ในตอนแรกฮาร์วี่ย์อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาเห็นโฮเวิร์ดแสดงพฤติกรรมออกมาเขาก็ส่ายหัวและไม่พูดอะไร แต่เขากลับเดินไปข้างๆเชอร์ลีย์และพูดว่า “เราไปด้วยกันไหม ฉันกลัวว่าจะมีปัญหาในภายหลัง”“นี่…” เชอร์ลีย์ลังเลเล็กน้อย เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฮาร์วี่ย์ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่เห็นได้ชัดว่าโฮเวิร์ดเป็นตัวหลักในคืนนี้ ถ้าเธอออกไปตอนนี้มันจะไม่ขัดใจโฮเวิร์ดหรือ?อีกด้านหนึ่ง เมื่อโฮเวิร์ดเห็นว่าฮาร์วี่ย์ยังอยู่ที่นั่นและยังไปทำความสนิทสนมกับเชอร์ลีย์อีก ใบหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้น เขาจ้องมองไปที่อาร์วี่ย์ “ฮาร์วี่ย์ไม่เป็นไรถ้านายจะไสหัวออกไป แต่นี่นายยังจะพาเพื่อนร่วมชั้นคนสวยของเราไปกับนายด้วยงั้นหรอ นายคิดว่านายเป็นใคร? นายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จงั้นเหรอ? อย่าลืมสิ! นายเป็นลูกเขยที่ขออาศัยเขาอยู่แค่นั้น และเรารู้สึกอับอายมากที่มีเพื่อนร่วมชั้นแบบนาย!”"ใช่เลย! เพื่อนร่วมชั้นทุกคนประสบความสำเร็จทั้งกันนั้น คุณนี่มันน่าขายหน้าจริง ๆ!”“อย่าชักช้าและไสหัวออกไปซะ! เชอร์ลีย์ เขาเป็นแค่ลูกเขยที่ไปขออาศัยบ้านคนอื่นอยู่ คุณอย่าไปหลงกลเขานะ!”โฮเวิร์ดที่เป็นตัวหลักในค่ำคืนนี้ และเพ
“อ๊ะ…” โฮเวิร์ดตกตะลึง นี่…“ปฎิเสธงั้นหรอ?”“ ไม่…ไม่…คุณไทสัน ขอให้สนุกและเพลิดเพลินนะครับ…” โฮเวิร์ดไม่กล้ามองหน้าเวนดี้ในขณะที่เขาพูดจบ เขาคว้ากุญแจบนโต๊ะและกำลังจะวิ่งหนีไป“โฮเวิร์ด!ไอ้สารเลว!” เวนดี้ตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอไม่เคยคิดว่าสุภาพบุรุษอย่างเขาจะเป็นคนขี้ขลาดอย่างนี้ เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ก็ตกใจกลัวเช่นกัน ทุกคนดูเหมือนขวัญเสียไปกับปัญหานี้ฮาร์วี่ย์เป็นคนเดียวที่มีใบหน้าว่างเปล่า ไม่ใช่เหตุผลอื่นใด แต่เป็นเพราะเขาเคยเป็นคนที่ฝึกฝนและดูแล ไทสัน วูดส์ เมื่อตอนที่เขายังอยู่กับตระกูลยอร์กเมื่อตอนไทสันยังเด็ก เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน เขาไม่มีเงินและอำนาจ เขาเกือบตายบนท้องถนนอยู่หลายครั้ง ครั้งหนึ่งฮาร์วี่ย์พบกับเขาและคิดว่าเขาอาจจะกลายเป็นบุคคลสำคัญในอนาคตได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจชุบเลี้ยงและฝึกฝนเขาเขาประหลาดใจที่ไทสันเติบโตขึ้นมากในเวลาเพียงไม่กี่ปีถึงอย่างไรก็ตามฮาร์วี่ย์ไม่ได้คาดหวังว่าไทสันจะจดจำเขาได้ เขาไม่ได้เป็นทายาทของตระกูลยอร์กมาหลายปีแล้ว ไทสันอาจจะลืมเขาไปแล้วในขณะเดียวกันไทสันผู้ชั่วร้ายก็กวาดสายตามองผ่านคนอื่นๆ ในห้องอย่างจงใจ แต่เมื่อเขามองผ่าน
เช้าวันรุ่งขึ้น ฮาร์วี่ย์ที่ยังคงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนพร้อมกับผมยุ่งๆ ขี่รถจักรยานไฟฟ้าของเขาไปยังย่านธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในนิอัมมี่ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ตั้งอยู่ในทำเลทองที่ดีที่สุดโยนาธานโทรหาเขาเมื่อคืนนี้และบอกว่าเขาได้ดำเนินการโอน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เขาเข้ามาเซ็นเอกสารในวันนี้ บริษัทจะเป็นของเขาในทันทีฮาร์วี่ย์ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่เขาซื้อบริษัทมาด้วยเงินหมื่นล้านดอลลาร์ นั่นเป็นสาเหตุที่เขารีบมาที่นี่ตั้งแต่เช้าโดยไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยด้วยซ้ำฮาร์วี่ย์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเขาไปถึงบริษัท ไม่น่าแปลกใจที่มันเป็นพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในนิอัมมี่ มีรถหรูอยู่ทุกที่ เขาขี่รถจักรยานไฟฟ้ามาที่นี่ ถ้าเขาจอดจักรยานไว้เฉยๆมันอาจจะถูกยกออกไปเขาขี่วนไปรอบๆ บริษัท และในที่สุดก็พบที่จอดรถที่ประตู จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงเบรกดังขึ้นทันทีที่เขาจอดจักรยานจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโครมคราม รถจักรยานไฟฟ้าของเขาก็ลอยกระเด็นหลังจากถูกรถปอร์เช่ชน"ให้ตายสิ!"ฮาร์วี่ย์พูดไม่ออก รถจักรยานไฟฟ้าของเขาช่างโชคร้ายเหลือเกิน แบตเตอรี่ก็เพิ่
“คุณไล่ผมออกงั้นเหรอ”ฮาร์วี่ย์หัวเราะ พนักงานจะขอไล่เจ้านายออกไปได้อย่างไร? “คุณไม่เข้าใจที่ฉันเหรอ ฉันไล่คุณออก! ไม่ว่าใครจะรับคุณเข้ามาก็ตามฉันไม่สนใจ แต่ตอนนี้ ออกไปซะเดี๋ยวนี้!” เวนดี้กัดฟันกรอดหลังจากพูดจบเธอหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและโยนมันลงบนพื้น เธอพูดอย่างดุดันว่า “คุณจะไม่ไปใช่ไหม หรือคุณต้องการเงิน? เอาเงินนี้แล้วออกไปซะ!”ในขณะนี้เสียงแตรที่ดังขึ้นทำให้พนักงานก็แตกตัวแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเพราะรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดตรงที่จอดรถของประธานบริษัท จากนั้นหญิงสาวในวัยยี่สิบต้นๆ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงหนังเนื้อละเอียดและผูกผมหางม้ารีบเดินลงมาพร้อมกับถือกระเป๋าในมือรูปร่างหน้าตาของเธออยู่ในระดับเดียวกับเวนดี้ แต่นิสัยใจคอของเธอนั้นเทียบไม่ได้กับเวนดี้เลยเธอไม่แม้แต่มองคนอื่นๆและรีบเดินไปหาฮาร์วี่ย์ เธอโค้งคำนับเก้าสิบองศาแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษค่ะมิสเตอร์ยอร์ก พอดีจราจรติดขัดนิดหน่อย ทำให้ดิฉันมาช้า”ฮาร์วี่ย์มองไปที่หญิงสาวหน้าตาคนนี้และจำได้ว่าเธอคืออีวอนน์ ซาเวียร์ เธอเคยอยู่ภายใต้การดูแลของเขาเมื่อตอนเขายังอยู่ที่ตระกูลยอร์ก เขาไม่เคยคิดว่าเธอจ
เวนดี้หน้าแดงขณะที่ฮาร์วี่ย์จ้องตรงมาที่เธอ เธอรู้สึกอาย เมื่อคืนนี้เธอยังหยิ่งผยองต่อหน้าฮาร์วี่ย์และยังดูหมิ่นเขาที่ริอาจมานั่งข้างๆเธอ ถึงอย่างนั้นเธอยังคงยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้เพื่อรอคำสั่งของเขาฮาร์วี่ย์จ้องมองเธอสักพัก แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ของเขาจะดูเย็นชาไปหน่อย แต่นิสัยของเธอก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นเขาพูดอย่างใจเย็นทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ “ผมจะไม่ไล่คุณออกเพราะเรื่องนี้หรอก สำหรับการเลื่อนตำแหน่งของคุณ คุณต้องแสดงให้ผมเห็นว่าคุณมีความสามารถแค่ไหนแล้วเราค่อยมาพูดถึงเรื่องนี้กัน”เขาไม่สนใจเธอหลังจากพูดแบบนั้นออกไป เขาเพิ่งได้มาบริษัทมาและยังไม่รู้ว่าบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างไร แล้วเขาจะมาเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้กับเวนดี้ได้อย่างไร?แม้ว่าเวนดี้จะสวย แต่ฮาร์วี่ย์ก็เคยเห็นผู้หญิงที่สวยกว่า อย่างน้อยแมนดี้ภรรยาของเขาก็สวยกว่าเธอด้วยซ้ำ…เมื่อประธาน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เปลี่ยนไป การลงทุนโครงการปัจจุบันทั้งหมดก็ชะลอเอาไว้ ถึงอย่างนั้นพวกเขาได้เพิ่มเงิน 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อจะลงทุนในโครงการที่มีปะสิทธิภาพข่าวที่ออกมาเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดดังสนั่นไปทั่วผืนดิน ข่าวนั้นได้ก
"ฮะ?" ฮาร์วี่ย์อึ้งไปชั่วขณะ ทั้งยังลืมที่จะกลืนสเต็กในปากลงไป ทำไมเขาไม่รู้ว่ายังไงสักวันเรื่องนี้จะเกิดขึ้น?ซินเธียร์รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาเมื่อเห็นฮาร์วีย์กลืนน้ำลาย เธอพูดขึ้นนมาว่า “ฉันไม่กังวลที่จะบอกนายหรอกนะ พี่ดอนได้มาสู่ขออย่างเป็นทางการกับตระกูลซิมเมอร์แล้ว และเขาจะส่งสินสอดมาให้เราคืนนี้ ถ้าคุณฉลาดพอก็อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลย ไม่อย่างนั้นละก็... ”ซินเธียร์หัวเราะเยาะเมื่อเธอพูดมันออกไป แม้ว่าตระกูลซิมเมอร์จะดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย พวกเขาก็มีบอดี้การ์ดอยู่หมือนกัน หากไอ้คนขี้แพ้คนสร้างปัญหาขึ้นมาละก็ พวกเขาก็จะทำให้เขาร่วงลงไปนอนที่พื้นอย่างแน่นอน“เอาล่ะทุกคน เงียบได้แล้ว คุณปู่มีบางอย่างจะแจ้งให้ทราบ!”คุณปู่ซิมเมอร์คือคนที่มีตำแหน่งสูงสุดเอื้อมมือออกไปเคาะบนโต๊ะเบา ๆ เขาประเมินสถานการณ์และพูดว่า “ทุกคน่าจะได้ยินข่าวนี้แล้วใช่ไหม? ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลงประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์อย่างกะทันหัน ประธานคนใหม่ได้ยุติการลงทุนทั้งหมดที่เคยมีการเจรจาก่อนหน้านี้ แล้วจะมีการลงทุนกับบริษัทอื่นอีก 5 พันล้านดอลลาร์... "“ฉันไม่รู้ว่าประธานคนใหม่ลึกลับแค่ไหน
ทุกคนมองไปตรงนั้น พวกเขาเห็นดอนสวมสูทที่ตัดเย็บอย่างปราณีตและที่ถูกเซ็ตเอาไว้ด้านหลังอย่างสวยงาม เขาดูหล่อและดูดี เขาถือกล่องของขวัญไว้ในมือและเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม“ยินดีต้อนรับมิสเตอร์แซนเดอร์ด้วยเสียงปรบมืออย่างอบอุ่น!” ชายหนุ่มตะโกนขึ้นมาและนั่นทำให้ทุก ๆ คนเอ่ยต้อนรับเขาเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์อย่างดอนได้รับการยอมรับและต้อนรับจากตระกูลซิมเมอร์มากกว่าเมื่อเทียบกับฮาร์วี่ย์ที่สำคัญที่สุดเขาสามารถช่วยตระกูลซิมเมอร์ได้!ในเวลานี้ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์มองไปที่ดอนราวกับว่าเขาเป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง!ดอนยิ้มและโบกมือให้กับทุก ๆ คน เขาดูเหมือนดาราที่เดินบนพรมแดงและดูเหมือนคนบินอยู่สูง“คุณท่านซิมเมอร์ครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนท่าน ผมมาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญ อย่างไรก็ตามฉันเป็นคนตรงๆ ดังนั้นผมจะพูดออกมาถ้าหากมีอะไรที่ผมอยากจะพูด!”ดอนยิ้มอย่างคนทะเยอทะยาน เขาพูดเสียงดังว่า “ผมตกหลุมรักแมนดี้ตั้งแต่แรกเห็น แต่น่าเสียดายที่เธอแต่งงานไปกับคนขี้แพ้!”“ผมมองว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเรื่องตลกมาตลอดสามปีแล้ว แต่แมนดี้ต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนกันนะ? ผมรักแมนดี้ ผมไม่อ
แมนดี้ที่รู้สึกแปลก ๆ ในตอนแรกรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจในขณะนี้ ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นในใจของเธอเธอมีความรู้สึกว่าเมื่อวานนี้ดอนส่งดอกกุหลาบให้เธอ และตอนนี้ดอนยอมรับมันเธอคิดถูกจริงๆเธอไม่เคยคิดว่าดอนจะทำตามที่พูด เขาเพิ่งพูดถึงดอกกุหลาบจากปรากเมื่อเช้าวานนี้ จากนั้นดอกกุหลาบก็ถูกส่งไปให้เธอในช่วงบ่ายและยังมีหัวใจแห่งปรากอยู่ด้วยสิ่งนี้มันไม่สามารถหาได้ง่ายๆ อย่างนั้นเขาคงวางแผนเรื่องนี้กับเธอมานานแล้วใช่ไหม?แม้ว่าแมนดี้จะรู้ดีว่าเธอไม่สามารถตกลงแต่งงานครั้งนี้ได้เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แต่เธอก็ยังคงหวั่นไหวและอาย“เฮ้ พวกคุณเห็นหรือยัง? ท่าทางของฮาร์วี่ย์ช่างน่าตลกสิ้นดี! เขาดูตกใจมาก! ฮ่าฮ่าฮ่า!”แซ็คยืนขึ้นชี้ไปยังฮาร์วี่ย์และหัวเราะออกมาหลายคนหันไปมองท่าทางของฮาร์วีย์หลังจากได้ยินแซ็คพูดออกมาใบหน้าของฮาร์วี่ย์ในตอนนี้ดูเคร่งครึมมาก ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่นใด แต่เป็นเพราะดอนช่างไร้ยางอายเกินไป เขาแสร้งว่าเป็นผู้ส่งและทำทุกอย่างด้วยความพยายามของเขา เขาไม่กลัวว่ามันจะถูกเปิดเผยความจริงเลยหรือ?"มิสเตอร์แซนเดอร์ดูท่าทางของลูกเขยของเราสิ เขาดูเห