หลังจากเห็นแดเรียลคุกเข่าลงกับพื้น พร้อมกับตบหน้าตัวเองและร้องไห้คร่ำครวญแล้ว...จู่ ๆ ฝูงชนก็ต่างรู้สึกอ่อนแรงด้วยความตกใจ และหายใจกระหืดกระหอบด้วยความลำบากทุกคนมองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าสงสัยและเคอะเขินในตอนแรกพวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์เป็นเพียงคนโสโครกไร้ประโยชน์ที่จะถูกบดขยี้ได้ในทันทีพวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์และผู้หญิงที่เขารักจะต้องจบสิ้นไปแล้ว...แต่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะสามารถดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่นได้ง่าย ๆแดเรียลลงไปนอนกองอยู่บนพื้น อีกนิดเดียวเขาก็จะเห่าเหมือนสุนัขได้อยู่แล้วช่างเป็นภาพที่ดูน่าหดหู่เสียจริง ๆ!พนักงานเสิร์ฟสาวสวยคนนั้นซึ่งเคยมั่นใจในตัวเองมาก่อน ก็รู้สึกกลัวมากจนไม่กล้าด่ากราดออกไปเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแดเรียลจะกลัวไอ้คนบ้านนอกที่มีเพียงเขาคนเดียวถึงขนาดนี้'เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?''นามบัตรใบนั้นมันหมายถึงอะไรเหรอ?''เขามีสิทธิ์ทำให้แดเรียลต้องคุกเข่าจริง ๆ เหรอ?'ใบหน้าของแมนดี้ดูเป็นสีแสงสด แล้วมองออกไปที่เหล่าฝูงชนรอบ ๆ ตัวเธอ“ไม่เป็นไรนะฮาร์วีย์ เขาได้ขอโทษคุณแล้วนะ" เธอกระซิบบอก“ยังไม่พอหรอก" ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“ถ้าวันนี้เขาเจอคนอื่น คุณคิดว่าเขาจ
ฮาร์วีย์เหลือบมองแดเรียลแล้วหัวเราะเบา ๆ“แค่นี้เหรอ?”แดเรียลตัวแข็งทื่อในขณะที่กัดฟันกรอด“นี่คือรถปอร์เช่นะครับคุณยอร์ก ผมเพิ่งซื้อมาเพื่อวานนี้เอง" เขาพูดเบา ๆ โดยได้ใส่กุญแจรถเอาไว้ในกล่องของขวัญนั้น“คุณคงไม่มีรถใช้ตั้งแต่เดินทางมาถึงนี่...“กรุณารับไปด้วยเถอะครับ คุณไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรอกครับ“แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือนี่คือเบอร์โทรศัพท์ของผม! ถ้าต้องการอะไรก็โทรหาผมได้เลย ผมจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ ถึงแม้คุณจะสั่งให้ผมไปทำความสะอาดห้องน้ำหรือกวาดถนนก็ตาม!”แดเรียลรีบยัดกล่องของขวัญเข้าไปในมือของฮาร์วีย์ ก่อนจะผลุนผลันออกไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็วฮาร์วีย์ยิ้มในขณะที่มองดูของขวัญกล่องนั้น และรับเอาไว้อย่างเงียบ ๆ...แต่ทันทีที่เขาแกะกล่องของขวัญออกดู ดวงตาของเขาก็ดูสว่างไสวขึ้นทันทีเขาไม่จำเป็นต้องซื้อของขวัญอะไรอีกแล้ว นี่เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก!จากนั้นเขาก็ขับรถปอร์เช่ใหม่เอี่ยมคันนั้นไปที่ร้านอาหารเวสเทิร์น ที่อยู่บนชั้นหนึ่งของห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นนี่คือสถานที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดของซีนเธียร์ฮาร์วีย์รีบเดินไปที่ทางเข้าโดยไม่ได้สนใจที่จะอ่านข้อคว
เวสตินเป็นเพื่อนมหาวิทยาลัยเดียวกับซีนเธียร์ แต่ตอนนั้นเขาเป็นคนที่มีความสุขุมมาก จึงไม่ได้เข้าใกล้เธอเลยเมื่อเขามาที่โกลด์เด้น แซนด์ ก็บังเอิญที่ซีนเธียร์จัดงานเลี้ยงวันเกิดของเธอขึ้นมาพอดีหลังจากได้รับคำเชิญนั้นเวสตินก็รู้ว่าโอกาสของเขาได้มาถึงแล้วดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะบีบบังคับผู้หญิงที่เขาโหยหาให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขาหลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์เสียงกรีดร้องและเสียงเชียร์รอบตัวเขาทำให้เขาฉีกยิ้มออกมาอย่างมั่นใจเวสตินมั่นใจว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถต้านทานภาพโรแมนติกเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้โชว์ความร่ำรวยอันเหลือเชื่อของเขาแล้วแม้แต่ซีนเธียร์ที่ดูเหมือนมาจากหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำ ก็ยังไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้“ผมอยากจะบอกคุณตั้งแต่วันแรกที่เราเป็นเพื่อนมหาวิทยาลัยเดียวกันแล้วนะซีนเธียร์...”เวสตินยืนถือช่อกุหลาบอยู่ตรงหน้าซีนเธียร์ด้วยสีหน้าที่ดูเด็ดเดี่ยว“แต่โชคชะตาก็เล่นตลก ในตอนที่ผมกำลังจะบอกอะไรคุณนั้น คุณก็ได้ออกจากบัควู้ดไปแล้ว“ขอบคุณพระเจ้าที่พันธนาการเราเอาไว้ด้วยด้ายสีแดง! ทำให้เราบังเอิญมาเจอ
"ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะเวสติน"แต่ถึงยังไงก็ตามใบหน้าของซีนเธียร์ก็ดูเย็นชา เธอรังเกียจคนที่ทำอะไรแบบนี้กับเธอเป็นอย่างมาก เกลียดคนพวกนี้มากกว่าอะไรทั้งนั้นเธอมีความรู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังพยายามบีบบังคับเธอนี่เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของเธอนะ เธอไม่ควรจะถูกรบกวนแม้แต่การแสดงความเคารพต่อเวสตินด้วยซ้ำไป“คุณควรมอบอะไรทั้งหมดนี้ให้กับคนที่คุณรักนะ"ซีนเธียร์พูดอย่างระมัดระวัง เธอพยายามจะทำให้เวสตินโต้แย้งอะไรไม่ได้“ฉันมีคนที่อยู่ในใจฉันแล้ว“เราคบกันไม่ได้หรอก"เวสตินเป็นคนที่มีเกียรติมาก แล้วยังทั้งสูงและหล่ออีกด้วย...แต่ยังไงก็ตามซีนเธียร์ก็มีคนที่เธอรักอยู่แล้ว เธอไม่มีที่ว่างสำหรับคนอื่นอีกแล้วสีหน้าของน้องสาวเวสตินแปรเปลี่ยนไปทันที“ซีนเธียร์! เธอพูดอะไรแบบนี้เพราะความเขินอายไม่ได้นะ“ผู้หญิงที่อยากเป็นแฟนกับพี่ชายฉันยืนเรียงแถวกันจากนี่ไปจนถึงมอร์ดูเลยนะ!“ถ้าเธอไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ เธอก็จะไม่มีโอกาสได้คบหากับผู้ชายอย่างพี่ชายของฉันได้นะ!”ในทางตรงกันข้ามคำพูดของซีนเธียร์ไม่ได้ทำให้เวสตินสะทกสะท้านอะไรแม้แต่นิดเดียว“โอ้ ซีนเธียร์! อย่าอายไปเลยน่า! ผมรู้น
ฮาร์วีย์ที่เฝ้าดูมาโดยตลอดขมวดคิ้วแล้วก้าวออกไปข้างหน้าซีนเธียร์ปฏิเสธความรักของเวสตินอย่างแน่วแน่ แต่เธอก็ยังถูกบีบบังคับให้ยอมรับรักนั้นอยู่อีกในฐานะที่เป็นพี่เขยของเธอ ฮาร์วีย์ไม่อาจยอมให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ในขณะที่ก้าวไปข้างหน้านั้นกลุ่มผู้ชายในชุดสูทที่กำลังขวางทางซีนเธียร์เอาไว้ก็เดินเข้ามาหาเขาชายรูปร่างสูงประมาณ 180 เซ็นติเมตรก็กวาดตามองฮาร์วีย์ก่อนจะร้องบอกอย่างเย็นชาว่า "แกไม่เห็นคุณมิลเลอร์กำลังประกาศความรักของเขาอยู่เหรอ?”“คนแปลกหน้าเข้ามาข้างในไม่ได้!”ชายคนนั้นผลักฮาร์วีย์และไล่เขาออกไป“ซีนเธียร์เป็นน้องสาวฉัน แกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามไม่ให้ฉันเข้าไป?” ฮาร์วีย์ร้องคำราม“น้องสาวเหรอ?”ชายคนนั้นอ้าปากค้าง“ฉันไม่สนหรอกว่าแกเป็นใคร ยังไง ๆ แกก็เข้าไปไม่ได้!“ถ้าคุณมิลเลอร์ยังไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ใครก็เข้าไปทำลายฉากโรแมนติกของเขาไม่ได้...”ฮาร์วีย์หรี่ตามอง“ออกไป" เขาออกคำสั่งอย่างเย็นชา“โอ้? แกโกรธเหรอ?“ดูเหมือนแกจะไม่ใช่พี่ชายของเธอนะ แต่เป็นคนรักของเธอมากกว่า!“แกรู้สึกอับอายเมื่อผู้หญิงที่แกรักถูกคนอื่นตามตื๊ออย่างนั้นเหรอ? แกโดนหมิ่นศักดิ์
"ผมจะไม่ลุกขื้นจนกว่าคุณจะตอบตกลง!”เวสตินวางเข่าลงบนพื้นอย่างหนักแน่นเขาทำสีหน้าดูจริงใจและเต็มไปด้วยความรักราวกับว่าเขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อความรักเขาทำท่าราวกับว่าจะโขกหัวลงกับพื้นถ้าซีนเธียร์ไม่ยอมรับรักเขา“รับรักผมเถอะนะซีนเธียร์! คุณมัวรออะไรอยู่เหรอ?”“ใช่แล้ว! คุณมิลเลอร์คุกเข่ามานานแล้วนะ! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเข่าของเขาเกิดหักขึ้นมา?”“คุณไม่มียางอายหรือไง? ทำไมยังทำท่าลังเลอยู่อีกล่ะ?!”“คุณจะรับผิดชอบไหวเหรอถ้าคุณเป็นต้นเหตุทำให้คุณมิลเลอร์ต้องได้รับบาดเจ็บ?!”“ดูอารมณ์ของคนในห้องนี้สิ! พอได้แล้ว!”พวกผู้หญิงต่างตำหนิและกรีดร้องใส่ซินเธีย โดยคิดว่าเธอเป็นเพียงเด็กน้อยที่แสนจะโง่เขลา'การที่คุณมิลเลอร์มาขอความรักขนาดนี้นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง!''เธอกล้าปฏิเสธเขาได้ยังไงกัน?!'ถ้าผู้หญิงคนนั้นถูกผู้ชายมาขอความรัก พวกเขาก็คงพร้อมจะเป็นของกันและกันแล้วล่ะ!หลังจากพบกับเรื่องวุ่นวายทั้งหมดนั้น ใบหน้าของซีนเธียร์ก็ดูซีดลงเล็กน้อยเธอเคยเห็นนายน้อยผู้ร่ำรวยมามากมายแล้ว ซึ่งมีอยู่หลายคนมากที่หยุดเลิกตามตื๊อเธอด้วย...แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพบเจอคนหน้าด้านอย่างเวสติ
"โอ้? ตอนนี้เขาไม่ใช่คนที่คุณรักแล้วใช่ไหม?”“เขาดูจืดชืดจัง!”“เขาเป็นแค่ไอ้บ้านนอกคนหนึ่งเท่านั้นแหละ! ฉันแน่ใจ!”“คุณเป็นผู้หญิงสวยนะซีนเธียร์ คุณควรมองหาคนที่คู่ควรกับเวลาอันมีค่าของคุณมากกว่านะ!”“ทำไมคุณถึงลดตัวเองไปคบหากับไอ้บ้านนอกไร้ประโยชน์อย่างเขาล่ะ?”“คุณจะต้องทนทุกข์ทรมานกับไอ้โสโครกคนนี้ไปตลอดชีวิตเลยนะ! คุณไม่มีวันมีความสุขหรอก!”“ใช่แล้ว! คุณมิลเลอร์เป็นผู้ชายที่หล่อเหลาและร่ำรวยมาก! เขารักคุณอย่างจริงใจด้วยนะ! คุณควรถือเป็นเกียรตินะ!”ฝูงชนกำลังซุบซิบนินทาอย่างเมามัน แน่นอนว่าพวกเขาทุ่มความพยายามอย่างเต็มที่ในการยืนหยัดเพื่อเวสตินท้ายที่สุดแล้วความรักของการหยิ่งทะนงในตัวเองนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาของโลกในยุคนี้เหล่าสาวสวยต่างจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยความดูถูกเหยียดหยาม'ผู้ชายคนนี้กล้าดียังไงมาต่อสู้เพื่อแย่งผู้หญิงกับเวสติน?!''เขารู้ขีดจำกัดของตัวเองหรือเปล่า?'หลังจากเห็นคนแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้มาพูดคุยกระหนุงกระหนิงกับซีนเทีย สายตาของเวสตินก็แปรเปลี่ยนเป็นสายตาแห่งความดูถูกเหยียดหยามเขาดึงเช็คออกมาทันที แล้วเขียนตัวเลขสองสามตัวลงไป จากนั้นก็โยนลงไปบนโต๊ะ
"บอกมาว่าแกจะออกไปพร้อมกับเช็คใบนั้นหรือเปล่า!” ฮาร์วีย์รองถามอย่างเย็นชา“บอกมาว่าแกจะหยุดคุกคามซีนเธียร์ไหม!”“แกเป็นใครกันแน่ไอ้สารเลว?!” ฮาร์ลีย์ร้องคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว“แกไม่รู้จักพี่ชายของฉันเหรอ?!“แกแกล้าดียังไงมาท้าทายเขาแบบนี้?”เวสตินหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย“แกอยากจะต่อกรกับฉันจริง ๆ เหรอ?”เป็นธรรมดาที่เขาไม่เชื่อว่าฮาร์วีย์จะมีเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นจริง ๆถึงแม้ว่าฮาร์วีย์จะมีเงินจริง ๆ เวสตินก็จะไม่ยอมรับหรอกไม่ว่าจะยังไงก็ตามท้ายที่สุดแล้วภารกิจของเขาไม่ใช่แค่การคว้าสาวสวยมาอยู่ในอ้อมแขนของเขาเท่านั้นแต่เขายังพุ่งเป้าไปที่ตระกูลฌองในมอร์ดูด้วย ซึ่งเป็นตระกูลที่คอยหนุนหลังซีนเธียร์อยู่นั่นเองแต่ยังไงก็ตามฮาร์วีย์ตัดสินใจว่าเขาต้องการให้เวสตินเลิกล้มความตั้งใจนั้นอย่างเด็ดขาด“ฉันไม่สนหรอกว่าแกต้องการเงินนั้นหรือไม่ ถ้าแกยังคุกคามซีนเธียร์อยู่ล่ะก็ ฉันก็จะไม่ปล่อยแกไปง่าย ๆ หรอก" เขาเตือนพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา“นั่นเป็นการข่มขู่เหรอ?”เวสตินทำเสียงเยาะเย้ย“แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?! แกกล้าดียังไงมาต่อสู้เพื่อแย่งผู้หญิงกับฉัน?“ฉันเป็นลูกชายขอ