"ออกไปซะ! ที่นี่ไม่ต้อนรับแก!”อีเดนมีสีหน้าภาคภูมิใจเมื่อเห็นสีหน้าที่ดู 'น่าเวทนา' ของฮาร์วีย์“เพื่อเห็นแก่เอลเลน วันนี้ฉันจะปล่อยแกไป!“แต่อย่ามาโทษฉันล่ะ สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้!”ฮาร์วีย์เหลือบมองเอลเลนโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำเดียว เขาจะไม่ไล่บี้อีเดนเพื่อเห็นแก่เธอด้วย แต่...ถ้าอีเดนก่อปัญหาขึ้นมามากกว่านี้ ฮาร์วีย์ก็คงไม่ปล่อยอีเดนเอาไว้แน่“เดี๋ยวก่อนฮาร์วีย์!”เมื่อฮาร์วีย์กำลังจะเดินจากไป เอลเลนก็นึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้เธอโบกมือให้ฝูงชนเข้ามารวมตัวกัน เธอมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย แต่ในไม่ใช้สีหน้านั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่น“อีเดนเป็นแฟนของฉัน คุณเป็นเพื่อนที่ดีของฉันรวมทั้งเคทีด้วย!“ฉันรู้ว่าคุณกับเคทีไม่ได้ไยดีต่อตระกูลคอบบ์นัก ฉันรู้ว่าคุณกำลังวางแผนที่จะเปิดธุรกิจขึ้นมาเพื่อต่อต้านพวกเขาในวันฉลองครบรอบ “ฉันรู้ว่าคุณได้มอบสูตรน้ำอมฤตสีเงินสูตรดั้งเดิมของตระกูลคอบบ์ให้แก่เคทีด้วย...“แต่เพื่อเห็นแก่ฉันคุณช่วยยุติเรื่องนี้อย่างสันติได้ไหมคะ?“กรุณามอบสูตรยานั้นให้กับอีเดนเถอะค่ะฮาร์วีย์“เขาจะให้เงินในจำนวนที่คุณไม่มีวันหามาได้ในตลอดชีวิ
ฮาร์วีย์ปฏิเสธข้อเสนอของอีเดนอย่างใจเย็นหลังจากได้ยินผู้ชายที่ว่านอนสอนง่ายกล้าที่ตอบโต้...ใบหน้าที่งดงามของเอลเลนก็ดูมืดมนลงทันที แล้วเธอก็ขมวดคิ้วเธอกันฟันกรอดแล้วตะโกนใส่หน้าฮาร์วีย์“ในเมื่อคุณเป็นคนไร้หัวใจถึงขนาดนี้นะฮาร์วีย์! ก็ได้… ในเมื่อคุณไม่ให้ความเคารพฉันเลย ฉะนั้นก็อย่าโทษฉันในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปล่ะ“คุณจะไม่ได้ใช้อาคารสำนักงานของฉัน รวมทั้งไม่ได้ความช่วยเหลือจากบริษัทของฉันอีกต่อไป!“บอกคนของคุณให้ขนทุกสิ่งทุกอย่างออกไปในวันพรุ่งนี้...ไม่สิ...เดี๋ยวนี้เลย!“ฉันจะทำลายสถานที่แห่งนั้นให้ย่อยยับด้วย! คุณจะไม่ได้อะไรจากฉันเลย!“ท้ายที่สุดแล้วฉันก็ต้องช่วยแฟนและครอบครัวในอนาคตของฉันก่อน ฉันไม่สามารถไปอยู่ฝ่ายเดียวกับศัตรูได้!”“เอาทุกสิ่งทุกอย่างออกไปเหรอ?'“ทำลายสถานที่แห่งนั้นเหรอ?'ฮาร์วีย์หยุดชะงักทันที แล้วมองเอลเลนด้วยสีหน้าตกตะลึงหลังจากที่ได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเธอแล้ว เขาก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้...แต่ทันทีที่เธอกลับมาคบกับอีเดน เธอก็พูดออกมาหมดโดยไม่ลังเลอะไรเลยฮาร์วีย์ยิ้มให้เธอเล็กน้อย "คุณแน่ใจเหรอว่าอยากให้ผมทำแบบนั้น?”“คุณแน่ใจเหรอว่าอยาก
ฮาร์วีย์ถอนหายใจในสายตาของเขานั้นเอลเลนเป็นคนมีเหตุผลดังนั้นเขาจึงไม่คิดว่าเธอจะกลายเป็นแบบนี้เพื่อนคนอย่างอีเดนได้เธอกำลังพยามจะใช้ประโยชน์จากฮาร์วีย์ แต่เธอทำตัวราวกับว่าเธอกำลังดุด่าเขาด้วยความมีคุณธรรมสูงส่งฮาร์วีย์พูดไม่ออกเลยด้วยซ้ำไป“ฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังพูดอยู่ ฉันรู้ดีว่าสูตรยานั้นมีมูลค่าขนาดไหน!”เอเลนมีความภาคภูมิใจเพิ่มมากขึ้นหลังจากโดนฮาร์วีย์ดูหมิ่นดูแคลน เธอทำสีหน้าที่ดูแย่มาก“แต่ถึงกระนั้นคุณก็ควรจะรู้ว่าสูตรยาที่อยู่ในมือคุณนั้นยังคงเป็นของตระกูลคอบบ์!“คุณไม่เข้าใจเหรอว่าคุณช่างเป็นคนหน้าด้านขนาดไหนที่ขโมยสูตรยานั้นไป แล้วมาเรียกร้องเงินทองเพื่อสิ่งนั้น?!“ใช่แล้ว!” อีเดนร้องบอกอย่างเย็นชา“สูตรยาของเราถูกขโมยไปเมื่อสี่สิบปีก่อน! ฉันสงสัยว่าแกจะเป็นคนขโมยไปในตอนนั้น!“ถ้าแกไม่มอบสูตรยานั้นให้กับเรา ฉันจะทำให้แกต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในห้องขัง!“คุณได้ยินไหมฮาร์วีย? เขาจะโทรหาตำรวจได้ทุกเมื่อ!” เอลเลนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“คุณเป็นแค่ผู้ชายที่มาจากประเทศ H คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลคอบบ์หรอก!“มอบสูตรยาให้เราซะ แล้วคุณจะได้รับเงินไปแบบไม่มีอ
"ฉันให้เวลาคุณสองชั่วโมง! ทำความสะอาดทุกสิ่งทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย!”“ถึงแม้ว่าฉันจะพังร้านทั้งร้านให้พินาศ แต่ฉันก็จะไม่ยอมให้คุณใช้มันหรอก!” เอลเลนร้องบอกในขณะกัดฟันแน่นอีเดนระเบิดหัวเราะออกมา“อย่าทำอะไรสุรุ่ยสุร่ายไปหน่อยเลยเอลเลน!“แค่มอบร้านนั้นให้กับตระกูลเราก็ได้ เราวางแผนที่จะเปิดร้านสัญลักษณ์ของแบรนด์ขนาดใหญ่อยู่แล้ว“เมื่อวันนั้นมาถึงคุณก็ควรมาเป็นเจ้าภาพในวันครบรอบของร้านเราด้วย เราจะแสดงให้คนทั้งเมืองเห็นว่าเราเป็นคู่รักที่มีความสุขมากที่สุดที่นี่!อีเดนจ้องมองฮาร์วีย์อย่างภาคภูมิใจ'คนบ้านนอกจากประเทศ H กล้าดียังไงมาต่อสู้กับฉัน?!' เขาคิดอยู่ในใจอย่างโกรธเกรี้ยว 'เขาอยากจะตายหรือยังไง?'เอลเลนจ้องมองฮาร์วีย์ เธออยากจะดูว่าเขาจะตอบโต้ยังไง เธออยากจะดูว่าเขาจะโกรธเกรี้ยวหรือไม่พอใจกับเรื่องนี้หรือเปล่า“ก็ได้" ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็นเขาหันหลังกลับและเดินจากไปทันทีเขาไม่ได้พยายามที่จะขัดขวางใครเลย ท่าทีที่เขาแสดงออกมาทำให้ดูเหมือนว่าเอลเลนกับอีเดนกำลังพูดคุยอยู่กำแพงอิฐ ซึ่งเป็นการสนทนาที่ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงเอลเลนตัวแข็งทื่อเธอคิดว่าฮาร์วีย์จะแสดงควา
เอลเลนพยักหน้าหลังจากได้ยินคำพูดของอีเดนถ้าฮาร์วีย์มีสูตรยานั้นจริง ๆ เขา ตอนนี้เขาก็คงรวยโคตร ๆ ไปแล้วล่ะ! ทำไมต้องมาเปิดร้านขายยากับเคทีตั้งแต่แรกด้วยล่ะ?ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเคทีก็หายตัวไปตลอดเวลาบางทีฮาร์วีย์อาจคุยโวเรื่องการเปิดร้านขายยาด้วยก็เป็นได้ เขาอาจแค่พยายามจะเรียกร้องความสนใจจากเอลเลน เพื่ออาศัยเธอให้ช่วยเขากลับมาฟู่ฟ่าได้อีกครั้งหลังจากสูญเสียโอกาสนี้ไปแล้ว ฮาร์วีย์ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินจากไปพร้อมกับหัวใจที่แตกสลาย เป็นไปได้ว่าเอลเลนคงไม่มีโอกาสได้เจอหน้าเขาอีกแล้วเอลเลนลูบไล้ใบหน้าของอีเดนอย่างอ่อนโยนโดยไม่ลังเลอะไรเลย“ฉันขอโทษค่ะอีเดน คุณต้องได้รับบาดเจ็บอย่างมากก็เพราะฉัน...“ไม่เป็นไรเลยครับ“สำหรับคุณแล้วความเจ็บปวดนี้ไม่มีความหมายอะไรเลย นี่คือสัญญลักษณ์แห่งความรักที่ผมมีต่อคุณ!“หลังจากนี้เราจะกันและกันมากขึ้น!”อีเดนส่งยิ้มเศร้า ๆ ให้เธอ“ผมจะไม่หาเรื่องอะไรกับฮาร์วีย์อีกเพื่อเห็นแกคุณ แต่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้คงไม่ทำอย่างนั้นแน่...“ไม่ว่าจะยังไงก็ตามผมก็ยังเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรแห่งนี้ แล้วฮาร์วีย์ก็มาทำร้ายผมในโ
"เราย้ายออกไปก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะคุณยอร์ก แต่เราไม่สามารถนำข้าวของทั้งหมดนี้ไปกับเราด้วยได้ คนงานทั้งหมดก็ทนกับสภาพอากาศอย่างนี้ไม่ได้ด้วย ถ้ายังหาสถานที่เก็บของพวกนี้ไม่ได้ก็ไร้ประโยชน์ค่ะ!เหล่าสาวกของหลงเหมินสาขาฮ่องกงและลาสเวกัสที่เดินทางมาที่นี่จะต้องใจสลายกันขนาดไหน เมื่อมองเห็นวัสดุและสินค้าเหล่านี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากพวกเขาทุ่มเททั้งกายและใจให้กับสิ่งเหล่านี้ฮาร์วีย์ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง“ฮาร์เปอร์ พาคนงานออกไปดูว่ามีที่อื่นให้เราเช่าอีกได้ไหม“ไม่สำคัญหรอกว่าจะมีราคาแพงขนาดไหน ซึ่งถ้ามีร้านที่เราสามารถซื้อได้ก็จะดีมากเอลเลนบอกว่าให้คุณคนย้ายออกจากร้านในวันเดียวกันนี้ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรถ้าพวกเขาย้ายออกไปก่อนเที่ยงคืนได้ฮาร์เปอร์รีบวิ่งออกไปพร้อมกับคนงานอีกสองสามคนฮาร์วีย์นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงหน้าร้านด้วยท่าทีสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลาเมื่อเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงฮาร์เปอร์ก็กลับมาพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูแย่มาก และหายใจกระหืดกระหอบอย่างมาก“คุณยอร์กคะ! ร้านค้าในบริเวณใกล้เคียงล้วนแต่เป็นร้านของตระกูลโมเรโน่ ตระกูลคอบบ์ หรือตระกูลลีทั้งนั้นเลยค่ะ“ฉันไม่ร
หลังจากลังเลมาทั้งคืนในที่สุดเอลเลนก็ตัดสินใจที่จะไม่ระงับอารมณ์เอาไว้ เนื่องจากฮาร์วีย์ไม่ได้เห็นคุณค่าในการให้ความช่วยเหลือของเธอเลยเช้าวันรุ่งขึ้นเธอจึงพาอีเดนและคนกลุ่มใหญ่ไปยังร้านที่ได้ปรับปรุงใหม่ เพื่อดูว่าฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ได้ย้ายออกไปหรือยังนอกเหนือจากสินค้าและวัสดุต่าง ๆ แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังอยู่ในจุดเดิม ซึ่งทำให้เอลเลนรู้สึกขัดใจนิดหน่อยที่เห็นอย่างนั้นหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็สังเกตเห็นร้านค้าเล็ก ๆ ข้างอาคารสำนักงาน“ฮะ? ดูนั่นสิ! ดูเหมือนว่าฮาร์วีย์จะได้ร้านใหม่แล้วนะ“เขาต้องขายสินค้าปลอมหรืออะไรสักอย่าง!“ช่างเป็นร้านที่เล็กเหลือเกิน และได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อสามสิบปีก่อน ผนังก็เป็นสีดำสนิทด้วย!“แม้แต่ร้านที่เอลเลนปรับปรุงใหม่ก็ยังดูด้อยกว่าร้านของตระกูลคอบบ์อย่างมาก แล้วนับประสาอะไรกับร้านนี้!“เขาไม่ได้เสียสติไปหลังจากพบกับความทุกข์ทรมานทั้งหมดนั้นหรอกใช่ไหม? ทำไมเขาถึงเปิดร้านแบบนี้ล่ะ?“คุณแน่ใจเหรอว่าคุณจะใช้สถานที่แห่งนี้ในการสร้างธุรกิจของคุณ?“คุณแน่ใจหรือว่าจะทำอะไรกับตระกูลคอบบ์ได้ด้วยสิ่งนี้?“คุณไม่รู้สึกละอายใจเลยหรือไง? หรือตอนนี้
โนเอมิเดินไปหาฮาร์วีย์อย่างช้า ๆ และมองเขาด้วยสีหน้าที่ดูเจ้ากี้เจ้าการแน่นอนว่าเธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนทุกอย่าง ซึ่งรวมถึงเรื่องที่เอลเลนกลับมาคืนดีกับอีเดนด้วยในสายตาของเธอนั้นที่นี่คือสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับลูกสาวของเธอโนเอมิไม่เพียงแต่มาที่นี่เพื่อดูหมิ่นฮาร์วีย์เท่านั้น แต่เธอยังมาที่นี่เพื่อยืนหยัดเพื่อเอลเลนและอีเดนด้วย“เป็นยังไงบ้างฮาร์วีย์?“ตอนนี้คุณเริ่มเสียใจที่ไม่ฟังคำเตือนของฉันหรือยัง?“ถ้าคุณไม่มีเจตนาแอบแฝงตั้งแต่แรก ถ้าคุณไม่พยายามใช้ประโยชน์จากลูกสาวของฉันเพื่อไต่อันดับแล้วล่ะก็ บางทีตอนนี้คุณอาจกลายเป็นลูกน้องของเธอไปแล้วก็ได้นะ“คุณไม่จำเป็นต้องย้ายร้าน และบางทีคุณอาจได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลโมเรโน่ด้วย“น่าเสียดายที่คุณมีความโลภมาบังตาเอาไว้ คุณคิดแต่จะไต่อันดับเพียงอย่างเดียว!”โนเอมิโน้มใบหน้าอันงดงามของเธอเข้าไปหาฮาร์วีย์ ในขณะที่กระซิบบอกเขาอย่างน่ารังเกียจว่า "มันสายเกินไปแล้วที่จะมารู้สึกเสียใจในตอนนี้“อาคารสำนักงานระดับไฮเอนด์และร้านค้าที่แสนจะหรูหราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณแล้ว“สิ่งที่คุณทำได้ก็มีเพียงการขายยาโง่ ๆ ในร้านที
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข