เกรย์ ฌองปล่อยเสียงหัวเราะ 'หึหึ' ออกมาอย่างชั่วร้ายก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า “ถ้าฉันอยู่ที่นี่แล้วซะอย่าง มันจะมีโอกาสรอดไปได้อย่างไร?” ตระกูลฌองจากมอร์ดูเป็นหนึ่งในสิบตระกูลระดับแนวหน้าของประเทศ H แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในอันดับที่เก้า แต่เกรย์ก็เชื่อว่าในกลุ่มคนที่ไร้ประโยชน์ในที่นี้ไม่มีใครแล้วที่จะมีสถานะที่สูงไปกว่าเขา แซ็ครีบเอ่ยถามด้วยท่าทางอันสุดร้ายกาจว่า “ท่านฌอง คุณต้องการให้ผมพาคนไปจับผู้ชายคนนั้นมาไหมครับ?' “ไม่ต้องรีบร้อนไป ถึงเวลาที่ต้องจัดการเรื่องหลัก ๆ ของเราก่อนแล้ว เรื่องผู้หญิงไว้จัดการทีหลัง” เกรย์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ เขารู้วิธีการแยกแยะระหว่างเรื่องไหนที่มันสำคัญกว่า ไม่ไกลจากเกรย์คือคาร์สัน คลาวด์, คัลลัม ร็อบบินส์, และคีธ เยตส์ พวกเขายืนเคียงบ่าเคียงไหล่ข้าง ๆ กัน เมื่อพวกเขาเห็นฮาร์วีย์เดินเข้ามา คีธก็ขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงโทนต่ำว่า “ทำไมเศษขยะถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ช่างน่าอับอายเสียนี่กระไร!” ฮาร์วีย์เป็นหลานเขยของตระกูลเยตส์ ถ้าเขาดันทำอะไรที่น่าขายหน้าที่นี่ มันจะสะท้อนถึงตระกูลเยตส์ในทางที่ไม่ดีได้ คัลลัมยิ้ม “อย่าตกใจไปเลยเยตส์ หลานเขยของคุณคนนี้มักจะทำ
ฝูงชนทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ฮาร์วีย์ได้พูด สนามบินซึ่งในตอนแรกมีเสียงดังจอแจ แต่ในตอนนี้นั้นกลับตกมาอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ทั้งตกตะลึงและตกใจ 'เกิดอะไรขึ้น?' 'เขาเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่านะ?' ใครบ้าที่ไหนกล้าไปยั่วยุตระกูลลีโอจากฮ่องกงต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้? ยิ่งไปกว่านั้นชายผู้นี้กระทำมันต่อหน้าของเจ้าชายแห่งตระกูลลีโอ! ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าชนชั้นสูงของบัควู้ดส่วนใหญ่ต่างก็พากันมาต้อนรับคริส ลีโอเมื่อตอนที่เขามาที่บัควู้ดเป็นครั้งแรก! อะไรคือตัวตนของบุคคลดังกล่าว? ผู้ชายคนนี้มีสถานะอะไรหรือ? ใครกันที่กล้าขู่พวกตระกูลลีโอโดยการบอกว่าตระกูลของพวกเขาจะไม่จำเป็นต้องมีในฮ่องกงอีกต่อไป? แม้แต่เชลดอน ซาเวียร์และคนอื่น ๆ ที่รู้จักตัวตนของฮาร์วีย์ก็ยังตกตะลึง ตระกูลลีโอเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลชั้นนำในฮ่องกงและร่ำรวยมาก ๆ แม้แต่ตระกูลสิบอันดับแรกของประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ทื่อยากจะยุ่งกับพวกเขา พวกเขายังอาจที่จะต้องจ่ายในราคาที่มหาศาลเพื่อการกระทำเช่นนั้น กระนั้น ก็ยังมีชายผู้หนึ่งพูดคำดูถูกตระกูลลีโอออกมาจริง ๆ หลายคนจำฮาร
ในเวลาเดียวกัน… ที่ประตูของสนามบินบัควู้ด ในที่สุดรถปอร์เช่สุดหรูก็หาที่จอดรถได้ แมนดี้ก้าวลงจากรถ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อยขณะที่สำรวจสถานการณ์เบื้องหน้าของเธอ “คุณพ่อ คุณแม่… เราจะมาเชิญผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองจริง ๆ เหรอคะ?” แมนดี้ลังเลเล็กน้อย ลิเลียนและไซม่อน ทั้งสองได้เซ้าซี้ให้เธอมาที่สนามบินหลังจากที่เห็นข่าวที่ระบุว่าอาวุโสออสการ์กำลังจะมาที่บัควู้ดเมื่อเช้านี้ ลิเลียนยิ้ม “ลูกสาวสุดที่รักของแม่ บริษัทของลูกกำลังสร้างซิลเวอร์ นิมบัส เมาท์เทน รีสอร์ต จากที่เห็นความคืบหน้าแล้ว คิดว่าน่าจะขายได้ภายในหนึ่งหรือสองเดือนใช่ไหม?” แมนดี้คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ใกล้เสร็จแล้วค่ะ” ลิเลียนปรบมือและพูดว่า “นั่นเป็นเหตุผล! ลูกไม่คิดว่าลูกควรเริ่มคิดเกี่ยวกับการขายมันในตอนนี้หรือ? ก่อนหน้านี้แม่เคยคิดว่าจะหาตัวแทนโปรโมทให้ลูกได้ที่ไหนสักที่ แต่ว่าตอนนี้มีบุคคลที่น่าสนใจกว่าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ใช่เหรอ?” "คุณแม่กำลังหมายถึงอะไรคะ?" แมนดี้ไม่เข้าใจ “ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง! ถ้าเขาสามารถมาดูสถานที่ก่อสร้างของซิลเวอร์ นิมบัส เมาท์เทน รีสอร์ตได้ เราสามารถประชา
ในขณะเดียวกัน… ผู้คนเกือบพันคนมารวมตัวกันนอกทางเดินโซนVIPของสนามบินบัควู้ด และจำนวนผู้คนยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาทั้งหมดอัดแน่นเข้าไปยังพื้นที่ทางออก ไม่ว่าพวกเขาจะมีคุณสมบัติหรือไม่ก็ตาม ทุกคนต่างก็กำลังวางแผนที่จะลองเสี่ยงโชคดู ในที่สุดก็มีการประกาศจากพนักงานภายในสนามบิน เครื่องบินส่วนตัวของออสการ์ อาร์มสตรองได้ลงจอดแล้ว และเขากำลังที่จะออกมาอีกในไม่ช้า คริส ลีโอและคนอื่น ๆ เคร่งขรึมและมุ่งมั่น พวกเขาจ้องมองไปที่ทางออกด้วยความคาดหวัง ฮาร์วีย์เดินไปที่ขอบ ๆ ของฝูงทีมารวมตัวกันอย่างท่วมท้น ปฏิเสธที่จะเบียดเสียดกับคนอื่น ๆ เมื่อเห็นแบบนี้หลาย ๆ คนต่างก็เย้ยหยันเขา ดูเหมือนว่าลูกเขยที่ไม่เอาไหนของบ้านซิเมอรืคนนี้เขาจะยังรู้ตัวเองว่าเขาควรยืนอยู่ตรงไหน เขาคงรู้ว่าเขานั้นไม่สามารถเชิญผู้อาวุโสออสการ์ได้ อย่างไรก็ตาม คริส ลีโอนั้นเขาได้ตกเป็นที่คาดหมาย ใครในนี้บ้างที่จะมีสิทธิ์ไปเทียบเคียงกับเขาได้? ประมาณสามนาทีต่อมา ก็มีบุคคลจำนวณหนึ่งเดินออกมาจากทางออกของโซน VIP คนแรกที่ปรากฏตัวไม่ใช่ใครอื่นผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองนั่นเอง แม้ว่าชายผู้นี้จะมีอายุเกือบเจ็ด
ออสการ์ปฏิเสธคริสและดูเหมือนไม่ได้กังวลมากนักเกี่ยวกับการถูกแบล็กเมลทางด้านศีลธรรม คริสหน้าซีด เขารู้ว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะพูดอะไรอีก ออสการ์มีความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีต่อตระกูลลีโอเนื่องจากการใช้เรื่องศีลธรรมมาบีบบังคับอย่างที่คริสได้กระทำ “ผู้อาวุโสอาร์มสตรอง ดิฉันเป็นเลขานุการของทางการเซาท์ไลท์ ท่านผู้อาวุโสซาเวียร์ค่ะ ท่านผู้อาวุโสอยากที่จะเชิญท่านไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเขาและร่วมพูดคุยหารือคำแนะนำเกี่ยวกับระบบการแพทย์ของเซาท์ไลท์ค่ะ” ผู้อาวุโสไม่ได้มาเชิญด้วยตัวของเขาเอง เขาจึงส่งตัวแทนเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของเขามาต้อนรับและเชิญชวนออสการ์แทน “ถ้างั้นผมก็ต้องขอรบกวนฝากคำขอบคุณไปถึงท่านผู้อาวุโสซาเวียร์ด้วยก็แล้วกัน แต่ว่าผมมีนักเรียนอยู่จำนวณหนึ่งที่ทำงานอยู่ในรัฐบาลเซาท์ไลท์ ผมเกรงว่าจะมีข้อพิพาทเรื่องการปฏิบัติโดยใช้ตำแหน่งของทางราชการเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ถ้าผมไปร่วมรับประทานอาหารกับเจ้าหน้าที่ของรัฐผมเกรงว่ามันจะดูไม่งามนัก และผมก็หวังว่าท่านซาเวียร์จะเข้าใจนะครับ” ออสการ์หัวเราะคิกคักและปฏิเสธคำเชิญของเชลดอน ต่อจากนั้น ตัวแทนทั้งหมดจากตระกูลใหญ่ ๆ ก็ก้าวไปข้า
เมื่อเห็นแมนดี้กำลังถูกทำร้ายด้วยวาจาจนหน้าซีดเผือดและร่างกายของเธอก็สั่นเทิ้ม... ลิเลียนทนไม่ไหวอีกต่อไปไหน ๆ คนก็มองว่าเธอเป็นคนที่ไร้ซึ่งยางอาย ดังนั้นเธอจึงกระทืบเท้าชี้ไปรอบ ๆ และด่ากราด “พวกคุณคิดว่าพวกคุณกำลังตะโกนใส่ใคร?” “ถึงครอบครัวของเราจะเชิญผู้อาวุโสอาร์มสตรอง แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของพวกคุณ!" “พวกคุณลืมตัวตนของลูกสาวฉันไปแล้วเหรอ? เธอเป็นผู้หญิงที่กล้าปฏิเสธเจ้าชายยอร์กนะ!” “ใครในพวกคุณที่นี่บ้างที่จะสามารถมีสิทธิ์ปฏิเสธเจ้าชายยอร์กได้?” “ลูกสาวของฉันออกมาเชิญชวนผู้อาวุโสอาร์มสตรองไปที่โครงการก่อสร้างของเธอนั้น มันคือวิธีการให้เกียรติกับท่าน! ไม่เข้าใจเหรอไง?” ลิเลียนกอดอก จากนั้นเธอก็มองไปที่ผู้อาวุโสออสการ์และพูดขึ้นมาว่า “ผู้อาวุโสอาร์มสตรอง ท่านน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเจ้าชายยอร์กมาบ้างใช่ไหมคะ? ลูกสาวของดิฉันถือได้ว่าเป็นว่าที่ภรรยาของเขาในอนาคต ต่อให้ท่านไม่ให้เกียรติลูกสาวของดิฉัน แต่อย่างน้อยท่านก็จะช่วยแสดงความเคารพต่อเจ้าชายยอร์กบ้างใช่ไหมคะ?” มีเสียงหัวเราะเยาะดังมาจากทั่วทุกมุมหลังจากที่ลิเลียนพูดคำเหล่านั้นออกมา ออสการ์เองก็มีท่าทีแปลก
สายตาของทุกคนเยือกเย็นไปหมดครอบครัวนี้หน้าด้านจริง ๆ ผู้ชายกล้าพูดข่มขู่ตระกูลลีโอผู้ที่มาจากฮ่องกงส่วนผู้หญิงก็กล้ามาขวางทางออสการ์ อาร์มสตรองแล้วตอนนี้ลูกเขยเกาะเมียกินที่ไม่รู้จุดยืนของตัวเองกำลังขวางทางผู้อาวุโสอาร์มสตรองอยู่ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?คีธทนต่อไม่ไหวแล้ว เขาชี้ไปที่ฮาร์วีย์พร้อมทั้งดุด่าและสาปแช่ง “ฮาร์วีย์ ไอ้โง่! นายกำลังจะทำอะไรน่ะ? รปภ.อยู่ไหน? เอาตัวเขาออกไปเร็ว ๆ อย่าให้เขามาราวีผู้อาวุโสอาร์มสตรองอีก!”คนอื่น ๆ พูดขึ้นด้วยเช่นกัน“พอกันที ทั้งคู่เลย! เวลาของผู้อาวุโสอาร์มสตรองมีค่ามากนะ ถ้าทุกคนทำเหมือนที่นายทำและกล้ามาขวางทางผู้อาวุโสอาร์มสตรอง แล้วเขาจะรู้สึกยังไง?”“รีบออกไปได้แล้ว! ถ้ายังกล้ามาหยุดผู้อาวุโสอาร์มสตรองอีกล่ะก็ อย่ามาโทษพวกเราแล้วกันที่ต้องใช้ความรุนแรงกับนาย!”ฮาร์วีย์เมินคำพูดของพวกเขาและหันมายิ้มให้กับผู้อาวุโสอาร์มสตรองแทนพร้อมกับพูด “คุณคือผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองใช่ไหมครับ?”“ผมเป็นคนขับรถแท็กซี่ที่คุณเรียกมา รถจอดอยู่ด้านนอกแล้วครับ”ออสการ์สบตาของฮาร์วีย์ จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดขึ้น “ราคาสองดอลลาร์ใช่ไหม?”ฮาร์วีย์ยิ้ม
แมนดี้ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรก่อนที่เธอตอบสนอง เธอพูดตะกุกตะกัก “ฮาร์วีย์ อย่าทำเป็นเล่นนะ! การส่งชายชราคนนี้ไปยังจุดหมายปลายทางของเขาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนะ ถ้าธุระของเขาต้องล่าช้าออกไปเพราะคุณ คุณรับผลที่จะตามมาได้หรือเปล่า?”ฮาร์วีย์ยิ้ม “ที่รักไม่ต้องกังวลหรอก ผมบอกเขาไปแล้วตอนที่เขาโทรมาเรียกรถว่าผมจะไปส่งเขาให้ถึงปลายทางภายในวันนี้ ยังไงก็ตาม เขาจ่ายมาแค่สองดอลลาร์เอง เขาคาดหวังให้ถึงที่นั่นเร็วแค่ไหนกันเชียว?”แมนดี้พูดไม่ออก แต่สิ่งที่ฮาร์วีย์พูดก็ถูกมีที่ไหนบ้างที่ผู้อาวุโสอาร์มสตรองจะไป?ผู้คนโดยรอบจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ แม้แต่คริส ลีโอยังออกมาและตะโกนต่อว่า “ฮาร์วีย์ เลิกทำให้ผู้อาวุโสอาร์มสตรองเสียเวลาสักที! ฉันจะไปส่งเขาเอง!”“ไม่” ฮาร์วีย์พูดอย่างไม่แยแส“ทำไม?!” คริสแทบสำลัก“ถ้าผู้อาวุโสอาร์มสตรองไปแล้วใครจะเป็นคนจ่ายค่าเรียกรถ? นายคิดว่าฉันไม่ต้องใช้น้ำมันที่จะขับรถมาที่สนามบินเหรอ?” ฮาร์วีย์พูดอย่างตรงไปตรงมา“ก็ได้นายแค่ต้องการเงินสินะ! เงินนี่คงพอสำหรับค่าน้ำมันของนาย! ตอนนี้ก็ออกไปได้แล้ว!”คริสหยิบเงินดอลลาร์ฮ่องกงออกมาจำนวนก้อนหนึ่งและโยนลงพื้นต่อหน้าฮาร์ว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข