เช้าวันรุ่งขึ้น ฮาร์วี่ย์ที่ยังคงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนพร้อมกับผมยุ่งๆ ขี่รถจักรยานไฟฟ้าของเขาไปยังย่านธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในนิอัมมี่ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ตั้งอยู่ในทำเลทองที่ดีที่สุดโยนาธานโทรหาเขาเมื่อคืนนี้และบอกว่าเขาได้ดำเนินการโอน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เขาเข้ามาเซ็นเอกสารในวันนี้ บริษัทจะเป็นของเขาในทันทีฮาร์วี่ย์ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่เขาซื้อบริษัทมาด้วยเงินหมื่นล้านดอลลาร์ นั่นเป็นสาเหตุที่เขารีบมาที่นี่ตั้งแต่เช้าโดยไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยด้วยซ้ำฮาร์วี่ย์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเขาไปถึงบริษัท ไม่น่าแปลกใจที่มันเป็นพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในนิอัมมี่ มีรถหรูอยู่ทุกที่ เขาขี่รถจักรยานไฟฟ้ามาที่นี่ ถ้าเขาจอดจักรยานไว้เฉยๆมันอาจจะถูกยกออกไปเขาขี่วนไปรอบๆ บริษัท และในที่สุดก็พบที่จอดรถที่ประตู จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงเบรกดังขึ้นทันทีที่เขาจอดจักรยานจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโครมคราม รถจักรยานไฟฟ้าของเขาก็ลอยกระเด็นหลังจากถูกรถปอร์เช่ชน"ให้ตายสิ!"ฮาร์วี่ย์พูดไม่ออก รถจักรยานไฟฟ้าของเขาช่างโชคร้ายเหลือเกิน แบตเตอรี่ก็เพิ่
“คุณไล่ผมออกงั้นเหรอ”ฮาร์วี่ย์หัวเราะ พนักงานจะขอไล่เจ้านายออกไปได้อย่างไร? “คุณไม่เข้าใจที่ฉันเหรอ ฉันไล่คุณออก! ไม่ว่าใครจะรับคุณเข้ามาก็ตามฉันไม่สนใจ แต่ตอนนี้ ออกไปซะเดี๋ยวนี้!” เวนดี้กัดฟันกรอดหลังจากพูดจบเธอหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและโยนมันลงบนพื้น เธอพูดอย่างดุดันว่า “คุณจะไม่ไปใช่ไหม หรือคุณต้องการเงิน? เอาเงินนี้แล้วออกไปซะ!”ในขณะนี้เสียงแตรที่ดังขึ้นทำให้พนักงานก็แตกตัวแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเพราะรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดตรงที่จอดรถของประธานบริษัท จากนั้นหญิงสาวในวัยยี่สิบต้นๆ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงหนังเนื้อละเอียดและผูกผมหางม้ารีบเดินลงมาพร้อมกับถือกระเป๋าในมือรูปร่างหน้าตาของเธออยู่ในระดับเดียวกับเวนดี้ แต่นิสัยใจคอของเธอนั้นเทียบไม่ได้กับเวนดี้เลยเธอไม่แม้แต่มองคนอื่นๆและรีบเดินไปหาฮาร์วี่ย์ เธอโค้งคำนับเก้าสิบองศาแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษค่ะมิสเตอร์ยอร์ก พอดีจราจรติดขัดนิดหน่อย ทำให้ดิฉันมาช้า”ฮาร์วี่ย์มองไปที่หญิงสาวหน้าตาคนนี้และจำได้ว่าเธอคืออีวอนน์ ซาเวียร์ เธอเคยอยู่ภายใต้การดูแลของเขาเมื่อตอนเขายังอยู่ที่ตระกูลยอร์ก เขาไม่เคยคิดว่าเธอจ
เวนดี้หน้าแดงขณะที่ฮาร์วี่ย์จ้องตรงมาที่เธอ เธอรู้สึกอาย เมื่อคืนนี้เธอยังหยิ่งผยองต่อหน้าฮาร์วี่ย์และยังดูหมิ่นเขาที่ริอาจมานั่งข้างๆเธอ ถึงอย่างนั้นเธอยังคงยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้เพื่อรอคำสั่งของเขาฮาร์วี่ย์จ้องมองเธอสักพัก แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ของเขาจะดูเย็นชาไปหน่อย แต่นิสัยของเธอก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นเขาพูดอย่างใจเย็นทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ “ผมจะไม่ไล่คุณออกเพราะเรื่องนี้หรอก สำหรับการเลื่อนตำแหน่งของคุณ คุณต้องแสดงให้ผมเห็นว่าคุณมีความสามารถแค่ไหนแล้วเราค่อยมาพูดถึงเรื่องนี้กัน”เขาไม่สนใจเธอหลังจากพูดแบบนั้นออกไป เขาเพิ่งได้มาบริษัทมาและยังไม่รู้ว่าบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างไร แล้วเขาจะมาเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้กับเวนดี้ได้อย่างไร?แม้ว่าเวนดี้จะสวย แต่ฮาร์วี่ย์ก็เคยเห็นผู้หญิงที่สวยกว่า อย่างน้อยแมนดี้ภรรยาของเขาก็สวยกว่าเธอด้วยซ้ำ…เมื่อประธาน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เปลี่ยนไป การลงทุนโครงการปัจจุบันทั้งหมดก็ชะลอเอาไว้ ถึงอย่างนั้นพวกเขาได้เพิ่มเงิน 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อจะลงทุนในโครงการที่มีปะสิทธิภาพข่าวที่ออกมาเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดดังสนั่นไปทั่วผืนดิน ข่าวนั้นได้ก
"ฮะ?" ฮาร์วี่ย์อึ้งไปชั่วขณะ ทั้งยังลืมที่จะกลืนสเต็กในปากลงไป ทำไมเขาไม่รู้ว่ายังไงสักวันเรื่องนี้จะเกิดขึ้น?ซินเธียร์รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาเมื่อเห็นฮาร์วีย์กลืนน้ำลาย เธอพูดขึ้นนมาว่า “ฉันไม่กังวลที่จะบอกนายหรอกนะ พี่ดอนได้มาสู่ขออย่างเป็นทางการกับตระกูลซิมเมอร์แล้ว และเขาจะส่งสินสอดมาให้เราคืนนี้ ถ้าคุณฉลาดพอก็อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลย ไม่อย่างนั้นละก็... ”ซินเธียร์หัวเราะเยาะเมื่อเธอพูดมันออกไป แม้ว่าตระกูลซิมเมอร์จะดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย พวกเขาก็มีบอดี้การ์ดอยู่หมือนกัน หากไอ้คนขี้แพ้คนสร้างปัญหาขึ้นมาละก็ พวกเขาก็จะทำให้เขาร่วงลงไปนอนที่พื้นอย่างแน่นอน“เอาล่ะทุกคน เงียบได้แล้ว คุณปู่มีบางอย่างจะแจ้งให้ทราบ!”คุณปู่ซิมเมอร์คือคนที่มีตำแหน่งสูงสุดเอื้อมมือออกไปเคาะบนโต๊ะเบา ๆ เขาประเมินสถานการณ์และพูดว่า “ทุกคน่าจะได้ยินข่าวนี้แล้วใช่ไหม? ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลงประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์อย่างกะทันหัน ประธานคนใหม่ได้ยุติการลงทุนทั้งหมดที่เคยมีการเจรจาก่อนหน้านี้ แล้วจะมีการลงทุนกับบริษัทอื่นอีก 5 พันล้านดอลลาร์... "“ฉันไม่รู้ว่าประธานคนใหม่ลึกลับแค่ไหน
ทุกคนมองไปตรงนั้น พวกเขาเห็นดอนสวมสูทที่ตัดเย็บอย่างปราณีตและที่ถูกเซ็ตเอาไว้ด้านหลังอย่างสวยงาม เขาดูหล่อและดูดี เขาถือกล่องของขวัญไว้ในมือและเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม“ยินดีต้อนรับมิสเตอร์แซนเดอร์ด้วยเสียงปรบมืออย่างอบอุ่น!” ชายหนุ่มตะโกนขึ้นมาและนั่นทำให้ทุก ๆ คนเอ่ยต้อนรับเขาเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์อย่างดอนได้รับการยอมรับและต้อนรับจากตระกูลซิมเมอร์มากกว่าเมื่อเทียบกับฮาร์วี่ย์ที่สำคัญที่สุดเขาสามารถช่วยตระกูลซิมเมอร์ได้!ในเวลานี้ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์มองไปที่ดอนราวกับว่าเขาเป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง!ดอนยิ้มและโบกมือให้กับทุก ๆ คน เขาดูเหมือนดาราที่เดินบนพรมแดงและดูเหมือนคนบินอยู่สูง“คุณท่านซิมเมอร์ครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนท่าน ผมมาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญ อย่างไรก็ตามฉันเป็นคนตรงๆ ดังนั้นผมจะพูดออกมาถ้าหากมีอะไรที่ผมอยากจะพูด!”ดอนยิ้มอย่างคนทะเยอทะยาน เขาพูดเสียงดังว่า “ผมตกหลุมรักแมนดี้ตั้งแต่แรกเห็น แต่น่าเสียดายที่เธอแต่งงานไปกับคนขี้แพ้!”“ผมมองว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเรื่องตลกมาตลอดสามปีแล้ว แต่แมนดี้ต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนกันนะ? ผมรักแมนดี้ ผมไม่อ
แมนดี้ที่รู้สึกแปลก ๆ ในตอนแรกรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจในขณะนี้ ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นในใจของเธอเธอมีความรู้สึกว่าเมื่อวานนี้ดอนส่งดอกกุหลาบให้เธอ และตอนนี้ดอนยอมรับมันเธอคิดถูกจริงๆเธอไม่เคยคิดว่าดอนจะทำตามที่พูด เขาเพิ่งพูดถึงดอกกุหลาบจากปรากเมื่อเช้าวานนี้ จากนั้นดอกกุหลาบก็ถูกส่งไปให้เธอในช่วงบ่ายและยังมีหัวใจแห่งปรากอยู่ด้วยสิ่งนี้มันไม่สามารถหาได้ง่ายๆ อย่างนั้นเขาคงวางแผนเรื่องนี้กับเธอมานานแล้วใช่ไหม?แม้ว่าแมนดี้จะรู้ดีว่าเธอไม่สามารถตกลงแต่งงานครั้งนี้ได้เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แต่เธอก็ยังคงหวั่นไหวและอาย“เฮ้ พวกคุณเห็นหรือยัง? ท่าทางของฮาร์วี่ย์ช่างน่าตลกสิ้นดี! เขาดูตกใจมาก! ฮ่าฮ่าฮ่า!”แซ็คยืนขึ้นชี้ไปยังฮาร์วี่ย์และหัวเราะออกมาหลายคนหันไปมองท่าทางของฮาร์วีย์หลังจากได้ยินแซ็คพูดออกมาใบหน้าของฮาร์วี่ย์ในตอนนี้ดูเคร่งครึมมาก ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่นใด แต่เป็นเพราะดอนช่างไร้ยางอายเกินไป เขาแสร้งว่าเป็นผู้ส่งและทำทุกอย่างด้วยความพยายามของเขา เขาไม่กลัวว่ามันจะถูกเปิดเผยความจริงเลยหรือ?"มิสเตอร์แซนเดอร์ดูท่าทางของลูกเขยของเราสิ เขาดูเห
ทุกคนในคฤหาสน์ซิมเมอร์ตกอยู่ในความเงียบทันที ทุกคนหันไปมองฮาร์วีย์ด้วยความไม่อยากจะเชื่อเจ้าลูกเขยคนนั้นพูดทุกอย่างด้วยความมั่นใจ หรือเป็นไปไได้ไหมที่เขาจะรู้จริง ๆ ว่าซีอีโอคนใหม่ของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เป็นใคร?ดอนไม่แม้จะเชื่อเขาด้วยซ้ำ เขายิ้มอย่างเฉยชาและพูดว่า “ก็ได้! บอกพวกเราซิ! ว่าใครคือซีอีโอคนใหม่ในบริษัทของฉัน”ฮาร์วี่ย์ยื่นมือออกมาและชี้ไปที่ตัวเอง จากนั้นเขาก็พูดอย่างช้าๆ “ผมเองคือซีอีโอคนใหม่ของ. ยอร์ก เอ็นเทอรไพรส์”ทุกคนตกใจมาก จนพวกเขาพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะแต่วินาทีต่อมา ..."นายงั้นเหรอ?" ดอนตะลึงงันในตอนแรก แต่จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาท้องแข็งจนต้องกุมท้องตัวเองเอาไว้ในที่สุดเขาก็หยุดหัวเราะด้วยความพยายามอย่างมาก จากนั้นเขาก็มองไปที่ท่านผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ “ท่านซิมเมอร์ครับ ผมคิดว่าลูกเขยของท่านเพียงแค่อยากแสดงตลก แต่มันทำให้ผมประหลาดใจมากที่เห็นเขาทำตัวเหมือนคนโง่”ขณะที่เขาพูด แซ็คและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน พวกเขามองไปที่ฮาร์วี่ย์เหมือนกับที่พวกเขามองคนโง่แซ็คพูดออกมา “ฮาร์วี่ย์ แกเป็นแค่ลูกเขยที่ยังขออาศัยคนอื่นอยู่เลย ทำไมแกยังแ
พวกเขาดูงงงวย แต่หลังจากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดอนเยาะเย้ยและหัวเราะออกมาเช่นเดียวกัน “ฮาร์วี่ย์ นี่คือหลักฐานของนายงั้นเหรอ? นายไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกเหรอ”"มิสเตอร์แซนเดอร์ ทำไมต้องเสียเวลาคุยกับคนโง่ด้วย? ผมไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดด้วยซ้ำ!”ในขณะนั้นแซ็คไม่สามารถทนต่อไปได้อีกต่อไป เขาก้าวไปข้างหน้าและคว้าโทรศัพท์เครื่องเก่าของฮาร์วี่ย์และเขวี้ยงมันลงบนพื้น จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ฮาร์วี่ย์และด่าเขาว่า “แกมันก็แค่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์! ทำไมแกยังสร้างเรื่องอยู่ตลอดเวลา? แกอ้างว่านายมีหลักฐาน!ไอ้บ้าเอ๊ย!”“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! พวกเรารังเกียจที่แกยังอยู่ที่นี่!”“มีคนแบบแกในครอบครัวของเราได้อย่างไร…”“ไม่มีอะไรดีเลย!”ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์เริ่มว่าพวกเขาถูกฮาร์วี่ย์ทำให้ได้รับความอับอายอย่างมากพวกเขารู้อยู่แล้วว่าฮาร์วี่ย์ไม่มีทางเป็นซีอีโอคนใหม่ของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ได้แน่นอน แต่พวกเขารู้สึกเหมือนว่าฮาร์วี่ย์ประเมินพวกเขาต่ำเกินไป"นี่…"มันเกินความคาดหมายของฮาร์วีย์ที่อีวอนน์เลิกใช้หมายเลขติดต่อปัจจุบันของเธอซึ่งเธอใช้มันมาสามปี สิ่งสำคัญคือเธอไม่ได้แจ้งให้เขาทราบด้วย