“คุณแม่คะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ”อีวอนน์ยืนอยู่ด้านหน้าฮาร์วีย์ เธอไม่อยากให้เขาต้องได้รับบาดเจ็บหญิงวัยกลางคนที่อีวอนน์เรียกว่าแม่ เธอคือไอโอน่า เชอร์แมน แม่เลี้ยงของอีวอนน์หลังจากที่พ่อของอีวอนน์เสียชีวิต ไอโอน่าเป็นญาติใกล้ชิดคนเดียวที่เหลืออยู่เธอดุอีวอนน์ออกมาอย่างโกรธจัด “แก ไอ้ผู้หญิงใจแตก แกยังเรียกฉันว่าแม่อีกงั้นเหรอ?”“อะไรนะ? แกออกตัวให้เพราะฉันจะทำร้ายคนรักของแกงั้นเหรอ?”“อย่าเป็นคนที่ไร้ยางอายเหมือนพ่อของแก ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีและความละอายเลยแม้แต่น้อย มองหาผู้หญิงทุกวัน!”จากนั้นไอโอน่าหันไปมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาเย็นชา พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชายอย่างคุณคิดที่จะหลบอยู่หลังผู้หญิงงั้นเหรอ? คุณช่างไร้ประโยชน์อย่างที่เขาว่ากันจริง ๆ !”ฮาร์วีย์มองลึกเข้าไปในดวงตาของไอโอน่า จากนั้นก็คว้าตัวอีวอนน์มาไว้ข้างหลังและกระซิบบอกเธอว่า “ไม่เป็นไร ผมสามารถจัดการเรื่องนี้ได้”หลังจากเห็นอีวอนน์และฮาร์วีย์ทำราวกับว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน ไอโอน่าก็ยิ่งโกรธมากขึ้น“พอได้แล้ว! พวกแกทั้งสองคนไร้ยางอายแล้วยังมาทำตัวเป็นคู่รักหวาน
ฮาร์วีย์ไม่คิดจะนั่งเจสซีก็ไม่ได้สนใจ จิบชาโดยไม่สนใจเขา“คุณย่าซาเวียร์ก็เป็นแบบนี้มาตลอด เธอจะไม่ให้ความสำคัญกับใครถ้าเธอไม่สนใจ”“สำหรับอีวอนน์แล้ว ก่อนหน้านี้เธอเป็นหลานสาวที่คุณย่าซาเวียร์โปรดปรานมาก แต่เป็นเพราะคุณ เธอจึงกลายเป็นตัวตลกในแวดวงสังคมชั้นสูงของโวลซิ่ง บอกฉันสิว่าคุณจะชดใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ยังไง?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว“ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ เรา...”ก่อนที่ฮาร์วีย์จะพูดจบ เจสซีก็ถอนหายใจออกมา“ฮาร์วีย์ เราาต่างเป็นผู้ชายอกสามศอก ฉันควรจะพูดออกมาตรง ๆ กว่านี้ใช่ไหม?”“นี่ก็เลขา นั่นก็เลขา ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ก็ให้เลขาทำไป หากไม่มีอะไร ก็เรียกเลขา ฉันไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้นหรอกนะ”ฮาร์วีย์พูดไม่ออกหลังจากได้ยินคำพูดของเขาเขาไม่มีอะไรแก้ตัวสำหรับเรื่องนี้อีวอนน์จะอ้าปากพูด แต่เธอกลับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้สักคำเจสซียังพูดต่อ“ในเมื่อคุณยอมรับแล้วว่าพวกคุณสองคนมีอะไรกันจริง ๆ ฉันก็ไม่สนใจหรอกนะ แต่ตระกูลซาเวียร์แห่งโวลซิ่งอยากจะเรียกศักดิ์ศรีของพวกเขากลับคืนมา”“แค่บอกฉันมาว่าคุณจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?”“ถ้าคุณสามารถให้คำตอบที่ดีกับเรา บางที
“อีวอนน์ ฉันบอกเธอแล้ว ความทะเยอทะยานของฮาร์วีย์นั้นน่ากลัวกว่าที่คิด”“ผู้ชายแบบนี้จะไม่มีวันยอมให้ถูกกดขี่เด็ดขาด”“ถ้าเธอเลือกเขา เธอจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน”เชลดอน ซาเวียร์ถอนหายใจ เขาชื่นชมฮาร์วีย์เพราะตัวตนที่แท้จริงของเขาแม้ว่าพวกซาเวียร์แห่งโวลซิ่งจะไม่ได้สนใจสถานะของเขาในฐานะเจ้าชาย แต่พวกเขาก็จะพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับชายผู้นี้หากตัวตนอื่นของเขาถูกเปิดเผยแต่เชลดอนไม่คิดว่าหลานสาวของเขาจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับฮาร์วีย์“ฟังปู่นะ เธอน่าจะเลือกคริส หรือเธอมองคนอื่นบ้างแม้ว่าจะเป็นขอทานก็ตาม ถ้าเธอบอกมา ปู่พร้อมจะทำให้เขาเป็นผู้ชายของเธอ”“ปู่ยอมให้เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่เขา!”อีวอนน์ตอบออกมาว่า “คุณปู่ อย่าลืมสัญญาของเราก่อนหน้านี้สิคะ คุณปู่กำลังพูดเรื่องพวกนี้เพื่อที่จะผิดสัญญาใช่ไหมคะ?”หลังจากเห็นท่าทีดื้อรั้นของอีวอนน์แล้ว เชลดอนก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง“เอาล่ะ สิบห้าวันตามสัญญา ปู่จะรอดูว่าเธอสามารถพาเขากลับบ้านได้จริงหรือเปล่า”“ถ้าทำได้ ฉันจะยอม!”***ในห้องพักชั้นพิเศษของโรงแรมบัควู้ดคุณย่าซาเวียร์นั่งสมาธิอยู่บนฟูกเจสซ
ณ สำนักงานประธานกรรมการบริหารสกาย คอร์ปอเรชั่น สำนักงานของประธานกรรมการบริหารเงียบเหงาเล็กน้อยเนื่องจากอีวอนน์ไม่อยู่ โต๊ะทำงานที่เคยสะอาดสะอ้านมาก่อนในตอนนี้นั้นถูกปกคลุมไปด้วยกองเอกสารที่กองเป็นกองคล้ายกับภูเขา เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฮาร์วีย์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกับตัวเองอย่างขมขื่น เขาไม่เคยสังเกตนิสัยในการทำงานของตัวเองมาก่อน เขาไม่รู้ตัวเลยว่าได้ให้อีวอนน์ทำงานทั้งหมดนี้ให้เขาในขณะที่เขาแทบจะไม่ได้ช่วยทำอะไรเลยเมื่อก่อน และเพิ่งรู้ตัวว่าอีวอนน์ได้ทุ่มเททำงานเพื่อเขาไปมากมายเพียงใด เมื่อมองไปที่โต๊ะของอีวอนน์ ฮาร์วีย์ก็พึมพำกับตัวเองเบา ๆ “อย่ากังวลไปเลย ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะสามารถบังคับให้คุณทำอะไรได้” “ไม่ใช่แม้กระทั่งลีโอจากฮ่องกง…” “แล้วก็ไม่ใช่ตระกูลซาเวียร์จากโวลซิ่ง” ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เสียงเคาะประตูห้องทำงานของประธานกรรมการบริหารก็ได้ดังขึ้น หลังจากนั้นเรย์ ฮาทก็ได้เดินเข้ามาด้วยท่าทางเคารพ “นายตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วหรือยัง?” ฮาร์วีย์เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือเรย์ เรย์ตอบด้วยท่าทางที่จริงจังว่า “เจ้าชาย ผมสอบสวนเรื่องนี้แล้ว แต่เนื่องจากเราได้มอ
ในคืนเดียวกันนั้น คริส ลีโอและคนอื่น ๆ ก็ได้รับข้อความ คริสถือจดหมายซึ่งเป็นสีแดงเลือดเป็นเวลานานก่อนจะหัวเราะคิกคัก “เจ้าชายยอร์กเป็นคนหยิ่งผยองและมีพลังอย่างแท้จริง เขาบังคับให้ฉันคืนข้อเสนอดูตัวขอแต่งงานของฉัน!” “ไม่ มันไม่ใช่แค่การให้ฉันคืนการ์ดดูตัวขอแต่งงานของฉันคืน… เขาพยายามจะเหยียบหัวของพวกเราชาวตระกูลลีโอแห่งฮ่องกง! เขามีค่าพอที่จะทำอย่างนั้นหรือ?” สตีเฟ่น ยอร์ก ซึ่งนั่งตรงข้ามกับเขายิ้ม “คราวนี้เจ้าชายยอร์กคงจะรีบร้อนจนเกินไป” “แม้ว่าเขาจะกำจัดตระกูลเซอร์เรย์และไรอัน ก็อตติไปแล้ว แต่จดหมายของเขาก็ไม่ต่างอะไรจากการผลักตระกูลร็อบบินส์และตระกูลชนชั้นหนึ่งที่เหลืออีกสามตระกูลมาอยู่ข้างเรา” “นี่มันชักเริ่มน่าสนใจขึ้นมาแล้ว” คริสพูดอย่างเป็นกันเองว่า “แน่นอนว่ามันน่าสนใจ! คัลลัม ร็อบบินส์และคนอื่น ๆ ได้ติดต่อฉันมาเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือครั้งนี้ คราวนี้ล่ะเราจะใช้ให้พวกมันเป็นเบี้ยหมากรุกของพวกเรา คุณและฉันสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างแน่นอน!” เมื่อเขาพูดจบ คริสและสตีเฟ่นก็มองหน้ากันและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูล
ในขณะเดียวกันที่ท่าอากาศยานเมืองบัควู้ด มีกลุ่มคนกำลังเดินออกจากทางเดินโซน VIP คนที่อยู่ด้านหน้าสุดไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนแซ็คและควินน์ ซิมเมอร์นั่นเอง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือสองคนนี้ซึ่งเคยหยิ่งยโสโอหังทำตัวหรูหราในอดีต ในตอนนี้นั้นมีสภาพที่เหมือนกับคนรับใช้มากกว่า คนที่เดินตามหลังของพวกเขามาคือชายหนุ่มในชุดสูทปักลายท่าทางเย็นชา จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “แซ็ค ควินน์ อย่ามาพูดว่าฉันไม่ได้ให้โอกาสพวกนายทั้งสองนะ!” “ถ้านายทำได้ดีพอและประสบความสำเร็จในการเชิญผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองมาที่มอร์ดูได้ ตระกูลฌองจะช่วยให้พวกนายสามารถทำงานเป็นคนรับใช้ของพวกเราได้” “แต่ถ้าทำพลาด พวกนายก็รีบไสหัวไปซะ! ตระกูลของพวกเรามีสุนัขรับใช้มากมาย เราไม่สนหรอกว่าเราจะสูญเสียไปสักหนึ่งหรือสองตัว!” แซ็คพยักหน้าและโค้งคำนับ “ท่านเกรย์ ฌอง คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่! บัควู้ดคือถิ่นของพวกเรา ดังนั้นคราวนี้เราจะประสบความสำเร็จในงานนี้อย่างแน่นอนครับ” ในทางกลับกัน ควินน์ก็ยิ้มเป็นนัย ๆ ออกมาและพุดด้วยน้ำเสียงอันออดอ้อน “นายท่านเกรย์ ฌอง คุณคงเหนื่อยจากการเดินทางมามากแล้ว คืนนี
“ท่านประธาน คุณจะไปต้อนรับใครคะ? ทำไมคุณถึงต้องการรถที่โทรมที่สุดล่ะคะ?” อีวอนน์รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก คนสติดี ๆ ที่ไหนจะมาขออะไรแบบนี้? ฮาร์วีย์ตอบกลับ “คุณไม่รู้หรอกว่าคน ๆ นี้ชอบไปสนามรบเมื่อเวลาที่เขาไม่มีอะไรทำ เขาชอบรถเก่า ๆ และทรุดโทรมมากที่สุด เขาไม่อยากนั่งในรถหรู ๆ หรอก” แม้ว่าอีวอนน์จะไม่รู้ว่าฮาร์วีย์จะไปต้อนรับคนแบบไหน แต่เนื่องจากเขาขอมาเธอจึงต้องปฏิบัติตาม ไม่นานหลังจากนั้น รถตู้ที่มีอายุอย่างน้อยประมาณสิบปีก็ถูกขับมาที่ประตูทางเข้าของสกาย คอร์ปอเรชั่น ฮาร์วีย์ขอให้เรย์เป็นคนขับรถให้เขา ก่อนจะรีบไปที่สนามบินบัควู้ด เมื่อพวกเขามาถึงที่สนามบิน เรย์ก็ต้องประหลาดใจกับเหตุการณ์เบื้องหน้าของเขา สนามบินแออัดมาก มีรถหรูมากมายจอดรออยู่ด้านนอก มอร์เซเดส เบนซ์ มายบัค, เบนท์ลีย์, โรลส์รอยซ์… แทบจะทุกแบรนด์หรูอื่น ๆ ที่เขาสามารถมองเห็นได้ คนนอกที่ไม่รู้อาจจะคิดว่านี่เป็นการจัดนิทรรศการรถหรูอย่างแน่นอน ความจริงที่ว่าฮาร์วีย์และเรย์ขับรถตู้เก่า ๆ โทรม ๆ เข้ามา ทำให้คนที่นั่นทุกคนต่างก็ดูถูกดูแคลนพวกเขา “เขาเป็นใครน่ะ? เขาไม่รู้เหรอว่าวันนี้เป็นวันอะไร?” “วันนี้เป
เกรย์ ฌองปล่อยเสียงหัวเราะ 'หึหึ' ออกมาอย่างชั่วร้ายก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า “ถ้าฉันอยู่ที่นี่แล้วซะอย่าง มันจะมีโอกาสรอดไปได้อย่างไร?” ตระกูลฌองจากมอร์ดูเป็นหนึ่งในสิบตระกูลระดับแนวหน้าของประเทศ H แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในอันดับที่เก้า แต่เกรย์ก็เชื่อว่าในกลุ่มคนที่ไร้ประโยชน์ในที่นี้ไม่มีใครแล้วที่จะมีสถานะที่สูงไปกว่าเขา แซ็ครีบเอ่ยถามด้วยท่าทางอันสุดร้ายกาจว่า “ท่านฌอง คุณต้องการให้ผมพาคนไปจับผู้ชายคนนั้นมาไหมครับ?' “ไม่ต้องรีบร้อนไป ถึงเวลาที่ต้องจัดการเรื่องหลัก ๆ ของเราก่อนแล้ว เรื่องผู้หญิงไว้จัดการทีหลัง” เกรย์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ เขารู้วิธีการแยกแยะระหว่างเรื่องไหนที่มันสำคัญกว่า ไม่ไกลจากเกรย์คือคาร์สัน คลาวด์, คัลลัม ร็อบบินส์, และคีธ เยตส์ พวกเขายืนเคียงบ่าเคียงไหล่ข้าง ๆ กัน เมื่อพวกเขาเห็นฮาร์วีย์เดินเข้ามา คีธก็ขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงโทนต่ำว่า “ทำไมเศษขยะถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ช่างน่าอับอายเสียนี่กระไร!” ฮาร์วีย์เป็นหลานเขยของตระกูลเยตส์ ถ้าเขาดันทำอะไรที่น่าขายหน้าที่นี่ มันจะสะท้อนถึงตระกูลเยตส์ในทางที่ไม่ดีได้ คัลลัมยิ้ม “อย่าตกใจไปเลยเยตส์ หลานเขยของคุณคนนี้มักจะทำ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข