”รับทราบครับ! มิสเตอร์ฮาร์วีย์ วางใจได้เลย ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง!”ทิมรู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างมากเขาไม่เคยคิดเลยว่าจุดสูงสุดครั้งที่สองในชีวิตของเขาจะเกิดขึ้นแบบนี้***เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ซีนเธียร์ก็กลับไปเรียนอย่างสบายใจ เมื่อมีครูที่ดีอย่างมิสยูนาอยู่ใกล้ ๆ ฮาร์วีย์ก็สบายใจเช่นกันเมื่อฮาร์วีย์กำลังจะขึ้นรถเตรียมพร้อมที่จะกลับไป เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบเริ่มดังสะท้อนใกล้มาทางเขาเขาเอียงศีรษะเพื่อดูว่าเป็นใคร ดวงตาสีพีชของมิสยูนาก็จดจ่อจ้องมองมาที่เขาอยู่แล้ว แม้ว่าจะเป็นเพียงการจ้องมองธรรมดา ๆ แต่ก็รับรู้ได้ถึงอะไรที่แฝงอยู่“มีอะไรไหมครับ?” ฮาร์วีย์ถามมิสยูนาเดินไปข้างหน้าและตอบอย่างเบา ๆ ว่า “มิสเตอร์ยอร์ก ฉันขอบคุณสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ซีนเธียร์คงจะต้องรับโทษในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำ”ฮาร์วีย์ยิ้ม“ซีนเธียร์เป็นคนในครอบครัวของผม และผมก็ควรจะเป็นคนขอบคุณ”“ผมมาที่นี่วันนี้โดยบังเอิญ มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญล้วน ๆ”“แต่คุณยืนหยัดเพื่อเธอโดยไม่กลัวอำนาจพวกนั้น ผมชื่นชมคุณ”หลังจากฟังคำพูดของฮาร์วีย์ ใบหน้าที่เขินอายของมิสยูนาก็แดงระเรื่อราวกับส
ลุค เซอร์เรย์!ชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของ เมอร์เซเดส เบนซ์ จี คลาส คือเจ้าชายแห่งตระกูลเซอร์เรย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลอันดับหนึ่งในบัควู้ดเป็นเรื่องปกติที่เขาจะได้เจอกับมิสยูนา เพราะเยเลน่าเป็นนักเรียนในชั้นเรียนของเธอลุคไม่โกรธที่ถูกมิสยูนาปฏิเสธ จากนั้นเขาก็หันไปมองฮาร์วีย์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างสงสัยโดยไม่พูดอะไรสักคำ“เพราะผู้ชายคนนี้ที่ทำให้คุณปฏิเสธผมงั้นเหรอ?”“ขับรถปอร์เช่ 718 รถที่มีราคาเก้าหมื่นดอลลาร์ คุณคงไม่คิดว่ารถของผู้ชายคนนี้ดีกว่า เมอร์เซเดส เบนซ์ จี คลาส ของผม ใช่ไหม?”ยูนาขมวดคิ้ว“ลุค เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรถ ฉันแค่ไม่อยากทานข้าวกับคุณเท่านั้น”“ต่อให้เขาขับรถราคาหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์มาที่นี่ ฉันก็ยังจะไปทานข้าวกับเขา!”ลุคยิ้ม“มิสยูนา จุด ๆ นี้คุณควรจะเลือกผมสิ!”“แต่ผมบอกคุณก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผม ผู้ชายหน้าไหนก็ไม่สามารถใกล้ชิดคุณได้”“เพราะคุณเป็นของผม!”ลุคแสดงความเย่อหยิ่งจองหองจากพูดคำแบบนั้นออกไปสีหน้าของมิสยูนาเปลี่ยนไปมืดหม่นลงก่อนหน้านี้เธอเคยได้พบพูดคุยกับชายหนุ่มสองสามสามคนที่เคยชอบเธอ แต่หลังจากพบกับพวกเขาสองสามครั้ง
ลุคชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ จากนั้นเขาก็ยิ้มและรับรู้ได้ว่าฮาร์วีย์หมายถึงอะไร“นายพูดถูก รักแท้ต้องแลกกับเงินที่มากกว่านี้ นายอยากได้เท่าไหร่?”สีหน้าของยูนาเปลี่ยนไปหลังจากได้ยินคำพูดนั้นเธอไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะขายเธอเพื่อแลกเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นในเวลาต่อมา ฮาร์วีย์ก็ยกนิ้วขึ้นและยิ้มลุคชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหัวเราะ“นายกล้ามาก! ขอเงินหนึ่งแสนดอลลาร์เหรอ?!”ฮาร์วีย์ยิ้มเยาะ“คุณเข้าใจผมผิด เจ้าชายเซอร์เรย์ จำนวนนั้นไม่ที่ผมกำลังหมายถึง”“หนึ่งล้านดอลลาร์?”ลุคขมวดคิ้วมุ่นเดือดพล่านด้วยความโกรธชายคนนี้มาจากไหนก็ไม่รู้ จะใช้โอกาสนี้เพื่อยกระดับของตัวเอง!ลุคมองไปที่มิสยูนาด้วยความรังเกียจ‘นี่คือผู้ชายที่คุณเลือกงั้นเหรอ?’‘ผู้ชายคนนี้เห็นแก่เงิน!’ฮาร์วีย์หัวเราะและส่ายหัวอีกครั้งลุคสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตอบว่า “อย่าบอกนะว่านายต้องการสิบล้าน เด็กน้อย ฉันอยากจะบอกนายนะว่า บางครั้งนายต้องคิดประมาณในสิ่งที่นายสมควรได้รับ ฉันพูดกับนายอย่างสุภาพเพื่อแสดงความเคารพต่อมิสยูนาก็เท่านั้น ควรมีสามัญสำนึกซะบ้าง!”ฮาร์วีย์หัวเราะ“เจ้าชายเซอร์เรย์ คุณเข้าใจผมผิดจริง ๆ ผ
บาร์เพลงบนชั้นดาดฟ้าของห้างนี่เป็นสถานที่ที่คนหนุ่มสาวมักแวะเวียนกันมา พวกเขาชอบที่จะมาที่นี่เพื่อทานอาหารและฟังเพลงหลังจากสั่งอาหารไปสองสามอย่าง ฮาร์วีย์ก็เริ่มทานอาหารอย่างไม่สนใจโลกและมิสยูนาที่นั่งตรงหน้าเขาไม่ได้แตะอะไรเลยด้วยซ้ำ เธอยังคงกังวล“คุณควรกินอะไรหน่อยนะครับ ถ้าคุณไม่ทานอะไรตอนนี้ คุณอาจไม่มีเวลาทานอีก” ฮาร์วีย์กระตุ้นขณะตักอาหารให้เธอยูนาทำได้เพียงกินเข้าไปหนึ่งคำเพราะกลัวว่าจะทำร้ายความรู้สึกของฮาร์วีย์ แต่ความกังวลของเธอไม่สามารถแอบซ่อนจากใบหน้าของเธอได้เลย เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็เก็บกลั้นเอาไว้“มีอะไรหรือเปล่าครับ? อาหารไม่อร่อยเหรอ?”ฮาร์วีย์สงสัยก่อนหน้านี้ยูนาลังเลที่จะตอบเขา แต่ก็ยอมตอบออกมาว่า “ฮาร์วีย์ ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในธุรกิจของลุค”ฮาร์วีย์ตกใจมาก‘ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ!’หลังจากที่เห็นฮาร์วีย์ตัวแข็งค้างก็คิดว่าเขากลัว เธอจึงพูดต่ออีกว่า “รีบกินเถอะค่ะ เราควรออกไปเมื่อทานเสร็แล้ว”“ลุคไม่ใช่คนที่คุณควรจะล้อเล่นด้วย คุณรู้ว่าเขาเป็นเจ้าชายแห่งเซอร์เรย์ นั่นเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ”“ดอว์สันจากตระกูลเซอร์เรย์คุ
หลังจากนั้นชายสวมสูทก็เดินเข้ามาหาลุคอย่างรวดเร็ว“เจ้าชาย ผมได้ตรวจสอบชายคนนั้นอย่างละเอียดแล้ว”“รถของชายคนนั้นเป็นรถภายใต้ชื่อบริษัทใหญ่ ชื่อคนลงทะเบียนเป็นผู้หญิง น่าจะเป็นรถที่เขายืมมา”“และตามชื่อของเขา เขาน่าจะเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์คนนั้นครับ”“สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ คาดว่าจะได้วันพรุ่งนี้”ลุคหัวเราะเมื่อได้ยินเรื่องนี้“ลูกเขยกาฝากนั่นเช่ารถมาแล้วยังกล้าที่จะขโมยผู้หญิงของเจ้าชายงั้นเหรอ?”“ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไรอีก เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับคนพวกนี้”ระหว่างที่พูด ลุคก็ผลักประตูห้องและเดินตรงไปยังที่ที่ฮาร์วีย์และยูนากำลังรับประทานอาหารอยู่ตุบ!กองธนบัตรสีเขียวถูกโยนลงบนโต๊ะอาหารของฮาร์วีย์ น้ำซุปกระเซ็นไปทั่ว ทำให้เสื้อผ้าของเขาสกปรกฮาร์วีย์เอียงศีรษะขึ้นก็เห็นลุคยืนอยู่ตรงหน้า“ฮาร์วีย์ ยอร์ก ฉันได้ตรวจสอบตัวตนของนายอย่างละเอียดแล้ว นายน่าจะรู้สถานะของตัวเองดีกว่าฉันนะ!”“รับเงินหนึ่งพันดอลลาร์นี้แล้วออกไปซะ!”ฮาร์วีย์วางช้อนส้อมของเขาและตอบอย่างใจเย็นว่า “ผู้หญิงสวยคนนี้เป็นคนเลี้ยงอาหารมื้อนี้ผม มันประเมินค่าไม่ได้เลย คุณจะต้องจ่ายเงินที่มาทำลายบรรยาก
ยูนาค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยเพราะนี่หมายความว่าท่าทีที่ไร้กังวลของเขาในเหตุการณ์ที่โรงเรียนมัธยมบัควู้ดไม่ใช่เพราะเขามีอำนาจมันเป็นเพียงเพราะเขาไม่รู้ว่าตระกูลเซอร์เรย์นั้นแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็แค่โชคดี ภรรยาของเขาถึงกับต้องเรียกผู้บัญชาการสูงสุดแห่งบัควู้ดกับคนอื่น ๆ มาเพื่อช่วยเขายังมีช่องโหว่สำหรับเหตุการณ์นี้ตำแหน่งลูกเขยที่ไร้ประโยชน์นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเปลี่ยนความประทับใจของมิสยูนาที่มีต่อฮาร์วีย์ดวงตาของเธอก็แสดงออกถึงความรังเกียจที่มีต่อเขาลูกเขยอย่างเขายังมีความคิดสกปรกให้เธอมาเลี้ยงข้าวเขาอีกเหรอ?แต่ยูนาไม่สมควรถูกตำหนิ เธอสวยและยังมีดวงตาสีพีช ผู้ชายที่เข้าหาเธอมักจะมีความคิดชั่วร้ายเกี่ยวกับเธอนั่นคือเหตุผลที่เธอมักจะระมัดระวังและรังเกียจผู้ชายที่เข้ามาหาเธอและในสายตาของเธอ ฮาร์วีย์กลายเป็นหนึ่งในนั้นไปเรียบร้อยแล้วลุคเห็นท่าทีของยูนา และรู้ว่าคำพูดนั้นได้ผลกับเธอเขายิ้มพอใจ“ไงเจ้าลูกเขยไร้ประโยชน์ ฉันจะเอาทุกอย่างคืน นายจะไม่ได้แม้แต่หนึ่งพันดอลลาร์!”“ฉันอยากให้นายคลานออกไปจากที่นี่!”“ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันจะหักขานายเอง!”สีหน้าของยูนายังคงปกติหลั
“โอกาสอะไร?” ฮาร์วีย์ถามอย่างใจเย็นลุคตบมือลงบนโต๊ะและกวาดอาหารที่เหลือของฮาร์วีย์กระจัดกระจายลงไปที่พื้น จากนั้นเขาก็เหยียบโต๊ะด้วยรองเท้าหนังของเขา“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้! แล้วเลียรองเท้าของฉันให้สะอาดแล้วออกไป!”“ใช่! เลียรองเท้าซะ!”“กล้าดียังไงมายุ่งกับผู้หญิงที่เจ้าชายเซอร์เรย์สนใจ! กล้าดีอะไร!”“คุณยังโชคดีที่ยังไม่ถูกทุบตีจนตาย แต่ยังจองหองต่อหน้าเจ้าชาย!”“...”ฝูงชนเริ่มตะโกนโห่ร้อง ลุคเผยรอยยิ้มราวกับผู้ชนะ มองลงมายังฮาร์วีย์อย่างภาคภูมิใจฮาร์วีย์ถอนหายใจอีกครั้ง“มิสยูนา ผมไม่คิดว่าคุณเป็นคนสวยที่อันตรายขนาดนี้”ยูนาขมวดคิ้ว เธอรู้สึกรังเกียจฮาร์วีย์มากขึ้นผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่เป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น เขายัจะโยนความผิดทั้งหมดให้กับเธอเมื่อเรื่องต่าง ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นนี้หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ยูนาก็ยืนขึ้นและมองไปลุค“ลุค ปล่อยเขาไปเถอะ ฉันจะยอมทานอาหารกับคุณถ้าคุณปล่อยเขาไป!”ฮาร์วีย์รู้สึกสับบสนเมื่อได้ยินสิ่งที่คุณยูนาพูดเขาไม่คิดว่าคุณยูนาจะยังอยู่ต่อกับลุคภายใต้สถานการณ์แบบนี้ลุคหัวเราะ“ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าผมจะยอมรับข้อเสน
ฮาร์วีย์หัวเราะ เขาไม่ได้คาดหวังว่าลุคจะยอมสยบลงในช่วงเวลาสำคัญนี้เช่นกันเขามองลุคอยู่ครู่หนึ่งแล้วหัวเราะเบา ๆ แล้วพึมพำว่า “น่าสนใจ”“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” ลุคพูดขึ้นอย่างเย็นชา“เจ้าชายเซอร์เรย์สั่งให้คุณออกไป! ทำไมคุณถึงยังยืนอยู่ตรงนี้?!”“ออกไปเดี๋ยวนี้! หลังจากนี้จำไว้ว่าเจ้าชายเซอร์เรย์ไม่ใช่คนที่คุณจะมาทำให้ขุ่นเคืองได้!”เมื่อต้องเผชิญกับการดูถูกดูหมิ่นและเสียงตะโกนจากคนอื่น ๆ ฮาร์วีย์ก็เดินออกไปโดยไม่สนใจยูน่าวิ่งตามฮาร์วีย์ให้ทันเมื่อเห็นแบบนั้น ใบหน้าของลุคก็มืดลงแต่เขาไม่คิดจะเข้าไปห้าม“เจ้าชาย ทำไมจึงปล่อยเขาไป? เขาไม่เชื่อฟังคุณเลย!” ลูกน้องของเขาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและถามด้วยความอยากรู้เพียะ!ลุคตบหน้าลูกน้องคนนั้นอย่างแรงและตะโกนใสอย่างเย็นชา “แกจะไปรู้อะไร? ผู้ชายคนนั้นอาจมีทักษะอะไรบางอย่าง ไปสืบมาให้หมด! สืบให้ละเอียด!”“หลังจากทุกอย่างชัดเจนแล้ว ฉันจะตัดสินใจเองว่าจะทำยังไงต่อไป!”“รับทราบครับ! เจ้าชายของเรามองสถานการณ์ได้ทะลุจริง ๆ น่าชื่นชม!”ลูกน้องที่โดนตบไม่กล้าบ่นอะไรออกมาอีก แต่เขาชื่นชมลุคอย่างไม่หยุดหย่อนรอยยิ้มเย็นเยียบผุดขึ้นบนใบหน
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข