“ขอถามได้ไหมคะ ใคร…”แมนดี้เห็นลุคนอนอยู่บนเปลหาม ท่าทีของเขาดูหวาดกลัวไซม่อนและลิเลียนยืนนิ่งงัน พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาเห็นพวกเขาพอรู้ว่าเจมส์ เซอร์รีย์ คือผู้นำตระกูลเซอร์เรย์แต่ตอนนี้เขากำลังคุกเข่าอยู่งั้นเหรอ?ก่อนที่พวกเขาจะได้สติกลับมา สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลเซอร์เรย์ก็คุกเข่าลงกับพื้นตาม ๆ กันทางด้านหลัง ชายที่ดูเย่อหยิ่งเดินขึ้นมาด้านหน้าและคุกเข่าลง“คุณนายซิมเมอร์ ผม เจมส์ เซอร์เรย์ พาทุกคนมาที่นี่ในวันนี้เพื่อมาขอโทษ!”“การกระทำของลุคที่ได้ทำร้ายคุณและครอบครัว มันเป็นความผิดของเรา!” เจมส์พูดออกมาไรอันพูดเสริมว่า “ผม ไรอัน ก็อตติ มาที่นี่เพื่อขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เช่นกัน เช็ก ก็อตติ เป็นคนจับตัวหญิงสาวไป ผมจัดการหักแข้งหักขาเขาแล้ว”ไรอันโบกมือส่งสัญญาณ จากนั้นสั่งให้ลูกกน้องหามเปลไปด้านหน้าลุคและเช็กอยู่บนเปลหามที่ดูราวกับอยู่ในเรือลำเดียวกันแมนดี้และซีนเธียร์ไม่อยากเชื่อสิ่งที่พวกเขาเห็นในตอนนี้เลยพวกเขายังจำได้ดัว่าทั้งสองคนนั้นหยิ่งจองหองแแค่ไหนสภาพพวกเขาแขนขาหักแต่ไม่มีผ้าพันแผลเลยสักนิด มันเป็นภาพที่น่าตกใจอย่างมากตุบ!ลุคพย
แมนดี้คาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เธอไม่พูดอะไรออกมาฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็นว่า “ผมไม่ได้ทำอะไร พวกเขาบอกว่าพวกเขาอยากมาที่นี่เพื่อคุกเข่าขอโทษ”เขาไม่ได้โกหกเมื่อวันก่อนเจมส์และไรอันยืนกรานที่จะมาแสดงความขอโทษพวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้รับพรจากเหล่าทวยเทพเมื่อฮาร์วีย์ยอมปล่อยให้พวกเขามาที่นี่แมนดี้ถอนหายใจออกมา“ฮาร์วีย์ ถ้าคุณมีโอกาสได้พบเขาคุณต้องขอบคุณเจ้าชายยอร์ก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเมื่อวานนี้คุณอาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่”“และคุณต้องพิจารณาถึงผลที่ตามมาจากสิ่งที่คุณทำ คุณห้ามไปก่อความวุ่นวายอีก”“คราวนี้คุณโชคดีที่เจ้าชายยอร์กช่วยคุณไว้ แต่ครั้งต่อไปมันอาจจะไม่โชคดีแบบนี้”ฮาร์วีย์พูดไม่ออกหลังจากได้ยินคำพูดของแมนดี้ไซม่อนอ้าปากค้าง“แมนดี้ ลูกกำลังจะบอกว่าเจ้าชายยอร์กเป็นคนที่ช่วยแก้ปัญญานี้งั้นเหรอ?”ลิเลียนรู้สึกราวกับว่าเธอเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น“ฉันคิดว่าคนไร้ประโยชน์อย่างนายสามารถทำอะไรได้บ้าง!”“เจ้าชายยอร์กเป็นยอดชายแห่งเซาท์ไลท์ แค่เขาจัดการให้ทั้งเจมส์และไรอันต่างเข้ามาขอโทษ!”“ฮาร์วีย์ แกนี่มันไร้ยางอายจริง ๆ ! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแกทำให้ดูเหมือนว่าแ
แมนดี้ไม่รู้ว่าทำไมลิเลียนถึงถามเรื่องนี้ แต่เธอก็ยังพยักหน้าตอบว่า “ใช่ค่ะ! เธอกลับมาแล้ว ตอนนี้เธอเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทในซานฟรานซิสโก!”“ฮาลซีย์เก่งจริง ๆ !”ลิเลียนชื่นชมเธอ“ลูกควรโทรไปบอกให้เธอมาเที่ยวที่บัควู้ด แม่จะเลี้ยงข้าวเธอถ้าเธอมาที่นี่!”หลังจากได้พูดทุกอย่างที่คิดแล้ว เธอก็เดินจากไปเธอรู้ว่าเธอไม่สามารถโน้มน้าวแมนดี้ได้ แต่ฮาลซีย์อาจช่วยได้หากหล่อนสามารถโน้มน้าวแมนดี้ได้สำเร็จ เธอจะไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อีกเลย!ลิเลียนดูถูกฮาร์วีย์มากกว่าเดิมเธอจ้องไปที่ฮาร์วีย์โดยไม่ได้พูดร่ำลาอะไรและเดินผ่านไปทันทีเมื่อลิเลียนและไซม่อนออกไปแล้ว แมนดี้ก็พูดขอโทษ “ฮาร์วีย์ อย่าใส่ใจเลยนะ คุณแม่ก็เป็นแบบนี้มาตลอด”ฮาร์วีย์ยิ้มและตอบว่า “ผมเคยชินกับมันแล้วล่ะครับ”เขาอยากจะอธิบายสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าชายยอร์กก่อนหน้านี้ แต่เขาต้องตัดสินใจใหม่อีกครั้งหลังจากเห็นท่าทีของแมนดี้มันไม่มีประโยชน์อะไรแม้จะพยายามอธิบายอะไรออกมาภายใต้สถานการณ์แบบนี้เขากำลังเตรียมเปลี่ยนแมนดี้ให้เป็นคนที่มั่งคั่งร่ำรวยเขาไม่ควรที่จะเปิดเผยตัวตนก่อน***วันถัดมาฮาร์วีย์
ณ ร้านอาหารแบล็กทีร้านอาหารระดับไฮเอนด์ของโอลเด้นเทรด ว่ากันว่าอาหารที่นี่หนึ่งมื้อมีราคาประมาณหนึ่งหมื่นดอลลาร์คนธรรมดา ๆ ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเดินเฉียดเข้ามาใกล้ อย่าพูดถึงการโอกาสที่จะได้มานั่งทานอาหารที่นี่เลยด้วยซ้ำอีวอนน์และชายหนุ่มรูปงามเดินเข้าไปในร้านอาหารนั่น ฮาร์วีย์รีบตามเข้าไปทันทีฮาร์วีย์เห็นอีวอนน์นั่งอยู่โซนตรงกลางร้านทั้งร้านถูกตกแต่งราวกับเป็นพระราชวัง แน่นอนว่าทั้งร้านได้ถูกจองไว้แล้วไม่ไกลจากอีวอนน์ มีหญิงชราคนหนึ่งผมสีเงิน ชายวัยกลางคนสองสามคนและหญิงสาวอีกสองสามคนชายหนุ่มรูปงามที่มากับอีวอนน์โค้งคำนับให้กับหญิงชราและเดินเข้าไปยืนข้าง ๆ เธอคนอื่น ๆ ต่างมองไปที่อีวอนน์ บางคนแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมา บางคนก็มองเธอด้วยความรังเกียจฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว ถ้าพวกเขามองเธอแบบนั้น ผู้ชายคนนั้นก็ดูเหมือนไม่ใช่แฟนของอีวอนน์แต่ตรงหน้าเขาเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ในขณะนั้นริต้า ลอว์สัน ป้าของอีวอนน์ก็อยู่ตรงนั้น เธอเดินเข้าไปหาอีวอนน์และพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่เลวเลยนะอีวอนน์! คุณย่าทวดแห่งซาเวียร์มาที่นี่เพื่อหว่านล้อมเธอถึงสามครั้ง แต่เธอยังไม่ยอมหยุดอีก!”“เฮ้ อย่าบอกนะว่
อีวอนน์เอียงศีรษะขึ้นมองเจสซีหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง“เจสซี่ ฉันจะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น”เจสซีหัวเราะออกมาจากนั้นอีวานก็พูดขึ้นมาว่า “อีวอนน์ เธอไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้ต่อหน้าคุณย่าทวด!”“เธอเป็นเพียงญาติห่าง ๆ เธอโชคแค่ไหนที่เจ้าชายแห่งตระกูลลีโอไม่นึกรังเกียจเธอ เธอมีสิทธิ์อะไรที่แสดงท่าทีเย็นชาใส่เขา” ริต้าว่าโทษอีวอนน์อีวอนน์จ้องกลับมาที่ป้าของเธออย่างเย็นชา“คุณป้าคะ หนูจะตัดสินใจเองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่คุณป้าต้องมาตัดสินใจ”เพียะ!ริต้าเดินเข้าไปตบหน้าเธอ แล้วตะโกนด่าออกมาอย่างโกรธเคืองว่า “อวดดี! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะไม่ฟังฉัน! เธอจะไม่ฟังสิ่งที่ย่าทวดพูดด้วยงั้นเหรอ?”หลังจากที่อีวอนน์ถูกตบ ฮาร์วีย์ที่ยืนอยู่ตรงประตูก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นแบบนั้นอีกต่อไปฮาร์วีย์บุกเข้าไปในร้านอาหารด้วยท่าทีที่ดูน่ากลัว แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “เธอบอกว่าเธอไม่ต้องการที่จะแต่งงาน เธอก็ไม่จำเป็นต้องแต่งงานสิครับ! เธอเป็นลูกน้องของผม!”“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีใครมาข่มขู่คนของผมที่เซาท์ไลท์!”อีวอนน์ตัวสั่นและมองไปยังฮาร์วีย์“ท่านประธานยอร์ก คุณควรออกไปจากตรงนี้ ค
“คุณแม่คะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ”อีวอนน์ยืนอยู่ด้านหน้าฮาร์วีย์ เธอไม่อยากให้เขาต้องได้รับบาดเจ็บหญิงวัยกลางคนที่อีวอนน์เรียกว่าแม่ เธอคือไอโอน่า เชอร์แมน แม่เลี้ยงของอีวอนน์หลังจากที่พ่อของอีวอนน์เสียชีวิต ไอโอน่าเป็นญาติใกล้ชิดคนเดียวที่เหลืออยู่เธอดุอีวอนน์ออกมาอย่างโกรธจัด “แก ไอ้ผู้หญิงใจแตก แกยังเรียกฉันว่าแม่อีกงั้นเหรอ?”“อะไรนะ? แกออกตัวให้เพราะฉันจะทำร้ายคนรักของแกงั้นเหรอ?”“อย่าเป็นคนที่ไร้ยางอายเหมือนพ่อของแก ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีและความละอายเลยแม้แต่น้อย มองหาผู้หญิงทุกวัน!”จากนั้นไอโอน่าหันไปมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาเย็นชา พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชายอย่างคุณคิดที่จะหลบอยู่หลังผู้หญิงงั้นเหรอ? คุณช่างไร้ประโยชน์อย่างที่เขาว่ากันจริง ๆ !”ฮาร์วีย์มองลึกเข้าไปในดวงตาของไอโอน่า จากนั้นก็คว้าตัวอีวอนน์มาไว้ข้างหลังและกระซิบบอกเธอว่า “ไม่เป็นไร ผมสามารถจัดการเรื่องนี้ได้”หลังจากเห็นอีวอนน์และฮาร์วีย์ทำราวกับว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน ไอโอน่าก็ยิ่งโกรธมากขึ้น“พอได้แล้ว! พวกแกทั้งสองคนไร้ยางอายแล้วยังมาทำตัวเป็นคู่รักหวาน
ฮาร์วีย์ไม่คิดจะนั่งเจสซีก็ไม่ได้สนใจ จิบชาโดยไม่สนใจเขา“คุณย่าซาเวียร์ก็เป็นแบบนี้มาตลอด เธอจะไม่ให้ความสำคัญกับใครถ้าเธอไม่สนใจ”“สำหรับอีวอนน์แล้ว ก่อนหน้านี้เธอเป็นหลานสาวที่คุณย่าซาเวียร์โปรดปรานมาก แต่เป็นเพราะคุณ เธอจึงกลายเป็นตัวตลกในแวดวงสังคมชั้นสูงของโวลซิ่ง บอกฉันสิว่าคุณจะชดใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ยังไง?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว“ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ เรา...”ก่อนที่ฮาร์วีย์จะพูดจบ เจสซีก็ถอนหายใจออกมา“ฮาร์วีย์ เราาต่างเป็นผู้ชายอกสามศอก ฉันควรจะพูดออกมาตรง ๆ กว่านี้ใช่ไหม?”“นี่ก็เลขา นั่นก็เลขา ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ก็ให้เลขาทำไป หากไม่มีอะไร ก็เรียกเลขา ฉันไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้นหรอกนะ”ฮาร์วีย์พูดไม่ออกหลังจากได้ยินคำพูดของเขาเขาไม่มีอะไรแก้ตัวสำหรับเรื่องนี้อีวอนน์จะอ้าปากพูด แต่เธอกลับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้สักคำเจสซียังพูดต่อ“ในเมื่อคุณยอมรับแล้วว่าพวกคุณสองคนมีอะไรกันจริง ๆ ฉันก็ไม่สนใจหรอกนะ แต่ตระกูลซาเวียร์แห่งโวลซิ่งอยากจะเรียกศักดิ์ศรีของพวกเขากลับคืนมา”“แค่บอกฉันมาว่าคุณจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?”“ถ้าคุณสามารถให้คำตอบที่ดีกับเรา บางที
“อีวอนน์ ฉันบอกเธอแล้ว ความทะเยอทะยานของฮาร์วีย์นั้นน่ากลัวกว่าที่คิด”“ผู้ชายแบบนี้จะไม่มีวันยอมให้ถูกกดขี่เด็ดขาด”“ถ้าเธอเลือกเขา เธอจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน”เชลดอน ซาเวียร์ถอนหายใจ เขาชื่นชมฮาร์วีย์เพราะตัวตนที่แท้จริงของเขาแม้ว่าพวกซาเวียร์แห่งโวลซิ่งจะไม่ได้สนใจสถานะของเขาในฐานะเจ้าชาย แต่พวกเขาก็จะพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับชายผู้นี้หากตัวตนอื่นของเขาถูกเปิดเผยแต่เชลดอนไม่คิดว่าหลานสาวของเขาจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับฮาร์วีย์“ฟังปู่นะ เธอน่าจะเลือกคริส หรือเธอมองคนอื่นบ้างแม้ว่าจะเป็นขอทานก็ตาม ถ้าเธอบอกมา ปู่พร้อมจะทำให้เขาเป็นผู้ชายของเธอ”“ปู่ยอมให้เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่เขา!”อีวอนน์ตอบออกมาว่า “คุณปู่ อย่าลืมสัญญาของเราก่อนหน้านี้สิคะ คุณปู่กำลังพูดเรื่องพวกนี้เพื่อที่จะผิดสัญญาใช่ไหมคะ?”หลังจากเห็นท่าทีดื้อรั้นของอีวอนน์แล้ว เชลดอนก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง“เอาล่ะ สิบห้าวันตามสัญญา ปู่จะรอดูว่าเธอสามารถพาเขากลับบ้านได้จริงหรือเปล่า”“ถ้าทำได้ ฉันจะยอม!”***ในห้องพักชั้นพิเศษของโรงแรมบัควู้ดคุณย่าซาเวียร์นั่งสมาธิอยู่บนฟูกเจสซ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข