แมนดี้ที่รู้สึกแปลก ๆ ในตอนแรกรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจในขณะนี้ ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นในใจของเธอเธอมีความรู้สึกว่าเมื่อวานนี้ดอนส่งดอกกุหลาบให้เธอ และตอนนี้ดอนยอมรับมันเธอคิดถูกจริงๆเธอไม่เคยคิดว่าดอนจะทำตามที่พูด เขาเพิ่งพูดถึงดอกกุหลาบจากปรากเมื่อเช้าวานนี้ จากนั้นดอกกุหลาบก็ถูกส่งไปให้เธอในช่วงบ่ายและยังมีหัวใจแห่งปรากอยู่ด้วยสิ่งนี้มันไม่สามารถหาได้ง่ายๆ อย่างนั้นเขาคงวางแผนเรื่องนี้กับเธอมานานแล้วใช่ไหม?แม้ว่าแมนดี้จะรู้ดีว่าเธอไม่สามารถตกลงแต่งงานครั้งนี้ได้เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แต่เธอก็ยังคงหวั่นไหวและอาย“เฮ้ พวกคุณเห็นหรือยัง? ท่าทางของฮาร์วี่ย์ช่างน่าตลกสิ้นดี! เขาดูตกใจมาก! ฮ่าฮ่าฮ่า!”แซ็คยืนขึ้นชี้ไปยังฮาร์วี่ย์และหัวเราะออกมาหลายคนหันไปมองท่าทางของฮาร์วีย์หลังจากได้ยินแซ็คพูดออกมาใบหน้าของฮาร์วี่ย์ในตอนนี้ดูเคร่งครึมมาก ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่นใด แต่เป็นเพราะดอนช่างไร้ยางอายเกินไป เขาแสร้งว่าเป็นผู้ส่งและทำทุกอย่างด้วยความพยายามของเขา เขาไม่กลัวว่ามันจะถูกเปิดเผยความจริงเลยหรือ?"มิสเตอร์แซนเดอร์ดูท่าทางของลูกเขยของเราสิ เขาดูเห
ทุกคนในคฤหาสน์ซิมเมอร์ตกอยู่ในความเงียบทันที ทุกคนหันไปมองฮาร์วีย์ด้วยความไม่อยากจะเชื่อเจ้าลูกเขยคนนั้นพูดทุกอย่างด้วยความมั่นใจ หรือเป็นไปไได้ไหมที่เขาจะรู้จริง ๆ ว่าซีอีโอคนใหม่ของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เป็นใคร?ดอนไม่แม้จะเชื่อเขาด้วยซ้ำ เขายิ้มอย่างเฉยชาและพูดว่า “ก็ได้! บอกพวกเราซิ! ว่าใครคือซีอีโอคนใหม่ในบริษัทของฉัน”ฮาร์วี่ย์ยื่นมือออกมาและชี้ไปที่ตัวเอง จากนั้นเขาก็พูดอย่างช้าๆ “ผมเองคือซีอีโอคนใหม่ของ. ยอร์ก เอ็นเทอรไพรส์”ทุกคนตกใจมาก จนพวกเขาพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะแต่วินาทีต่อมา ..."นายงั้นเหรอ?" ดอนตะลึงงันในตอนแรก แต่จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาท้องแข็งจนต้องกุมท้องตัวเองเอาไว้ในที่สุดเขาก็หยุดหัวเราะด้วยความพยายามอย่างมาก จากนั้นเขาก็มองไปที่ท่านผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ “ท่านซิมเมอร์ครับ ผมคิดว่าลูกเขยของท่านเพียงแค่อยากแสดงตลก แต่มันทำให้ผมประหลาดใจมากที่เห็นเขาทำตัวเหมือนคนโง่”ขณะที่เขาพูด แซ็คและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน พวกเขามองไปที่ฮาร์วี่ย์เหมือนกับที่พวกเขามองคนโง่แซ็คพูดออกมา “ฮาร์วี่ย์ แกเป็นแค่ลูกเขยที่ยังขออาศัยคนอื่นอยู่เลย ทำไมแกยังแ
พวกเขาดูงงงวย แต่หลังจากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดอนเยาะเย้ยและหัวเราะออกมาเช่นเดียวกัน “ฮาร์วี่ย์ นี่คือหลักฐานของนายงั้นเหรอ? นายไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกเหรอ”"มิสเตอร์แซนเดอร์ ทำไมต้องเสียเวลาคุยกับคนโง่ด้วย? ผมไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดด้วยซ้ำ!”ในขณะนั้นแซ็คไม่สามารถทนต่อไปได้อีกต่อไป เขาก้าวไปข้างหน้าและคว้าโทรศัพท์เครื่องเก่าของฮาร์วี่ย์และเขวี้ยงมันลงบนพื้น จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ฮาร์วี่ย์และด่าเขาว่า “แกมันก็แค่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์! ทำไมแกยังสร้างเรื่องอยู่ตลอดเวลา? แกอ้างว่านายมีหลักฐาน!ไอ้บ้าเอ๊ย!”“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! พวกเรารังเกียจที่แกยังอยู่ที่นี่!”“มีคนแบบแกในครอบครัวของเราได้อย่างไร…”“ไม่มีอะไรดีเลย!”ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์เริ่มว่าพวกเขาถูกฮาร์วี่ย์ทำให้ได้รับความอับอายอย่างมากพวกเขารู้อยู่แล้วว่าฮาร์วี่ย์ไม่มีทางเป็นซีอีโอคนใหม่ของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ได้แน่นอน แต่พวกเขารู้สึกเหมือนว่าฮาร์วี่ย์ประเมินพวกเขาต่ำเกินไป"นี่…"มันเกินความคาดหมายของฮาร์วีย์ที่อีวอนน์เลิกใช้หมายเลขติดต่อปัจจุบันของเธอซึ่งเธอใช้มันมาสามปี สิ่งสำคัญคือเธอไม่ได้แจ้งให้เขาทราบด้วย
เมื่อได้ยินสิ่งที่ดอนพูด ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิเมอร์ก็ใเต้นระรัว 'ใช่ ถ้าฉันยังปล่อยให้ฮาร์วี่ย์อยู่กับเรา ทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลซิมเมอร์จะต้องถูกทำลายเพราะมันอย่างแน่นอน '“ท่านซิมเมอร์ครับ คืนนี้เป็นงานเลี้ยงของท่าน นี่อาจจะดูไม่ดีถ้าคุณคิดอยากจทำร้ายเขา ให้ผมช่วยคุณมอบให้บทเรียนกับไอ้คนที่ไม่ได้เรื่องแบบมันนะครับ!”เมื่อเห็นว่าดอนกำลังจะเข้าทำร้ายฮาร์วี่ย์ ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ก็ไม่คิดที่จะหยุดเขานอกจากนี้คนอื่น ๆ ในตระกูลซิมเมอร์ก็สนุกกับฉากตรงหน้านี้เช่นกัน พวกเขารังเกียจฮาร์วี่ย์มานานและอยากเห็นดอนทุบตีทำร้ายมันดอนยิ้มอย่างมาดร้าย เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวและกำลังจะเหวี่ยงเตะไปที่ใบหน้าของฮาร์วี่ย์เขาไปเข้ายิมเพื่อฝึกฝนตัวเองมาสองสามปีแล้ว เขาเรียนเทควันโดมาสองสามปีกับโค้ชส่วนตัวและได้สายดำมาครอง การเตะของเขาดูเหมือนดุร้ายและแข็งแกร่ง“ฉันจำได้ว่ามิสเตอร์แซนเดอร์เป็นคนเก่งกาจด้านเทควันโดระดับสายดำ ตอนนี้ฮาร์วี่ย์คงจะสู้ไม่ไหว เขาจะถูกหามขึ้นเปลแน่นอน!”“มันเป็นคนโง่ที่แท้จริง ถ้าไม่ใช่เพราะมันดูไม่ดีที่กับเราทีทำร้ายมัน ฉันคงลงมือเองไปนานแล้ว!”“ใครขอให้มั
'อะไรเนี่ย?'ทุกคนอยู่ในอาการตกตะลึง 'เกิดอะไรขึ้น?'‘ไอ้คนไร้ประโยชน์นั่นเพียงแค่ยกมือขวาขึ้นเท่านั้น ทำไมดอนถึงกับล้มไม่เป็นท่าขนาดนี้? ’'ไอ้บ้านี่มีทักษะต่อสู้งั้นเหรอ?'‘หรือจะจริงที่ว่าหมาทุกตัวจะมีวันของมัน?’แต่พวกเขาก็แค่รู้สึกว่าฮาร์วี่ย์กำลังโชคดีและดอนก็โชคร้าย เพราะฮาร์วีย์เพียงแค่ยกมือขึ้น ดอนก็กระเด็นออกไป“ฮาร์วี่ย์…คอยดูเหอะ…” ดอนนอนอยู่บนพื้นตัวสั่น เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะลุกขึ้น ในตอนนั้นเองเขาชี้ไปที่ฮาร์วี่ย์และด่าว่าเขาอย่างรุนแรง “ฉันจะทำลายแก! ฉันจะให้แกชดใช้ คอยดูเหอะ…”ในขณะนั้นทุกคนกำลังจับจ้องไปที่ดอนซึ่งมีเลือดไหลออกมาที่จมูก แล้วพวกเขาก็หันไปมองฮาร์วี่ย์อย่างเวทนาลูกเขยทีไร้ประโยชน์อย่างเขามีทรัพย์สมบัติอะไรบ้าง? แต่ดอนกลับแตกต่างออกไป เขาเป็นถึงพนักงานระดับกลางของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ หากเขาตั้งมั่นเช่นนั้น แน่นอนว่ามันจะค่อนข้างง่ายสำหรับเขาที่จะทำลายฮาร์วี่ย์เพียงแค่ปลายนิ้วของเขาแต่ฮาร์วี่ย์ไม่ได้สนใจดอน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากพื้นและโทรหาโยนาธาน“ว่าไงฮาร์ฟ มีอะไรหรือเปล่า” อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เสียงโยนาธานฟังดูให้ความสนใจมากฮาร์ว
เมื่อพูดถึง ไทสัน วูดส์ ทุกคนในตระกูลต่างสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเข้าไปไทสันคือใครงั้นเหรอ? เขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในนิอัมมี่ หลายคนอยากจะได้รับความโปรดปรานจากเขา แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำได้ดอน ลูกเขยในอนาคต กลับสามารถขอให้เขามาที่นี่ได้ ดอนเป็นคนที่มีอิทธิพลและมีอำนาจมากแม้แต่ผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลซิมเมอร์ก็มองไปที่ดอนอย่างชอบใจ เขาค่อนข้างพอใจกับหลานเขยคนนั้น“คุณไม่ต้องการให้ผมมีชีวิตรอดจนถึงวันพรุ่งนี้งั้นเหรอ ดี" ฮาร์วี่ย์ยิ้ม “ผมอยากรู้จริงๆ คุณกำลังจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างและคุณจะเป็นคนทีไร้ประโยชน์ที่จะต้องเผชิญหน้ากับการล้มละลายในไม่ช้า ผมสงสัยจริงๆว่าคุณจะทำอย่างไร…”ใครบางคนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “เขาบ้าไปแลวงั้นเหรอ? มิสเตอร์แซนเดอร์เป็นคนหนุ่มที่ร่ำรวย เช็คหนึ่งล้านดอลลาร์ของเขายังอยู่ที่นี่ เขาพูดได้อย่างไรว่ามิสเตอร์แซนเดอร์กำลังจะสูญเสียทุกอย่างและเผชิญกับภาวะล้มละลาย? เขารู้หรือไม่ว่าการล้มละลายคืออะไร”“โอ้! ลูกเขยคนนี้มักจะอยู่แต่บ้าน ไม่แม้แต่จะดูทีวีหรืออ่านนิยาย เขาไม่มีการศึกษาที่ดีด้วยซ้ำ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาพูดเรื่องไร้สาระตอนนี้!”“ถ้าฉันเป็นเขา ฉั
ดอนดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ยิ้มและพยายามทำหน้าให้เป็นปกติ "ไม่มีอะไร ท่านรองประธานเชิญผมไปดื่มด้วยกัน แต่วันนี้ผมไม่ว่าง ผมนัดเขาวันพรุ่งนี้”ทุกคนในครอบครัวซิมเมอร์ต่างตกใจเมื่อได้ยินที่ดอนพูด ท่านรองประธาน ยอร์ค เอ็นเทอร์ไพรส์ เชิญดอนไม่ร่วมดื่มด้วยงั้นเหรอยิ่งไปกว่านั้น ดอนสามารถปฏิเสธและสามารถกำหนดเวลานัดหมายใหม่ได้วันพรุ่งนี้อีก เขาช่างเป็นคนมีระดับและหน้าตาทางสังคม!ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์อดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าและรวมตัวยืนรอบ ๆ ดอนเพื่อทำให้เขาพึงพอใจในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงเบรกดังมาจากประตูคฤหาสน์ รถสีดำหลายคันจอดเรียงกันอยู่ที่ประตูจากนั้น ประตูรถก็ถูกผลักให้เปิดออก ชายฉกรรจ์นับสิบคนลงจากรถมือถือมีดหั่นแตงโมและไม้เบสบอลชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวหน้าตาดูโหดร้ายกำลังเดินอยู่ตรงกลางท่ามกลางชายฉกรรจ์เหล่านั้น นั่นคือ ไทสัน วูดส์ ในตำนานเขาคาบบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดไฟไว้ที่ปาก มองไปที่คฤหาสน์ตรงหน้าด้วยความสนใจ“บราเทอร์ไทสัน!” ดอนรีบวิ่งเข้าไปหาและโค้งคำนับให้ไทสันซึ่งเป็นหัวหน้าของชายฉกรรจ์เหล่านี้ นอกจากนี้เขายังช่วยเขาจุดบุหรี่ด้วยความตั้งอกตั้งใจไทสั
ฮาร์วี่ย์เหลือบมองแมนดี้ด้วยความประหลาดใจ ในตอนแรกฮาร์วี่ย์รู้สึกว่าภรรยาของเขาละเลยเขามาตั้งแต่ต้นและไม่สนใจเขาเลย เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะห่วงใยความปลอดภัยของเขาในตอนนี้ หัวใจของเขาอบอุ่นขึ้นมาอย่างไรก็ตามแมนดี้ไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของฮาร์วี่ย์ ตอนนี้เธอรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก!นี่ใคร? นี่คือไทสัน วูดส์น ที่มีชื่อเสียง แม้ว่าเธอจะไม่เคยพบเจอเขา แต่เธอก็เคยได้ยินหลายต่อหลายคนพูดถึงเขาไทสัน วูดส์ เป็นเพียงแค่นักเลงเมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่แล้วเขาก็ได้รับฝึกฝนและดูแลโดยใครบางคน แต่เขายังดิ้นรนต่อสู้และในที่สุดก็สร้างชื่อให้ตัวเองในนิอัมมี่ได้สำเร็จแม้ว่าไทสันจะทำธุรกิจและมีล้มเหลวบ้างในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ชื่อเสียงของเขาก็ยังคงทรงพลังและน่ากลัวมาก ทั้งตำรวจและแก๊งองค์สามต้องยอมให้กับเขาฮาร์วี่ย์ ลูกเขยไร้ประโยชนน์อย่างเขาจะพบจุดจบที่เลวร้าย ถ้าเขายังกล้ายุ่งกับดอนต่อหน้าคน ๆ นี้“รีบออกไปสิ!” แมนดี้กระวนกระวาย เธอลุกขึ้นยืนและกำลังจะดึงฮาร์วี่ย์ออกไป แต่ซีนเธียร์กลับดึงรั้งเขาไว้อีกด้านซีนเธียร์พูดไม่ออก วันนี้พี่สาวของเธอคิดอะไร? เธอเสียสติไปแล้วงั้นเหรอ? ไม
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข