อบ้านหรูในตัวเมือง แต่บ้านในเมืองเอพวกเขาจะมีปัญญาซื้อที่ไหนเล่า และก็เพราะเรื่องบ้านนี่แหละเจียงยวู่ถึงได้เพ่งเล็งฉัน""เขารู้ว่าฉันเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีการศึกษา เป็นแค่เด็กขายเหล้าในไนท์คลับ เขารู้สึกว่าคนแบบฉันขาดความอบอุ่นหลอกง่าย เขาจึงเข้าหาฉันด้วยการแสร้งทำเป็นอ่อนโยนและใจดี แล้วในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ ฉันตกหลุมรักเขา ยอมให้เขาทุกอย่าง แต่สุดท้ายกลับมาพบว่าเขากับเจียงหลีมีความสัมพันธ์กัน""คืนที่ฉันรู้ว่าคุณกำลังจะตายด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ฉันเห็นพวกเขาทำเรื่องอย่างว่ากันในโรงพยาบาล ฉันไม่อยากให้คุณต้องมาเป็นห่วงฉันก่อนตาย ฉันเลยไม่ได้บอกความจริงกับคุณ และโกหกคุณไปว่าเขาปกติดี แต่ จริงๆ พวกเขาวางแผนหลอกฉัน หลอกฉันมาตั้งแต่ต้นจนจบ…"เมื่อ
เธอทำหน้างุนงง แต่ซานซานกลับพูดด้วยความรู้สึกผิดว่า "ฉันไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ"ซูหว่านพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นก็เห็นซานซานรีบเดินออกจากห้องนอนไปและปิดประตูเธอเดาว่าในช่วงสามปีที่ผ่านมาต้องมีอะไรเกิดขึ้นมากมายแน่ๆ แต่เธอคิดไม่ถึงว่าซานซานกับจี้เหลียงชวน...ด้านนอกห้องนอน ซานซานกำโทรศัพท์มือถือของเธอไว้และกระซิบว่า "คืนนี้ฉันต้องอยู่กับเพื่อน น่าจะไปไม่ได้แล้วล่ะ"มือที่ถือแก้วไวน์อยู่ของจี้เหลียงชวนชะงักไปเล็กน้อย "เพื่อนที่ไหน?"ซานซานพูดอย่างคลุมเครือ "เพื่อนผู้หญิง"จี้เหลียงชวนวางแก้วลงแล้วพูดอย่างเบื่อหน่ายว่า "ขัดอารมณ์จริง"จากนั้นโทรศัพท์ก็ถูกตัดสาย ซานซานถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วกลับหลังหันเดินกลับเข้าห้องนอนไปเมื่อเห็นซูหว่านนั่งมองตัวเองเงียบ ๆ อยู่บนเตียง ซานซานก็ร้อนตัวขึ้นมาอีกเธอเดินเข้าไปนั่งลงที่ขอบเตียง หลังจากพยายามจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าสารภาพความจริงกับซูหว่าน"ขอโทษนะหว่านหว่าน ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนตระกูลจี้ ในเมื่อจี้ซือหานเคย...""ไม่เป็นไร"ซูหว่านขัดจังหวะเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ซานซาน เธอไม่ต้องคิดถึงฉัน ขอ
ซานซานเลกคิดถึงความทรงจำครั้งอดีต แล้วหันหน้ามองซูหว่าน"หว่านหว่าน ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่รักจี้เหลียงชวนหรอก บนโลกนี้นอกจากซือเยว่ก็ไม่มีผู้ชายดี ๆ ที่ไหนอีกแล้ว""เพราะงั้น ฉันจะไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ที่แค่คนอื่นเขามาทำดีด้วย ก็ทุ่มให้เขาหมดตัว มันไม่คุ้มเลย"พอพูดถึงซ่งซือเยว่ขึ้นมาอีกครั้ง สายตาของซูหว่านก็มืนหม่นบนโลกใบนี้ ผู้ชายที่ดีกับเธอไม่อยู่แล้ว และก็คงจะไม่มีอีกแล้ว...เธอหลุบตาลงเพื่อปกปิดความเศร้าในดวงตาของเธอ แล้วก็กล่าวขอบคุณซานชานว่า "ซานซาน ขอบคุณเธอยอมเสียสละเพื่อฉันมากมายขนาดนี้นะ ฉันไม่รู้จะตอบแทนเธอยังไงดี หากเธอไม่อยากคบกับจี้เหลียงชวนแล้ว ฉันจะช่วยจัดการให้เธอเอง..."ซานซานยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถามของซูหว่าน เพียงแต่เอื้อมมือขึ้นมาลูบผมผมของเธอ "แค่เธอยังมีชีวิตอยู่ก็ถือเป็นการตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับฉันแล้ว ต่อไปนี้เธอก็คอยอยู่เคียงข้างฉัน ห้ามไปไหน เข้าใจไหม?"ซานซานก็เปรียบเหมือนแสงสว่างในชีวิตของซูหว่าน เธอมักทำให้อบอุ่นใจอยู่เสมอต่อให้เธอจมโคลนอยู่ในหนองน้ำ แต่ในช่วงเวลาวิกฤติซานซานจะมอบพลังเหลือล้นให้กับเธอก็เหมือนกับตอนนี้ ซานซานไม่บ่นไม่โทษไม่
[ผมคิดถึงคุณจัง][คุณกลับมาได้ไหม][คุณกลับมาเถอะ ผมมีความลับอยากบอกคุณ][วันนี้ผมฝันเห็นคุณด้วย คุณบอกให้ผมเลิกยุ่งกับคุณ][ผมก็ไม่ได้อยากยุ่งกับคุณ แต่ผมควบคุมตัวเองไม่ได้][ผมคิดถึงคุณ คิดถึงแทบบ้า คุณช่วยบอกผมทีว่าทำยังไงผมถึงจะเลิกคิดถึงคุณได้][คุณกลับมาได้ไหม... ผมขอร้อง กลับมาเถอะนะ][ใคร ๆ ก้บอกว่าคนที่ตายไปแล้วกลับมาไม่ได้อีก แล้วทำไงผมถึงจะได้เจอคุณอีก][ผมกินยานอนหลับ ผมเจอคุณแล้ว ดีจังที่ได้เจอคุณอีก][ในจินตนาการ คุณพูดกับผมว่าที่จริงคุณก็รักผมมากเหมือนกัน][ผมดึงคุณมากอดไว้แน่น ตอบคุณไปว่าผมก็รักคุณมาก][แต่ว่ามันก็เป็นแค่จินตานาการ คุณจะรักผมได้ไง][ผมเริ่มเตือนตัวเองว่า คุณรักคนอื่น ห้ามคิดอะไรกับคุณ ทำใจเถอะ][แต่ผมทำใจไม่ได้ คุณก็เหมือนฝิ่นที่ทำให้ผมติดแล้วเลิกไม่ได้ ลืมไม่ได้][ซูหว่าน ผมรักคุณ ถ้ามีโอกาสอีกครั้ง ผมจะใช้ทั้งชีวิตเพื่อรักคุณ กลับมาได้ไหม]เมื่อซูหว่านดูมาถึงตรงนี้ก็ไม่กล้าอ่านต่อไปแล้วเธอไม่เคยคิดเลยว่าบนโลกใบนี้ที่จะมีอาชญากรคนหนึ่งคิดถึงเธออย่างบ้าคลั่งขนาดนี้เขายังคงไม่ได้แสดงความความรักที่มีในใจด้วยตัวตนที่แท้จริงของเขา เพียงแต
ซานซานลุกขึ้นยืนและมองลงไปด้านล่าง เธอเห็นท่าทางที่ถ้าซูหว่านไม่มาจะไม่มีทางยอมของจิเหยียนโจวเธอขมวดคิ้วและหันกลับไปถามซูหว่าน "เขาเป็นคนรักของพี่สาวเธอไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาต้องมายุ่งเรื่องเธอกลับไม่กลับบ้านด้วย?"ซูหว่านบอกซานซานเพียงแค่ว่าเธอรอดชีวิตมาได้อย่างไร แต่ไม่ได้บอกเธอเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจิเหยียนโจวเธอเลิกผ้าห่มขึ้น เดินไปหาซานซาน เธอมองจิเหยียนโจวที่อยู่ชั้นล่างแล้วพูดว่า "ซานซาน ฉันแต่งงานกับเขาแล้วที่อังกฤษ"ซานซานมองเธอด้วยสีหน้าตกใจ "อะไรนะ?!"ซูหว่านสงบมากเธอบอกกับซานซานว่า "ฉันอยากจะกลับประเทศมาหาเธอและซ่งซือเยว่ แต่เขากลัวว่าฉันจะพาหัวใจของพี่สาวไปอยู่กับคนอื่นหลังจากกลับมา ดังนั้นเขาจึงผูกมัดฉันด้วยการแต่งงาน ถ้าฉันไม่ตกลง เขาก็ไม่ยอมให้ฉันกลับมา"พอได้ยินแบบนั้น สีหน้าของซานซานก็แย่ลง "หว่านหว่าน ถ้าเป็นแบบนี้ ก็เท่ากับเธอต้องอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตไม่ใช่หรือไง?"สายตาของซูหว่านมือมน "อันที่จริง ตั้งแต่วินาทีที่เขาตัดสินใจทำตามความปรารถนาสุดท้ายของพี่สาวฉัน เอาหัวใจของเธอมาใส่ร่างกายฉัน ฉันถูกกำหนดแล้วว่าต้องอยู่กับเขาตลอดไป..."กล่าวอีกนัยหนึ่ง
จี้ซือหานคีบก้นบุหรี่ขึ้นมาด้วยปลายนิ้วที่เรียวแหลมเปลวไฟลุกโชนบนผิวหนังของเขา แต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยเสียงอันโหดร้ายของซูชิงที่กำลังบอกความจริงอยู่ข้างหลังดังอยู่ข้างหูเขา"ประธานจี้ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าชูยีไม่ใช่คุณซู เธอเป็นชาวอังกฤษเชื้อสายจีนและอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร""ตามข้อมูลที่ส่งมาจากอังกฤษ คุณซูอาจเป็นน้องสาวที่พลัดหลงกันโดยไม่ได้ตั้งใจของเธอ""อีกอย่างคุณชูกับจิเหยียนโจวนายน้อยคนที่สี่ของตระกูลจิแต่งงานกันแล้ว งานแต่งงานจัดขึ้นในโบสถ์ที่อังกฤษ…"จี้ซือหานยกมือขึ้นมาใช้ปลายนิ้วลูบริมฝีปากบางของตัวเองกลิ่นหอมหวานที่ทำให้เขาลุ่มหลงแบบนั้นมันซูหว่านชัด ๆแต่ซูชิงกลับเอาข้อมูลมากมายมาบอกเขาว่าคนคนนั้นไม่ใช่ซูหว่านจี้ซือหานหยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน ดวงตาเย็นชาของเขาฉายแววไม่เชื่อหลังจากที่จิเหยียนโจวจอดรถเสร็จ เขาก็เห็นคนร่างสูงแล้ว จึงขมวดคิ้ว"ทำไมเป็นเขาอีกแล้ว?"ซูหว่านมองตามสายตาของเขา และมองไปที่ชายที่ยืนอยู่ใต้โคมไฟถนน สีหน้าเธอดูตกใจเล็กน้อยจิเหยียนโจวเอามือข้างหนึ่งค้ำหน้าต่างรถไว้ แล้วเหลือบมองซูหว่าน "ปัญหาที่คุณก่อ แก้เอาเองนะ"ซูหว่านถอนส
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ