“คุณไล่ผมออกงั้นเหรอ”ฮาร์วี่ย์หัวเราะ พนักงานจะขอไล่เจ้านายออกไปได้อย่างไร? “คุณไม่เข้าใจที่ฉันเหรอ ฉันไล่คุณออก! ไม่ว่าใครจะรับคุณเข้ามาก็ตามฉันไม่สนใจ แต่ตอนนี้ ออกไปซะเดี๋ยวนี้!” เวนดี้กัดฟันกรอดหลังจากพูดจบเธอหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและโยนมันลงบนพื้น เธอพูดอย่างดุดันว่า “คุณจะไม่ไปใช่ไหม หรือคุณต้องการเงิน? เอาเงินนี้แล้วออกไปซะ!”ในขณะนี้เสียงแตรที่ดังขึ้นทำให้พนักงานก็แตกตัวแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเพราะรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดตรงที่จอดรถของประธานบริษัท จากนั้นหญิงสาวในวัยยี่สิบต้นๆ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงหนังเนื้อละเอียดและผูกผมหางม้ารีบเดินลงมาพร้อมกับถือกระเป๋าในมือรูปร่างหน้าตาของเธออยู่ในระดับเดียวกับเวนดี้ แต่นิสัยใจคอของเธอนั้นเทียบไม่ได้กับเวนดี้เลยเธอไม่แม้แต่มองคนอื่นๆและรีบเดินไปหาฮาร์วี่ย์ เธอโค้งคำนับเก้าสิบองศาแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษค่ะมิสเตอร์ยอร์ก พอดีจราจรติดขัดนิดหน่อย ทำให้ดิฉันมาช้า”ฮาร์วี่ย์มองไปที่หญิงสาวหน้าตาคนนี้และจำได้ว่าเธอคืออีวอนน์ ซาเวียร์ เธอเคยอยู่ภายใต้การดูแลของเขาเมื่อตอนเขายังอยู่ที่ตระกูลยอร์ก เขาไม่เคยคิดว่าเธอจ
เวนดี้หน้าแดงขณะที่ฮาร์วี่ย์จ้องตรงมาที่เธอ เธอรู้สึกอาย เมื่อคืนนี้เธอยังหยิ่งผยองต่อหน้าฮาร์วี่ย์และยังดูหมิ่นเขาที่ริอาจมานั่งข้างๆเธอ ถึงอย่างนั้นเธอยังคงยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้เพื่อรอคำสั่งของเขาฮาร์วี่ย์จ้องมองเธอสักพัก แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ของเขาจะดูเย็นชาไปหน่อย แต่นิสัยของเธอก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นเขาพูดอย่างใจเย็นทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ “ผมจะไม่ไล่คุณออกเพราะเรื่องนี้หรอก สำหรับการเลื่อนตำแหน่งของคุณ คุณต้องแสดงให้ผมเห็นว่าคุณมีความสามารถแค่ไหนแล้วเราค่อยมาพูดถึงเรื่องนี้กัน”เขาไม่สนใจเธอหลังจากพูดแบบนั้นออกไป เขาเพิ่งได้มาบริษัทมาและยังไม่รู้ว่าบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างไร แล้วเขาจะมาเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้กับเวนดี้ได้อย่างไร?แม้ว่าเวนดี้จะสวย แต่ฮาร์วี่ย์ก็เคยเห็นผู้หญิงที่สวยกว่า อย่างน้อยแมนดี้ภรรยาของเขาก็สวยกว่าเธอด้วยซ้ำ…เมื่อประธาน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เปลี่ยนไป การลงทุนโครงการปัจจุบันทั้งหมดก็ชะลอเอาไว้ ถึงอย่างนั้นพวกเขาได้เพิ่มเงิน 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อจะลงทุนในโครงการที่มีปะสิทธิภาพข่าวที่ออกมาเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดดังสนั่นไปทั่วผืนดิน ข่าวนั้นได้ก
"ฮะ?" ฮาร์วี่ย์อึ้งไปชั่วขณะ ทั้งยังลืมที่จะกลืนสเต็กในปากลงไป ทำไมเขาไม่รู้ว่ายังไงสักวันเรื่องนี้จะเกิดขึ้น?ซินเธียร์รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาเมื่อเห็นฮาร์วีย์กลืนน้ำลาย เธอพูดขึ้นนมาว่า “ฉันไม่กังวลที่จะบอกนายหรอกนะ พี่ดอนได้มาสู่ขออย่างเป็นทางการกับตระกูลซิมเมอร์แล้ว และเขาจะส่งสินสอดมาให้เราคืนนี้ ถ้าคุณฉลาดพอก็อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลย ไม่อย่างนั้นละก็... ”ซินเธียร์หัวเราะเยาะเมื่อเธอพูดมันออกไป แม้ว่าตระกูลซิมเมอร์จะดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย พวกเขาก็มีบอดี้การ์ดอยู่หมือนกัน หากไอ้คนขี้แพ้คนสร้างปัญหาขึ้นมาละก็ พวกเขาก็จะทำให้เขาร่วงลงไปนอนที่พื้นอย่างแน่นอน“เอาล่ะทุกคน เงียบได้แล้ว คุณปู่มีบางอย่างจะแจ้งให้ทราบ!”คุณปู่ซิมเมอร์คือคนที่มีตำแหน่งสูงสุดเอื้อมมือออกไปเคาะบนโต๊ะเบา ๆ เขาประเมินสถานการณ์และพูดว่า “ทุกคน่าจะได้ยินข่าวนี้แล้วใช่ไหม? ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลงประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์อย่างกะทันหัน ประธานคนใหม่ได้ยุติการลงทุนทั้งหมดที่เคยมีการเจรจาก่อนหน้านี้ แล้วจะมีการลงทุนกับบริษัทอื่นอีก 5 พันล้านดอลลาร์... "“ฉันไม่รู้ว่าประธานคนใหม่ลึกลับแค่ไหน
ทุกคนมองไปตรงนั้น พวกเขาเห็นดอนสวมสูทที่ตัดเย็บอย่างปราณีตและที่ถูกเซ็ตเอาไว้ด้านหลังอย่างสวยงาม เขาดูหล่อและดูดี เขาถือกล่องของขวัญไว้ในมือและเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม“ยินดีต้อนรับมิสเตอร์แซนเดอร์ด้วยเสียงปรบมืออย่างอบอุ่น!” ชายหนุ่มตะโกนขึ้นมาและนั่นทำให้ทุก ๆ คนเอ่ยต้อนรับเขาเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์อย่างดอนได้รับการยอมรับและต้อนรับจากตระกูลซิมเมอร์มากกว่าเมื่อเทียบกับฮาร์วี่ย์ที่สำคัญที่สุดเขาสามารถช่วยตระกูลซิมเมอร์ได้!ในเวลานี้ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์มองไปที่ดอนราวกับว่าเขาเป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง!ดอนยิ้มและโบกมือให้กับทุก ๆ คน เขาดูเหมือนดาราที่เดินบนพรมแดงและดูเหมือนคนบินอยู่สูง“คุณท่านซิมเมอร์ครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนท่าน ผมมาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญ อย่างไรก็ตามฉันเป็นคนตรงๆ ดังนั้นผมจะพูดออกมาถ้าหากมีอะไรที่ผมอยากจะพูด!”ดอนยิ้มอย่างคนทะเยอทะยาน เขาพูดเสียงดังว่า “ผมตกหลุมรักแมนดี้ตั้งแต่แรกเห็น แต่น่าเสียดายที่เธอแต่งงานไปกับคนขี้แพ้!”“ผมมองว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเรื่องตลกมาตลอดสามปีแล้ว แต่แมนดี้ต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนกันนะ? ผมรักแมนดี้ ผมไม่อ
แมนดี้ที่รู้สึกแปลก ๆ ในตอนแรกรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจในขณะนี้ ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นในใจของเธอเธอมีความรู้สึกว่าเมื่อวานนี้ดอนส่งดอกกุหลาบให้เธอ และตอนนี้ดอนยอมรับมันเธอคิดถูกจริงๆเธอไม่เคยคิดว่าดอนจะทำตามที่พูด เขาเพิ่งพูดถึงดอกกุหลาบจากปรากเมื่อเช้าวานนี้ จากนั้นดอกกุหลาบก็ถูกส่งไปให้เธอในช่วงบ่ายและยังมีหัวใจแห่งปรากอยู่ด้วยสิ่งนี้มันไม่สามารถหาได้ง่ายๆ อย่างนั้นเขาคงวางแผนเรื่องนี้กับเธอมานานแล้วใช่ไหม?แม้ว่าแมนดี้จะรู้ดีว่าเธอไม่สามารถตกลงแต่งงานครั้งนี้ได้เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แต่เธอก็ยังคงหวั่นไหวและอาย“เฮ้ พวกคุณเห็นหรือยัง? ท่าทางของฮาร์วี่ย์ช่างน่าตลกสิ้นดี! เขาดูตกใจมาก! ฮ่าฮ่าฮ่า!”แซ็คยืนขึ้นชี้ไปยังฮาร์วี่ย์และหัวเราะออกมาหลายคนหันไปมองท่าทางของฮาร์วีย์หลังจากได้ยินแซ็คพูดออกมาใบหน้าของฮาร์วี่ย์ในตอนนี้ดูเคร่งครึมมาก ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่นใด แต่เป็นเพราะดอนช่างไร้ยางอายเกินไป เขาแสร้งว่าเป็นผู้ส่งและทำทุกอย่างด้วยความพยายามของเขา เขาไม่กลัวว่ามันจะถูกเปิดเผยความจริงเลยหรือ?"มิสเตอร์แซนเดอร์ดูท่าทางของลูกเขยของเราสิ เขาดูเห
ทุกคนในคฤหาสน์ซิมเมอร์ตกอยู่ในความเงียบทันที ทุกคนหันไปมองฮาร์วีย์ด้วยความไม่อยากจะเชื่อเจ้าลูกเขยคนนั้นพูดทุกอย่างด้วยความมั่นใจ หรือเป็นไปไได้ไหมที่เขาจะรู้จริง ๆ ว่าซีอีโอคนใหม่ของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เป็นใคร?ดอนไม่แม้จะเชื่อเขาด้วยซ้ำ เขายิ้มอย่างเฉยชาและพูดว่า “ก็ได้! บอกพวกเราซิ! ว่าใครคือซีอีโอคนใหม่ในบริษัทของฉัน”ฮาร์วี่ย์ยื่นมือออกมาและชี้ไปที่ตัวเอง จากนั้นเขาก็พูดอย่างช้าๆ “ผมเองคือซีอีโอคนใหม่ของ. ยอร์ก เอ็นเทอรไพรส์”ทุกคนตกใจมาก จนพวกเขาพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะแต่วินาทีต่อมา ..."นายงั้นเหรอ?" ดอนตะลึงงันในตอนแรก แต่จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาท้องแข็งจนต้องกุมท้องตัวเองเอาไว้ในที่สุดเขาก็หยุดหัวเราะด้วยความพยายามอย่างมาก จากนั้นเขาก็มองไปที่ท่านผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ “ท่านซิมเมอร์ครับ ผมคิดว่าลูกเขยของท่านเพียงแค่อยากแสดงตลก แต่มันทำให้ผมประหลาดใจมากที่เห็นเขาทำตัวเหมือนคนโง่”ขณะที่เขาพูด แซ็คและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน พวกเขามองไปที่ฮาร์วี่ย์เหมือนกับที่พวกเขามองคนโง่แซ็คพูดออกมา “ฮาร์วี่ย์ แกเป็นแค่ลูกเขยที่ยังขออาศัยคนอื่นอยู่เลย ทำไมแกยังแ
พวกเขาดูงงงวย แต่หลังจากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดอนเยาะเย้ยและหัวเราะออกมาเช่นเดียวกัน “ฮาร์วี่ย์ นี่คือหลักฐานของนายงั้นเหรอ? นายไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกเหรอ”"มิสเตอร์แซนเดอร์ ทำไมต้องเสียเวลาคุยกับคนโง่ด้วย? ผมไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดด้วยซ้ำ!”ในขณะนั้นแซ็คไม่สามารถทนต่อไปได้อีกต่อไป เขาก้าวไปข้างหน้าและคว้าโทรศัพท์เครื่องเก่าของฮาร์วี่ย์และเขวี้ยงมันลงบนพื้น จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ฮาร์วี่ย์และด่าเขาว่า “แกมันก็แค่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์! ทำไมแกยังสร้างเรื่องอยู่ตลอดเวลา? แกอ้างว่านายมีหลักฐาน!ไอ้บ้าเอ๊ย!”“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! พวกเรารังเกียจที่แกยังอยู่ที่นี่!”“มีคนแบบแกในครอบครัวของเราได้อย่างไร…”“ไม่มีอะไรดีเลย!”ทุกคนในตระกูลซิมเมอร์เริ่มว่าพวกเขาถูกฮาร์วี่ย์ทำให้ได้รับความอับอายอย่างมากพวกเขารู้อยู่แล้วว่าฮาร์วี่ย์ไม่มีทางเป็นซีอีโอคนใหม่ของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ได้แน่นอน แต่พวกเขารู้สึกเหมือนว่าฮาร์วี่ย์ประเมินพวกเขาต่ำเกินไป"นี่…"มันเกินความคาดหมายของฮาร์วีย์ที่อีวอนน์เลิกใช้หมายเลขติดต่อปัจจุบันของเธอซึ่งเธอใช้มันมาสามปี สิ่งสำคัญคือเธอไม่ได้แจ้งให้เขาทราบด้วย
เมื่อได้ยินสิ่งที่ดอนพูด ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิเมอร์ก็ใเต้นระรัว 'ใช่ ถ้าฉันยังปล่อยให้ฮาร์วี่ย์อยู่กับเรา ทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลซิมเมอร์จะต้องถูกทำลายเพราะมันอย่างแน่นอน '“ท่านซิมเมอร์ครับ คืนนี้เป็นงานเลี้ยงของท่าน นี่อาจจะดูไม่ดีถ้าคุณคิดอยากจทำร้ายเขา ให้ผมช่วยคุณมอบให้บทเรียนกับไอ้คนที่ไม่ได้เรื่องแบบมันนะครับ!”เมื่อเห็นว่าดอนกำลังจะเข้าทำร้ายฮาร์วี่ย์ ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ก็ไม่คิดที่จะหยุดเขานอกจากนี้คนอื่น ๆ ในตระกูลซิมเมอร์ก็สนุกกับฉากตรงหน้านี้เช่นกัน พวกเขารังเกียจฮาร์วี่ย์มานานและอยากเห็นดอนทุบตีทำร้ายมันดอนยิ้มอย่างมาดร้าย เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวและกำลังจะเหวี่ยงเตะไปที่ใบหน้าของฮาร์วี่ย์เขาไปเข้ายิมเพื่อฝึกฝนตัวเองมาสองสามปีแล้ว เขาเรียนเทควันโดมาสองสามปีกับโค้ชส่วนตัวและได้สายดำมาครอง การเตะของเขาดูเหมือนดุร้ายและแข็งแกร่ง“ฉันจำได้ว่ามิสเตอร์แซนเดอร์เป็นคนเก่งกาจด้านเทควันโดระดับสายดำ ตอนนี้ฮาร์วี่ย์คงจะสู้ไม่ไหว เขาจะถูกหามขึ้นเปลแน่นอน!”“มันเป็นคนโง่ที่แท้จริง ถ้าไม่ใช่เพราะมันดูไม่ดีที่กับเราทีทำร้ายมัน ฉันคงลงมือเองไปนานแล้ว!”“ใครขอให้มั
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข